ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    History of Satan ย้อนรักร้ายลิขิตใจยัยซาตาน

    ลำดับตอนที่ #4 : สิงห์ทะเลแห่งมหาสมุทร

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 56


    สิงห์ทะเลแห่งมหาสมุทร

                อาณาจักรแห่งผืนน้ำ

    ถัดออกไปไม่ไกลจากอาณาจักรแห่งท้องนภา คืออากาศที่เย็นเยือกและหนาวจับใจไปเกือบครึ่งของอาณาเขต ผืนดินที่เคยเป็นสีเขียวอร่ามตาบัดนี้ถูกปกคลุมโดยหิมะขาวบริสุทธิ์ ต้นไม้ต่างๆนาๆชนิดอันเป็นทรัพยากรสำคัญนอกเหนือจากสัตว์น้ำของอาณาจักรนั้นๆอาณาจักรนั้นคือ “อาณาจักรแห่งผืนน้ำ”

                ถัดออกไปทางตะวันออกของแคว้นและผืนน้ำ บนทางทิศตะวันออกสุดของแคว้นถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวไปทั่วอาณาเขต บรรยากาศหนาวเย็นใจไปสุดคั่วหัวใจ พืชพรรณต่างๆนาๆชนิดอันเป็นทรัพยากรของอาณาจักรที่ปกคลุมด้วยหิมะ แหล่งน้ำต่างๆกลายเป็นธารน้ำแข็งไปทั่วทุกแห่งหน ลึกเข้าไปในป่าทึบที่ถูกขนานนามว่าเป็นป่าที่อันตรายที่สุดในผืนน้ำ เสียงฝีเท้าของเหล่าฝูงอาชาดังก้องกังวานไปทั่วป่าด้วยความรวดเร็ว เสียงการพูดคุยของคนบนหลังม้าที่กำลังสนุกสนานสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่

                ตึก! โคร่ง!!

    ผ่านไปไม่ถึงวินาทีเสียงลูกศรของธนูด้ามหนึ่งก็ถูกยิงไปปักกลางหัวใจชองราชสีห์เสียแล้ว เสียงคำรามของราชสีห์ดั่งก้องกังวานพร้อมสะเทือนไปทั่วบริเวณรอบๆ ทำให้เสียงฝีเท้าของเหล่าอาชาหยุดลงและสงบนิ่งลง เหล่าชายฉกรรจ์ต่างลงจากหลังม้าพร้อมก้าวฝีเท้ามาข้างหน้าเพื่อไปดูผลงานในสิ่งที่ตนเองได้ทำ เสียงฝีเท้าหยุดลงต้นราชสีห์ที่บัดนี้ได้เหลือลมหายใจน้อยเต็มที ชายหนุ่มผู้หนึ่งตัดสินใจดึงลูกศรที่ปักอยู่กลางหัวใจของราชสีห์ออกมาก่อนจะเริ่มใช้วิชารักษาที่ได้ร่ำเรียนมาแล้วราชสีห์ไป เหล่าชายฉกรรจ์คนอื่นต่างนึกเสียดายที่บุรุษตรงหน้าปล่อยให้ราชสีห์หลุดไปได้ “ท่านมิคุโอะเหตุไฉนถึงได้ปล่อยราชสีห์ไปเหล่าพะย่ะค่ะ” ขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งกล่าวถามบุคคลตรงหน้า บุรุษผู้ที่ผมสีฟ้าทะเล ดวงตาสีครามดุจน้ำมหาสมุทร ริมฝีปากอมชมพูเล็กเรียว หน้าได้รูปทรงไข่ ใบหน้าที่ดูเรียบเฉยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แววตาที่มองเหล่าทหารและขุนนางดูเรียบเฉยและไร้อารมณ์หากในแววตาที่เรียบเฉยนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนโยนที่บุรุษผู้นี้มีอยู่เสมอ  บุรุษผู้มีนาม เจ้าชายฮัตสึเนะ มิคุโอะ แห่งราชวงศ์ฮัตสึเนะที่สิบแปด รัชทายาทองค์ทโตแห่งอาณาจักรฮัตสึเนะ

                เมื่อผ่านไปไม่นานเจ้าชายมิคุโอะและเหล่าทหารขุนนางทั้งหลายก็ได้เดินทางกลับเข้าไปในป่าทึบอีกครั้งหนึ่งเสียงเหล่าฝูงทั้งอาชาต่างพากันวิ่งอย่างรวดเร็วตามแรงบังคับของเหล่าบุรุษบนหลังม้า ไม่นานเกินรอ เจ้าชายมิคุโอะและเหล่าทหารขุนนางก็ได้หลุดออกมาจากป่าทึมมาเจอกำแพงเมืองที่สูงชันบริเวณรอบๆอาณาจักรมีทหารและองค์รักษ์รักษายามอย่างแข็งง้วดไม่แพ้อาณาจักรไหน หากแต่จะเห็นได้ว่าทหารและองค์รักษ์จะมีรูปร่างที่สูงใหญ่และแข็งแกร่งดั่งอาชา ความแข็งแกร่งของเหล่าทหารทำให้อาณาจักรนี้ได้รับฉายาว่า “อาณาจักรแห่งราชาสิงห์”

                ไม่นานนักหลังจากที่เจ้าชายมิคุโอะและเหล่าทหารและขุนนางลงจากหลังมาจากหลังม้าแล้ว นางกำนัลชั้นสูงผู้หนึ่งก็เดินตรงมาหาเจ้าชายมิคุโอะก่อนจะย่อตัวลงน้อยแล้วกล่าวว่า “ท่านมิคุโอะ ท่านสึคาตะเรียกพบพระองค์เพค่ะ”เจ้าชายมิคุโอะพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่ารู้แล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปในพระราชวังแล้วมุ่งไปยังท้องพระโลงทันที

                ร่างสูงของเจ้าชายคนเดียวในอาณาจักรได้มุ่งตรงตรงมายังท้องพระโลงที่ตกแต่งด้วยศิลปะที่เก่าแก่และศิลปะที่แปลกใหม่เข้าด้วยกันอย่างสวยงามอย่างไม่น่าเชื่ออย่างสง่างาม เจ้าโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อเป็นการเคารพบุคลที่มียศถาบรรดาสักดิ์สูงกว่าตน “สวัสดียามบ่ายพะย่ะค่ะท่านพ่อ ท่านแม่”เจ้าชายมิคุโอะกล่าวอย่างสุภาพและอ่อนโยนอย่างที่ผู้คนนั้นพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้บุคลที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองต่างพากันยิ้มออกมากับกิริยาของบุตรชายของตน บุคคลที่อยู่ตรงหน้าของเจ้าชายมิคุโอะนั้นคือกษัตริย์และราชินีผู้สูงศักดิ์ของอาณาจักรแห่งนี้ ทางด้านขวาของบังลังค์คือกษัตริย์ผู้ที่ผมสีดำดวงตาสีครามแห่งน้ำมหาสมุทร ริมฝีปากเรียวสวยรูปหน้าได้ทรงไข่ สีหน้าดูน่าเกรงขามและอ่อนโยนในเวลาเดียวกันกษัตริย์ผู้มีนามว่าสึคาตะ และทางด้านซ้ายขอบังลังค์คือราชินีผู้สูงศักดิ์ ผู้มีที่ผมสีฟ้าอ่อนๆ ดวงสีน้ำตาล ริมฝีปากเล็กเรียวสวย หน้าได้รวมรูปทรง ใบหน้าของนางอ่อนโยนและดูมีอำนาจอย่างไม่น่าเชื่อแม้แต่น้อยราชินีนาม นามิ  และเด็กสาวผมยาวตรงสลวยสีฟ้า ดวงตาสีฟ้าคราม ริมฝีปากเล็กเรียวสวย หน้าได้รูปทรงไข่สวยงามอายุอ่อนกว่าเจ้าชายมิคุโอะราวๆหกปีนาม มิคุแต่สุดท้ายบรรยากาศแห่งความอบอุ่นก็จบเมื่อองค์ราชินีกล่าวขึ้นมา

                “มิคุโอะ แม่อยากให้ลูกหมั้นกับหนูมิสึ”ราชินีกล่าวเสียงแข็งพร้อมมองหน้าบุตรชายด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเมื่อนางพูดถึงเรื่องนี้เสมอ

    “แต่ท่านแม่ ข้าไม่อยากหมั่นกับนางนะพะย่ะค่ะ”มิคุโอะค้านเสียงแข็งเพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้วที่ราชินีนามิต้องการให้มิคุโอะหมั้นกับเหล่าเจ้าหญิงจากอาณาจักรต่างๆหากเป็นเพื่อสันติภาพเขาจะไม่คัดค้านใดๆแต่สาเหตุที่ทำให้องค์ชายผู้นี้คัดค้านคือแม่อยากอุ้มหลานซึ่ง ณ ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับผู้ใดโดยเฉพาะหญิงสาวที่ตนไม่ได้รัก...

    “แล้วจะให้แม่รออีกนานแค่ไหนเหล่า มิคุโอะเจ้าก็อายุ18แล้วจะไม่ให้อุ้มหลานหน่อยรึ?”ราชินีกล่าวกลับอย่างเสียงเครียดเพราะตนเองและพระสวามีนั้นก็มีอายุมากพอสมควรแล้วก็อยากที่จะได้อุ้มหลานเสียครั้งหนึ่งหากแต่เจ้าลูกชายที่หัวแข็งและดื้อรั้นคนนี้ไม่ยอมที่จะแต่งงานเสียที “ท่านแม่ข้ายินดีที่จะแต่งงานหากแต่ตอนนี้ข้ายังไม่พร้อมและถ้าข้าพร้อม ข้าจะเลือกหญิงสาวที่หม่อมฉันรักเท่านั้น ข้าให้สัญญาว่าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”มิคุโอะกล่าวเสียงแข็งและดูทรงพลังเพราะเขาหมั่นใจเขาจะไม่มีวันทำให้ใครต่อใครผิดหวัง เมื่อกษัตริย์เห็นเช่นนั้นแล้วจึงยิ้มออกมาบางๆกับบุตรชายของตนที่มีความคิดแน่วแน่ไม่แพ้ผู้ใดก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า “ได้ข้าจะไม่ให้เจ้าตามที่เจ้าขอและจะให้เจ้าเลือกคนรักของเจ้าเอง”

    “แต่ท่านพี่...”

    “ปล่อยลูกไปเถอะน้องหญิง เจ้าลองเชื่อใจลูกสักครั้งข้าเชื่อว่าลูกเราจะมิทำให้เราผิดหวัง”ราชินีลังเลอยู่สักพักแต่แล้วก็ลอบถอนหายใจออกมาแล้วยิ้มๆบางๆพร้อมกล่าวว่า

    “ แม่จะให้เลือกคนรักของเจ้าเองตามที่ขอแต่มีข้อแม้ว่าเจ้าห้ามเลือกเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรซาสึกิเด็ดขาด”ราชินีนามิกล่าวอย่างกังวลใจเล็กน้อยเพราะเจ้าหญิงฮานะแห่งอาณาจักรซาสึกิขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่งามที่สุดในปฐพีไม่มีหญิงสาวผู้ใดที่จะงามสง่าได้เช่นนางได้อีกแล้ว มิคุโมะมองพระพักต์ของมารดาของตนอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุไฉนตนถึงรักเจ้าหญิงฮานะแห่งอาณาจักรซาสึกิไม่ได้ แม้ทั้งสองอาณาจักรจะมีเรื่องแค้นปาดหมางกันตั้งแต่อดีตกาล หากจะยุติความแค้นนี้ ก็ควรปรับความเข้าใจหรืออภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรนั้นเพื่อให้อาณาจักรทั้งสองปรองดองไมตรีกันและรวมเป็นหนึ่งเดียวกันก็เป็นการดีแล้วมิใช่หรอ?

    “ท่านแม่ เหตุไฉนท่านพี่ถึงอภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรซาสึกิมิได้ล่ะเพค่ะ”เจ้าหญิงองค์น้อยแห่งอาณาจักรฮัตสึเนะสงสัยด้วยความคิดเห็นที่มีเหมือนท่านพี่ของตนก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องห้ามมิให้ท่านพี่ของตนอภิเษกกับเจ้าหญิงผู้เลอโฉมผู้นั้นด้วย

    “เจ้าทั้งสองเป็นใคร”เสียงกษัตริย์สึคาตะถามขึ้นอย่างองอาจและมีอำนาจบุตรทั้งสองรู้คำตอบอยู่แก่ใจดีจึงกล่าวว่า “ข้าทั้งสองเป็นลูกของท่านพ่อพะย่ะค่ะ”มิคุโอะตอบกลับอย่างสงสัยกษัตริย์สึคาตะจึงกล่าวกลับไปอย่างส่งอำนาจอีกครั้งว่า “ลูกชายและลูกสาวข้าห้ามทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำ”บุตรทั้งสองยังคงจ้องอย่างพระพักต์ของท่านพ่อของตนอย่างไม่เข้าใจกษัตริย์สึคาตะจึงกล่าวอย่างทรงอำนาต่อว่า “และห้ามรักต่อบุคคลที่มิควรรัก”คำกล่าวของกษัตริย์สึคาตะทำให้ทั้งสองชะงักและก้มหน้าลงน้อยๆเพื่อเป็นการรับรู้ “เข้าใจไหม” “เพค่ะ/พะย่ะค่ะ”มิคุโอะและมิคุกล่าวเสียงเบาราวสำนึกผิดอะไรบางอย่างแต่คำตอบของบุตรทั้งสองทำให้กษัตริย์สึคาตะและราชินีนามิลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจหลังจากสนทนากันได้สักพักเจ้าชายมิคุโอะจึงขอตัวเสด็จกลับเข้าห้องบรรทมก่อนเนื่องจากความอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากการล่าสัตว์ระหว่างทางเจ้าชายมิคุโอะก็ยังอดสงสัยไม่ด้อยู่ดีว่าเหตุไฉนตนถึงรักเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรซาสึกิไม่ได้เพราะความแค้นที่มีมาตั้งแต่อดีตกาลหรือเป็นเพียงคำสั่งที่มีมีตั้งช้านาน แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตอนนี้เขาทำได้เพียงภาวนาในดวงใจของตนว่าอย่าได้อาจหลงรักนางอย่างเด็ดขาด

    สวัสดีค่ะไม่ได้มาอัพนานเลยขอโทษที่ล่าช้านะค่ะ ยังไงก็ขอโทษด้วยนะค่ะ(_ _)


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×