คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : #วซดล : บทที่ 8 100%
ริมฝีปากของเรายังคงประทับกันอยู่ แล้วในระหว่างที่ผมไม่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอริมฝีปากตัวเองขึ้นไปเมื่อไหร่ ก็มารู้ตัวอีกทีว่าลิ้นของพี่มาร์คได้เข้ามาหาความหวานจากปากผมเรียบร้อยแล้ว ลิ้นของพี่มาร์คไล้วนในริมฝีปากผมไปทั่วหยอกเย้าเหมือนอยากให้ลิ้นของผมเกี่ยวหวัดกับเขา เหมือนอยากจะเชิญชวนให้ผมเข้าไปหาความหวานในปากของพี่มาร์คเช่นกัน
“อืมมมมมมม” พี่มาร์คเหมือนดูขัดใจที่ผมไม่ตอบสนองเขา เขาจึงใช้มือกดไปที่ท้ายทอยผมให้ผมเงยหน้าไปรับจูบที่ลึกซึ้งมากกว่านี้ ผมไม่รู้ว่าตัวเองด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรอยู่ นี่ผมกับพี่มาร์คเราจูบกันอยู่จริงๆใช่ไหม รสจูบที่สองในชีวิตถัดจากจูบของพี่เจบี มันช่างแตกต่างกันจนผมสับสัน จูบพี่เจบีมันแผ่วเบาและละมุน ถึงมันจะเพียงแค่แว่บเดียวแต่ผมยังคงจำรสสัมผัสที่ติดอยู่ปากตอนนั้นได้
แต่รสจูบของพี่มาร์คมันรุนแรงเร้าร้อน เหมือนเผาอารมณ์ของผมทั้งเป็นทำให้หัวใจของผมเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะดังออกมาจนคนตัวสูงรับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นนี้ ผมไม่แน่ใจว่าผมควรจะผลักคนตัวสูงออกรึเปล่ารู้แค่ในเวลานี้ผมสับสนในตัวเองอย่างแรงว่าควรรจะผลักหรือไม่ผลัก แต่แล้วเสียงของพี่แจ็คสัน พี่ยองแจ และไอ้ยูคมันก็ดังขึ้นหน้าประตูปลุกให้ผมผลักคนตรงหน้าออกไปก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกมา
“ไอ้แบมเอ็งหายไปเลยนะ ปล่อยกูกับพี่ยองแจทนทรมานกับอีพี่หวังอยู่เนี่ย”
ผมหันหน้าไปมอง คนทั้ง 3 คนที่ก้าวเข้ามาในห้องถ้าเมื่อกี้หัวใจผมเต้นแรงจนมันจะหลุดออกมา ตอนนี้ถ้าเป็นไปได้มันคงหลุดออกมาเต้นระบำข้างนอกแล้ว
“ทำไมหน้าแบมแดงยังงั้นอ่ะ แอบกินกับไอ้พี่แก่ 2 คนนี้เหรอ” พี่ยองแจถามผม ผมเลยได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“กะ ก็ ก็พี่มาร์คอ่ะดิเล่นอะไรไม่รู้ จี้แบมใหญ่เลย” ผมเลือกที่จะพูดโกหกออกไปผมไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้นว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นในห้องนี้ เกิดอะไรขึ้นกับผมและพี่มาร์ค
“จี้มึงอ่ะนะ ทั้งที่พี่มาร์คนอนบนเตียงอยู่นั่นอ่ะนะ”
“ห๊ะ !!!” พอผมหันกลับไปพี่มาร์คแม่งก็ล้มตัวไปนอนเรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะเมื่อกี้พี่มันยังจูบผมอยู่เลย หรือ ว่าเมื่อกี้ผลักพี่มันแรงไปว่ะ ผลักจนแม่งล้มไปนอนที่เตียงแบบนี้
“เอ่อๆๆ ช่างเหอะรีบมาช่วยพวกกูจัดการกับพี่แจ็คสันดิ” พอไอ้ยูคพูดแบบนั้นผมเลยรีบไป ช่วยย 2 คนนั้นพยุงให้พี่แจ็คสันมานอนเตียงตัวเอง แล้วก็จัดการถอดเสื้อพี่แจ็คสันพร้อมเปลี่ยนชุดให้ด้วยจะได้นอนสบายๆ พอพวกเรา 3 คนจัดการกับพี่แจ็คสันก็หันมาจัดการกับไอ้พี่มาร์คต่อ
ไอ้ยูคดันตัวพี่มาร์คขึ้น แล้วผมก็ดึงเสื้อพี่มาร์คออก พี่มาร์คแม่งงึมงำอะไรก็ไม่รู้
“พี่มาร์คเพ้ออะไรว่ะ” พี่ยองแจถามอย่างที่ผมสงสัยแล้วเหมือนพี่มาร์ครู้ว่าผมอยากรู้ก็เลยเพ้อเสียงดังยิ่งขึ้น
“ลลิสสสส”
“กูไปอาบน้ำก่อนนะมึงจัดการที่เหลือต่อด้วยละ พี่ยองแจผมไปอาบน้ำก่อนนะพี่”
พอได้ยินคำเพ้อของพี่มาร์ค ผมก็รู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่ในห้องนี้อีกแม้แต่วินาที ผมรีบหยิบเสื้อ หยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำทันทีก่อนที่ใครจะสามารถเห็นน้ำตาของผม ผมจับที่ริมฝีปากที่ยังคงรับรู้ถึงสัมผัสที่ร้อนแรงเมื่อครู่
เขาคิดว่าผมเป็นลลิส
เขาเมาแล้วคิดว่าผมเป็นลลิส
ที่เขาจูบคือลลิสไม่ใช่ผม
ทำไมพี่มาร์คแม่งใจร้ายแบบนี้ว่ะ ทำไมต้องทำแบบนี้ว่ะ ทำไมต้องทำให้ผมเจ็บแบบนี้ว่ะ เขาเมา เขาคงจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่คนที่ไม่เมาแบบผม คนที่รู้ตัวร้อยเปอร์เซ็นต์แบบผมมันเจ็บ เจ็บจริงๆ
เพราะความรู้สึกเมื่อครู่มันไม่ใช่แค่ประทับที่ริมฝีปาก แต่มันได้ประทับที่ความรู้สึก มันได้ประทับไปที่หัวใจผม ใจที่เต้นระรัวเมื่อครู่ หัวใจที่เต้นเหมือนมันจะหลุดออกมา ทุกอย่างมันคือความจริงสำหรับผม แต่พี่มาร์คมันคงไม่อยู่แม้แต่ในความทรงจำของเขา หรือ ในความฝันของเขาด้วยซ้ำ
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมไม่รู้ว่าคนที่พี่มาร์คเพ้อคือใคร
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมได้หลอกหรือเข้าข้างตัวเองสักนิดว่าจูบนั้นเขามอบให้ผม
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมไม่ต้องจูบกับพี่มาร์คแบบนั้น
ถึงแม้มันไม่ใช่จูบแรกของผม แต่มันเป็นจูบแรกที่ทำให้หัวใจเต้นระรัวแบบนี้
จูบแรกที่ทำให้ผมเจ็บจนอยากจะร้องไห้ เพราะความหวานในตอนแรก
แต่สุดท้ายมันคือยาพิษที่แสนเศร้าของคนรักข้างเดียวแบบผม
O………….N………….E…………..S……….I……….D…………..E…………D
40%
เช้าแล้ว เช้าที่ผมไม่อยากจะตื่น เสียงไอ้ยูคที่ตะโกนบอกให้ผมตื่นมากินข้าวเช้าได้แล้วทุกคนที่อยู่ในหอตื่นกันหมดแล้ว รอผมอยู่
“มึงไปกินก่อนเลย ให้พี่ๆเขากินก่อนด้วย กูขอนอนอีกแป๊บหนึ่ง”
“เอ่อๆ แต่อย่าช้ามากนะเดี๋ยวต้องเก็บล้างอีก”
ผมตื่นมาในสภาพที่ไม่พร้อมสุดๆ เพราะแทบไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ตาก็เหมือนจะเจ็บ เหมือนแม่งจะบวมด้วยนิด ก็ผมร้องไห้อย่างหนักก่อนนอน ทั้งที่ผมร้องไห้อย่างหนักแต่ไอ้ยูคกลับไม่รู้เรื่องสักนิดพอผมออกจากห้องน้ำออกมาก็เห็นมันนอนหลับเป็นตามไปแล้วโดยที่นน้ำก็ไม่อาบ อยากด่าว่ามึงนี่โสโครกสุดๆ ถ้าเป็นเวลาอื่นผมคงปลุกและด่ามันเรียบร้อย แต่เนื่องจากไม่อยากให้มันรับรู้เรื่องเลยช่างแม่งมันมึงอยากจะโสโครกก็เรื่องของมึง
ผมอาบน้ำอย่างอ้อยอิ่ง ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีตอนเจอพี่มาร์ก ถึงพี่มาร์กจะไม่รู้เรื่องแต่ผมรู้เรื่อวร้อยเปอร์เซ็นผมคาดหวังว่า วันนี้จะไม่เจอพี่มาร์คผมกะจะนอนเล่นอยู่ในห้องอ่านการ์ตูน ดูหนังไปเรื่อย เพราะยังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับพี่มาร์คจริงๆ
แต่ทั้งที่ตั้งใจไว้อย่างงั้น สวรรค์มักจะกลั่นแกล้งคนเสมอ เวลาที่คุณต้องการอะไร ไอ้สิ่งนั้นก็จะไกลออกไป แต่ถ้าคุณไม่ต้องการอะไรสิ่งนั้นก็จะยิ่งเข้ามาใกล้ เหมือนเวลารอแท็กซี่ ถ้าคุณไม่ขึ้นมันก็สลอนมาจอดรอรับคุณกันเต็มไปหมด แต่ถ้าเวลาจะขึ้นจริงปม่งไม่รู้หายไปไหน
ทั้งที่ผมภาวนาวันนี้ผมไม่อยากเจอพี่มาร์ค แต่แค่ออกจากห้องน้ำเท่านั้นแหละ ไอ้คนผมแดงก็นั่งรอผมพร้อมจ้องมาที่ผมเหมือนรอผมได้สักพักแล้ว
“ทำไมไม่กินข้าว” ก็เพราะพี่นั่นแหละ ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ผมกลับตอบออกไปแบบตรงข้าม
“เพิ่งตื่นพี่ และพี่มาร์คอ่ะ ไม่แฮงค์เหรอ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเลยดีกว่า
“ก็นิดหนึ่ง เมื่อคืนพี่ทำอะไรแบมรึเปล่า” ทั้งที่ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องแต่พี่กลับวกเข้าเรื่องนี้ เฮ้ออ โชคดีที่ผมหันหลังหาเสื้ออยู่พอดี
“พี่.....จี้เอวแบมอ่ะ เอวเกือบเคล็ดแนะ” ผมยังคงเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ปั้นน้ำเป็นตัวอย่างสนุกสนาน
“เมื่อคืนเหมือนพี่”
“พี่ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นอ่ะ”ผมไม่อยากให้พี่มาร์คพูดอะไรทั้งนั้น เพราะยิ่งพี่มาร์ค์พูดเท่าไหร่ผมก็ยิ่งนึกถึงตอนที่พี่มาร์คเพ้อเรียกชื่อคนอื่นออกมา
“จริงนะ แล้วทำไมแบมไม่สบตาพี่” พี่มาร์คยังคงถามจี้ผม ผมเลยหันกลับไปสบตาคนตัวสูงอย่างไม่หวั่นติง
“ไม่จริงหรอก เมื่อคืนพี่มาร์คเพ้อเรียกชื่อ ลลิสออกมาด้วย ท่าทางจะชอบขั้นหนัก” ผมพูดในสิ่งที่ผมไม่อยากพูดถึงที่สุด ภายนอกเหมือนจะไม่เป็นไร แต่ข้างในผมมับกลับหน่วงไปหมด
“เฮ้ย จริงเหรอว่ะ”
“ไม่เชื่อถามไอ้ยูคหรือพี่ยองแจดูก็ได้ ได้ยินกันถ้วนหน้า”
“แค่นั้นเหรอ ไม่มากกว่านี้เหรอ”
“แล้วพี่คิดว่ามีอะไรละ” เวลาที่คุณอยากเลี่ยงคำถาม ให้ถามกลับไปนี่เป็นสิ่งพี่ชายผมที่เมืองไทยสอนกลับมา ในเมื่อพยายามเปลี่ยนเรื่องแล้วอีกฝ่ายไม่ยอม งั้นก็ถามกันตรงๆ ไปเลย บางที่พี่มาร์คอาจพอจำอะไรได้บ้าง
“พี่เหมือนลืมอะไรไปว่ะ เหมือนเกิดอะไรขึ้นสักอย่างแต่พี่ก็จำไม่ได้ เมื่อคืนนี่เมาหนักจริงๆ”
“ถ้าพี่จำไม่ได้ก็แสดงว่ามันไม่สำคัญ หรือ มันอาจจะไม่มีอะไรเลยนั่นเองพี่ถึงจำมันไม่ได้” ผมไม่แน่ใจว่าประโยคนี้ผมพูดให้พี่มาร์คฟัง หรือ ตัวผมเองฟังกันแน่ หรือ อาจจะทั้งสองอย่าง
พี่มาร์คมองหน้าผมนิ่งๆ ดวงตาของเราสบกัน อย่างที่พี่มาร์คเหมือนอยากหาความจริงอะไรบางอย่างจากผม แต่ผมคงไม่มีวันบอกความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้พี่มาร์ครับรู้แน่ๆ
“อืม มันก็น่าจะจริงแบบที่แบมพูด ถ้ามันมีอะไรพี่ก็น่าจะจำได้บ้าง”
“เห็นมะ บอกแล้วไม่เชื่อ พี่มาร์คออกไปก่อนป่ะเดี๋ยวแบมตามออกไป”
“อืม รีบๆละ พี่กับไอ้หวังรอแบมกินข้าวอยู่”
พี่มาร์คเดินออกไปแล้ว เดินออกไปพร้อมกับคำโกหกของผม ทั้งที่ตัวเองเป็นคนปรารถนาที่จะไม่พูดความจริงออกไป แต่ทำไมตอนที่พี่มาร์คว่า “ถ้ามันมีอะไรพี่ก็น่าจะจำได้บ้าง” ผมถึงยังเจ็บลึกในอก มันน่าตลกที่จริงๆแล้วผมก็แอบหวังเสี้ยวหนึ่งในความรู้สึกให้พี่มาร์คพอจะจำเรื่องจูบของเราได้บางสักนิด
ถ้าจำได้แล้วขอโทษผมออกมา หรือ พูดเลยว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจอารมณ์มันพาไป หรือ คำแก้ตัวบ้าบอคอแตกอะไรสักอย่างมันอาจจะทำให้ผมพอที่จะหยุดความรู้สึกนี้กับพี่มาร์คได้บ้าง
อีกอย่างถ้าจำได้บ้าง ผมอาจจะยังพอแอบคิดได้ว่าตัวเองพอจะมีความสำคัญกับพี่มาร์คสักนิดในหัวใจพี่มาร์ค
แต่การที่เขาจำไม่ได้เลยสักนิดมันก็ทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาเลย เป็นแค่ตัวแทนในเงาความมืดของใครที่สำคัญในหัวใจพี่มาร์ค
ถ้าได้แบบนี้ไม่เอามันเลยจะดีซะกว่า
ถ้าเราเป็นไม่ได้แม้กระทั่งตัวของเราเองแบบนี้ ............. แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรกัน
O………….N………….E…………..S……….I………….D…………..E…………D
ผมออกมมาจากห้องหลังจากนั้นสักพักที่โต๊ะอาหารที่ผมเข้าใจเอาเองว่าทุกคนคงกินไปแล้ว กลับกลายเป็นว่าทุกคนตักข้าวรอผมมานั่งกินด้วยกัน ทั้งพี่มาร์ค พี่แจ็คสัน พี่ยองแจ และไอ้ยูค
“วันหลังไม่ต้องรอก็ได้พี่กินไปก่อนเลย”
“ไม่ได้หรอกไหนๆ ก็อยู่บ้านพร้อมกันแบบนี้กินข้าวพร้อมกันดีกว่าๆ แบมมานั่งกินข้าวเร็วๆ” พี่ยองแจที่แสนน่ารักพูดไปก็ยิ้มให้ผมไป
“กูไม่ได้อยากรอมึงหรอกแบมบอกเลย แต่พอดีพี่คนอื่นเขาสั่งห้ามกูไม่งั้นกูฟาดเรียบไปแหละ”
“ขอบใจมึงมากจริงๆ เชี่ยยูค มึงนี่โคตรจะจริงใจ”
“กูอ่ะจริงใจกับมึงที่สุดแหละแบม”
“แบมแบม กินข้าวเยอะๆ จะได้โตเท่าไอ้ยูค จะได้จัดการมันได้เข้าใจเปล่า ตัวสั้นแบบนนี้ จะไปทำอะไรใครได้”
“ไอ้พี่หวังสรุปว่าจะให้กำลังใจผมหรือด่าผมทางอ้อมกันแน่ฟ่ะ”
“นี่พี่พูดให้กำลังใจล้วน” แล้วเสียงหัวเราก็เติมเต็มทั้งโต๊ะอาหาร
“อย่าให้ผมแฉนะว่าเมื่อวานพี่เรื้อนขนาดไหน แล้วจะหาว่าไม่เตือน”
“เรื้อนอะไร ไม่มีอ่ะคนอย่างแจ็คสัน หวังไม่มีเรื้อนแน่นอน”
“หรา แล้วเมื่อวานใครมันร้องไห้งอแงกันฟ่ะ ใช่ไหมครับ พี่ยองแจ ใช่ไหมครับเพื่อนยูค”
“ใช่ ร้องไห้แค่เพราะผมไม่ให้พี่ไปหาพี่ยองแจ ร้องไห้กับผมใหญ่เลย ร้องแบบร้องเสียงโคตรดัง ขนาดข้างห้องข้างยังต้องได้ยินเสียงพี่อ่ะ”
“ไม่จริงมั้ง”
“จริง” สามเสียงของผม พี่ยองแจ และไอ้ยูคยืนยันอย่างหนักแน่นทำเอาพี่หวังแม่งหน้าเดินขึ้นมาเลย ฮาว่ะ
“ไม่ร้องนะคะ น้องแจ็คสันของพี่มาร์ค” แล้วพี่มาร์คก็เอามือไปลูบหัวพี่แจ็คสันอย่างล้อเลียนแต่พี่แจ็คสันสะบัดเอามือพี่มาร์คออกอย่างไม่ยอม
พวกเราก็เลยล้อเลียนพี่แจ็คสันตลอดการทานอาหารมื้อเช้าที่แสนเฮฮา พี่แจ็คสันที่คงทนให้พวกเราล้อกันต่อไปไม่ไหวเลยพยายามหาทางเปลี่ยนเรื่องสุดขีดแต่พวกเราก็ไม่ยอมยังไงก็จะวกหลับมาเรื่องนี้ คือ เราถือคติคนล้มต้องเหยียบให้จมดิน
“ไอ้มาร์คแล้วเอ็งจะยังไงต่อกับน้องลลิสเขาว่ะ”
“ก็ไม่ไงที่คุยกันเมื่อวานช่วงนี้น้องเขาดูจะยุ่งๆ กูเลยว่าจะนัดน้องเขาออกมาให้หายเครียดสักหน่อย”
“จะรีบลุกทำแต้มแล้วเหรอพี่ พี่ต้วนนี่เจ๋งสึดอ่ะ” ไอ้ยูคมึงทำภาษาวิบัติอย่างแรง
“คนนี้เอาจริงเหรอพี่มาร์ค”พี่ยองแจก็ยังเป็นคนซื่อและคนดีที่หนึ่ง
“คนนี้พี่มาร์คเขาเอาจริง ทำจริงครับยองแจ มาพนันกันสนุกๆดีกว่าพี่มาร์คแม่งจะจีบเป็นแฟนติดใช้เวลาเท่าไหร่”
“ยูคยอมคนหล่อขอทาย 1 เดือนครับพี่แจ็คสัน”
“กูยอมทายเดือนครึ่งก็ได้ฟ่ะ” พี่แจ็คสันบ่นอย่างเสียดาย
“ผมทาย 3 อาทิตย์พอ” พี่ยองแจผมยังชมว่าพี่เป็นคนดีไม่เกิน 3 นาทีเลยนะครับเอากับไอ้คนบ้า 2 คนนี้ด้วยเหรอ
“แล้วมึงอ่ะแบมจะทายเท่าไหร่” แล้วที่นี้ทุกคนก็มองมาที่ผมเป็นจุดเดียว
“ผมไม่อยากทายครับ มันเป็นเรื่องของคน 2 คน ผมไม่อยากทายลลิสเพื่อนผมนะพี่”
“เอานะทายสนุกๆ”
“ผมไม่สนุกอ่ะพี่ ลลิสยังไงก็เป็นเพื่อนผม” ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยที่เราเอาเรื่องความรักมาพนันอะไรกันแบบนี้ถ้าคุณเป็นคนที่โดนเอามาพนันคุณจะสนุกไหม
“แบมมันไม่อยากเล่นก็อย่าไปบังคับ”
“ก็ได้ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกอะไรแบบนี้หรอกนะแบม ขอโทษที่ทำให้มึงรู้สึกไม่ดี” พี่แจ็คสันหน้าดูสลดจริง พร้อมกับอีก 2 คนดูสลดตามกันไปเพราะเห็นว่าผมไม่ฮาหรือเอาด้วย
“ช่างมันนเถอะครับพวกพี่อยากเล่นกันก็เล่นไปเถอะแต่ผมไม่เอาด้วยก็แค่นั้น”
“หายโกรธแล้วใช่อ่ะ” ไอ้ยูคก็มาดึงแก้มขวาของผมม พี่ยองแจดึงแก้มซ้ายส่วนพี่แจ็คสันนั่งหัเราะกับพี่มาร์คที่เห็นผมโดน 2 คนที่นั่งข้างๆดึงแก้มอยู่
“แบมอาทิตย์นี้ว่างเปล่า”
“ว่างครับพี่มาร์ค”
“ไปกับพี่กับลลิสนะ”
“ทำไมผมต้องไปด้วยอ่ะ”
“ก็นั่นเพื่อนแบม แล้วถ้าพี่ไป 2 คนมันก็ดูไม่ค่อยดีมั้ง เพราะฉะนั้นแบมนั่นแหละที่ต้องไปกับพี่นี่เป็นคำสั่ง”
“อืม” ผมได้แต่พยักหน้าให้พี่มาร์คเพราะที่มาร์คพูดมันคือเรื่องที่ถูกต้อง
แต่
พี่จะไปมีความสุข แล้วพี่จะเอาผมไปเจอความทุกข์ทำไม
O………….N………….E…………..S……….I………….D…………..E…………D
ครบ 100 แล้วนะจ้ะ
เป็นไงกันบ้าง หุหุหุหุ
อย่าลืมไปดูคลิป A ของน้องแบมกันนะ
หล่อเริ่ดและน่ารักก แม่ยกฟินกันไปเป็นแทบๆๆๆๆๆ >______<
เป็นกำลังใจให้ น้องแบมของพวกเรากันด้วยนะ 555+
A
#วซดล
อย่าลืมไปอ่านช็อตฟิคกันนะจ้ะทุกคนนนน
ความคิดเห็น