ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shokugeki no soma] I’m an ordinary person;) (BL/OC)

    ลำดับตอนที่ #2 : SS.1 : Okaerinasai

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 63


    วันเปิดเทอม

    ในที่สุดก็ถึงวันเปิดเรียนปีการศึกษารุ่น 92 เสียที ทุกคนตอนนี้ก็ได้มารวมตัวที่ลานใต้ต้นซากุระ คิดถึงบรรยากาศนี้จัง ไม่ได้มาที่นี่ต้องนานสองปีแล้วเสียนะ หอเคียวคุเซย์ก็ไม่ได้ไปนานแล้ว หวังว่าห้องเราจะยังอยู่นะ5555

    เพื่อนผมตอนม.1ก็ไม่ค่อยมีซะด้วย มีแต่รุ่นพี่ม.ปลายไม่ก็ม.2ขึ้นไปมาทักคุย ตอนไปพักที่หอนั้นก็มีผมคนเดียวด้วยที่เป็นม.1 พอจะเริ่มมีนักเรียนสอบผ่านเข้าหอได้ผมก็หนีไปแลกเปลี่ยนแล้ว

    “ต่อไปจะเป็นพิธีติดเข็มกลัดนักเรียนใหม่นะคะ เชิณคุณ นาคิริ เอรินะ มาได้ค่ะ”

    “ค่ะ” ว่าจบก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้ก้าวออกมา ดูเหมือนจะเริ่มปฐมนิเทศแล้วนะ ต้องรีบแล้วหล่ะ ตอนนี้คุณปู่นาคิริ จะกล่าวจบแล้วด้วย

    โอ๊ะ นั้นมัน “ยูคิฮิระ โซมะ”นี่นา เอาหล่ะคงใกล้แนะนำนักเรียนใหม่แล้วด้วยสิ หลังเสร็จจากนี่ก็ต้องไปที่นั้นเลย งั้นเอาไว้ในเวลาเรียนค่อยไปทำความรู้จักก็แล้วกัน

    “ตอนนี้ก็ถึงเวลาจะแนะนำนักเรียนใหม่ที่ถูกโอนย้ายมาในระดับชั้นมัธยมปลายนะคะ เชิญคนแรกเลยค่ะ ยูคิฮิระ โซมะ”

    “โอ๊ส” ว่าแล้วคนผมแดงก็เดินขึ้นไปเวทีพร้อมความมั่นใจเต็มเปี่ยม

    “ดูเป็นคนร้อนแรงใช่ได้เลยนะ ดูมีจุดหมายที่ชัดเจนดี จริงไหมครับ คุณปู่”

    “หึ ยังรู้ตัวอีกนะว่าชั้นซ่อนอยู่ตร่งนี้ อากิฮิโระคุง อย่าลืมนัดปู่ก็แล้วกัน”

    “ครับ” ว่าจบก็ถึงตาผมเสียที ดูท่าแล้วยูคิฮิระจะสร้างความลำบากไว้ให้ผมแก้นะเนี่ย วุ่นวายเสียจริงๆ

    สวัสดีครับทุกคนผมคือ โอดะ อากิฮิโระครับทุกคน ผมคนนี้กลับมาแล้วหลังจากที่ไปแลกเปลี่ยนมาสองปี หวังว่าทุกคนจะยังไม่ลืมผมนะ555 และทุกคนจะเป็นเพื่อนกันโดยใช้การทำอาหารเป็นสื่อนะครับ หวังว่าชีวิตในโรงเรียนนี้จะเรียบง่ายนะครับ ผมอยากเป็นคนปกติธรรมดา ครับ”

    หลังจากที่ผมพูดประโยคอันยาวเหยียดนั้นไป ก็เกิดเดดแอร์สิครับ แหะตอนผมอยู่โรงเรียนแต่ก่อน ใช่ว่าวีรกรรมผมจะน้อยเสียเมื่อไหร่ ตอนที่ผมเข้าในหอใหม่ๆแล้วมีแต่รุ่นพี่ม.ปลายหัวกะทิอยู่หอนี้ พวกนักเรียนอื่นที่เข้าหอนี้ไม่ได้ก็โวยวายสิครับจะรออะไร ก็มีแต่มาขอท้าแข่งโชคุเงคิอย่างเดียว ถามว่าตอบรับไหมก็ต้องยอม เพราะถ้าผมไม่ยอมพวกเค้าก็จะมาวุ่นวานอีก เห้อน่าเบื่อจริงๆ ฝีมือก็ไม่ถึงขั้น

    ด้วยเหตุที่ผมแข่งโชคุเงคิบ่อยเกินไปจนเกิน ห้าสิบครั้งได้ ทำให้สถิติผมนั้นสามารถเข้าสภาสิบหัวกะทิอันดับสิบได้เลย แต่ผมขี้เกียจครับเลยอันเชิญตัวเองชิ่งไปต่างไปต่างประเทศเลยครับ วุ่นวายจริง นั้นแหละผมก็เลยได้รับฉายา “โคอินัวร์แห่งโทสึกิ”

    ผมว่าฉายานั้นก็เวอร์เกินไปนะ ผมแค่เหงาเฉยๆเลยไปรับคำท้าด้วยอ่ะ เอาหล่ะได้เวลาไปหาคุณปู่นาคิริแล้วสินะ

    ณ ตึกผู้อำนวยการ

    “เอาหล่ะ โดวจิมะ อากิฮิโระคุง นี่ก็ถึงเวลาแล้วสินะที่เจ้าจะรับตำแหน่งที่ควรเป็นของเจ้าเสียที” โอ๋ชื่อเต็มมาเลย พร้อมทั้งนามสกุลของคุณพ่อมาอีกครับท่าน อย่ากดดันผมสิ

    “แหะคุณปู่ก็ทราบดีว่าอันดับสิบที่ผมจะได้ตอนม.1 ตกไปอยู่กับหลานสาวคุณปู๋แล้วนะครับ แล้วอีกไม่นานก็คงมีประกาศอย่างเป็นทางการ” อย่านะครับคุณปู่แค่ตำแหน่งที่ผมมีอยู่ตอนนี้ก็หนักพอตัวแล้ว อย่าหาเหาให้ผมเลยครับคุณปู่

    “ว่ากันตามตรงเรื่องที่เอรินะได้ขึ้นเป็นอันดับสิบปู่คิดว่ามันเร็วเกินไปนะ ปู่คิดว่าเจ้าควรมีตำแหน่งทางการได้แล้วนะอากิคุง” โห๋คุณปู่ครับถ้าเอรินะตอนนี้ไม่เหมาะ แล้วผมตอนนั้นหล่ะครับพึ่งได้เข้ามาพวกเอ็งก็จะยัดผมไปสภาแล้วนะครับ

    “คุณปู่ครับ ปู่ก็น่าจะรู้แล้วนะครับว่าตอนนี้ผมมีตำแหน่งอะไรบ้าง ถึงว่าตำแหน่งพวกนั้นจะหนักกว่าอันดับสิบก็เหอะ แต่เป็นปู่เองไม่ใช่หรอที่ส่งผมไปที่นั้นหน่ะ อย่าให้ผมรำลึกความหลังนะครับปู่ ถ้าปู่แกล้งผมอีกผมจะไปบอกให้พ่อผมลาออกนะครับ ปู่”

    “หึ อย่ามาขู่ฉันเรื่องนี้สิ ที่ฉันยังรั้งงินไม่ให้ไปไหนก็เพราะรุ่นนี้เท่านั้นแหละ อีกอย่างถึงเจ้านั้นจะกลับไป แต่ก็มีลุงของเจ้าอีกไม่ใช่หรอ? เอ๊ะหรือว่า”

    “อย่างที่คุณปู่คิดนั้นแหละครับ ว่าโดจิมะ ไม่ได้มีแค่ภัตราคารโดจิมะนะครับ มันยังมีอีกเยอะ แต่ช่างเหอะครับ ยังไงผมก็ปฎิเสธอยู่ดี ถ้าเอรินะมาได้ยินคงเสียใจนะครับที่คุณปู่มาดูถูกความสามารถของหลานขนาดนี้ แต่ยังไงผมก็มีตำแหน่งเปล่าที่คุณปู่สามารถเรียกใช้ผมเมื่อไหร่ก็ได้นะครับ เอาล่ะมาทานข้าวเที่ยงกันมื้อนี้ทำทำให้ทานเอง”

    หึ เจ้าอากินี่ก็ช่างหาคำมาขู่จริงๆ รู้ๆกันอยู่ว่าแกล้งก็ยังมาพูดความจริงอีกซะได้ แถมยังเอาของกินมาล่ออีก เมนูของเจ้านี่ไม่ใช่ว่าจะได้กินง่ายๆซะหน่อย ถามว่าทำไมเราาถึงได้เอ็นดูขนาดนี้ก็คงเป็นตอนที่ ได้ไปโทสึกิรีสอร์ทหล่ะมั้ง ได้เจอเด็กนั้นยังป.6อยู่เลยแต่ได้เป็นเชฟใหญ่ของรีสอร์ทนี้เสียแล้ว แถมเป็นคนกล่าวต้อนรับค่ายฝึกนรกของม.4ทุกปี ถึงว่าพอขึ้นม.1มามีแต่มอ.ปลายเอ็นดูเจ้านี่ เห้อสมกับเป็นลูกของ งิน กับฮิโรชิจริงๆ

    ………………………………………………………

    ในช่วงพักเที่ยงของวันเปิดเทอมวันแรกนักเรียนส่วนใหญ่ต่างก็มีความสุขดีที่จะได้เจอเพื่อนเก่า หลังจากปิดเทอมมานาน ต่างจากสิบหัวกะทิสิ้นดี ที่ตื่นเต้นนั่งเก้าอี้ไม่ติดกันแล้ว โดยเฉพาะว่าที่อันดับสิบอย่าง นาคิริ เอรินะ ที่ไม่มีสติคงความสมบูรณ์แบบขอวตัวเองได้แล้ว

    กึก มาแล้ว!!นี่คือเสียงความคิดของคนที่อยู่ในที่นี้ทุกคน ที่พร้อมใจคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย

    "โอ๊ะ สวัสดีครับทุกคนในที่สุดก็ได้เจอกันแล้วเนอะ5555 ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก ผมก็แค่นักเรียนโทสึกิธรรมดานี่แหละ เอาหล่ะพวกคุณไปพักทานข้าวเหอะ ใครมีเอกสารให้ผมเสร็จก็เอาเข้ามาได้เลยนะ "

    หลังจากที่ 'โซว์' หรือ อันดับศูนย์ ได้พูดจบทุกคนก็ต่างกุลีกุจอไปเอาเอกสารในส่วนของตัวเองอย่างรีบเร่ง

    "หวัดดีตอนบ่ายครับ เอย์ชิงคุง ไม่สิรุ่นพี่สึคาสะสินะครับ555 ไม่ต้องเกร็งเหมือนมวนท้องขนาดนั้นก็ได้ พวกคุณจัดระเบียบเอกสารกันดีนะครับ ผมขอชื่นชมเลย เอาล่ะคณไปพักเหอะ คงเหนื่อยมาเยอะสินะ" พร้อมยิ้มตอบโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มนั้น มันช่างน่ารักต่างจากบุคลิคที่เจ้าตัวแสดงออกมาสักนิด

    "โว้ยยยยย รอดแล้วโว้ยยยย นี่โซว์จังทานข้างยังหล่ะ ลองชิมอาหารจีนของผมไหม"รุ่นพี่คุงะตะโกนออกมาอย่างดีใจ ฮะๆปล่อยพวกเขาดีใจไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแต่ชิมหรอ อืมน่าสนจังยังไม่ได้ชิมอาหารของรุ่นนี้เลยหนิ เปิดประเดิมเลยก็แล้วกัน

    "เอาสิครับ ผมจะลองชิมดู"

    "ดีล่ะ!!!" หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ไปหยิบจานอาหารของตน ที่ได้เตรียมไว้สองจาน ซึ่งในจานก็คือหมูทอดราดซอสเปรี้ยวหวาน

    "งั้นขอขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ "หลังจากที่ผมได้กินไป ก็รู้สึกว่า อาหารจานนี้นั้นสมกับเป็นสิบหัวกะทิจริงๆ รสหวานของหมูแต่ก็ยังมีรสเปรี้ยวแทรกเข้ามา แต่ว่า…

    "นี่ นาคิริลองชิมหน่อยสิ "อยากรู้จังลิ้นเทพที่เขาเลื่องลือกันหน่ะจะเป็นยังไง

    "รสชาติของรุ่นพี่ถือว่ายอดเยี่ยมเลยค่ะ ไม่มีจุดบกพร่องเลย ซอสก็แทรกซึมหมูได้สมบูรณ์แบบค่ะ"

    "ดีล่ะขนาดลิ้นเทพยืนยันขนาดนี้เอาเมนูนี้ลงในรายการอาหารดีกว่า ว่าแต่โซว์จังไม่พูดอะไรหน่อยหรอ??"

    "อืม มันก็ใช้ได้อย่างที่นาคิริพูดแหละครับ แต่กว่าผมก็สงสัยบางอย่างอยู่ ช่างเหอะครับผมขอตัว" สิ่งที่ผมสงสัยหน่ะก็คือ ลิ้นเทพอย่างนาคิริไม่รู้สินะ ว่าอาหารจานนี้หน่ะ มีส่วนผสมของสิ่งที่ผมแพ้อยู่ล่ะนะ แต่ก็โชคดีหน่อยที่ ประสาทผมรับกลิ่นได้ดีก็เลย ทำเป็นกินไปล่ะนะ ไม่งั้นถ้าพ่อรู้ซวยแน่ๆ

    ………………………………………………………

    ในที่สุดแล้วผมก็ทำอาหารให้คุณปู่เสร็จเสียที ที่ผมทำในวันนี้ก็คือ ต้มข่าไก่ ที่ผมไปประเทศไทยกับพ่อเพราะว่าต้องไปจัดการธุระของตระกูลล่ะนะก็เลยได้ไปตะลอนกินเลย5555

    ได้เวลาไปเรียนกับอาจารย์ชาเปลแล้วสินะ แต่เอ๊ะดูเหมือนจะเริ่มทำอาหารแล้วสินะ ซวยแล้วสิเราโดนสวดยับแน่ๆๆ

    ครืดดดดดดดดดด

    “ขออนุญาตเข้าห้องครับ อะเร๊ะ” ดูเหมือนจะมาขัดจังหวะคนทำอาหารมากเลยนะเนี่ย

    “มาสายนะเจ้าหนูไม่เจอกันนานหนิ โตเป็นหนุ่มขึ้นเยอะนะ แล้วนั่นไม่ใช่ชุดเชฟมาหล่ะ” ซวยของจริงแล้วครับ อาจารย์เสียงเข้มแล้ว

    “แหะพอดีพึ่งไปหา คุณปู่มาน่ะครับอาจารย์ชาเปล อีกอย่างถ้าใส่ชุดผมจริงๆมันจะเด่นเกินไปนะครับ โอ๊ะทำสตูวเนื้อกันหรอ ดีล่ะได้เวลาทำแล้ว ขอตัวนะครับ” ต้องรีบพูดตัดจบบทสนทนาสิครับจะรออะไร ชิ่งแล้วค้าบบบบ จับคู่เค่ออะไรไม่สน ตอนนี้มีแต่เอาตัวรอดอีกหนึ่งชั่วโมง

    “ดีหล่ะเตรียมเนื้อก่อนก็แล้วกัน สับปะรดอยู่ไหนนะ เอามาหมักดีกว่า ซอส~~ ฮืมๆๆ”

    “อะไรกันหมอนี่ คนนี่คือคนที่ทุกคนให้การยอมรับว่าอยู่จุดสูงสุดจริงน่ะหรอเนี่ย ดูเหมือนเด็กข้างบ้านที่เป็นแค่เด็กชาวนาชาวไร่แท้ๆ” ตัวประกอบที่เหมือนจะพูดผิดคิวชะมัด

    “หืม คุณคือใครหรอครับ มายุ่งอะไรกับพื้นเพผมด้วยหรอครับ อีกอย่างอาชีพที่คุณกำลังดูถูกอยู่น่ะคือคนที่เก็บเกี่ยว เพาะพันธุ์มาเพื่อให้พวกคุณทำนะ อ่านายชื่อ คิเดะสินะ ชั้นจะจดจำไว้ในใจเลย”

    แค่อาจารย์ชาเปลก็น่ากลัวแล้วนะ ยังมีคนที่มีคำพูดน่ากลัวๆชวนให้ขนลุกเสียจริง ทำให้บรรยากาศตอนนี้นั้นอึดอัดเกินไปแล้ว!!!

    “เสร็จแล้วเชิญครับ อาจารย์”ว่าจบผมก็ได้ยื่นจานให้อาจารย์ชาเปล

    “อื้ม รสชาติสัมผัสของเนื้อนี้นั้นช่างละมุนเสียจริง มันละลายเข้าไปในปากเลย น้ำสตูวนี้ก็กลมกล่อมเข้ากับเนื้อจริงๆ มีรสเปรี้ยวนิดๆของสับปะรด แต่ก็มีรสหวานและอูมามิของสตูล แถมยังมีรสสัมผัสของเนื้อนี่อีก ชั้นยอดจริงๆนะ เอาหล่ะ A!! ถึงอย่างไรอาหารของเธอจะสูงกว่าเอแต่ว่าตามหลักสูตรมีแค่เอน่ะนะ555”

    “ยินดีครับ!!” จากนั้นก็นำเสื้อสูทมาคลุมตัวเหมือนเดิม เมื่อไหร่พ่อจะเอาเสื้อเชฟมาให้เนี่ย ป๊าด้วยขาดการติดต่อไปเลย

    “อาจารย์ชาเปลยิ้ม!!! สมกับเป็นโคอินัวร์แห่งโทสึกิ”

    “โอ๊ะนายชื่อ โอดะ อากิฮิโระ สินะ ฉันชื่อยูคิฮิระ โซมะ!! อาหารของนายมันสุดยอดจริงๆ เรามาเป็นเพื่อนกันเหอะ!”

    “เอาสิ” รู้สึกแปลกๆแฮะว่าถ้าอยู่กับเจ้าหมอนี่ความวุ่นวายมันกำลังจะมา

    ………………………………………………………………………………………

    หอเคียวคุเซย์

    “สามปีแล้วล่ะนะที่ไม่ได้มาที่นี่ จะมีใครเข้ามาใหม่บ้างนะ” หลังจากนั้นผมก็ได้ไปกดกริ่งของหอนี้

    แอ๊ดดดดดดดด

    “โอ๊ะ กลับมาแล้วสินะอากิฮิโระยินดีต้อนรับกลับมานะ!!” คุณยายยังใจดีเสมอเลยนะเนี่ย

    “ขอบคุณครับคุณยาย ว่าแต่ตอนนี้มีสมาชิกใครบ้างแล้วหรอครับ ว้าวได้กลิ่นของรมควัน ไม่สิการหมักดองด้วย เริ่มมีคนที่มีคนที่มีความสามารถเข้ามาหอนี้แล้วสินะครับ”

    “อือ ประสาทการรับกลิ่นของนายยังดีเหมือนเดิมนะเนี่ย เอาหล่ะเดี๋ยวชั้นไปเรียกพวกสมาชิกให้มาแนะนำตัวกับนายก็แล้วกัน อีกอย่างวันนี้มีคนเข้ามาใหม่ด้วย”

    “งั้นผมไปรอยู่ห้องทานข้าวนะครับ” เตรียมอาหารเลี้ยงเป็นการทักทายก็แล้วกัน

    ผ่านไปประมาณสิบนาทีได้ ตอนนี้มีก็มีคนจำนวนหนึ่งได้เดินเข้ามาในห้องนี้ ในขณะคนที่อยู่ก่อนหน้าได้พักสายตา

    “ใครกันหรอครับ คุณฟุโอมิยะ ทำไมถึงมาหลับอยู่ที่นี่ได้”เด็กสาวผมสีส้มมัดผมทรงดังโงะพูดขึ้น

    “อ๋อ คนนี้น่ะหรอเห้!ฮิโระตื่นได้แล้ว พักสายตาพอแล้ว” ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว คุณยายพร้อมเอามือมาโขกหัวผมอีกด้วย เจ็บนะครับ!!

    “โอ๊ยคุณยายผมเจ็บนะครับ แหะๆเสียมารยาทแล้วสิ ผมชื่อ โดอะ อากิฮิโระครับ เป็นอดีตคนของหอนี้แต่ตอนนี้เป็นปัจจุบันแล้วครับ อยู่ห้อง 101 ครับ”

    “เอ๋ อากิฮิโระ อย่าบอกนะว่านายคือ อากิฮิโระ ผู้ที่เป็นโคอินัวร์แห่งโทสึกิเมื่อสามปีที่แล้ว!!” ผู้หญิงผมส้มก็พูดขึ้นอีกรอบ

    “ก็นะ ยูกิจัง อย่างพิธีปฐมนิเทศที่ผ่านมา เจ้านี่ก็ได้ฉายานั้นจริงๆนั้นแหละ เป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถเข้าสอบหอนี่ได้อ่ะนะ สมัยนั้นสนุกจริงๆนั้นแหละได้เห็นเจ้านี้แข่งเกือบทุกวัน แต่ก็จะเอาสิ่งที่ไปท้ามา นำมาบำรุงหอนี้น่ะ แถมเจ้านี้แต่ก่อนก็เป็นว่าที่อันดับที่สิบของหัวกะทิแหละ ตอนที่พวกหัวกะทิที่อยู่หอนี้พากันจีบให้มันเข้าสภาทุกวันเลยล่ะ ใช่ไหมหล่ะอากิ”

    “ว่าที่อันดับสิบหัวกะทิ!!!”ครั้งนี้ไม่ใช่คนเดียวที่พูดออกมาแต่คนในหอทุกคนต่างพร้อมใจตะโกนออกมา

    “คุณยายก็ชมผมเยอะไปแล้วล่ะครับ ผมก็เขินนะครับ ก็จริงอยู่ที่ตอนนั้นผมเป็นว่าที่ ในปีต่อๆมาก็มีคนไปแทนแล้ว อีกอย่างตอนนี้ก็เป็นของนาคิริด้วย จริงไหมครับอิชิกิเซมไป ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ล่าสุดก็ปีที่แล้วที่เจอกันที่โรงแรมเนอะ”

    “นั่นสิฮิโระคุง เธอนี่ทำให้ชั้นเซอไพรส์ได้ตลอดเวลาจริงๆนะ ทั้งเรื่องตอนอยู่โรงแรมและตอนอยู่-”

    “ชู่วว อย่าพึ่งบอกดีกว่านะครับ ถ้าบอกตอนนี้มันจะไม่สนุกนะครับ”

    “555 เอาสิ แต่ว่านายเนี่ยโตขึ้นเยอะจริงๆนะเนี่ยจากเด็กม.หนึ่งตัวเล็กๆเอง”

    “อย่างกับว่าตอนที่เซมไปอยู่ม.สองสูงนักแหละครับ เอาล่ะทุกคนก็มาทานข้าวกันเถอะแล้วค่อยมาแนะนำตัวกัน มื้อนี้ชั้นทำเอง”

    “สวรรค์มาโปรดดดด ได้มากินอาหารระดับเทพแห่งโทสึกิเลยนะเนี่ย” ยูกิจังก็โอเวอร์ได้ตลอดนะครับเนี่ย

    ……………………………………………………

    เอาหล่ะทุกคนอันนี้คือเสื้อของน้องนะคะ หวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับน้องฮิโระนะคะ

    ปล.เสื้อของน้องมันจะดูมาเฟียนิดนึงนะคะ5555 ตรงที่เป็นผ้าผูกมันไม่ใช่เนคไทด์นะคะแต่มันคล้ายผ้าของเชฟชิโนมิยะอ่ะค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นลายดำแดงแทน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×