คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : พบเจอ
พบเจอ
หลังจากที่ปลายฤดูของแต่ละอาณาจักรสิ้นสุดลง เหล่าประชานของอาณาจักรต่างๆก็ได้เริ่มพากันจัดงานฉลองและเทศกาลต่างๆของฤดูที่จะมาถึงในอีกไม่ช้านาน ไม่เว้นแต่เหล่ากษัตริย์ที่เตรียมพร้อมเดินทางสำหรับการประชุมของแคว้นยักษ์ใหญ่ที่จะมาถึงในอีกไม่ช้านาน เหล่ารัชทายาทของอาณาจักรต่างๆก็พากันไปร่วมประชุมครั้งนี้พร้อมเข้าร่วมพิธีเลือกคู่ในที่จะจัดขึ้นทุกๆหกเดือนของเหล่ารัชทายาทที่จะถูกจัดขึ้นเมื่อพระชนอายุครบ 18 ชรรณศา เพื่อให้เหล่าอาณาจักรต่างๆนั้นสานสัมพันธ์ไมตรีกันมากขึ้นกว่าเดิม
ณ อาณาจักรซาสึกิ
เหล่าขุนนางและนางกำนัลล์แห่งอาณาจักรซาสึกิต่างช่วยกันเตรียมของให้กษัตริย์คุมิสึและเหล่ารัชทายาททั้งสามอย่างเพื่อเตรียมเดินทางไปแคว้นคิตายามะเพื่อประชุมการค้าและสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างแคว้นให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ระหว่างที่นางกำนัลล์และเหล่าขุนนนางต่างวุ่นวายกันอยู่อามิที่กำลังเร่งรีบและดูกังวลบางอย่างอยู่นั้นทำให้เจ้าชายมิยากิที่เดินผ่านมานั้นได้กล่าวชื่อนางขึ้น “อามิ” กำนัลล์สาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงที่เรียกชื่อนางนั้นช่างคุ้นเคยอย่างยิ่งก่อนที่นางจะค่อยๆหันมามองต้นเสียงที่เรียกอย่างช้าๆ เจ้าชายมิยากิเมื่อมองเห็นว่าอามิมีท่าทางแปลกไปจากเดิมจึงถามอย่างอดสงสัยไม่ได้ว่า “เจ้าเป็นอะไรไป เหตุไฉนถึงดูกังวลใจนัก” เมื่อได้รับคำถามจากเจ้าชายมิยากิแล้วทำให้อามินั้นหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้เจ้าชายมิยากินั้นสงสัยนางกำนัลล์คนนี้มากขึ้นกับท่าทางที่อ้ำๆอึงๆของหญิงสาวมากขึ้นไปอีกจึงจ้องหญิงสาวที่สายตาที่เรียบเฉยแฝงความโหดเหี้ยมไว้ทำอามิที่ลุกลี้ลุกลนอยู่ต้องถอนหายใจอย่างช้าๆก่อนจะกล่าวตอบเจ้าชายองค์โตแห่งอาณาจักรด้วยเสียงสั่นๆว่า “องค์หญิง จะ องค์หญิงบาระ” เมื่อได้ยินชื่อของผู้อันเป็นน้องสาวของตนทำให้เจ้าชายมิยากินั้นถึงกับใจร้อนรนขึ้นมาทันทีทันใด เจ้าชายมิยากิบีบไหล่ทั้งสองข้างของอามิอย่างแรงทำให้หญิงสาวชักสีหน้าด้วยเจ็บปวดก่อนที่เจ้าชายมิยากิจะเขย่าร่างของหญิงสาวแล้วตรัสถามเสียงดังว่า “น้องข้าทำไม น้องหญิงข้าทำไม!!!!!”
“โอ๊ย หม่อมฉันเจ็บ”อามิกล่าวเสียงสั่น แต่ชายหนุ่มหาได้สนไม่
“ข้าไม่สน!!! ตอบข้ามาน้องหญิงข้าทำไม!!!!”
“อะ องค์หญิง....องค์หญิงบาระหายตัวไปเพค่ะ!!!!”เมื่อได้รับคำตอบทำให้ชายหนุ่มนั้นใจหายวาบลงทันทีรีบสะบัดตัวหญิงสาวลงจนร่างของหญิงสาวนั้นกระแทกกับผนังอย่างรุนแรงพร้อมตวาดเสียงดังใส่นางทันที “เจ้าเป็นผู้ดูแลภาษาอะไร!!!! เหตุไฉนถึงทำให้น้องหญิงข้าหายตัวไปได้!!!!” อามิที่ถูกแรงกระแทกนั้นทำให้ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด หญิงสาวพยามข่มความเจ็บปวดที่หัวไหล่กับหลังของตนไว้พร้อมตอบออกไปด้วยนำเสียงที่สั่นเครือว่า “หม่อมฉันขออภัยเพค่ะ....หม่อมฉันขออภัยเพค่ะ” คำกล่าวขอโทษของหญิงสาวนั้นไม่ได้ช่วยให้ชายหนุ่มสงบลงได้เลยในทางกลับกันกลับเพิ่มโทสะให้กับเจ้าชายมิยากิมากขึ้นกว่าเดิมอีก
“ข้าไม่ต้องการคำขอโทษ!!!!!”ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่นทำให้เหล่ากำนัลล์และขุนนางที่อยู่ในบริเวรนั้นต่างพากหลบออกจากบริเวรนั้นทันที อามิสั่นเทาไปทั้งร่างกายและจิตใจได้เพียงแต่ก้มหน้าไม่กล้าเพียงจะมองหน้าของบุคคลตรงหน้า ชายหนุ่มพยามกล่าวอย่างสงบว่า “เจ้าเอาเวลาที่จะขอโทษข้า ออกตามหาน้องหญิงเสียเถอะ!!!!” เมื่อกล่าวจบเจ้าชายมิยากิก็รีบวิ่งออกตามหาน้องสาวแสนรักของตนทันที ในขณะที่อามินั้นยังนั่งอยู่ที่เดิมสองมือจับไปที่หัวไหล่ของตนใบหน้าอันแสนหวานงดงามของนางบัดนี้กลับมีน้ำใสๆไหลอาบแก้มทั้งสองข้างนาง ไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดทางร่างกายแต่ส่งผลถึงความเจ็บทางจิตใจที่หญิงสาวนั้นได้รับมาเช่นกัน
ณ ตลาดเมืองซาสึกิ
ร่างบางของหญิงสาวผู้หนึ่งใส่เสื้อแขนกุดสีฟ้าอ่อนครึ่งตัวเผยให้แห่งหน้าท้องอันแบนเรียบของหญิงสาวกระโปรงสั้นสีฟ้าอ่อนเช่นเดียวกับเสื้อเกือบถึงเข่าของในใส่เป็นกางเกงรัดรูปขาในแต่ก็ยังเผยให้เห็นขาอ่อนหญิงสาวอยู่ดีด้านหลังมีดาบเล่มใหญ่ถูกพันไว้ด้วยผ้าอย่างดี รองเท้าปู๊ดผ้าสีน้ำตาลเข้ม ผมอันยาวสลวยนั้นถูกรวบขึ้นมัดเป็นผมหางม้าโดยมีผมปางส่วนปกหน้าของตนอยู่หากแต่ใบหน้าและแววตาที่เรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาแค่นี้ก็ทำให้หญิงสาวมีเสน่ห์ไม่ใช่น้อยแล้ว “ฮานะ!!”ร่างบางของหญิงสาวหันไปตามเสียเรียกก่อนจะถามขึ้นเสียงเรียบขึ้นว่า “มาแล้วหรอ” บุคคลที่เด็กสาวพบคือเด็กหนุ่มรุ่นราววัยเดียวกันถึงสองคน คนหนึ่งมีผมสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน ดวงตาสีเขียวมรกต ใบหน้าสวยราวหญิงสาว ริมฝีเล็กและบาง ผิวขาวดุจหิมะรูปหน้าเรียวได้ทรง ส่งรอยยิ้มแสนสดใสมาให้ร่างบางบุรุษผู้นี้คือ ‘เจ้าชายคิโตะมิยะ ริสุเกะ แห่งราชวงศ์คิโตะมิยะที่สิบแปด รัชทายาทองค์โตแห่งอาณาจักรคิโตะมิยะ’ ส่วนบุรุษอีกผู้หนึ่ง ผู้มีใบหน้าหวานและสวยอย่างไม่หน้าเชื่อว่าเป็นบุรุษ ดวงสีดำรัตติการตัดกับผมสีน้ำเงินเข้ม ริมฝีปากเล็กและบางรูปได้หน้าทรงไข่ ส่งรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนให้หญิงสาวตรงหน้า บุรุษผู้นี้คือ ‘เจ้าชายมิโยโนะ โทจิ แห่งราชวงศ์มิโยโนะที่สิบแปด รัชทายาทองค์องค์โตแห่งอาณาจักรมิโยโนะ’
“เอาหน่าข้ามาช้าไปหน่อยเอง เจ้าอย่าโกรธพวกข้าเลยนะ”เจ้าชายริวสุเกะกล่าวอย่างสดใสพร้อมเดินตรงมาโอบไหล่ของหญิงสาว ทำให้เจ้าหญิงฮานะมองเพื่อนซี้ของตนด้วยหางตาพร้อมด้วยใบหน้าอันเรียบเฉย ทำให้เจ้าชายริวสุเกะนั้นเริ่มหน้าซีดลงทีละน้อยก่อนจะเริ่มชักมือของตนออกมาจากไหล่ของหญิงสาวทันที เจ้าชายโทจิเมื่อเห็นเพื่อนทั้งเริ่มมีแววชวนทะเลาะกันจึงได้เดินมาหยุดอยู่ข้างหญิงสาวก่อนจะกล่าวว่า “วันนี้แอบหนีออกมาจะพระราชวังอีกสินะ” เจ้าหญิงฮานะไม่ตอบอะไรเพียงมองโทจิด้วยหางตาราวกับใช่ความเงียบเป็นคำตอบ “เจ้ากัวลเรื่องพิธีดูตัวสินะ”เจ้าชายริวสุเกะกล่าวถามขึ้นมาอย่างรู้คำตอบ เพราะเขาเองก็เข้าใจนางดีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเขาทั้งสามต่างก็เพ่งจะเคยเข้าพิธีดูตัวครั้งแรกไม่ว่าผู้ใดก็ต้องกังวลใจ หากตนนั้นกระทำในสิ่งที่ผิดไป หากตนไปรักใคร่กับบุคคลอันไม่สมควรรัก พวกเขาจะทำเช่นไร.................. “ข้าเจ้าไม่เอ๋ยถาม เจ้าย่อมรู้คำตอบริวสุเกะ”เจ้าชายโทจิกล่าวก่อนจะหันหน้ามามองใบหน้าของเพื่อนทั้งสองเพราะตัวของเขาก็กังวลไม่ใช่น้อยเช่นกัน เจ้าหญิงฮานะไม่ได้กล่าวอะไรสักอย่างนางเดินตรงไปก่อนจะหยุดแล้วเอ๋ยบางอย่างขึ้นในขณะที่นางไม่มองใบหน้าเพื่อนซี่ทั้งสอง “วันข้างหน้าจะเป็นเช่นไรข้ามิสน ข้าสนเพียงแค่ข้าอยากทำในสิ่งที่อยากกระทำก่อนที่ข้าจะไม่กระทำมันอีกเลย”แม้จะเป็นคำพูดอันแสนเรียบเฉยและไร้อารมณ์ใดๆแต่หากลองฟังดีๆมันแฝงไปด้วยความห่วงใยที่นางมีให้กับบุรุษทั้งสอง ชายหนุ่มทั้งสองอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะรอบยิ้มออกพร้อมกับเดินไปพร้อมๆกับหญิงสาว
เวลาผ่านไปสักพักเจ้าหญิงและเจ้าชายทั้งสองต่างพากันเดินกินลมชมเล่นอยู่ที่ตลาดอย่างสนุกสนานสักพักหนึ่ง ทั้งสามจึงได้เดินมายังสถานที่ลับหลังหมู่บ้านซาสึกิ มันเป็นสถานที่ที่พวกเขาทั้งสามมักหนีออกมาจากพระราชวังเพื่อมาพักผ่อนอยู่ที่นี้เสมอ ต้นไม้สีเขียวขจีสวยตัดกับแสงอาทิตย์ที่แผดเผ่าลงมายังพื้นหญ้าอันเขียวขจี ลมหนาวพัดผ่านเย็นจับใจดอกซากุระที่ปลิวไปตามสายลมทำให้ ณ เวลานี้สถานที่แห่งนี้สวยที่สุดหากเจ้าชายแห่งอาณาจักรทั้งสองต่างมองสถานที่แห่งนี้เพลินจนหารู้ไม่ว่ามีบุคคลหายไปผู้หนึ่ง โทจิที่รู้สึกแปลกจึงเริ่มหันมาถามเพื่อนซี้ของตนว่า “เจ้ารู้สึกว่ามีผู้ใดหายไปไหม” เจ้าริวสุเกะเมื่อถูกเอ๋ยถามก็รู้สึกได้ก่อนจะตอบกลับว่า “ถูกของเจ้า” ทั้งพยามนึกว่ามีผู้ใดหายไปเมื่อทั้งสองนึกออกจะกล่าวออกมาพร้อมเพียงกันว่า “ฮานะหายไปไหน”
เจ้าหญิงฮานะเดินมายังต้นซากุระต้นหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำที่ๆนางมักจะมาอยู่นี้ผู้เดียวเสมอ นางมองไปยังต้นซากุระที่ปัดนี้ดอกซากุระบานซะพรั่งอย่างเต็มที่แล้ว ดอกซากุระที่ไม่อาจต้านทานสายลมได้จำต้องยอมให้กลีบดอกของตนถูกสายลมพัดผ่านไป หญิงสาวเดินมายังต้นซากุระลำลึกถึงความซงจำเก่าๆมากมายที่เกิดขึ้นหากแต่เพียงใบหน้าของยังไม่อาจฉายแววว่าจะมีความสึกใดๆปรากฏอยู่เลยสักนิด ในขณะที่หญิงสาวกำลังชมดอกซากุระอยู่นั้นก็ได้มีบุรุษผู้หนึ่งเดินตรงเข้ามาหาหญิงสาวหากแต่นางไหวตัวทันจึงได้รีบหันไปมองบุรุษผู้ที่ผมสีฟ้าทะเล ดวงตาสีครามดุจน้ำมหาสมุทร ริมฝีปากอมชมพูเล็กเรียว หน้าได้รูปทรงไข่ ใบหน้าที่ดูเรียบเฉยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากแต่แววตาที่มองเจ้าหญิงฮานะแสดงถึงความรู้สึกอันหลงใหลที่มีต่อตัวหญิงสาว เจ้าหญิงฮานะเมื่อมีบุรุษปริศนามาอยู่ตรงหน้าก็ได้หันหลังเตรียมเดินกลับอย่างเร่งรีบหากแต่เสียหลักด้วยความเร่งรีบที่ตนทำให้ตนเองนั้นเสียหลักสะดุดขาล้มทันที
ตุ้บ
‘ทำไมถึงไม่รู้สึกเจ็บ’เมื่อหญิงสาวไม่ได้มีความรับรู้สึกเจ็บแต่อย่างใดจึงลืมตาขึ้นเพื่อดูสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เมื่อลืมตาขึ้น เจ้าหญิงฮานะก็พบกับแผลงอกของบุรุษปริศนานางจึงรีบไล่สายตามองดูก็พบว่าตนนั้นนอนทับร่างของบุรุษปริศนาอยู่ นางจึงรีบลุกขึ้นมานั่งทันที เด็กหนุ่มเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นลุกขึ้นนั่งแล้วนั้นจึงรีบพยุงตนลุกขึ้นก่อนจะเอ๋ยถามเสียงหนาวชวนให้หลงใหลว่า “เจ้าเป็นไรรึเปล่า” หญิงสาวตอบเด็กหนุ่มเสียงเรียบว่า “ข้าไม่เป็นไร ท่านล่ะเป็นไรรึเปล่า” เด็กมองดูเด็กสาวที่บัดนี้ก้มหน้าน้อยๆก่อนจะรอบยิ้มออกมาบางๆแล้วตอบนางว่า “ข้าไม่เป็นไร” หญิงสาวเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ๋ยขึ้นอย่างอ่อนหวานว่า “ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้าไว้ ลาก่อน”เมื่อกล่าวจบเด็กสาวจึงเตรียมที่จะเดินกลับไปหาเพื่อนของตนหากบุรุษปริศนาจับข้อมือขนางไว้ทำให้หญิงสาวหันมามองหน้าของชายหนุ่มก่อนที่ชายหนุ่มจะกล่าวว่า “ข้าจะได้พบเจ้าอีกไหม” เด็กสาวจึงตอบเสียงเรียบว่า “อาจไม่ช้านานท่านอาจจะได้พบข้าอีก”
“ข้าจะตามหาเจ้าให้สุดขอบล่าฟ้าดิน”เมื่อได้ยินคำตอบหญิงสาวจึงรอบยิ้มออกมาบางๆก่อนจะกล่าวว่า “ขอให้ท่านโชคดี”พลันสายตาที่ชายหนุ่มมองมาที่หญิงสาวนั้นจ้องลึกไปยังดวงตาของนางทำให้หญิงสาวนั้นแอบหวั่นไหวแม้ใบหน้าของนางยังเรียบเฉยและไร้อารามร์ชายหนุ่มยิ้มออกมาบางๆก่อนจะปล่อยของมือหญิงสาว ก่อนที่นางจะค่อยเดินหายไปลับตา
เจ้าหญิงฮานะเดินมายังสถานที่ลับของเพื่อนทั้งสองในขณะที่เจ้าชายโทจิและเจ้าชายริสุเกะกำลังตามหานางอยู่เมื่อทั้งสามพบกันเจ้าชายทั้งสองจึงถามหญิงสาวด้วยความห่วงใยว่าไปอยู่แห่งไหนมาหากแต่เจ้าหญิงฮานะไม่ได้กล่าวอะไรมากมายเพียงแค่ตอบสั้นๆว่าเดินไปยังแม่น้ำริมธารมาก่อนจะพากันเดินทางกลับพระราชวั
สวัสดีค่ะไม่ได้มาอัพนานเลยขอโทษที่ล่าช้านะค่ะ ยังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ(_ _) เพราะช่วงนี้รู้สึกไม่ค่อยดีในหลายๆเรื่อง เลยทำให้ไม่ค่อยได้อัพ ช่วงนี้เหนื่อยมากเลยด้วยเลยอัพช้าไปมากพอสมควรเลย ยังไงก็ถ้ามีอะไรให้ปรับปรุงบอกกันด้วยนะจ้ะ^^
ความคิดเห็น