คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : SF : SisTer's Boyfriend
คำว่ารักมันกำลังทับถมในใจของผมอยู่แบบนั้น ถ้าสักวันหนึ่งมันไม่ทับถมจนผมตาย มันก็คงต้องระเบิดออกมาสักวัน เพราะ มันไม่ได้พูดออกไป แล้วมันควรรึเปล่า….ในเมื่อ...คนที่ผมรักเป็นคนที่ผมไม่ควรจะบอกรักอย่างเด็ดขาด
ทำไมเขาต้องเป็นแฟนของน้องสาวผม
ทำไมสวรรค์ไม่ทำให้ผมไปรักคนอื่น
ทำไมสวรรค์ต้องทำให้ผมรักคนๆ นี้จนถอนตัวไม่ขึ้น
เพราะเขาเปรียบเหมือนของต้องห้ามรึไง
เพราะยิ่งห้ามมันก็เหมือนยิ่งยุ
ยิ่งไม่ควรรัก...ก็ยิ่งรัก......
วันแรกที่เราเจอกันผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร....รู้แต่ผู้ชายคนนี้หล่อ ผู้ชายคนนี้เท่ และผู้ชายคนนี้เขามาช่วยพยุงผมในตอนที่ใครสักคนชนผมล้มลง เขาเข้ามาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้น ทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้....แต่สัมผัสที่เขาสัมผัสกลับทำให้ผมร้อนจนต้องรีบเงยหน้าขึ้น
หน้าของผม...กับเขาอยู่ใกล้กันจนปากของผมเกือบชนแก้มของเขา เราเหมือนชะงักกันไปทั้งคู่แล้ว บรรยากาศรอบตัวก็เหมือนจะหายไป มันเหลือแค่ผมกับเขา เสียงมือถือของผมดังขึ้นเหมือนฉุดให้เราต่างหลุดออกจากภวังค์ของกันและกัน...ผมรีบรับมือถือทันที
“อ้อ พี่อยู่ห้างแล้วพอดีมีเหตุนิดหน่อย เดี๋ยวจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมรีบว่างโทรศัพท์แล้วหันจะมาขอบคุณเขา แต่เขากลับหายไปแล้วซะงั้น ตอนนั้นหัวใจผมเหมือนจะหายตามไปด้วย แต่มันก็แค่เหมือน พอมาคิดอีกทีถ้าวันนั้นเขาหายไปแล้วหายไปเลยมันคงจะดีกว่า เพราะการที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง...ที่ร้านกาแฟชื่อดังพร้อมกับน้องสาวที่แนะนำตัวว่า....เขาเป็นคนที่ตัวเองคบอยู่และอยากพามาให้ผมรู้จัก...มันทำให้ผม....
“พี่เพิ่งเจอพี่เขาเองแหละ...เขาช่วยพี่ไว้”
“จริงเหรอ บังเอิญจังเลย”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณพี่เขย” ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆ ที่หัวใจก็ไม่รู้ แต่ผมก็ฝืนยิ้มกลับไป
“แหม คุณน้องเขยรีบเชียวครับ แต่ถ้าจากอายุคุณนะพี่ผมอีกนะ”
“ฮาฮาฮา ก็ผมเป็นแฟนน้องเบบี้ แล้วบี้ก็เป็นน้องคุณหนิครับ”
เสียงโทรศัพท์ของน้องผมดังขึ้น ทำให้การสนทนาของเราถูกขัด น้องรับสายพร้อมทำเสียงตกใจ ดูท่าคนในสายคงเป็นเพื่อนสนิท ที่โทรมาตามอะไรสักอย่าง เพราะน้องผมบอกว่าได้ๆ พอเธอว่างเธอก็ทำหน้าตื่นตระหนกพร้อมหันมาบอกผมกับแฟนเธอว่า....
“หนูลืมส่งงานอาจารย์ อาจารย์ต้องเอางานวันนี้ด้วย....บ้าจริงๆ หนูขอกลับโรงเรียนไปส่งก่อนนะคะ”
“ให้พี่ไปส่งไหม”แฟนของน้องสาวอาสาอย่างที่ผมกำลังแนะนำให้น้องสาวไปกับเขา แต่......
“ไม่เป็นไรคะ หนูนั่งรถไปแป๊ะเดียว...เดี๋ยวก็ถึง แต่หนูฝากพี่พาแบมกลับบ้านดีกว่า อุตส่าห์มาจากมหาลัยตั้งไกล ยังไม่ทันได้กินอะไรเลย ขอโทษนะเดี๋ยวเจอกันที่บ้านแล้วกันยังไงฝากพี่บี้กลับบ้านด้วยนะคะคนหล่อ”
“โอเคครับคนน่ารัก ยังไงคนน่ารักถ้าส่งงานเสร็จไลน์มาบอกด้วยนะ” แล้วน้องสาวของผมก็รีบวิ่งออกจากร้านไป ทิ้งให้ผมนั่งอยู่กับแฟนตัวเองที่ยังเจอกันไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ
“ไปหาอะไรทานกันไหมครับคุณพี่เขย”
“เรียกแบมก็ได้ครับ เรียกคุณพี่เขยแล้วมัน...แปลกๆ”
“โอเค ไปหาอะไรทานกันไหมครับน้องแบม”
“ไม่ดีกว่าครับ...กลับเลยดีกว่า...แต่ยังไงก็ไม่ต้องไปส่งหรอกครับผมกลับเองได้รบกวนคุณเปล่าๆ”
“ไม่รบกวนหรอกครับอีกอย่างผมรับปากบี้แล้วด้วยเลยไม่อยากผิดสัญญา”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ เดี๋ยวผมบอกบี้เอง”
“ไม่ชอบพี่เหรอครับแบม...หรือว่ากลัวพี่” ทำไมแค่เขาเปลี่ยนการแทนตัวเองจากผมมาเป็นพี่..ทำไมใจผมมันต้องสั่นขนาดนี้ด้วย...ผมก็ไม่เข้าใจ
“ไม่ได้..ไม่ชอบหรือกลัวอะไรหรอกครับ...แค่เกรงใจมากกว่า...”
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องเกรงใจหรอก...ไปด้วยกันนี่แหละ...ถ้าเป็นแบมพี่เต็มใจ” ทั้งที่เพิ่งเจอกันแต่ทำไมคำพูดของเขาถึงทำให้ผมสั่นไหวขนาดนี้...บ้าจริงๆ เขาก็ต้องเต็มใจอยู่แล้วก็เราเป็นพี่แฟนของเขาไม่ใช่รึไง #ดึงสติหน่อยเถอะแบม
“งั้นผมไม่เกรงใจนะ....ถ้าไม่รบกวนจริงๆ...งั้นเราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อก่อนกลับได้ไหมครับ..ผมหิวแล้ว”
ผู้ชายตรงหน้าตอบตกลงพร้อมพาผมมากินอาหารไทยร้านหนึ่ง...ที่คาดว่าเขาน่าจะมากินกับน้องสาวของผมบ่อยๆ เพราะมาถึงแล้วก็สั่งอาหารแบบเชียวชาญเลย
“คุณมาทานกับน้องผมบ่อยเหรอคครับ สั่งคล่องจัง”
“ก็สองสามครั้งแล้ว...อ้อจริงสิพี่ลืมถามแบมไปเลยว่ากินเผ็ดได้รึเปล่า..เพราะบี้กินไม่ได้”
“ผมกินได้สบายครับ...ยิ่งเผ็ดผมก็ยิ่งชอบ..แอร์ตรงนี้ลงแรงจัง”
“ย้ายมานั่งข้างพี่ไหม...ข้างพี่แอร์ไม่ค่อยลง”
“ได้เหรอครับ”
“ย้ายมาเลย...พี่เต็มใจ”
“งั้นผมขอนั่งในได้ไหม.....” เขาผายมือประมาณว่าเชิญเข้าไปเลยแต่ไม่ยอมลุก ผมก็เลยเบียดตัวเองเข้าไป ทำให้ส่วนท้ายของผมสัมผัสและเสียดสีกับตักของพี่เขาอย่างไม่ตั้งใจ จู่ๆ ความร้อนก็แล่นมาที่หน้าของผมอย่างช่วยไม่ได้..ทั้งที่จริงๆ มันก็ไม่มีอะไร และเพราะขนาดโต๊ะค่อนข้างแคบและพี่เขาก็ไม่ได้กระเถิบตัวออกมากนักทำให้ผมไม่สามารถขยับเข้าไปเลย...ตัวของผมเลยเผลอนั่งบนตักของพี่เขา
“ระวังหน่อยสิครับ เดี๋ยวขาถลอกนะ” พี่เขาไม่พูดเปล่าแต่กลับเอามือมากอดรอบเอวของผม พร้อมกับพูดที่ข้างหู..ใจของผมมันสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมไม่รู้ว่าผมใช้ความกล้าอะไรเลยหันไปมองหน้าพี่เขาพร้อมกระซิบที่ข้างหูพี่ของเขา
“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” พูดจบผมก็เขยิบลงจากตักของพี่เขาแล้วนั่งชิดริม พี่เขาปล่อยมือจากเอวของผม แล้วอาหารก็มาเสริฟ ผมกินอย่างเอร็ดอร่อยเพราะหิวจัด พี่เขาคอยตักอาหารให้ผมอยู่เรื่อยๆ เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อยแต่..เรากลับไม่เอ่ยชื่อน้องสาวของผมออกมาอีกเลยหลังจากนั้น เมื่อทานเสร็จ พี่เขาก็พาผมขึ้นรถหรูสีแดงที่บอกได้เลยว่าต้องเป็นรถนำเข้าอย่างแน่นอน
“รถนั่งสบายจังเลยนะครับ” ผมพูดทันทีเมื่อขึ้นรถมานั่งเรียบร้อย
“ฮาฮาฮา มีแต่คนพูดแบบนั้นเหมือนกัน”
“แสดงว่ามีคนนั่งเยอะ เอ๋...แบบนี้ผมจะกล้ายกน้องสาวให้คุณไหมเนี่ย”
“อย่าเหมารวมพี่สิครับ...คนที่นั่งก็มีแต่เพื่อนๆ กันทั้งนั้นแหละ”
“แล้วคุณไม่คาดเข็มขัดเหรอครับเดี๋ยวโดนตำรวจจับนะ” ผมทวงเมื่อเห็นว่าเขาจะสตาร์ทรถแต่ไม่ยอมคาดเข็มขัด
“ช่วยคาดให้พี่หน่อยได้ไหมละครับ” สายตาที่เขาส่งออกมาเหมือนจะท้าทายอะไรบางอย่างจากผม
“ถ้าผมคาด...แล้วผมจะเป็นคนแรกที่คาดให้พี่รึเปล่าละครับ”
“ถ้าแบมไม่คาดพี่ก็คงไม่ต้องตอบ..มันอยู่ที่ว่าแบมกล้าไหมรึเปล่า” แทนคำตอบ..ผมเอี่ยวตัวไปคาดให้คนขับที่กำลังมองผมอยู่ แต่สายมันกลับลากมาไม่ถึงสักที ผมเลยต้องยกตัวขึ้นแล้วดึงสายคาดเข็มขัดพร้อมกับจ้องตาของเจ้าของรถ สายตาของเราไม่หนีไปจากกัน หน้าของเราห่างกันเพียงนิดจนผมยังรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย ผมรู้สึกหน้าของผมกับพี่เขาใกล้กันเขามาเรื่อยๆ พร้อมกับที่มือของพี่ที่กุมมือผมที่กำลังดึงสายรัดเข็มขัด
ผมไม่รู้ว่าความร้อนที่มือหรือที่หน้าที่มันร้อนกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมมันเต้นเร็วซะจนผมกลัวเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวผมเอง แล้วพี่เขาก็ใช้มืออีกข้างดันท้ายทอยของผมทำให้ริมฝีปากของผมก้มลงมาแนบชิดกับริมฝีปากของอีกฝ่าย
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันหายไปหมดเมื่อริมฝีปากของเราแตะกัน...จาก...รสจูบที่สัมผัสกันอย่างแผ่วเบามันค่อยๆ ร้อนแรงขึ้นจนผมเผลอเปิดริมฝีปากให้ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายได้เข้ามาชิมความหวานในปากของผม...จากผมที่ตอนแรกเหมือนจะกล้าๆ กลัวๆ ที่จะให้อีกฝ่ายเข้ามาชิมความหวานของตัวเอง...ตอนนี้ผมกลับตอบจูบอีกฝ่ายอย่างร้อนแรงพร้อมกลับแนบชิดริมฝีปากของตัวเองเขาไปใกล้ชิดอีกฝ่ายมากขึ้น เขาเองก็เช่นกันเขาค่อยๆ เอามือที่จับท้ายทอยของผมออกแล้วหันเข้ามาจับในใต้เสื้อนักศึกษาของผม
เสียงโทรศัพท์ของผมดัง เสียงเตือนที่ตั้งเฉพาะน้องสาวดังขึ้นเหมือนเตือนสติผมให้รีบผละออกพร้อมกับกระซิบที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย
“เบบี้โทรมานะ”
“ไม่ต้องรับหรอก”
เขาพูดพร้อมกับก้มหน้ามาจูบผมต่อ...เราจูบกันโดยไม่แคร์เสียงเรียกเข้าที่ดังไม่หยุดสักนิด..เราไม่อายคนที่ผ่านไปผ่านมาด้วยซ้ำ ผมกลายมานั่งตักเจ้าของรถเมื่อไหร่ยังไม่รู้ตัวเลย เขาเริ่มที่จะซุกไซร้ใบหน้ามาที่ซอกคอของผม เสียงโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของผมดังขึ้น ผมเหลือบหน้าไปดูจึงเห็นว่าเป็นรูปน้องสาวผม....เป็นรูปที่เธอกำลังยิ้มอย่างสดใส มันเหมือนดึงสติให้ผมเตือนตัวเองว่าผู้ชายตรงหน้านี้เป็นของใคร....แล้วผมเป็นใคร...แต่คนตรงหน้าที่กำลังหาความหวานจากซอกคอของผมกลับไม่แคร์สักนิด ผมจึงคว้ามือถือของเขาแล้วยื่นมือถือไปให้คนตรงหน้าให้เขาเห็นหน้าของแฟนตัวเอง เขามองสบตาผมแล้วก็สไลด์มือถือเพื่อรับโทรศัพท์
“ครับเบบี้...ผมกำลังจะขับรถกลับครับ...อ้อแบมสงสัยเขาเปิดสั่นเลยไม่ได้ยินเสียง...จะให้ไปรับเหรอ...อืมได้สิ...แล้วเจอกันครับ” เรามองหน้ากันสมองของผมสั่งว่าตัวเองควรจะย้ายกลับที่นั่งซะ...แต่หัวใจกลับเรียกร้องให้ผมทำอย่างอื่น...อย่างอื่นที่มันผิด....ผมก้มลงไปจูบผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง...พร้อมกับไล้ริมฝีปากมาที่ซอกคอของเขาอย่างที่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ เขาค่อยดันหน้าของผมขึ้นจากซอกคอของเขา เราสบตากัน เขายิ้มน้อยๆ แล้วก็หอมแก้มของผมอย่างแผ่วเบา เสียงมือถือของเขาดังขึ้นอีกครั้งมันเป็นเสียงเรียกเดิม และเป็นรูปของคนคนเดิมที่โทรเข้ามา
“จะให้บอกเขาไหมว่าพี่ติดธุระไม่ว่างไปรับแล้ว” ผมหยิบมือถือจากเขาแล้วสไลด์มือถือ รับโทรศัพท์จากน้องตัวเอง
“เดี๋ยวจะไปรับนะบี้...รออยู่หน้าโรงเรียนได้เลย พอดีพี่เขาขับรถอยู่...แบมเลยรับแทน” น้องสาวพูดระบายความหงุดหงิดเรื่องอาจารย์ที่จะตัดคะแนนเพราะส่งช้า...แต่ถ้าถามว่าผมรู้เรื่องมากกว่านั้นไหม คำตอบคือไม่...เพราะแฟนน้องสาวเล่นปิดปากผม ผมทำได้แต่ตอบน้องไปว่า...อืม...อืม....เหมือนรู้เรื่องทั้งที่จริงๆ ไม่รู้สักนิด สิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้คือริมฝีปากของแฟนคนที่โทรมา..มันเร่งเร้า..มันเว้าวอน...และมันร้อนแรงจนผมอยากจะผละจากไปไหนด้วยซ้ำ
“แบม แบม แบมตั้งใจฟังอยู่ป่ะเนี่ย” น้องสาวตะโกนเสียงดังเพราะผมตอบได้แค่...อืม... อืม ผมเลยรีบตอบรับเสียงโทรศัพท์ของน้องสาวพร้อมกับโยกตัวเองกลับมานั่งที่ข้างคนขับ ส่วนคนขับรถตัวจริงก็กำลังสตาร์ทรถและออกรถเพื่อเตรียมตัวไปรับแฟนของเขาอย่างเร่งรีบ เพราะเราช้ากันไปมากแล้ว....
น้องของผมยังคงบ่นไปอีกสักพัก จนสุดท้ายเพื่อนน้องคงมาเรียก บี้เลยว่างสายผมไป เมื่อว่างสายจบลง..บรรยากาศในรถดูเงียบมากเพราะผมและเจ้าของรถไม่ได้คุยกัน...ความผิดชอบชั่วดีของเหมือนจะกลับมา แล้วก็ได้แต่คิดว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรถึงยอมทำให้เกิดเรื่องเมื่อกี้ที่ร้านจอดรถขึ้นมาได้
มันทั้งผิด มันทั้งแย่...และมันก็ไม่น่าให้อภัยจริงๆ
“เรื่องเมื่อกี้...อย่าบอกบี้นะ” ผมตัดสินใจพูดทำร้ายความเงียบในที่สุด
“ไม่บอกหรอ พี่ไม่ทำร้ายตัวเองแบบนั้นหรอก”
“ถามจริงคุณกับน้องผมถึงขั้นไหนกันแล้ว..ถ้าบอกถึงขั้นเมื่อกี้เหมือนกันผมคงอยากชกคุณตรงนี้เลย”
“ชกเพราะเป็นห่วงน้อง หรือ...หวงพี่ครับแบม” รถพี่เขาขับมาจนใกล้จะถึงเขตบริเวณของโรงเรียนน้องสาวผม ผมเห็นน้องของผมอยู่ไกลๆ ...ทั้งที่ก็รู้สึกผิดกลับน้องแต่ผม...กลับรู้สึกอยากยืดเวลาในรถคันนี้ออกไปอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าบอกว่าทั้งสองอย่างพี่จะเชื่อแบมไหม” ผมบอกพร้อมหันไปยิ้มให้อีกฝ่าย ซึ่งคนรับฟังก็หัวเราะออกมา พร้อมกลับยื่นมือมาจับมือผม...รถจอดลงตรงหน้าน้องสาวผมกำลังจะเปิดประตูแล้วย้ายไปนั่งหลังแต่คนที่จับมือผมอยู่กลับดึงไว้ ทำให้ผมหันไปมอง
“ถ้ารู้สึกทั้งสองอย่า..พี่อยากให้แบมหวงพี่มากกว่าเป็นห่วงน้องสาวนะ” พูดจบอีกฝ่ายก็ปล่อยมือ ผมรีบเปิดประตูรถ หันมาทักน้องสาวแล้วรีบเปิดประตูด้านหลังขึ้นนั่งพร้อมกับสะบัดหน้าออกไปทางหน้าต่างอย่างที่ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าของตัวเองว่ามันแดงแค่ไหน
“แบมกินลูกอมไหม” น้องสาวทักขึ้นมาหลังจากที่ขึ้นนั่งรถมาสักพักพร้อมยื่นลูกอมจูปาจุ๊บมาให้ผม ผมรับพร้อมกับแกะเปลือกแล้วอมลูกอม รสโคล่าของลูกอมทำให้ผมยิ้มออกมา ประจวบกลับรถหยุดเพราะไฟแดงพอดี ผมเหลือบสายตาไปที่กระจกมองหลังที่อยู่หน้ารถของคนขับ ทำให้เห็นว่าคนขับก็มองกระจกแล้วมองตรงมาที่ผมเช่นกัน
ผมค่อยๆ อมดึงลูกอมออกจากปากแล้วจูบไปพร้อมกับแลบลิ้นไล้เลียลูกอมอย่างแผ่วเบา พร้อมกับอมลิ้มรสความหวานของรสโค้ก แล้วก็คายออกจากปาก แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะจ้องสายตามองไปที่กระจก ซึ่งคนขับก็สบสายตาของผมผ่านกระจกมาเช่นกัน
“พี่ค่ะรถไปแล้วค่ะ” เสียงของน้องสาวผมทำให้คนขับรีบขับรถออกไป ส่วนผมก็สะดุ้งกลับเสียงเรียกนั้น แต่ก็ไม่อะไรผมก็กินลูกอมของผมต่อไป
“คนน่ารักช่วยลงไปซื้อน้ำให้พี่หน่อยสิ พี่ขอจอดเติมน้ำมันก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไปรับหน้าเซเว่น”
“แบมลงไปด้วยกันไหม”
“ไม่อ่ะ แบมขอยู่บนรถดีกว่า” เมื่อน้องสาวได้ยินแบบนั้นก็หันหลังแล้วลงจากรถไป ผมหันกลับมาที่คนขับรถที่หันมามองผมอยู่เช่นกัน
“หิวน้ำเหรอครับ”
“จริงๆ พี่ไม่หิวน้ำหรอกพี่อยากกินลูกอมมากว่า”
“แต่ผมมีอันเดียว...อันที่กินอยู่อ่ะครับ...คงให้ไม่ได้”
“ขี้งกจัง...ถ้าพี่ไม่ได้อยากกินลูกอมอันนั้นละครับแบม”
“แล้วพี่อยากกินอันไหนละครับ”
“แบมก็น่าจะรู้..ก็แบมเล่นยั่วพี่ขนาดนั้น” ผมหันไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกครั้งไม่เห็นน้องสาวตัวเองผมก็ดึงลูกอมออกจากปากแล้วรีบประกบปากส่งความหวานของลูกอมให้กับคนขับที่ร้องขอลูกอมจากปากของผม
“อืม....” เสียงครางของผมมาพร้อมกับการดันหน้าออก
“อร่อยไหมครับ ลูกอมจากปากแบมแบบนี้”
“มันเร็วไปยังไม่ค่อยรู้รสเลยอ่ะแบม”
“ขับรถไปรับเบบี้เถอะครับ น้องน่าจะเสร็จแล้ว” รถมาจอดลงตรงข้างหน้าร้านสะดวกซื้อ แต่น้องของผมก็ยังไม่ออกมา
“ที่เราทำมันผิดพี่ก็รู้ใช่ไหม แฟนพี่อ่ะน้องสาวผมนะ ผมไม่อยากให้น้องผมเสียใจ” ผมพูดขึ้น
“ถ้าบี้ไม่รู้บี้จะเสียใจได้ไง...”
“เห็นแก่ตัวเนอะ”
“มีใครไม่เห็นแก่ตัวบ้าง...แล้วที่เราทำ...มันผิดจริงๆ...เหรอ”
“เราก็แค่ปล่อยตัว..ปล่อยใจไปกับความอยากรู้ความอยากลอง...แล้วเราผิดเหรอครับที่เราแค่ทำตามใจตัวเอง”
“มันผิดเพราะ..พี่มีแฟนแล้ว...แล้วแฟนพี่ก็เป็นน้องสาวของผมด้วย”
“แล้วไง....พี่อาจจะแค่นอกกาย...แต่พี่ไม่ได้นอกใจ” คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนตบ...นอกกาย..แต่ไม่ได้นอกใจ...จำให้ขึ้นหัวซะกันต์พิมุก
“.....”
“...แบมเองก็ไม่ได้จริงจังไม่ใช่เหรอ..เราแค่ปล่อยตามอารมณ์...คนเราชีวิตหนึ่งโดนบังคับตั้งแต่เด็กจนโต บังคับว่าสิ่งนั้นผิด บังคับว่าสิ่งนั้นถูก..แต่จริงๆแล้ว สิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก...จริงๆ กันแน่ การที่คนส่วนใหญ่บอกว่า...ผิด...ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นมันผิดจริงๆ สักหน่อย...มันก็แค่เป็นกฎของคนหมู่มาก..แล้วเรียกพฤติกรรมของคนหมู่น้อยว่า...ผิด...แต่จริงๆ มันผิดรึเปล่า...ใครเป็นคนบอกไว้กันแน่” จบคำพูดนี้น้องสาวผมก็ก้าวขึ้นมาบนรถ พร้อมกับเปิดขวดน้ำแล้วยื่นให้คนขับดื่ม...มันทำให้ผมรู้สึกว่าคนสองคนตรงหน้ากำลังมีความรักที่สวยงาม...ถึงแม้เมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นอาจจะเพิ่งจูบกับผมมา...แต่เขากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายและน้องสาวของผมก็ยังมีรอยยิ้ม
มันอาจจะจริงอย่างที่เขาบอกเมื่อกี้....ถ้าบี้ไม่รู้บี้ก็ไม่คง......ไม่เสียใจ
ผมเงียบไปตลอดการเดินทางกลับบ้านครั้งนี้...ผมคิดเกี่ยวกับคำพูดของผู้ชายคนนั้น กับสิ่งที่ผมควรจะทำ...อะไรคือ สิ่งที่ผมควรจะทำ...ปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทิ้งไปซะแล้วก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นอีก...หรือ...ปล่อยให้มันดำเนินต่อไปอย่างที่ผมอยากให้มันเป็น...ผมควรเลือกแบบไหนดี
รถมาจอดถึงหน้าบ้านของเรา...โดยที่ผมไม่รู้ตัวสักนิด...จนรถจอดสนิท..ผมกำลังจะก้าวลงจากรถ...แต่บี้กลับเรียกผมไว้
“แบมนั่งรอในรถก่อนสิ เราจะขึ้นไปหยิบของให้พี่เขา....เดี๋ยวรีบลงมา..เรากลัวแม่กลับมาเห็นแล้วคิดว่าเรากลับกับพี่เขาสองคน แต่ถ้าแบมอยู่ด้วยแม่จะได้ไม่ว่า...ปกติเราไม่เคยให้พี่เขาเข้ามาส่งถึงในหน้าบ้านเลย เคยแต่รถหน้าปากซอยหมู่บ้าน นะแบมอย่าเพิ่งลงเลยนะรอเราก่อน แป๊บเดียว เดี๋ยวมา” ผมพยักหน้ารับ แล้วน้องสาวของผมก็วิ่งลงจากรถไป
“พรุ่งนี้บี้ตืดเรียนแล้วก็มีเรียนพิเศษถึงดึก...ให้พี่ไปรับแบมที่มหาลัยได้ไหมครับ” ผมจ้องกลับไปที่คนขับรถตรงหน้าอย่างใช้ความคิดว่าควรทำอย่างไร
“มารับผม...?”
“อนุญาตไหมละครับ”
“แล้วหลังจากนั้น....จะพาผมไปไหนต่อเหรอครับ”
“แล้วแต่แบมครับ” ผมหันไปมองน้องสาวที่กำลังวิ่งขึ้นออกจากบ้านมา แล้วหันกลับมามองคนขับรถที่เป็นแฟนน้องสาวของผม
“แบมเลิกเรียนบ่ายโมงมารับแบมที่ห้าง…..แล้วเรา...ไปต่อกันที่คอนโดพี่ได้ไหมครับ” เขายิ้มแล้วพยักหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่น้องสาวของผมเปิดประตูรถเข้ามา พร้อมยื่นของให้
“มีอะไรกันรึเปล่าคะเนี่ย” น้องสาวผมถามขึ้น
“เปล่าครับพี่กำลังจะขอเบอร์แบม เพื่อวันไหนติดต่อบี้ไม่ได้จะได้โทรถามจากแบมว่าบี้แอบไปมีใครรึเปล่า”
“แหม..ไม่มีทางหรอกคะ ส่วนเบอร์แบมเดี๋ยวบี้ไลน์ไปให้ก็ได้ บี้ไปก่อนนะนะคป่ะแบมเข้าบ้าน” น้องสาวเปิดประตูรถแล้วเดินออกไป
“เรื่องของเรามันก็แค่สนุกๆ...เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรให้น้องผมต้องรู้เรื่องของเรานะครับ...”
“สัญญาเลยครับแบมว่า...เรื่องของเรา..มันจะเป็นแค่เรื่องของเราเท่านั้น”
END or To be continue……..
กระต่ายโหดผู้หายไปนานสามชาติเศษกลับมาก็ไม่ได้อัพอะไรหรา...? อย่าเพิ่งเขวี้ยงขวดมานะคะขอร้อง TT^TT อย่างน้อยก็ปั่น SF เรื่องนี้มาให้อ่านกันแบบแก้ขัดกันไปก่อนเนอะ หุหุหุ
เป็นน้องแบมเวอร์ชั่น...ดาร์กที่สุดตั้งแต่เคยแต่งมาเลย ห้ามด่าอะไรน้องแบมทั้งนั้นนะคะ ถ้าจะด่าด่ามาที่กระต่ายโหดคนเดียวเลยคะ เพราะแต่งเอง 555+
จริงๆ ถ้าอ่านมาทั้งเรื่องจะเห็นว่าไม่ได้ใส่ชื่อพระเอก..ก็เพราะ..จริงแล้วอยากแต่งคุณพี่..ให้เป็นทั้งพี่มาร์คและพี่บี เชื่อว่าใครตามเรื่องนี้จะเป็น BBAM เพราะฉะนั้นตัวเองคงจิ้นเป็นพี่บีแหง แต่ถ้าใครอยากลองเปลี่ยนเป็นพี่มาร์คเชิญ จิ้ม...ที่นี่ >> http://my.dek-d.com/theapril0404/writer/view.php?id=1259419 << แทนค่ะ 555+ มีสองเวอร์ชั่นแล้วแต่คนอ่านจะเลือกสรร
ส่วนจะมีต่อไหมขึ้นอยู่กับอารมณ์คนแต่งเลยคะ แต่ถ้าใครอยากคอมเม้นหรือแท็กอะไรหรือจะจี้ให้เขียนต่อหาก็เชิญที่แท็ก #ฟิคตรากระต่ายโหด ได้เลยค่ะถ้าคนตามเยอะ+อารมณ์ในการแต่งมาอาจจะมีตอนต่อ ...หรา ???
อ้อนอกจากนี้ขอชี้แจงอีกครั้งหากใครเข้าอ่านแฟนบอยอาจจะงงว่าทำไมต้องปิดกั้นการอ่าน คือเราตั้งใจจะอีดิทคำพูดค่ะเพราะมันพิมพ์ผิดค่อนข้างเยอะ แต่รอบแรกเราสะเพราเองคือเราคิดเอาว่าคนอ่านแฟนบอยจบกันไปแล้วคงไม่มีใครอ่านแล้วหรอกมั้ง...ก็เลยปิดกั้นโดยไม่ชี้แจงอะไรผลปรากฎคนคอมเม้น+ทวิตไปหาว่าเกิดอะไรขึ้น..เลยขอชี้แจงไว้ตรงนี้ว่าหากอีดิทเสร็จเมื่อไหร่จะเปิดให้อ่านกันถ้วนหน้าเช่นเดิมจ้า
ขอบคุณทุกคนที่ยังรอกัน..ขอโทษที่ทำให้ต้องรอ..นะคะ T^T
ความคิดเห็น