ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    YAOI [!!!!]_รวบรวมภาพยาโอยมากมายหลายสายพันธุ์!!!

    ลำดับตอนที่ #8 : [SF]_Ishigo x Uryuu_To you, who is in my heart

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 53


    Name : To you, who is in my heart - ถึงนาย...คนที่อยู่ในหัวใจผม
    Pairing : Kurosaki Ichigo x Ishida Uryuu
    Rate: PG-15 

     

    เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น.

     

    ครั้งนั้น....ที่นายมองผม...ด้วยนัยน์ตาเปี่ยมความมั่นใจนั้น...

     

    ...เพียงครั้งเดียว...ผมก็ดีใจแล้วล่ะครับ...

     

     

    บ้านอิชิดะ...

     

    นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มสวยค่อยๆ เปิดขึ้น ภาพบรรยากาศในห้องนอนของตนปรากฏชัดในระยะการมองเห็น ร่างบางค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างช้าๆ เสื้อชุดที่ใส่นอนตัวบางถูกถอดส่วนบนออก และถูกนำไปกองไว้บนเตียงอย่างไม่ใส่ใจนัก  ชายหนุ่มหน้าสวยหยิบแว่นขึ้นมาใส่เพื่อให้ภาพชัดขึ้น ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกาย

     

    น้ำเย็นใสสะอาดไหลผ่านร่างเนื้อขาวผ่องไปอย่างช้าๆ อิชิดะ อุริว จงใจให้น้ำจากฝักบัวไหลกระทบใบหน้าสวยของตัวเองอย่างจังเพื่อไล่ความง่วงออกไป แต่ถึงแม้น้ำจะเย็นชวนตื่นเพียงใด...

     

    ...ความหม่นหมองภายในนั้น ก็มิได้ถูกขจัดไปอยู่ดี...

     

    ร่างบางในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ หยดน้ำร่วงหล่นลงกระทบและซึมหายเข้าไปกับพื้นพรมหยดแล้วหยดเล่า...ประตูตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออก แขนเรียวค่อยๆ หยิบเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันนี้ขึ้นมา...หากแต่สิ่งที่ทำเอาหัวใจของเขากระตุก...คือชุดแขนยาวสีขาวที่ถูกแขวนอยู่ในสุดของตู้....ชุดเครื่องแบบของควินซี่...

     

    เผาะ...เผาะ...

     

    น้ำตาหยดใสไหลออกมาจากดวงตาเรียวสวย ก่อนดวงตานั้นจะก้มลงมองมือของตนเอง...มือที่ไม่สามารถจะสร้างคันธนูออกมาได้อีกแล้ว...ไม่สามารถที่จะสร้างอาวุธใดๆ ที่จะปราบเหล่าฮอลโลว์ได้อีกแล้ว...

     

    หลังจากกลับมาจากโซลโซไซตี้ สิ่งที่ควินซี่หนุ่มผู้นี้ได้รับกลับมา กลับเป็นความว่างเปล่า เขาสูญเสียพลังของควินซี่ไปในศึกครั้งนั้น ความเจ็บปวดนั้นมากเกินจะรับได้ ...ใช่ แน่นอนเขารับไม่ได้ที่เขาเสียสิ่งล้ำค่าที่ประหนี่งจะค้ำชูชีวิตของเขาเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ไป...

     

    แต่อย่างน้อย...ในวันนั้น...วันที่เขากลับมาจากโซลโซไซตี้...แววตาสุดท้ายที่ชายคนนั้นมองเขา...ก่อนที่เขาจะโดนพ่อกักตัวไว้ที่บ้าน...แววตานั้น เพียงมันสื่อมาที่เขาอย่างมั่นใจและมุ่งมั่น เพียงแค่นั้นเขาก็ชื่นใจแล้ว...

     

     

    ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน....

     

    ....นายแสดงความมั่นใจอย่างมากที่จะสามารถเอาชนะผมได้...

     

    ....โดยการที่แข่งกันกำจัดฮอลโลว์...หากแต่สุดท้าย เมนนอสกรังเด้ ก็โผล่มา...

    ....ผมได้ช่วยชีวิตคุณเอาไว้...ปกป้องคนที่ผมรู้สึกผูกพันธ์ด้วยอย่างแกะไม่ออก...

     

    ....ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะว่าทำไมผมจึงทำอย่างนั้น....

     

    ....แล้วนายล่ะ?....

     

     

    แฮ่กๆ...

     

    การต่อสู้สุดโหดกับผู้เป็นพ่อยังคงดำเนินต่อไป โดยบุตรชายเพียงคนเดียวของ อิชิดะ ริวเค็น นั้นต้องต่อสู้กับเจ้าตัว โดยปราศจากอาวุธคู่ใจ ประจำเผ่าพันธุ์ควินซี่...ซึ่งก็คือ ธนู

     

    เปรี้ยง!

     

    ลูกธนูที่เล็กและแม่นยำถูกยิงออกไปเรื่อยๆ กระทบกับกำแพงที่สร้างขึ้นจากพลังวิญญาณ แต่ก็สร้างความเสียหายให้กับห้องที่ไม่ได้เป็นของจริงไม่มากนัก

     

    ฟุ่บ!

     

    โครม!

     

    ไม่ไหวแล้วงั้นเรอะ....  น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมาจากชายผุ้มีเรือนผมสีเงิน แว่นไม่หนาที่สวมอยู่ถูกดันให้กระชับ ก่อนจะขยับเข้าไปหาลูกชายที่นอนหมดแรงอยู่ที่พื้น ริมฝีปากเหยียดยิ้ม

     

    ไว้มาต่อพรุ่งนี้ละกันนะ

     

    ชิ...

     

    คนที่นอนหมดแรงสบถอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก...เขาไม่อยากแพ้พ่อ...เขาไม่อยากแพ้ผู้ชายที่ไม่เห็นค่าของความเป็นควินซี่เพียงเพราะเหตุผลว่ามันทำเงินไม่ได้!!!!

     

    หากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้...ในเมื่อชายคนนี้เป็นเพียงผู้เดียวที่มีโอกาสจะฟื้นพลังควินซี่ให้เขาได้มากที่สุด...

     

     

     

    เพียงพริบตาเดียวเตียงที่ห้องนอนก็ถูกร่างบางทาบทับลงไปนอน ความเหนื่อยล้าเกาะกุมกล้ามเนื้อทุกมัด บอกตัวของเขาว่ามันต้องการจะพักผ่อน ห้วงนิทราติดตามมาในเวลาไม่นาน ลากให้เด็กหนุ่มเข้าสู่ภวังค์แห่งการหลับไหลได้อย่างรวดเร็ว...

     

     

    งั้น ชั้นขอคำตอบแกเลยละกัน... เสียงหนึ่งจากผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำงานเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้อง ความตึงเครียดเกาะกุมหัวใจที่เศร้าหมองให้อาการหนักกว่าเดิมของเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสั้นสีน้ำเงิน

     

    ผม...อยากได้พลังของควินซี่คืน.... ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไป...ด้วยความลังเล

     

    แล้ว..?

     

    ผมสัญญาว่า... มันเป็นประโยคที่เขาไม่อยากกล่าวเป็นที่สุด

    ...ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยมทูตอีก... แม้น้ำเสียงจะเยียบเย็น...หากแต่ภายในนั้น...กำลังกรีดร้อง...กรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน...มันกำลังร้องไห้...เขาเพิ่งเอ่ยวาจาสัตย์ ออกไปว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนที่เขาได้มอบหัวใจทั้งดวงให้ คนที่เขาทำได้เพียงเฝ้ามองดูใบหน้าที่ยิ้มแย้มและความมั่นใจที่มีเกินร้อย ใบหน้าที่ทำให้เขามีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้...

     

    .   .   .   .   .   .   .  .  .

     

    ....แรงสั่นสะเทือนวิญญาณหยุดแล้ว...

     

    นัยน์ตาสีน้ำเงินเหลือบมองออกไปนอกกระจกบานใสที่กั้นตัวเขาเอาไว้กับโลกแห่งความเป็นจริง

     

    ...มันเกิดอะไรขึ้น?...แล้ว...เขาล่ะ??

     

    ฟุ่บ!

     

    เปรี้ยง!

     

    เป็นห่วงรึไง...การต่อสู้ของยมทูตน่ะ? เสียงที่แฝงความดูถูกจากผู้เป็นพ่อเหมือนจะจิ้มแทงใจดำของร่างบางเป็นอย่างมาก  ต่อให้ลูกธนูไม่โดนแต่คำพูดนั้นปักเข้าหัวใจเต็มๆ  

     

    พูดเรื่องอะไรน่ะ..? แสร้างตอบออกไปแบบนั้น พยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด ทั้งๆ ที่ในใจก็เป็นห่วงจะแย่...

     

    ...เป็นห่วง...ว่าเขาคนนั้นจะเป็นอะไรรึเปล่า...

     

     

    ภาพเพดานห้องของตัวเองปรากฎแก่สายตาอีกครั้ง ร่างผอมเพรียวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าที่ดวงตาของตนมีคราบใสๆ เกาะอยู่  มือเรียวรีบปาดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง...

     

    ก๊อก ก๊อก....

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงของบิดาจะเยื้องย่างเข้ามา นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายจ้องมองลูกชายที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงที่มุมห้องด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก ฝ่ายที่ถูกจ้องมองดูเหมือนจะรู้สึกตัวจึงเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาที่มองนั้นดูแข็งกล้าและไม่เป็นมิตรอย่างมาก...หากแต่ใบหน้านั้นก็ยังคง...งดงาม...

     

    เป็นอะไรไป...ปกติจะต้องแสดงอาการต่อต้านฉันไม่ใช่รึไง?

    ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ...ออกไป...นี่มันยังเป็นเวลาพักของผม

    หึ...ยังออกปากไล่พ่อเหมือนเดิมเลยนะ...

     

    ใบหน้าของเจ้าของเรือนผมสั้นสีเงินยิ้มเยาะเล็กน้อย ถึงแม้ลูกชายจะออกปากไล่แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะเดินเข้าไปใกล้เจ้าคนที่นั่งอยู่

     

    แล้วถ้า...ฉันบอกว่าไม่ล่ะ?

    ผมก็จะไล่คุณออกไปเอง...

    จะไล่ได้ยังไง...ในเมื่อฉันมาเพื่อจะบอกแกว่า...ไอ้ยมทูตสุดที่รักของแกน่ะ กำลังจะจากแกไปฮูเอโก้มุนโด้แล้ว

    หา!!!!”

     

    ท่าทางของคนตรงหน้าที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับสิ่งที่ตนเพิ่งกล่าวไปนั้นสร้างความหงุดหงิดให้กับ อิชิดะ ริวเค็น เป็นอย่างมาก หากแต่ก็ต้องเก็บความหงุดหงิดเอาไว้ในใจเท่านั้น

     

    คุณอย่ามาล้อผมเล่นนะ….!”

    ...ฉันจะล้อแกเล่นทำไม?! อ๋อ...ใช่สิ...ถ้าไม่ใช่เจ้านั่นมาพูดเองแกคงไม่เชื่อสินะ!...ได้...ฉันจะทำให้แกลืมมันอย่างสมบูรณ์เอง!!” ว่าจบวิชาเท้าเหินที่เป็นการเคลื่อนที่อย่างเร็วของควินซี่ก็ถูกนำออกมาใช้ พุ่งเข้าปะทะกับร่างที่กึ่งนั่งกึ่งยืนของลูกให้เสียหลักล้มลงไปนอนบนเตียงโดยมีตัวเขาคร่อมอยู่ได้อย่างง่ายดาย

     

    จะ...จะทำอะไรน่ะ!!!” ไร้คำตอบจากคนที่คร่อมอยู่ ผู้เป็นพ่อก้มลงจัดการกับซอกคอขาวทันที สร้างความตื่นตระหนกให้แก่คนด้านล่างเป็นอย่างมาก ริมฝีปากหนาของชายผมสีเงินขบเม้มสร้างรอยแดงไว้บางจุดบนร่างกายขาวผ่อง มือหนาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของคนด้านล่าง เผยให้เห็นแผ่นอกขาวบางน่าสัมผัส และหน้าท้องแบนราบเนื้อนวลละเอียดที่พร้อมจะทะลายความอดทนของผู้พบเห็นได้ทุกเมื่อ

     

    แกนี่ก็น่ากินเหมือนกันนี่หว่า...

    อึก...ออกไปนะ!!!!”

    ทำไม? รึแกอยากให้คนที่ทำแบบนี้กับแกเป็นไอ้ยมทูตนั่น? ช่างเป็นฝันที่เป็นไปไม่ได้เสียจริงๆ! มันสนใจแกที่ไหนล่ะ?

    บอกให้ออกไป!! ...ฮึก...

     

    น้ำใสๆ เริ่มไหลออกจากดวงตาคู่สวย สติเริ่มเลือนลางเมื่อสัมผัสจากคนข้างบนรุกเร้าไล่ไปตั้งแต่หน้าอกของเขาจนถึงหน้าท้อง รอยรักถูกสร้างขึ้นรอยแล้วรอยเล่าโดยที่คนด้านล่างไม่เต็มใจและไม่มีโอกาสจะต่อต้าน หัวสมองเริ่มตื้อไปหมดหากแต่เจ้าตัวก็พยายามจะคิดหาทางหนีรอดให้ได้  แต่ก็มองอะไรไม่ค่อยชัดเพราะหยาดน้ำที่ขอบตามันบดบังทุกสิ่งทุกอย่าง

     

    ส่วนลับส่วนหวงที่อยู่ใต้ท้องเริ่มถูกรุกรานแล้ว อุริวสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือหนาของพ่อปรนเปรอส่วนอ่อนไหวของเขาเบาๆ แต่ต่อเนื่อง

     

    ยะ...อย่า....ฮึก... เริ่มพูดไม่เป็นภาษา แรงจะดิ้นก็ไม่มี...ในขณะที่คนด้านบนยิ้มอย่างสะใจที่เห็นคนตรงหน้าแสดงด้านที่อ่อนแอและสิ้นหวังที่สุดออกมา

     

    อื้อ!....อื้อ!!!!” พูดไม่ออก เลยทำได้เพียงครางอย่างต่อต้าน เมื่อซิบกางเกงเริ่มจะถูกรูดออก ความต้องการที่จะหนีรอดเรียกสติกลับคืนมาได้ในวินาทีนั้น ประตูที่เปิดอยู่คือทางออกเพียงหนึ่งเดียว ในขณะที่คนด้านบนกำลังไปสนใจส่วนล่างของเขา ฉับพลันร่างบางลุกพรวดขึ้น กำปั้นดุ้นๆ เหวี่ยงปะทะกับใบหน้าของผู้เป็นพ่ออย่างแรงจนใบหน้าหล่อเหลานั้นหันไปตามแรงต่อย ก่อนที่ผู้เป็นลูกชายจะใช้วิชาเท้าเหินวิ่งออกนอกห้องไป...

     

    ริมฝีปากของเจ้าของนัยน์ตาสีเข้มเผยอยิ้มออกมา....ก่อนที่จะหายไปจากจุดที่เคยอยู่อย่างรวดเร็วตามคนที่เพิ่งหนีออกไป

     

    แฮ่กๆ... ยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่ แต่ร่างบางก็เลือกที่จะวิ่งต่อไป ถึงแม้จะรู้ว่าถูกห้องกระจกที่สร้างจากแรงดันวิญญาณของพ่อปิดกั้นเอาไว้ก็ตาม เด็กหนุ่มรูดซิบกางเกงตัวเองขึ้นพลางคิดทางออก จิตใจที่ตื่นตระหนกยังไม่สงบเสียทีเดียว แต่ในขณะที่กำลังหนี ร่างของคนที่เขาไม่อยากเจอที่สุดก็โผล่มาดักหน้าเสียก่อน!

     

    จะหนีไปไหนรึ? อุริว?

    บัดซบ!” ร่างบางเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว พลางงัดอาวุธที่มีลักษณะเหมือนแท่งเหล็กสีเงินเล็กๆ  ออกมาสู้ แต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะชายตรงหน้าไวกว่าเขา ยิ่งเป็นตอนที่น้ำตาไหลออกมาบังระยะการมองเห็นด้วยแล้ว...

     

    ฟุ่บ!

     

    ฉึก!

     

    เสร็จกัน! ในจิตใจของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินบัดนี้มีแต่ความตกใจและความเจ็บแค้น...ที่ไม่สามารถหลบลูกศรอันเล็กกระจิดของพ่อตนได้  ถึงแม้จุดที่โดนยิงจะไม่ใช่หัวใจ หากแต่มันก็ใกล้เคียง อย่างมากก็ห่างไปประมาณ 20 มม.เท่านั้น...นี่เขาอ่อนหัดถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

     

    หึ...เสร็จซะทีนะ....ร่างสูงของผู้เป็นพ่อที่ยืนค้ำหัวอยู่ราวกับจะตอกย้ำความอ่อนหัดของเขา...

     

    ลดพลังกายและพลังใจจนถึงขีดสุด...แล้วยิงลูกศรเข้าไปที่จุดตัด 19 มม.ทางด้านขวาของหัวใจ...

     

    เป็นวิธีฟื้นพลังให้กับควินซี่ที่สูญเสียพลังไป...เพียงวิธีเดียว...

     

    ทันทีที่ร่างบางได้ยินดังนั้น ดวงตาสีน้ำเงินพลันเบิกกว้าง...นี่ตลอดมา...พ่อทำเพื่อเขา...งั้นเรอะ...ทั้งที่พูดเหยียดหยามเขา...ตัดกำลังใจ...และที่ทำ..แบบนั้น..กับเขา...

     

    จะไปก็ไปซะสิ... เสียงพึมพำที่แทบจะไม่ได้ยินของชายตรงหน้าทำให้อุริวเบิกตากว้างกว่าเก่า...ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ริมฝีปากบางยิ้มให้คนตรงหน้าเล็กน้อยที่มุมปาก  ก่อนที่ร่างบางจะหายไปจากจุดที่นั่งอยู่เมื่อครู่ในพริบตา...เขายังมีเรื่องที่ต้องสะสางอยู่...

     

     

     

    ปล่อยไปแบบนั้นจะดีเหรอ... ร่างหนาร่างหนึ่งเอ่ยถาม นัยน์ตาของอิชิดะ ริวเค็นเหลือบมองไปยังผู้มาใหม่ที่ค่อยๆ  เดินออกมาจากในมุมๆ หนึ่งของโรงพยาบาล   คุโรซากิ อิชชิน เผยอยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อได้เห็นใบหน้ายากที่จะเข้าใจของเจ้าของผมสีเงินจ้องมองเขายิ้มๆ ก่อนร่างบางนั้นจะเดินเข้ามาหาเขาช้าๆ

     

    แล้วนายคิดว่ามันดีมั้ยล่ะ?

    ...เป็นคนไปห้ามเขายุ่งกับลูกฉันเองยังจะทำแบบนี้อีก...ไม่เคยเข้าใจนายจริงๆ เลยนะเนี่ย...

    หึ...

     

    ใบหน้าหล่อเหลาของชายสวมแว่นค่อยๆ เงยมองร่างหนาในชุดยมทูตตรงหน้าช้าๆ สองร่างโน้มเข้าหากันเล็กน้อยก่อนประกบริมฝีปากเข้าหากัน วงแขนแกร่งของผู้ใช้ดาบโอบรอบเอวร่างบางกว่าไว้ก่อนจะเอ่ยเบาๆ

     

    ที่เหลือจะเป็นยังไง....ก็ขึ้นอยู่กับสองคนนั้นแล้วล่ะนะ...

     

     

    บ้านคุโรซากิ

     

    ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีส้มกำลังนอนแผ่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องคนเดียว ในไม่ช้านี้เขาจะต้องไปที่ฮูเอโก้ มุนโด้...เพื่อไปช่วยเพื่อนคนสำคัญของเขา อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ...ที่ถูกเจ้าบ้าไอเซ็นนั่นลักพาตัวไป  หากแต่ร่างสูงก็ยังชั่งใจ...

     

    ยังมีสิ่งหนึ่งที่เขาลำบากใจอยู่...เขายังไม่ได้บอกร่างบางที่จนบัดนี้ไม่โผล่หัวมาให้เห็นเลย เจอหน้ากันที่โรงเรียนก็ไม่ยอมพูดกับเขา ทั้งๆ ที่เขาอยากจะเข้าหาอย่างมาก....เขาเพียงแค่ต้องการจะบอกลา...ก่อนที่เขาอาจจะไม่ได้เจออีกเท่านั้นเอง...อิชิดะ อุริว...

     

    ชู่วว...

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างทันทีที่สัมผัสแรงดันวิญญาณที่คุ้นเคยได้  แถมคนที่เป็นเจ้าของยังอยู่ในบ้านเขาอีกด้วย! ร่างสูงลุกพรวดขึ้นจากเตียงและรี่ไปที่ประตูห้อง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรอื่น

     

    ปัง!

     

    อั่ก!!”

     

    คุณคุโรซากิ!”

     

    เจ้าบ้า!!! เปิดเข้ามาหัดดูซะมั่งสิโว้ย...เฮ้ย! อิชิดะ! นายไปโดนอะไรมา?!” ทันทีที่สังเกตุตัวร่างตรงหน้าดีๆ แก้วตาสีเปลือกไม้ถึงกับเบิกกว้าง...ก็เพราะคนที่เขาเห็นในตอนนี้ใส่เสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมออกหมดทุกเม็ด เหงื่อผุดพรายทั่วตัว หนำซ้ำ...หนำซ้ำไอ้รอยแดงๆ ที่อยู่ตามตัวนั้นมันคืออะไร???

     

    ฝ่ายตรงข้ามดูจะตกใจไม่แพ้กัน ใบหน้าน่ารักนั้นขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อยเมื่อถูกทักเรื่องร่องรอยบนร่าง แต่แล้ว...สิ่งที่คุโรซากิ อิจิโกะไม่ปรารถนาจะเห็นมากที่สุดก็หลั่งออกมาจากดวงตาของร่างบางสวมแว่น...น้ำตา...

     

    ทำไมคุณไม่บอกผม?!”

    หา?อิจิโกะทำหน้าเหลอหลา...จู่ๆ ร่างบางก็ตวาดเขาขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

     

    ทำไมคุณไม่บอกผมว่าคคุณจะไปฮูเอโก้ มุนโด้???

    เอ่อ....

    ผมไม่ใช่เพื่อนคุณงั้นเหรอ? รังเกียจผมมากงั้นเหรอ? ทำไม...ทำไม...ทำไมถึงไม่บอกผม...ฮึก...

     

    ระงับเสียงสะอื้นไม่อยู่...ร่างเล็กกว่าเอามือปิดปากตัวเองไว้เพื่อปกปิดน้ำตาและเสียงร้องไห้ของตนเอง แต่มันก็ยังอุตส่าห์เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินก้องห้อง ใบหน้าของเจ้าของบ้านหัวส้มซีดลงทันตาเห็น ทำตัวไม่ถูกไปเลยเพราะจะเข้าไปกอดปลอบมันก็กระไรอยู่ แต่ก็มิอาจปล่อยไว้ได้...

     

    มะ...ไม่ใช่นะ...จริงๆ ฉันก็ชั่งใจอยู่เหมือนกันว่าจะไปบอกนายดีมั้ย...แต่มันก็ไม่กล้า...

    ทำไมล่ะ...

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลเสมองทางอื่นเล็กน้อย...เขาไม่อยากสบตากับร่างบางในตอนนี้เลย...เพราะกลัว...เขากลัวมาตลอดว่าคนตรงหน้าจะรับรู้สิ่งที่เขาคิด...และกลัวว่าจะรับไม่ได้

     

    ...ตอบผมมาสิ...คุโรซากิ...

    เพราะว่าฉัน...ปะ....เป็นห่วง...เพราะถ้านายรู้ว่าฉันจะไป นายจะต้องตามไปด้วยแน่นอน...แล้วมันเสี่ยงมาก...แถมมันก็เป็นเรื่องของยมทูต นายที่เป็นควินซี่อาจจะไม่อยากเอาตัวเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยก็ได้...

     

    ในใจของยมทูตแทบอยากจะร้องอ๊าก...ไม่นึกว่าจะกะทันหันแบบนี้ที่จะต้องมาพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด โดยเฉพาะกับคนที่เขา...จะเรียกว่าคิดไม่ซื่อด้วยก็คงจะไม่ผิดนักกระมัง...

     

    ...คิดว่าผม...ไม่ได้แคร์นายเหรอ...?

    หา?

    คิดว่าผมเย็นชาขนาดนั้นเลยเหรอ...

    ปะ...เปล่านะ! คือ...มัน...มันก็อันตราย ฉันก็แค่กลัวว่าถ้านายไปนายจะ...

    คิดว่าผมอ่อนหัดขนาดนั้นเลยรึยังไง??? คิดบ้างมั้ยว่าคนเขาก็เป็นห่วงเหมือนกัน! คิดบ้างมั้ยว่าถ้านายไปผมจะเหงาแค่ไหนที่....ฮึก...ทั้งๆ ที่...ผมเป็นห่วงขนาดนี้...แล้วแท้ๆ...ฮึก...

    ชายหนุ่มผมส้มถึงกับอึ้ง...

     

    ผมกลับล่ะ...อยู่ที่นี่ไปก็เปล่าประโยชน์... ประกายน้ำตาหยดใสที่กระทบกับแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาปรากฏชัดในภาพที่ยมทูตหนุ่มเห็น ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว...เขาไม่อยากจะเห็นหน้ายมทูตคนนี้อีกแล้ว...เขาเจ็บ...เจ็บที่อกข้างซ้าย...เจ็บที่ร่างตรงหน้าไม่ยอมบอกเขา...เจ็บที่ไม่ไว้ใจในตัวเขาหรอกหรือ?...และที่เจ็บที่สุด...

     

    ผมรักนายจะตาย...ผมอยากจะต่อสู้เคียงคู่กับนายได้อีก ถึงกับยอมไปก้มหัวให้ไอ้พ่อบ้านั่นเรียกความสามารถกลับคืน...เพื่อที่จะให้นายมาบอกว่า มันอาจเป็นเรื่องที่ควินซี่อย่างนายไม่อยากยุ่งด้วยก็ได้งั้นเหรอ??

     

    เรียวขากำลังจะก้าวหนี หากแต่มือนั้นถูกคว้าไว้ด้วยอีกหนึ่งมือที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ก่อนคนที่รั้งร่างบางไว้จะกระตุกแขนเรียวขาวผ่องนั้นเข้าหาตัว ส่งผลให้ทั้งร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินเสียหลักและเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างง่ายดาย

     

    นายจะทำอะไรน่ะ! คุโรซากิ ผมจะกลับแล้ว...ฮึก...ปล่อยนะ!” คนในอ้อมแขนพยายามออกแรงอันเหลือน้อยนิดเพื่อดิ้นให้หลุดจากการกอดนี้...เพราะมันกำลังทำให้เขาเจ็บ...น้ำตาน่ะมันไหลออกมามากพอแล้ว!

     

    คุโรซากิ.....!!!”

    เงียบนะ! อิชิดะ!” จู่ๆ คนที่กำลังกอดก็ตวาดขึ้นมาเสียดื้อๆ ทำเอาร่างเล็กอึ้งไป...

    คุโร...

    บอกให้เงียบไง...แล้วฟังฉัน... วงแขนนั้นแคบลงเรื่อยๆ ตามความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ซึ่งคนในอ้อมกอดนั้นรับรู้ได้เป็นอย่างดี 

     

    ที่ฉันไม่อยากให้นายไปด้วย...เพราะคู่ต่อสู้ในครั้งนี้คือไอเซ็น...และฉันก็สัมผัสแรงดันวิญญาณของนายในช่วงนี้ไม่ได้...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาย นายจะไม่สบายรึเปล่า?...นายมีอะไรรึเปล่า?...ฉันเลยไม่กล้าบอกนาย...

     

    ร่างบางไม่ตอบอะไร แต่จิตใจที่เศร้าหมองเริ่มดีขึ้นแล้ว

     

    ฉันดีใจมากนะ...ที่นายเป็นห่วงฉัน...อึ้งมากเลยตอนที่นายบอกว่านายแคร์ฉัน...จริงๆ ฉันก็ชั่งใจอยู่เหมือนกันว่าจะไปบอกนายดีมั้ย ตั้งใจจะบอกนายวันนี้ด้วยซ้ำไป...

     

    แต่ช่วงนี้นายไม่ยุ่งกับฉันเลย อยู่ที่โรงเรียนก็ไม่มาคุยด้วย...สำหรับ...ฉัน...ที่....

     

    จู่ๆ คนผมส้มก็เงียบเสียงไป นั่นทำให้คนถูกกอดเริ่มสงสัย แต่แล้วอ้อมกอดแกร่งนั้นก็กอดรัดร่างเล็กแน่นกว่าเดิมจนแทบหายใจไม่ออก ก่อนคำพูดที่ร่างบางคิดว่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะได้ยินแล้วในชีวิตนี้จะออกมาจากริมฝีปากของเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาล

     

    สำหรับฉันที่...แคร์นายที่สุด...รัก...และเป็นห่วงนายไม่ว่านายจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม...ฉันก็น้อยใจนะที่นายไม่มายุ่งด้วยอ่ะ... ดีว่าเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินไม่ได้มาเห็นใบหน้าของคนพูดตอนนี้ เพราะมันแดงราวกับลูกตำลึง ความรู้สึกที่เก็บกดมานานถูกพูดออกไปแล้ว...

     

    คุโรซากิ...

    ฉันรักนายนะ อิชิดะ...รัก...มากๆ เลยด้วย...นัยน์ตาสีน้ำตาลถูกซ่อนไว้หลังเปลือกตาที่ปิดลงแน่น ในจิตใจตอนนี้ของคุโรซากิ อิจิโกะมีเพียงเสียงร้องอ๊ากๆ ของตัวเองที่ต้องพูดความรู้สึกของตนเองออกไป...ก็เกิดมาเขาไม่เคยสารภาพรักกับใครมาก่อนเลยนี่นา!!

     

    ฮึก...คุโรซากิ...ฮึก...ฉันก็...รักนาย...ฮึก....ฮือออออ ใบหน้าหวานซุกลงที่แผ่นอกแกร่งของคนตรงหน้าทันที...คำพูดที่เขาเฝ้ารอมานาน...รวมทั้งสิ่งที่เขาต้องการจะบอกคนตรงหน้า บัดนี้เขาได้บรรลุเป้าหมายทั้งหมดแล้ว...สองร่างกอดกันแน่นราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีหายไปไหนอย่างไรอย่างนั้น ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันถูกปลดปล่อยและถ่ายทอดซึ่งกันและกัน อุริวเงยใบหน้าสวยนั้นขึ้นมา นัยน์ตาสีไพลินสบกับแก้วตาสีน้ำตาลมีเสน่ห์ของคนที่สวมกอดตนเองอยู่ ข้อความที่สื่อถึงกันผ่านสายตานั้นมีเพียงคำว่า รัก รัก แล้วก็...รัก ก่อนที่ใบหน้าทั้งสองจะโน้มเข้าหากันอย่างช้าๆ

     

    แพขนตางอนงามแผ่ปกปิดดวงตาซึ่งบัดนี้หลับพริ้มพร้อมรับการจุมพิตจากคนตรงหน้า ยมทูตผู้มีเรือนผมสีส้มค่อยๆ ประทับริมฝีปากของตนลงไปบนเรียวปากอวบอิ่มเย้ายวนนั้น...สัมผัสอ่อนนุ่มราวกับขนมมาชเมลโล่ รสชาติหอมหวานที่มิอาจหาได้จากที่ใดอีกแล้ว และสายสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองที่ผูกเข้าไว้ด้วยกันราวกับเกลียวเชือกที่มัดรวมกันผสานกันอย่างแน่นแฟ้น คุโรซากิ อิจิโกะ กอบโกยเอาสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเท่าที่ต้องการจากร่างบางตรงหน้า ในขณะที่ร่างบางเจ้าของใบหน้างดงามน่าหลงใหลก็ยินดีมอบและตอบรับการจูบจากคนตัวโต กว่าเป็นอย่างดี

     

    ...ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้า ท่วงทำนองรักอันเร่าร้อนบทหนึ่งถูกบรรเลงโดยคนสองคนที่รักและผูกพันธ์กันจนยากที่จะแยกออก ความสุขที่ได้นอนกอดก่ายอยู่กับคนที่รักและมอบความจริงใจให้กันมันช่างหอมหวานนัก...

     

    ...และต่อจากนี้ไป ไม่ว่าพวกเขาจะต้องเจออะไรก็ตาม...หากเพียงมีกันและกันอยู่ในใจเท่านั้น ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไปได้...

     

     

    ขออวยพรแด่ คุโรซากิ อิจิโกะ และ อิชิดะ อุริว

     

    จากใจไรท์เตอร์ค่ะ

     

    จบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×