จุดเริ่มต้นของนาฬิกาไม้เรือนหนึ่งได้เริ่มต้นเมื่อผมอายุได้ห้าขวบ
ตุ้มนาฬิกาแกว่งไกวไปมาดูเพลินตา
เสียงของมันเหมือนมนต์สะกดที่หยุดทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ภายใต้ความเงียบสงัด
ติ๊ก...ต่อก...ติ๊ก...ต่อก..
เป็นจังหวะท่วงทำนองที่ใครก็หยุดฟังไม่ได้
มือของคุณปู่ชี้ตามเข็มนาฬิกาที่เดินไปอย่างช้าๆแต่คงความสม่ำเสมอ
ราวกับจะบอกผมว่า...
นั่น..ดูเจ้าเข็มนาฬิกานั่นสิ
มันเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่มันจะพบจุดหมายปลายทางของมัน...
สายตาของเด็กชายตัวเล็กจับจ้องอย่างสนใจ
มันช่างเป็นเรื่องที่แสนอัศรรย์สำหรับผมและคุณปู่ที่ได้มานั่งดูนาฬิกาไม้นั้นทุกวัน
ผมและคุณปู่ผูกพันกับนาฬิกานั้นจนไม่อาจขาดมันได้
เข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
เช่นเดียวกับผมที่เติบโตกลายเป็นหนุ่มน้อยวัย17
คุณปู่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น...ตรงที่เก่า
หน้านาฬิกาไม้เรือนนั้น
เฝ้ามองเข็มและตุ้มนาฬิกาที่ไหวตลอดเวลา
รอยยิ้มเล็กๆปรากฎบนใบหน้าของชายชราทุกครั้งที่เฝ้ามองมัน
นี่หรือ...คือความสุขของการมีชีวิตอยู่ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที และทุกวินาที...
ผมคิดเช่นนั้น
ทุกครั้งหลังผมกลับมาจากโรงเรียน
ผมจะหันไปมองนาฬิกาเรือนนี้ทุกครั้ง
ราวกับกล่าวทักทายด้วยความคุ้นเคย
ผมนึกแปลกใจอยู่ทุกวัน
ว่าทำไม นาฬิกาไม้เรือนนั้น ไม่เคยจะหยุดเข็มของมันแม้ซักวินาที
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไป5ปีหรือ10ปีแล้วก็ตาม
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
เหมือนวันแรกที่นาฬิกานั้นตั้งอยู่ในบ้าน
25ปีผ่านไป...
ผมดำเนินชีวิตที่แสนจะว่างเปล่าไปอย่างไม่รู้ค่า
เดินทางไปบนถนนที่ไร้จุดหมาย
เฝ้ารอแต่อนาคตที่ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้
ทุกชั่วโมงทุกนาทีที่น่าเบื่อหน่ายผ่านไปแล้วผ่านไปเล่า
ผมไม่สามารถตอบตัวเองได้ด้วยซ้ำว่า....ผมกำลังเฝ้าคอยอะไร
หรือแค่เพราะผมปล่อยให้เวลามันผ่านไปอย่างไร้ค่า
จนกระทั่งวันหนึ่ง...วันที่ผมได้เข้าใจถึงปรัชญาแห่งนาฬิกานั้น
มันคือสิ่งที่คุณปู่เฝ้าบอกผมมาตั้งแต่ยังเด็ก...
ผมกลับมาจากที่ทำงานเช่นทุกวัน
แต่...ไม่มีคุณปู่ นั่งอยู่ตรงนั้น...หน้านาฬิกาไม้เรือนนั้น
ความเย็นยะเยือกเข้าครอบครองร่างของผมชั่วขณะ
สิ่งที่ผมคุ้นเคยมาตลอด25ปี กำลังจะจากผมไปงั้นหรือ...
คุณปู่ของผม....ผู้ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะดีใจนั้น หายไปไหนกัน?
คุณปู่ของผม...ผู้ที่อุ้มผมมานั่งตักและชี้ให้ดูเข็มนาฬิกาเล็กๆนั่น หายไปไหนกัน?
คุณปู่ของผม....ผู้ที่เฝ้าสั่งสอนเด็กโง่อย่างผม หายไปไหนกัน?
เด็กชายของคุณปู่วันนี้เพิ่งจะเข้าใจในสิ่งที่คุณปู่พร่ำบอกตลอดมา
ผมขอโทษครับ....ขอโทษที่ผมปล่อยให้ทุกวินาทีผ่านไปอย่างไร้ค่า
ขอโทษที่ไม่เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่
ขอโทษที่ทุกวันไม่อาจมานั่งเคียงข้างคุณปู่เหมือนวันเดิมๆได้
ขอโทษที่ปล่อยให้คุณปู่เฝ้าดูนาฬิกานั้นอย่างเดียวดาย
หากผมย้อนนาฬิกานั้นกลับไปได้ ผมจะขอให้มันเริ่มต้นเดินใหม่อีกครั้ง
ผมจะใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า
จะค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่
และ...ขอนั่งอยู่ที่เดิม....ข้างๆคุณปู่ และข้างหน้านาฬิกาไม้นั้นเช่นเดิม
สายตาของผมจับจ้องอยู่กับนาฬิกานั้นอีกครั้ง และนี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะเห็นมันเคลื่อนไหว
เข็มของนาฬิกาเดินแผ่วลง...ผมรู้สึกได้
ช้าลง....ช้าลงเรื่อยๆ...ในที่สุด...มันก็หยุดนิ่งอย่างสงบ
เจ้าพบจุดหมายของเจ้าแล้วหรือ...เจ้าเข็มนาฬิกาน้อย
เจ้าคงเหนื่อยกับการเดินทางอันแสนไกลที่ไม่มีจุดสิ้นสุดสินะ
พักผ่อนเถิด พักให้สบาย...เจ้าไม่ต้องไปไหนอีกแล้วล่ะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น