ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ถูกลงโทษกับหมากฝรั่ง
    อา... อากาศเช้านี้ช่างสดใสซะจริง ฮ้าววว~~ วันนี้คงจะเป็นวันที่ฉันจะต้องไปรับผลสอบละซิน่ะ ลำบากใจชะมัด ฉันลุกขึ้นจากเตียงนุ่มๆ ที่มีผ้าปูที่นอนและผ้าห่มเป็นลายกระต่ายน้อยสีชมพูหวานแว่ว ฉันคว้าชุดนักเรียนมัธยมปลายที่มีกระโปรงเป็นจีบรอบตัวสั้นประมาณหัวเข่าเข้าไปในห้องน้ำ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด ฉันหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำที่มีอยู่ห้องเดียวในบ้านของฉัน ฉันเคาะประตูเบาๆ
    “เสร็จรึยัง”
    “...”
    “พ่อเสร็จรึยัง”
    “...”
    ฉันเคาะประตูแรงขึ้น จากเคาะก็คลายเป็นทุบประตุไปซะแล้ว
    “พ่อทำอะไรของพ่อเนี่ย รู้มั้ยว่าวันนี้หนูจะไปฟังผลสอบ พ่อ!!! พ่อทำอะไรของพ่ออยู่เนี่ยห๋า!!!!”
    “...”
    “พ่อหนูสายแล้วน่ะ พ่อตายในห้องน้ำรึไงน่ะ พ่ออออออออ”
    ฉันคิดว่าพ่อของฉันคงตกส้วมตายไปแล้ว ฉันมองไปที่นาฬิกาในห้องนอนของฉันที่ประตูเปิดอ้าอยู่ เจ็ดโมงสี่สิบห้า อ๊ากกกก!!!!! ฉันอาจจะต้องตายเพราะการลงโทษที่ฉันไปโรงเรียนสาย
    “พ่อโธ่ พ่ออยากให้หนูถูกฆ่ารึไง พ่อออกมาเถอะค่ะ พ่อ”
    ฉันคงรอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ฉันวิ่งเข้าไปในห้องพลางปิดประตูและล็อคมัน ฉันถอดชุดนอนออกแล้วเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดนักเรียนทันที ฉันคว้ากระเป๋าสะพายข้างสีเขียวเข้มพลางวิ่งลงบันไดจากชั้นสอง ฉันเห็นขนมปังวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับนมสดอีกหนึ่งแก้ว ฉันวิ่งไปกระดกนมสดแล้วคว้าขนมปังคาบไว้ที่ปาก
    “ลูก!!!”
    “อ๊ะแอ้ (ค่ะแม่)”
    ฉันพูดเสียงอู้อี้เพราะมีขนมปังที่ยังกินไม่หมดคาบอยู่ที่ปากของฉัน
    “ดูแลตัวเองด้วยน่ะจ๊ะ”
    “ค่ะ ^-^”
    ฉันใส่รองเท้าผ้าใบนันยางสีขาวและเปิดประตูบ้านออกไป ฉันวิ่งเข้าไปในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นหน้าปากซอยบ้านแล้วหยิบหมากฝรั่งออกมาหนึ่งอัน... จ่ายตัง แล้วออกวิ่งอีกครั้งเพื่อให้ไปถึงป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ห่างไม่ไกลจากเซเว่นอีเลฟเว่นเท่าไหร่นัก ฉันก้มมองนาฬิกา... ฉันเหลือเวลาไม่ถึงสิบนาทีเพื่อที่จะไปให้ทันเข้าแถว ฉันยืนกระวนกระวายเหมือนคนบ้าอยู่ที่ป้ายรถเมล์ อ๊ากกกก... ฉันว่าฉันต้องบ้าแล้วแน่ๆ ถ้าไปไม่ทันเข้าแถววันนี้
    “เฮ้!!”
    มีเสียงหนึ่งเรียกฉัน
    “ขึ้นมา เดี๋ยวไปเข้าแถวไม่ทัน”
    “ขอบใจมาทันเวลาพอดีเลย”
    ฉันบอกเขา... ฉันไม่รอช้ากระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ของเขาทันที และอ๊ากกกก!!!!!!
    “จะฆ่าฉันรึไงย่ะ”
    “อย่าบ่นได้มั้ย ฉันไม่อยากถูกลงโทษ”
    เขาพูดพลางบิดแรงขึ้นไปอีก น้ำลายของฉันไหลเป็นทางยาวไปข้างหลังในทุกๆ ครั้งที่เขาบิด ฉันก็ยังคิดอยู่ว่าที่อยู่บนหน้าของฉันตอนนี้มันน้ำตาหรือว่าน้ำลายของฉันกันแน่
    “ลง ลงไปซิ!!! ยัยบ๊องนั่งอยู่นั้นแหละ ลงไป”
    ฉันที่นั่งตาค้างหน้าแฉะอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ก็ค่อยๆ ลงจากรถมอเตอร์ไซด์ของเขา ฉันเดินเซไปเซมาอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนและแล้ว เพลงชาติก็ขึ้น อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! นรกบังเกิดตรงหน้าฉันแล้ว ฉันต้องตายแน่ๆ และทันทีที่เพลงชาติขึ้น ลุงยามแก่ก็เดินออกมาพร้อมกับทลโข่ง นักเรียนชายหญิงมากมายที่วิ่งมาถึงที่หน้าโรงเรียนก็ต้องหยุดชะงักแล้วเกือบทุกคนต้องทำหน้าซังกะตาย เด็กผู้หญิงบางคนน้ำตาคลอเบ้า
    “นักเรียนชายออกมาก่อน”
    ยามแก่คนนั้นพูด เด็กนักเรียนชายกว่าครึ่งเดินขึ้นไป
    “ต่อแถว!!!... คนที่ใส่ชุดพละออกไป ห้ามเข้า พวกเธอไม่ได้ฟังประกาศรึไงห๊ะ ว่าให้ใส่ชุดนักเรียนมารับผลสอบ”
    เด็กนักเรียนที่ใส่ชุดนักเรียนพากันบ่นพึมพำ ส่วนเด็กนักเรียนที่เหลือก็ไปเข้าแถวเป็นแถวตอนลึก
    “ขุกเข่าเดินเข้าไป”
    นั่นแหละเป็นคำที่ฉันไม่อยากจะได้ยินเลย พื้นทางเข้าของโรงเรียนมันไม่ใช่พื้นนุ่มๆ เหมือนปุยเมฆซะที่ไหนละ อย่าลืมซิว่าพื้นมันเป็นปูนซิเมนต์ที่ไม่เรียบเอาซะเลย อ๊ายยยย หัวเข่าสวยๆ ของฉันต้องมาเป็นแผลหรอเนี่ย
    “ผู้ชายเร็วๆ เข้าซิ ชักช้าซะจริง”
    ถ้าเข่าสวยๆ ของฉันต้องมาเป็นรอยฉันว่าฉันฆ่าตัวตายซะยังดีซะกว่า
    “เพราะเธอทำให้ฉันต้องโดนลงโทษ”
    มีนแตะหัวไหล่ฉันแล้วเขาก็ค่อยๆ ใช้แรงอันมหาศาลของเขาบีบไหล่ของฉัน
    “ฉันงั้นหรอ?... เพราะฉันงั้นซินายถึงมาสาย อ๋ออย่างงั้นหรอกเหรอ”
    ฉันเอานิ้วชี้เข้ามาที่ตัวของฉัน
    “ใช่ก็เพราะเธอยัยเบ๊อะ”
    เขาเอานิ้วชี้ดันเบาๆ ที่หน้าผากของฉันสองที เบาๆ ของเขามันเกือบจะทำให้ฉันกลิ้งลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
    “แล้วนายรับฉันขึ้นรถทำซากอะไร ห๋า ถ้างั้นวันหลังไม่ต้องมารับ ขอบคุณสำหรับวันนี้ เหอะ...ทำอย่างกับฉันอยากขึ้นรถของนายมากนักงั้นแหละ”
    “พูดประโยคหลังใหม่ซิ พูดอีกทีซิ”
    เขาตะคอกใส่ฉันอีกครั้ง
    “แกเป็นตุ๊ดงั้นซิ เลยไม่มาเข้าแถวเป็นตุ๊ดใช่ม่ะ ห๋า”
    ยามแก่คนนั้นตะโกนใส่ทลโข่งของเขา และมีนก็เดินจากฉันไปพร้อมกับชูนิ้วกลางขึ้นที่มือขวาพร้อมกับเอามือข้างซ้ายกระทบจับข้อมือข้างขวาของเขาเอาไว้แน่น แล้วเอามันลงหลังจากที่เขาเข้าไปอยู่ในแถวแล้วค่อยๆ ใช้หัวเข่าของเขาคลานเข้าไปในโรงเรียน
    “ผู้หญิงมาเข้าแถว”
    ให้ตายซิ... ตาฉันแล้วสวรรค์ทำไมต้องลงโทษสาวน้อยผู้น่ารักอย่างหนูด้วยละค่ะ สวรรค์ควรจะลงโทษไอบ้านั้นซิค่ะใช่มั้ยค่ะ TT^TT ฉันหลุดออกจากห้วงแห่งความคิดตอนนี้ฉันขุกเข่าเข้าโรงเรียนแล้วจะบอกให้ความรู้สึกตอนนี้ของฉัน เจ็บเข่าโคตรๆ ใครไม่โดนไม่รู้หรอก อ๊าก!!! หัวเข่าของฉัน งือ งือ TT^TT แดงช้ำเลือดช้ำหนองอี๋น่ากลัวชะมัดแล้วยังเจ็บอีกตังหาก TT^TT งือ งือ ฉันเดินไปหาเพื่อนฉันที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้ที่อยู่ติดกับโรงอาหารพวกนั้นมองฉันด้วยความสงสาร ฉันนั่งลงอย่างเซ็งๆ
    “เหอะ ดูเข่าฉันซิ แดงน่ากลัวชะมัด เธอว่างั้นมั้ย”
    “น่ากลัวจริงๆ ด้วยดูซิ”
    เจนพยายามจะจ้องมองหัวเข่าของฉันที่แดงกล่ำ และพยายามจะเอามือของเธอมาจับ
    “หยุดห้ามจับ เธอรู้มั้ยว่าฉันกำลังเจ็บอยู่”
    “แพน เธอแบ่งความฉลาดให้ฉันซักครึ่งนึงจะได้ม่ะ”
    ใหม่เพื่อนอีกคนหนึ่งของฉันพูดขึ้น
    “ทำไมหรอ”
    ฉันถามพลางก้มลงมองดูแผลของฉัน
    “เธอได้ที่หนึ่งอีกแล้ว”
    “งั้นหรอ ใหม่ ฉันเป็นที่หนึ่งคนเดียวใช่มั้ย ใช่มั้ย”
    ฉันถามด้วยความตื่นเต้น แต่เพื่อนของฉันก็ยิ้มฟืดๆ ให้ฉันแล้วส่ายหน้า
    “มีนก็... ได้ที่หนึ่ง”
    ฉันลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอามือทันสองข้างของฉันทุบเข้าไปที่โต๊ะอย่างแรง
    “อีกแล้วหรอ ตั้งแต่หมอนั่นเข้ามา... เซ็งชะมัด ไปล้างแผลดีกว่า”
    ฉันเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินไปที่ก๊อกน้ำข้างสนามบอล ฉันเปิดก๊อกน้ำแล้วล้างแผลอันแดงกล่ำที่เกิดขึ้นจากการลงโทษพูดแล้วก็เศร้า หัวเข่าสวยๆ ของฉัน
    อั๊ก!!!
    ฉันเงยหน้าขึ้นมองเหมือนได้ยินเสียงบางอย่างอยู่ตรงข้างตัวฉัน
    “ล้างบ้าอะไรของเธอไม่รู้จักดูลูกฟุตบอลบ้างเลย ห๊ะ!!!... เธอเกือบจะโดนฆ่าตายเพราะลูกบอลแล้วรู้มั้ย”
    ฉันกระโดดออกมาจากก๊อกน้ำทันที และปล่อยน้ำก๊อกให้ไหลอยู่แบบนั้น เขาโยนลูกบอลกลับเข้าไปในสนาม คนในสนามพากันขอโทษขอโพยเขาเป็นการใหญ่ เขายกมือข้างขวาขึ้นพลางชี้นิ้วชี้ออกไปชี้คนที่มาเก็บลูกบอล แล้วเขาก็ใช้นิ้วชี้นั้นลากจากคอทางด้านซ้ายไปถึงคอทางด้านขวา นายคนที่มาเก็บบอลต้องกลืนน้ำลายพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่ไหลออกมาไม่หยุด ฉันที่ตั้งสติได้ก็เอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำแล้วค่อยๆ ย่องออกมาเบาๆ เพื่อไม่ให้เขารู้ตัว
    “ไม่คิดจะขอบคุณเลยใช่มั้ย”
    “อ๊ะ นายมาช่วยฉันเองนี่ ฉันต้องขอบคุณด้วยงั้นหรอ”
    “ธินธร เธอนี่มัน... เธอนี่มัน”
    “โกธรแล้วละซิ ลัลล้า”
    ฉันรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นก่อนที่เขาจะวิ่งมากระชากคอเสื้อฉัน ฉันหันหลับไปมองแต่เขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้วฉันเลยค่อยๆ เดินไปหาเพื่อนของฉันอีกสองคนที่นั่งรอฉันอยู่ที่โต๊ะไม้ใกล้โรงอาหาร
    “มาแล้วจ๊ะมาแล้ว”
    ฉันโบกไม้โบกมือให้กับพวกเธอ
    “วันนี้ไปเที่ยวกันม่ะ”
    ใหม่ถามฉัน
    “แต่ว่าฉันตกสุขศึกษา ฉันต้องรอแก้ ไปบ่ายโมงได้มั้ย... น่ะๆ”
    เจนถามฉันพลางเหย่าตัวของฉันเบาๆ ฉันส่งยิ้มให้เธอ
    “รอ ไปบ่ายโมงก็ได้ว่าแต่สุขศึกษาปีนี้ยากชะมัดคนตกเยอะมั้ยเนี่ย”
    “สิบคน”
    “อ่า... โอเครอก็รอ”
    เวลาผ่านไปตอนนี้คนที่เล่นฟุตบอลอยู่ในสนามเริ่มลดน้อยลงแล้ว ส่วนพวกที่รอซ่อมสุขศึกษาก็นั่งคอยอาจารย์กันเป็นหย่อมๆ ห้องของฉันมีคนตกสิบคนส่วนห้องอื่นๆ ก็มีเช่นกัน พวกผู้ชายห้องฉันส่วนหนึ่งที่นั่งคอยเพื่อนก็พากันลุกขึ้นตั้งทีมเล่นบาสกันที่สนามบาสของโรงเรียนที่อยู่ติดกับสนามบอล ฉันมองไปที่สนามบาสทีมไหนที่มีมีนทีมนั้นก็จะชนะ ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องลุ้นก็รู้ผลแล้วล่ะ วิชาพละไม่มีทีมไหนที่กล้าสู้กับทีมของมีนเลยซักทีมเดียว
    อ่า... รู้สึกว่าหมอนั่นมันจะเก่งเว่อเกินไปซะแล้ว เก่งทุกอย่างฉันละเซ็ง ฉันนั่งเอาปากกาจิ้มๆ อยู่บนโต๊ะ ส่วนเจนกับใหม่ก็เอาแต่ส่องกระจก ปะแป้ง ทาลิบมัน แล้วก็หวีผม พวกเธอใช้เวลาส่วนมากไปกับเรื่องพวกนี้ และฉันก็ด้วย ^-^ฉันมองไปที่ถนนทางเข้าของโรงเรียนมีรถคันหนึ่งแล่นผ่านหน้าฉันไป แล้วคนที่ลงมาจากรถก็คือ อาจารย์ที่พวกเรารอคอย อาจารย์เดินมาทางพวกเราที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้ที่นั่งกระจัดกระจายกันอยู่
    “มา ใครตกวิชาของครู”
    อาจารย์พูดพลางวางกระเป๋าของเธอไว้บนโต๊ะไม้ถัดจากเราไปหนึ่งตัว
    “รอครูแป๊บน่ะ เดี๋ยวครูจะไปเอาข้อสอบก่อน”
    อาจารย์ถือกระเป๋าเดินไปแล้วเธอก็หันกลับมาอีกครั้ง
    “จะทำขอสอบ หรือว่า... จะไปซื้อของให้ครู”
    เด็กนักเรียนทุกคนมองหน้ากันและสอบเป็นเสียงเดียว
    “ซื้อของครับ/ค่ะ อาจารย์”
    “โอเค งั้นแบ่งกลุ่มๆ ล่ะห้าคน แล้วไปซื้อที่ใส่แฟ้มเอกสารให้ครูแล้วครูจะให้พวกเธอผ่านโอเคมั้ย ที่มันอันละร้อยสี่สิบกว่าบาท แล้วก็ที่มันมีล้อเลื่อนด้วย โอเคมั้ยไปซื้อมาละแล้วเอามาให้ครูพรุ่ง แล้วพวกเธอทุกคนจะผ่าน”
    ว่าแล้วเธอก็เดินหันหลังกลับไป แล้วขึ้นไปบนอาคารเรียนที่ตอนนี้ไม่มีนักเรียนอยู่แล้วแม้แต่คนเดียวพวกเราจับกลุ่มๆ ล่ะห้าคนตามที่เธอบอกห้องฉันแบ่งได้สองกลุ่มพอดี ฉันตัดสินใจไปกับเพื่อนของฉันด้วย และพวกเราก็คงเที่ยวยาว
    “ยัยบ๊องเธอไปด้วยรึไง”
    ฉันมองหน้าคนที่พูด อี๋ อีตานี่ไปด้วยงั้นหรอ
    “มันเรื่องของฉัน ยุ่งกับฉันซะจริง”
    ว่าแล้วฉันก็เดินจูงมือเพื่อนของฉันทั้งสองแล้วเดินเข้าไปในกลุ่มเพื่อนที่เหลือ พวกเราเดินออกมาจากโรงเรียนภายในเวลาสิบนาทีพวกเราทุกคนก็ออกมาถึงป้ายรถเมล์
    “รถมาแล้วๆ”
    ฉันไม่รอช้าที่จะก้าวขึ้นไปบนรถและเข้าไปนั่งที่นั่งที่อยู่หลังสุด ที่ข้างฉันมีที่วางอยู่อีกหนึ่งทีฉันหวังจะให้เพื่อนซี้ของฉันมานั่งแต่...
    “^-^”
    “ออกไป ที่ตรงนี้ฉันจะให้เพื่อนของฉันนั่งน่ะ”
    “นู้นพวกเธอไปนั่งนู้นกันหมดแล้ว”
    “ก็เพราะนายนั่นแหละ เหอะ”
    ฉันเชิดใส่เขาพลางเอาแขนข้างหนึ่งวางให้ที่ขอบหน้าต่าง เบื่อขี้หน้าอีตานี่ชะมัด ฉันเหลือบไปเห็นเขาหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า อ๋อ... มันคือซาวเบ้าน์ เขายื่นหูข้างหนึ่งมาให้ฉัน
    “ฟังม่ะ”
    “นายเชิญฟังไปคนเดียวเถอะย่ะ”
    “ก็ดี...”
    แล้วเขาก็หยิบหูฟังข้างที่ยื่นให้ฉันเสียบเข้าไปในหูข้างซ้ายของเขา ดูพวกผู้หญิงในรถซิมองเขากันใหญ่ พวกหล่อนไม่เคยเห็นผู้ชายที่ฉันเกลียดที่สุดรึไงย่ะ
    “ดูคู่นั้นซิต๊ายตายผู้ชายหล่อ ผู้หญิงก็น่ารักน่ะเนี่ย ดูซิเหมาะกันชะมัด เธอว่ามั้ย”
    “ฉันสนแต่ผู้ชายย่ะ แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นได้เป็นแฟนของเขาจริง ก็เหมาะสมกันแล้วละ ดูซิหน้าตายังคล้ายๆ กันอีกแน่ะ โอ้ยอิจฉาชะมัดเลย”
    ฉันได้ยินเรื่องที่ไม่เข้าหูเอาซะแล้ว คิดว่าฉันเป็นแฟนกับอีตานี่นะหรอ พวกหล่อนคิดผิดแล้วละย่ะรู้ไว้ซะน่ะย่ะว่าฉันชอบผู้ชายหล่อๆ แล้วก็ต้องรวยๆ ย่ะอีตานี่ไม่ผ่านสำหรับฉันหรอกเชอะ แต่พอฉันเหลือบขึ้นไปมองหน้าของเขา เขากลับอมยิ้มเล็กๆ แล้วเขาก็เกาศีรษะของตัวเองเบาๆ การทำแบบนั้นมันทำให้พวกยัยผู้หญิงนั่นเข้าใจผิดฉันเข้าไปกันใหญ่ ฉันลุกขึ้นยืนเพื่อจะลงที่ป้ายต่อไป เพื่อนร่วมห้องของฉันก็ลุกขึ้นยืนพร้อมๆ กับฉันและคนหนึ่งก็กดกริ๊ง มีนลุกขึ้นพร้อมกับที่เขาเอามือโหนที่จับเอาไว้ส่วนฉันที่จับไม่ถึงก็ยืนอยู่ข้างหน้าเขาโดยที่ฉันจับเหล็กที่อยู่ตรงเบาะนั่งเอาไว้
    เอี๊ยดดดด!!!!!!
   
    อ๊ายยยยย!!!!!... เบรกหน้ากลัวชะมัด คนเกือบครึ่งหลุดออกจากที่จับแล้วกระเด็นไปพิงกับคนที่อยู่ข้างหลัง และนั่นก็ร่วมไปถึงฉันด้วย TT^TT งือ แล้วทำไมคนที่อยู่ข้างหลังฉันต้องเป็นเขาด้วยละเนี่ย ฉันพิงเขาเข้าไปเต็มๆ แล้วเขาก็ฉวยโอกาสจับหัวไหล่ของฉันพิงเข้าที่ตัวของเขา ฉันสะบัดออกทันที
    “ไอผู้ชายบ้าฉวยโอกาส นี่แน่ะ”
    ฉันเหยียบเท้าของเขาพลางหมุนส้นเท้าของฉันไปมา แล้วฉันก็เดินลงจากรถ เขาเดินตามหลังฉันมาเขาเอามือปิดที่ปากแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง นายมันบ้าสิ้นดี ฉันเดินไปหาเพื่อนซี้ของฉันทั้งสองคนแล้วพวกเราทั้งห้องก็เดินเข้าไปในห้าง และพากันเลือกซื้อของที่อาจารย์จะเอา
    “อันนี้แน่ๆ อันนี้ร้อยสามเก้า”
    “เฮ้ยอันนี้ก็มี ร้อยเจ็ดเก้า เอาอันไหนดีว่ะ”
    ฉันยืนนิ่งๆ อยู่ตรงนั่นฟังเพื่อนของฉันเลือกของว่าพวกเขาจะเอาอันที่ราคาร้อยสามเก้าหรือร้อยเจ็ดเก้าดี และสุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจได้ ฉันหยิบหมากฝรั่งอันสุดท้ายมาเคี้ยวแล้วพวกเราก็เดินไปที่เค้าเตอร์จ่ายเงินพวกเราซื้อมันมาทั้งหมดสองใบ ระหว่างที่พนักงานกำลังคิดเงินอยู่ฉันก็เดินออกมารอตรงทางแคบๆ ของเค้าเตอร์พลางเคี้ยวหมากฝรั่ง
    “กินไม่แบ่งเลยน่ะ”
    “อันสุดท้ายแล้ว อ้ะ”
    ฉันดันหมากฝรั่งออกมาจากปาก
    “ฮ่า ฮ่า ไม่เอาหรอกฉันไม่กล้า”
    ใหม่พูดพลางหัวเราะกับการกระทำของฉัน
    “แต่ฉันกล้า”
    ฉันหันไปมองหน้าของมีน และดันหมากฝรั่งออกมาจากปากอีกครั้ง และอ๊าก!!!!!!!
    “เสร็จรึยัง”
    “...”
    “พ่อเสร็จรึยัง”
    “...”
    ฉันเคาะประตูแรงขึ้น จากเคาะก็คลายเป็นทุบประตุไปซะแล้ว
    “พ่อทำอะไรของพ่อเนี่ย รู้มั้ยว่าวันนี้หนูจะไปฟังผลสอบ พ่อ!!! พ่อทำอะไรของพ่ออยู่เนี่ยห๋า!!!!”
    “...”
    “พ่อหนูสายแล้วน่ะ พ่อตายในห้องน้ำรึไงน่ะ พ่ออออออออ”
    ฉันคิดว่าพ่อของฉันคงตกส้วมตายไปแล้ว ฉันมองไปที่นาฬิกาในห้องนอนของฉันที่ประตูเปิดอ้าอยู่ เจ็ดโมงสี่สิบห้า อ๊ากกกก!!!!! ฉันอาจจะต้องตายเพราะการลงโทษที่ฉันไปโรงเรียนสาย
    “พ่อโธ่ พ่ออยากให้หนูถูกฆ่ารึไง พ่อออกมาเถอะค่ะ พ่อ”
    ฉันคงรอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ฉันวิ่งเข้าไปในห้องพลางปิดประตูและล็อคมัน ฉันถอดชุดนอนออกแล้วเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดนักเรียนทันที ฉันคว้ากระเป๋าสะพายข้างสีเขียวเข้มพลางวิ่งลงบันไดจากชั้นสอง ฉันเห็นขนมปังวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับนมสดอีกหนึ่งแก้ว ฉันวิ่งไปกระดกนมสดแล้วคว้าขนมปังคาบไว้ที่ปาก
    “ลูก!!!”
    “อ๊ะแอ้ (ค่ะแม่)”
    ฉันพูดเสียงอู้อี้เพราะมีขนมปังที่ยังกินไม่หมดคาบอยู่ที่ปากของฉัน
    “ดูแลตัวเองด้วยน่ะจ๊ะ”
    “ค่ะ ^-^”
    ฉันใส่รองเท้าผ้าใบนันยางสีขาวและเปิดประตูบ้านออกไป ฉันวิ่งเข้าไปในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นหน้าปากซอยบ้านแล้วหยิบหมากฝรั่งออกมาหนึ่งอัน... จ่ายตัง แล้วออกวิ่งอีกครั้งเพื่อให้ไปถึงป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ห่างไม่ไกลจากเซเว่นอีเลฟเว่นเท่าไหร่นัก ฉันก้มมองนาฬิกา... ฉันเหลือเวลาไม่ถึงสิบนาทีเพื่อที่จะไปให้ทันเข้าแถว ฉันยืนกระวนกระวายเหมือนคนบ้าอยู่ที่ป้ายรถเมล์ อ๊ากกกก... ฉันว่าฉันต้องบ้าแล้วแน่ๆ ถ้าไปไม่ทันเข้าแถววันนี้
    “เฮ้!!”
    มีเสียงหนึ่งเรียกฉัน
    “ขึ้นมา เดี๋ยวไปเข้าแถวไม่ทัน”
    “ขอบใจมาทันเวลาพอดีเลย”
    ฉันบอกเขา... ฉันไม่รอช้ากระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ของเขาทันที และอ๊ากกกก!!!!!!
    “จะฆ่าฉันรึไงย่ะ”
    “อย่าบ่นได้มั้ย ฉันไม่อยากถูกลงโทษ”
    เขาพูดพลางบิดแรงขึ้นไปอีก น้ำลายของฉันไหลเป็นทางยาวไปข้างหลังในทุกๆ ครั้งที่เขาบิด ฉันก็ยังคิดอยู่ว่าที่อยู่บนหน้าของฉันตอนนี้มันน้ำตาหรือว่าน้ำลายของฉันกันแน่
    “ลง ลงไปซิ!!! ยัยบ๊องนั่งอยู่นั้นแหละ ลงไป”
    ฉันที่นั่งตาค้างหน้าแฉะอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ก็ค่อยๆ ลงจากรถมอเตอร์ไซด์ของเขา ฉันเดินเซไปเซมาอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนและแล้ว เพลงชาติก็ขึ้น อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! นรกบังเกิดตรงหน้าฉันแล้ว ฉันต้องตายแน่ๆ และทันทีที่เพลงชาติขึ้น ลุงยามแก่ก็เดินออกมาพร้อมกับทลโข่ง นักเรียนชายหญิงมากมายที่วิ่งมาถึงที่หน้าโรงเรียนก็ต้องหยุดชะงักแล้วเกือบทุกคนต้องทำหน้าซังกะตาย เด็กผู้หญิงบางคนน้ำตาคลอเบ้า
    “นักเรียนชายออกมาก่อน”
    ยามแก่คนนั้นพูด เด็กนักเรียนชายกว่าครึ่งเดินขึ้นไป
    “ต่อแถว!!!... คนที่ใส่ชุดพละออกไป ห้ามเข้า พวกเธอไม่ได้ฟังประกาศรึไงห๊ะ ว่าให้ใส่ชุดนักเรียนมารับผลสอบ”
    เด็กนักเรียนที่ใส่ชุดนักเรียนพากันบ่นพึมพำ ส่วนเด็กนักเรียนที่เหลือก็ไปเข้าแถวเป็นแถวตอนลึก
    “ขุกเข่าเดินเข้าไป”
    นั่นแหละเป็นคำที่ฉันไม่อยากจะได้ยินเลย พื้นทางเข้าของโรงเรียนมันไม่ใช่พื้นนุ่มๆ เหมือนปุยเมฆซะที่ไหนละ อย่าลืมซิว่าพื้นมันเป็นปูนซิเมนต์ที่ไม่เรียบเอาซะเลย อ๊ายยยย หัวเข่าสวยๆ ของฉันต้องมาเป็นแผลหรอเนี่ย
    “ผู้ชายเร็วๆ เข้าซิ ชักช้าซะจริง”
    ถ้าเข่าสวยๆ ของฉันต้องมาเป็นรอยฉันว่าฉันฆ่าตัวตายซะยังดีซะกว่า
    “เพราะเธอทำให้ฉันต้องโดนลงโทษ”
    มีนแตะหัวไหล่ฉันแล้วเขาก็ค่อยๆ ใช้แรงอันมหาศาลของเขาบีบไหล่ของฉัน
    “ฉันงั้นหรอ?... เพราะฉันงั้นซินายถึงมาสาย อ๋ออย่างงั้นหรอกเหรอ”
    ฉันเอานิ้วชี้เข้ามาที่ตัวของฉัน
    “ใช่ก็เพราะเธอยัยเบ๊อะ”
    เขาเอานิ้วชี้ดันเบาๆ ที่หน้าผากของฉันสองที เบาๆ ของเขามันเกือบจะทำให้ฉันกลิ้งลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
    “แล้วนายรับฉันขึ้นรถทำซากอะไร ห๋า ถ้างั้นวันหลังไม่ต้องมารับ ขอบคุณสำหรับวันนี้ เหอะ...ทำอย่างกับฉันอยากขึ้นรถของนายมากนักงั้นแหละ”
    “พูดประโยคหลังใหม่ซิ พูดอีกทีซิ”
    เขาตะคอกใส่ฉันอีกครั้ง
    “แกเป็นตุ๊ดงั้นซิ เลยไม่มาเข้าแถวเป็นตุ๊ดใช่ม่ะ ห๋า”
    ยามแก่คนนั้นตะโกนใส่ทลโข่งของเขา และมีนก็เดินจากฉันไปพร้อมกับชูนิ้วกลางขึ้นที่มือขวาพร้อมกับเอามือข้างซ้ายกระทบจับข้อมือข้างขวาของเขาเอาไว้แน่น แล้วเอามันลงหลังจากที่เขาเข้าไปอยู่ในแถวแล้วค่อยๆ ใช้หัวเข่าของเขาคลานเข้าไปในโรงเรียน
    “ผู้หญิงมาเข้าแถว”
    ให้ตายซิ... ตาฉันแล้วสวรรค์ทำไมต้องลงโทษสาวน้อยผู้น่ารักอย่างหนูด้วยละค่ะ สวรรค์ควรจะลงโทษไอบ้านั้นซิค่ะใช่มั้ยค่ะ TT^TT ฉันหลุดออกจากห้วงแห่งความคิดตอนนี้ฉันขุกเข่าเข้าโรงเรียนแล้วจะบอกให้ความรู้สึกตอนนี้ของฉัน เจ็บเข่าโคตรๆ ใครไม่โดนไม่รู้หรอก อ๊าก!!! หัวเข่าของฉัน งือ งือ TT^TT แดงช้ำเลือดช้ำหนองอี๋น่ากลัวชะมัดแล้วยังเจ็บอีกตังหาก TT^TT งือ งือ ฉันเดินไปหาเพื่อนฉันที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้ที่อยู่ติดกับโรงอาหารพวกนั้นมองฉันด้วยความสงสาร ฉันนั่งลงอย่างเซ็งๆ
    “เหอะ ดูเข่าฉันซิ แดงน่ากลัวชะมัด เธอว่างั้นมั้ย”
    “น่ากลัวจริงๆ ด้วยดูซิ”
    เจนพยายามจะจ้องมองหัวเข่าของฉันที่แดงกล่ำ และพยายามจะเอามือของเธอมาจับ
    “หยุดห้ามจับ เธอรู้มั้ยว่าฉันกำลังเจ็บอยู่”
    “แพน เธอแบ่งความฉลาดให้ฉันซักครึ่งนึงจะได้ม่ะ”
    ใหม่เพื่อนอีกคนหนึ่งของฉันพูดขึ้น
    “ทำไมหรอ”
    ฉันถามพลางก้มลงมองดูแผลของฉัน
    “เธอได้ที่หนึ่งอีกแล้ว”
    “งั้นหรอ ใหม่ ฉันเป็นที่หนึ่งคนเดียวใช่มั้ย ใช่มั้ย”
    ฉันถามด้วยความตื่นเต้น แต่เพื่อนของฉันก็ยิ้มฟืดๆ ให้ฉันแล้วส่ายหน้า
    “มีนก็... ได้ที่หนึ่ง”
    ฉันลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอามือทันสองข้างของฉันทุบเข้าไปที่โต๊ะอย่างแรง
    “อีกแล้วหรอ ตั้งแต่หมอนั่นเข้ามา... เซ็งชะมัด ไปล้างแผลดีกว่า”
    ฉันเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินไปที่ก๊อกน้ำข้างสนามบอล ฉันเปิดก๊อกน้ำแล้วล้างแผลอันแดงกล่ำที่เกิดขึ้นจากการลงโทษพูดแล้วก็เศร้า หัวเข่าสวยๆ ของฉัน
    อั๊ก!!!
    ฉันเงยหน้าขึ้นมองเหมือนได้ยินเสียงบางอย่างอยู่ตรงข้างตัวฉัน
    “ล้างบ้าอะไรของเธอไม่รู้จักดูลูกฟุตบอลบ้างเลย ห๊ะ!!!... เธอเกือบจะโดนฆ่าตายเพราะลูกบอลแล้วรู้มั้ย”
    ฉันกระโดดออกมาจากก๊อกน้ำทันที และปล่อยน้ำก๊อกให้ไหลอยู่แบบนั้น เขาโยนลูกบอลกลับเข้าไปในสนาม คนในสนามพากันขอโทษขอโพยเขาเป็นการใหญ่ เขายกมือข้างขวาขึ้นพลางชี้นิ้วชี้ออกไปชี้คนที่มาเก็บลูกบอล แล้วเขาก็ใช้นิ้วชี้นั้นลากจากคอทางด้านซ้ายไปถึงคอทางด้านขวา นายคนที่มาเก็บบอลต้องกลืนน้ำลายพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่ไหลออกมาไม่หยุด ฉันที่ตั้งสติได้ก็เอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำแล้วค่อยๆ ย่องออกมาเบาๆ เพื่อไม่ให้เขารู้ตัว
    “ไม่คิดจะขอบคุณเลยใช่มั้ย”
    “อ๊ะ นายมาช่วยฉันเองนี่ ฉันต้องขอบคุณด้วยงั้นหรอ”
    “ธินธร เธอนี่มัน... เธอนี่มัน”
    “โกธรแล้วละซิ ลัลล้า”
    ฉันรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นก่อนที่เขาจะวิ่งมากระชากคอเสื้อฉัน ฉันหันหลับไปมองแต่เขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้วฉันเลยค่อยๆ เดินไปหาเพื่อนของฉันอีกสองคนที่นั่งรอฉันอยู่ที่โต๊ะไม้ใกล้โรงอาหาร
    “มาแล้วจ๊ะมาแล้ว”
    ฉันโบกไม้โบกมือให้กับพวกเธอ
    “วันนี้ไปเที่ยวกันม่ะ”
    ใหม่ถามฉัน
    “แต่ว่าฉันตกสุขศึกษา ฉันต้องรอแก้ ไปบ่ายโมงได้มั้ย... น่ะๆ”
    เจนถามฉันพลางเหย่าตัวของฉันเบาๆ ฉันส่งยิ้มให้เธอ
    “รอ ไปบ่ายโมงก็ได้ว่าแต่สุขศึกษาปีนี้ยากชะมัดคนตกเยอะมั้ยเนี่ย”
    “สิบคน”
    “อ่า... โอเครอก็รอ”
    เวลาผ่านไปตอนนี้คนที่เล่นฟุตบอลอยู่ในสนามเริ่มลดน้อยลงแล้ว ส่วนพวกที่รอซ่อมสุขศึกษาก็นั่งคอยอาจารย์กันเป็นหย่อมๆ ห้องของฉันมีคนตกสิบคนส่วนห้องอื่นๆ ก็มีเช่นกัน พวกผู้ชายห้องฉันส่วนหนึ่งที่นั่งคอยเพื่อนก็พากันลุกขึ้นตั้งทีมเล่นบาสกันที่สนามบาสของโรงเรียนที่อยู่ติดกับสนามบอล ฉันมองไปที่สนามบาสทีมไหนที่มีมีนทีมนั้นก็จะชนะ ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องลุ้นก็รู้ผลแล้วล่ะ วิชาพละไม่มีทีมไหนที่กล้าสู้กับทีมของมีนเลยซักทีมเดียว
    อ่า... รู้สึกว่าหมอนั่นมันจะเก่งเว่อเกินไปซะแล้ว เก่งทุกอย่างฉันละเซ็ง ฉันนั่งเอาปากกาจิ้มๆ อยู่บนโต๊ะ ส่วนเจนกับใหม่ก็เอาแต่ส่องกระจก ปะแป้ง ทาลิบมัน แล้วก็หวีผม พวกเธอใช้เวลาส่วนมากไปกับเรื่องพวกนี้ และฉันก็ด้วย ^-^ฉันมองไปที่ถนนทางเข้าของโรงเรียนมีรถคันหนึ่งแล่นผ่านหน้าฉันไป แล้วคนที่ลงมาจากรถก็คือ อาจารย์ที่พวกเรารอคอย อาจารย์เดินมาทางพวกเราที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้ที่นั่งกระจัดกระจายกันอยู่
    “มา ใครตกวิชาของครู”
    อาจารย์พูดพลางวางกระเป๋าของเธอไว้บนโต๊ะไม้ถัดจากเราไปหนึ่งตัว
    “รอครูแป๊บน่ะ เดี๋ยวครูจะไปเอาข้อสอบก่อน”
    อาจารย์ถือกระเป๋าเดินไปแล้วเธอก็หันกลับมาอีกครั้ง
    “จะทำขอสอบ หรือว่า... จะไปซื้อของให้ครู”
    เด็กนักเรียนทุกคนมองหน้ากันและสอบเป็นเสียงเดียว
    “ซื้อของครับ/ค่ะ อาจารย์”
    “โอเค งั้นแบ่งกลุ่มๆ ล่ะห้าคน แล้วไปซื้อที่ใส่แฟ้มเอกสารให้ครูแล้วครูจะให้พวกเธอผ่านโอเคมั้ย ที่มันอันละร้อยสี่สิบกว่าบาท แล้วก็ที่มันมีล้อเลื่อนด้วย โอเคมั้ยไปซื้อมาละแล้วเอามาให้ครูพรุ่ง แล้วพวกเธอทุกคนจะผ่าน”
    ว่าแล้วเธอก็เดินหันหลังกลับไป แล้วขึ้นไปบนอาคารเรียนที่ตอนนี้ไม่มีนักเรียนอยู่แล้วแม้แต่คนเดียวพวกเราจับกลุ่มๆ ล่ะห้าคนตามที่เธอบอกห้องฉันแบ่งได้สองกลุ่มพอดี ฉันตัดสินใจไปกับเพื่อนของฉันด้วย และพวกเราก็คงเที่ยวยาว
    “ยัยบ๊องเธอไปด้วยรึไง”
    ฉันมองหน้าคนที่พูด อี๋ อีตานี่ไปด้วยงั้นหรอ
    “มันเรื่องของฉัน ยุ่งกับฉันซะจริง”
    ว่าแล้วฉันก็เดินจูงมือเพื่อนของฉันทั้งสองแล้วเดินเข้าไปในกลุ่มเพื่อนที่เหลือ พวกเราเดินออกมาจากโรงเรียนภายในเวลาสิบนาทีพวกเราทุกคนก็ออกมาถึงป้ายรถเมล์
    “รถมาแล้วๆ”
    ฉันไม่รอช้าที่จะก้าวขึ้นไปบนรถและเข้าไปนั่งที่นั่งที่อยู่หลังสุด ที่ข้างฉันมีที่วางอยู่อีกหนึ่งทีฉันหวังจะให้เพื่อนซี้ของฉันมานั่งแต่...
    “^-^”
    “ออกไป ที่ตรงนี้ฉันจะให้เพื่อนของฉันนั่งน่ะ”
    “นู้นพวกเธอไปนั่งนู้นกันหมดแล้ว”
    “ก็เพราะนายนั่นแหละ เหอะ”
    ฉันเชิดใส่เขาพลางเอาแขนข้างหนึ่งวางให้ที่ขอบหน้าต่าง เบื่อขี้หน้าอีตานี่ชะมัด ฉันเหลือบไปเห็นเขาหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า อ๋อ... มันคือซาวเบ้าน์ เขายื่นหูข้างหนึ่งมาให้ฉัน
    “ฟังม่ะ”
    “นายเชิญฟังไปคนเดียวเถอะย่ะ”
    “ก็ดี...”
    แล้วเขาก็หยิบหูฟังข้างที่ยื่นให้ฉันเสียบเข้าไปในหูข้างซ้ายของเขา ดูพวกผู้หญิงในรถซิมองเขากันใหญ่ พวกหล่อนไม่เคยเห็นผู้ชายที่ฉันเกลียดที่สุดรึไงย่ะ
    “ดูคู่นั้นซิต๊ายตายผู้ชายหล่อ ผู้หญิงก็น่ารักน่ะเนี่ย ดูซิเหมาะกันชะมัด เธอว่ามั้ย”
    “ฉันสนแต่ผู้ชายย่ะ แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นได้เป็นแฟนของเขาจริง ก็เหมาะสมกันแล้วละ ดูซิหน้าตายังคล้ายๆ กันอีกแน่ะ โอ้ยอิจฉาชะมัดเลย”
    ฉันได้ยินเรื่องที่ไม่เข้าหูเอาซะแล้ว คิดว่าฉันเป็นแฟนกับอีตานี่นะหรอ พวกหล่อนคิดผิดแล้วละย่ะรู้ไว้ซะน่ะย่ะว่าฉันชอบผู้ชายหล่อๆ แล้วก็ต้องรวยๆ ย่ะอีตานี่ไม่ผ่านสำหรับฉันหรอกเชอะ แต่พอฉันเหลือบขึ้นไปมองหน้าของเขา เขากลับอมยิ้มเล็กๆ แล้วเขาก็เกาศีรษะของตัวเองเบาๆ การทำแบบนั้นมันทำให้พวกยัยผู้หญิงนั่นเข้าใจผิดฉันเข้าไปกันใหญ่ ฉันลุกขึ้นยืนเพื่อจะลงที่ป้ายต่อไป เพื่อนร่วมห้องของฉันก็ลุกขึ้นยืนพร้อมๆ กับฉันและคนหนึ่งก็กดกริ๊ง มีนลุกขึ้นพร้อมกับที่เขาเอามือโหนที่จับเอาไว้ส่วนฉันที่จับไม่ถึงก็ยืนอยู่ข้างหน้าเขาโดยที่ฉันจับเหล็กที่อยู่ตรงเบาะนั่งเอาไว้
    เอี๊ยดดดด!!!!!!
   
    อ๊ายยยยย!!!!!... เบรกหน้ากลัวชะมัด คนเกือบครึ่งหลุดออกจากที่จับแล้วกระเด็นไปพิงกับคนที่อยู่ข้างหลัง และนั่นก็ร่วมไปถึงฉันด้วย TT^TT งือ แล้วทำไมคนที่อยู่ข้างหลังฉันต้องเป็นเขาด้วยละเนี่ย ฉันพิงเขาเข้าไปเต็มๆ แล้วเขาก็ฉวยโอกาสจับหัวไหล่ของฉันพิงเข้าที่ตัวของเขา ฉันสะบัดออกทันที
    “ไอผู้ชายบ้าฉวยโอกาส นี่แน่ะ”
    ฉันเหยียบเท้าของเขาพลางหมุนส้นเท้าของฉันไปมา แล้วฉันก็เดินลงจากรถ เขาเดินตามหลังฉันมาเขาเอามือปิดที่ปากแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง นายมันบ้าสิ้นดี ฉันเดินไปหาเพื่อนซี้ของฉันทั้งสองคนแล้วพวกเราทั้งห้องก็เดินเข้าไปในห้าง และพากันเลือกซื้อของที่อาจารย์จะเอา
    “อันนี้แน่ๆ อันนี้ร้อยสามเก้า”
    “เฮ้ยอันนี้ก็มี ร้อยเจ็ดเก้า เอาอันไหนดีว่ะ”
    ฉันยืนนิ่งๆ อยู่ตรงนั่นฟังเพื่อนของฉันเลือกของว่าพวกเขาจะเอาอันที่ราคาร้อยสามเก้าหรือร้อยเจ็ดเก้าดี และสุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจได้ ฉันหยิบหมากฝรั่งอันสุดท้ายมาเคี้ยวแล้วพวกเราก็เดินไปที่เค้าเตอร์จ่ายเงินพวกเราซื้อมันมาทั้งหมดสองใบ ระหว่างที่พนักงานกำลังคิดเงินอยู่ฉันก็เดินออกมารอตรงทางแคบๆ ของเค้าเตอร์พลางเคี้ยวหมากฝรั่ง
    “กินไม่แบ่งเลยน่ะ”
    “อันสุดท้ายแล้ว อ้ะ”
    ฉันดันหมากฝรั่งออกมาจากปาก
    “ฮ่า ฮ่า ไม่เอาหรอกฉันไม่กล้า”
    ใหม่พูดพลางหัวเราะกับการกระทำของฉัน
    “แต่ฉันกล้า”
    ฉันหันไปมองหน้าของมีน และดันหมากฝรั่งออกมาจากปากอีกครั้ง และอ๊าก!!!!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น