ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ░ >>.Anime Festival.<< ░

    ลำดับตอนที่ #1 : Anime คืออะไร ????

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 54


    อะนิเมะ ( アニメ )

          คำว่า Anime (อนิเมะ) มาจากคำศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Animation ซึ่งแปลง่ายๆได้ว่ามันคือเรื่องราวที่อาศัยภาพที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ถ่ายทอดออกมาผ่านสื่อต่างๆหรือพูดง่ายๆก็คือการ์ตูน(ทีวี)ที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกัน


              จากความหมายเราสามารถแบ่งได้ว่าอะไรคือ Anime อะไรไม่ใช่โดยมีจุดสังเกตดังนี้

    1. ต้องเป็นภาพเคลื่อนไหวนิ่งๆแบบหนังสือการ์ตูนไม่ใช่นะ

    2. ใช้ภาพถ่ายทอดเรื่องราวเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นภาพวาดหรือ CG ก็ตาม แต่จะต้องไม่ใช่คนแสดงแทน

    3. มาจากญี่ปุ่น หรือบางคนอาจจะเถียงแต่ผมคิดว่า anime มันเป็นภาษาญี่ปุ่นนะ มันก็ต้องมาจากญี่ปุ่นสิ

     มาพูดถึงคำๆนี้ในแง่ของความรู้สึกบ้าง เราจะแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 3 ส่วนแยกตามสังคมในแต่ละประเทศ

     

          1. Anime ในญี่ปุ่น แน่นอนครับ ในประเทศผู้ผลิตเค้ามองว่า Anime คือสินค้าที่ทำกำไรได้มากทั้งในและนอกประเทศ เป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้มากมาย (ทั้งค่าลิขสิทธ์ และสินค้าจาก Anime) มีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับ Anime มากมาย เช่น Gonzo, Studio Ghibli, Gainax, Sunrise เป็นต้น บริษัทเหล่านี้ก็มีนักทำ Anime ในสังกัดมากมาย

    และในบ้านเค้าก็มีรายการโทรทัศน์ทั้งที่เป็นแบบฟรีและแบบจ่ายตังดู เผยแพร่ผลงาน Anime อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเราสามารถนั่งดู Anime ได้ทั้งวันทั้งคืน (มีฉายถึงตี2 ตี3เลย ทีเดียว) คงสงสัยว่าแล้วใครมันจะไปดูหละ เค้าไม่ได้หวังค่าโฆษณาหรอกครับ(เพราะยังไงก็ไม่คุ้มค่าสร้าง) รายได้หลักของเค้ามาจากการขายสินค้า และ DVD (ตัวอย่างสินค้าก็ดูอย่างพวก Pokemon หรือลูกข่าง Bayblade เป็นต้น) การฉายออกอากาศก็เพื่อจะเป็นการบอกว่า Anime เรื่องนี้มาแล้วนะต่างหาก

    นอกจากฉายทางโทรทัศน์แล้วยังจะในรูปแบบอื่นเช่น OVA (Original Video Animation) , หนังโรง, เกมส์ และหนังสือการ์ตูน ซึ่งก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความโด่งดังของ Anime แต่ละเรื่องได้เป็นอย่างดี และยังทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ (หนังบางเรื่องทำรายได้ติดอันดับหนังทำเงินในบ้านเค้าเลยนะ)

    จะกล่าวง่ายๆก็คือ Anime ในญี่ปุ่นก็คือสื่ออย่างหนึ่งที่ให้ความบันเทิงได้ทุกเพศทุกวัย และมีการจำกัดเรทเหมือนกับละครหรือภาพยนตร์ทั่วๆไป

        

     


        
    2. Anime ในสังคมไทย อืมอันนี้เห็นได้ชัดเจน ว่า Anime คือการ์ตูน การ์ตูนคือของสำหรับเด็ก ดังนั้นการ์ตูนที่ดีต้องปลอดภัย (ไร้ความรุนแรง ไม่มีเรื่องเพศและฉากล่อแหลม) ดังนั้นลิขสิทธิ์ Anime ในไทยต้องมองถึงจุดนี้เป็นหลัก ถึงกระนั้นแล้วก็ตาม Anime ก็ ยังตกเป็นจำเลยสังคมในเรื่องเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีทำให้เด็กชอบความรุนแรง ทำให้มีคดีข่มขืนเกิดมากขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วเมื่อเทียบกับละครหลังข่าวบ้านเราแล้ว Anime ดูจะยังเบากว่าเสียด้วยซ้ำ

         มองในแง่ของการตลาด Anime ในบ้านเรานำเข้ามาฉายจะเน้นไปที่กลุ่มเด็กเล็ก เพื่อจะขายของเล่น (ดังที่ออกมากันอย่างมากมายนับไม่ถ้วน) ทำให้ภาพพจน์ของ Anime เหมือน โฆษณาขายของหลอกเด็กไป ทั้งที่บางเรื่องก็เน้นที่ข้อคิดถึงความกล้าหาญ ความเสียสละ ความมีน้ำใจนักกีฬา แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เข้าถึงเด็กๆเลย (เห็น แต่เอาของเล่นมาสู้ๆกันอย่างเดียว) ถ้าผู้ปกครองร่วมติดตามและคอยแนะนำข้อคิดเหล่านี้แก่เด็กๆก็จะมีประโยชน์ มากกว่านี้ ในด้นตลาดของ VCD และ DVD เรียกได้ว่าบ้านเรานั้นโชคดีสุดๆแล้วที่มันถูกสุด (เรียก ได้ว่าถูกว่าในญี่ปุ่นเสียอีก) แต่ตลาดกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก เพราะเรายังบริโภคของเถื่อนกันอย่างกว้างขวาง ทำให้ทางผู้จำหน่ายไม่กล้าลงทุนมากเพราะผลตอบแทนน้อย ยิ่งทำให้ลิขสิทธิ์ Anime ยังมีไม่มากนัก แต่น่าจะพัฒนาไปในทางทีดีได้ในระยะเวลาอันใกล้

         กล่าวได้ว่าในบ้านเรา Anime คือสื่อสำหรับเด็ก(เล็ก) คนที่โตแล้วดู Anime บ้างก็ถูกหาว่าไม่รู้จักโตบ้าง ปัญญาอ่อนบ้าง ไร้สาระบ้าง และ Anime ยัง ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความรุ่นแรง และลามกอนาจาร และผู้ใหญ่(ผู้เฒ่าผู้แก่) ยังคิดว่านี่เป็นอารยธรรมญี่ปุ่นที่จะมาครอบงำวัยรุ่นไทย (เฮ้อ ทีละครไม่เห็นว่าไงเลย ทั้งไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี ก็สร้างกระแสด้วยกันทั้งนั้น)

         

     

        
         3. Anime ในสังคมฝรั่ง
    ที่จะกล่าวถึงก็มีทั้งในฝั่งยุโรป และอเมริกา เค้าจะมองว่า Anime คืองานศิลป์ คือสื่อสำหรับทุกเพศวัย (เพราะในบ้านเค้าก็มี และคนบ้านเค้าก็ดูกัน) แต่บางครั้งก็มองว่าเป็นการครอบงำของญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ทัศนคตินี้เปลี่ยนไปมาก

         คนส่วนใหญ่จะไม่รู้จัก Anime มากนัก จนกระทั่งการยกพลขึ้นบกของ Anime ญี่ปุ่นหลังจากที่ Spirit Away ไปชิงออสการ์มาได้ ทำให้ตลาด Anime ในอเมริกาเติบโตอย่างมาก มีรายการทีวีฉาย Anime ทั้งแบบฟรีทีวีและแบบจ่ายตัง ตลาด DVD ก็ เติบโตอย่างมาก รวมไปถึงการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อไปสร้างใหม่ก็เป็นที่นิยมในค่ายทำหนังชั้นนำ แสดงให้เห็นว่าสังคมอเมริกาเค้าเปิดรับ และมองเห็นผลกำไรของการทำธุรกิจ Anime นี้(ต่างจากพี่ไทยที่ยอมรับอะไรได้ยากเหลือเกิน) แม้การทำตลาดจะเริ่มช้ากว่าไทย แต่อนาคตนั้นดูจะสดใสกว่า

          มีการใช้ Anime เป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ เช่น PETA หรือสมาคมเพื่อการดูแลสัตว์ของอเมริกา ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอ่อนโยนและทะนุถนอมสัตว์ผ่านทาง มุโต้ ยูกิ ตัวเอกของ Yu-Gi-Oh หรือ เรื่อง Fullmoon o Sagashite (ชื่อไทย ตามหา Fullmoon) เป็นตัวแทนโครงการ New Future ให้ผู้ชม Anime เข้าเยี่ยมเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เพื่อให้กำลังใจกับเด็กผู้ป่วยให้สู้ชีวิตต่อไป เป็นต้น

         ในด้านการต่อต้านก็มีบ้างในบางประเทศแถบยุโรป ซึ่งมีทัศนคติไม่ดีเกี่ยวกับความรุ่นแรงของ Anime (เหมือนพี่ไทยเลย) แต่ก็ยังมี Anime หลายเรื่องที่เข้าฉายในช่องการ์ตูนของทางยุโรปหลายประเทศ

         เห็นได้ว่าทางฝรั่งเค้าเห็นว่า Anime ก็คือสื่อ Animation ของ ญี่ปุ่น ซึ่งมีวิธีการนำเสนอต่างจากของบ้านเค้า และมีเอกลักษณ์ รวมถึงสามารถใช้เป็นสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการดีๆผ่านไปยังเยาวชนของ เค้า รวมไปถึงการเล็งเห็นประโยชน์จากการทำตลาดกับ Anime ที่สามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำซึ่งนำไปสู่การปรับตัวของนักทำ Animation ในอเมริกา


    Credit :: by tamanxzg  in Anime-Maniac
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×