stage:ฝ่าด่านมรณะ

ลำดับตอนที่ #1 : องค์1:BEGIN Prologue

องค์1:BEGIN

Prologue

            โลกในศตวรรษที่21เริ่มเข้าสู่สภาวะวิกฤตอย่างร้ายแรง ทรัพยากรเริ่มคลาดแคลน สภาพอากาศเลวร้ายเนื่องมาจากปรากฏการณ์เรือนกระจก โรคระบาดไร้ทางรักษาแพร่ไปทั่วโลก  ดาวเคราะห์สีฟ้าดวงนี้กำลังบีบบังคับให้มนุษย์เริ่มสำแดงธาตุแท้ออกมา ธาตุแท้ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งธาตุแท้นั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเอาชีวิตรอดตามสัญชาตญาณ ความเห็นแก่ตัวเริ่มมีมากขึ้นส่งผลให้ปรากฏการณ์เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก

ปี คศ 2015 การจลาจลเกิดขึ้นในหลายประเทศความขัดแย้งทางอุดมการณ์ไม่สามารถยุติได้ด้วยสันติวิธีอีกต่อไปสนธิสัญญาต่างๆถูกเพิกเฉย การนองเลือดเกิดขึ้นทุกวันจนกระทั่งตัวแปรใหม่ที่พลิกโฉมการทำสงครามจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะหลังจากนี้จะไม่มีคำว่าพลัดกันรุกพลัดกันรับหรือพลัดกันแพ้พลัดกันชนะอีกต่อไปเพราะเมื่อฝ่ายใดก็ตามได้ตัวแปรที่ว่านี้ไปเป็นพันธมิตร คุณจะลืมคำว่าแพ้หรือพลาดไปตลอดกาลต่อสู้ และฝ่ายที่ได้รับชัยชนะนั้นเป็นเพราะกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งโดยที่สมาชิกกลุ่มเหล่านี้จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปผึ้งสีแดงอยู่บนดาบกับปืนไขว่กันล้อมรอบด้วยกรอบทรงข้าวหลามตัด พวกเขาเหล่านี้สนับสนุนการจลาจลไปจนถึงการก่อการร้ายทุกรูปแบบโดยไม่สนผิดถูกใดๆ ไม่สนว่าจะเป็นฝั่งไหนจ้างขอเพียงคุณจ่ายค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ(สิ่งตอบแทนนั้นแล้วแต่ความต้องการของพวกเขา)ให้รับรองว่าทุกอย่างที่คุณต้องการ ทั้งอาวุธ กำลังคน พวกเขาล้วนจัดหาให้ได้ แต่ที่น่ากลัวที่สุดและทำให้กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้กลายเป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วโลกคือ วิธีการที่คนเหล่านี้ใช้ในการกำจัดศัตรูล้วนโหดเหี้ยม รัดกุม ไร้ที่ติทุกครั้งที่ลงมือไม่มีคำว่าพลาดและไม่มีคำว่าสูญเสียกับฝั่งของตนหลังจากพวกเขาปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นก็จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ดังนั้นเมื่อคุณได้รับความร่วมมือจากพวกเขาแล้วและประสบผลสำเร็จลุล่วงอย่า!!!คิดบ่ายเบี่ยงค่าตอบแทนที่พวกเขาเรียกร้องเป็นอันขาดไม่เช่นนั้นแล้วคุณเองนั่นแหละที่จะพบกับความหายนะยิ่งกว่าฝ่ายศัตรูของคุณเสียอีก  รัฐบาลโลกพยายามอย่างหนักที่จะปราบปรามกลุ่มจลาชนเหล่านี้แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นคำว่าล้มเหลวอยู่ดี ทำให้มีการพูดถึงผู้ที่เป็นมันสมองของพวกเขาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าผึ้งแดง ผู้ที่ทำให้โลกนี้ได้รู้จักกับความโหดเหี้ยมของ BLOODY BEE ARMY (ฝูงผึ้งโลหิต)

ปีคศ 2016ในขณะที่รัฐบาลร่วมตะวันออกกลางกำลังทำการสำรวจเพื่อเสาะหาแหล่งพลังงานสำรองเพื่อแก้ไขวิกฤตทางพลังงานอยู่นั้น ได้มีการค้นพบซากห้องทดลองลับที่อยู่ใต้ทะเลทรายซีเรียเกือบ1กิโลเมตร ขนาดพื้นที่เท่ากับสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ทั้งสนาม ซึ่งภายในได้มีการติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์อันล้ำสมัยอยู่เต็มไปหมด ป้ายประกาศต่างๆในห้องทดลองลับมีอยู่มากกว่าสิบภาษา รัฐบาลร่วมตะวันออกกลางสันนิษฐานว่าโครงการนี้อาจจะเป็นโครงการร่วมระหว่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดซึ่งดูจากขนาดที่ใหญ่โตของห้องทดลองแล้วน่าจะสามารถรองรับคนได้ถึง300-500คนเลยทีเดียว แต่ทว่าพวกเขาทดลองอะไร ทำไมต้องมาตั้งอยู่ในที่กันดารแบบนี้ แล้วการทดลองถูกยุบไปเมื่อไหร่หรือว่าไม่ได้ถูกยุบแต่การทดลองสำเร็จแล้ว รัฐบาลตะวันออกกลางพยายามสืบหาข้อมูลจากในห้องทดลองแต่ก็ไร้ผลเพราะแทบจะไม่เหลือเบาะแสใดๆอีก ครั้นจะไปสืบเอาจากประเทศอื่นๆทุกประเทศก็พูดเหมือนกันหมดว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับห้องทดลองนี้ จนกระทั่งมีการค้นพบบันทึกลับของนักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งซึ่งเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานทดลองชิ้นนี้ในอีกซีกโลกและกลายเป็นเบาะแสเดียวที่จะนำไปสู่ความจริงที่จะทำให้โลกต้องสะเทือน ซึ่งที่หน้าปกของบันทึกเล่มนี้เขียนเอาไว้ด้วยคำๆหนึ่งสั้นๆว่า CRIMERA  (คิเมียรา)

เหตุการณ์พิศวงยังไปจบลงเพียงเท่านี้ ในปีเดียวกันนี้เองภายใต้แรงกดดันจากทั้งสภาพอันเลวร้ายของโลกและของมนุษย์ด้วยกัน ได้ปรากฏบุคคลประหลาดผู้หนึ่ง ซึ่งอ้างตนว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายอันศักดิ์สิทธ์ของเทวทูต ลงมาจุติเพื่อช่วยให้มนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทรมานและพามนุษย์ที่ยึดมั่นในตนเดินทางไปยังสถานที่ๆชื่อมีชื่อว่าโลกนิรันดร์ ด้วยวาทศิลป์ที่เป็นเลิศทำให้คนที่ได้ฟังล้วนเคลิบเคลิ้มราวกับต้องมนต์การกล่าวอ้างถึงความเลวร้ายต่างๆที่โลกเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เช่นเชื้อโรคร้ายสมัยใหม่ที่ไม่มีใครรักษาให้หายได้แท้จริงแล้วเป็นการทดสอบความมุ่งมั่นและศรัทธาของมนุษย์ที่มีต่อโลกว่าเขาเหล่านั้นจะได้เป็นผู้ถูกเลือกหรือไม่และยังอ้างอีกว่าบททดสอบของโลกยังไม่หมดลงเพียงเท่านี้ยังมีอีกหลายบททดสอบที่กำลังจะตามมาและว่าหากผู้ใดอยากผ่านการทดสอบนี้จะต้องเข้ามาเป็นสาวกของลัทธิ หลังจากนั้นคนประหลาดผู้นี้ได้แสดงวิชาอาคมต่างๆซึ่งมีสามารถในการเปลี่ยนแปลงสสารในโลกได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนเรียกได้ว่าเกิดการปฏิรูปกฎทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นำมาซึ่งความก้าวหน้าทางการแพทย์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ไร้ทางรักษากลับหายดีเป็นปลิดทิ้งในชั่วข้ามคืน ด้วยความหน้าอัศจรรย์นี้ผนวกเข้ากับสุดยอดคารมทำให้มีเหล่าสาวกติดตามมากมายและกระจายกันอยู่ทุกเชื้อชาติกลายเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อโลกอย่างมหาศาลในชื่อ ลัทธิโลกนิรันดร์(ENDLESS)

ต่อมาในปีคศ 2017 บริเวณตอนบนของทวีปอเมริกาเหนือได้มีการปรากฏตัวของคณะละครสัตว์เร่ร่อน พวกเขาตระเวนเดินทางไปทั่วทุกมุมเมือง เพื่อโชว์การแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ แต่ที่น่าประหลาดก็คือ ไม่เคยมีใครเห็นคณะละครสัตว์นี้ในระหว่างการเดินทางแม้แต่คนเดียว เมื่อคุณตื่นขึ้นมาในยามเช้าคุณจะเห็นว่าหน้าบ้านของคุณมีใบปลิวพร้อมตั๋วซึ่งมีจำนวนพอดีกับจำนวนคนในบ้านของคุณ(ทั้งนี้รวมไปถึงคนรับใช้ภายในบ้านด้วย)จากคณะละครสัตว์นี้ หรือแม้แต่คนจรจัดบนถนนแขกที่เข้าพักในโรงแรมก็ยังได้รับตั๋วเหล่านี้ มีการปิดโปสเตอร์ปิดประกาศโชว์ทั่วทุกที่ พอยามเย็นมาเยือนผู้คนทั้งเมืองก็จะเดินทางไปชมการแสดงของคณะละครสัตว์เร่ร่อนนี้ แต่ทว่าภายหลังการแสดงจบลงจนกระทั้งยามเช้าวันถัดมาที่คณะละครสัตว์นี้หายไป คนทั้งเมืองก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่มีใครพูดถึงการแสดงของคณะละครสัตว์เร่ร่อนนี้เลยแม้แต่คนเดียวเหมือนกับว่าไม่เคยมีคณะละครสัตว์เร่ร่อนมาก่อนและโปสเตอร์ทุกใบก็ไม่มีให้เห็นในถังขยะไม่ปรากฏใบปลิวถูกทิ้งอยู่เลย และเมื่อมีคนอื่นมาซักถามถึงคณะละครสัตว์ว่าเป็นยังไงสนุกไหม ทุกคนก็จะตอบเพียงว่า ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แต่เมื่อถามต่อไปว่ายอดเยี่ยมยังไงเขาจะยังตอบคำเดิมว่ายอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาซ้ำไปเรื่อยๆ คุณจะไม่ได้รับคำตอบอย่างอื่นเลยไม่ว่าคุณจะพยายามถามแบบไหนก็ตาม ไม่มีใครถามถึงคณะละครสัตว์นี้อีก จนกระทั่งเหตุประหลาดเกิดขึ้นกับเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งซึ่งเป็นเมืองแรกๆที่คณะละครสัตว์เร่ร่อนนี้ไปทำการแสดง คนทั้งเมือหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยแบบฉับพลันที่ต้องใช้คำนี้เพราะว่าสัตว์เลี้ยงถูกขังในกรง อาหารมีการกินทิ้งเอาไว้ เพลงในบาร์ถูกเปิดพร้อมกับแก้วที่มีเครื่องดื่มเต็มปริ่มโดยที่ยังไม่ได้ถูกดื่ม แสดงให้เห็นถึงทุกๆคนพร้อมใจกันทิ้งทุกอย่างในทันที มันเป็นเพราะอะไร พวกเขาหายไปไหน เป็นเหตุบังเอิญหรือเปล่าที่เมืองนี้เป็นเมืองแรกๆของคณะละครสัตว์ที่มาเปิดการแสดง แล้วคณะละครสัตว์นี้ละปัจจุบันอยู่ที่ไหน ยังคงไม่มีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้และผู้ที่น่าจะให้คำตอบของคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คงจะเป็นตัวคณะละครสัตว์เองซึ่งในเวลาต่อมาละครสัตว์คณะนี้จะไม่ได้แค่เร่ร่อนไปในทวีปอเมริกาเหนือเท่านั้นแต่ได้ไปเปิดการแสดงเขย่าขวัญไปทั่วโลกในชื่อว่า (Mist the mystery circus By MirkandMurk)คณะละครสัตว์หมอกปริศนา โดยความเศร้าและความสิ้นหวัง

เหตุการณ์เหล่านี้กลายเป็นกระแสที่สร้างความปั่นป่วนให้กับโลก ทุกอย่างกำลังจะถึงการล่มสลาย จนเมื่ออีกหนึ่งเหตุการณ์ประหลาดได้เกิดขึ้น แต่ในคราวนี้มันกลับแตกต่างออกไปจากเหตุการณ์อื่นๆ ทำไมนะหรือ????เพราะเหตุการณ์นี้จะนำทางไปสู่เรื่องราวอันแสนซับซ้อนพิสดารสู่จุดเริ่มต้นของแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทุกๆอย่างดูมีเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกันอย่างผิดธรรมดาเป็นเรื่องบังเอิญหรือว่าเราทุกคนล้วนถูกทำให้กลายเป็นนักแสดงบนเวทีที่ชื่อว่าชะตากรรมไปเรียบร้อยแล้ว