ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Act.3 \"ฉันจะคบกันนาย.......\"
    ใจของฉันเจ็บจริงๆ เจ็บมากๆ เลยทำไมมันถึงรู้สึกแบบนี้ล่ะ เหมือนว่าหัวใจกำลังจะแหลกเลย ฉันควรจะทำยังไงดี
    “คุณหนูฟ้าใสค่ะ”
    “ค่ะ”
    พี่ส้มเคาะประตูและพูดชื่อฉัน
    “คุณหนูค่ะ เตรียมอาหารกลางวันไว้แล้วน่ะค่ะ เชิญข้างล่างเลยค่ะ”
    “ค่ะๆ”
    ฉันวิ่งพลวดออกมาจากห้องและเดินตามพี่ส้มพี่เลี้ยงของฉันลงไปฉันล่าง โต๊ะรับประทานอาหารทรงวงรีขนาดใหญ่ที่ห้องอาหารมีกับข้าวตั้งเต็มไปหมด เก้าอี้ที่ตั้งไว้ทั้งหมดสี่ตัวมีคนนั่งไปแล้วสามที่ ทางฝั่นซ้ายของโต๊ะ มีนายภูผากับผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่แล้วก็น้าเสริมและที่นั่งว่างอีกหนึ่งที่ น่าจะเป็นของฉัน ฉันเดินตรงเข้าไปและค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้อย่าหดหู่ใจ
    “ป๋าแจ๋วตักข้าว”
    นายภูผาสั่ง ดูซิดูผู้หญิงคนนั้นทำไมต้องนั่งชิดกับนายภูผามากขนาดนั้น แล้วฉันเป็นบ้าอะไรของฉันทำไมฉันต้องอิจฉาตาร้อนอย่างงั้นด้วย (- - )( - -)(- - )( - -) ฉันส่ายหัวหงิกๆ
    “เธอทำอะไรของเธอ กินข้าวได้แล้ว ส่ายหัวอยู่ได้”
    เขาว่าฉัน T^T ฉันคงไม่เคยทำอะไรถูกเลยล่ะมั้งในสายตาเขา ฉันก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเรื่อยๆ  ผู้หญิงคนนั้นเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้นายภูผาเรื่อยๆ ดูนั้นซิดูเขาทำ ผู้หญิงคนนั้นจำป้อนข้าวนายภูผาแต่...
    “ฉันกินเองได้ไม่ต้อง”
    “ภูผาปกติเธอก็ให้ฉันป้อนนี่ แล้วทำไม”
    “เงียบ!”
    ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับคนทั้งสองคนนี้
    “น้าเสริมค่ะ หนูอิ่มแล้วล่ะค่ะ ขอตัวไปที่อื่นก่อนน่ะค่ะ”
    “อ้าวทำไมล่ะ”
    น้าเสริมถามอย่างฉงน
    “โอเค งั้นส้มไปกับคุณหนูฟ้าใสหน่อย”
    “ค่ะ”
   
    ฉันลุกออกจากที่นั่นอย่างไม่รอช้า และเดินจ้ำอ้าวไปที่สวนหน้าบ้าน และนั่งลงบนโต๊ะทรงกลมที่มีเท้าอี้สี่ตัวร้อมรอบพี่ส้มก็นั่งลงข้างฉัน
    “พี่ส้ม นั่นแฟนเขาหรอ”
    “ช่าย ^-^”
    “แล้วกระต่ายพวกนั้นล่ะ”
    ฉันเปลี่ยนเรื่องดีกว่าก่อนที่พี่ส้มจะจับได้ ฉันชี้นิ้วไปที่รั่วที่ร้อมรอบกระต่ายพวกนั้น
    “อ๋อ เป็นของคุณท่านกับคูณหนูภูผา”
   
    กลางวันวันนั้นฉันได้รู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับที่นี่ คูณตาและร่วมถึงนายภูผานั้นด้วย พี่ส้มตอบคำถามที่ฉันถามทุกอย่าง
    “เหมือนที่คุณท่านเล่าให้ฟังจริงๆ”
    “เรื่องอะไรค่ะ”
    “เรื่องนิสัยของคุณหนูไงค่ะ คุณท่านอย่างให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงคุณหนูเพราะคุณหนูมีนิสัยแบบนี้ทำให้คนทุกคนทั้งโลกยิ้มได้ทั้งๆ ที่เศร้าออกอย่างนั้น”
    “เศร้า ใครเศร้าค่ะ”
    “อ่อ เปล่าจ๊ะ”
    อ๊ะ! นั้นนายภูผากับผู้หญิงคนนั้นนี่ ฉันจ้องตาไม่กระพริบ อ้าวนายภูผาไม่ได้ไปส่งผู้หญิงคนนั้นที่บ้านหรอกเหรอ เขาเหลือบมองฉัน
    “เฮ้ ยัยบ๊องมานี่หน่อย”
    “ฉัน”
    ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
    “เธอนั้นแหละ”
    ฉันวิ่งไปหานายภูผา
    “คือนี้ ไปเที่ยวกันน่ะไปร้านเพื่อนฉัน”
    “แต่ฉันพึ่งจะสิบแปด”
    “ช่างประไร ร้านเพื่อนฉันไม่เป็นไรหรอก”
    “อะ...อืม ไปก็ได้”
    “ฉันจะรอที่ห้องรับแขกตอนสองทุ่ม”
    ฉันพยักหน้าและมานั่งกับพี่ส้มเหมือนเดิม
    “เรียกไปคุยอะไรหรอ”
    “^-^ เขาชวนหนูไปเที่ยว”
    “หรอจริงหรอ ไปซิไป เดี๋ยวพี่จะแต่งตัวให้เริ่ดเลยโอเคมั้ย”
    “ค่ะ”
    หนึ่งทุ่มสิบนาที ฉันอาบน้ำสระผมเสร็จฉันเดินออกมาจากห้องน้ำและประชันหน้ากับพี่ส้ม พี่ส้มหยิบตาแล้วถามว่า
    “พร้อมยัง”
    “เอาเลย”
    พี่ส้มจัดแจงแต่งตัวให้ฉันก่อนเลยเป็นอันดับแรกที่เขาเลือกก็คือ เสื้อแขนสั้นรัดรูปสีชมพูและกระโปรงตัวพลิ้วสีขาว และรองเท้าแตะหนีบสีดำที่มีลายหมีสีชมพูติดอยู่ตรงหัวรองเท้า จากนั้นพี่ส้มเริ่มมาทำผม เขาหนีบผมให้ฉันตรงเด่เลยและก็เริ่มแต่งหน้า ปากที่เป็นสีชมพูอ่อนอยู่แล้วเขาทาลิปกอตที่ไม่มีสีให้ฉันทำให้มันดูมัมวาว ที่แก้มพี่ส้มเขาก็ปัดให้เป็นสีชมพูอ่อน
    “เสร็จและจ้า”
    ฉันมองกระจก ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองคงไม่ต้องบอกมันสวยเกินกว่าที่ฉันคาดไว้เยอะเลย ฉันหันไปยิ้มให้พี่ส้มและค่อยๆ เดินลงบันไดมาอย่าช้าๆ กับกระเป๋าใบน้อยสีชมพู
    “อ่อ คุณหนู”
    น้าเสริมพูดขึ้น เสียงเรียกของน้าเสริมทำให้ นายภูผาหันมามองฉัน และมองฉันอยู่นาน - -
    “ไปกันได้แล้วครับ งั้นผมจะไปสาร์ทรถน่ะ”
    น้าเสริมวิ่งออกไปสาร์ทรถของ นายภูผา ฉันเดินออกไปที่บันไดช้าๆ เพื่อที่จะรอรถ
    “เฮ้”
    เขาเรียกฉันห่วนๆ ฉันหันไป เขาหลบหน้าฉันและยื้นของบางอย่างมาให้ฉัน
    “ฉันซื้อมาให้ เอาไว้ติดต่อกัน”
    ฉันรับเอาไว้ มันคือมือถือ
    “ฉันคงรับไว้ไม่ได้”
    “ทำไมล่ะ”
    รู้สึกว่าสีหน้าของเขาจะเปลี่ยนได้ไวมาก
    “ไม่รับไว้ดีกว่าอะ”
    “เธอมีสิทธิ์อะไร ไม่รับของๆ ฉัน”
    เขาตบหัวฉันอย่างแรง
    “นายเป็นพวกบ้าพลังหรือไงน่ะ”
    รถของน้าเสริมมาจอดที่หน้าบันไดแล้ว ฉันก็ก้าวขึ้นรถไป และนายภูผาก็ก้าวตามขึ้นมา
    “ตะกี้เธอว่าอะไรฉันน่ะ”
    “ก็แค่บอกว่า นายเป็นพวกบ้าพลังก็แค่นั้น”
    “อ่อ...งั้นหรอ”
    ทีนี้เขาตีที่หน้าผากฉัน
    “นายบ้าหรอไง นายบ้าไปแล้วหรอ”
    ฉันเริ่มจะโมโหเขาแล้วล่ะ
    “โอ๊ะ โมโหฉันหรอ”
    “ไม่ได้โมโหนายหรอก”
    ฉันตบหัวเขาคืน
    “กล้าตบหัวฉันหรอ”
    “ก็อย่างที่เห็น”
    “เดี๋ยวก่อนๆ หึ”
    เขาโยนมือถือที่เขาซื้อให้มาไว้ที่ตักฉัน
    “จะเอาก็เอาไม่เอาก็เรื่องของเธอ”
    น้าเสริมยิ้มและเริ่มหัวเราะ
    “โอ้...คุณหนูภูผา หัดซื้อของให้คนอื่นเป็นแล้วหรอครับ”
    “หยุดพูดเดี๋ยวนี้ถ้ายังไม่อยากเกิดใหม่ เงียบไปเลย”
    “โอ้ ได้ครับๆ”
   
    นั่งรถอีกไม่นานเท่าไหร่ น้าเสริมก็จอดรถเป็นสัญญาณว่าที่นี่คือที่ที่เรามากินกันวันนี้ ฉันส่งยิ้มให้น้าเสริมและน้าเสริมก็ออกรถไป ฉันมองไปรอบๆ คนเยอะมากเลยน่ะเนี่ยฉันไม่เคยเที่ยวกล้าคืนมาก่อนเลย เพราะฉันไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นแล้วก็ต้องทำงานอีกอย่างฉันอายุยังไม่ถึง
    “ยื่นทำบ้าไรอยู่นั้นเข้ามาได้แล้ว”
    เขาลากฉันเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่ง คนเต็มไปหมดเลย ดูที่เวทีนั่นซิ ‘วงซีเทลล์’ นี่ มันเป็นวงที่ดังมากเลยน่ะตอนนี้ เขายังคงลากฉันไม่หยุดและก็มาหยุดที่ห้องๆ หนึ่ง เขาปิดประตู
    “อ้าว เฮ้ย มาแล้วหรอว่ะ”
    ชายผมทองพูดขึ้น
    “เออ”
    ดูเขาทำท่าเขินอายนั้นซิ >0< น่ารักมากเลยแหละ
    “ใครว่ะที่อยู่หลังแกอะ กิ๊กหรอไงว่ะ”
    “...”
    “ฉันจาฟ้องยัยแชมเปนเว้ย”
    ชายตัวสูงใหญ่คล้ายกอริล่าพูดเสียงดัง
    “จะฟ้องก็เอา จะบอกให้ยัยนี่ไม่ได้เป็นอะไรกับฉันหรอก ยัยเบ๊อะนี่ก็เป็นแค่คนในบ้าน”
    “ฉันไปทีไรไม่เห็นจะได้เจอ”
    “ช่าย คนน่ารัก น่ารักแบบนี้ มาอยู่ในบ้านแกหรอ โอ้ไม่มีทาง”
    “รำคาญจิงเว้ย”
    ทุกคนเงียบ และนั่งเท่เหล้าต่อไป ในห้องนั้นมีฉันที่เป็นผู้หญิงอยู่แค่คนเดียวเองมันช่างน่าเกลียดเหลือเกิน ไม่นานเท่าไหร่นักประตูก็ถูกเปิดอีกครั้ง
    “แชมเปน มาแล้วหรอ”
    นายภูผาพูดขึ้นฉันหันหน้ามองไปที่ประตู ผู้หญิงคนนั้นก็มาด้วย หล่อนยิ้มให้ฉัน
    “อ้าวมาด้วยหรอกหรอ”
    นายกอริล่าพูดขึ้น
    ผู้หญิงคนนั้นนั่งข้างนายภูผาทันทีที่มาถึง ดีน่ะที่หล่อนไม่นั่งแทรกกลางระหว่างฉันกับนายภูผาไม่งั้นฉันคงต้องบ้าตายแน่ที่ต้องนั่งใกล้หล่อน - - ฉันอาจจะต้องไปห้องน้ำแล้วล่ะ
    “ขอไปห้องน้ำก่อนน่ะ”
    ฉันกระซิบข้างหูนายภูผา นายภูผาพยักหน้า ฉันเดินผลักประตูออกไปและพบกับเสียงอื้ออึงฉันเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
    “อุ้ย! ขอโทษค่ะ”
    “อ่า ไม่เป็นไรครับ”
    ฉันมองหน้าชายคนนั้น
    “มังกร มังกรมาทำอะไรที่นี่”
    “ฉันควรจะถามเธอมากกว่าน่ะ”
    “นี่ๆ ก่อนอื่นพาฉันไปห้องน้ำก่อนได้มั้ย”
    “มาตามมา”
    หลังจากที่ฉันทำธุระเสร็จก็เดินออกมา
    “ตอบฉันมาว่าฟ้าใสมาทำอะไรที่นี่”
    “ก็ มีคนพาฉันมา”
    “อ๋อ อืม ฉันเป็นพนักงานที่นี่ ดูเครื่องแบบก็น่าจะรู้อะน่ะ”
    “อืมจ๊ะ”
    “ฟ้าใส ฉันชอบเธอ น่ะ”
    “อืม รู้แล้วจ๊ะ”
    “มองหน้าฉันซิ ฉันชอบเธอจริงๆ น่ะ คบกับฉันได้มั้ย ให้ตายซิฉันตามจีบเธอมาปีกว่าแล้วน่ะทำไมเธอถึงไม่ใจอ่อนกับฉันซะทีล่ะ”
    “ก็แค่...เอ้อ มังกร ไปส่งฉันที่ห้องนั้นหน่อยได้มั้ย”
    “ได้ซิ”
    เขาเดินนำฉันไป ฉันส่งยิ้มให้เขาและแง้มประตูเพื่อที่จะเข้าไปแต่แล้ว เขากำลังจูบกะเธอคนนั้น ฉันผลักประตูออกไปด้วยความตกใจ นายมังกรก็ยืนอยู่กับฉันนายมังกรก็ตกใจเช่นกันและมองเข้ามาในห้อง นายภูผาหันกลับมาแล้วถึงกับฉงัก ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่ง และมีเสียงหนึ่งที่ทำลายความเงียบนั้น
    “ฉันจะคบกับนายนายมังกร”
    ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง
    “คุณหนูฟ้าใสค่ะ”
    “ค่ะ”
    พี่ส้มเคาะประตูและพูดชื่อฉัน
    “คุณหนูค่ะ เตรียมอาหารกลางวันไว้แล้วน่ะค่ะ เชิญข้างล่างเลยค่ะ”
    “ค่ะๆ”
    ฉันวิ่งพลวดออกมาจากห้องและเดินตามพี่ส้มพี่เลี้ยงของฉันลงไปฉันล่าง โต๊ะรับประทานอาหารทรงวงรีขนาดใหญ่ที่ห้องอาหารมีกับข้าวตั้งเต็มไปหมด เก้าอี้ที่ตั้งไว้ทั้งหมดสี่ตัวมีคนนั่งไปแล้วสามที่ ทางฝั่นซ้ายของโต๊ะ มีนายภูผากับผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่แล้วก็น้าเสริมและที่นั่งว่างอีกหนึ่งที่ น่าจะเป็นของฉัน ฉันเดินตรงเข้าไปและค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้อย่าหดหู่ใจ
    “ป๋าแจ๋วตักข้าว”
    นายภูผาสั่ง ดูซิดูผู้หญิงคนนั้นทำไมต้องนั่งชิดกับนายภูผามากขนาดนั้น แล้วฉันเป็นบ้าอะไรของฉันทำไมฉันต้องอิจฉาตาร้อนอย่างงั้นด้วย (- - )( - -)(- - )( - -) ฉันส่ายหัวหงิกๆ
    “เธอทำอะไรของเธอ กินข้าวได้แล้ว ส่ายหัวอยู่ได้”
    เขาว่าฉัน T^T ฉันคงไม่เคยทำอะไรถูกเลยล่ะมั้งในสายตาเขา ฉันก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเรื่อยๆ  ผู้หญิงคนนั้นเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้นายภูผาเรื่อยๆ ดูนั้นซิดูเขาทำ ผู้หญิงคนนั้นจำป้อนข้าวนายภูผาแต่...
    “ฉันกินเองได้ไม่ต้อง”
    “ภูผาปกติเธอก็ให้ฉันป้อนนี่ แล้วทำไม”
    “เงียบ!”
    ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับคนทั้งสองคนนี้
    “น้าเสริมค่ะ หนูอิ่มแล้วล่ะค่ะ ขอตัวไปที่อื่นก่อนน่ะค่ะ”
    “อ้าวทำไมล่ะ”
    น้าเสริมถามอย่างฉงน
    “โอเค งั้นส้มไปกับคุณหนูฟ้าใสหน่อย”
    “ค่ะ”
   
    ฉันลุกออกจากที่นั่นอย่างไม่รอช้า และเดินจ้ำอ้าวไปที่สวนหน้าบ้าน และนั่งลงบนโต๊ะทรงกลมที่มีเท้าอี้สี่ตัวร้อมรอบพี่ส้มก็นั่งลงข้างฉัน
    “พี่ส้ม นั่นแฟนเขาหรอ”
    “ช่าย ^-^”
    “แล้วกระต่ายพวกนั้นล่ะ”
    ฉันเปลี่ยนเรื่องดีกว่าก่อนที่พี่ส้มจะจับได้ ฉันชี้นิ้วไปที่รั่วที่ร้อมรอบกระต่ายพวกนั้น
    “อ๋อ เป็นของคุณท่านกับคูณหนูภูผา”
   
    กลางวันวันนั้นฉันได้รู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับที่นี่ คูณตาและร่วมถึงนายภูผานั้นด้วย พี่ส้มตอบคำถามที่ฉันถามทุกอย่าง
    “เหมือนที่คุณท่านเล่าให้ฟังจริงๆ”
    “เรื่องอะไรค่ะ”
    “เรื่องนิสัยของคุณหนูไงค่ะ คุณท่านอย่างให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงคุณหนูเพราะคุณหนูมีนิสัยแบบนี้ทำให้คนทุกคนทั้งโลกยิ้มได้ทั้งๆ ที่เศร้าออกอย่างนั้น”
    “เศร้า ใครเศร้าค่ะ”
    “อ่อ เปล่าจ๊ะ”
    อ๊ะ! นั้นนายภูผากับผู้หญิงคนนั้นนี่ ฉันจ้องตาไม่กระพริบ อ้าวนายภูผาไม่ได้ไปส่งผู้หญิงคนนั้นที่บ้านหรอกเหรอ เขาเหลือบมองฉัน
    “เฮ้ ยัยบ๊องมานี่หน่อย”
    “ฉัน”
    ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
    “เธอนั้นแหละ”
    ฉันวิ่งไปหานายภูผา
    “คือนี้ ไปเที่ยวกันน่ะไปร้านเพื่อนฉัน”
    “แต่ฉันพึ่งจะสิบแปด”
    “ช่างประไร ร้านเพื่อนฉันไม่เป็นไรหรอก”
    “อะ...อืม ไปก็ได้”
    “ฉันจะรอที่ห้องรับแขกตอนสองทุ่ม”
    ฉันพยักหน้าและมานั่งกับพี่ส้มเหมือนเดิม
    “เรียกไปคุยอะไรหรอ”
    “^-^ เขาชวนหนูไปเที่ยว”
    “หรอจริงหรอ ไปซิไป เดี๋ยวพี่จะแต่งตัวให้เริ่ดเลยโอเคมั้ย”
    “ค่ะ”
    หนึ่งทุ่มสิบนาที ฉันอาบน้ำสระผมเสร็จฉันเดินออกมาจากห้องน้ำและประชันหน้ากับพี่ส้ม พี่ส้มหยิบตาแล้วถามว่า
    “พร้อมยัง”
    “เอาเลย”
    พี่ส้มจัดแจงแต่งตัวให้ฉันก่อนเลยเป็นอันดับแรกที่เขาเลือกก็คือ เสื้อแขนสั้นรัดรูปสีชมพูและกระโปรงตัวพลิ้วสีขาว และรองเท้าแตะหนีบสีดำที่มีลายหมีสีชมพูติดอยู่ตรงหัวรองเท้า จากนั้นพี่ส้มเริ่มมาทำผม เขาหนีบผมให้ฉันตรงเด่เลยและก็เริ่มแต่งหน้า ปากที่เป็นสีชมพูอ่อนอยู่แล้วเขาทาลิปกอตที่ไม่มีสีให้ฉันทำให้มันดูมัมวาว ที่แก้มพี่ส้มเขาก็ปัดให้เป็นสีชมพูอ่อน
    “เสร็จและจ้า”
    ฉันมองกระจก ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองคงไม่ต้องบอกมันสวยเกินกว่าที่ฉันคาดไว้เยอะเลย ฉันหันไปยิ้มให้พี่ส้มและค่อยๆ เดินลงบันไดมาอย่าช้าๆ กับกระเป๋าใบน้อยสีชมพู
    “อ่อ คุณหนู”
    น้าเสริมพูดขึ้น เสียงเรียกของน้าเสริมทำให้ นายภูผาหันมามองฉัน และมองฉันอยู่นาน - -
    “ไปกันได้แล้วครับ งั้นผมจะไปสาร์ทรถน่ะ”
    น้าเสริมวิ่งออกไปสาร์ทรถของ นายภูผา ฉันเดินออกไปที่บันไดช้าๆ เพื่อที่จะรอรถ
    “เฮ้”
    เขาเรียกฉันห่วนๆ ฉันหันไป เขาหลบหน้าฉันและยื้นของบางอย่างมาให้ฉัน
    “ฉันซื้อมาให้ เอาไว้ติดต่อกัน”
    ฉันรับเอาไว้ มันคือมือถือ
    “ฉันคงรับไว้ไม่ได้”
    “ทำไมล่ะ”
    รู้สึกว่าสีหน้าของเขาจะเปลี่ยนได้ไวมาก
    “ไม่รับไว้ดีกว่าอะ”
    “เธอมีสิทธิ์อะไร ไม่รับของๆ ฉัน”
    เขาตบหัวฉันอย่างแรง
    “นายเป็นพวกบ้าพลังหรือไงน่ะ”
    รถของน้าเสริมมาจอดที่หน้าบันไดแล้ว ฉันก็ก้าวขึ้นรถไป และนายภูผาก็ก้าวตามขึ้นมา
    “ตะกี้เธอว่าอะไรฉันน่ะ”
    “ก็แค่บอกว่า นายเป็นพวกบ้าพลังก็แค่นั้น”
    “อ่อ...งั้นหรอ”
    ทีนี้เขาตีที่หน้าผากฉัน
    “นายบ้าหรอไง นายบ้าไปแล้วหรอ”
    ฉันเริ่มจะโมโหเขาแล้วล่ะ
    “โอ๊ะ โมโหฉันหรอ”
    “ไม่ได้โมโหนายหรอก”
    ฉันตบหัวเขาคืน
    “กล้าตบหัวฉันหรอ”
    “ก็อย่างที่เห็น”
    “เดี๋ยวก่อนๆ หึ”
    เขาโยนมือถือที่เขาซื้อให้มาไว้ที่ตักฉัน
    “จะเอาก็เอาไม่เอาก็เรื่องของเธอ”
    น้าเสริมยิ้มและเริ่มหัวเราะ
    “โอ้...คุณหนูภูผา หัดซื้อของให้คนอื่นเป็นแล้วหรอครับ”
    “หยุดพูดเดี๋ยวนี้ถ้ายังไม่อยากเกิดใหม่ เงียบไปเลย”
    “โอ้ ได้ครับๆ”
   
    นั่งรถอีกไม่นานเท่าไหร่ น้าเสริมก็จอดรถเป็นสัญญาณว่าที่นี่คือที่ที่เรามากินกันวันนี้ ฉันส่งยิ้มให้น้าเสริมและน้าเสริมก็ออกรถไป ฉันมองไปรอบๆ คนเยอะมากเลยน่ะเนี่ยฉันไม่เคยเที่ยวกล้าคืนมาก่อนเลย เพราะฉันไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นแล้วก็ต้องทำงานอีกอย่างฉันอายุยังไม่ถึง
    “ยื่นทำบ้าไรอยู่นั้นเข้ามาได้แล้ว”
    เขาลากฉันเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่ง คนเต็มไปหมดเลย ดูที่เวทีนั่นซิ ‘วงซีเทลล์’ นี่ มันเป็นวงที่ดังมากเลยน่ะตอนนี้ เขายังคงลากฉันไม่หยุดและก็มาหยุดที่ห้องๆ หนึ่ง เขาปิดประตู
    “อ้าว เฮ้ย มาแล้วหรอว่ะ”
    ชายผมทองพูดขึ้น
    “เออ”
    ดูเขาทำท่าเขินอายนั้นซิ >0< น่ารักมากเลยแหละ
    “ใครว่ะที่อยู่หลังแกอะ กิ๊กหรอไงว่ะ”
    “...”
    “ฉันจาฟ้องยัยแชมเปนเว้ย”
    ชายตัวสูงใหญ่คล้ายกอริล่าพูดเสียงดัง
    “จะฟ้องก็เอา จะบอกให้ยัยนี่ไม่ได้เป็นอะไรกับฉันหรอก ยัยเบ๊อะนี่ก็เป็นแค่คนในบ้าน”
    “ฉันไปทีไรไม่เห็นจะได้เจอ”
    “ช่าย คนน่ารัก น่ารักแบบนี้ มาอยู่ในบ้านแกหรอ โอ้ไม่มีทาง”
    “รำคาญจิงเว้ย”
    ทุกคนเงียบ และนั่งเท่เหล้าต่อไป ในห้องนั้นมีฉันที่เป็นผู้หญิงอยู่แค่คนเดียวเองมันช่างน่าเกลียดเหลือเกิน ไม่นานเท่าไหร่นักประตูก็ถูกเปิดอีกครั้ง
    “แชมเปน มาแล้วหรอ”
    นายภูผาพูดขึ้นฉันหันหน้ามองไปที่ประตู ผู้หญิงคนนั้นก็มาด้วย หล่อนยิ้มให้ฉัน
    “อ้าวมาด้วยหรอกหรอ”
    นายกอริล่าพูดขึ้น
    ผู้หญิงคนนั้นนั่งข้างนายภูผาทันทีที่มาถึง ดีน่ะที่หล่อนไม่นั่งแทรกกลางระหว่างฉันกับนายภูผาไม่งั้นฉันคงต้องบ้าตายแน่ที่ต้องนั่งใกล้หล่อน - - ฉันอาจจะต้องไปห้องน้ำแล้วล่ะ
    “ขอไปห้องน้ำก่อนน่ะ”
    ฉันกระซิบข้างหูนายภูผา นายภูผาพยักหน้า ฉันเดินผลักประตูออกไปและพบกับเสียงอื้ออึงฉันเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
    “อุ้ย! ขอโทษค่ะ”
    “อ่า ไม่เป็นไรครับ”
    ฉันมองหน้าชายคนนั้น
    “มังกร มังกรมาทำอะไรที่นี่”
    “ฉันควรจะถามเธอมากกว่าน่ะ”
    “นี่ๆ ก่อนอื่นพาฉันไปห้องน้ำก่อนได้มั้ย”
    “มาตามมา”
    หลังจากที่ฉันทำธุระเสร็จก็เดินออกมา
    “ตอบฉันมาว่าฟ้าใสมาทำอะไรที่นี่”
    “ก็ มีคนพาฉันมา”
    “อ๋อ อืม ฉันเป็นพนักงานที่นี่ ดูเครื่องแบบก็น่าจะรู้อะน่ะ”
    “อืมจ๊ะ”
    “ฟ้าใส ฉันชอบเธอ น่ะ”
    “อืม รู้แล้วจ๊ะ”
    “มองหน้าฉันซิ ฉันชอบเธอจริงๆ น่ะ คบกับฉันได้มั้ย ให้ตายซิฉันตามจีบเธอมาปีกว่าแล้วน่ะทำไมเธอถึงไม่ใจอ่อนกับฉันซะทีล่ะ”
    “ก็แค่...เอ้อ มังกร ไปส่งฉันที่ห้องนั้นหน่อยได้มั้ย”
    “ได้ซิ”
    เขาเดินนำฉันไป ฉันส่งยิ้มให้เขาและแง้มประตูเพื่อที่จะเข้าไปแต่แล้ว เขากำลังจูบกะเธอคนนั้น ฉันผลักประตูออกไปด้วยความตกใจ นายมังกรก็ยืนอยู่กับฉันนายมังกรก็ตกใจเช่นกันและมองเข้ามาในห้อง นายภูผาหันกลับมาแล้วถึงกับฉงัก ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่ง และมีเสียงหนึ่งที่ทำลายความเงียบนั้น
    “ฉันจะคบกับนายนายมังกร”
    ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น