ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO [baekdo] GIVE LOVE

    ลำดับตอนที่ #14 : : 12 :

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 155
      1
      28 มี.ค. 58

     

    12



              เฮ้อ~

              “ถอนหายใจทิ้งทำไมเนี่ย" น้ำเสียงทุ้มของเพื่อนตัวสูงไม่ได้ทำให้คยองซูที่นั่งหน้าหมุ่ยสนใจแม้แต่น้อย ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อวานเขาก็เริ่มรู้สึกหวาดระแวงไปหมด นี้ถอนหายใจจนอายุสั้นไปเป็นร้อยแล้ว

              “มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นทั้งๆที่ยังคงเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เซฮุนเห็นดังนั้นก็อดจะเป็นห่วงไม่ได้เพราะได้ข่าวจากพี่หมิน พี่ชายของคยองซูว่ามีขโมยขึ้นบ้านเมื่อวานนี้เอง

              “คิดมากน่า ไปแจ้งความแล้วก็ ลืมๆมันไปเถอะ” คนตัวสูงพูดพร้อมกับตบไหล่แคบๆเพื่อให้กำลังใจ คยองซูได้แค่เพียงยิ้มแหยๆส่งกลับมาก่อนจะเริ่มเหม่ออีกครั้ง

              “หยุดยิ้มแบบนี้ไปเลยนะ ป่ะ” เซฮุนพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะจับข้อมือเล็กและออกแรงให้คนร่างเล็กที่เอาแต่ทำหน้าบูดลุกขึ้นตามเขา

              “ไปไหนอ่ะ” คนตัวเล็กก้มมองนาฬิกาบนข้อมืออีกข้างก็เห็นว่าอีกสิบกว่านาทีก็จะเข้าเรียนแล้วเลยเอ่ยถามด้วยความสงสัยเต็มประดา

              “วันนี้โดดไปกินไอติมกันเถอะ”

     

     

    .
    .
    .
    .

     

     

     

     

     

              “เชิญทานให้อร่อยนะครับ” น้ำเสียงนุ่มที่คุ้นเคยของพนักงานหน้าหวานเจ้าของลักยิ้มบุ๋มลึกดังขึ้นพร้อมกับถ้วยไอศกรีมหน้าตาน่าทานที่ถูกวางลงตรงหน้าคยองซูและเซฮุน คนตัวเล็กกรอกตามองลอดผ่านเลนส์แว่นระหว่างไอติมกับเซฮุนก่อนจะมองไปที่พนักงานหน้าหวานที่เดินเลี่ยงไปทางเคาเตอร์หน้าร้าน

              “ทำไมถึงเลือกร้านนี้ล่ะ” คยองซูได้แต่นั่งทำหน้าสงสัยตั้งแต่เด็กชายเซฮุนผู้เรียนดีเป็นที่หนึ่งเอ่ยปากชวนเขาโดดเรียน ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับลูกคุณหนูอย่างร่างสูง แถมโดดทั้งทีโดดมากินไอติม แล้วมากินที่ร้านหน้าโรงเรียนด้วยนะ

     

              เจริญ- -

              “ก็เผื่อนายจะเจอกำลังใจ”

              “ห๊ะ?!”

     

              กริ๊งงง กริ๊งงง

              “ยินดีต้อนรับครับ” ยังไม่ทันที่คยองซูจะเข้าใจคำตอบของเซฮุน เสียงกระดิ่งที่ประตูทางเข้าก็ร้องเสียงดังก่อนจะตามด้วยคำทักทายประจำร้าน คยองซูก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นอย่างดีจึงหันหน้ากลมๆใส่แว่นหนาๆไปมอง

              !!!

              นั่นพวกสภานักเรียนนี้!

              “เซฮุน...” คยองซูเริ่มหันหลังชนกับพนักพิงอย่างแนบแน่นและทำตัวให้เล็กที่สุดเพื่อหลบสายตาคมๆของพวกสภานักเรียน แต่ก็ไม่ลืมจะส่งเสียง(เบาๆ)เรียกเพื่อนตัวสูงที่เอาแต่จัดการไอศกรีมตรงหน้าอย่างไม่สนใจใคร

              “เซฮุน...อาแป๊ะ!...” แม้จะเพิ่มระดับเสียงขึ้นแต่ก็ได้ยินแค่สองคน ร่างสูงเลิกสนใจของกินและหันมามองเพื่อนที่แทบจะรวมร่างกับเก้าอี้ด้วยความสงสัย

              “ไรอ่อ”

              “สภานักเรียนมา...”

              “ห๊ะ?” คยองซูทำปากขมุบขมิบและพูดเสียงเบามากถึงมากที่สุดจนร่างสูงฟังไม่รู้เรื่อง คยองซูเอามือตบหน้าผากก่อนจะเริ่มทำหน้าจริงจังและขยับปากเป็นคำพูดอีกครั้ง

              “สภานักเรียน...”

              “ห๊ะ!? ซักผ้าไว้เนียน”

              “ไม่ใช่! สภานักเรียนอ่ะ สภา” คยองซูโบกมือพันวันและเริ่มทำปากขมุบขมิบอีกครั้ง เซฮุนก็พยายามทำความเข้าใจแต่ก็ไม่ถูกสักนิด แล้วเพื่อนเขาจะกระซิบทำไมเนี่ย

              “สภานักเรียนมา...”

              “จับปลานกกระเรียนยา- -?”

              “ไม่ใช่! สภาอ่ะสภา”

              “มะลาอ่ะมะลา”

              - -*

              เอาตีนก่ายหน้าผากแปป

              ทั้งคู่พยายามสื่อสารกันอย่างเงียบๆเพื่อหลบสายตาเยี่ยวอินทรีย์ของกลุ่มสภานักเรียน คยองซูเคยได้ยินข่าวมาอยู่นะว่าพวกเขาจะชอบออกมาตรวจตราแถวร้านอาหารเพื่อหานักเรียนที่กระทำความผิดหรือโดดเรียนอย่างพวกเราตอนนี้- - และได้ยินมาอีกว่าบทลงโทษโหดมาก

              ทำไงดีล่ะพี่น้อง

              “หมาพาไปเวียน”

              “โอ๊ย...ไอ้ไม้เสียบผี ไอ้แห้ง ไอ้โง่”

              “เอ้า! นายด่าฉันทำไมอ่ะ” คยองซูที่เหลืออดกับการคาดเดาคำพูดของเซฮุนจึงพึมพำด่ากับตัวเองแต่เจ้าตัวกลับอ่านปากออกซะงั้น คงจะโกรธเหมือนกันเพราะสื่อสารไม่เข้าใจเลยเผลอส่งเสียงดังจนโต๊ะข้างๆหันมามอง แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือกลุ่มสภานักเรียนก็หันมาเช่นกัน หันมาไม่พอทำท่าชี้ๆมาทางพวกเขาด้วย

              “ซวยแล้ว...เซฮุนหนีกัน!” คยองซูเริ่มหยิบเงินขึ้นมาและวางไว้บนโต๊ะก่อนจะออกแรงดึงข้อมือเพื่อนตัวสูงและวิ่งออกจากร้าน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยคิดว่าจะได้วิ่งหนีสภานักเรียนแบบนี้เลยทำให้คยองซูดูเตลิดนิดหนึ่ง

              “เซฮุนรีบวิ่งดิ เดี๋ยวโดนจับได้หรอก เร็วๆๆ!” คนสวมแว่นรีบร้องสั่งเพื่อนก่อนที่ตัวเองจะวิ่งนำไปอีกทาง คยองซูคิดว่าจะลองวิ่งไปหลบที่ห้างข้างๆก่อนเพราะเขายังไม่อยากโดนบทลงโทษสุดโหดที่คนอื่นๆเขาลำ่ลือ ถ้าเกิดโดนจับได้และถูกสั่งให้ไปล้างโรงยิมงี้ คยองตายแน่ๆ

              “คยองรอด้วยดิ” เสียงของเพื่อนสนิทดังไล่หลังคนตัวเล็กที่วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต คนสวมแว่นหันไปมองก่อนจะตะโกนบอกเพื่อนเสียงดัง

              “แห้งก็รีบวิ่งดิแอ้ก!” ประโยคสนทนามาราธอนของคนสวมแว่นกับเพื่อนสนิทถูกหยุดลง เมื่อเจ้าร่างแว่นกรอบหน้าหันหลังกลับไปมองเพื่อนทำให้ตนชนเข้ากับอะไรสักอย่างจนล้มลงมานั่งก้มหน้าอยู่ที่พื้น

              “โอ๊ย...เจ็บอ่ะ”

              “ปะ...เป็นอะไรมากไหม?” น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้คนตัวเล็กนิ่งค้าง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นและสบเข้ากับดวงตาเรียวเล็ก

              รุ่นพี่แบคฮยอน...

              “เตี้ยเป็นอะไรไหม เห้ย! สภานักเรียน!!” เซฮุนที่วิ่งตามมาจนทันเห็นเพื่อนตัวเล็กลงไปนั่งจับกบบนพื้นก็ถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะที่สายตาจะเลื่อนไปเจอร่างโปร่งของใครอีกคน

              “สวัสดีครับน้องๆ^ ^”

    .
    .
    .
    .

     

     

     

     

     

              “เพราะนายคนเดียวทำให้ฉันต้องมาทำแบบนี้” เสียงบ่นอุบอิบดังลอดออกมาจากปากอวบอิ่มรูปหัวใจ คยองซูที่พันแขนเสื้อและพับขากางเกงกำลังฉีดน้ำลงบนพื้นลื่นๆของโรงยิม

                พวกเขาโดนพวกสภานักเรียนจับได้- -

              “ก็ใครจะรู้ว่าจะโดนจับได้กันเล่า” ร่างสูงอย่างเซฮุนก็กำลังขนอุปกรณ์ทำความสะอาดมาอย่างพะรุงพะรัง พวกเขาถูกพวกสภาสั่งให้ล้างโรงยิมเป็นการลงโทษ... ใช่แล้ว ล้าง โรงยิม

              “เพราะนายคนเดียว” คนตัวเล็กยังคงบ่นตัวไปก่อนจะเดินมาหาร่างสูงที่เริ่มลงมือขัดพื้นโรงยิมแล้ว มือป้อมกลมหยิบถุงมือขึ้นมาสวมก่อนจะเดินไปหยิบแปรงขัดพื้นมาถือไว้ด้วยใบหน้ายับยู่ยี่

              ตอนนี้เขาควรจะได้กลับบ้านและเตรียมตัวสำหรับการทัศนศึกษาวันมะรืนนี้- -

              ไม่เข้าใจเลยว่าพวกสภานักเรียนจะลงโทษอะไรนักหนากับอีแค่โดดเรียน(- -) นอกจากจะลงทัณฑ์บนยังจะลงโทษแบบหนักหนาสาหัสแบบนี้ด้วยอีก โอย...เพราะแห้งคนเดียว

              “นายเลิกบ่นได้แล้ว นี้ๆ” เซฮุนที่ขัดพื้นอยู่เงียบๆก็หยิบสายยางขึ้นมาและเปิดฉีดไปยังร่างเล็กที่เริ่มลงมือขัดพื้นอยู่ข้างๆ

              “อ๊า! เล่นอะไรเนี่ย!” ร่างเล็กร้องแว้ดขึ้นเมื่อเสื้อนักเรียนของตนเริ่มเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เลนส์แว่นก็มีน้ำเกาะจนเขามองไม่ค่อยเห็น ร่างเล็กยืดตัวเต็มความสูงก่อนจะหยิบแปรงขัดพื้นขึ้นมาและเขวี้ยงอย่างเต็มแรงไปทางร่างสูงของเพื่อนสนิทที่ย้ิมหัวเราะจนตาปิด

              โป๊ก!

              “โอ๊ย!” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดทำให้คยองซูค่อนข้างพอใจก่อนจะถอดแว่นออกและเช็ดเข้ากับแขนเสื้อ นี้ขนาดมองไม่ค่อยจะเห็นยังแม่นขนาดนี้นะเนี่ย ไม่ค่อยจะคุย...

              “ระ รุ่นพี่!” เสียงเรียกของเพื่อนตัวสูงทำให้คยองซูขมวดคิ้ว ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นทั้งๆที่ยังไม่ใส่แว่นไปทางต้นเสียงก็เห็นภาพเบลอๆคือเพื่อนของเขายืนอยู่ไม่ได้ดูเจ็บอย่างที่เขาหวังและข้างๆก็มีร่างของใครสักคนล้มอยู่

              เฮ้ย!

              ร่างเล็กรีบสวมแว่นและเดินเข้าไปร่างที่นอนสลบไสลอยู่บนพื้นด้วยความตกใจก่อนจะตกใจมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าเป็นใคร

              “รุ่นพี่แบคฮยอน!!”

     

     

     

    .

    .

    .

    .

     

              “แล้วพี่เขาจะฟื้นไหมฮะ” น้ำเสียงอ่อนของคยองซูดังขึ้นหลังจากที่พวกเขาช่วยกันแบกร่างโปร่งที่หมดสติไปเพราะแปรงขัดพื้นมาที่ห้องพยาบาล โชคดีที่อาจารย์ประจำที่ห้องพยาบาลยังอยู่เพราะมันก็ใกล้จะเลิกเรียนแล้ว โชคดีจริงๆ

              “ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกนักเรียน แค่หมดสติไปเฉยๆ ทำแผลแล้วพักสักแปปเดียวก็ฟื้น” อาจารย์ตัวเล็กประจำห้องพยาบาลพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะขอตัวไปทำงานอย่างอื่นต่อ ทิ้งให้คนตัวเล็กที่มองร่างโปร่งบนเตียงนอนผ่านเลนส์แว่นตาอย่างรู้สึกผิดกับเพื่อนตัวสูงที่เริ่มเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก

              ไอ้พี่แป๊ะเป็นถึงสภานักเรียนแล้วเจอกระบวนท่าใช้พลังของคยองซูจนสลบไปแบบนี้ เพื่อนตัวเล็กของเขาจะเจออะไรไหมเนี่ย คิดหนักเลย- -;

              “อ่า นักเรียน...” อาจารย์พยาบาลคนสวยเดินกลับเข้ามาอีกครั้งและบอกกับพวกเขาว่าอีกไม่นานก็จะเลิกเรียนแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงเลยอนุญาตให้พวกเรากลับบ้านได้ ส่วนคนป่วยที่นอนหมดสติเดี๋ยวอาจารย์เขาจะเรียกพวกสภามาพาตัวไปแทน เพราะครูจะปิดห้องพยาบาลแล้ว

              ไหงเป็นงี้ล่ะ

              จะให้เขาไปนอนพักที่ไหนล่ะ...

              “ไปกันเถอะเตี้ย” เซฮุนพูดทำให้คนตัวเล็กที่ยังคงเหม่อไปทางห้องพยาบาลหันไปสนใจ คยองซูยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนไปทั้งๆที่สายตาใต้เลนส์แว่นจะยังคงเหล่มองไปข้างหลังก็ตามเถอะ

              เป็นห่วงแหะ...

              เอาไงดี

     

     

    .
    .

    .

    .

     

              ปวดหัว

              ผมรู้สึกถึงความเจ็บจี๊ดบริเวณขมับขวาจึงยกมือขึ้นมากุมเอาไว้เผื่อจะคลายความเจ็บปวดได้ แต่มันก็ไม่เลยสักนิด ผมค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะเจอบรรยากาศเงียบสงบ...

              ในนี้มันห้องพยาบาลนี้น่า...

               อ่า ผมจำได้ว่าตอนนั้นกำลังแอบเดินไปส่องดูคนตัวเล็กที่ทำตัวเป็นเด็กเกเรและโดดเรียนจนพวกผมจับได้เลยโดนลงโทษให้ทำความสะอาดโรงยิม จริงๆผมก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะแอบหนีแล้วไม่ทำความสะอาดจนต้องมาคุมหรอกนะ

               แค่อยากเห็นหน้าเฉยๆ

               ผมจำได้ว่าพอเดินเข้าไปก็กำลังเห็นเพื่อนตัวสูงๆหน้าตาดี(แต่น้อยกว่าผม เฮอะๆ)กำลังเล่นฉีดน้ำกับคยองซูจนตัวเปียกไปหมด ความรู้สึกแวบแรกที่แล่นเข้ามาในหัวคือ ไม่ชอบครับ- - ไม่ชอบมากๆ

               ผมจำได้ว่าจะเข้าไปดุคนตัวเล็กนิดหน่อยที่ปล่อยเนื้อตัวให้ไอ้เพื่อนตัวสูงโหยงคนนี้กลั่นแกล้ง แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่ามีแปรงขัดพื้นอันบักเอิ้กลอยมาใส่หัวผม รู้ตัวอีกทีก็เจ็บจี๊ดที่หัวและล้มไปนอนกับพื้น ก่อนที่จะหมดสติก็เห็นหน้าขาวๆใส่แว่นตาหนาๆกำลังร้องเรียกผมใหญ่เลย...

               แล้วนี้ผมจะยิ้มทำไมเนี่ย

               หว่า....รู้สึกแบบนี้อีกแล้ว

               ครืนน ครืนนน

               เสียงเปิดประตูห้องพยาบาลดังขึ้นจนผมคิดว่าน่าจะเป็นพวกเพื่อนๆที่จะมาพาผมกลับบ้านล่ะมั้งเพราะเห็นอาจารย์บอกว่าจะเรียกให้....งงใช่ม่ะว่าผมรู้ได้ไง

               ก็ผมไม่ได้หลับนะสิ

               ผมรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่มีมืออุ่นๆของใครสักคนกำลังจับที่แผลของผมจนผมสะดุ้งตื่น ลืมตาขึ้นมาก็เห็นอาจารย์พยาบาลกำลังทำแผลให้ เลยขอแกล้งหลับต่อ

               จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงทุ้มหวานๆของคนตัวเล็กที่เอ่ยขึ้นเหมือนกับจะกังวลมากที่ผมนอนไม่ตื่นสักที

               'แล้วพี่เขาจะฟื้นไหมฮะ'

               ผมนี้เกือบหลุดยิ้มแล้ว

               “เฮ้ย...ใครอ่ะ จงแดหรือป่าว” ผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียงผู้ป่วยแล้วตะโกนถามข้างนอกเมื่อเห็นเงาของใครสักคนที่หน้าประตู

                ครืน...

               “!!!”

               พรึ่บ!

               ผมรีบหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวโปงทันทีที่รู้ว่าใครเดินเข้ามา เขาไม่ใช่จงแด ไม่ใช่เพื่อนของผมและพวกสภานักเรียน แต่เขาเป็นคนตัวเล็กที่สวมแว่นตาหนาๆ

               “รุ่นพี่ฮะ! รุ่นพี่เป็นอะไรทำไมต้องคุมตัวโปงแบบนั้นด้วย!?” คยองซูเขย่าตัวผมที่มุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำแบบนี้ทำไม แต่รู้สึกประมาณว่า...เขามาทำไม ทำไมไม่กลับบ้าน...หรือว่าจะเป็นห่วงผม

               โอยยยยย ผมยิ้มกว้างอีกแล้ว

                รู้สึกเหมือนว่าผมจะไม่อยากให้คยองซูเห็นผมยิ้มแบบนี้

                ไม่ไหวแล้ว ทำไมคยองซูชอบทำให้ผมยิ้มแบบนี้ด้วย

     

                เอาไงดี?

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

                “รุ่นพี่ฮะ! รุ่นพี่เป็นอะไรทำไมต้องคุมตัวโปงแบบนั้นด้วย!?” คนตัวเล็กร้องลั่นเมื่อรุ่นพี่ที่เคยนอนอยู่บนเตียงเมื่อสิบนาทีที่แล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วยังพูดได้แล้วด้วย(?) แต่พอเจอหน้าเขาทำไมถึงมุดเข้าไปในผ้าห่มกันเล่า...เกิดอะไรขึ้น

               “ไม่ ไม่ได้เป็นอะไร” เสียงนั้นลอดผ่านผ้าห่มมาแผ่วเบาคยองซูจึงหยุดเขย่าร่างโปร่งที่พันไปด้วยผ้าห่ม

               “แล้วทำไมจะต้องคลุมโปงด้วยล่ะฮะ ไม่สบายอ่อหรือว่าหนาว” คยองซูพูดพร้อมกับพยายามดึงผ้าห่มให้เปิดออก แต่คนใต้ผ้าห่มนี้กลับขืนไว้ไม่ให้เขาดึงออก

               “ชะ ใช่! พี่หนาว พี่อยากอยู่แบบนี้แหละ” แบคฮยอนที่ตอนนี้ไม่รู้จะตอบไปว่าอะไรก็ขอไหลไปตามน้ำก่อนแล้วกัน

              “หนาวก็ไม่ห่มขนาดนี้ก็ได้ เดี๋ยวหายใจไม่ออกนะฮะ” ไม่พูดเปล่ายังคงดึงผ้าห่มให้ออกจากร่างโปร่งต่อไป

              “พี่พอใจ พี่หายใจออก” แต่ร่างโปร่งก็ยังคงขืนเอาไว้ คยองซูก็ยังดื้อพยายามดึงต่อไปก่อนจะหมดแรง

              “ไม่ดึงแล้วก็ได้ เหนื่อย!”

              “แอ้ก! คยองซูพี่หนักนะ”

              “ก็ผมเหนื่อย...” คยองซูพูดหน้าตายหลังจากที่ยอมแพ้คนใต้ผ้าห่มที่ไม่ยอมให้เขาได้เห็นหน้าจึงทิ้งตัวลงทับคนบนที่นอนจนเจ้าตัวร้องเสียงดัง แบคฮยอนขืนตัวเล็กน้อยก่อนจะสงบเมื่อมีความรู้สึกเหมือนหัวกลมๆจะทับอยู่บนอกของเขาเพราะรู้สึกถึงลมหายใจที่ลอดผ่านผ้าห่มมา

              โอ๊ย...ใจเต้นแรงชะมัด

              “พี่แบคฮยอนเป็นอะไรฮะ ใจเต้นแรงจัง” คยองซูยิ้มขำเมื่อเสียงหัวใจเต้นตึกตักของคนใต้แรงมันดังจนเขาได้ยิน แต่เขาก็เลือกจะเงียบไปเมื่อหัวใจของตัวเองก็เต้นแรงไม่แพ้กัน

              เป็นแบบนี้อีกแล้ว...

              “พี่แบคฮยอน ผมขอโทษนะฮะ” คยองซูเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะพูดออกไปและลุกขึ้นมายืนตัวตรงดีๆ มือป้อมเอื้อมไปเปิดผ้าห่มที่คุมคนใต้ร่างออกเผยให้เห็นคนตาเรียวที่ทำหน้างุนงงด้วยความไม่เข้าใจ ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเรื่องอะไร

              “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่เจ็บตัวแบบนี้” คยองซูเอื้อมมือมาจับที่ขมับของแบคยอนที่ตอนนี้มีผ้าก๊อซปิดเอาไว้ต่างจากตอนแรกที่มีเลือดซึมออกมา เขารู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ที่ทำให้รุ่นพี่คนนี้ต้องเจ็บตัว ไม่ชอบเลย...

              “แล้วผมก็กลัวว่าพี่จะโกรธผม ผมก็เลยตั้งใจมาขอโทษ...”

              “...”

              “แต่พอเห็นว่าพี่เหมือนไม่อยากจะเห็นหน้าผมเลย ผมก็...ไปนะครับ”

              “เดี๋ยวสิ!” แบคฮยอนเอื้อมมือมาจับข้อมือของคนตัวเล็กที่กำลังจะหันหน้าหนีเขาและเดินออกไป คยองซูทำตาโตก่อนจะถามเขาเสียงตะกุกตะกัก

              “อะ อะไรหรอฮะ”

              “ป่าว...” คำพูดของแบคฮยอนพร้อมกับปล่อยข้อมือของคยองซูออกทำให้คนตัวเล็กรู้สึกหน้าชาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก็เมื่อกี้เขาคิดว่ารุ่นพี่คนนี้อาจจะบอกกับเขาว่า พี่ไม่โกรธนายหรอก หรือว่า นายอย่าเข้าใจผิดไปสิ ไรงี้

               แต่ ป่าว นี้คืออะไร ทำไมเขาต้องรู้สึกบีบๆที่หน้าอกด้วย

               “แค่จะบอกว่าเดี๋ยวกลับบ้านด้วยกันนะ”







    ____________________
    ตอนนี้ว่างเปล่าที่สุด

     

     

     

     

     

    © themy
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×