คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ความรักต้องห้าม
ความรักต้องห้าม
หลังจากที่เจ้าหญิงฮานะเดินทางกลับมายังพระราชวังแล้วเหล่าขุนนางและนางกำลัลค์ห่างพากันมาสอบถามเจ้าหญิงฮานะด้วยความห่วงใยไม่เว้นแต่เจ้าชายมิยากิเมื่อได้รับรู้ว่าน้องสาวของตนกลับมายังพระราชวังแล้วก็รีบตรงดิ่งมายังสวนด้านหน้าพระราชวังทันที
“น้องหญิงเจ้าหายไปอยู่แห่งไหนมา เจ้าทำให้พี่เป็นดวงใจแทบสลายแล้วรู้รึไม่”เจ้ามิยากิกล่าวอย่างห่วงใยพร้อมกอดน้องสาวของตนดูตามเนื้อตามตัวของหญิงสาวว่าได้รับบาดเจ็บไหม เมื่อไม่พบบาดแผลชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมาบางๆ หญิงสาวไม่ได้กล่าวอะไรมากมายเพียงแต่มองหน้าของพี่ชายของตนแล้วกล่าวว่า
“ท่านพี่มิจำเป็นต้องห่วงหม่อมฉันหรอกเพค่ะ หม่อมฉันดูแลตนเองได้อาจได้ดีกว่าท่านเสียอีกเพค่ะ” เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงก็ทำให้เจ้าชายมิยากิเมื่อมีดาบเล่มใหญ่ปักเข้าที่หัวใจทันทีเขารู้ว่าน้องสาวเขาดูแลตนเองได้แต่ก็อดห่วงไม่ได้ที่น้องสาวของตนจะออกไปเผชิญโลกภายนอกพียงคนเดียวแม้ว่านางจะแอบหนีออกไปหลายครั้งก็ตาม เจ้าหญิงฮานะมองรอบๆบริเวรราวกับหาใครบางคนอยู่เมื่อเจ้าหญิงฮานะไล่สายตาไปเรื่อยก็ทำให้เราขุนนางและนางกำนัลค์ที่อยู่บริเวรนั้นต่างพากันก้มหน้าหลบสายตาอันแสนไร้อารมณ์ของหญิงสายพลันเมื่อไม่พบร่างบุคคลที่แสวงหาจึงได้เดินออกมายังบริเวรนั้นทันที ในขณะที่เจ้าชายมิยากินั้นงุนงงกับกริยาของหญิงสาวอยู่
ณ ห้องบรรทมเจ้าหญิงฮานะ
ร่างบางของหญิงสาวผู้หนึ่งที่ทำความสะอาดเครื่องประดับต่างของหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างเงียบๆไม่ส่งเสียงเอ๋ยคำใดๆออกมา ขณะเดียวกันที่นางกำลังยกกล่องเครื่องประดับอยู่นั้นอาการเจ็บแสบที่หัวไหล่ได้รุกรามขึ้นทันตาเห็นส่งผลให้อามินั้นปล่อยกล่องเครื่องประดับลงทันที ร่างบางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นมือข้างหนึ่งจับที่หัวไหล่ที่เจ็บหนักอีกข้างเพื่อยันตัวเองไม่ล้มลงกับพื้นไปมากกว่า อาการเจ็บปวดที่หัวไหล่แม้จะผ่านไปหลายชั่วโมงก็ไม่อาจทำให้อาการเจ็บนั้นบรรเทาคลายลงไปได้แม้แต่น้อย เวลาผ่านไปสักพักอาการปวดหัวไหล่ค่อยๆคลายลงที่ละน้อยหญิงจึงพยามยันตัวเองขึ้นและพยามทรงตัวไม่ให้เสียหลักล้มพลางเก็บกล่องเครื่องประดับเข้าที่ทันที ร่างบางของหญิงสาวไม่ได้กล่าวคำใดออกมาสายตาอันเหม่อลอยมองไปวิวทิวทัศน์นอกระเบียงพลางนึกถึงเรื่องราวต่างที่เกิดขึ้นมากมายในพระราชวังแต่พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อยามเช้าขอบตาทั้งสองข้างของร่างบางก็มีน้ำไหลอาบพวงแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวอย่างมิอาจห้ามได้ ความเจ็บที่อยู่ในหัวใจของหญิงสาวได้รับนั้นสาหัส แม้จะรู้ว่าไม่อาจแก้ไขอะได้แต่ก็ไม่อาจเข้าใจว่าทำไมตนเองนั้นถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้
กึก!!!
ฉับพลันเสียงประตูถูกเปิดออกทำให้อามิถูกขัดห้วงความคิดนั้นรีบเช็ดน้ำตาทันทีก่อนจะหันมาผมบุคคลปริศนาที่เปิดประตูทันที เมื่อพบว่าบุคคลที่เปิดประตูนั้นคือเจ้าหญิงฮานะ หญิงสาวก็ดีอกดีใจรีบวิ่งไปคว้าร่างบางมาดูทันทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“เจ้าหญิงพระองค์เสด็จไปแห่งไหนมาเพค่ะ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”อามิเริ่มตรวจสอบร่างกายของหญิงสาวทันทีว่าเป็นอย่างไร เมื่อไม่พบบาดแผลใดก็โล่งอกก่อนจะเงยหน้าแล้วกล่าวตักเตือนหญิงสาวทันที “ทีหลังหากพระองค์จะเสด็จไปแห่งไหนบอกหม่อมฉันด้วยสิเพค่ะ หม่อมฉันเป็นห่วงเสียแทบแย่ คราวหลังไม้อาแบบนี้แล้วนะเพค่ะ” คำตักเตือนของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เจ้าหญิงฮานะรอบยิ้มออกมาบางแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคราบน้ำตาบนใบหน้าของหญิงสาวกับท่าทางที่ดูเกร็งผิดปกติของหญิงสาว “อามิ เจ้าเป็นอะไรเหตุไฉนถึงร้องไห้”เมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาวก็ทำให้อามิสะดุ้งตัวก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงสั่นทันที “มะ หม่อมฉันไม่เป็นไรเพค่ะ” แต่หญิงสาวก็ไม่อาจเชื่อได้สนิทพลันจับไปที่ไหล่ของอามิทำให้ที่ยังไม่หายจากอาการเจ็บที่หัวไหล่นั้นชักสีหน้าแล้วร้องออกมาเสียงหลงทันที “โอ๊ย!!!!” เมื่อรู้ถึงอาการเจ็บที่หัวไหล่ของหญิงสาวตรงหน้าเจ้าหญิงฮานะก็รีบจัดการถอดชุดกิโมโนของร่างบางโดยไม่ฟังคำขัดขืนขอร้องของหญิงสาวเลย “อย่าเพค่ะ ได้โปรด อย่าเพค่ะ”อามิอ้อนวอนขอร้องหากแต่ชุดกิโมโนถูกถอดออกเผยให้รอยช้ำที่หัวไหล่ทั้งสองข้างและกลางหลังของหญิงสาวทำให้เจ้าหญิงฮานะโกรธจัดขึ้นมาทันทีแววตาขอนางตอนนี้ฉายถึงความเคียดแค้นและร้ายกาจเสียจนน่ากลัวก่อนตรัสถามขึ้นมาเสียงอันเยือกเย็นว่า “ผู้ใดทำร้ายเจ้าอามิ....” อามิได้เพียงแต่ร่างกายสั่นเทากลัวกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้า เพราะหากนางโกรธแล้วไซร้ นางจะร้ายอย่างไม่อาจห้ามได้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะพังพินาทย่อยยับลงทันที “ข้าถามว่า...ผู้ใดทำร้ายเจ้า” อามิได้แต่อ้ำๆอึงๆไม่กล้าที่จะเอ๋ยใดได้เพียงแต่ร่างกายที่สั่นเทามากขึ้นๆเรื่อยๆเมื่อเจ้าหญิงฮานะเห็นว่าอามิไม่ยอมเปิดปากก็เริ่มทนไม่ไว้และหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆจนกล่าวขึ้นมาว่า “ถ้าเจ้าไม่บอกข้าทำจะให้เจ้าบอกข้าเอง”ไม่ทันตั้งตัวเจ้าหญิงฮานะก็คว้าร่างบางของหญิงมากอดแน่นก่อนซุกไซร้ไปที่ซอกของหญิงสาวทันทีทำให้อามิรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวร่างกายไร้เรี่ยวแรงเลือดสูบฉีดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้อามิพยามที่จะผลักฮานะออกแต่ด้วยเรี่ยวแรงที่น้อยกว่าจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากฮานะสูบดมกลิ่นหอมของหญิงสาวลงมาถึงเนิ่นอกก่อนจะกล่าวถามอีกรอบว่า “ข้าจะถามเจ้าอีกครั้งผู้ใดเป็นทำร้ายเจ้า”เมื่อร่างกายแทบจะทนไม่ไหวอามิจึงเอ๋ยกลับไป “จะ เจ้าชายมิยากิเพค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบเจ้าหญิงฮานะจึงอุ้มร่างบางไปยังฟูกนอนของตนแล้วหาผ้ามาคลุมไหล่ให้นางก่อนจะกล่าวว่า “รอข้าอยู่ที่นี้ อย่าไปไหน”ก่อนจะสาวเท้าเดินออกมาทันที
ร่างบางของหญิงสาวเดินตรงดิ่งมายังห้องบรรทมของบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเชษฐาของตน ร่างบางกึ่งเดินกึ่งวิ่งด้วยความร้อนใจหวังว่าจะได้พบกับพี่ชายของตนโยเร็วหากแต่ระหว่างทางนั้น เจ้าหญิงฮานะได้พบกับเจ้ามิยากิโดยบังเอิญทำให้ร่างบางตรงดิ่งไปยืนดักหน้าพระเชษฐาของตนด้วยโทสะอันไม่อาจยับยั้งได้ เจ้าชายมิยากิเมื่อเห็นว่าพระขนิษฐาของตนมองคนเองด้วยแววตาที่เกรี้ยวกราดจึงเอ๋ยถามน้องสาวของตนอย่างสงสัยว่า
“น้องข้าเจ้าเป็นอันใด เหตุไฉนถึงได้มองพี่เช่นนี้” เมื่อเจ้าชายมิยากิกล่าวถามจบเจ้าหญิงฮานะจึงกล่าวถามกลับเสียงต่ำทำให้ขุนนางและนางกำนัลค์บริเวณนั้นเสียวสันหลังวาบและขนหัวลุกไปตามๆกัน “ท่านพี่ทำอะไรอามิ”
เมื่อได้ยินคำถามของพระขนิษฐาของตนก็ทำให้เจ้าชายมิยากิเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะถามกลับไปอีกว่า “เจ้าหมายความอย่างไร น้องข้า”
“ข้าถามว่าท่านพี่ทำอะไรอามิ...”ร่างบางกดเสียงให้ต่ำลงไปอีกอย่างเห็นได้ชัดทำเจ้าชายมิยากิเองก็เผลอรู้สึกหนาวไปไม่น้อยเลยทีเดียวก่อนจะตอบกลับน้องสาวของตนไปว่า
“ข้าจะไปทำอะไรนางได้เล่า
“แล้วรอยช้ำตามร่างกายของนางท่านพี่พอจะอธิบายให้ข้าฟังว่าเช่นไรดีเพค่ะ”
“.....”เมื่อได้ยินคำถามของน้องสาวตนที่กล่าวถามด้วยเสียงอันนิ่งเรียบก็ทำให้ผู้เป็นพี่ชายอย่างเขานั้นกล่าวอะไรไม่ออกเลยทีเดียว
“ท่านพี่จะกล่าวว่า มันเกิดขึ้นเองหรือนางกระทำเองหรอเพค่ะ”
“.......”เจ้าชายมิยากิไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่น้อยเพราะตัวเขาเองก็อาจไม่นึกเลยว่าสิ่งที่ตัวกระทำลงไปจะน้องสาวของมีโทสะและจะมาถามตนเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเองนั้นกระทำกับนางกำนัลค์คนสนิทของนาง
“ทำไมท่านพี่ทำต้องกระทำกับนางเช่นนี้เพค่ะ”
“เพราะนางไม่อาจดูแลเจ้าได้ดี ถึงทำให้เจ้าหายไป”
“นั้นไม่ใช่ความผิดของนางเพค่ะ คนที่ผิดคือข้าที่หนีไปโดยมิได้กล่าวเอ่ยกล่าวกับนางไว้เสียล่วงหน้า!!” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าชายมิยากิเองนั้นก็เกิดโทสะขึ้นมาทันทีแม้เขาจะรู้ดีว่าน้องสาวของตนที่หนีไปเที่ยวเล่นหากแต่ถ้านางกำนัลค์นั้นรู้ว่าน้องสาวจะออกไปนอกพระราชวังก็ไม่อาจทำให้โทสะของเขานั้นพุ้งขึ้นและเขาจะไม่ถูกน้องสาวของตนมากล่าวว่าเสียแบบนี้
“นางเองก็ผิดที่ดูแลเจ้าไม่ดีถึงทำให้เจ้าหนีออกไปเช่นนี้”
“ท่านพี่เลิกกล่าวหานางเสียทีเถอะเพค่ะ!!!!”
“......”ร่างบางไม่อาจออดกลั้นโทสะได้อีกต่อไปเมื่อเห็นว่าพี่ชายของตนนั้นไม่ยอบรับความผิดกับสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป แม้นางจะรู้ว่ากรากระทำของนางเป็นสิ่งที่ผิดแต่นางก็ไม่อาจยอมได้อาจพี่ชายของนางจะกระทำกับหญิงสาวที่เปรียบเสมือนพี่สาวแท้ๆของนางได้ โดยเฉพาะความไร้เหตุผลของพี่ชายตน ณ ตอนนี้ก็ทำให้เจ้าหญิงฮานะแทบอยากจะฆ่าพี่ชายแท้ๆของตนเสียตอนนี้เลย “ท่านพี่ควรย้อนนึกถึงสิ่งที่ท่านได้กระทำลงไปกับนางเสียมากกว่านะเพค่ะ เพราะสิ่งที่ทำท่านกระทำลงไปมันรุนแรงเสียจนมากกว่าความผิดที่นางกระทำเพค่ะ”
“......”
“ท่านพี่ลองคิดดูเสียดีๆนะเพค่ะ” เมื่อกล่าวจบร่างบางของเจ้าหญิงก็เสด็จกลับไปที่ห้องบรรทมทันทีเพื่อปล่อยให้พระเชษฐาของตนได้ย้อนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป
เมื่อร่างบางของเจ้าหญิงฮานะค่อยหายไปทีละนิดๆเจ้าชายมิยากิก็เพียงนึกคิดกับสิ่งที่ตนเองกระทำลง จริงอยู่ว่าอามิผิดที่ดูแลเจ้าหญิงฮานะไม่ดีแต่นางก็ได้ออกตามหาหญิงสาวจนทั่วพระราชวังแล้ว แต่เขากับกระทำเช่นนั้นกับนางโดยไม่คำนึงถึงเลยว่านางได้ออกตามหาแล้วรึยังเพียงเพราะโทสะที่เกิดขึ้นทำให้เขาทำร้ายร่างบางของหญิงสาวทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อมานึกคิดดูแล้วก็ทำให้เจ้าชายมิยากินั้นรู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
....เราไม่หน้ากระทำเช่นนั้นกับนางเลย อย่างที่ฮานะกล่าวจริงๆว่าเรากระทำผิดกับนางไป....
สวนน้ำตกหลังพระราชวัง
“แน่ใจรึว่าเจ้าจะเอง?” เจ้าหญิงฮานะเอ่ยถามร่างบางที่กำลังเตรียมของทำแผลอยู่ร่างบางของเจ้าหญิงที่บัดนี้ได้เปลี่ยนมาใส่ชุดกิโมโนสีชมพูลายดอกซากุระสวยอร่ามตาในขณะที่ยังจับจ้องไปยังร่างบางของหญิงสาวคนสนิทของตน
“มิเป็นไรเพค่ะองค์หญิง หม่อมฉันจัดการเองได้เพค่ะ”ร่างบางของอามิกล่าวก่อนจะหันมายิ้มสดใสให้กลับเจ้าหญิงฮานะ ที่กำลังจับจ้องมายังร่างกายของตนทั้งสองมักมาที่นี้ด้วยกันเสมอเนื่องจากเจ้าหญิงฮานะมักต้องการความสงบและปรอดผู้คนจึงทำให้อามิต้องพาหญิงสาวมาที่นี้ ซึ่งเป็นที่ปรอดผู้คนมากที่สุด สวนน้ำตกแห่งนี้เป็นที่ๆไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาเพราะเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงฮานะและเป็นที่ฝึกวิชาศาสตราวุธของหญิงสาวอีกด้วย
“....เข้าใจแล้ว ข้าจะไปเดินเล่นสักพัก เจ้ารีบจัดการแผลของเจ้าแล้วกัน”ร่างบางเจ้าหญิงฮานะก่อนที่จะเดินออกจากบริเวณนั้นทันที
เมื่ออามิเห็นร่างบางของหญิงสาวหายไปไกลริ้วแล้วจึงจัดการถอดชุดกิโมโนของตนออกเพื่อที่จะทำการทายาที่หัวไหล่และกลางหลังของตนโดยหารู้ไม่ว่ามีบุคคลกำลังจับจ้องมองตนอยู่ อามิค่อยถอดชุดกิโมโนออกเพียงด้านบนของร่างกายแล้วใช้ผ้าผืนเล็กชุบน้ำในสระก่อนจะนำมาประกบที่หัวไหล่เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดลงไปบ้าง ร่างบางของหญิงสาวค่อยเช็ดจุดที่ช้ำที่หัวไหล่อย่างระมัดระวังก่อนจะทายยาที่หัวไหล่ของคนทั้งสองข้าง หากแต่เมื่อถึงกลางหลังหญิงสาวมองไม่เห็นว่ารอยช้ำนั้นมันใหญ่มากถึงขนาดไหนจึงทำให้หญิงสาวไม่สามรถวางผ้าเย็นไว้ตรงที่ช้ำได้ ระหว่างที่หญิงสาวกำลังพยามเช็ดรอยช้ำที่กลางหลังก็มีมือปริศนามาแย่งผ้าจากมือของหล่อนไปก่อนที่บุคคลปริศนาจะกล่าวขึ้นมาว่า “รู้อยู่ว่ามองไม่เห็น เหตุไฉนไม่ให้น้องข้าช่วย”เมื่ออามิได้เสียงก็นึกได้รีบหันไปมองก็พบว่าบุคคลปริศนานี้คือ...
...องค์ชายมิยากิ!!!!...
เมื่อทราบคำตอบอามิใบหน้าสีข้าวดุจหิมะก็ขึ้นสีแดงขึ้นมาทันทีก่อนจะรีบใช้ยกมือขึ้นมาปกปิดเรือนร่างของตนเองทันทีก่อนจะกล่าวเวียงสั่นว่า
“พ..พระองค์เสด็จมาที่นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เพค่ะ”
เจ้าชายมิยากิมองร่างบางที่บัดนี้พยามปกปิดเรือนรางของตนเองอย่างถึงที่สุด ใบหน้าสีขาวนวลสวยบัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงดั่งลูกตำลึงสุกรามมาถึงหูของนาง เจ้าชายมิยากิมองร่างบางอย่างพยามกลั้นรอยยิ้มอย่างสุดหัวใจพยามตีสีหน้าเข้มก่อนจะนั่งลงข้างหลังหญิงสาวก่อนจะนำผ้าที่ชุบน้ำมาเช็ดรอยช้ำที่หลังของหญิงสาว อามิเมื่อรู้สึกถึงความเย็นที่หลังก็สะดุ้งตัวก่อนจะรีบกล่าวเสียงสั่นอย่างร้อนรนว่า
“อ...องค์ชายมิยากิ ม..หม่อมฉันทำเองเพค่ะ อ...องค์ชายอย่า...”กล่าวไม่ทันจบเสียงทุ้มก็กล่าวออกมาอย่างเรียบเฉยว่า
“อยู่นิ่งๆ”
“ต..แต่ว่า...”
“ข้าสั่งให้เจ้าอยู่นิ่งๆ”เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ทำให้อามินั้นยอมนั่งอยู่เฉยๆให้เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ยอมทำแผลให้เสียโดยดี ชายหนุ่มค่อยเช็ดรอยช้ำที่แผลอย่างระมัดระวัง รอยแผลที่กลางหลังไม่ได้ใหญ่มากอะไรหากแต่มันช้ำอย่างนักเสียจนทำให้หญิงสาวปวดระบบไปหมดเมื่อเห็นเช่นนั้นเจ้าชายมิยากิก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันใดหากแต่เจ้าตัวก็ยังปากแข็งไม่กล้าที่จะเอ่ยคำขอโทษใดๆออกมาเพราะมัวแต่สำนึกผิดทำเจ้าชายนั้นเผลอเช็ดไปยังรอยช้ำของอามิแรงเกินจนเสียอามิสะดุ้งขึ้นมาทันทีก็จะร้องออกมาเสียงหลงว่า “อ๊า”เมื่อเจ้าชายมิยากิได้ยินก็ตกใจก่อนจะกล่าวถามหญิงสาวข้างหน้าว่า “เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า” อามิเมื่อได้ยินคำถามก็พยามทำเสียงให้เป็นปกติก่อนจะกล่าวว่า “มะ มิเป็นไรเพค่ะองค์ชาย”เมื่อได้ยินคำตอบเจ้าชายมิยากิจึงค่อยเช็ดรอยช้ำอย่าระมัดระวังมากกว่าแต่หากปลายนิ้วนั้นไปสัมผัสกับผิวพรรณอันเนียนนุ่มของหญิงสาวอย่างไม่ได้ตั้งใจทำเจ้ามิยากินั้นหยุดชะงักและค่อยจ้องแผ่นหลังอันขาวนวลของหญิงสาว ผิวอันเป็นสีขาวอมชมพูสวย เนียนนุ่ม บอบบางหากไม่คำนึงถึงรอยช้ำที่กลางหลังแล้วไซร้นับได้ว่าหญิงผู้นี้มีผิวพรรณที่ดีมากเลยที่เดียว เจ้าชายมิยากิจ้อเรือนร่างข้างอย่างแทบลืมลมหายใจ หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิดออกมาเสียให้จงได้ รู้สึกหูอื้อเสียไปหมดทุกอย่างก่อนจะค่อยๆใช้นิ้วเรียวลูบไล้แผ่นหลังของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
อามิเมื่อรู้สึกถึงนิ้วเรียวที่ลูบไล้แผ่นหลังอยู่นั้นก็ได้เพียงแต่ตัวสั่นไม่กล้าขยับกระทำอะไรใบหน้าหวานของหญิงสาวแดงก่ำรามมาถึงต้นคอหญิงสาวรู้สึกกลัวและอายสลับกันไป ชายหนุ่มเมื่อเคลิบเคลิ้มไปกับแผ่นหลังของหญิงสาวก็ค่อยๆโน้มใบหน้าลงก่อนจะประริมฝีปากลงที่หัวไหล่ของหญิงสาวอย่างอ่อนโยนและค่อยไล่ลงมาถึงกลางหลังที่เป็นรอยช้ำอยู่ อามิเมื่อถูกกระทำเช่นนั้นก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวก่อนจะเรียกชายหนุ่มเพื่อพยามเตือนสติด้วยเสียงสั่นอันเย้ายวนว่า
“อ..องค์ชายมิยากิ”เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวเจ้าชายมิยากิจึงตื่นจากภวังค์และรีบลุกขึ้นนั่งดั่งเดิมก่อนจะใครควรว่า..
...เราเป็นอะไรไปเนี้ย!!...
เมื่อรวบรวมสติได้แล้วก็หยิบยามาทาที่กลางหลังของหญิงสาวทันทีเมื่อทาเสร็จก็ลุกขึ้นยืนอละกล่าวเสียงเรียบว่า
“ข้าทำแผลให้เจ้าเสร็จแล้ว หากจะกระทำอันใดให้เจ้าระวังด้วยแล้วกัน”
“พ..เพค่ะ..ขอบพระทัยเพค่ะองค์ชาย”อามิกล่าวเสียงสั่นก่อนจะรีบจัดแจงใส่ชุดกิโมโนทันทีระหว่างนั้นเจ้าชายมิยากิก็รีบกล่าวขึ้นมาว่า “ข้าขอตัวก่อน เจ้าระวังแผลของเจ้าด้วย”โดยไม่ฟังคำทักท้วงใดๆเจ้ามิยากิก็รีบเดินออกมาจากบริเวณนั้นทันระหว่างทางเจ้ามิยากิก็ได้ครุ่นคิดตลอดทางว่า
...นี่เราเป็นอะไรไป เราเป็นห่วงนางตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมดวงใจของเราถึงได้เต้นแรงถึงเพียงนี้ ทำไมเราถึงรู้สึกร้อนที่หน้าถึงเพียงนี้นะ นี้เราเป็นอะไรไป...
________________________________________________________________________________________________
สวัสดีจ้ะทุกคน ขอโทษที่ล่าช้านะจ้ะ ข้าพเจ้าขอกราบขอโทษเลยจ้ะ(_ _) ตอนนี้อัพมา 100%
โปรดยกโทษให้ข้าด้วยนะ!! ตอนนี้ปัญหามันมากมายเลยไม่ค่อยได้อัพต้องขอโทษด้วยจ้ะ facebook ก็เปิดข้ามวันข้ามคืนมาหลายวันแล้วเหมือนกันยังไงก็จะพยามอัพนะจ้ะ อย่าลืมมาอ่านกันนะ^^
ความคิดเห็น