ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายหัวยิ้ม's ไดแอรี่ (Diary of Mr. Smiling Head)

    ลำดับตอนที่ #2 : -2- 31 มีนาคม พ.ศ.2553 เสียดาย

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 53


    31 มีนาคม พ.ศ.2553
    เวลา 22.12
     
    เสียดาย!
    หากคุณพลาดไป
    บางคนไม่อยากพูดคำว่า “เสียดาย”
    บางคนพูดเบา
    แต่ถ้าคุณเสียดาย ก็ตะโกนมันออกมาเถอะครับ
     
    ผมเจอเรื่องเสียดายมาเยอะแยะ พอๆ กับทุกคนล่ะครับ
    ตลอดชั่วชีวิตนี้ ใครบ้างจะไม่เจอกับความเสียดาย
     
    คะแนนโอเน็ต…พร้อม
    จีแพก…พร้อม
    คะแนนแกทแพท…พร้อม
    มาเลยแอดมิชชั่นตัวดี
    อึ้ง!!! คะแนนที่ออกมาได้ดีแต่อาจไม่เกินคาด
    อย่างน้อยมันก็มีกำลังพอที่จะสามารถยื่นแอดมิชชั่นได้
    เสียดาย
    นิเทศศาสตร์จุฬา
     
    คำว่าเสียดายเท่ากับย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว แต่จะเป็นคติอันมากมายในใจเราต่อไป
    หลังจากจบ ม.6 เทอมแรก
    ดีใจมาก
    ผมได้โควตาของมหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
    สอบสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี…และไปรายงานตัว
    เสียเงิน
    หาหอ
    ดั้นด้นทุกวิถีทางเพื่อจะเรียนต่อที่นี่
    และไร้ความกังวล
    แต่ความเสียดายเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
    คะแนนแอดมิชชั่นปรากฏตัวขึ้น
    ทำผมอึ้ง
    เพราะมันก็ดีพอที่จะสามารถยื่นที่นั่นที่นี่ได้
    จนผมลนลานทำอะไรไม่ถูก
    ประเด็นคือจะแอดหรือไม่แอด
    ง่วนอยู่กับการคิดคะแนนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยลืมนึกไปเลยว่าความเสียดายได้บังเกิดขึ้นแล้ว
     
    ผมกระวนกระวายเอามาก
    ถามคนนั้นคนนี้ ว่าควรทำอย่างไร
    แอดหรือไม่แอด
    ทั้งๆ ที่ผมก็มีมหาวิทยาลัยบูรพาอยู่แล้ว
    (เนี่ยล่ะน้า ความโลภของคนเรา เข้าๆ ออกๆ อยู่นี่ล่ะ)
    โทรถามทั้งเพื่อน รุ่นพี่ และอีกหลายๆ คนทีผ่านประสบการณ์
    “เด็กแอด” มาแล้ว แต่การตัดสินใจเป็นของเรา
    วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2553
    หมดเขตการทำเรื่องขอสละสิทธิ์จากมหาวิทยาลัยบูรพา
    ตายล่ะ!!!
    ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย
    เสียดาย พลาดไปแล้ว
     
    เค้นมันออกมาว่า
    เสียดาย
    เค้นมันออกมาว่า
    เราพลาดไปแล้ว
    เค้นมันออกมาว่า
    กลับไปแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว
     
    ทั้งนิเทศศาสตร์จุฬา
    อักษรศาสตร์จุฬา และศิลปากร
    ทั้งหมด…เสียดาย
     
    ผมก็ทำได้เพียง เสียดายนั่นแหละครับ
    แต่มันก็ทำให้เราคิดได้ว่า ก่อนจะทำอะไร ควรคิดไตร่ตรองให้ดีถี่ถ้วยเสียก่อน
    ไม่งั้นมันจะมาเสียดายทีหลัง
    มันเป็นบทเรียนสำหรับผมเลยครับ
    ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เราจะเป็นเด็กแอด เสียดาย
     
    จนในที่สุด
    ก็หวนมาคิดในทางกลับกัน
    ผมคงจะเสียดายมากกว่า หากไม่เลือกมหาวิทยาลัยบูรพาในครั้งนั้น
    วิ่งเป็นไก่ตาแตก
    อ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ
    เพื่อแอดมิชชั่นและสู้รบกับการศึกษาไทยแย่ๆ
     
    ถึงแม้ว่าผมจะเสียดาย
    ที่ไม่ได้อย่างที่หวังและฝันเอาไว้ในด้านการศึกษาต่อ
    แต่ในด้านงานเขียน ผมไม่เสียดาย
    เพราะผมรักคนอ่าน…ผมเลยต้องเขียน
    ผมไล่คำว่า “เสียดายออกไปได้แล้ว” แต่เก็บเนื้อมันมาถือเอาเป็นคติ
     
    สุดท้าย มีสิ่งเดียวที่ผมไม่เสียดาย
    เอาเป็นว่าฟังเพลงพี่ช่าแล้วกัน
    “จะเสียดายผู้ชายห่วยๆ อย่างเธอทำไม”
    นั่นล่ะคงรู้คำตอบกันแล้ว
    ยังรักทุกคน และรักคำว่าเสียดาย
    บาย
     
    เสียดายที่ตอนนี้เวลา 22.53 แล้ว
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×