POINT OF NO RETURN - POINT OF NO RETURN นิยาย POINT OF NO RETURN : Dek-D.com - Writer

    POINT OF NO RETURN

    หากผมย้อนนาฬิกานั้นกลับไปได้ ผมจะขอให้มันเริ่มต้นเดินใหม่อีกครั้ง ผมจะใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า จะค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ และ...ขอนั่งอยู่ที่เดิม....ข้างๆคุณปู่ และข้างหน้านาฬิกาไม้นั้นเช่นเดิม

    ผู้เข้าชมรวม

    1,046

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.04K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 มิ.ย. 48 / 20:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      จุดเริ่มต้นของนาฬิกาไม้เรือนหนึ่งได้เริ่มต้นเมื่อผมอายุได้ห้าขวบ
      ตุ้มนาฬิกาแกว่งไกวไปมาดูเพลินตา
      เสียงของมันเหมือนมนต์สะกดที่หยุดทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ภายใต้ความเงียบสงัด
      ติ๊ก...ต่อก...ติ๊ก...ต่อก..
      เป็นจังหวะท่วงทำนองที่ใครก็หยุดฟังไม่ได้
      มือของคุณปู่ชี้ตามเข็มนาฬิกาที่เดินไปอย่างช้าๆแต่คงความสม่ำเสมอ
      ราวกับจะบอกผมว่า...
      นั่น..ดูเจ้าเข็มนาฬิกานั่นสิ
      มันเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
      แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่มันจะพบจุดหมายปลายทางของมัน...

      สายตาของเด็กชายตัวเล็กจับจ้องอย่างสนใจ
      มันช่างเป็นเรื่องที่แสนอัศรรย์สำหรับผมและคุณปู่ที่ได้มานั่งดูนาฬิกาไม้นั้นทุกวัน
      ผมและคุณปู่ผูกพันกับนาฬิกานั้นจนไม่อาจขาดมันได้
      เข็มนาฬิกาที่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
      เช่นเดียวกับผมที่เติบโตกลายเป็นหนุ่มน้อยวัย17
      คุณปู่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น...ตรงที่เก่า
      หน้านาฬิกาไม้เรือนนั้น
      เฝ้ามองเข็มและตุ้มนาฬิกาที่ไหวตลอดเวลา
      รอยยิ้มเล็กๆปรากฎบนใบหน้าของชายชราทุกครั้งที่เฝ้ามองมัน
      นี่หรือ...คือความสุขของการมีชีวิตอยู่ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที และทุกวินาที...
      ผมคิดเช่นนั้น

      ทุกครั้งหลังผมกลับมาจากโรงเรียน
      ผมจะหันไปมองนาฬิกาเรือนนี้ทุกครั้ง
      ราวกับกล่าวทักทายด้วยความคุ้นเคย
      ผมนึกแปลกใจอยู่ทุกวัน
      ว่าทำไม นาฬิกาไม้เรือนนั้น ไม่เคยจะหยุดเข็มของมันแม้ซักวินาที
      ไม่ว่าเวลาจะผ่านไป5ปีหรือ10ปีแล้วก็ตาม
      ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
      เหมือนวันแรกที่นาฬิกานั้นตั้งอยู่ในบ้าน

      25ปีผ่านไป...
      ผมดำเนินชีวิตที่แสนจะว่างเปล่าไปอย่างไม่รู้ค่า
      เดินทางไปบนถนนที่ไร้จุดหมาย
      เฝ้ารอแต่อนาคตที่ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้
      ทุกชั่วโมงทุกนาทีที่น่าเบื่อหน่ายผ่านไปแล้วผ่านไปเล่า
      ผมไม่สามารถตอบตัวเองได้ด้วยซ้ำว่า....ผมกำลังเฝ้าคอยอะไร
      หรือแค่เพราะผมปล่อยให้เวลามันผ่านไปอย่างไร้ค่า

      จนกระทั่งวันหนึ่ง...วันที่ผมได้เข้าใจถึงปรัชญาแห่งนาฬิกานั้น
      มันคือสิ่งที่คุณปู่เฝ้าบอกผมมาตั้งแต่ยังเด็ก...

      ผมกลับมาจากที่ทำงานเช่นทุกวัน
      แต่...ไม่มีคุณปู่ นั่งอยู่ตรงนั้น...หน้านาฬิกาไม้เรือนนั้น
      ความเย็นยะเยือกเข้าครอบครองร่างของผมชั่วขณะ
      สิ่งที่ผมคุ้นเคยมาตลอด25ปี กำลังจะจากผมไปงั้นหรือ...

      คุณปู่ของผม....ผู้ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะดีใจนั้น หายไปไหนกัน?
      คุณปู่ของผม...ผู้ที่อุ้มผมมานั่งตักและชี้ให้ดูเข็มนาฬิกาเล็กๆนั่น หายไปไหนกัน?
      คุณปู่ของผม....ผู้ที่เฝ้าสั่งสอนเด็กโง่อย่างผม หายไปไหนกัน?
      เด็กชายของคุณปู่วันนี้เพิ่งจะเข้าใจในสิ่งที่คุณปู่พร่ำบอกตลอดมา
      ผมขอโทษครับ....ขอโทษที่ผมปล่อยให้ทุกวินาทีผ่านไปอย่างไร้ค่า
      ขอโทษที่ไม่เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่
      ขอโทษที่ทุกวันไม่อาจมานั่งเคียงข้างคุณปู่เหมือนวันเดิมๆได้
      ขอโทษที่ปล่อยให้คุณปู่เฝ้าดูนาฬิกานั้นอย่างเดียวดาย
      หากผมย้อนนาฬิกานั้นกลับไปได้ ผมจะขอให้มันเริ่มต้นเดินใหม่อีกครั้ง
      ผมจะใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า
      จะค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่
      และ...ขอนั่งอยู่ที่เดิม....ข้างๆคุณปู่ และข้างหน้านาฬิกาไม้นั้นเช่นเดิม

      สายตาของผมจับจ้องอยู่กับนาฬิกานั้นอีกครั้ง และนี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะเห็นมันเคลื่อนไหว
      เข็มของนาฬิกาเดินแผ่วลง...ผมรู้สึกได้
      ช้าลง....ช้าลงเรื่อยๆ...ในที่สุด...มันก็หยุดนิ่งอย่างสงบ
      เจ้าพบจุดหมายของเจ้าแล้วหรือ...เจ้าเข็มนาฬิกาน้อย
      เจ้าคงเหนื่อยกับการเดินทางอันแสนไกลที่ไม่มีจุดสิ้นสุดสินะ
      พักผ่อนเถิด พักให้สบาย...เจ้าไม่ต้องไปไหนอีกแล้วล่ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×