ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO [baekdo] GIVE LOVE

    ลำดับตอนที่ #10 : : 9 :

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 338
      0
      20 ธ.ค. 57



    9

     

                “กรี๊ดดดด รุ่นพี่แบคฮยอน กรี๊ดดด”

                “รุ่นพี่ชานยอล~~ อปป้า ~

                “หันมาทางนี้หน่อยค่า!~ อปป้า”

                เสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่านักเรียนหญิงมัธยมของโรงเรียนชื่อดัง ส่งเสียงสนั่นไปทั่วโรงยิม คยองซูผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้แต่ค่อยยกมือป้อมมาป้องปิดใบหูของตนเนื่องจากว่าเสียงมันดังจนอาจจะทำให้หูของเขาระเบิดเป็นอันได้ ว่าแล้วก็กลับมานั่งทำหน้ามุ่ย เพราะโดนเพื่อนตัวดีอย่างโอเซฮุนตามไปลากตัวเขาที่ตั้งใจว่าจะนอนกกพี่ชายตัวอ้วนของตน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันตั้งคืนหนึ่ง! สำหรับคยองซูมันนานมากที่สุดในโลก แต่ความคิดเหล่านั้นก็ต้องพังทลายลง - -* ตอนนี้ทำได้แค่นั่งทำหน้ามุ่ยงอนตุ๊บป่องให้เพื่อนตัวสูง หวังว่าเขาจะง้อบ้างไรงี้ แต่ผลกลับตรงกันข้าม...

                “อ่า! เตี้ย! ดูนั่น พี่ชานยอลทำแต้มได้อีกแล้ว ท่าชู้ตบาสลงห่วงเป็นอะไรที่โคตรเท่ห์อ่ะ...ดูดิ” เสียงพูดอย่างตื่นเต้นพร้อมกับยื่นมือหนามาตบที่ไหล่ของร่างเล็กรัวๆโดยไม่ได้หันมามองเลยแม้แต่น้อย คยองซูทำหน้ามุ่ยมากกว่าเดิมก่อนจะยกมือป้อมขึ้นไปตีสวนมือของร่างสูง เซฮุนส่งเสียงโอดโอย ก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนตัวเล็ก ในใจของเขาเตรียมคำด่าว่ามากมายที่ร่างเล็กบังอาจตีมือของเขาระหว่างที่เขากำลังชมการเล่นบาสที่แสนจะเท่ห์เก๋ไก๋ของรุ่นพี่ในดวงใจ มันทำให้เขาเสียสมาธิ! (หรา) แต่เมื่อร่างสูงหันมาสนใจคยองซู คำพูดมากมายก็กลืนหายลงไปในลำคอยาว

                เตี้ยน่ารักจัง

                ใบหน้าเล็กกำลังแสดงออกว่าไม่พอใจมากๆ ตากลมโตก็จ้องเขม็งมาที่เขา แก้มย้วยพองขึ้นอย่างเอาแต่ใจ มือป้อมก็ยกขึ้นมากอดอกเป็นเด็กๆ เมื่อเขาสบตากัน ร่างเล็กก็สะบัดหน้าหนีพร้อมกับส่งเสียงในลำคอคล้ายกับว่ากำลังบ่นกับตัวเอง

                ทำไมงอนได้น่าแกล้งขนาดนี้

                “นี้เตี้ย งอนอ่อ” เซฮุนถามอย่างหยั่งเชิง พร้อมกับส่งยิ้วชี้ยาวไปจิ้มๆที่แก้มย้วยที่กำลังพองตัวอย่างเต็มกำลัง

                “ใครเตี้ยห๊ะ!” นอกจากจะไม่ตอบคำถามของร่างสูง คยองซูยังส่งคำถามไปให้อีก มือป้อมยกมาปัดนิ้วเรียวออกจากแก้มของตน ก่อนจะทำหน้างอมากกว่าเดิม... ตอนแรกก็โกรธที่ลากเขาออกมาจากบ้าน แต่ตอนนี้เริ่มจะโกรธที่เรียกเขาว่าเตี้ยแทนแล้วนะ ใครเตี้ยกัน!? เขาว่าเขาสูงมากพอแล้วนะ มีแต่ไอ้แป๊ะบ้านั่นที่สูงมากเกินไป! ขนาดของคยองซูเรียกว่าพอดีเว้ย!!

                “โอ้ๆ เลิกงอนนะเตี้ย มาดูบาสดีกว่า”

                “ย่าห์! เซฮุน!” ร่างเล็กแผดเสียงลั่น เมื่อเพื่อนตัวสูงคว้าร่างเล็กของคยองซูมาวางไว้บนตักพร้อมกับกอดไว้หลวมๆ คางมนได้รูปก็เกยไว้บนไหล่แคบ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจอะไร แล้วบอกให้เขาดูการแข่งขันต่อ

                “ปล่อยโว้ยย!!” ร่างเล็กโวยวายโดยไม่สนใจรอบข้าง เอาแต่ดินคลุกขัดขืนไปมาท่าเดียว จนเหล่าสาวน้อยใหญ่ที่นั่งอยู่บริเวณรอบข้างหันมาสนใจ

                “หยุดดิ้นน่า ดูนั่นพี่แบคฮยอนจะชู้ตแล้ว!” ร่างสูงพูดเสียงหน่าย ก่อนจะปรับโทนเสียงให้ดูตื่นเต้นเร้าใจ เมื่อรุ่นพี่ร่างเล็กแย่งลูกบาสมาจากฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว พร้อมกับตั้งท่าที่จะชู้ตลงห่วง ทำให้ร่างเล็กหยุดดิ้นและกันไปมองโดยอัตโนมัติ

                ตุบๆ

                พลุบ!



                ง่อวววว อย่างเท่ห์อ่ะ 


                “กรี๊ด รุ่นพี่แบคฮยอนเท่ที่สุดเลย”

                “อปป้า~~

                “!@#$%^&*(“ และอีกมามายที่คยองซูผู้นี้ไม่สามารถเข้าใจถึงความหมายของมัน ร่างเล็กยกยิ้มอย่างลืมตัวเมื่อเห็นรุ่นพี่ที่ตนเคารพ ร่างโปร่งของแบคฮยอนเดินเอื่อยอ่ายไปหาเพื่อนร่วมทีมแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมาส่งยิ้มหวานให้กับเหล่าแฟนคลับที่แสนน่ารักทั้งหลายร้อยชีวิต ก่อนที่พวกหล่อนจะร่วมใจกันประสานเสียงกรี๊ดโดยมิได้นัดหมาย ทำเอาคยองซูคนนี้ปิดหูแทบไม่ทัน - -

                และการแข่งขันก็ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ มีการรุกรับทั้งสองทีม แต่ดูเหมือนว่าทีมของรุ่นพี่แบคฮยอนจะได้เปรียบหน่อยนึงนะ ก็เห็นว่าชู้ตเอาๆ คะแนนก็นำด้วย แต่ตัวเขาก็ไม่รู้เกี่ยวกับการแข่งขันหรือเล่นบาสสักเท่าไร อ่อ! ลืมบอกไปว่าช่วงนี้เป็นช่วงจัดกีฬาสีของโรงเรียน ทำให้มีการแข่งขันกีฬาต่างๆ ซึ่งจะแข่งในวันหยุดจะได้ไม่รบกวนเวลาเรียน และอีกไม่นานก็จะมีการจัดงานขึ้นภายในไม่อีกอาทิตย์ แน่นอนว่านักเรียนหลายคนกำลังรอคอยมัน แต่สำหรับร่างเล็ก ขอผ่านนะครับ - - จำได้ว่าตอนม.ต้น ได้นั่งสแตนเชียร์ ผิวนี้ไหม้และเสียไปหลายวัน แดดก็ร้อนยังจะให้มาแหกปากร้องเพลงปาวๆ ทำไมโรงเรียนเราไม่มีนโนบายการนั่งสแตนเชียร์ในห้องแอร์บ้างละครับ?? ถ้ามีคยองซูคนนี้จะตั้งใจซ้อมและร้องเพลงให้เสียงแหบกันไปข้าง

                พูดแล้วก็เศร้า


                แต่กีฬาสำหรับคยองซูมันเป็นอะไรที่ร้ายแรงมากจริงๆนะ




                ตุบๆๆ

                พลุบ!

                ปรี๊ดดดดดดดดด

     

                “กรี๊ดดดด รุ่นพี่แบคฮยอน กรี๊ดดด”

                “รุ่นพี่แบคฮยอน~~ อปป้า ~

                “หันมาทางนี้หน่อยค่า!~ อปป้า”

                “กรี๊ดดดดด”

                หลังจากที่รุ่นพี่แบคฮยอนชู้ตลูกบาสลงห่วง เสียงสัญญาณก็ดังขึ้นเพื่อบอกให้รู้ว่า การแข่งสิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ทีมของรุ่นพี่แบคฮยอนชนะไปโดยปริยาย ร่างโปร่งเดินเข้าไปหาเพื่อนร่วมทีมอีกครั้งพร้อมกับแทคมือแสดงท่าทีดีใจสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ โดยมีเสียงกรี๊ดของแฟนคลับเป็นอังกอร์ ร่างโปร่งหันมายิ้มขอบคุณแฟนคลับที่มาคอยเชียร์ รุ่นพี่แบคฮยอนส่งยิ้มไปรอบๆก่อนจะหยุดสายตาตรงที่คยองซูนั่งอยู่

                ริมฝีปากบางที่คลี่ยิ้มอยู่แล้วก็คลี่ออกกว้างขึ้นทันที ร่างเล็กยกมือขึ้นมาโบกให้ร่างโปร่งพร้อมกับส่งยิ้มกลับ แบคฮยอนก็ยิ้มรับพร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากก่อนจะยื่นมือส่งมาทางที่ร่างเล็กนั่งอยู่ ทำเอาแฟนคลับต่างส่งเสียงสนั่น ใบหน้าเล็กเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ไม่สิต้องพูดว่า ไม่รู้เหตุผลต่างหาก...อ่า ยิ่งพูดก็ยิ่งเขิน
    =///= แล้วทำไมเราต้องเขินด้วยอ่ะ..นั่นดิ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    โอ๊ย!! เขินอ่าาา

                “เตี้ยๆ เลิกเขินได้แล้ว...ไปกันเถอะ” เซฮุนที่นั่งสังเกตการณ์อย่างเงียบๆก็โพล่งขึ้น แซวร่างเล็กอย่างขำๆ ก่อนจะส่งสายตาไปให้รุ่นพี่ร่างโปร่งที่เดินยิ้มไปที่ที่พักนักกีฬา หน็อย...ร้ายชิบหาย มีแฟนอยู่แล้วมาทำกับคยองของเขาแบบนี้ได้ไง เห็นแก่ตัวชะมัด ว่าแล้วก็อุ้มเพื่อนตัวเล็กบนตักที่ได้แต่ทำหน้าเขินวางกับอัศจรรย์ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินจูงมือเพื่อนตัวเล็กออกไปทันที

     
     

    -

    -




                “วันนี้พวกมึงเล่นเก่งจริงๆว่ะ กูที่นั่งดูอยู่ข้างสนามนี้แบบเห็นไอ้แบคมันชู้ตเอาๆ ส่วนไอ้ชานมึงแม่งก็แย่งได้แย่งดี เจ๋งโคตร!” เสียงแหลมของเพื่อนร่วมแก๊งค์ของแบคฮยอนอย่างจงแดหรือที่เพื่อนๆพร้อมใจกันเรียกว่าคุณเฉินเจื้อยแจ้วอยู่ข้างหูกางๆของร่างสูง ชานยอลยกขวดขึ้นก่อนจะจรดปากขวดเข้ากับริมฝีปาก ของเหลวสีใสเย็นๆไหลลงคอ ช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังเมื่อกี้ไม่มากก็ไม่น้อย เพื่อนคนอื่นๆต่างก็ช่วยเอาผ้ายงผ้าเย็นแจกจ่ายนักกีฬา มีแต่ไอ้เฉินคนเดียวที่แม่งนั่งโม้อยู่เฉยๆ ว่าแล้วก็มั่นไส้

                “ทำไมมึงไม่ไปช่วยคนอื่นๆว่ะ ได้ข่าวว่าที่อัศจรรย์วิ่งกันให้วุ่นไม่ใช่หรือไง” ร่างสูงโยนขวดน้ำไว้ข้างลำตัวก่อนจะหยิบน้ำมันมวยมาบีบๆแล้วนวดไปตามต้นขาเพื่อคลายความปวดเมื่อย ปากก็เอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กอีกคน

                “มึง กูคือประธานสีป่ะ กูต้องนั่งคุมความเรียบร้อยดิเว้ยย”

                “ร้อยมากก ไม่เห็นมึงทำเ.ชี่ยอะไรเลย”

                “นี้ตอนนี้กูมาดูแลนักกีฬาอย่างมึงอยู่นะเว้ย”

                “ดูแลพ่_งงง มึงไม่เห็นทำอะไรเลย สัส! มานวดขาให้กูเลยมา” ร่างสูงสั่งด้วยความเหนื่อยหน่าย อย่างที่ไหนแม่งมานั่งกินแรงเพื่อน เป็นประธานแท้ๆ แอลนิมอลจงแด - -

                “คร้าบๆๆ” ร่างโปร่งซึ่งไม่สามารถขัดอะไรเพื่อนตัวสูงได้จึงได้แต่ทุบๆบีบๆนวดๆต้นขายาวของชานยอล แม่ง! ยิ่งมองแล้วก็ยิ่งอิจฉา มันจะยาวไปไหนว่ะ...

                ครืนนน

                เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างโปร่งของแบคฮยอนเพื่อนสนิทอีกคน ร่างโปร่งเดินยิ้มร่ามาหาพวกเขา แบคฮยอนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ข้างๆชานยอล มือเรียวก็เอื้อมไปหยิบขวดน้ำที่เหล่าเพื่อนๆสต๊าฟเตรียมไว้ให้ ก่อนจะกระดกกิน และกลับมานั่งยิ้ม

                ยิ้ม?

                “คุณเพื่อนแบคครับ ไม่ทราบว่าคุณเพื่อนยิ้มอะไรไม่ทราบหรือครับ ช่วยบอกให้กระผมจงแดผู้นี้ได้ตรัสรู้ด้วยเถิด” ยังไม่ทันที่ปากบางของปาร์คจะขยับ เสียงแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ของเพื่อนข้างๆก็ดังขึ้น

                เออ! นั่นดิ ทำไมแม่งยิ้มเป็นหมาบ้าอยู่คนเดียวว่ะ? ถูกหวยอ่อ??

                “ไม่มีไรหรอกมึง”

                “หราาาาา” จงแดลากเสียงยาวอย่างไม่เชื่อ ไม่มีไรแล้วคุณมึงจะยิ้มทำซอยหอยนางรมตราแม่ครัวหรอครับ??

                “ก็....”

                “แบคฮยอน!!” 



































    -

    -

     

                “เตี้ย~~ เลิกงอนเค้าเถอะน่า เค้าขอโต๊ด...เค้าผิดไปแล้ว นะนะนะ” เสียงทุ้มแตกหนุ่มของร่างสูงดังคลอเคลียไปมาข้างกกหูขาวของคยองซู ตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่ในร้านอาหารหน้าโรงเรียน มาทานมื้อกลางวันกัน สายตากลมเชิดใต้กรอบแว่นหนาเชิดหนีใบหน้าเว้าวอน ที่ค่อยออดอ้อนให้เขาหายโกรธมานับชั่วโมง จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายหรอก ก็แค่เก๊กไปนั่นแหละ...พอถึงเวลาเอาคืน มันก็ต้องเอาคืนแบบให้ถึงที่สุด! สไตล์คยองซูคนแมน!!

                “อาหารที่สั่งได้แล้วครับ ขออนุญาตเสิร์ฟนะครับ” เสียงหวานดังขัดเซฮุนที่กำลังพูดอ้อนคนตัวเล็ก ร่างเล็กของพนักงานเสิร์ฟโค้งอย่างเคารพก่อนจะวางจานบิบิมบับ(ข้าวยำเกาหลี)น่าทานตรงหน้าของทั้งสองคน รอยยิ้มเผยออกจนเกิดรอยบุ๋มลึกที่แก้มใส เสียงใสก็ดังขึ้นอีกครั้ง

                “ทานให้อร่อยนะครับ” ว่าแล้วก็คำนับแล้วเดินกลับไป คยองซูขอบอกว่ารู้สึกประทับใจสุดๆ เพิ่งมาทานครั้งแรกแบบนี้แล้วเจอการบริการที่แสนจะเอาใจใส่ มิน่าลูกค้าถึงเต็มร้าน นึกไม่ผิดจริงๆที่เลือกทานร้านนี้

                “ทานแล้วนะครับ อ้า~ อ่ำ...อื้ม! หร่อยอ่ะ เตี้ย! อ้า~~” เพื่อนตัวสูงจัดการชิมข้าวยำหน้าตาน่าทานไปคำโต พร้อมกับอุทานออกมาทั้งๆที่ยังเคี้ยวอยู่ มือหนาจับตะเกียบก่อนจะคีบข้าวคำโตขึ้นมาป้อนร่างเล็ก คยองซูทำหน้าเชิด...ยังงอนอยู่นะเว้ย

                “อ่อ ไม่กินใช่ป่ะ เดี๋ยวกินเอง”

                “เฮ้ยๆๆ กินๆ กินจ๊ะกิน” ร่างเล็กร้องเหวอ เมื่อเพื่อนตัวสูงคีบข้าวเข้าปาก แล้วทำท่าเอื้อมมือมาจะแย่งถ้วยข้าวของเขาไป...ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่กิน! พูดเองเออเองตลอด

                “ฮ่าๆๆ นายนี้น่ารักจัง”

                “บ้า! กินๆไปเลยนะ” ร่างเล็กแว้ดใส่ เรียกเสียงหัวเราะของเพื่อนได้อีกครั้ง ก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความเงียบเมื่อทั้งคู่เริ่มหันมาสนใจอาหารตรงหน้า บิบิมบับอร่อยจริงๆนั่นแหละ นอกจากจะบริการดี อาหารยังอร่อยอีก น่าแวะมาทานบ่อยๆแหะ

                “แล้วสรุปวันนี้จะหาพี่หมอป่ะ??” ร่างสูงเอ่ยถามร่างเล็กที่กำลังตั้งใจทานข้าวยำอยู่ ใบหน้าเล็กเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะใช้ตะเกียบดันแว่นที่เริ่มตกลงมาเรื่อยๆขึ้น ใบหน้าเล็กพยักลงอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงไปกินต่อ

                “ไม่เบื่อหรอ??” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเบื่อหน่าย ร่างเล็กจ้องหน้าไปสักพักก่อนจะส่ายหัวออกมาแทนคำตอบ

                “ไม่อ่ะ นายเบื่อหรอ?” ร่างสูงส่ายหน้าแทนคำตอบเช่นกัน จริงๆก็เบื่อนิดหน่อยอ่ะนะ ก็โรงพยาบาลนี้ ไม่ใช่สวนสนุก เงียบก็เงียบ มีแต่กลิ่นยาคละคลุ้งไปหมด เอาตรงๆนะ มันไม่ค่อยถูกกับเขาสักเท่าไร ไม่รู้ว่าพี่ชายของเขาทนไปได้ไง นั่งงกๆเซ็นเอกสาร แล้วก็ต้องออกไปตรวจคนไข้ที่สติไม่ค่อยจะครบถ้วน...พอนึกว่าตัวเองต้องไปทำแบบนั้นแบบพี่ลู่หานแล้วมัน...

                เฮ้อ~ มันไม่ใช่เขาจริงๆนั่นแหละ

                แต่มีหรือ...ที่ผู้เป็นใหญ่ในบ้านจะเข้าใจ พูดแล้วก็เศร้า

                “งั้นกินเสร็จแล้วออกไปเลยเนอะ” ร่างสูงเอ่ยชวนร่างเล็กก่อนจะโบกมือเรียกพนักงานให้มาคิดค่าอาหาร เซฮุนยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา เพิ่งจะบ่ายโมงกว่าๆ ไปนั่งๆนอนๆที่ห้องพี่หมอดีกว่าไปนั่งหลับที่ห้องเรียนพิเศษหรอกนะ

                “อื้ม!

                หลังจากที่คิดตังส์อะไรเสร็จเรียบร้อย เพื่อนสนิทต่างขนาดก็เดินออกจากร้าน ร่างสูงโทรศัพท์บอกพี่ชายและบอกให้คนขับรถมารับไปส่งที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอเท่านั้น  คยองซูกับเซฮุนเลยตัดสินใจจะไปรอรถกันที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน แต่ทุกๆอย่างคงไม่ราบรื่นขนาดนั้นหรอกนะ...













































                “ช่วยด้วยคะ!! คนกระชากกระเป๋า!!

                !!!

                เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือเรียกความสนใจจากเซฮุนและร่างเล็กที่กำลังจะข้ามถนนไปหน้าโรงเรียน ร่างของหัวขโมยวิ่งมาทางพวกเขาเรื่อยๆโดยไม่ทันสังเกตว่าพวกเขาอยู่ข้างหน้า ทำให้ร่างของโจรกระชากกระเป๋าชนเข้าจังๆกับร่างเล็กของคยองซูจนล้มไปทั้งคู่ กระเป๋าในมือของโจรก็หลุดออก ปลิวไปอีกทาง เจ้าโจรจับหัวตัวเองป้อยๆ ก่อนจะตั้งสติได้และตั้งท่าจะลุกขึ้นวิ่งหนี แต่ไม่ทัน เนื่องจากว่าเซฮุนล็อคตัวเอาไว้แล้ว

                “ปล่อย! ปล่อยผมนะ!!

                “เงียบไปเลย!!” เซฮุนตวาดลั่นใส่โจรกระจอก จนเขาหยุดดิ้น คยองซูที่มึนไปชั่วขณะก็ลุกขึ้นมายืนดีๆ เพราะเมื่อกี้ตนล้มลงไปนั่งจ่ำเบ้ากับพื้น อูยย... พูดแล้วก็เจ็บ!

                “แฮ่กๆๆ กระเป๋า....กระเป๋าของฉัน!” ร่างของหญิงสาวผู้มาใหม่วิ่งมาหยุดตรงหน้าคยองซู ก่อนจะหยุดพักและหอบหายใจแห่กๆ จากนั้นก็วิ่งไปตะคลุบกระเป๋าของตนไว้อย่างกับกลัวว่ามันจะหายไปไหนอีก

                “ขอบคุณ...ขอบคุณที่ช่วยฉัน...นะ” ด้วยเหตุจากการเหนื่อยหอบยังไม่หายไป ทำให้การหายใจติดขัด จึงพูดออกมาอย่างขาดหาย ใบหน้าที่ไม่ได้ดูโดดเด่นเงยหน้าขึ้นมากล่าวขอบคุณพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ร่างบางของหล่อนหันหลังให้คยองซูแล้วเดินไปเผชิญหน้ากับโจรหัวขโมยที่ดิ้นขลุกอยู่ในการเกาะกุมของเซฮุน มือเรียวของหล่อนยกขึ้นมาก่อนจะดึงหมวกที่โจรกระจอกใส่ออกอย่างแรง และโยนมันลงกับพื้น

                เพี๊ยะ!!

                หญิงสาวง้างมือเรียวออกและตบลงบนแก้มใสของหัวขโมย ใบหน้าเรียวหันไปตามแรงตบ ก่อนที่ตากลมโตจะหันมาจ้องใบหน้าของหญิงสาวอย่างสั่นระริก ส่วนหญิงสาวก็เอาแต่ด่าทอพร้อมกับทำท่าจะตบลงบนแก้มใสอีกครั้ง แต่ร่างเล็กมาห้ามไว้ และพยายามพูดบอกให้ใจเย็น

                “นายรู้ไหม?? เงินในกระเป๋าใบนี้ ฉันกำลังจะเอาไปทำอะไร...ฉันกำลังจะนำเงินไปรักษาลูกสาวของฉันที่กำลังป่วยอยู่ และเงินนี้ฉันก็หามาได้ยากลำบาก... นายไม่มีสิทธิ์มาขโมย! พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรอไงกัน!!” คำพูดเกี้ยวกราดพรั่งพรูออกมาจากปากบางของหญิงสาว ก่อนที่น้ำตาเม็ดโตจะไหลออกมาจากดวงตาเรียวของหล่อน เธอปาดมันออกจากอย่างลวกๆ พร้อมกับยกมือขึ้นมาชี้หน้าเจ้าหัวขโมยอีกครั้ง

                “จำเอาไว้! แล้วอย่าไปเที่ยวขโมยของของใครอีกล่ะ ไอ้หัวขโมย!!” หลังจากที่หญิงสาวลั่นคำเกี้ยวโกรธ ก็หันหลังและเดินจากออกไป ทิ้งไว้แค่เพียงคยองซู และเซฮุนที่ล็อคร่างของหัวขโมยเอาไว้ท่ามกลางผู้คนที่เดินพลุ่กพล่าน เซฮุนปล่อยให้ร่างของหัวขโมยเป็นอิสระ ร่างของเขาร่วงลงกับพื้นจนคยองซูตกใจ รีบเข้าไปดูอาการ

                “นี้นาย! นายเป็นอะไรไปอ่ะ นายๆ” สายตากลมโตใต้แว่นกลิ้งไปมา มือป้อมก็ตะปุกตะแปะไปทั่วร่างของหัวขโมย มือป้อมยกขึ้นมาหยุดที่หน้าผากแล้ววางทาบลงเพื่อวัดอุณหภูมิ

                “อูยย เซฮุน! นายคนนี้ตัวร้อนมากเลยอ่ะ พาไปส่งโรงพยาบาลเหอะ” ร่างเล็กหันไปพูดกับเพื่อนตัวสูง มือป้อมกุมมือเรียวของหัวขโมยเอาไว้ สายตากลมใต้กรอบหนาก็จับจ้องที่ใบหน้าเรียวได้รูป ซึ่งตอนนี้เริ่มมีเหงื่อผุดออกมาทีละเม็ดแล้ว มือป้อมรีบควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าของตนแล้วบรรจงเช็ดออกให้หมด

                ตายแล้ว!! ตัวร้อนกว่าเดิมเลยอ่ะ

                “คยอง! รถมาแล้ว!!” เพื่อนตัวสูงส่งเสียงเรียกเพื่อนตัวเล็ก ก่อนจะวิ่งมาอุ้มร่างที่ไร้สติของหัวขโมยแล้ววิ่งไปที่รถทันที ทั้งสองรีบขึ้นไปบนรถและสั่งให้คนขับรถออกตัวโดยด่วน หัวทุยของหัวขโมยวางอยู่บนตักของคนตาโต มือป้อมก็จับมือเรียวพร้อมกับบีบเบาๆไปตลอดทาง ทันทีที่รถซีมูลีนสีดำออกตัวไป ร่างของชายหนุ่มสองสามคนก็ออกมาจากที่ซ่อน หนึ่งในสามคนนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นมาและกดออกไปหาปลายสาย


                “สำเร็จแล้วครับ ตอนนี้พวกเขากำลังพาจองกุกไปโรงพยาบาล 

     

    Update 

    -

    -

     

                “ติดใจร้านอาหารร้านนี้หรอ มาอีกแล้ว” เสียงนุ่มถามขึ้น พลางสอดส่ายสายตาเรียวไปบนเมนูหน้าลิ้มลองของร้านอาหารที่พวกเขามาเยือนถึงสองรอบแล้ว

                ร้านอาหารหน้าโรงพยาบาล

                “ใช่แล้ว! ร้านนี้อร่อยมากๆ” หญิงสาวตอบอย่างร่าเริงพร้อมกับสั่งอาหารอย่างชำนาญ แบคฮยอนได้แต่อมยิ้ม สายตาเรียวทอดมองออกไปนอกตัวร้าน รถยนต์มากมายแล่นไปมาอยู่บนท้องถนน แสงแดดก็เริ่มอ่อนลง... นี้มันก็จะบ่ายสองแล้วนี้ ชักเริ่มหิวขึ้นมาแล้วสิ

                ครืนนนน ครืนนน

                “ฮัลโหล...อื้อ อืมๆ อะไรนะ!” หญิงสาวหลงอุทานออกมาด้วยความตกใจหลังจากรับสายโทรศัพท์ ก่อนจะรีบลุกขึ้นและเดินไปทางหลังร้านอย่างว่องไว ทิ้งไว้แต่ความงุนงงที่วิ่งเต็มหัวของร่างโปร่งไปมา

                อะไรของเขา

                แบคฮยอนนั่งรอไปเรื่อยๆ ไม่นานอาหารหน้าตาน่าทานก็วางเรียงรายเต็มโต๊ะ แต่ร่างบางของสาวสวยยังไม่กลับมา แบคฮยอนไม่รอช้า ด้วยความที่หิวมาเต็มกำลัง จึงขอลงมือกินก่อนล่ะน้า...

                “แบคค่ะ!” เสียงเรียกดังขึ้น หลังจากที่ร่างโปร่งกำลังตักข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าเรียวเงยขึ้นมาสบตากับใบหน้าสวยที่ตอนนี้กำลังแสดงสีหน้าที่ดูจะไม่สบอารมณ์อย่างมากๆอยู่

                หน้ามุ่ยมาเชียวแหะ

                “มีอะไรอ่ะ”

                “คือว่า แทคงต้องขอตัวก่อนนะ พอดีว่า...มีธุระด่วน” หญิงสาวพูดพร้อมทำหน้าเจื่อน ความงุนงงในหัวของร่างโปร่งเริ่มเพิ่มทวีคูณ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป ใบหน้าเรียวพยักลงเล็กน้อยอย่างเข้าใจ หญิงสาวยิ้มร่า ก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มใสของแฟนหนุ่มแล้วเดินออกจากร้านไป

                น่าสงสัยจังแหะ...

                แบคฮยอนรีบตักข้าวใส่ปาก มือเรียวควักเงินจำนวนหนึ่งที่คิดว่าน่าจะพอสำหรับค่าอาหารวางบนโต๊ะ แล้ววิ่งออกจากร้าน เพื่อเดินตามร่างบางของหญิงสาวไป


               

    -

    -

     

     

                “นายๆ ถึงโรงพยาบาลแล้วนะ ถึงมือหมอแล้ว ไม่ต้องห่วงๆ”  เสียงพูดเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง มือป้อมยกขึ้นมาประคองใบหน้าเรียวของหัวขโมย ปากก็พึมพำบอกกับร่างที่ไร้สติ สายตากลมใต้กรอบหนาเริ่มไม่อยู่นิ่งกลิ้งไปมาอย่างร้อนใจ ทันทีที่รถเคลื่อนเข้ามาถึงภายในอาณาเขตของโรงพยาบาล ใจของคยองซูก็เต้นตุ้มต่อมๆ ไม่เป็นจังหวะแล้ว... จะทำไงดีถ้าเกิดนายนี้เป็นอะไรร้ายแรงล่ะ??

                “ทำใจดีๆไว้นะนาย”

                “ถึงแล้วๆ เปิดประตูเร็ว!!” เซฮุนพูดอยู่คนเดียวอย่างสติแตก ไม่ได้ๆ อนาคตของคุณหมอต้องมีสติ หายใจเข้าหนอ.. หายใจออกหนอ.. คนจะตายแล้วหนอ.. ทำไงดีหนอ... จะบ้าตายแล้วหนอ!!

                “อะแค่กๆๆ”

                “เซฮุน! เขาฟื้นแล้ว” ร่างเล็กเรียกสติของเพื่อนตัวสูงที่กระโจนออกไปจากรถไปเรียบร้อยแล้ว เสียงไอน้อยๆของหัวขโมยดึงความสนใจจากคยองซู ร่างเล็กยกมือขึ้นมาอังหน้าผาก ปรากฏว่ายังคงร้อนอยู่แต่ทุเลาลงบ้างแล้ว ปากบางของหัวขโมยพึมพำเบาๆ แต่คยองซูไม่ได้ยินจึงพยายามเงี่ยหูฟัง























                “ละ...ละ..ล้อ”











                หืม? อะไรนะ











                เสียงพูดขาดห้วงของคนบนตักทำให้คยองซูต้องก้มลงไปใกล้มากกว่าเดิม ตากลมโตก็หรี่ลงอย่างตื่นเต้น เมื่อกี้เขาพูดอะไรอ่ะ หลอๆ ฟันหลอ??



































                “ล้อ...เล่น”

                ฟอดดด

                ลมหายใจร้อนรดที่แก้มของคยองซูก่อนจะแทนที่ด้วยจมูกโด่งของหัวขโมยใต้ร่าง ร่างเล็กรีบยกหัวของตัวเองให้ถอยห่างจากใบหน้าเรียว ตากลมโตขยายออกอย่างกับจะทะลุออกจากแว่น ก่อนจะก้มลงไปมองใบหน้าของหัวขโมยบนตักที่ตอนนี้ส่งยิ้มมาให้อย่างน่ารัก

                “ล้อเล่น??”

                “ใช่ ล้อเล่น^ ^

                หมายความวะ...ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ คือการล้อเล่น??










































                เป็นลมดีกว่า ครอก!..


                “เฮ้ย!! นาย! นายน่ารัก นาย!!



     

    10 นาทีผ่านไป


     

                “จะมาหากันก็ไม่บอก โหยยย ทำซะใจหาย ทีหลังถ้าจะมาอย่าเล่นแบบนี้อีกนะเว้ย ใจกูตกไปอยู่ตาตุ่ม แม่.งง แล้วนี้ใครเนี่ย??”

                “อ่อ ไอ้หัวขโมยเมื่อกี้ ชื่อว่า จอนจองกุก เพื่อนใหม่กูเอง”

                “ไอ้สั.ส! เพื่อนมึงทำไว้แสบมาก เอาซะคยองซูเป็นลมไปเลย”

                “คนที่น่ารักๆชื่อคยองซูหรอมึง หน้าตาก็น่ารัก ชื่อยังน่ารักอีก...น่ารักเหี้.ยๆเลยว่ะสั.ส”

                “อย่าเลยๆ อย่าแม้แต่จะคิดที่จะจีบเพื่อนกู กูไม่อนุญาต กูหวง!!

                “ไอ้ขี้งก!!

                “แบร่ๆ...”

                “งืมๆ” เสียงครางหือในลำคอของคยองซู หยุดบทสนทนาของทุกคนไว้ จำนวนชีวิตทั้งหกบวกเซฮุนไปด้วยก็เป็นเจ็ดหลงหยุดหายใจไปชั่วขณะ...

                กลัวรบกวนคนกำลังตื่นนอน

                หลังจากที่เซฮุนกระโจนตัวออกจารถมาหวังจะวิ่งไปขอรถรับร่างของหัวขโมย แต่ทว่ากลับเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเพื่อนตัวดีของตนโผล่มาจ๊ะเอ๋แบบไม่ทันตั้งตัว ทำเอา....ผมนี้เหวอไปเลย...พวกมันบอกว่าเป็นการต้อนรับฉบับเพื่อนรักกัน ก็เหวอแดกสิครับ ไอ้สถานการณ์เมื่อกี้เป็นแค่การจัดฉาก แล้วที่ผมไม่รู้ก็เพราะว่า.. มันเล่นใช้ใครที่ผมไม่เคยเห็นหน้ามาเป็นหัวขโมยนะสิ!! แถมแบบ...แหม เนียนมากนะมึง เอาซะกูไม่รู้เลย คิดได้ดังนั้นว่าจะไปบอกเรื่องจริงกับคนตัวเล็ก แต่เมื่อไปถึงรถ ก็เห็นไอ้จองกุกนี้แบกร่างเล็กมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจากว่าคยองซูช็อคจนเป็นลม...เจริญเลยครับ - -

                ว่าแต่ก็ขอนัมจุนพูดบ้างเหอะ ไอ้ท่าครางหือในลำคอเมื่อกี้ทำไมมันช่างน่ารักน่าจับฟัดแล้วยัดเข้าปากซะเหลือเกิน บวกกับร่างบางๆเล็กๆน่าทะนุถนอมแล้วแบบ... ยิ่งตอนนี้ไม่ได้ใส่แว่นแล้วยิ่ง...

                แม่จ๋า ผมเจอคนที่ใช่แล้ว!!

                “งืม แง่บๆ”

                น่ารักอีกแล้วครับท่านนนน ข้าน้อยกำลังจะตาย โดนความน่ารักแอคแทค!

                “ง่ำๆ ที่นี้ที่ไหนอ่ะ...เซฮุน...เซฮูนนนนน” ใบหน้ากลมงัวเงียอย่างเต็มกำลัง ปากอิ่มเริ่มส่งเสียงเป็นเด็กๆ สติของคยองซูผู้นี้ไม่เหลือแล้วครับ หายไปหมดแล้ว ใครก็ได้ช่วยความตามหาให้ที ผมจ้างร้อยล้านวอน เพราะถ้ายังปล่อยไว้เป็นแบบนี้....

                คนตัวเล็กอาจจะไม่รอด...

                “งืมๆ ง่วง”

                อะเฮือก น่ารักได้อีก

                ร่างเล็กนั่งตัวตรง อ้าปากหาววอดๆ ก่อนจะยกมือป้อมขึ้นมาขยี้ตา แต่ก็ถูกมือหนาของเซฮุนห้ามเอาไว้ ไอ้เชี่.ยฮุน มึงจะห้ามทำไม กูกำลังจะชื่นชมความน่ารัก สั.ส!!

                “อย่าขยี้เดี๋ยวจะบวม”

                “อือ ไม่ขยี้ๆ”

                กรี๊ดดดด ช่วยนันจุนคนนี้ด้วยยยย

                “เซฮุน ที่นี้ที่ไหนอ่ะ” ปากอิ่มเอ่ยถามเพื่อนตัวสูงพร้อมกับควานหาแว่นตาของตน แต่ก็หาไม่เจอ สายตากลมโตสอดส่ายไปมาอย่างเบลอๆ แต่ก็ถูกมือขงใครไม่รู้ประคองหน้าของตนเอาไว้ให้ตั้งตรงและอยู่นิ่ง ก่อนจะมีแว่นตาของตนสวมลงมาอย่างเบามือ





                ถ้าไอ้พี่ก้ามันสวมพลาดจนทิ่มตาน้องคยอง นันจุนคนนี้จะหัวเราะ ฮ่าๆๆ เอ๊ยๆ! ไม่ใช่ๆ จะกระทืบมัน โทษฐานที่มันทำให้น้องเขาต้องเจ็บ!


                จริงจังนะมึง


                “อ๊ะ! ขอบคุณครับ...”

                ….

                น้องคยองแดกจุด... ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาสบตากับไอ้ก้าก่อนจะเริ่มสอดส่ายไปทั่วห้อง ตากลมที่โตอยู่แล้วกลับขยายขึ้นจนมันแทบจะถลนออกมา

                ไอ้ก้า!! มึงทำน้องตกใจจนตาโปนออกแล้วมึง!

                “ใครอ่ะ??” คำถามซื่อๆ ตรงๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงเอ่ยออกมาจากปากอิ่ม คิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าหวานหันไปสบตากับเพื่อนตัวสูง มือป้อมยกขึ้นมาเขย่าแขนเพื่อนไปมาอย่างร้อนรน

                ขอถุงใส่น้องคยองกลับบ้านหน่อยครับ นัมจุนคนนี้จะเอาน้องเขาไปเลี้ยง น่ารักซะเหลือเกิน...ว่าป่ะไอ้ก้า {--- นัมจุน

                อือ...คนอะไรน่ารักชิบหาย... {--- ซูก้า

                พี่ๆ ผมจอง {--- จองกุก

                เงียบไปเลยมึง!! {--- นัมจุน

                มึง กูขอ {--- จิน

                ไอ้สั.ส!! {--- นันจุน+ซูก้า

                พวกพี่แม่ง - - {--- จีมิน+เจโฮป

                (พวกมันคุยกันได้ไงว่ะ - -)

                “เพื่อนๆเค้าเอง เพื่อนเก่าสมัยไปเรียนซัมเมอร์ที่อเมริกานะ” เซฮุนพูดพร้อมกับลูบหัวทุยๆของคนตัวตัวเล็กเบาๆ ท่ามกลางสายตาอิจฉาของสิ่งมีชีวิตในห้อง

                “อ่อ...แล้วนั่น! คนนั่นก็เพื่อนแป๊ะหรอ นี้นายมีเพื่อนเป็นหัวขโมยหรอ? แล้วนี้...นายนั่นบอกว่าล้อเล่นแหละ เห้ย! เค้าางงไปหมดแล้ว หรือว่าแป๊ะ นายรู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ย!!?” คนตัวเล็กพูดวกไปวนมา สายตากลมโตจ้องมองเพื่อนอย่างจับผิด

                เชี่.ย!! น้องแม่งน่ารักเกินไปแล้ว ขนาดทำตาขวางยังน่ารัก ยังงี้ต้องโดนปรับ โทษฐานไม่ชะลอความน่ารักในเขตชุมชน+แออัดด้วย

                “ฮ่าๆๆ เตี้ยน่ารักอีกแหละ”

                “อะไร!! ใครว่ากัน”

                “ฮ่าๆๆ”

                แหมๆ มีตงเตี้ย กูอิจฉาโว้ยยยย

                “นี้ๆ เดี๋ยวแนะนำให้รู้จักทีละคนเลย...คนนี้ชื่อ จินนะ ถึงจะพูดว่าเพื่อนแต่ก็แก่กว่าเราปีนึงแหละ” เซฮุนผายมือไปทางร่างสูงของจิน...
     



                “อ่อๆ สวัสดีฮะ”

                “คนนี้ นัมจุน พี่เราเหมือนกัน"
     



                “สวัสดีครับ”คยองซู

                “หวัดดีครับ” นุมจุน

                “คนนี้...พี่ซูก้า”
     



                “อ่อ...คนที่ใส่แว่นให้เราป่ะ ขอบคุณนะคร้าบบ”

                น้องจำกูได้ คริๆ {--- ซูก้า

                คริพ่.องงง!! {--- นัมจุน

                “ส่วนคนนี้ เจโฮป...”
     



                “...แล้วก็จีมิน”
     




                “สวัสดีคร้าบ” คยองซู

                “ส่วนคนนู้น คนสุดท้าย ชื่อ จองกุก” เซฮุนผายมือไปทางร่างของหัวขโมยในสายตาของคยองซู คยองซูยิ้มแหยๆให้เล็กน้อย...

     





    แล้วพวกเขามาทำอะไรกันอ่ะ

                “นี้ๆ แล้วพวกเขามาหาเราทำไมหรอ”

                “อ่อ! แค่มาเล่นด้วยเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอกนะ”































                หวังว่านะ....


               

                















    ___100%
    ยิปปี้! ไรท์เตอร์คัมแบค ว่าแต่ BTS มาไง ฮ่าๆ
    คือว่าเราวางโครงไว้แล้วว่าจะมีแขกรับเชิญมาร่วมด้วยสักหน่อย 
    เห็นว่าบุคลิกของพวกเขามัน...อ่ะนะ ตรงกับเค้าโครงไว้ ถ้ามันบิดเบือนจากความจริงไป
    Exo-L แล้วก็ A.R.M.Y จะรุมฆ่าเราป่ะเนี่ย แหะๆ
    ขอโทษด้วแล้วกันนะ สนุกไม่สนุกก็ขอเชิญเม้นเป็นกำลังใจให้เราด้วยยยย 
    ขอบคุณที่มาอ่านกันนะค่ะ



    แต่ว่าฟิคเรื่องนี้เหมือนจะมีแต่ฉากกินนะเนี่ย เปลี่ยนชื่อเรื่องดีไหม - -
    จาก Givelove เป็น Givefood - -

    แถมๆ พวกนางน่ารักดี 


     

     

     









     




    ยังงี้ต้องส่งน้องคยองไปสู้!!








































    ชนะขาดลอยเพราะรูปสุดท้าย กรี๊ดดด ฝันดีนะจ๊ะที่รัก

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×