ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO [baekdo] GIVE LOVE

    ลำดับตอนที่ #12 : [SF] Special!!! Happy New Year 2015! (baekdo)

    • อัปเดตล่าสุด 9 ม.ค. 58




    [SF] Special!!! Happy New Year 2015! (baekdo)


    By cheek_kam
    ไรท์เตอร์จอมดอง- -







    'เพื่อเขาแล้ว แบคฮยอนยอมทุกอย่าง'
    .
    'ก็แค่อยากจะเริ่มต้นใหม่ อยากจะเข้มแข็ง'
    .
    เพื่อนสนิท...พวกเขาจะยังรักษาเอาไว้ได้หรือป่าว

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ก็ไม่รูสินะ :)

    แนะนำอย่าเชื่ออินโทรกากๆของไรท์เตอร์คนนี้ อย่าเชื่อมันนะ









    เชี่ยแบคฮยอน
















    เชี่ยเตี้ยคยองซู




     

     
















    แบคฮยอนสุดหล่อ




















    คยองซูคนดีของแบค
















    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ

    แล้วก็....

    สวัสดีปีใหม่ โอ้เย่~!





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


     

    [SF] Special!!! Happy New Year 2015! (baekdo)

     

    พร้อมที่จะเดินไปกับฉัน...หรือยัง






     

    คยองซู...เราเลิกกันเถอะเสียงที่แผ่วเบาไร้ซึ่งความมั่นใจถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหนา คิมจงอินพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อยพลางกุมมือนุ่มของคนข้างกายแน่น

    น้ำสีใสไหลออกมาจากดวงตาเรียวของเซฮุนทันทีที่จงอินพูดประโยคข้างต้นจบ มันเป็นประโยคที่ร้ายแรงมากที่แม้แต่เขาเองก็ไม่อยากจะได้ยิน

    ฮึก ทะ...ทำไมล่ะคยองซูสะอื้นฮึกก่อนจะกัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นที่ดังออกมาอย่างเจ็บปวด พร้อมกับหัวใจที่เริ่มแตกร้าว ทำไมล่ะ ทำไม....ทั้งๆที่เรารักกัน ไม่ใช่หรอ

    มันเป็นอย่างนั้นใช่ไหม

     

     

     

     

    คนตัวเล็กตั้งใจว่าจะออกมาซื้อของเพื่อเตรียมสำหรับการเคาน์ดาวน์ที่จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วัน เขาเดินซื้อของไปเรื่อยๆพลางอมยิ้มเมื่อคิดไปถึงห้วงเวลาที่ตนได้อยู่กับคนรัก ได้นั่งข้างกันข้ามผ่านพ้นปีนี้ที่มีเรื่องราวที่น่าจดจำของเราทั้งสองคนไปสู่ปีใหม่ที่คิดว่าต้องดีกว่าเดิมแน่นอน แค่คิดก็มีความสุขแล้วว่าไหม

    คนตัวเล็กเดินออกมาจากร้านขายของประดับตกแต่งสำหรับงานเฉลิมฉลองอย่างร่าเริง ขาสั้นๆก้าวไปข้างหน้าฉับๆ ปากอิ่มอมยิ้มเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่อีกไม่นานก็จะมาถึง แต่สายตากลมโตของตนกลับเลื่อนไปเห็นร่างที่คุ้นเคยของแฟนหนุ่มที่กำลังกอดก่ายกับใครอีกคน

    ไม่รอช้าคนตัวเล็กทิ้งถุงข้าวของต่างๆลงกับพื้นแล้วรีบวิ่งไปหาร่างทั้งสองด้วยใจที่กระสับกระส่าย...

    ไม่จริงน่า จงอินต้องรอเราอยู่ที่ห้องของเขาสิ

    คนตัวเล็กรีบวิ่งฝ่าผู้คนมากมายไปหาทั้งสองที่ยืนคุยกันอยู่ในมุมอับข้างๆร้านอาหาร คยองซูได้แต่ภาวนาว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่เขาคิด มันไม่จริงใช่ไหม ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากเรียกทั้งคู่ คำพูดที่แสนอบอุ่นของคนรักก็ดังขึ้นมาขัดเสียก่อน


    เซฮุน แต่งงานกับผมนะ"


     



     

     

     

    เตี้ยยย ตื่นเชี่ยเตี้ยยกูจะออกไปข้างนอกแล้ว มึงลุกขึ้นมาได้แล้วเสียงแหลมหวืดของคนตัวเล็กกำลังพยายามปลุกเพื่อนที่ตัวเล็กกว่าให้ตื่นขึ้นมาจากกองกระป๋องเบียร์เปล่ามากมายที่ตอนนี้วางระเนระนาดเต็มพื้นห้องของเขา

    มือเรียวทั้งสะกิดทั้งกระชากร่างเล็กที่นอนสลบไสลอยู่บนพื้นห้องของเขา ก่อนจะส่ายหัวให้กับความงี่เง่าของเพื่อนตัวเล็ก

    เมื่อคืนหลังจากที่เขากลับมาจากผับกับพวกชานยอลก็ต้องตกใจเมื่อสิ่งมีชีวิตก้อนกลมๆนั่งอยู่ที่หน้าห้องของตัวเอง แบคฮยอนเข้าไปก็พบว่าเป็นร่างเล็กที่นั่งกอดเข่าอยู่กับพื้น เดินเข้าไปใกล้อีกก็พบว่า คนตัวเล็กนั้นหลับไปแล้ว พยายามปลุกแต่ก็ไร้ผล จึงอุ้มร่างเล็กเข้ามาในห้อง

    แบคฮยอนคิดว่า คยองซูต้องมาหาเขาแต่เพราะว่าเขาไม่อยู่เลยนั่งรอที่หน้าห้อง ตอนแรกเขาก็แปลกใจว่าทำไม ร..ข้างล่างถึงให้คุณตัวเล็กมานั่งรอเขาที่หน้าห้อง แต่คิดได้ไม่นานร่างเล็กในอ้อมกอดก็ขยับเล็กน้อยก่อนจะตื่นในที่สุด ตากลมโตเมื่อเบิกกว้างขึ้นแล้วเห็นหน้าเขา น้ำใสๆก็เอ่อล้นเต็มไปหมดจนตัวเขาเองก็ตกใจ รีบวางร่างเล็กลงบนโซฟา ส่วนคนตัวเล็กก็โผเข้ากอดเขาทันที

    ตอนนั้นแบคฮยอนจำได้ว่าเขารู้สึกร้อนใจมากที่คนตัวเล็กเพื่อนรัก...เขาคิดงั้นนะ เขาคิดว่าคยองซูเป็นเพื่อนสนิทที่เขารักที่สุด เขาค่อยช่วยเหลือทุกเรื่องยามที่คนตัวเล็กมีปัญหา คอยให้กำลังใจ เขาพยายามทำทุกอย่างให้คยองซูยิ้มเพราะเขาชอบรอยยิ้มของคยองซู ชอบเวลาที่ริมฝีปากอิ่มรูปหัวใจนั้นกางยิ้มออกอย่างมีความสุข เขาชอบ... และคอยอยู่เคียงข้างคนตัวเล็กตั้งแต่เป็นเพื่อนกันตอนยังเล็ก เขาจำได้ว่าคยองซูเรียกเขาว่า พี่แบค เพราะตอนแรกที่คยองซูเห็นเขา เขาตัวใหญ่กว่าคยองซูเลยเรียกว่า พี่ เพราะคิดว่าเขาตัวใหญ่กว่าคงจะเป็นพี่ ตอนแรกก็ขำกับความคิดที่โคตรเด็กของคยองซู แต่จะว่าไป...มันก็ดีเหมือนกันนะ

    การที่มี พี่แบค กับ น้องคยอง

    เออนั่นแหละ หลังจากที่เห็นคนตัวเล็กร้องห่มร้องไห้เขาก็รู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่อยู่กับคยองซูมา เขาไม่เคยเห็นคนตัวเล็กร้องไห้หนักขนาดนี้เลย มันรู้สึกเจ็บปวด... ใช่ เขารู้สึกเจ็บปวด หัวใจมันบีบไปหมด แบคฮยอนเลยถามเหตุผลกับคนตัวเล็กพลางลูบหัวคนตัวเล็กก่อนจะก้มจูบที่กลุ่มผมนิ่มเพื่อเป็นการปลอบ

    ตอนเด็กๆเขาก็ปลอบคนตัวเล็กด้วยการจูบเบาๆ เพราะแม่ของเขาชอบทำแบบนี้ให้บ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

    หลังจากจูบที่กลุ่มผมนุ่มแบคฮยอนก็ก้มจูบที่เปลือกตาซ้ายที่มีน้ำสีใสไหลออกมาไม่ขาดสาย มือเรียวเกลี่ยมันออกเบาๆอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยถามหาต้นเหตุจากคนตัวเล็ก

    คยองซูจ้องหน้าเขา สายตากลมกำลังสั่นไหวพอๆกับหัวใจที่เป็นรูโหว่ คนตัวเล็กกลืนก้อนสะอื้นลงคอก่อนจะเริ่มเล่าทุกสิ่งๆทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้แบคฮยอนฟัง ตั้งแต่ที่เขาออกไปซื้อของแล้วไปเจอจงอินกับเซฮุน จงอินบอกเลิกเขาเพื่อไปแต่งงานกับเซฮุน แล้วเอาแต่ขอโทษคนตัวเล็กไปมา

    'ผมรักเซฮุน ขอโทษพี่ด้วยที่ผมไม่สามารถประคองความรักของเราไว้ได้ ขอโทษที่หัวใจของผมที่มันเปลี่ยนแปลง แต่พี่ก็รู้นี้ ความรักมันเป็นเรื่องของความรู้สึก หัวใจมันบังคับกันไม่ได้หรอกนะ ผมขอโทษด้วย ผมรักเซฮุนไปแล้ว...'

    คำพูดของอดีตคนรักมันยังคงก้องอยู่ในหัว คยองซูได้แต่ร้องไห้ไปเล่าไปจนแบคฮยอนบอกให้พอ...

    พอได้แล้ว แค่นี้ก็เจ็บปวดมามากเกินไปแล้วนะ

    น่าแปลกที่ตอนนั้นแบคฮยอนรู้สึกว่า โกรธ

    ใช่ เขาโกรธที่คิมจงอินอะไรนั่นมาทำให้คนตัวเล็กของเขาต้องร้องไห้ ต้องเสียใจ ต้องเจ็บปวด เขาโกรธ โกรธมาก ถ้าเขาอยู่ในเหตุการณ์คงจะวิ่งเข้าไปกระชากคิมจงอินมาแล้วต่อยหน้า กระทืบซ้ำๆ โทษฐานที่ทำให้คยองซูต้องเจ็บปวด ทำให้คยองซูต้องร้องไห้ โทษฐานที่ดูแลหัวใจของคยองซูไม่ดี...

    แล้วก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเขารู้สึกโกรธตัวเอง...

    ที่ครั้งนี้ไม่สามารถปกป้องคนตัวเล็กได้

     
     

     



     

     

     

    แบคฮยอนก้มลงไปนั่งข้างๆร่างเล็กที่เมาหลับไปไม่ได้สติ เมื่อคืนนี้หลังจากที่ร้องไห้จนหลับไป คนตัวเล็กก็ตื่นขึ้นมาและบอกเขาว่าอยากกินเหล้า... กินเหล้าแล้วจะหายเศร้าใช่ไหม เอาแต่ถามเขาไปมา แบคฮยอนก็ปฏิเสธไป บอกว่าไม่ต้องกินหรอก นายไม่เคยกินเลยแม้แต่น้อย  พูดกล่อมให้คนตัวเล็กไปเข้านอน แต่เปล่าเลย...

    คยองซูทำหน้าบึ้งก่อนจะตั้งท่าจะลงไปข้างล่างเพื่อไปซื้อเหล้ามากินเอง เอาแต่โวยวายไปมาจนแบคฮยอนใจอ่อน ยอมลงไปซื้อเบียร์กระป๋องขึ้นมาให้ พร้อมบอกว่ากินเหล้าเดี๋ยวจะช็อคตาย เอาแค่เบียร์ไปก็พอ ตอนแรกก็ขัดใจเพราะหวังจะเมาให้ตายเพื่อจะลืม แต่ก็ยอมตกลงเพราะเขาตั้งปฎิธานเอาไว้(เมื่อตะกี้)ว่าขะไม่ช้ำใจตาย เพราะคยองซูมั่นใจว่า เค้าจะไม่ฆ่าตัวตายกับเรื่องแค่นี้

    แบคฮยอนรู้สึกเอ็นดูคนตัวเล็กมากๆ ที่เชื่อคำพูดของเขาอย่างไม่ข้องใจ คยองซูไม่ว่าจะตอนไหนก็ยังเหมือนเดิม ยังไงก็ดูเป็นน้องชายที่น่ารักของเขาตลอด

    นี้เตี้ย ตื่นได้แล้ว กูจะออกไปข้างนอกแล้วร่างโปร่งได้แค่สะกิดไปมา แต่คนตัวเล็กก็ยังไม่ตื่น นี้ก็ใกล้เวลาที่พวกชานยอลนัดแล้ว แบคฮยอนจึงตัดสินใจจะอุ้มคนตัวเล็กให้เข้าไปนอนในห้องดีๆ คนตัวเล็กที่โดนกวนใจก็ได้แค่ครางอู้อี้ในลำคอไปมา ท่าทางของคนในอ้อมกอดอย่างกับลูกแมวขี้อ้อนตัวน้อยๆ

    นอกจากจะเตี้ยยังน่ารักอีกนะมึง"

    อื้อ...ร้อนคนตัวเล็กที่ถูกรบกวนละเมอออกมาอย่างไม่มีสติ แบคฮยอนอมยิ้มก่อนจะหุบลงเมื่อรู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของคนตัวเล็กที่ผิดปกติไป แบคฮยอนรีบวางคนตัวเล็กบนเตียงของตน ก่อนจะทาบมือเรียวบนหน้าผากและแก้มยุ้ยของคนตัวเล็ก

    ร้อน...ตัวคยองซูร้อนไปหมดเลย

    นี้เตี้ย ปวดหัวไหม ตื่นขึ้นมาคุยกันก่อนแบคฮยอนเขย่าตัวคยองซูเบาๆ พร้อมกับถามไถ่อาการ คนตัวเล็กเมื่อเริ่มได้สติก็พยักหน้าตอบตกลงไป หัวของเขาตอนนี้หนักอึ้งมาก แทบตั้งไม่อยู่

    ปวดหัว ร้อนนส่งเสียงอู้อี้ไปมา ทำให้ร่างโปร่งต้องวิ่งหายไปในห้องน้ำ แล้วกลับมาพร้อมกับกะละมังและผ้าชุบน้ำผืนเล็ก แบคฮยอนค่อยๆเช็ดตัวให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ คนตัวเล็กก็ได้แต่นอนนิ่งๆให้เช็ด แบคฮยอนเช็ดไปอมยิ้มไปเพราะคนตัวเล็กนั่นให้ความร่วมมือกับตนอย่างดี และดูท่าทางว่าเขาคงจะไม่ได้ไปตามนัดเพื่อนตัวสูงแล้วล่ะ

    คงต้องอยู่ดูแลเพื่อนตัวเล็กที่นี้

    แบคฮายอนนคยองซูเอ่ยเสียงยานครางก่อนจะเอื้อมมือปัดป่ายไปทั่วจนแบคฮยอนต้องจับเอาไว้จากนั้นก็กุมไว้หลวมๆ

    มีอะไรห้ะเตี้ยพูดพร้อมกับบีบจมูกน้อยๆอย่างหมั่นเขี้ยว

    กูรักเมิงน่าา รักนะพี่แบคคนตัวเล็กพูดเสียงยานพร้อมกับช้อนดวงตาโตขึ้นมาจ้องกับร่างโปร่ง แบคฮยอนได้แต่อมยิ้มกับคำบอกรักของคนตัวเล็ก แม้จะมีสติไม่ครบถ้วนแต่มันก็ออกมาจากปากอิ่ม

    แค่นี้พี่แบคก็ฟินครับ >////<

    แต่ว่า...ถ้าคนเมา เขาจะพูดความจริง

    อร้ายย พี่แบคฟินอ่ะครับ

    กูก็รักมึงนะเตี้ย รักนะครับน้องคยองซู"

     

     




     

     

    แบคฮยอนตัดสินใจไม่ไปตามที่ชานยอลนัดไว้ คอยเช็ดตัวดูแลคนตัวเล็กที่เอาแต่นอนหลับเนื่องจากว่าเพลียมากกับการเสียน้ำตาเป็นลิตรๆ หลังจากที่เช็ดตัวและเช็คอุณหภูมิร่างกายของคยองซูเสร็จแล้วก็มานั่งจ้องหน้าคนตัวเล็ก ผมหน้าม้าตกลงมาปรกแก้มย้วยที่ขึ้นริ้วแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ นิ้วเรียวปัดผมนุ่มลื่นให้พ้นจากพวงแก้ม ก่อนจะก้มลงไปหอมฟอดใหญ่ ทำเอาคนที่นอนหลับอุตุรู้สึกตัวตื่นจนแบคฮยอนตั้งตัวแทบไม่ทัน

    ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตื่นนะ

    งืมๆ แบคฮยอน กี่โมงแล้วเอ่ยน้ำเสียงงัวเงียเพราะเพิ่งตื่นพร้อมกับพยายามลุกขึ้นมานั่งตัวตรงแด่วแต่เพราะฤทธิ์ของของมึนเมาทำให้ต้องล้มตัวลงบนเตียงอีกครั้ง

    อย่าเพิ่งลุกนะ เดี๋ยวล้ม"

    อือๆคยองซูพยักหน้างึกๆทั้งๆที่นอนอยู่ แบคฮยอนยิ้มกว้างให้กับเด็กน้อยที่ตั้งใจทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง แต่ทว่ากลับมีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์เครื่องหนาของแบคฮยอนซะก่อน

    ฮัลโหล...”

    [แบค สรุปมึงจะไม่มาหรอว่ะ]

    โทษทีว่ะ ตอนนี้กูไม่ว่างแล้ว"

    [มีอะไรว่ะ ไหนมึงบอกว่ามึงว่าง วันนี้ชัวร์แน่นอน นี้กูนัดพวกพี่คริสมาคุยเรื่องงานที่เราจะขยายธุรกิจไปแทบชานเมืองแล้วนะเว้ยย ถ้ามึงไม่มาอาจจะพลาดโอกาสนี้นะเตี้ย]

    กูรู้น่าา...แต่กูไม่ว่างแบคฮยอนปฏิเสธไปพร้อมกับปรายตามองไปที่คยองซู ซึ่งคนตัวเล็กก็มองเขาอยู่เหมือนกัน

    [แบคแม่ง...]

    แค่นี้นะ คยองซูไม่สบาย บายเพื่อน"

    [เฮ้ยอะไรนะเตี้ยสองเป็นอะ...]

    ตี๊ด

    แบคฮยอนกดตัดสายก่อนที่ชานยอลจะพูดจบ คยองซูที่นอนฟังร่างโปร่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทอีกคนก็รู้สึกผิด เป็นเพราะเขาหรือเปล่าที่ทำให้แบคฮยอนไม่ได้ไปทำงาน

    แบค มึงไม่ไปหาชานยอลหรอว่ะคยองซูถามเสียงอ่อนเพราะความรู้สึกผิด แบคฮยอนหันมามองหน้าแล้วยิ้มให้ ก่อนจะเดินมานั่งบนเตียงข้างๆร่างเล็กที่นอนมองหน้าเขาด้วยสายตารู้สึกผิด มือเรียวยกขึ้นมาลูบผมคยองซูอีกครั้งก่อนจะหยีแรงๆเอาซะยุ่งเหยิงไปหมด คนตัวเล็กจึงได้แต่ร้องห้ามพลางตีมือที่มาหยีผมของเขา ส่วนคนโดนตีก็ไม่ได้สำนึกอะไร นั่งหัวเราะเฉย

    มึงจะให้กูไปได้ไง มีหมีป่วยนอนอยู่ในห้อง...กูทิ้งไม่ลงแบคฮยอนพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ เป็นรอยยิ้มที่มันออกมาจากความรู้สึกของหัวใจ

    บะ บ้าแล้วมึง ป่วยป่งอะไร กูสบายดีคยองซูเมื่อได้ยินเหตุผลจากคนตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่มีอิทธิพลต่อเขามากๆทำให้ต้องหันหน้าหนีแก้เขิน พร้อมกับแสร้งว่าตนไม่ได้เป็นอะไร

    เขาสบายดี จริงๆนะ >///<

    อ้อหรอ แล้วนี้หิวหรือป่าวแบคฮยอนที่รู้ทันคนตัวเล็กจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวจะเขินไปมากกว่านี้ ร่างโปร่งลุกขึ้นก่อนจะจับไหล่เล็กให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาพร้อมกับเอ่ยประโยคข้างต้น

    ไม่หิวอ่ะจริงๆก็หิวนะ แต่มันไม่อยากกินอะไรเลย

    ไม่ได้นะเตี้ย ไม่หิวก็ต้องกิน ป่ะ ไปกินข้าว เดี๋ยวกูทำข้าวต้มให้กินแบคฮยอนพูดพร้อมกับพยายามพยุงให้คนตัวเล็กลุกขึ้นจากเตียงเพื่อออกไปกินข้าว ตอนแรกก็อิดออดไม่อยากออกไปเพราะอยากนอนมากกว่า แต่ก็โดนคนตัวโตกว่าบังคับขู่เข็ญให้เขาต้องไปกินข้าว

    แล้วจะถามทำไมว่า หิวหรือป่าว- -

    มาๆ ไปกินข้าวกันแบคฮยอนเอ่ยอีกครั้งก่อนจะเดินนำออกจากห้องไป คยองซูที่โดนฉุดกระชากให้ลุกขึ้นมาจากที่นอนก็มานั่งทำหน้ามึนอยู่บนเตียง

    อาการปวดหัวที่น่าจะเป็นเพราะว่ายัง แฮงค์ อยู่เข้าโจมตี ร่างเล็กสะบัดหัวนิดหน่อยก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินตามแบคฮยอนไป แต่เป็นเพราะอาการยังไม่ค่อยจะดีขึ้น ทำให้ร่างเล็กเกิดหน้ามืด ล้มตัวลงกับพื้น แต่เพราะว่าเขาพยายามจะพยุงตัวเองให้ได้ มือป้อมที่เอื้อมไปหวังจะจับโต๊ะที่หัวเตียงให้ช่วยพยุงตัวไว้แต่กลับกลายเป็นว่าปัดข้าวของบนโต๊ะล้มระเนระนาดกับพื้น เกิดเสียงดังจนคนข้างนอกตกใจ

    โครม ตึ้ง

    คยองซู...” แบคฮยอนที่กำลังคนหม้อข้าวต้มอุทานออกมาจากตกใจก่อนจะปิดแก๊สและวิ่งเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที แบคฮยอนผลักประตูห้องอย่างแรง ก่อนจะกระโจนเข้าไปหาร่างเล็กที่ล้มไปนั่งบนพื้น หัวใจของเขาแทบวายเมื่อเห็นร่างเล็กนั่งก้มหน้าอยู่บนพื้นพร้อมกับข้าวของที่ล้มระเนระนาด

    คยองซู! คยองซูเจ็บตรงไหนหรือป่าว เป็นอะไรไหมแบคฮยอนถามด้วยความร้อนใจ คนตัวเล็กตรงหน้าทำได้เพียงแค่ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะพยายามฝืนยิ้มให้เขาเห็นและบอกว่าไม่เป็นอะไร

    แบคฮยอนดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด รู้สึกดีที่คนตัวเล็กไม่เป็นอะไรแต่ก็โกรธตัวเองที่ให้คยองซูลุกเดินมาเองทั้งๆที่ยังไม่หายแฮงค์ เขานี้มัน!

    ไหวไหม"

    ไหวๆ ช่วยพยุงก็พอแล้วคยองซูพูดเพื่ออีกคนจะได้สบายใจ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อถูกอีกคนอุ้มร่างของเขาขึ้นในท่าเจ้าสาว มือป้อมยกขึ้นมาคล้องคอร่างโปร่งโดยอัตโนมัติก่อนจะทำหน้าเหวอเพราะตกใจ อาการมึนตึบเพราะแฮงค์แทบหายเป็นปลิดทิ้ง

    ชะ เชี่ยแบค มึงทำอะไรเนี่ยคนตัวเล็กที่โดนอุ้มเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับทุบเบาๆที่หลังของเพื่อนที่ตัวใหญ่กว่าเขานิดหน่อย

    ก็จะพาคยองซูไปกินข้าวไงครับแบคฮยอนยักคิ้วให้ก่อนจะอุ้มร่างเล็กเดินออกมาข้างนอก แต่คนตัวเล็กกลับดิ้นคลุกไปมาอย่างขัดขืน

    กูเดินเองได้"

    เป็นลมขึ้นมาทำไง อย่าอวดเก่งไปหน่อยเลยน่าาแบคฮยอนทำเสียงดุ

    ก็มัน....” คนตัวเล็กตั้งท่าจะเถียงต่อ แต่โดนแบคฮยอนพูดขัดขึ้นก่อน

    เลิกดื้อได้แล้วนะครับพูดเสียงเรียบพร้อมกับจ้องตากลมโต

           เอาอีกแล้ว อาการแบบนี้

           เอาอีกแล้ว ความรู้สึกแบบนี้

           เอาอีกแล้ว กับคนๆนี้

           ทำไมเวลาจ้องหน้าแบคฮยอนนานๆมันทำให้เขาใจเต้นแรง

           ทำไมเวลาที่แบคฮยอนค่อยดูแลเขา ห่วงใยเขา มันทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ

           ทำไมเวลาที่แบคฮยอนพูดกับเขาด้วยน้ำเสียง ถ้อยคำที่ไพเราะ อ่อนหวานมันทำให้เขา......

    .
    .

    .
    .
    .
    .


    .
    .
    .
    แทบละลาย 
     

    “.///. มะ มะ....”

    “หือ”

    “ อื้อ ก็ได้...” คนตัวเล็กที่แพ้ทั้งสายตาและคำพูดของแบคฮยอนได้แต่เออออทำตามอย่างไม่ขัดขืน ไม่ใช่ไม่ขัดขืนแต่ขัดขืนไม่ได้ต่างหาก...

    นี้เขาเป็นอะไรไปเนี่ย!

    “ ...ละ แล้วอีกอย่างมึงเลิกพูดเพราะยังกับพระเอกซีรี่ย์ได้ไหมว่ะ กูสยิว"

    ทำไมล่ะ พูดด้วยกันแบบนี้เพราะจะตาย ^^” ไม่รู้ว่าทำไมแบคฮยอนถึงบอกแบบนี้ออกไป เขาก็แค่รู้สึกดี เวลาพูดจาน่ารักๆใส่กันเหมือนมันพิเศษยังไงก็ไม่รู้ แต่ท่าทางอีกคนจะพยายามปฎิเสธเหลือเกินนะ... ไม่ชอบหรือเปล่า . .

    กูเขินเว้ยสั.!! <--- คยองซู

    พูดมากน่า ปะ ปล่อยกู... อุ้บอือ... อื้อ!” คนตัวเล็กส่งเสียงอู้อี้เมื่อโดนเมื่อเรียวของเพื่อนสนิทปิดเอาไว้ ก่อนจะตกใจเมื่อรู้ว่าแบคฮยอนอุ้มเขาไว้แค่เพียงมือเดียว

    ต่อไปนี้ คยองซูห้ามใช้คำว่ากูมึงกับแบคฮยอนอีกนะ มันไม่เพราะแบคฮยอนพูดกับคนตัวเล็กที่พุ่งเข้ามากอดเขาไว้เพราะกลัวจะตกเนื่องจากว่าเขาอุ้มไว้เพียงแค่มือเดียว

    ทำไมว่ะ กู...อ๊าโอเคๆ ยอมแล้วๆ จะตกแล้วววคยองซูที่หลุดพูดคำต้องห้ามที่แบคฮยอนบอกเอาไว้ออกมา ทำให้ร่างโปร่งแกล้งเอามือที่ช้อนก้นมนๆออก ส่งผลให้คนตัวเล็กต้องกระเด้งตัวกอดร่างแบคฮยอนไว้แน่นเพราะกลัวตก ขาสั้นๆตะหวัดขึ้นกอดรอบเอวของแบคฮยอนพร้อมกับซบหน้าเข้ากับไหล่ลาดทันที ส่งเสียงอู้อี้ที่แบคฮยอนได้ยินแล้วต้องยกยิ้มอยู่คนเดียว

    โอเคๆ ตกลงแล้ว ยอมแล้วๆ ไม่พูดไม่เพราะแล้ว จะพูดเพราะๆแล้วว"

    แบคฮยอยยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว รู้สึกดีจังที่ได้แกล้งคนตัวเล็กแบบนี้ แถมยิ่งเห็นปฎิกิริยาตอบรับที่ตามมามันยิ่งทำให้ความอยากแกล้งมากกว่าเดิม คยองซูเนี่ย...

    น่ารักจัง

     

     

     

     

    ข้าวต้มร้อนๆมาแล้ว อ่ะแบคฮยอนถือข้าวต้มมาเสิร์ฟคนบนโต๊ะที่ทำหน้าง้ำงอด้วยความไม่พอใจ ก็เขายังไม่อยากกินนี้!

    ไม่กินได้ป่ะคนตัวเล็กที่ทำได้แค่นั่งนิ่งๆบนเก้าอี้โพล่งถามขึ้นมา ก่อนจะส่งสายตาออดอ้อนที่แบคฮยอนเห็นก็แทบใจอ่อนทันที แต่ว่าครั้งนี้....คงยอมให้ไม่ได้หรอกนะ

    ไม่ได้นะ คยองซูต้องกิน จะได้กินยา"

    ก็คนมันไม่อยากกินอ่าาคยองซูเริ่มงอแง มือป้อมๆเอื้อมมาดึงแขนของร่างโปร่งให้เข้ามาใกล้ก่อนจะเอาแก้มกลมร้อนๆถูๆไถๆไปมาอย่างออดอ้อน

    นะ น่าๆๆๆ ไม่กินแล้ว หายแล้วน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับช้อนสายตาขึ้นมาจ้องแบคฮยอน ส่วนร่างโปร่งก็ทำได้แค่หลบสายตาลูกแมวที่คยองซูส่งมาให้ ทำไมตัวเล็กมันขี้อ้อนจังว่ะ .///.

    มะ ไม่ได้ ต้องกิน ไม่อยากหายหรือไงทำเป็นใจแข็งแต่จริงๆแพ้ตั้งแต่เริ่มงอแงแล้ว

    ง่ะ ไม่กินคยองซูที่โดนขัดใจมามากพอก็เริ่มโกรธนิดๆ ร่างเล็กสะบัดหน้าหนีสายตาอบอุ่นของแบคฮยอน บอกเป็นทางอ้อมให้รู้ว่า งอน แค่นี้ตามใจหน่อยก็ไม่ได้!

    กินเถอะน่า นะนะแบคฮยอนเมื่อทีว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้จึงเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อน ลูกอ้อนพิฆาตที่เขาคิดว่าคยองซูน่าจะยอมแพ้....




    มั้งนะ

    เชอะ"

    แงๆ คยองซูอ่า กินข้าวต้มหน่อยน่า นี้...มันหายร้อนหมดแล้วแบคฮยอนพูดพร้อมกับตักข้าวต้มแล้วเอาช้อนไปจ่อที่ปากอิ่ม

    ไม่"

    กินหน่อยน่า เดี๋ยวป้อนเลย...”

    ไม่เอา"

    “ยังงี้คนทำเขาก็เสียกำลังใจหมดดิ คยองซูอ่า~

    “ช่างเขาสิ”

    แงๆ คยองซูโกรธเขาแล้ว TwT

    แต่คนอย่างแบคฮยอนไม่ยอมแพ้หรอก ฮึบไว้ ฮึบ!

    นี้ๆ มันอร่อยมากเลย กินแล้วนายจะได้หายไง พรุ่งนี้ก็สิ้นปีแล้ว ไม่อยากอยู่ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขหรือไง...บลาๆแบคฮยอนพยายามหาเหตุผลต่างๆนาๆมาเพื่อชักนำให้เด็กดื้อของเขากินข้าว แต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจากที่ตอนแรกดูขัดขืนเขา จะดูนิ่งไปน่า ดูจะนิ่งมากไปกว่าเดิมจนแบคฮยอนต้องหยุดพูดแล้วหันมาสนใจ

    เฮ้ยคยองซู นายร้องไห้ทำไมแบคฮยอนรีบวางช้อนข้าวต้มแล้วพุ่งเข้าไปดึงตัวคยองซูมากอดแล้วลูบหัวเบาๆเป็นการปลอบ ร่างเล็กที่อยู่ๆก็น้ำตาไหลออกมาดื้อๆทำให้แบคฮยอนรู้สึกร้อนใจ

    เขาไม่ชอบน้ำตาของคยองซูเลย ไม่ชอบจริงๆนะ

    ฮะ ฮึกร่างเล็กสะอื้นออกมาก่อนจะซบหน้าลงที่ไหล่ลาด น้ำตามากมายไหลพรั่งพรูออกมาเปียกเสื้อเชิ้ตสีขาวของแบคฮยอนเหมือนกับเมื่อคืน

    ไม่อยากอยู่ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขหรือไง...

    แค่คำๆเดียว ประโยคเดียว ทำให้ความจริงที่แสนโหดร้ายของคยองซูที่คิดว่ามันเป็นแค่ความฝันกลับเข้าสู่ความทรงจำของเขา การที่โดนคนคนหนึ่งที่รักสุดหัวใจบอกเลิก ตัดความสัมพันธ์ ตัดช่วงเวลาดีๆมากมาย มัน...มันทำให้รู้สึกเจ็บ หัวใจบีบไปหมดจนต้องร้องไห้ออกมา

    เขาไม่ได้อยากทำให้แบคฮยอนตกใจนะ...แต่มันก็ห้ามไม่ได้จริงๆ...ตอนแรกก็หายเจ็บไปแล้ว แต่พอโดนสะกิดแผลหน่อยเดียวก็... กลับมาเจ็บตามเดิม

    ฮึก ฮือๆๆ แบคฮยอน...ฮึกคนร่างเล็กพูดไปสะอื้นไป แบคฮยอนที่ไม่รู้ถึงสาเหตุของการเสียน้ำตามากมายครั้งนี้จึงทำได้แค่พูดปลอม พยายามเบนเบี่ยงความสนใจให้เลิกคิดเรื่องที่ทำให้ต้องเสียใจ

    โอ้โอ๋ ไม่ร้องหายนะเด็กน้อย แบคฮยอนสุดหล่ออยู่ที่นี้แล้ว โอ้โอ๋..."

    ฮึก ฮึก"

    โอ้โอ๋ คยองซูคนดีของแบค เลิกร้องไห้น่าา"

    ฮึก...ใครเป็นของนายกัน ฮึก"

    สำเร็จ...อย่างน้อยคยองซูก็หันมาสนใจเขาแล้ว

    ก็นายไง นายเป็นคนดีของฉันแบคฮยอนพูดพร้อมผละคยองซูออก ก่อนจะใช้เรียวเกลี่ยหยดน้ำตาที่มาบังม่านตาโต

    คยองซูรู้สึกเหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะกับคำพูดและการกระทำที่แสนอ่อนโยนของแบคฮยอน หัวใจดวงน้อยๆที่เคยเต้นอย่างเชื่องช้าเนื่องจากใกล้จะหมดแรงกลับมาเต้นเร็วและรัวเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำกับการกระทำที่ดูธรรมดาของแบคฮยอน

    แปลก...ที่แบคฮยอนออกจะทำแบบนี้ให้เขาบ่อยๆแต่ครั้งนี้มัน...

    รู้สึกเหมือนกับช่วงเวลาแรกๆที่จงอินมาจีบเราเลยอ่ะ

    เขินอ่าา >///<

    บะ บ้า ใครเป็นของนายกัน... .//.” เลิกสะอื้นไปทันที ฮึก

    นายนี้น่ารักจังนะ"

    “-////- เลิกพูดได้แล้วว....” คนเขายิ่งเขินๆอยู่

    ฮ่าๆ โอเค งั้นคนดีของแบคฮยอนต้องกินข้าวนะครับได้ทีก็ต้องให้ถึงที่สุด แบคฮยอนพูดพร้อมกับตักข้าวต้มที่เริ่มอุ่นหรือก็คือกำลังจะเย็นแล้วมาจ่อที่ปากอิ่ม น่าแปลกที่ครั้งนี้คยองซูยอมเขาอย่างไม่อิดออด ปากอิ่มสีชมพูระเรื่องับช้อนข้าวต้มแล้วนั่งก้มหน้างุดเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่พูดไม่จา

    เขินอะเด้~~

    แบคฮยอนก็เริ่มจะทนไม่ไหวกับคนตัวเล็กตรงหน้าแล้วนะ

    ทำไมคยองซูน่ารักจัง

     

     

     

     

    หลังจากสงครามการกินข้าวระหว่างคนตัวเล็กและแบคฮยอนจบลง ร่างโปร่งจึงขอตัวไปล้างจานเก็บอุปกรณ์ ตอนแรกคนตัวเล็กอาสาจะช่วยแต่โดนร่างโปร่งดักคอ เพราะกลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งไปเลยให้นั่งอยู่เฉยๆ

    คยองซูที่ทำได้แค่นั่งรอแบคฮยอนอยู่บนโต๊ะเงียบๆ รู้สึกเบื่อ เลยจะออกไปนั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องนั่งเล่น แบคฮยอนเห็นคนตัวเล็กจะลุกเดินเองก็รีบวิ่งมาอุ้มตัวคยองซูในท่าเจ้าสาวทันที พร้อมกับกำชับไว้ว่า ถ้าจะไปไหนให้เรียกเขา เขาจะอุ้มพาไปเองเพราะว่าเดี๋ยวจะเป็นลมล้มลงไป

    ไอ้บ้า นี้เขาไม่สบายนะไม่ได้ท้อง!!!

     

    นี้ๆ พรุ่งนี้ออกไปซื้อของมาฉลองวันปีใหม่กันไหมคยองซูเอ่ยถามร่างโปร่งทันทีที่ถูกวางลงบนโซฟา แบคฮยอนเลิกคิ้วสูง จะว่าไป...เขาก็ไม่มีโปรแกรมไปเคาน์ดาวน์ที่ไหน ยกเว้นว่าไอ้ชานจะมาชวนไปอีกที แต่โดนคนตัวเล็กถามแบบนี้ก็...

    ได้สิก็ต้องตอบตกลงสิครับ แหม...

    แบคฮยอนพูดพร้อมกับรอยยิ้มลูกหมา คยองซูเห็นดังนั้นก็ยิ้มกว้าง

    โอเค... เขาจะเริ่มต้นใหม่ เขาจะไม่จมปลักกับความเจ็บปวดอีกต่อไป... เขาจะเข้มแข็ง เขาจะไม่อ่อนแอ เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาจะ....

    ปัง!!

    เตี้ยยยยยย"

    เฮ้ยชานยอลมาไงเนี่ยคยองซูตกใจที่จู่ๆก็โดนสวมกอดจากข้างหลังอย่างแรง

    ชานยอลรีบบึ่งมาหาเพื่อนตัวเตี้ยทันทีที่รู้ว่าคยองซูไม่สบาย แต่กว่าจะมาได้ก็โดนเหล่าเพื่อนผองทั้งหลายกักตัวให้อยู่ช่วยกันทำงานก่อน นี้เพิ่งจะปลีกตัวมาได้นะเนี่ย เอาซะแย่เลย

    เตี้ย มึงปวดหัวหรอ เจ็บตรงไหนเป็นอะไรไหม ไหนดูหน่อยพูดพร้อมกับเข้าไปวุ่นวายแถวชายเสื้อของคยองซู

    เฮ้ยชานยอล"

    ไอ้เชี่ยชาน มึงหยุดเลยนะเว้ยจะเลิกเสื้อคยองซูขึ้นทำม้ายยยย!!"

    โป๊ก!

    ดาวลอยเต็มท้องฟ้าเลย ชยอลรู้สึกได้ แอ้ก!

    .

    .
    .

    .

    .

     

    ฮึก ชยอลไม่ผิดน่า

    สงครามอันชุลมุนหยุดลงทันทีที่แบคฮยอนกระโจนเข้าใส่ชานยอลที่กำลังจะตรวจดูคยองซูว่าเจ็บปวดตรงไหน คืออีหมาออกตัวแรงมากเอาซะผมกลิ้งลงไปกับพื้น ชยอลผิดอะไรแค่จะตรวจร่างกายคยองก็เท่านั้นนะ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้จริงๆนะ งิ้งๆ TMT

    ว่าแต่ทำไมอิหมาแบคมันถึงได้ทำท่าหึงหวงคยองซูขนาดนี้ว่ะ แต่ก่อนยังไม่ถึงขั้นบ้าบอขนาดนี้ แต่ตอนนี้นี้สิ ดูมันเมื่อกี้มันสกายคิกใส่ชยอลแล้วไปนั่งโอ๋เอ๋คยองซูที่ไม่ได้เจ็บปวดอะไรเลย ดูมันสองมาตรฐานชัดๆ เหอะ!

    หรือว่าที่เตี้ยหนึ่งเป็นแบบนี้เพราะว่า...

    อรุณสวัสดิ์เชี่ยแบคฮายอน~…. อ้าวทำไมอยู่กันครบเลยเสียงของบุคคลที่สี่ดังขึ้นหลังจากประตูโดนผลักเข้ามา จงแดเพื่อนสนิทของแบคฮยอนและชานยอลปรากฎกายพร้อมกับข้าวของที่พะรุงพะรัง

    แต่ว่า...นี้มันจะบ่ายโมงแล้วนะสั.อรุณสวัสดิ์พ่อ.งงง!!

    ไอ้ชานยอล กูว่าจะโทรเรียกมึงมาพอดีเลย กูว่าเรามาเคาน์ดาวน์ที่ห้องอิแบคมันดีกว่าาา" เฉินเกริ่นนำ

    โอ้เยสกู๊ดไอเดียเลยเตี้ยสาม ตามนั้น" ชยอลได้ยินดังนั้นก็ตอบตกลงทันทีสิครับ แหม...

    เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อนนะ แล้วแผนของแบคฮยอนที่จะอยู่ข้ามปีกันสองต่อสองกับคยองซูล่ะ มันหายไปไหนแล้ววว

    เดี๋ยวๆ มึง กูไปตกลงตอนไหนว่าให้มาเคาน์ดาวน์ที่นี้ว่ะแบคฮยอนแย้งทำเอาเพื่อนสองขนาดถึงกับหันมาจ้องเขม็งเขาพร้อมกัน

    ผมนี้เสี่ยวสันหลังวาบเลย

    มึงต้องตกลงนะเชี่ยเตี้ยชยอลหูกาง

    ใช่ๆ สองต่อหนึ่ง เอ๊ะหรือสามต่อหนึ่ง คยองซู!” มหาเฉินผู้มากศีลธรรม - -

    อะเฮือก =_=!

    คยองซูที่นั่งอมยิ้มเงียบๆฟังเหล่าบีเกิ้ลไลน์คุยกันถึงกับสะดุ้ง จงแดปรายสายตามามองเขาเขม็งตามด้วยชานยอลและแบคฮยอน นี้มันบังคับกันชัดๆ!

    -_-* <---- เฉินเฉิน

    ^_^** <---- ชยอล

    *_* <---- แบคฮยอน

    สายตาแต่ละคนดูบังคับขู่เข็ญมาก ยกเว้นแบคฮยอนที่ส่งสายตาออดอ้อน ให้ตายสิเขาจะตอบว่าสามหรือสองดี จะเลือกสองเกลอหรือเลือกแบคฮยอนดี

    “คยองซูอ่า~ แผนที่เราจะเคาน์ดาวน์...”

    คยองซู....” เฉินกดเสียงต่ำขัดแบคฮยอนทันทีเมื่อร่างโปร่งพยายามบ่ายเบี่ยงให้คยองซูเอนเอียงไปหาตน  ส่วนคนตัวเล็กที่ได้ยินเสียงอมหิตแสนร้ายกาจก็ถึงกับสะดุ้งโหยง

    แม่จ๋าคยองซูกลัววว

    แบคฮยอน ขอโทษนะ

    อื้อ =_= _ _ =_=” พูดพร้อมพยักหน้างึกๆ เป็นอันตกลงว่าเขาเข้าข้างจงแด โอ้เย่~ -_-

    เยสๆ เย้ๆจงแด

    คยองซูอ่าาแบคฮยอน

    สามต่อหนึ่ง เสียงส่วนมาก โอเค๊น่าแบคฮยอนชานยอล

    แต่เชี่ยเฉินบังคับขู่เข็ญคยองอ่า... โอ๊ยๆแบคฮยอน

    พูดว่าไงนะ ใครบังคับกันครับคุณมึงจงแด

    โอ๊ยๆ ยอมแล้วๆแบคฮยอนคนกาก

    ฮ่าๆๆคยองซู

    วุ่นวายแบบนี้ ไรท์ไม่ขอยุ่งด้วยนะ - -

     

     






     

     

    14.00 น.

    สถานการณ์ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤต

    แบคฮยอนที่เพิ่งกลับมาจากการทำงานเป็นพ่อศรีบ้านศรีเรือนที่ดี หรือก็คือ ล้างจาน- - ก็เจองานหยาบเลย

    หลังจากที่กินข้าวเที่ยงที่จงแดซื้อเข้ามาเสร็จ ก็เป่ายิ้งฉุบกันว่าใครจะได้ไปล้างจาน คยองซูตอนแรกอาสาว่าจะล้างให้แต่เนื่องจากว่าไม่สบายเลยกลายเป็นกรณียกเว้น เจ้าตัวเลยงอนตุ๊บป่องไปนั่งงอนอยู่บนโซฟาคนเดียว เหลือแค่พวกเราสามเกลอ

    พวกเราออกค้อนกรรไกรกระดาษกันอยู่นาน ก่อนจะลงเอ่ยที่ว่า

    แบคฮยอนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

    ร่างเล็กเดินคอตกถือถ้วยจานไปล้างเงียบๆอยู่คนเดียว แต่เมื่อกลับมาก็เจอเพื่อเตี้ยกับเพื่อนสูงกำลังทะเลาะกันเรื่องห้องนอน

    มึงนอนโซฟา ส่วนกูจะเสียสละไปนอนเตียงกับเชี่ยแบคเองง” ชยอล

    ได้นอนบนเตียงเรียกว่าเสียสละหรอสัส!” เฉินเฉิน

    มึงไม่รู้รึไงว่าห่าแบคนอนดิ้นแค่ไหน” ชยอล

    เออว่ะ แต่ยังไงกูก็อยากที่จะนอนบนเตียงเว้ย

    พวกมึงนิททากูเบาๆก็ได้นะสัส - -

    เนื่องจากว่าห้องที่แบคฮยอนเช่าเอาไว้ มันมีห้องนอนแค่ห้องเดียว ดีอย่างหนึ่งที่มันกว้างมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ แถมมีการแบ่งโซนเป็นห้องๆ ห้องน้ำก็อยู่ในห้องนอน มีโซฟากว้างๆวางอยู่กลางห้องนั่งเล่นกับฟูกนุ่มๆที่แบคฮยอนชอบมานอนหลับยามที่กลับมาดึก คือขี้เกียจเข้าห้องว่างั้นก็ได้ แต่ไอ้ปัญหาของเพื่อนเตี้ยสูงนี้ดูท่าจะใหญ่โตเหลือเกิน พวกมันเล่นเถียงกันแบบดุเดือดจริง ถ้ามีอีโต้อยยู่ใกล้ๆคงไม่เหลือกันและ

    สงสัยเขาคงต้องเคลียให้ซะล่ะ

    เฮ้ยพวกมึงไม่ต้องแย่งกัน ไม่มีใครได้นอนห้องกูทั้งนั้น เพราะคยองซูจองแล้วแบคฮยอนโพล่งขึ้นขัดเพื่อนตัวเตี้ยและสูง

    ห๊ะ!? =0=!

    คนตัวเล็กที่นั่งดูทีวีเงียบๆถึงกับสะดุ้งอีกครั้ง ก่อนจะละความสนใจจากการ์ตูนโพะโพโระที่กำลังฉายอยู่ ตากลมโตจ้องมองแบคฮยอนอย่างใสซื่อ

    กูไปจองตอนไหนว่ะ?

    แบคฮยอนส่งรอยยิ้มที่คิดว่าเท่ห์ที่สุดในโลกแล้วให้คยองซู คนตัวเล็กเห็นดังนั้นก็เขินหน้าดำหน้าแดงรีบหันหน้าหลบรอยยิ้มพิฆาตนั้นทันที ส่วนร่างโปร่งเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับก็ถึงกับอมยิ้มอยู่คนเดียวอย่างห้ามไม่ได้

    คยองซูนี้เขินน่ารักจัง

    แบคฮยอนอมยิ้มอยู่คนเดียวส่วนคยองซูก็ได้แค่ก้มหน้างุด ซ่อนริ้วแดงๆที่เพิ่มมากขึ้นบนพวงแก้ม การกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของสองเกลอจอมแสบได้เป็นอย่างดี ทำเอาข้อสงสัยในใจของชานยอลคลี่คลายหายไปหมดสิ้น

    อิหมาแบคนี้ร้ายไม่เบา

    งั้นพวกกูนอนข้างนอกก็ได้ แบคมึงไปนอนกับคยองซูเลยไป” เฉินที่เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างทั้งคู่ก็เริ่มแผนการที่เพิ่งคิดสดๆร้อนๆกับชานยอล

    เฮ้ย กะ กูไม่ได้หมายความว่า…” แบคฮยอนที่ตั้งจะจบปัญหาการแย่งห้องนอนระหว่างเพื่อนสองไซส์โดยเอาคยองซูเป็นทางออก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการจะนอนกับคยองซูสักหน่อย แค่จะให้ร่างเล็กได้นอนสบายๆบนเตียงของเขา ส่วนเขาจะมานอนเบียดอีเพื่อนเชี่ยสองตัวเนี่ยเอา

    ไม่ได้หวังอะไรเลยนะ! //ทำหน้าจริงจัง

    งั้นเดี๋ยวกูจะไปนอนกับคยองซูแทน” ชานยอลที่เห็นว่าเพื่อนตัวเล็กแม่งจะสุภาพบุรุษเกินไปจนน่าหมั่นไส้ เลยขอแกล้งแหย่สักหน่อยแล้วกัน ซึ่งผลที่ได้รับมาก็ดีไปตามความคาดหมาย

    หยุดเลยนะมึงเดี๋ยวกูนอนกับคยองซูเอง!!” รีบโพล่งตอบทันทีเลยนะอีหมาเตี้ย!



     






     

    19.30 น.

    อ่าอิ่ม

    หลังจากที่เถียงกันเรื่องห้องนอนก็มานั่งกินข้าวเย็นฝีมือชายยอลคนหูกางกับลูกมืออย่างมหาเฉิน ขอบอกว่าครั้งนี้แบคฮยอนสุดหล่อไม่ได้ล้างจานเองนะครับ พวกมันช่วยกันล้าง ส่วนเรื่องห้องนอนเนี่ยกว่าจะตกลงกันได้ รองเท้านี้แทบลอยไปเต็มห้อง- - ซึ่งพวกเราตกลงกันว่า...

    ผม+คยองซูนอนในห้อง

    เฉิน+ชานยอลนอนบนโซฟาแอนด์ฟูกข้างนอก


    ฟังดูไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น - -





    เชี่ยชาน กูจะนอนบนฟูก"

    เฮ้ยมึง แต่กูจองก่อนนะ"

    ไม่ด้ายย ฟูกของกูววว"

    ย่าห์ออกไปเชี่ยเฉิน"






    นั่นแหละครับท่านผู้อ่าน - -

    แบคฮยอนได้แต่ส่ายหน้าให้กับพฤติกรรมที่โคตรปัญญาอ่อนของเพื่อนสองเกลอ ไอ้เพื่อนเตี้ยสูงเนี่ยชอบทะเลาะกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คงจะมีเขาคนเดียวที่ปกติดีทุกอย่าง เฮ้อนอกจากจะมีเพื่อนต๊องกูยังหล่อเลยสั. //ยิ้มภูมิใจ (เกี่ยวมั้ย)

    แบคฮยอนอมยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อนึกย้อนไปถึงสมัยเด็กๆก่อนจะปรายตาไปเห็นคยองซูที่นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาคนเดียว ร่างเล็กดูนิ่งมากๆไม่ปฏิกิริยาตอบรับอะไรทั้งสิ้น ทั้งๆที่จอภาพสี่สีขนาดสี่สิบนิ้วกำลังฉายภาพผู้หญิงห้อยหัวห้อยตัวลงมาอย่างหวาดเสียว


    นี้มันหนังผีนี้ครับท่าน!



    แบคฮยอนเดินเข้าไปนั่งข้างร่างเล็กก็พบว่า คยองซูนั้นหลับไปแล้ว สายตากลมโตที่ชอบฉายแววใสซื่อถูกเปลือกตาบางๆปิดเอาไว้ ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อเผยอขึ้นเพื่อหายใจเข้าออก แขนป้อมยกขึ้นมากอดตัวเองไว้เพื่อความอบอุ่น


    ดูเหมือนจะหนาวแหะ



    แบคฮยอนยกมือขึ้นมาทาบกับแก้มกลมเพื่อเช็คอุณหภูมิ ดูเหมือนจะไม่มีไข้แล้ว จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องแล้วหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาคลุกร่างเล็กเอาไว้ นิ้วเรียวส่งมาเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาบังหน้าคนตัวเล็กเอาไว้ก่อนจะมาเขี่ยแก้มกลมอย่างรักใคร่

    อ่าความรู้สึกแบบนี้เขาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร แต่ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า...

    รักคนตัวเล็กเขาเต็มเปา


    ไอ้ความรู้สึกมากมายที่มีต่อคนตัวเล็กมันเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ ทั้งไอ้อาการอยากปกป้อง อยากเห็นเขายิ้ม อยากเป็นส่วนหนึ่งของเขา อยากอยู่เคียงข้างเขา...

    ตอนนี้แบคฮยอนโคตรมั่นใจ


    แต่เขากลัวว่าคนตัวเล็กจะไม่คิดอย่างนั้น จะไม่คิดแบบเดียวกันที่เขาคิด










    รักเขาก็บอกเขาไปเด้~"

    !!!

    เชี่ยเฉิน!” แบคฮยอนอุทานออกมาอย่างลืมตัวก่อนจะตะครุบปากตัวเองไว้และมองไปที่ร่างเล็กอย่างหวั่นๆ

    คนตัวเล็กนอนตานิ่งและหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอเช่นเดิม ไม่มีการเปลี่ยน จะมีก็อีกแค่ยกมือป้อมขึ้นมากระชับผ้าห่มให้สบายตัว

    โชคดีที่ไม่ตื่น เฮ้อ~

    แหมนี้มึงแคร์เขาขนาดนี้เลยหรอว่ะ" ชานยอลที่เห็นท่าทีของเพื่อนสนิทก็อดที่จะเอ่ยแซวไม่ได้

    อี้เชี้ย มานี้เลยๆแบคฮยอนกระซิบเบาๆก่อนจะลากเพื่อนตัวแสบทั้งสองให้ออกมาคุยกันในห้องนอนเพื่อจะได้ไม่รบกวนคยองซู เพื่อนเตี้ยอย่างจงแดถึงกับเบะปากให้กับแบคฮยอน

    มึงชอบคยองซู ทำไมไม่บอกเขาไปล่าสั.เฉินทักท้วง ส่วนแบคฮยอนก็ได้อ้ำอึ้ง

    ถ้าเป็นกูนะ บอกเขาไปตั้งแต่รู้ตัวแล้วเว้ยชานยอลพูดขึ้นบ้าง

    คือมึง...เขาเพิ่งเลิกกับแฟน"

    เมื่อไรว่ะเฉินผู้ขี้สงสัยได้ทีก็ซักถาม

    เมื่อวาน...” พูดเสียงแผ่ว

    เอิ่ม...”

    กูว่ามันจะไม่กะทันหันไปหรือไงว่ะ... เขาอาจจะกำลังเฮิร์ตอยู่ กูไม่กล้า...กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ" แบคฮยอนพูดอย่างเป็นกังวล

    ป๊อดสั." ส่วนเพื่อนทั้งสองคนก็ประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมาย

    อ้าว อินี่ -_-*

    เป็นกูนะ ช่างแม่งอ่ะ จะเพิ่งเลิกกับแฟนหรือเพิ่งไปแกงอะไร กูก็จะบอก...ถ้าความรู้สึกมันใช่ มันก็ใช่ป่ะ"

    “....”

    แล้วก็นะเว้ย ที่เขาจะปฏิเสธมึงนะมันอีกเรื่องหนึ่ง แค่มึงได้พูดความรู้สึกของมึงออกไปก็พอแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า...เขาจะรับมันไว้หรือป่าว"

    “....”

    คิดดูดีๆนะเพื่อน พวกกูไปล่ะพูดเสร็จก็วิ่งหนีหายออกไปจากห้อง ทิ้งให้แบคฮยอนยืนนิ่งจมอยู่ในความคิดของตัวเอง

    เขาคิดยังไงกับคยองซู

    รักงั้นหรอ

    เขาคิดว่างั้นนะ

    ถ้าความรู้สึกมันใช่ มันก็ใช่ป่ะ....

    โอเคเขาพร้อมแล้ว ไม่ว่าคยองซูจะตอบว่ายังไง แต่ความรู้สึกของเขา...คยองซูจะได้รับรู้

    เผื่อว่า...เราจะรู้สึกเหมือนกัน

     

     

              หาววววว แจ่บๆ ง่วง

              คยองซูรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก เขาจำได้ว่าหลังจากที่กินข้าวเย็นฝีมือพวกชานยอลและจงแดเสร็จก็โดนไล่ให้มานั่งเฉยๆอยู่บนโซฟาตามเคยจนเผลอหลับไป ขอบอกเลยว่าเซ็งมาก คือเขาแค่เมาแล้วแฮงค์ไม่ได้ท้องหรือเป็นโรคร้ายแรงอะไรมากมายแต่แบคฮยอนนะเว่อร์

              กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป เลยไม่ให้จับแตะต้องอะไรเลย

              มันน่าหมั่นไส้นัก - -*

              แต่จะว่าไป...

              ก็รู้สึกดีนะ

              โงยยย เขิน =///=

              คยองซูบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบนเตียงดีๆ...เอ๊ะ! เขาอยู่บนเตียงได้ไง จำได้ว่าหลับไปกับโซฟานี้ ทำไมมาโผล่ที่เตียงได้กัน - - หาววว ช่างเหอะ

              คยองซูตั้งท่าจะลุกขึ้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เท้าเล็กวางลงบนพื้นเย็นเฉียบก่อนจะก้าวเดินไปทางห้องน้ำ ดีนะที่ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน เขาจะได้ไม่ออกไปรบกวนคนอื่นๆข้างนอก แต่เพราะว่าห้องนี้มันมืดเลยเดินไปสะดุดอะไรบางอย่างทำเอาเกือบสะดุดหน้าคะมำ

              อะไรว่ะเนี่ย!

              “งืมๆ คยองซูอ่อออ” เสียงร้องยานครางเรียกความสนใจให้ร่างเล็กหันไปมอง เครื่องหมายปรัศนีปรากฏขึ้นบนหัวทันทีที่เห็นแบคฮยอนนอนอยู่บนพื้นห้อง มีเพียงแค่ผ้าห่มบางๆปูรองร่างโปร่งไว้ส่วนร่างกายของเขาก็ไม่มีอะไรมาปกคลุมให้ความอบอุ่น

              สงสัยเมื่อกี้เขาจะสะดุดขาแบคฮยอนแน่ๆเลย

              คยองซูเดินย่องๆเข้าไปใกล้ร่างโปร่งที่นอนหลับตาพริ้มพลางกอดก่ายร่างกายของตนไว้ คยองซูเห็นดังนั้นก็รีบหยิบผ้าห่มของตนมาห่มให้แบคฮยอนทันที

              ทำไมไม่ขึ้นไปนอนข้างบนกันนะ

              คยองซูทำหน้าหมุ่ยใส่คนนอนหลับอย่างไม่เข้าใจ ก่อนนั่งลงข้างๆร่างโปร่งที่นอนหลับไม่ได้สติ ตอนนี้เริ่มเห็นหน้าแบคฮยอนชัดขึ้นแล้วเพราะสายตาเริ่มชินกับความมืด ดวงหน้าเรียวคมและเรียบเนียนซุกอยู่บนหมอนใบโตนุ่มนิ่ม คิ้วบางๆขมวดเข้าหากันจนคยองซูอดไม่ได้ที่จะใช้นิ้วสั้นๆไปจิ้มๆเพื่อให้มันคลายออก

              ปากเรียวบางที่ดูทรงเสน่ห์ยามที่ยกยิ้มรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากำลังเผยอออกรับอากาศภายนอกและแลกเปลี่ยนอาการภายใน คยองซูจ้องริมฝีปากเรียวอยู่นานด้วยหัวใจที่เต้นแรงและถี่เร็วจนเขากลัวว่ามันจะระเบิดออกมาจนต้องเอามือมากุมไว้

              ทำไมแบคฮยอนตอนนี้ดูดีจัง

              “ทำไมนายดูดีจังอ่า ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆยังเห็นว่านายหล่อ แล้วก็น่ารักมากๆเลย น่าอิจฉาจัง” คนตัวเล็กพูดแกมบ่นๆกับร่างที่ไร้สติของแบคฮยอน ดีแล้วที่ไม่ได้ยินไม่งั้นไอ้เพื่อนเตี้ยอาจจะคิดว่าเขาบ้าก็ได้ ฮ่ะฮะ

              นิ้วสั้นป้อมเอื้อมมาเขี่ยแก้มนิ่มของแบคฮยอนเบาๆ ก่อนจะจิ้มลงไปให้มันบุ๋มลึกจนเจ้าตัวร้องครางออกมา

              “งือออ อย่ากวนนน โคนจานอนนน งึมๆ” พูดขึ้นทั้งๆที่หลับตาอยู่ พร้อมกับปัดมือคยองซูที่วุ่นวายอยู่กับพวงแก้มของตน ก่อนจะกลับไปนอนซุกผ้าห่มที่คยองซูเอามาห่มให้อย่างหวงแหน

              ร่างเล็กที่เห็นปฏิกิริยาตรงหน้าก็หลุดออกมาน้อยๆ แบคฮยอนตอนนอนหลับนี้ไม่ต่างจากหมาน้อยขี้เซาเลยสักนิด แต่พอตอนตื่นอย่างกลับหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ชอบทำหน้าตาที่เขาอ่านไม่ออก - - ร้ายนักแล

              “อะแฮ่มๆ”

              !!!

              เสียงกระแอมเบาๆดังขึ้นจากทางด้านหลังคนตัวเล็ก คยองซูหันไปมองก็เห็นเฉินยืนพิงประตูพร้อมกับกอดอกมองหน้าเขาแล้วยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่คนเดียว คยองซูรีบกระเด้งตัวออกจากแบคฮยอนทันทีก่อนจะมายืนอ้าปากค้างอย่างกับเด็กทำความผิดไว้ต่อหน้าเฉินเฉิน

              “ฉันแค่จะมาเข้าห้องน้ำ” เฉินขำกับท่าทางที่ดูลุกลี้ลุกลนของคยองซู ก่อนจะเอ่ยจุดประสงค์ที่ทำให้เขามายืนยิ้มพิงประตูมองคนตัวเล็กกำลังหัวเราะคิกคักอยู่กับแบคฮยอนที่ไร้ซึ่งสติสตัง

              “อ่ะ อ่าหรอ ชะ เชิญเลย...ฉันหมายถึง เอ่อ...ตามสบาย แหะๆ” คยองซูพูดตะกุกตะกักก่อนจะยิ้มแหยๆแล้วผายมือไปทางห้องน้ำ เฉินเห็นดังนั้นก็ยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียวก่อนจะเดินผ่านคยองซูเพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่ระหว่างที่เฉินเดินผ่านคนตัวเล็กได้แอบกระซิบเบาๆที่กกหูขวา เล่นเอาคนตัวเล็กนี้เขินไปทั้งตัว

              “ชอบเขาก็บอกตอนเขาตื่นสิ...ไม่ใช่มาบอกตอนที่เขาหลับน่ะ”

              ไอ้บร้า ไม่ใช่อย่างนั้นนะ!

     

     

              ปวดฉี่

              ในที่สุดก็ถึงพาร์ทของจงแดสุดหล่อ ผมนี้เฝ้ารอมานาน (หรา)

              ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ เที่ยงคืนจะตีหนึ่งแล้ว แต่กระผมผู้นี้กลับตื่นขึ้นมาเพียงเพราะปวดฉี่

              ผมลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะเหวี่ยงผ้าห่อมออกให้พ้นจากตัวเอง ตอนแรกผมว่าจะไปนอนเบียดไอ้ชานมันนะว่าไอ้เชี่ยเตี้ยคยองซูมันนอนหลับอุตุครองโซฟาสุดที่รักของผมไปแล้ว แต่ไอ้เหี้ยแบคบอกว่าถ้าคยองซูนอนอยู่ข้างนอกอาจจะเป็นอันตรายเพราะกลัวพวกผมทำมิดีมิร้าย

              แหม...เตี้ยแบคแม่งจริงจัง แม่งมันรีบมาอุ้มคยองซูให้ไปนอนในห้องทันทีเลย ไอ้ยอลแม่งก็ชอบแหย่มัน บอกอิแบคไปว่า ถ้ามึงเอาคยองเข้าห้องแล้วคืนนี้กูจะนอนกอดใคร เอาซะอิแบคเกือบประเคนบาทาสวยๆของมันกลางหน้าอิหยอย

              ท่าทางว่าคนนนี้จะหวงจริง

              ร่างโปร่งของจงแดเดินมาทางห้องนอนของแบคฮยอน ก็ห้องที่แบคฮยอนมันเช่าเอาไว้นะ ห้องน้ำมันอยู่ในห้องนอน คงต้องเข้าไปรบกวนสักหน่อยแล้ว หวังว่าเข้าไปคงจะไม่เจออะไรที่มันอุจาดตาหรอกนะ- -

              ร่างโปร่งเปิดประตูออกเบาๆเพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนคนข้างในห้อง ประตูค่อยๆแง้มออกเผยให้เห็นร่างโปร่งที่นอนอยู่ข้างล่างแทนที่จะเป็นบนเตียง ข้างๆก็มีร่างเล็กๆของคยองซูนั่งตุปุ๊อยู่ข้างๆ ตอนแรกนี้ตกใจจนเยี่ยวแทบเล็ด แต่พอเห็นว่าทั้งคู่ไม่รู้ตัวก็ขอแอบดูหน่อยนิดนึง

              “ทำไมนายดูดีจังอ่า ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆยังเห็นว่านายหล่อ แล้วก็น่ารักมากๆเลย น่าอิจฉาจัง” คยองซูพูดพร้อมกับเกลี่ยนิ้วสั้นๆบนแก้มของแบคฮยอน จงแดที่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นก็ได้แต่อมยิ้มให้กับความน่ารักของคยองซูที่บ่นงุ้งิ้งกับคนที่ไม่ได้สติ

              แบบนี้อิแบคมันจะไปได้ยินได้ยังไงกันล่ะ

              ทำไมคู่นี้แม่งน่ารักจังโวยยย อิจฉา กูยังไม่มีแฟนเลยยย

              “งือออ อย่ากวนนน โคนจานอนนน งึมๆ” คยองซูที่ดูจะสนุกกับการแกล้งคนนอนหลับก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ จงแดที่มองดูการกระทำทั้งหมดก็รู้สึกหมั่นไส้ รักเขาก็บอก~ แกล้งเขาอยู่ด้ายยย~

              “อะแฮ่มๆ” แกล้งกระแอ่มขึ้นขัดจังหวะคนตัวเล็กที่กำลังดูสนุกสนานกับการกวนร่างโปร่ง คยองซูรีบหันมามองเขาทันที ตากลมโตขยายออกอย่างตกใจก่อนจะรีบถอยตัวออกห่างจากแบคฮยอน แล้วทำหน้าลุกลี้ลุกลนพยายามจะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น

              ไม่ทันแล้วนายจ้า~ ข้ารับรู้หมดแล้ว~

              “ฉันแค่จะมาเข้าห้องน้ำ” เฉินทำเสียงนิ่งทำตัวเป็นปกติ เพื่อเพื่อนตัวเล็กจะได้คิดว่าเขาไม่รับรู้หรือเห็นอะไรบ้าง เดี๋ยวจะเขิน

    “อ่ะ อ่าหรอ ชะ เชิญเลย...ฉันหมายถึง เอ่อ...ตามสบาย แหะๆ” คยองซูพูดตะกุกตะกักจนเขาหลุดขำออกมา ก่อนจะเดินผ่านคนตัวเล็กที่ยืนผายมือเผยทางให้เขาไปห้องน้ำ คนตัวเล็กยิ้มแหยๆดูหน้าแกล้งมากๆ อดไม่ได้ที่จะทิ้งลูกระเบิดตู้มใหญ่ๆไว้ให้เขินเล่นๆ

              “ชอบเขาก็บอก...ไม่ใช่มาบอกตอนที่เขาหลับนะ”

              พูดจบก็เดินฉิ่วเข้าห้องน้ำไปทันที แต่ก็ไม่วายแอบส่องๆดูปฏิกิริยาตอบรับจากคนตัวเล็ก ดวงหน้าอ้วนกลมแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ในที่แสงส่องไม่ถึงก็ตาม ร่างเล็กบิดไปมาเล็กน้อย ปากอิ่มก็คว่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาเฉินถึงกับอมยิ้ม

              มิน่าล่ะ ทำไมชานยอลมันถึงชอบแกล้งคยองซูขนาดนี้

              ร่างเล็กพึมพำเบาๆก่อนจะเดินไปที่เตียงแล้วกระโจนลงไปนอนอย่างแรงจนแบคฮยอนส่งเสียงงัวเงีย ร่างเล็กรีบยกหัวขึ้นมามองคนข้างล่างก่อนจะถอนหายใจโล่งอกเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้ทำให้แบคฮยอนตื่น ปากอิ่มยกยิ้มขึ้นอย่างสบายใจก่อนจะขยับปากเล็กน้อยแต่ว่าเขาอ่านไม่ออก จากนั้นก็พลิกตัวกลับไปนอนโดยไม่ลืมโบกมือบ๊ายบายให้คนที่หลับไม่ได้สติ

              ฮ่าๆๆ คยองซูนี้น่ารักจัง

         
















































    UPDATE 10%     

     

    นอนไม่หลับ

              หลังจากที่เฉินออกไปจากห้องแล้ว คยองซูที่เก๊กฟอร์มว่าหลับไปแล้วลุกขึ้นมานั่งตาแป๋วมองไปที่นั่นที่นี้... คือเขานอนไม่หลาบบบบบ!

              เพราะเฉินนั้นแหละ...

              พูดแล้วแม่งขึ้น!

              ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ทำซ้ำไปซ้ำมานับไม่ถ้วน ในหัวก็เอาแต่คิดเรื่องแบคฮยอน

              ชอบเขาก็บอกตอนเขาตื่นสิ...ไม่ใช่มาบอกตอนที่เขาหลับน่ะ

              อะไรที่ทำให้เฉินคิดว่าเขาชอบแบคฮยอนกัน เขายังไม่ได้พูดคำว่าชอบไปเลยนะ บ้าป่าว

              ‘ทำไมนายดูดีจังอ่า ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆยังเห็นว่านายหล่อ แล้วก็น่ารักมากๆเลย น่าอิจฉาจัง

              แล้วที่เขาบ่นก็ไม่มีอันไหนบอกว่าชอบแบคฮยอนเลยนะ...

              ‘ทำไมนายดูดีจังอ่า….’

              !!!

              ‘...ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้ชายแท้ๆยังเห็นว่านายหล่อ…’

              หละ...หล่อ =///=

              ‘แล้วก็น่ารักมากๆเลย…’

              ‘แล้วก็น่ารักมากๆ...

              ‘แล้วก็น่ารัก...

              โงยยยยยยย

              เสียงพูดของคยองซูมันยังคงดังก้องอยู่ในหัว ยังกับจะค่อยซ้ำย้ำเตือนให้ตนรู้ว่าพูดอะไรออกไป

              นี้เขาพูดอารายออกปายยยย

              เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ งือๆ

              คยองซูล้มตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้งก่อนจะเงยหน้าไปดูนาฬิกาบนโต๊ะหัวเตียงที่เขาเคยปัดมันตกเมื่อตอนกลางวัน...

    คยองซู! คยองซูเจ็บตรงไหนหรือป่าว เป็นอะไรไหม

    เหมือนกับว่าภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันจะค่อยๆทลักไหลเข้าสู่ความทรงจำของร่างเล็กอีกครั้ง คนตัวเล็กชะงักไปเล็กน้อยเพราะเมื่อเขามองไปที่ไหนหรือนึกถึงอะไรมันก็จะฉายภาพเหตุการณ์ที่คิดเกิดขึ้นอย่างกับวนลูป คยองซูหลับตาลง ความทรงจำมากมายของเขาก็มีแต่...

    แบคฮยอน

    มึงจะให้กูไปได้ไง มีหมีป่วยนอนอยู่ในห้อง...กูทิ้งไม่ลง

    .

    .

    .

    .

    อ้อหรอ แล้วนี้หิวหรือป่าว

    .

    .

    .

    .

    ไม่ได้นะเตี้ย ไม่หิวก็ต้องกิน ป่ะ ไปกินข้าว เดี๋ยวกูทำข้าวต้มให้กิน

    .

    .

    .

    .

    ไหวไหม

    .

    .

    .

    .

    ก็จะพาคยองซูไปกินข้าวไงครับ

    .

    .

    .

    .

    เป็นลมขึ้นมาทำไง อย่าอวดเก่งไปหน่อยเลยน่าา

    .

    .

    .

    .

    เลิกดื้อได้แล้วนะครับ

    .

    .

    .

    .

              “งือ หนาว หนาว...”

              คยองซูลืมตาโพล่งขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย คนตัวเล็กกระเด้งตัวขึ้นก่อนจะลุกไปหาแบคฮยอนที่ส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ

              “หนาว...หนาว” น้ำเสียงที่แหบพร่าและใบหน้าที่ดูซีดเซียวทำให้คยองซูเริ่มไม่สบายใจ มือป้อมยกขึ้นมาทาบกับหน้าผากของแบคฮยอนก่อนจะชักออกอย่างรวดเร็ว

              ทำไมตัวร้อนงี้ล่ะ...

              คยองซูแตะไปตามร่างกายของแบคฮยอนเพื่อเช็คอุณหภูมิ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น ก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหยิบผ้าชุบน้ำและกะละมัง

              แบคฮยอนไม่สบาย

              เป็นเพราะเขาหรือป่าวนะ...

              ร่างเล็กวิ่งกลับมาพร้อมกับกะละมังใบเดิมกับผ้าผืนเล็กสีสดใส วางกะละมังไว้บนหัวเตียงก่อนจะเข้าสะกิดร่างโปร่งให้ลุกขึ้นไปนอนบนเตียง

              “นี้ๆ แบคฮยอน”

              “....”

              “ไปนอนข้างบนดีกว่านะ จะเช็ดตัวให้”

              “....”

              แบคฮยอนหลับสนิทและนิ่งเกินไปจนคยองซูใจหาย คนตัวเล็กรีบพลิกร่างแบคฮยอนให้หงายขึ้นก่อนจะเอาหูไปแนบบนหน้าอกของร่างโปร่ง

              ยังไม่ตายใช่ม้า?

              ตึกตัก ตึกตัก

              เสียงหัวใจเต้นของแบคฮยอนยังคงเป็นปกติ ร่างเล็กแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหัวเราะตัวเองเบาๆที่คิดอะไรบ้าๆ

              คยองซูทั้งสะกิดและเขย่าแต่ร่างโปร่งก็ไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมา จะมีก็แค่อู้อี้ในลำคอแล้วก็บ่นว่าหนาวๆ

              คนตัวเล็กตัดสินใจพยายามพยุงร่างของแบคฮยอนขึ้นไปบนเตียง แม้มันจะยากลำบากเพราะขนาดและน้ำหนักตัวของแบคฮยอนนั้นเยอะกว่าที่เขาคิด แต่เขาก็เต็มใจ

              “เฮ้อ~ ตัวหนักชะมัด” คยองซูบ่นอุ้บอิ้บหลังจากที่พยุงร่างโปร่งให้ขึ้นมานอนบนเตียงได้แล้ว มือป้อมพยายามแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบที่แบคฮยอนชอบใส่ออก ร่างโปร่งมีขัดขืนเล็กน้อย แต่เขาก็สามารถถอดเสื้อออกจนได้

              เขารู้สึกดีที่ไม่ได้เปิดไฟ เพราะแค่แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาและกระทบเข้ากับแผงอกเปลือยเปล่าของแบคฮยอนในตอนนี้ มันทำให้เขารู้สึกหน้าออกร้อนยังกับจะเป็นไข้อีกครั้ง คยองซูมือสั่นทันที สติที่คิดว่าอยู่ครบถ้วนเริ่มแตกกระเจิง

              แบคฮยอนไม่สบาย... แบคฮยอนไม่สบาย... แบคฮยอนไม่สบาย...

              ฮึบ!

              คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเริ่มนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดไปมาบนเนื้อตัวของแบคฮยอนเพื่อลดอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นขัดกับบรรยากาศที่เริ่มเย็นลงเพราะเป็นปลายเดือนธันวา

              วันนี้ก็วันที่ 31 แล้วสินะ...

              คนตัวเล็กเช็ดตัวไปเรื่อยๆ ก่อนจะนำเสื้อไหมพรมที่คิดว่าคงจะอุ่นกว่าเสื้อเชิ้ตมาสวมให้แบคฮยอน ร่างโปร่งก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

              หลังจากที่เช็ดตัวเสร็จแล้ว คนตัวเล็กก็ลองทาบมือป้อมลงบนหน้าผากเนียนของแบคฮยอน

              ตัวยังร้อนอยู่เลยแหะ

              คยองซูคิดว่าคงต้องไปซื้อแผ่นเจลลดไข้มาให้แบคฮยอนแล้วล่ะ ปล่อยไว้แบบนี้ไข้อาจจะไม่ลดง่ายๆ ยาลดไข้ก็หมดแล้ว...  สายตากลมโตปรายไปมองที่นาฬิกาเรือนเดิมบนหัวเตียง

    03.25 am.

              เซเว่นข้างล่างคงเปิดนะ

              คยองซูเดินไปหยิบเสื้อโค้ตของแบคฮยอนมาใส่เพื่อปกปิดความหนาวเย็นที่ตนต้องไปเผชิญ คยองซูเดินกลับมาหาแบคฮยอนก่อนจะลูบผมนุ่มๆสีอ่อนของแบคฮยอนอย่างที่แบคฮยอนชอบทำกับเขา

              “หนาว...ปวดหัว” ร่างโปร่งละเมอออกมาเพราะพิษไข้ คยองซูเห็นดังนั้นจึงต้องรีบเร่งตนเองให้ลงไปซื้อของที่ข้างล่างได้แล้ว

              ร่างเล็กเดินไปหยิบกระเป๋าเงินใบเล็กของตนแล้วตั้งท่าจะออกจากห้องไป แต่ก็ต้องเลี้ยวกลับเข้ามาอีกทีก่อน ร่างเล็กเดินไปหาร่างเล็กที่นอนหลับอย่างทรมานเพราะพิษไข้ ริมฝีปากอิ่มแตะลงบนหน้าผากเนียนเบาๆ เป็นเหมือนกับคำอวยพร

              “หายปวดหัวไวๆนะ แบคฮยอน”

             

     

     

              ท่ามกลางแม่นชั่นที่แสนเงียบสงบเพราะยังอยู่ในยามราตรี ร่างเล็กก้าวฉับๆออกมาจากลิฟต์ทันที่ประตูเปิดออก มือป้อมทั้งสองข้างขดอยู่ในกระเป๋าของเสื้อโค้ตตัวใหญ่ของแบคฮยอน ปากอิ่มก็เอาแต่พ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อยเพื่อคลายความหนาว

              ทำไมอากาศมันหนาวขนาดนี้!

              คนตัวเล็กรีบเดินไปที่เซเว่นอย่างเร่งรีบ ไม่ใช่เพราะอากาศที่หนาวเย็นแต่เพราะมีคนป่วยที่นอนทรมานอยู่ข้างบนห้องต่างหาก...

    มึงจะให้กูไปได้ไง มีหมีป่วยนอนอยู่ในห้อง...กูทิ้งไม่ลง

    ตอนนี้เขาเข้าใจคำๆนี้ของแบคฮยอนแล้วล่ะ

    .

    .

    .

    .

     

    ยาแก้ไข้สองแผงและแผ่นเจลลดไข้สองห่อถูกวางลงบนเคาน์เตอร์แคชเชียร์โดยฝีมือของคนตัวเล็ก  พนักงานแคชเชียร์หยิบนู่นหยิบนี้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเอ่ยถามกับร่างเล็กที่กำลังเตรียมควักเงินจากกระเป๋าเงินใบเล็ก

    “ใครไม่สบายหรอฮะ แฟนอ่อ??” พนักงานแคชเชียร์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับลูกค้าตัวเล็ก คยองซูชะงักค้างไปเล็กน้อยกับคำถามที่แสนอยากรู้(อยากเห็น)ของคนตรงหน้า ใบหน้าเล็กส่ายน้อยๆก่อนจะยื่นใบธนบัตรเงินสุกลวอนให้พนักงานแคชเชียร์

    ฝ่ายคนถามก็แอบถอนหายใจเล็กน้อย เขาอุตส่าห์เปิดประเด็นชวนคุยแล้วทำไมผู้ชายคนนี้ไม่เล่นกับเขาเลยอ่ะ คนแมนเซ็งเบย..

    “แล้วใครหรอฮะ” คยองซูที่เอื้อมมือมารับเงินทอนหยุดชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพนักงานแคชเชียร์มี่ยังไม่ยอมแพ้ ดวงตาเรียวสวยดูประกายจนตัวเขาอดไม่ได้ที่จะแอบอิจฉา คนตัวเล็กส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะรีบหยิบเงินทอนและถุงใส่ยาลดไข้กับแผ่นเจล

    “เพื่อนนะ...” แต่ก็ไม่ลืมตอบคำถามที่อีกคนดูกระตือรือร้นที่อยากจะรู้มากๆ คนตรงหน้ายิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อลูกค้าคนแรกของเช้าวันใหม่ยอมคุยกับเขาแล้ว แอบดีใจนะเนี่ย

    “แต่ท่าทางของคุณดูจะห่วงเขามากเลยนะฮะ...เพื่อนแน่หรอ” บ้างครั้ง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป คำพูดที่เขาคิดไว้ในใจ ไหงมันถึงดังออกมาจนคนตัวเล็กหันมามองเขาตาขวาง

    ชักจะมากไปแล้วนะนาย...

    “เอ่อ...ขอโทษนะฮะที่ผมพูดมากเกินไป ก็คุณดูเป็นห่วงเขามากจริงๆ เล่นลงมาซื้อยาให้เขาทั้งๆที่ยังไม่เช้าเลย” ลู่หานพูดขึ้นพร้อมกับก้มหัวให้คยองซู ก่อนจะกลับไปพูดพึมพำอยู่คนเดียว แต่คยองซูกลับได้ยินด้วยนี้สิ

    “ผมว่าต้องเป็นคนที่พิเศษมากๆเลยใช่มั้ยครับ” ลู่หานเดินออกมาจากเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ลู่หานเดินตรงมาหาร่างเล็กที่ยืนกอดถุงยาลดไข้อยู่

    คนตัวเล็กมองร่างโปร่งที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าเขา แววตาที่ดูเหมือนกวางน้อยที่ค่อยส่องประกายสดใสเปลี่ยนไปเป็นแววตาที่ดูเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึกแต่กลับดูอบอุ่นจนน่าแปลกประหลาดใจ

    คยองซูยืนมองคนตรงหน้านิ่ง ร่างกายแข็งทื่อเมื่อร่างโปร่งตรงหน้ายกมือบางของตนขึ้นมาก่อนจะวางเบาๆบนหัวทุย ลู่หานหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อคนตัวเล็กตรงหน้าของเขากำลังหลับตาปี๋ด้วยความหวาดหวั่น กลัวว่าเขาจะทำอันตราย

    “ฮ่าๆๆ นายนี้น่ารักจังนะ” ประโยคคำพูดที่เอ่ยขึ้นอย่างสนิทสนมทำให้คยองซูรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ต้องหน้าหมุ่ยลงเมื่อมือบางเอาแต่หยีผมเขาไปมา

    เพรี๊ยะ!

    “โอ๊ยย! ใช้ความรุนแรงอ่ะ” ลู่หานโอดครวญ แสร้งทำเหมือนกับคยองซูกำลังกระทืบเขาแรงๆ คยองซูย่นจมูกก่อนจะฟาดมือป้อมลงบนมือบางที่หยีหัวเขาเล่นอย่างสนุกสนาน

    “หยุดหยีหัวเลยนะไอ้บ้า เดี๋ยวปั๊ด!” คยองซูพูดเล่นต่ำเอาซะลู่หานสะดุ้งโหยง ไม่ได้สะดุ้งเพราะกลัว แต่สะดุ้งเพราะประชดกับท่าทีเหมือนแมวของคยองซูต่างหาก

    ขนาดขู่ยังน่ารักเล่นแหะ

    “ฮ่าๆๆ กลัวจัง”

    “นายนี้!

    “ฮ่าๆ” ลู่หานขำพรืดกับท่าทางอารมณ์เสียของคนตัวเล็กตรงหน้า ส่วนคยางซูก็ได้แต่หมุ่ยหน้าเพราะความไม่พอใจ เขาไม่ใช่ตลกคาเฟ่นะ! หัวเราะอยู่ได้!

    “นี้...ลงมานานแบบนี้ ถ้าเขาตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นนายเนี่ย อาจจะแย่น่า” ลู่หานเช็ดน้ำตาที่เล็ดออกมาออกจากเรียวตาสวย ก่อนจะเอ่ยเบาๆกับคนตัวเล็ก คยองซูได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างก่อนจะวิ่งออกจากเซเว่นไป ทิ้งไว้แค่ลู่หานที่ยังคงโบกมือหยอยๆ

    “ดูแลเขาดีๆน่า!!” ร่างโปร่งตะโกนบอกกับร่างเล็กเป็นครั้งสุดท้าย คยองซูหันกลับมาก่อนจะยิ้มกว้างเป็นการตอบรับ รูปหัวใจเผยออกให้ดวงตาเป็นประกายได้เห็นอย่างชัดเจน...

    น่ารักอีกแล้ว~

     

     

              ปวดหัว~

              แบคฮยอนปรือดวงตาที่แสนหนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับโฟกัส ดวงตาเรียวเหล่มองไปรอบๆ จากนั้นก็พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง

    หลังจากที่พอมองเห็นสิ่งของต่างๆในความมืดแล้ว เขาก็ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงมานอนอยู่บนเตียงกับ...

              เฮ้ย!! คยองซูหายไป!!

              แบคฮยอนตื่นเต็มตาทันทีเมื่อหาคนตัวเล็กของเขาไม่เจอ คนตัวสูงรีบกระเด้งตัวออกจากเตียง แล้วเดินตามหาคยองซูรอบๆห้องนอน และในห้องน้ำกลับไร้ซึ่งวี่แวว...

              “คยอง...” แบคฮยอนรู้สึกร้อนใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างโปร่งรีบเดินออกจากห้องด้วยความร้อนรุ่ม เดินไปกระชากคอเสื้อเพื่อนตัวสูงที่นอนหลับสบายๆอยู่บนฟูกนุ่มๆ

              “ชานยอล! มึง! ตื่น!!” แบคฮยอนตะโกนออกมาอย่างกับคนบ้า ชานยอลที่โดนรบกวนเวลานอนก็ลืมตาขึ้นมาอย่างขัดใจน้อยๆ ปากบางกำลังจะเอ่ยด่าเพื่อนตัวเตี้ยที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลา แต่สายตาที่แสนสับสนและกระวนกระวายของแบคฮยอนทำให้เขาเลือกที่จะเงียบ

              เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ..

              “เชี่ยแบค...มึงมีอะไรว่ะ หาววว” จงแดที่โดนเสียงตะโกนของร่างโปร่งปลุกขึ้นมา เอ่ยถามอย่างงัวเงีย แบคฮยอนปล่อยมือที่กระชากคอเสื้อของชานยอลออก ก่อนจะยกมันขึ้นมาทึ้งหัวตัวเองแรงๆ

              “คยอง...หายไปว่ะ”

              “ว่าไงนะ!!” ทั้งคู่ประสานเสียงขึ้นพร้อมกันก่อนจะลุกขึ้นมาถามรายละเอียดกับเพื่อนตัวเตี้ยทันที แบคฮยอนก็ได้แต่ปฏิเสธว่าไม่รู้อะไรทั้งนั้น เขาตื่นขึ้นมาคยองซูก็หายไปแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าไปไหน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น....

              โถ่เว้ย!!!

              “ใจเย็นๆน่ามึง คยองซูอาจจะแค่ลงไปหาอะไรกินก็ได้” เฉินผู้ที่มีสติที่สุดในบรรดาแก๊งค์พูดขึ้นเพื่อให้เพื่อความสบายใจ แต่ไฉนกลับไม่เป็นเช่นนั้น

              “แล้วถ้ามันไม่ใช่ล่ะมึง...ถ้าเกิด ถ้าเกิดว่าคยองโดนลักพาตัวแล้วอุ้มไปข่มขืนขึ้นมาทำไงว่ะสั.ส!... เชี่.ยย  อย่าตีกู!” ชานยอลบุคคลที่ดูจะสติแตกที่สุดร้องเสียงหลงเมื่อจงแดยกมือขึ้นมาตบกระบาลหนาๆของเขาเต็มแรง

              “มึงพูดอะไรของมึง! เดี๋ยวอิแบคแม่งก็เตลิด” เฉินเอ่ยเสียงดุ ก่อนจะปรายตาไปมองเพื่อนสนิทที่เริ่มคิดหนักคิดทุกที

              “มึง...ถ้ามันเป็นอย่างที่ชานยอลพูดล่ะ” แบคฮยอนเอ่ยเสียงหวั่น

              นั่นไง...แม่งเอ๊ย!

              “พวกเตี้ย มึงใจเย็นๆก่อนนะเว้ย คยองซูนาจจะแค่หิวแล้วลงไปเซเว่นข้างล่างก็ได้นะ” เฉินพูดอีกครั้งเพื่อให้เพื่อนของพวกเขามีสติ แม้มันจะไม่ได้ผลก็ตาม - -

              “แล้วถ้า... อีเด็กพนักงานเซเว่นมันจับคยองซูข่มขืนล่ะ!

              อีเหี้.ยชานยอลลลลล

              จงแดได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจคนเดียว มือบางยกขึ้นมากุมขมับพลางนวดๆไปมาอย่างใช้ความคิด แม่งกูละปวดหัวกับมึง! สั.ส นี้พวกมึงช่วยคิดในแง่ดีหน่อยได้มั้ย!

              “กูจะไปตามหาคยอง!!” แบคฮยอน

              “กูไปด้วย!!” ชานยอล

              “เฮ้ย! พวกมึง...” เฉินที่กำลังจะเอ่ยท้วงเพื่อนทั้งสองให้ใจเย็นๆ แต่ก็มีเสียงเปิดประตูเบาๆขึ้นที่หน้าห้อง ทั้งสามคนมองหน้ากันก่อนที่แบคฮยอนจะวิ่งออกไปดู

              “คยองซู!!!

              “อ้าว!...แบค เฮ้ย! แบค” คนตัวเล็กที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ก็โดนร่างโปร่งวิ่งเข้ามากอดแน่นซะจนหายใจไม่ออก ร่างโปร่งเมื่อรู้ว่าเป็นคนตัวเล็กที่เปิดประตูเข้ามาก็รู้สึกดีใจและโล่งใจ วิ่งเข้าไปกอดอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ แบคฮยอนรัดร่างคยองซูแน่นขึ้นเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะหายไปอีก...

              “นายไปไหนมาอ่ะ...รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแทบแย่เลย” เสียงอ่อนๆของแบคฮยอนดังขึ้นขณะที่เขากำลังกอดคนตัวเล็กแน่น คยองซูได้แต่ทำหน้าเสีย เขาไม่คิดว่าแบคฮยอนจะตื่นขึ้นมาก่อนที่เขาจะกลับมาถึง...

              “พอดีไปซื้อยาอ่ะ นายตัวร้อนมากแล้วยาก็หมดแล้ว เลยลงไป...”

              “คยองซะ...อื้อๆ!” ชานยอลที่โผล่หน้าออกมามองร่างเล็กที่กอดกันแน่น ก่อนจะร้องเรียกคนตัวเล็กด้วยความดีใจแต่ก็โดนเพื่อนตัวเตี้ยอีกคนปิดปากเอาไว้ พร้อมกับลากเข้าไปข้างในตามเดิม

              คยองซูก็ได้แค่ยิ้มให้แหยๆ

              “เด็กบ้า...” แบคฮยอนพูดเสียงเบา ก่อนจะซุกหน้าของตนเข้าที่ไหล่แคบของคนตัวเล็ก คยองซูยกมือขึ้นมากอดตอบก่อนจะเอ่ยขอโทษที่ทำให้ต้องเป็นห่วง

              “โอ๋ๆ อย่าโกรธเค้าเลยน่า~ เค้าไม่ได้ตั้งใจ เห็นว่านายไม่สบายก็เลย...”

              “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ” แบคฮยอนพูดขัดคนตัวเล็ก พร้อมกับอ้อมกอดที่เริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ คนตัวเล็กยิ้มออกบางๆ หว่า...ทำให้คนแถวนี้โกรธหรือป่าวนะ

              “โกรธหรอที่หายตัวไปงี้อ่ะ”

              “ป่าวโกรธ...แต่ห่วงต่างหาก ห่วงมากด้วย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับผละคนตัวเล็กออกจาอ้อมอก มือเรียวจับไหล่แคบไว้พร้อมกับยิ้มบางๆเมื่อเห็นริ้วแดงๆขึ้นบริเวณแก้มกลมและเริ่มลามไปทั้งใบหน้าหวาน

              “ขะ...ขอโทษแล้วกัน” คยองซูพูดตะกุกตะกัก ก่อนจะโดนแบคฮยอนดึงเข้าไปกอดอีกครั้งนึง ใบหน้าเรียวซบลงที่ไหล่เล็กพร้อมกับเอ่ยออกมาเบาๆ แต่คนตัวเล็กนั้นได้ยินชัดแจ๋ว

              “อย่าหายไปอีกนะ ขอร้องล่ะ”

              หว่า~ ทำไมคนแถวนี้ชอบทำให้เขินนะ -///-

     

     

     

             

              “ทำไมนายไม่บอกพวกเราเลยล่ะ เป็นห่วงแทบแย่” ชานยอลพูดพลางถูหน้าของตนกับมือป้อมอย่างออดอ้อน คยองซูได้แต่ยิ้มเจื่อนๆอย่างรู้สึกผิด ชานยอลทำเสียงงุ้งงิ้งไปมาจนน่าหมั่นไส้อดไม่ได้ที่แบคฮยอนจะประเคนมือเรียวๆลงบนหัวทุย

              หมั่นไส้! แม่งอ้อนคยองอยู่ได้!!

              “อี้เตี้ยยย ทำไมมึงชอบทำร้ายร่างกายกูจังว่ะ กูคนนะเว้ย ไม่ใช่กระสอบทราย...” ชานยอลบ่นไปมาพลางลูบหัวของตัวเองป้อยๆ แบคฮยอนเห็นท่าทีประชดประชันของเพื่อนตัวสูงก็อดไม่ได้ที่จะง้างมือขึ้นเหนือหัวร่างสูงอีกครั้ง มันน่านัก!

              “ว่อยๆๆ อย่าเชียวนะมึง! คยองช่วยชยอลด้วยยย” ชานยอลกระเถิบตัวหนีจากรัศมีการทุบตีของแบคฮยอน คนตัวสูงเลือกที่จะไปหลบหลังคนตัวเล็กพลางกอดเอาไว้หลวมๆ

              คยองซูที่นั่งมองทั้งคู่ทะเลาะกันก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย เมื่อชานยอลกอดช้อนหลังเขาไว้เพื่อหลบฝ่ามือของแบคฮยอนทำให้หน้าเล็กเหวอขึ้นอย่างตกใจทันที

              “ฮือๆ แบคฮยอนชอบรังแกชยอล” ชานยอลพูดพร้อมกับเอาคางของตนมาเกยไว้ที่ไหล่แคบ แต่ไม่ลืมที่จะทำหน้าง่อยไปด้วย แต่จริงๆในใจโคตรฟิน

              ตัวคยองนุ๊มนุ่ม! หอมด้วย

              “เชี่ยชาน! เอาคยองมาน่า~” แบคฮยอนที่ทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ได้ก็โวยวาย พุ่งเข้าไปแย่งร่างเล็กในอ้อมกอดของชานยอลมาแล้วกอดเอาไว้แทน แบคฮยอนจัดให้คยองซูซบอยู่ที่อกของเขา ส่วนตนก็กอดไว้แน่นเหมือนเด็กห่วงของ - -

              “มึงไม่มีสิทธิ์มากอดคยองแบบนั้นนะสั.ส กูกอดได้คนเดียว!!” แบคฮยอนพูดโพล่งแสดงความเป็นเจ้าของ เอาซะเฉินที่นั่งเงียบมาตั้งนานร้องอุ๊ยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

    แหม... ออกตัวแรงเชียวนะมึง

    คนตัวเล็กเบิกตาโพล่งกับคำพูดที่ชวนใจเต้นแรงของแบคฮยอน ใบหน้าที่ซุกอยู่บนอกหนาของแบคฮยอนเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆเหมือนลูกมะเขือเทศที่สุกเต็มที่ ปากอิ่มเม้มเข้าหากันพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ คนตัวเล็กแปลกใจที่หัวใจของแบคฮยอนก็เต้นแรงเช่นเดียวกัน

    “สั.สแบค มึงมีสิทธิ์อะไรวะ มึงเป็นอะไรกับคยองซู” เพื่อนตัวสูงพลั่งปากออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำเอาคนร่างโปร่งหน้าชาไปนิด คำพูดของชานยอลก้องอยู่ในหัวของร่างโปร่ง แบคฮยอนจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดของตนออก นั่นสิ...เขาเป็นอะไรกับคยองซูกัน เพื่อน? เพื่อนสนิท? หรอ??

    “เชี่ยชาน! มึงแม่งเริ่มพูดมากอีกแล้ว มาช่วยกูเตรียมอาหารเช้าเลนสั.ส” จงแดที่เริ่มเห็นว่าบรรยากาศที่แสนอึดอัดกำลังก่อตัวจึงลากไอ้ตัวปัญหาหูกางออกมา ทิ้งไว้แค่สองเตี้ยตัวเล็กที่ไม่รู้ใจตัวเองสักที

    ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากทั้งคู่ ต่างคนต่างตกอยู่ในภวังค์ แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองคยองซู ดวงหน้าเล็กกำลังแสดงความรู้สึกสบสนอย่างเห็นได้ชัด คิ้วหนาขมวดเข้าหาจนไม่เหลือช่องว่าง ส่วนดวงตาโตก็กลอกกลิ้งวิ่งไปทั่วตาขาว แบคฮยอนอมยิ้มขึ้นมาเมื่อปากอิ่มเริ่มกัดเบาๆที่นิ้วชี้ป้อมสั้นของตน

    มือเรียวเอื้อมไปจับที่แก้มย้วยของคนตัวเล็ก คยองซูผงะไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร นิ้วเรียวลูบวนไปมาบนแก้มนิ่มที่เริ่มขึ้นริ้วแดงอย่างน่ารัก คยองซูพยายามหลบสายตาที่ดูหวานเยิ้มของแบคฮยอน แต่มือเรียวก็เสยคางขึ้น ทำให้ดวงตากลมโตเลื่อนไปปะทะกับสายตาเรียวอย่างห้ามไม่ได้

    แบคฮยอนยิ้มที่มุมปากจนคยองซูใจกระตุก ก่อนจะเต้นถี่รัวเมื่อใบหน้าเรียวตรงหน้าเริ่มเลื่อนมาใกล้หน้าของตน ดวงตาเรียวแสดงถึงความอบอุ่น ความอ่อนโยน และความต้องการ..

    คยองซูตัวแข็งทื่อ มือเรียวที่จับอยู่ที่คางมนก็บีบเบาๆพร้อมกับเลื่อนให้เข้าไปใกล้ใบหน้าเรียวของตนที่เคลื่อนเข้ามาอย่างช้าๆ ตากลมโตหลับลงอย่างเชื่องช้า...

    ทั้งคู่เคลื่อนตัวเข้าหากันเหมือนกับแม่เหล็กคนละขั้ว มือเรียวเอื้อมมาจับแก้มกลมของคยองซู ลมหายใจร้อนๆรดลงที่ริมฝีปากอิ่ม ทั้งคู่เหลือช่องว่างให้กันและกันไม่ถึงเซนติเมตร มันเป็นเหมือนกับเชือกเส้นเดียวแต่กลับปิดกั้นหัวใจของทั้งคู่ได้เหมือนกับกำแพงเหล็กหนา ซึ่งอีกไม่นานคงพังทลายลง..  

    ริมฝีปากบางแตะเบาๆที่ริมฝีปากอิ่มก่อนจะกดลงอย่างโหยหา แบคฮยอนละเมียดละไมชิมไปเรื่อยๆอย่างเชื่องช้า ปากอิ่มที่แสนนุ่มนิ่มเฉกเช่นเยลลี่สีหวานปลุกอารมณ์ร้อนในกายของร่างโปร่งได้เป็นอย่างดี มือเรียวคว้าเอวบางของคยองซูไว้ และเริ่มบดขยี้ริมฝีปากอิ่มด้วยความเพลิดเพลิน

     แบคฮยอนเริ่มบดขยี้ริมฝีปากอิ่มอย่างโหยหา รสจูบที่แสนเชื่องช้าแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงเมื่อแรงบดขยี้และการเคลื่อนตัวของปากบางบนปากอิ่มเพิ่มอัตราขึ้น มือป้อมของคยองซูยกขึ้นมาจับที่ไหล่หนาของแบคฮยอนก่อนจะกำแน่นพร้อมกับจิกนิ้วลงไปเพื่อระบายความสุขสมที่เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    “อื้อ” เสียงครางหวานในลำคอเพิ่มอารมณ์ดิบในกายของแบคฮยอนได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากบางผละออก เพื่อเว้นช่องว่างให้คนตัวเล็กได้หายใจ คยองซูอ้าปากกอบโกยออกซิเจนที่หายไปอย่างเร่งรีบ ร่างเล็กหอบตัวโยนอย่างน่าเอ็นดู แต่หอบได้ไม่นาน ปากบางก็กดลงบนปากอิ่มอีกครั้ง

    คยองซูที่เริ่มได้สติขึ้นมาหน่อยจึงทุบเบาๆที่หลังของแบคฮยอน... พวกเขากำลังทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะ หยุดได้แล้ว...

    แต่เชือกเส้นบางๆได้ขาดไปแล้ว...กำแพงเหล็กหนาก็พังทลายหายไปเพราะแบคฮยอน...

    แบคฮยอนแทรกลิ้นเรียวเข้ามาให้โพรงปากหวาน คยองซูลืมตาขึ้นโพล่งกับสิ่งแปลกปลอมในโพรงปากของเขา ลิ้นเรียวกวาดไปทั่วก่อนจะหยุดลงบนลิ้นของคยองซูที่พยายามหลบหลีกสัมผัสที่แสนวาบหวานของตน ลิ้นเรียวคลอเคลียไปทั่วลิ้นสีแดงฉานของคนตัวเล็ก ก่อนจะผละออกทำให้น้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาเป็นคราบที่มุมปากของทั้งคู่

    คยองซูเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็หันหน้าหนีและหายใจเข้าออกอย่างรุนแรง อากาศที่หายขาดช่วงไปเมื่อกี้มันทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น บวกกับสัมผัสที่แสนแปลกใหม่ของแบคฮยอนที่มอบให้เขามันยิ่งทำให้คนตัวเล็กเตลิดไปไกล รสจูบหวานๆยังคงทิ้งรสชาติจางๆจนเขาต้องยกมือป้อมขึ้นมาจับมันไว้

    แบคฮยอนอมยิ้มกับท่าทีของคยองซู คนตัวเล็กนั่งหันหลังให้กับเขาทันทีที่เป็นอิสระ คงเพราะกลัวจะถูกจูบอีกหรอบหรืออะไร แต่มันกลับทำให้เขาอมยิ้มอย่างมีความสุข สัมผัสหวานๆของปากอิ่มยังคงติดที่ปากบางของเขา แบคฮยอนเอื้อมมือมาแตะเบาๆที่ริมฝีปาก เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ

    “ครั้งแรกหรอ” คำถามที่แสนตรงไปตรงมาของแบคฮยอนทำให้คนตัวเล็กสะอึก คยองซูค่อยๆหันหน้ามาเผชิญกับแบคฮยอนอย่างเต็มรูปแบบ ปากอิ่มเม้มเข้าหากันทันทีที่นึกเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ แก้มย้วยขึ้นริ้วแดง

    “อืม” คำตอบง่ายๆ สั้นๆ ไม่ต้องขยายใจความอะไรมากมาย มันเป็นคำตอบที่ทำให้แบคฮยอนยิ้ม ริมฝีปากที่ไม่เคยแตะต้องผู้ใดมาก่อน ตอนนี้มันได้ถูกแบคฮยอนผู้นี้แสดงความเป็นเจ้าของแล้ว

    และจะเป็นตลอดไป

    “ละ แล้วนายล่ะ” คำถามที่แสนใสซื่อถูกเอ่ยมาจากร่างเล็ก คยองซูเผลอพูดสิ่งที่คิดออกไปอีกแล้ว... มันเป็นคำถามที่ไม่น่าจะถามออกไปเลย เพราะการกระทำทุกอย่างดูเชี่ยวชาญและชำนาญมากๆ ทำเอาคนตัวเล็กรู้สึกชอบและติดใจเข้าเต็มเปา

    แบคฮยอนยิ้มกว้างกับคำถามของคยองซู ร่างเล็กนั่งก้มหน้างุดพร้อมกับเม้มริมฝีปากอิ่ม มือเรียวกางออกก่อนจะโอบกอดร่างเล็กแน่นด้วยความหลงใหล

    ทำไมคยองซูน่ารักงี้ว่ะ

    “นายนี้น่ารักจังรู้ตัวหรือป่าว” แบคฮยอนก้มลงไปชิดหูขาวของคนตัวเล็ก เสียงนุ่มลื่นที่แสนขี้เล็กเอ่ยอย่างออดอ้อน คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตาแต่ก็ต้องก้มหลบต่อไปเพราะหัวใจเริ่มทำงานหนักขึ้นอย่างเต็มกำลัง

    หน้าพวกเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ .///.

    “ไม่ใช่ครั้งแรกอ่ะ เสียใจไหม?” แบคฮยอนพูดพร้อมกับทิ้งตัวลงบนตักของคนตัวเล็ก คยองซูตกใจกับการกระทำของแบคฮยอนเพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัวและใจเลยแม้แต่นาน ริมฝีปากบางยกยิ้มกว้างอย่างน่ารัก คยองซูเห็นดัวนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือสั้นป้อมไปหยิกเบาๆที่แก้มนวลของคนบนตัก

    มือเรียวเอื้อมมาจับมือป้อมเอาไว้พลางบีบเบาๆเพื่อส่งผ่านความรู้สึกของตน ก่อนจะประทับริมฝีปากเบาๆที่หลังมือ พร้อมกับเอ่ยความรู้ทั้งหมดทั้งมวลที่เขาประมวลออกมาเป็นคำว่า...

    “รักนะครับ”

    อร้อยยยยย >//< //ไรท์เอง!

    คยองซูอมยิ้มกับคำบอกรักของแบคฮยอน สายตากลมเคลื่อนหลบหนีสายตาเรียวที่พยายามไล่ต้อน แบคฮยอนยู่ปากลงเมื่อคนตัวเล็กไม่พูดอะไรออกมาหลังจากที่เขาพูดความในใจออกไปแล้ว

    “ไม่พูดอะไรหน่อยหรอ...” แบคฮยอนเอ่ยเสียงอ่อย มือเรียวยกขึ้นมาหยิกแก้มย้วยๆของคยองซูที่ขึ้นริ้วแดงเต็มไปหมด คยองซูเห็นดังนั้นเลยก้มหนาลงไปก่อนจะพูดเบาๆตอบไปว่า...

    “ก็รักเหมือนกัน...พอใจยัง”



    90%

     
























     

    เย้ๆๆ ในที่สุดก็มาต่อสักที
    ขอบอกว่ายังไม่จบ โฮกกกกก TWT
    ทำไมมันยาวอย่างเนี่ยยยยย
    จงรอต่อไป
    ฝันดีจ้าที่รัก 






     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×