ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO [baekdo] GIVE LOVE

    ลำดับตอนที่ #6 : : 5 : [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 57


    แก้คำผิดให้แล้วนะจ๊ะ


    5

     

                “....สุดท้ายนี้แล้วครูก็อยากจะให้นักเรียนกลับไปทำการบ้านตามครูบอกด้วย เข้าใจใช่มั้ย อย่าเอาแต่เที่ยวเล่นล่ะ มีเวลาหยุดตั้งสองวัน...แล้วก็อีกอย่างนะ..บลาๆๆๆๆ” เสียงแหบพร่าของครูอุนสุดสวย(?)ขวัญใจนักเรียนม.5 ห้องเอ(หรา) เอ่ยขึ้นอย่างสม่ำเสมอในชั่วโมงคาบโฮมรูมที่แสนน่าเบื่อ คยองซูละความสนใจจากครูอุนเพราะว่าครูท่านเริ่มจะพาเด็กมอห้าห้องเอนั่งเรือย้อนยุคข้ามเวลาไปในสมัยที่คุณครูยังสาว และบลาๆๆ ร่างเล็กหันหน้ามามองเพื่อนตัวสูงที่นั่งอยู่ใกล้ๆตัวเอง ก็พบว่าเพื่อนตัวสูงได้นอนฟุบลงกับโต๊ะโดยเอาหนังสือวางตั้งบังเอาไว้เหมือนเคย... - -

                ร่างเล็กส่ายหน้าให้กับความขี้เกียจของเซฮุน อีกไม่กี่นาทีก็จะเลิกแล้ว ยังจะมาฟุบอยู่อีก ขี้เกียจปลุกนะรู้ไหมมม!!! ร่างเล็กบ่นอยู่คนเดียวก่อนจะหันหน้าไปทางหน้าต่างซึ่งสามารถมองเห็นสนามฟุตบอลที่แสนจะกว้างขวางและสนามบาสของโรงเรียน ร่างเล็กสอดส่องสายตากลมใต้แว่นดำไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดที่ร่างบางของรุ่นพี่แบคฮยอน....

                 ร่างบางของรุ่นพี่กำลังเคลื่อนไหวไปมาอย่างกับสายลม มือบางรับลูกบาสจากเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะเดาะลูกบาสและหลบอีกฝ่ายอย่างพริ้วไหว จากนั้นก็ชู้ดบาสให้ลงห่วง ร่างบางเสยผมที่มีเหงื่อชื้นไหลออกมา พร้อมกับเดินไปแท็กมือกับเพื่อนร่วมทีม ร่างเล็กมองอย่างยิ้มๆ บอกตามตรงว่าพึ่งรู้ว่าพี่แบคฮยอนเล่นบาสเก่งขนาดนี้....



                สงสัยจะต้องไปฝึกเล่นบ้างแล้ว...

     

     

     

    ออดดดดดดดด ออดดดดดดดดดด

                เสียงสัญญาณบอกเวลาดังขึ้นเพราะว่าถึงเวลาเลิกเรียน นักเรียนทุกๆคนเริ่มลุกออกจากห้องไปเมื่อเสียงสัญญาณสิ้นสุด ไม่เว้นแม้แต่ครูอุนคนสวย(?) ตอนนี้ภายในห้องเหลือแค่เพียงคยองซูกับเซฮุนที่ยังนอนฟุบอยู่ และเพื่อนๆอีกสองสามคน ร่างเล็กหยิบสมุดหนังสือต่างๆลงใส่กระเป๋าสีดำที่ห้อยพวงกุญแจตุ๊กตารูปหมีใส่แว่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก่อนจะหันไปสนใจเพื่อนตัวสูงที่ยังคงฟุบหน้าอยู่ คยองซูสะกิดนิดๆแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลย เลยเปลี่ยนมาเป็นกระตุกแขนเสื้อแรงๆ แต่สิ่งที่ได้กลับไม่ค่อยน่าพอใจ.....ไม่ตื่น


                “เซฮุน....ตื่นจ้าตื่น ตื่นได้แล้ว”

                “.....”

                “เซฮุน....เช้าแล้ว....”

                “.....”

                “นี้ๆ ตื่นๆ” ร่างเล็กพูดพร้อมกับเขย่าแขนของเซฮุนไปมา แต่ร่างสูงก็ยังคงนิ่ง ฮึ่ย!! รู้นะว่าตื่นแล้ว....


                ตุบ


                “โอ๊ย!” ร่างสูงร้องออกมาเมื่อโดนกำปั้นเล็กๆชกเข้าที่แขนขวา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองตากับเพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้นั่งปั้นหน้าปั้นตาโกรธเขาอยู่ ร่างสูงอมยิ้มก่อนจะยื่นมือไปลูบแก้มย้วยที่แสนจะนุ่มนิ่ม แล้วดึงแรงๆด้วยความหมั่นไส้....



                ข้อหาชอบทำตัวน่ารัก


                “โอ๊ยๆๆ เลิกดึงแก้มเค้าได้แล้ว ป่ะๆไปกันเถอะ” ร่างเล็กร้องโอดโอยเมื่อเพื่อนตัวสูงยังคงดึงแก้มทั้งสองข้างเขาอย่างสนุกสนาน ก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงมือเรียวยาวให้ลุกขึ้นตาม


                “ไปไหนอ่ะ” ร่างสูงเอ่ยถามด้วยความสงสัยก่อนจะลุกขึ้นตามแรงดึงของร่างเล็ก ร่างสูงดึงกระเป๋าเป๋ที่ร่างเล็กสะพายอยู่ เพื่อสื่อประมาณว่าจะถือให้...แต่ร่างเล็กก็เบี่ยงตัวหลบ พร้อมกับส่ายหน้ารัวๆ


                “โตแล้ว ถือเองได้” ร่างเล็กพูดเสียงงอนๆ เพราะเพื่อนตรงหน้าชอบทำให้เขารู้สึกเหมือนเด็กอนุบาลที่เพิ่งเข้าโรงเรียนแล้วก็มีคุณพ่อขายาวมาส่งทุกวัน....


                เขาโตแล้ว แถมแมนมากด้วย(?)


                “อ่อจ้า” ร่างสูงพูดเสียงเย้ยพลางหยีผมของคยองซูจนมันยุ่งเหยิงไปหมด ร่างเล็กชูกำปั้นทำท่าจะชกเข้าที่ไหล่ของเพื่อนรัก แต่เพื่อนรักก็ยกมือขึ้นเชิงห้ามปราม ร่างเล็กจึงคลายกำปั้นออกด้วยความขัดใจแล้วหันไปจัดทรงผมของตัวเองให้เข้าที่


                ตั้งแต่เป็นเพื่อนกับคนตัวเล็กมาไม่มีวันไหนที่เซฮุนคนนี้จะไม่โดนกำปั้นน้อยๆทุบใส่....















    แต่มันก็รู้สึกดีนะ

               


                ทั้งคู่เดินลงมาจากห้องเรียนพร้อมกับหยอกล้อกันไปตลอดทาง เรียกเอาสายตาอิจฉาริษยาจากทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่รู้จักคยองซูกับเซฮุน อาจจะคิดว่าสองคนนี้แฟนกันแน่ๆ


                “ว่าแต่จะไปไหนอ่ะ” ร่างสูงถามขึ้นพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู...


                สี่โมงเย็นแล้ว....


                “ไปหาพี่หมอกัน” ร่างเล็กเอ่ยอย่างร่าเริง

                “ไปหาพี่หมอหรือคนไข้ของพี่หมอกันแน่” ร่างสูงเอ่ยอย่างจับผิด ทำเอาคนตัวเล็กหน้าร้อนวูบ ทำไมถึงได้รู้อะไรของเขาไปหมดทุกอย่างเลย ทำไมมมมมม!!

                “ก็...ก็ทั้งสองคนเลยไง ป่ะๆ โทรบอกพี่หมอยัง เร็วๆดิ นั่นๆ รถมาแล้ว ไปๆ” คยองซูพูดรัวๆก่อนจะดันหลังให้เซฮุนเดินไปขึ้นรถที่พี่หมอส่งมารับ เพื่อมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลในกรุงโซล รู้สึกว่าช่วงนี้เขาจะไม่ค่อยว่างเท่าไรเลย ทำให้ไม่ค่อยได้ไปแล้ว ซึ่งมันทำให้ร่างเล็กรู้สึกคิดถึง.....


    รอก่อนนะฮะ ผมกำลังไปหาแล้ว



     

    -

    -

                “คยองๆ ตื่นๆ ถึงแล้วๆ” เสียงทุ้มๆของร่างสูงดังขึ้นพร้อมกับสะกิดเพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้นั่งสับประงกอยู่ ร่างเล็กครางหือหาด้วยความงัวเงีย ก่อนจะลืมตากลมโตขึ้น แล้วยกมือเล็กขึ้นมาขยี้ตาเพื่อขจัดความง่วงจนเซฮุนต้องดุเล็กน้อย

                “อย่าขยี้นะ! ตาจะบวม ยิ่งตาโตแถมเหลือกๆด้ว....โอ๊ยๆ พอแล้ว” ร่างสูงบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากโดนกำปั้นเล็กทุบที่อกเบาๆ(?) ร่างเล็กปั้นหน้างอน หยิบแว่นตาขึ้นมาสวม ก่อนจะเดินลงจากรถไป

                “ถึงแล้ววววววว เย้!” ร่างเล็กร้องขึ้นเมื่อลงจากรถแล้วมายืนบิดขี้เกียจเพื่อขจัดความง่วงและเมื่อยล้าให้หายไป อ่า...คิดถึงจัง ไม่ได้มาตั้งนาน

                “เซฮุนไปกัน” คยองซูพูดพร้อมกับดึงมือหนานุ่มของเพื่อนตัวสูงให้เดินตามเขาไป ทั้งคู่เดินผ่านเข้ามาในตึกของผู้ป่วย เดินผ่านห้องต่างๆก็ได้กลิ่นที่แตกต่างกันออกไปตีกันจนคยองซูแทบน็อคเป็นลมไป ทั้งคู่เลือกที่จะเดินขึ้นบันไดเพราะว่าชั้นที่พวกเขาต้องการจะขึ้นไป มันไม่ได้ไกลอะไรเลย....













                แค่ชั้นเจ็ดเอง







                เมื่อทั้งคู่เดินขึ้นมาถึงชั้นเจ็ด ร่างเล็กก็รีบก้าวขาสั้นๆอย่างรวดเร็วไปที่ห้องของพี่หมอหรือก็คือพี่ชายของเซฮุน ซึ่งต่างจากร่างสูงที่พยายามลากขาที่แสนจะเมื่อยล้าของตนเองให้เดินตามร่างเล็กที่วิ่งฉิวไปหาพี่ชายของเขาอย่างรวดเร็ว....



                พี่หมอลู่หาน



                “พี่หมอ!” ร่างเล็กเมื่อเดินไปถึงหน้าห้องก็กระชากประตูอย่างแรง ก่อนจะร้องออกมาด้วยความดีใจ...จะได้เจอหน้าแล้ว


                “อ่า...คยองซูนั่นเอง หายไปนานเลยนะ ทำเอาคนแถวนี้คิดถึง...” คุณหมอลู่หานเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารของคนไข้เมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคย ร่างโปร่งยิ้มน้อยๆเป็นการต้อนรับ ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินเข้ามานั่งนั่งตรงโซฟารับรอง พร้อมกับน้องชายตัวสูงที่เดินเข้ามาในห้อง



                “พี่หมอหวัดดีฮะ...เป็นไงบ้าง” ร่างเล็กถามออกไปเมื่อนั่งลงบนโซฟาตัวยาว ตามด้วยคนตัวสูงที่นั่งลงด้วยความเมื่อยล้า ขึ้นบันไดตั้งเจ็ดชั้น แถมยังต้องรีบเดินตามร่างเล็กที่วิ่งแจ้นเป็นเด็กๆ เพราะกลัวจะหกล้ม(?)


                “พี่ก็สบายดี แต่รายนั้นเอาแต่ถามถึงแบ....นายตลอดเลย” ร่างโปร่งวางปากกาก่อนจะเงยหน้ามาคุยกับร่างบางเป็นกิจลักษณะ ร่างโปร่งสะดุดคำๆพูดหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นประหม่า


                “ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรหรอกฮะพี่หมอ...แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนอ่ะ” ร่างเล็กหัวเราะออกมาเล็กน้อย เพราะรู้คำที่คุณหมอพูดหยุดกึกไปคือคำว่าอะไร...ก่อนจะสอดสายตามองหา คนๆนั้น


                “อยู่ที่ห้องนั้นแหละ พอนายไม่ได้มาหาเลยช่วงนี้ ก็ไม่ยอมออกจากห้องเลย” ร่างเล็กชะงักกับคำพูดของร่างโปร่งนิดหน่อย...อ่า ความผิดเขาอีกแล้ว แย่จัง


                “จริงหรอฮะ งั้นผมไปก่อนนะ” ร่างเล็กลุกขึ้นพลางโค้งบอกลาน้อยๆ ก่อนจะเดินออกจากห้อง แล้วเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ติดๆกัน ร่างเล็กเอื้อมมือไปบิดที่ลูกบิดประตูก่อนจะผลักเข้าไปเบาๆ ร่างเล็กเดินก้าวเข้ามาในห้องสีขาวที่ดูสะอาดตา จริงๆมันก็เหมือนห้องผู้ป่วยธรรมดา แต่มันพิเศษตรงที่....




                ผู้ป่วยไม่ใช่คนธรรมดานะสิ



                ร่างเล็กเดินมาเรื่อยๆก่อนจะหยุดลงตรงหน้าเตียงที่มีร่างเล็กน่ารักของเด็กผู้หญิงตัวเล็กนอนขดตัวอยู่ ใบหน้าหวานที่ตอนนี้หลับตาพริ้ม หน้าที่เคยซีดเซียวดูมีริ้วแดงจางๆ จมูกที่โด่งขึ้นเพียงเล็กน้อย บวกกับปากบางที่เผยอออกเพราะกำลังแลกเปลี่ยนอากาศ


                มือเล็กของคยองซูเอื้อมไปปัดหน้าม้าที่มันตกลงมาออกเพราะคนบนเตียงจะได้หลับสบายๆ จากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาให้คลุมช่วงไหล่เล็ก ที่ดูเหมือนจะสั่นเทาเล็กน้อย....อ่า ฝันร้ายหรือป่าว


                ร่างเล็กเอื้อมมือไปจับกับมือเล็กที่มีขนาดเท่าๆกัน จากนั้นร่างเล็กบนเตียงก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว คยองซูตกใจที่อยู่ๆร่างเล็กก็ตื่นขึ้นมา เขาเข้าไปกอดร่างเล็กที่ตอนนี้เริ่มสั่นเทาอีกครั้ง ร่างเล็กกอดตอบพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาคู่สวย

                คยองซูยกมือเล็กขึ้นไปลูบผมที่ยาวประบ่าเบาๆ เป็นการปลอมขวัญ พลางปลอมประโลมไปด้วย

                “อย่าร้องนะฮะ...อย่าร้องเลย ผมอยู่นี้แล้ว”

                “ฮือๆ ฮึก..เค้า...เค้าฝันร้าย ฮึก ฮือๆ” ร่างเล็กพูดเสียงสั่นพลางซบอกเล็กของคยองซูไปด้วย มือน้อยๆได้กำชุดนักเรียนของคยองซูจนยับยู่ยี่ไปหมด

                  “อ่า..มันก็แค่ฝันร้าย อย่าร้องเลยนะ” ร่างสูงยังคงพูดปลอมขวัญ พลางกระชับอ้อมกอดแน่น มือเล็กเอื้อมมาถอดแว่นตาของตน ก่อนจะจับร่างเล็กที่ยังคงสะอื้นอยู่ให้มาเผชิญหน้า มือเล็กเกลี่ยน้ำตาให้ออกจากตาคู่สวย สายตากลมโตที่ตอนนี้ไม่มีแว่นตาสีดำมาบดบังได้ฉายแววความอบอุ่นออกมา ร่างเล็กมองหน้านิ่งก่อนจะโผเข้ากอดคยองซูอีกครั้ง...

                “คิดถึง...” ร่างเล็กของหญิงสาวพูดพลางซบไปที่ไหล่แคบ คยองซูรู้สึกผิดและหน่วงเล็กน้อยที่ทำให้ร่างเล็กต้องฝันร้าย เพราะคิดถึงเขา...ไม่สิ...ไม่ใช่เขา




















                “ไม่เป็นไรแล้วนะ....แบคอยู่นี้แล้ว”

     

    -

    -

                ซ่าๆๆ

                มือน้อยๆยื่นลงไปในอ่างล้างมือให้กระแสน้ำไหลผ่านเพื่อขจัดสิ่งที่เป็นอันตรายทั้งหลายให้ไหลไปกับกระแสน้ำ มือเล็กปิดก๊อกน้ำ ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนขึ้นซับน้ำที่เกาะอยู่ที่มือเล็กออกเบาๆ จากนั้นก็หยิบตลับเล็กๆที่ข้างหนึ่งสีฟ้าส่วนอีกข้างสีชมพูขึ้นมาจากกระเป๋าเป้ มือเล็กเปิดตลับขึ้น ก่อนจะใช้นิ้วชี้แตะลงบนวัตถุโปร่งแสงขนาดจิ๋วที่มีขนาดเท่าดวงตากลมของเขาขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตาข้างซ้าย แล้วก็ใช้มืออีกข้างดึงหนังตาล่างลง และเหลือกตาขึ้น จากนั้นก็ค่อยวางวัตถุโปร่งแสงลงในดวงตาช้าๆ กระพริบตาหนึ่งครั้งเพื่อให้เข้าที่ ก่อนจะทำแบบนี้กับอีกข้าง

                ร่างเล็กลืมตาขึ้น มองเด็กผู้ชายที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนชื่อดังในกระจก ร่างเล็กยิ้มให้ชายตัวเล็กน้อยๆ ก่อนจะเก็บแว่นตาสีดำเข้ากระเป๋าพร้อมกับตลับสีสดใส....

                ตลับแช่เลนส์คอนแทคเลนส์

                ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กที่นั่งหน้าบูดอยู่บนเตียงคนไข้ ชุดสีขาวสะอาดตาที่ร่างเล็กสวมใส่ยิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี...

                เธอคือผู้ป่วย

                “แบคฮยอนอ่า...ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยมาหาเค้าเลย” ร่างเล็กพูดงอนๆ พลางยกมือขึ้นกอดอก ทำเอาร่างเล็กของคยองซูนึกรู้สึกเอ็นดู...ไม่สิ

                ตอนนี้เขาเป็น แบคฮยอน อยู่นี้น่า....

                “อ่า...ผมขอโทษนะ พอดีไม่ค่อยว่างเลย” คยองซูพูดพูดยิ้มๆก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงที่มีร่างของหญิงสาวนั่งอยู่

                หญิงสาวเชิดหน้าหนี พลางทำเสียงงุ้งงิ้งที่บ่นอยู่คนเดียว ปากบางๆยู่ลงเล็กน้อยจนคยองซูเริ่มรู้สึกหมั่นไส้....ทำไมชอบทำตัวน่าแกล้งอย่างนี้ล่ะ

                “เชอะ!” ร่างเล็กที่เหล่ตามาจ้องคยองซูที่ตนคิดว่าคือแบคฮยอน ก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อเห็นว่าคยองซูกำลังทำหน้าตาอ้อนๆใส่

                “งอน....งอนแบคฮยอนที่สุด” ร่างเล็กพึมพำเบาๆ

                “อ่า...อย่าโกรธผมเลยนะ นะนะนะ ต่อไปสัญญาว่า....จะมาหาทุกเย็นเลย ดีมั้ย??” คยองซูออดอ้อนแล้วยื่นข้อเสนอ

                “จริงดิ!!?” เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้น ก็เผลอระบายยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ โดยลืมไปว่าตนกำลัง แกล้งงอนอยู่

                “ฮ่าๆๆ” คยองซูหัวเราะลั่นเมื่อเห็นร่างเล็กปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วเหมือนกับคนละคน ร่างเล็กยื่นมือนุ่มไปหยีผมนิ่มของหญิงสาว ซึ่งมันทำให้หญิงสาวยู่ปากเล็กน้อยด้วยความพ่ายแพ้ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหัวเราะเมื่อคยองซูเลียนแบบท่าทางของเธอ

                บรรยากาศภายในห้องได้เปลี่ยนไปทันที เมื่อร่างเล็กของคยองซูได้เข้าไปนั่งเล่นกับหญิงสาวภายในห้อง ปกติแล้วคยองซูจะแวะมาที่นี้ทุกเย็นเพราะว่า หญิงสาวตัวเล็กนั่นติดเขาแจ้มาก แต่เนื่องจากว่าช่วงนี้ติดเรียนและอีกหลายๆเรื่องมากมายทำให้คยองซูไม่มีเวลาปลีกตัวมาหาเธอเลย....

                ซึ่งลู่หานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ยิ้มออกมา เมื่อเริ่มเห็นรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าน่ารักที่ไม่ได้เห็นมานาน แต่เมื่อมาเจอกับคยองซูมันก็ทำให้เขาเห็นจนเบื่อไปเลย ฮ่าๆ ร่างโปร่งที่มองดูพวกเขาผ่านกระจกใสที่ติดเอาเชื่อมเอาไว้ระหว่างห้องทำงานของเขากับห้องพักของหญิงสาว ซึ่งกระจกจะมองเห็นทะลุเห็นอีกฝ่ายแค่ข้างเดียวคือข้างของลู่หาน ส่วนถ้ามองจากห้องของหญิงสาวมันจะเป็นแค่เพียงกระจกที่สะท้อนภาพกลับมาแค่นั้น

                ร่างโปร่งของลู่หานมองกลับไปที่โซฟารับรอง ที่ตอนนี้มีร่างของน้องชายตัวสูงนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกลับไปนั่งทำงานต่อที่โต๊ะทำงานของตน ลู่หานหยิบเกี่ยวกับเอกสารของผู้ป่วยทางจิตที่เขาดูแลอยู่สองสามคน แต่คนที่น่าสนใจที่สนเกรงจะเป็นคนนี้นะสิ....

                ร่างโปร่งหยิบเอกสารมาหนึ่งเล่มที่อ่านไปมากกว่าสองรอบขึ้นมา เปิดพลิกไปที่หน้าของข้อมูลผู้ป่วย


                คิม ยุน


                ลู่หานอ่านชื่อนี้ซ้ำไปซ้ำมาพลางมองไปที่กระจกใสที่ทะลุเห็นว่าหญิงสาวผมสั้นประบ่ากำลังยิ้มอย่างมีความสุข จนลู่หานต้องยิ้มตาม รายนี้มีความน่าสนใจตรงที่....








                เป็นลูกสาวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้นะสิ




                ด้วยความที่เขาเป็นหลานชายคนสนิทละมั้ง? พ่อของยุนที่มีศักดิ์เป็นถึงอาของเขา จริงๆแล้วไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดอะไรหรอกนะ แค่เกี่ยวพันกันทางศักด์ศรี...จะว่าไงดี เอาเป็นว่าพ่อของเขาเป็นผู้มีพระคุณกับพ่อของยุนแล้วกัน



                จริงๆแล้วที่เขาเข้ามาทำงานที่นี้ได้ก็เพราะว่าพ่อของหญิงสาวส่วนหนึ่ง แต่เพื่อจะได้ไม่เป็นที่นินทา เขาจึงรับเคสนี้มาทำเพื่อยืนยันถึงความสามารถที่เขามี....









                แต่เหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเอาซะเลย


                หญิงสาวที่เขาเคยเอ็นดูเมื่อก่อน เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก ความน่ารักและสดใสในวัยกำลังเจริญเติบโต ลู่หานยังคงจำได้ดี แต่เมื่อไรไม่รู้ที่มันถูกทำลายลง อาจจะเป็นเมื่อตอนที่เขาเรียนอยู่แล้วอีกไม่นานก็จะบรรจุละมั้ง


                ในตอนๆนั้น น้องยังเรียนอยู่ชั้นม.5.....






                นี้ก็ผ่านมาปีหนึ่งแล้ว




                หนึ่งปีที่น้องสาวคนนี้เอาแต่ร้องไห้

                หนึ่งปีที่น้องสาวคนนี้เอาแต่เก็บตัว

                หนึ่งปีที่น้องสาวคนนี้เอาแค่ทำร้ายตัวเอง

                หนึ่งปีที่น้องสาวคนนี้เอาแต่พร่ำเพ้อถึงคนที่ชื่อ แบคฮยอน

                อ่า...เขาก็ไม่รู้จักหรอกนะว่าแบคฮยอนคือใคร แต่ร่างเล็กชอบพูดถึง ชอบถามเขาว่า แบคฮยอนหายไปไหน?? แบคฮยอนจะกลับมาไหม???

                แบคฮยอนยังรักกันเหมือนเดิมหรือป่าว??

                ซึ่งเขาไม่สามารถตอบได้เลย

                แต่หนึ่งปีที่แสนทรมารก็ต้องสิ้นสุดลงเมื่อเจอกับคยองซู....





































                ที่ร่างเล็กคิดว่าเป็น แบคฮยอน...



                “พี่ลู่ ผมหิว เอาไรป่ะ??” เสียงทุ้มของน้องชายทำให้ลู่หานหลุดจากภวังค์ ชายหนุ่มหันไปให้ความสนใจกับน้องชายที่ตอนนี้ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วบิดเอี้ยวร่างกายไปมาเพื่อยืดเส้นยืดสาย คลายความเมื่อยล้า

                “เหมือนเดิมแล้วกัน” ร่างสูงพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป ร่างโปร่งจึงกลับมาสนใจเอกสารกองโตของตนต่อไป

     

    -

    -

     

                “นี้แบคฮยอน...”เสียงแหลมของหญิงสาวดังขึ้นขณะที่ตาเรียวเล็กก็ยังคงจ้องที่จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่กำลังฉายภาพการแข่งขันรถอยู่ มือเล็กก็ขยับบังคับรถแข่งที่อยู่ในจอสี่เหลี่ยมอย่างเมามัน

                “หือ??”

                “สัญญาได้มั้ย......ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก” ร่างเล็กพูดขึ้นแต่สายตายังคงจดจ้องที่จอสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่

                “แบบนี้...แล้วแบบไหนล่ะ” แบคฮยอนในความคิดของหญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย พลางเร่งความเร็วของรถแข่งให้เพิ่มขึ้น หวังจะแซงรถของหญิงสาวตัวเล็กให้ได้....

                ร่างเล็กที่เห็นว่าคนข้างๆกำลังเพิ่มความเร็วเพื่อหาจังหวะหวังจะแซงรถแข่งของตนก็นึกขำ   
      

                มันยังเร็วไปไอ้น้อง



                มือเล็กกดที่ปุ่มเพิ่มความเร็วหรือก็คือ เทอร์โบ เพื่อใช้งาน รถสีขาวของหญิงสาววิ่งเข้าเส้นชัยไป และกลายเป็นผู้ชนะทันที...


                “อย่าหายไปอีกนะ....”






















                Player 2 WIN!!!





                มือเล็กวางจอยเกมส์ลง พร้อมกับชูมือขึ้นอย่างผู้ชนะเลิศ เมื่อบนจอสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่กำลังขึ้นตัวหนังสือขนาดใหญ่...ที่ย้ำว่าเขาคือผู้ชนะ รอยยิ้มแย้มขึ้นบนดวงหน้า ก่อนที่ริมฝีปากบางจะขยับขึ้นอีกครั้ง


                “ฮ่าๆๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนักแข่งรถเก่า ฮ่าๆ” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างมีความสุข คยองซูได้แต่ยิ้มบางๆ ก่อนจะทำหน้าเหยเกด้วยความเสียใจที่ตนแข่งเกมส์แพ้คนตรงหน้า ทำเอาร่างเล็กลงมานั่งหัวเราะลั่น


                จะไม่ให้แพ้ได้ไง...เขาไม่ใช่แบคฮยอนนะ


                “อีกรอบม่ะ??” ร่างเล็กชวนด้วยความหลงระเริง ก่อนจะกดเพื่อเริ่มเกมส์ใหม่ให้คยองซูเสร็จสัพ  ร่างเล็กจึงได้แต่ยอม....


                ยอมแพ้อีกสักรอบจะเป็นอะไรไป....แค่คนตรงหน้ามีความสุข





























































                ก็พอแล้ว

               

    -

    -

     

                “ทั้งหมด 44,000 วอนคะ” เสียงใสหวานของพนักงานแคชเชียร์ขึ้น เซฮุนจึงยื่นการ์ดใบเล็กสีดำให้เธอไป เธอรับไว้ก่อนจะส่งคืนให้พร้อมถุงใส่ของกินมากมายที่ร่างสูงไปหยิบมา

                ร่างสูงเดินออกมาจากมินิมาร์ทเล็กๆ ก่อนจะเดินไปอีกฝั่งเพื่อซื้อกาแฟแก้วโปรดให้พี่ชายของเขา

                เมื่อได้ของทุกอย่างครบเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงจึงเดินกลับไปที่โรงพยาบาล ครั้งนี้เขาเลือกที่จะขึ้นลิฟต์ เพราะไม่อยากจะฝืนสังขารตัวเองอีกแล้ว

                เขายืนรออยู่สักพัก ประตูลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมกับผู้คนที่พรั่งพรูออกมา เซฮุนเดินเข้าไปอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม ก่อนจะกดหมายเลขเจ็ดเลขที่ชั้นที่เขาต้องการจะขึ้นไป เมื่อประตูลิฟต์ใกล้จะปิด เขาก็ได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้น

                “เดี๋ยวก่อนครับ! รอด้วย”

                มือเนียนของเซฮุนจึงรีบไปกดปุ่มเปิดค้างไว้ ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาก่อนจะยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อหวังจะขอบคุณคนใจดีที่รอเขา แต่ว่า...











































                “คิมจงอิน!!/ไอ้ไม้เสียบผี!!























































    ___________
    ฮูเร้ๆ กลับมาแล้วๆ โอ๊ยๆห่างหายไปตั้งวันหนึ่งคิดถึงเค้าป่ะตะเอง แอ้กกก//โดนรุมถีบ
    ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าตอนนี้ก็สำคัญนิดนึง สำคัญยังไง ไม่รู้ ฮ่าๆๆ รีดบางคนอาจจะแบบ อ่อ...เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี้เอง แต่บางคนอาจจะ อะไรว่ะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ถ้าไม่เข้าใจ ก็กลับไปอ่านใหม่นะจ๊ะ
    เอาเป็นว่าก็ขอขอบคุณทุกๆคนจริงๆนะที่เข้ามาอ่าน รักที่สุด จุบุ

    ปล. บ่นๆ รีดรู้ป่ะว่าช่วงนี้เค้ามีแต่สอบ สอบ สอบ สอบ ถ้าสอบมันกินได้ ปานนี้เค้าคงอ้วนไปแล้ว - -
    ฮ่าๆๆ ถ้าหายไป โปรดอย่าสงสัยเลยนะครับ

    บายๆๆ


     







     

    #มอบรักแบคโด้




    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×