ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิ ก ฤ ติ ก า ร ณ์ ฆ่ า ล้ า ง โ ล ก

    ลำดับตอนที่ #8 : HINT -+:: คำใบ้ ::+- (1)

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 49


    ตอนที่ 7 : HINT -+:: คำใบ้ ::+- (1)


                   
    "ปล่อยน่ะโว้ย!" ผมก้มตัวลงหยิบเศษไม้ที่แตกกระจายอยู่ข้างตู้เสื้อผ้าขึ้นมา และฟาดมันเข้าไปจนเต็มแรง เศษไม้ขนาดเหมาะมือที่ผมถืออยู่แตกละเอียดทันทีเมื่อสัมผัสเข้ากับร่างกายที่สุดแสนจะกำยำของมัน มันละสายตาจากฮันจีและหันกลับมามองผมทันที ผมปาเศษไม้ที่เหลืออยู่ในมือที่มีขนาดไม่ถึงยี่สิบเซนติเมตรออกไปและเศษไม้ที่อยู่ในมือของผมนั้นก็กระแทกเข้ากับใบหน้าของมันอย่างจัง

                    "อ๊ากกกก!!!!!!"

                    ให้ตายซิมันส่งเสียงคำรามออกมาไม่เป็นภาษา เพราะเศษไม้เศษเล็กๆ ที่มีขนาดเท่ากับไม้จิ้มฝันแทงเข้าไปในลูกตาของมัน มันใช้มือซ้ายกำลูกตาของมันเอาไว้แน่น และวิ่งเข้ามาใกล้ผมและอัดตัวของผมติดเข้ากับผนังของห้องๆ นี้อย่างแรง อาการชาอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วหลังของผมทันที


                   
    เลือดมากมายพุ่งออกมาจากปากของผม "แค่ก แค่ก" ตัวของผมล้มลงกับพื้นผมใช้มือข้างขวายันพื้นเอาไว้ แล้วใช้มือข้างซ้ายกุมท้องของตัวผมเองเอาไว้แน่น ความเจ็บปวดคล้ายไส้กำลังจะขาดเกิดขึ้นอีกครั้ง "แค่ก แค่ก" เลือดมากมายพุ่งออกมาจากปากของผมเป็นระยะๆ น้ำตาของผมก็ไหลทะลักออกมามากมายเช่นกัน


                   
    วี๊ดดดดดดดดด
    ~~~~~~~ ผมเงยหน้าขึ้นมองแสงสีฟ้าที่ค่อยๆ สว่างจ้าขึ้นจากสิ่งที่อยู่ในมือขวาของมันอีกครั้ง

                    "หยุด! ถ้ายังไม่อยากไอนี่ตาย…" ผมหันกลับไปมองเสียงที่ดังขึ้นมาจากประตูห้อง จอร์นนี่! เขาพูดออกมาพลางหอบเพราะความเหนื่อยสังเกตได้จากเม็ดเหงื่อที่พุดขึ้นมาทั่วใบหน้าของเขา คุณก็ขึ้นมาด้วยงั้นหรอ? มันเกิดอะไรขึ้นที่ข้างล่างกันแน่ผมมองสิ่งที่อยู่ในมือขวาของจอร์นนี่ และสิ่งที่อยู่ในมือของเขา ก็ทำให้แสงสีฟ้าที่อยู่เบื้องหน้าของผม ค่อยๆ หรี่ลงและหรี่ลงเรื่อยๆ จนแสงนั้นหายไป


                   
    "ตัวของไอนี่นิ่มอย่างกะเยลลี่ ฟาดเข้ากับผนังห้องที่เดียวก็เละแล้ว ลองดูมั้ยละถอยห่างออกมา! เดี๋ยวนี้!" จอร์นนี่เริ่มขู่ จอร์นนี่ยกทายาทของพวกมันที่เป็นร่างทารกสูงขึ้น และทำท่าจะฟาดมันเข้ากับผนังห้อง "ถอยไปไงเล่า! บอกให้ถอยไปไม่ได้ยินหรือไงห๊ะ! ทุกคนออกมา!" จอร์นนี่ บอกกับทุกคนที่กำลังแอบอยู่ แม็กลากอเล็กซ์ที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วออกมาจากใต้เตียง ส่วนฮันจีก็อุ้มเด็กสาวตัวน้อยที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าออกมาเช่นกัน


                   
    "อย่าคิดน่ะว่าฉันไม่รู้ว่าการเจริญเติบโตของพวกแก ในแต่ละร่างมันแตกต่างกันตรงไหน ถุย!" จอร์นนี่ถุยน้ำลายลงพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นมองตัวไอตัวใหญ่ที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงชัยชนะ ก่อนที่มันจะแสยะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ผมไม่รู้ความหมายของรอยยิ้มของมันเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่ง

                    "จอร์นนี่!!!" เสียงของเจคที่ฟังดูแล้วคล้ายกับคนใกล้จะหมดแรงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลังของจอร์นนี่อีกที ผมรีบหันขวับไปมองดูทันที แล้วผมก็พบกับสีหน้าของเจคที่แสดงออกมาถึงความตื่นกลัวและตกใจสุดขีด


                   
    "อั๊ก!" เสียงร้องที่ฟังดูจุกดังขึ้นมาจากปากของจอร์นนี่ ทำให้ผมหันกลับไปมองจอร์นนี่ที่ยืนพิงประตูอยู่


                   
    "จอร์นนี่!" ผมตะโกนดังขึ้นด้วยความตกใจ จอร์นนี่โดนอะไรบางอย่างเสียบผ่านท้อง จนเลือดมากมายไหลออกมาไม่หยุด จอร์นนี่ปล่อยทายาทร่างทารกของพวกมันลงสู่พื้น แล้วล้มตัวลงนอนอย่างคนไร้เรี่ยวแรง เขาใช้มือทั้งสองข้างกุมแผลที่ท้องของตัวเองเอาไว้แน่น


                   
    "จอร์นนี่!" อเล็กซ์ที่ยืนอยู่ข้างผม วิ่งเข้าไปหาจอร์นนี่ที่กำลังนอนตัวขดเป็นกุ้งอยู่โดยทันที และเสียงร้องครวญครางไม่เป็นภาษาของจอร์นนี่ก็ทำให้ผมแทบบ้า เพราะรูโหว่ที่ท้องมันไม่ใช่รูเล็กๆ เลย


                   
    "เฮ้! ทำใจดีๆ เอาไว้ เฮ้! อย่าพึ่งเป็นอะไรไป เฮ้!" อเล็กซ์เริ่มเขย่าตัวของจอร์นนี่ไม่หยุด


                   
    "อะ...อะ...อเล็กซ์" อีกแล้ว เอาอีกแล้วเสียงของเจค ผมกวาดสายตามอง แล้วก็พบเข้ากับเด็กผู้ชายที่มีอายุประมาณสิบห้าปี เด็กผู้ชายคนนั้นกำลังยืนอยู่ด้านหลังของจอร์นนี่ที่กำลังนอนขดตัวอย่างทุกข์ทรมานอยู่

                    เด็กผู้ชายคนนั้นมองผมแล้วดวงตาสีแดงเพลิงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพร้อมๆ กับที่มันยกมือข้างขวาขึ้นแล้วเริ่มเลียเลือดเลือด! มันใช่มือแทงผ่านmhv'ของจอร์นนี่งั้นหรอ  มันยังคงจ้องมองผมด้วยแววตาที่เรียบนิ่งอยู่เช่นเดิม แล้วมันก็ขยับมือข้างซ้ายและยกของบางสิ่งที่อยู่ในมือข้างซ้ายขึ้น

                    "เจค!!!" พวกผมทุกคนยกเว้นจอร์นนี่ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตกใจสุดขีด มันส่งยิ้มมุมปากให้ผม แล้วเหวี่ยงตัวของเจคเข้าไปชนกับตัวของจอร์นนี่ที่นอนขดตัวอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน และในเสี้ยววินาทีแรกที่ตัวของเจคสัมผัสเข้าแบบตัวของจอร์นนี่อย่างจัง จอร์นนี่ก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดฟังไม่เป็นภาษา เลือดที่เคยซึมออกมาทีล่ะนิด ตอนนี้มันกลับทะลักออกมาไม่หยุดอย่างกับน้ำที่ไหลออกมาจากก๊อกอย่างไงอย่างงั้น


                   
    "อเล็กซ์..." จอร์นนี่พูดขึ้นด้วยเสียงอันแผ่วเบา พร้อมกับยัดของบางสิ่งลงไปในกระเป๋าเสื้อกันหนาวของอเล็กซ์  "เก็บไว้...คำตอบ...อยู่ในนั้น...ฝะ...ฝาก...ดะ...ด้วย..."


                   
    "จอร์นนี่ เฮ้ย! มันไม่ตลกเลยน่ะ ไม่เลย...มันไม่ตลกเลย ตื่นซิ ลืมตา! ลืมตาซิโว้ย อย่าตาย...อย่าตายนะ ไม่……อย่าตาย!" อเล็กซ์ร้องคร่ำครวญพลางเขย่าตัวของจอร์นนี่ ไม่มีเสียงตอบใดๆ จากจอร์นนี่ มีแค่เพียงรอยยิ้มมุมปากจากพวกมันเท่านั้นที่เป็นคำตอบ

                    ผมก้มลงมองไปยังร่างของเจคกับจอร์นนี่ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นกระเบื้อง พนันได้เลยว่าพวกเขาไม่ได้หายใจอีกต่อไปแล้ว ผมก้มตัวลงแล้วคว้าเอาของที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อกันหนาวของอเล็กซ์ขึ้นมา มันคือยาของฮันจีกับแผ่นซีดี ผมส่งยาให้ฮันจีแล้วเก็บแผ่นซีดีไว้กับตัวเอง ผมยืนขึ้นอีกครั้งอย่างคนสิ้นหวังแล้วอุ้มเด็กสาวที่ยังสลบอยู่ในอ้อมกอดของฮันจีขึ้นหลังของผม


                   
    คำตอบทั้งหมดมันอยู่ในแผ่นซีดีแผ่นนี้ผมต้องเปิดมันดูให้ได้...


                   
    วี๊ดดดดดดดด~~~~~~ ผมเบิกตาโตกว้าง เมื่อผมเห็นมันกำลังเล็งสิ่งที่อยู่ในมือขวาของมันมาทางผม แสงสีฟ้าเริ่มส่องสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง ผมหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ที่ประตูก็มีไอตัวที่ฆ่าจอร์จนี่กับเจคอยู่ ส่วนเบื้องหลังของผมก็เป็นกำแพง...เอ๊ะ!...กำแพง...ใช่แล้วกำแพง ความคิดดีๆ ผุดขึ้นมาในหัวสมองผม ผมยืนยิ้มอย่างใช้ความคิดแล้วมองไปยังสิ่งที่อยู่ในมือขวาอย่างใจจดใจจ่อ มันพยายามจะฆ่าผมแต่ผมนี่แหละที่จะเป็นคนฆ่ามันเอง


                   
    ฟึม! แสงสีฟ้าโพยพุ่งออกมาอย่างทุกครั้ง ผมใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักทุกคนข้างผมให้ลมลงไปกองกับพื้นแล้วตัวผมเองก็ก้มลงกับพื้นด้วยความเร็วเช่นกัน ผมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น ผมฉุดมือของอเล็กซ์กับฮันจีและแม็กให้ลุกขึ้น

                    "วิ่ง!" ผมตะโกนร้องบอกทุกคน กำแพงเบื้องหลังผมที่เคยเป็นกำแพงสูงตั้งตระหง่านบัดนี้กลายเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่พอที่จะพาร่างของผมกับทุกคนผ่านเข้าไปยังอีกห้องหนึ่งได้อย่างสบาย ผมผลักให้ทุกคนวิ่งนำออกไปก่อน เพราะผมยังมีเด็กผู้หญิงอีกคนที่อยู่บนหลัง

                    ผมกระโดดและวิ่งข้ามผ่านรูโหว่นั้นเข้าไปยังอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน อเล็กซ์เปิดประตูห้องที่พวกเราอยู่กันตอนนี้ แล้ววิ่งนำไปยังทางเดินยาวและลงบันไดไปยังชั้นสอง ผมซึ่งวิ่งตามหลังมาเป็นคนสุดท้ายก็วิ่งตามอเล็กซ์ลงไปด้วย ถึงแม้ตอนนี้ในหัวของผมมีคำถามมากมายนับสิบยี่สิบคำถามที่อยากจะถาม... แต่ผมก็ต้องห้ามปากเอาไว้ แล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไป...และวิ่งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

                    ผมกับทุกคนวิ่งลงบันไดผ่านชั้นสอง และวิ่งออกไปยังประตูหน้าของโรงพยาบาลที่ชั้นหนึ่ง ด้วยความรวดเร็ว ผมเหนื่อยหอบ...ใจจดจ่อแต่เพียงว่า...เราจะต้องกลับไปให้ถึงข้างล่างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตามอเล็กซ์ แม็ก และก็ฮันจีไป พนันได้เลยว่าเธอดื่มยาลงไปแล้ว เพราะผมไม่เห็นอาการเหนื่อยหอบหรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกได้ว่าเธอไม่สบายอยู่เลย

                    "พี่คะ...พี่..." ผมเหลือบตาหันไปมองเด็กสาวที่ใช้หน้าซบอยู่บนแผ่นหลังของผมอยู่


                   
    "ตื่นแล้วหรอ" ผมตอบกลับไปขณะที่ยังวิ่งอยู่บนพื้นหิมะ...ที่มีความหนาน้อยกว่าครั้งแรกอยู่มาก

                    "พ่อหนูละคะ"


                   
    "พ่อ?...พ่อเธอเป็นใคร..."


                   
    "พ่อ...พ่อ...โดนพวกนั้น...จับตัวไป...แล้ว...แล้วก็…" ผมได้แต่นึกภาพและนิ่งเงียบไม่ตอบเธอ...คุณรู้ดีว่าชายผู้ซึ่งคนที่เธอเรียกว่าพ่อ... ได้ด่วนจากโลกนี้ไปเสียแล้ว และเธอก็อาจจะรู้คำตอบนั้น...เธอจึงได้แต่นิ่งเงียบ และในอีกไม่นานเท่าไหร่นักผมก็สัมผัสได้ถึงความชื้นที่เกิดขึ้นบนแผ่วหลังของผม มันอาจจะเป็นน้ำตาหยดน้อยๆ ที่ไหลรินออกมาจากดวงตาของเธอก็เป็นได้

                    ผมยังคงวิ่งตามพวกของผมต่อไป แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า...ฮันจีจะขึ้นมาทำไมในเมื่อ...ผมบอกให้เธอรอ

                    "ฮันจี! เธอขึ้นมาทำไม!" ผมตะโกนร้องถาม...


                   
    "ก็!..." เธอตะโกนตอบกลับมาแล้วหันมามองหน้าผม เธอหยุดวิ่งเพื่อรอผม "ก็...ฉันอยากเจอนายไงละ" ควันที่โพยพุ่งออกมาจากปากของเธอพร้อมกับคำพูด ทำให้ผมแอบอมยิ้มเล็กๆ ส่วนเธอ...ก็เอาแต่บิดเขินอายแล้ววิ่งนำหน้าผมไปอีกครั้ง

                    ตึ่ง! เสียงกระหึ่มดังขึ้นทำลายอาการดีใจทั้งหมดที่ผมรู้สึกเมื่อครู่ไปเสียหมด แผ่นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย อเล็กซ์กับแม็กที่วิ่งนำหน้าผมไป ก็หันหลังและวิ่งกลับมาโดยเร็วพร้อมกับใบหน้าที่แตกตื่น

                    "หลบเร็ว…" เขาแทบจะกระซิบบอกผม เด็กสาวที่อยู่บนหลังของผม เงยหน้าขึ้นมองทุกคนด้วยดวงตาที่เบิกกว้างโตจนผิดปกติ


                   
    "เกิดอะไรขึ้น?" ผมถามอเล็กซ์พลางวิ่งตามพวกเขาไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ผมนั่งพักเอาหลังพิงต้นไม้พร้อมกับเหนื่อยหอบ เด็กสาวลงจากหลังของผม ผมไม่รอช้าคว้าเอาเสื้อกันหนาวที่คาดเอาไว้ที่เอวขึ้นมาใส่ในทันที...

                    ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างพากันเหนื่อยหอบ ผลัดกันหายใจไม่เป็นจังหวะ "เกิดอะไรขึ้น? ตรงนั้นมีอะไร?" ผมถามอเล็กซ์กับแม็กอีกครั้ง พวกเขาทั้งสองสบตาผม...และผมก็สบตาพวกเขาเช่นกัน


                   
    "อาจจะ...อาจจะเป็นยานขนส่ง..." แม็กตอบผมพลางเหนื่อยหอบไม่หาย


                   
    "ยานขนส่ง?" ผมทวนคำที่แม็กบอกผมอีกครั้ง แล้วผมก็เหลือบไปมองเด็กสาวที่ผมยังไม่รู้จักชื่อกับฮันจีที่กำลังคุยกัน พวกเขาอยู่ห่างจากผมไปไม่มากนัก


                   
    "ใช่...ยานขนส่ง พวกมันเต็มไปหมดมันออกมาเยอะแยะเต็มไปหมด…" อเล็กซ์พูดอย่างเหนื่อยหอบพลางจ้องมองเข้ามาที่นัยน์ตาของผม ผมหันขวับกลับไปมองอเล็กซ์ด้วยความตกใจทันที เมื่อได้ยินคำที่ว่า 'พวกมันเต็มไปหมด...มันออกมาเยอะแยะเต็มไปหมด' พวกมัน...พวกมัน...คงคิดจะฆ่าพวกเราบนโลกทิ้งให้หมดเป็นแน่แท้

                    "กรี๊ดดดดดดดด~~~~" ผมสะดุ้งพร้อมกับกระโดดลุกขึ้นยืนด้วยความเร็วทันที ผมมองไปยังเด็กสาวตัวน้อยผู้เป็นเจ้าของเสียงกรี๊ดที่ดังลั่น


                   
    ฮันจีจับเด็กสาวคนนั้นไว้แน่นแล้วค่อยๆ เดินถอยหลังไปบนพื้นหิมะ สังเกตได้ว่าเธอกำลังกลัวอะไรบางอย่างจนตัวสั่น... น้ำตาของฮันจีค่อยๆ ไหลรินลงอาบแก้ม เธอกลัวอะไร? ที่ผมไม่เห็นสิ่งที่เธอกลัวนั้นเป็นเพราะต้นไม้ต้นมหึมาที่ขวางหน้าผมอยู่...ผมจึงรีบวิ่งไปจับตัวของฮันจีที่สั่นเทาเอาไว้ ผมมองไปยังสิ่งที่เธอกำลังมองอยู่ แล้วผมก็ต้องเบิกตาโตกว้างอีกครั้งด้วยอาการตกใจสุดขีด

                    "แม็ก อเล็กซ์ วิ่ง! วิ่งเร็ว! วิ่ง!" ผมตะโกนบอกทุกคนเพื่อให้พวกเขาลุกขึ้นแล้วออกตัววิ่งอีกครั้ง ผมไม่รอช้า...รีบฉุดฮันจีให้ออกตัววิ่งทันที "ฮันจี วิ่งไป! วิ่งนำไปเลย! เร็ว!" ฮันจีวิ่งนำผมและตามอเล็กซ์กับแม็กไปอย่างที่ผมบอก ส่วนผมก็คงจะต้องวิ่งรั้งท้ายดั่งเดิม


                   
    เครื่องจักรกลขนาดใหญ่... ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องบินสเต้ล มันมีขนาดใหญ่มากและใหญ่มากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักกับเครื่องบินสเต้ลมา แต่...มันก็ไม่ค่อยสำคัญซักเท่าไหร่หรอกที่มันจะดูคล้ายกับอะไรหรือว่ามันจะมีขนาดใหญ่ซักแค่ไหน แต่มันสำคัญตรงที่มันกำลังบินตรงดิ่งมาทางพวกผม เด็กสาวเริ่มวิ่งช้าลงเรื่อยๆ จนตอนนี้เธอกำลังวิ่งอยู่เป็นคนสุดท้ายรั้งท้ายแทนผมซะแล้ว ผมหันกลับไปมองเด็กสาวที่กำลังวิ่งตามหลังของผมอยู่ด้วยอาการเหนื่อยหอบ แต่
    ตาของผมดันเหลือบไปเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ แสงสีฟ้าที่ผมเคยเห็นมาไม่รู้ที่สิบครั้งก็เกิดส่องสว่างขึ้น แสงนั่นมันเล็ดลอดออกมาจากรูเล็กๆ ที่อยู่ใต้ท้องเครื่องบินที่ดูคล้ายเครื่องบินสเต้ลลำนั้น


                   
    แสงสีฟ้าที่ดูคล้ายกับลำแสงของสิ่งที่อยู่ในมือขวาของพวกมัน ถูกปล่อยออกมาคล้ายกับแสงเลเซอร์ที่ถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืนอันใหญ่ ฟึม
    ! ฟึม! ฟึม! ฟึม! ลำแสงนั่นถูกกวัดแกว่งไปทั่วบริเวณพื้นหิมะแล้วสิ่งที่ผมไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นตรงหน้า เด็กสาวตัวน้อยวิ่งสะดุดล้มลงไปนอนกองกับพื้น!

                    ฮันจีหันกลับมาเพราะได้ยิงเสียง ฟึมๆ ที่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง "ลิซ!!!" เธอตะโกนร้องขึ้นเสียงดังเมื่อเธอเห็นเด็กสาวตัวน้อยล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น

                    "ลิซ! ลุกขึ้น! เร็วเข้า!" ผมตะโกนบอกเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะขยับตัวไม่ได้ "ฮันจีวิ่งไปเร็วเข้า วิ่งไป!"

                    ผมที่มองดูเหตุการณ์อยู่ ผมจึงไม่รอช้ารีบวิ่งตรงเข้าไปหาเครื่องบินของพวกมัน เพื่อช่วยชีวิตของเด็กสาวที่ชื่อลิซคนนี้ทันที

                    "พี่คะ...ช่วยหนูด้วย!"

    ==========
    อัพครั้งแรก เดือนสิงหาคม 2548

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×