ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายหัวยิ้ม's ไดแอรี่ (Diary of Mr. Smiling Head)

    ลำดับตอนที่ #1 : -1- 31 มีนาคม พ.ศ.2553 เริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 53


    31 มีนาคม พ.ศ.2553
    เวลา 21.15
     
    สมุดบันทึกเล่มใหม่ของนายหัวยิ้ม
    ห่างหายจากการเขียนไดแอรี่มานาน
    ขอสักหน่อยจะเป็นไรไป
    เขียนในโน้ตบุ๊กครับ
    อันเนื่องมาจากคอมพิวเตอร์สุดที่รักที่เน่าแล้วเน่าอีก
    เอาไปซ่อมเป็นชาติ ยังไม่ได้คืนกลับมาเลย
    เรื่องของเรื่อง
    อยากเขียนนิยายที่ค้างเติ่งในคอมพ์
    คอมพ์เสีย!!!
    เซ็งโคตรๆ เหมือนหัวใจผมเน่าๆ ตอนนี้เลยล่ะ
    ฮ่า กลวงโบ๋ ว่างเปล่า
    จบสิ้นแล้วชีวิตม.ปลาย ที่คงไม่ได้หวนกลับไปเห็นมันอีกแล้ว
    คงได้แต่ย้อนรำลึกถึงความทรงจำเท่านั้น
    แต่ก็ดีใจ ที่จบมาได้
     
    วันนี้ตอนเย็นไปวิ่งมาครับ (เหมือนกับทุกวัน)
    แต่ที่ไม่เหมือนเดิม
    ก็นาฬิกาที่สวนสาธารณะ มันเปลี่ยนไป จากอันเก่าที่เคยเสีย
    รอนานมากครับ กว่าเขาจะมาเปลี่ยนอันใหม่
    ผมเงยหน้ามองนาฬิกาอันใหม่นั้น
    เลยทำให้เกิดมุมเล็กๆ น่าสนใจครับ
    เวลา บอกอะไรกับเรามากมาย
    หากเรามีวัน มีเดือน มีปี…แล้วถ้าไม่มีเวลา โลกจะดำเนินไปอย่างไร
    เวลาสามารถจำกัดให้ผมวิ่งได้สิบรอบภายในครึ่งชั่วโมงโดยไม่เหนื่อย
    นั่นล่ะสิ่งที่พิเศษสำหรับมัน
    มันจำกัดตอนเราเลิกเรียน
    มันจำกัดตอนเราเลิกงาน
    มันจำกัดไฟเขียว ไฟแดง
    มันจำกัดตอนเราจะนอน
    มันจำกัดตอนเรากินข้าว หรือทำกิจวัตรประจำวันทั้งหมด
    ลองคิดดู หากไม่มีเวลา
    เราจะเรียนจนหัวปั่น
    ทำงานยันเช้า
    จราจรติดๆ ขัดๆ
    หรือไม่ก็นอนจนเป็นหมีแพนด้า…กล่าวคือ ทำอะไรเชื่องช้าขึ้น
    เวลา จำกัดเราได้หลายเรื่อง
    แต่ตอนผมวิ่ง แทบจะไม่อยากหันไปมองนาฬิกาเลย
    สำหรับผมแล้ว นาฬิกาเป็นตัวขวางประสบการณ์ของผมครับ
    ไร้มัน ผมอาจจะวิ่งได้เกินสิบรอบ และไขว่ว้าหาประสบการณ์ได้มากกว่านี้
    เวลาเปรียบเสมือนช่วงชีวิต
    บางทีชีวิตที่ไร้เวลา อาจทำให้เราอยู่กับประสบการณ์ดีๆ ได้นานขึ้น
    อาจทำให้เราเก็บความทรงจำได้นานขึ้น
    คำว่า “เวลาผ่านไป”
    หากไม่มีคำนี้ ช่วงชีวิตม.ปลายของผมอาจยืดออกไปอีก
    คนเราก็ต่างมุมต่างความคิดครับ
    ขึ้นอยู่กับว่า เราอยากจะแชร์ความคิดนั้นไหม
     
    วิ่งผ่านนาฬิกายักษ์เรือนใหม่
    แทบทุกคนจะต้องหันไปมอง
    ได้เวลากลับบ้าน
    ได้เวลากินข้าว
    ได้เวลาไปรับแฟน
    ได้เวลาหยุดวิ่ง
    ไปแล้วครับ
     
    ผมยังไม่หยุดวิ่ง ตราบใดที่เส้นทางนักเขียนของผมยังทอดยาวต่อไปอีก
    …แม้แต่เวลาก็ขวางมันไม่ได้
    รักทุกคน
    และจบในเวลา 21.46
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×