project endless(รับสมัครตัวละคร 1-31 ตค)

ลำดับตอนที่ #4 : titano100%

เขาคนนั้นมันไม่สามารถจะถูกจัดการได้ง่ายๆ วีรชนคนนั้นเดินทางผ่านพ้นความมืดและคำสาป สายตานั้นมันบอกมาว่าเขาไม่มีทางจะตายหรือพ่ายแพ้ต่อผู้ใด จะให้ต่อสู้ไปกี่ครั้ง จะให้เดินทางผ่านพ้นดินแดนที่เลือดไหล เผ่าพันธ?นั้นมันจ้องมองมาจากความมืดอันแสนใกล จนกว่าใครหรืออะไรไม่กลับคืน

 ปรากฏตัวมาจากความมืดที่แปลกประหลาด สายตาที่อาฆาตินั้นมันไม่ได้สลายพลังไป เขาคนนั้นเดินออกมาจากความมืดอันแสนใกล ไม่สามารถจะย่อยสลายไปได้อย่างง่ายดาย วีรชนนั้นมันร้ายกว่าสิ่งใด ไม่สามารถแตกสลายจนไร้วิญญาน สายตาของผู้ที่เดินทางออกมาจากดวงตากาแล็คซี่

นั้นยังสดใส ใครคนหนึ่งยังพร้อมที่จะเจาะทะลุลงไป เจ้าของสายตานั้นมันบอกไปไม่ใช่ว่าจะสามารถจัดการได้ง่ายๆ ผู้ที่ปรากฏตัวมาไม่ใช่ว่าจะสามารถจัดการได้ง่ายๆ สิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นปรากฏตัวออกมาอย่างง่ายดาย ผู้เดินทางมาจากความมืดนั้นจะเริ่มต้นช่วงเวลาใหม่

 สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวมานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะทำลายได้ง่ายดาย อำนาจที่มีมันร้ายเกินกว่าจะสามารถต่อกร เขาคนนั้นจ้องมองมาด้วยสายตาของใครคนหนึ่งที่พ้นจากวังวนของความมืดและแสงสว่าง เจ้าของสายตานั้นมันจ้องมองมาด้วยความอาฆาติจากดินแดนอันแสนใกล ปรากฏตัวออกมาจากดินแดนที่มองไปดูยิ่งใหญ่

ไม่ว่าใครหรืออะไรก็ไม่อาจขวางการกลับคืนมา วิวัฒนาการนั้นมันบอกมาว่าทุ่มเทสุดชีวิต พร้อมแม้จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเผ่าพันธ์ที่ไร้วิญญา ปรากฏตัวออกมาจากความมืดในช่วงเวลา ไม่มีใครจะทำลายความบ้าคลั่งนี้ลง เวลาที่เขาคนนั้นโกรธอาจเหมือนภูเขาไฟ แต่เวลาที่สงบใจมันทำให้มองไปเหมือนกับน้ำแข็งเกาะ

 สิ่งมีชีวิตที่จ้องมองมาจากความมืดดูเหมาะเจาะ ผู้ปรากฏตัวมานั้นจะไม่ถูกทุบให้อ่อนแอด้วยผู้ใด จิตใจที่มีนั้นมันยังคงกล้าหาญ ขอเดินทางกลืนกินอย่างสุดใจ ไม่ใช่ว่าจะถูกย่อยสลายด้วยความมืดใด จนกว่าดวงตะวันใหม่จะเหนือท้องฟ้าอย่างเร็วไว ไม่สามารถถูกทำลายด้วยความสิ้นหวัง

ผู้ปรากฏตัวมาในยามนั้นมันจะบุกฝ่า สายตาของใครคนหนึ่งบอกมาว่าไม่กลัวต่อภาพมายา ผู้ที่เดินทางมาจะไม่มีวันกลับคืน ย่อยสลายจนไม่เหลืออะไรเลย แต่พลังงานที่เหลือกลับเจดจ้าดั่งเพลิงนรก สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวมามันเหมือนกับเพลิงกรด สายตานั้นมันบอกมาว่าจะัไม่อ่อนแอและไม่ลดความสามารถที่มีให้กับใคร

 กำลังที่เขาคนนั้นครอบครองไปยังคงมองไปแล้วร้ายกาจ สายตานั้นมันบอกถึงความอาฆาติที่อยู่อีกใกล ดวงตานั้นมันบอกมาถึงเวลาอันยิ่งใหญ่ ขณะที่ใครคนหนึ่งจะครอบครองดวงตะวัน ผู้ปรากฏตัวมานั้นมันไม่ใช่มิตร เดินทางผ่านพ้นความมืดและแสงสว่างเหนือดวงจันทร์ เดินทางผ่านพ้นสายหมอกพรานตะวัน ตามล่ามานั้นมันเกิดกว่ากลางคืน

จะไม่ดับสูญไม่ถูกทำลายโดยง่ายดาย สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะถูกเผาผลาญด้วยเพลิงสวรรค์ ความโกรธนั้นที่มีมันเกินกว่าผู้ใด ไม่ใช่ว่าจะถูกทำลายไปด้วยความสิ้นหวังนั้นมันเกินกว่าจะย่อยสลายไปง่ายๆ ผู้ปรากฏตัวนั้นมันเกิอนกว่าว่าผู้โผล่มานั้นมันเป็นมารสวรรค์ เป็นตัวตนที่ไม่ว่าใครนั้นก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว 

สิ่งมีชีวิตบางอย่างเดินทางผ่านกำแพงดำด้วยความไม่หวาดหวั่น เขาคนนั้นจะแผดเผาคำลวงที่ทำลายผู้คนให้สิ้น สาบานว่าสวรรค์จนเป็นพยาน ปรากฏตัวมานั้นมันเกินกว่าว่าจะถูกทำลาย สายตานั้นมันบอกมาว่าเกินกว่าจะสามารถถูกทำลายไปได้ง่ายดาย

ไม่ใช่ว่าภูติหรือพรายจะเผาไหม้คนให้ดับสูญไป วีรชนนั้นปรากฏตัวมาไม่สามารถจะอาลัย ใครคนนั้นมันเดินทางออกมาจากความมืดผู้เดินทางออกมาจากดินแดนที่เหมือนกับว่าเขาคนนั้นมันไม่สามารถจะถูกทำลายให้แตกสลาย เขาคนนั้นมันเหมใือนกับว่าผู้ปรากฏตัวมาเหมือนกับว่าเขาผู้นั้นมันไม่ใช่ว่าจะถูกแผดเผาได้ง่ายๆ

 เพลิงจากสวรรค์และสถานที่ที่ผู้คนไม่ใช่ว่าจะัจัดการได้ง่ายๆ ผู้ปรากฏตัวมานั้นมันจะเดินทางกลางหมู่ดาว เพียงแค่เวลาสามอาทิตย์ พวกแมลงอวกาศอย่างอินเซเวนาเตอร์ ก็เพิ่มพลังขึ้นไปอีกระดับ เจ้านั่นมันไม่มีทางตาย ไม่อาจวอดวายด้วยความดับสูญ ใครคนหนึ่งมันบอกมาว่าจะไม่เสื่อมสลายตามกาลเวลา ด้วยความสามารถในการเมตามอร์โฟซิสมันเหมือนกับว่าผู้ปรากฏตัวมานั้นจะตามล่าในกาลเวลา จะแสวงหาเหยื่อในดวงดาวไม่จางหาย

จะตามล่าหายนะไปจนสุดทาง สายตานั้นมันเหมือนกับว่าเป็นดวงตาของนักล่าจำพวกเหยี่ยว การเคลื่อนใหวของเขานั้นมันเหมือนกับว่าเป็นการบดขยี้ของภาพมายา วิวัฒนาการและเมตามอร์โฟซิสที่ผ่านมานั้นไร้วิญญาน จนกว่าจะตื่นขึ้นทำลายหายนะที่สาบใว้ กฏข้อที่สองของเทอร์โมไดนามิคส์

บอกว่าเอนโทรปีจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่ไม่ใช่ว่าสามารถจัดการได้ง่ายดาย ผู้ปรากฏตัวมานั้นวิวัฒนาการขึ้นไปอีกระดับ กลืนกินทุกอย่างด้วยกระเพาะที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถจะถูกย่อยสลายไปจากความมืด เขาคนนั้นมันเกินกว่าว่าจะถูกทำลายโดยง่ายดาย ผู้ปรากฏตัวมานั้่นมันเกินกว่าจะสามารถทำให้สูญสลาย

ปรากฏตัวจากความมืดของภูติพรายจนถึงแสงสว่างของตะวันผู้ปรากฏตัวนั้นมันไม่ใช่ว่าจะถูกทำลายให้แตกหัก ผู้ปรากฏตัวมานั้นมันบอกมาว่าเกินกว่าจะสามารถย่อยสลาย เดินทางผ่านความมืดที่เหมือนกับภูติพรายไร้แสงจันทร์ ปรากฏตัวมาจากความมืดไม่หยุดยั้ง สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะถูกย่อยสลายในความมืดมิด เดินทาง

ผ่านดินแดนแห่งความมืด ปรากฏตัวออกมาในเวลาอันเป็นที่สุด แขนขาแหลมเหมือนตั้กแตนไม่อ่อนทรุด ปีกทั้งสี่ของพวกแมลงทำให้ร่างนั้นสามารถโบยบินบนฟ้าด้วยความเร็วสูงเหมือนกับประกายแสง ผู้ปรากฏตัวมานั้นมันไม่อ่อนแอต่อความมืด สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่สามารถจะล่าถอย ทรัพยากรถูกกลืนกินลงท้อง ทำให้ชั้นเกราะด้านนอกมันถูกทำให้หนาขึ้น

ชั้นผิวหนังนั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะสามารถจัดการได้ง่ายๆ สิ่งมีชีวิตที่เดินทางมาจากฟากฟ้า ปรากฏตัวมาจากห้วงอวกาศที่อยู่บนที่สูง ร่างที่สวมเกราะออสโตรเดิร์มนั้นมันบอกมาว่าพรานล่าเหยื่อมันไม่ใช่ว่าจะสามารถจัดการได้ง่ายดาย ไม่ว่าเป็นไฟร้อนหรือหมอกหิมะ นักล่านั้นมันจะไม่หายไปสู่ความมืดดำ แววตานั้นมันบอกมาว่าไม่หวั่นหวาด สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่อาจถูกทำลายได้ง่ายดาย

สิ่งมีชีวิตนั้นมันจ้องมองมาจากความมืดไม่อาจถูกทำลาย สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะถูกทำให้ล่าถอยไปไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ พวกมันวิวัฒนาการได้เองในเวลาระดับสัปดาห์ ปรากฏตัวมาคราวนี้จะเริ่มการล่าที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ว่าพวกมันอ่อนแอแต่อย่างไร แต่พวกไซเบอร์โอเวอร์ลอร์ดนั้นปรากฏตัวขึ้นมาในดวงดารา ร่างของจักรกลที่มีขาเหมือนกับว่าเป็นทหารราบ

ร่างกายแข็งแกร่งเหมือนกับว่าไม่สามารถถูกทำลายโดยง่ายดาย ปรากฏตัวมานั้นมันเกินกว่าจะสามารถถูกทำลาย ที่โผล่มานั้นมันเกินกว่าจะสามารถถูกจัดการง่ายๆด้วยความกลัว เดินทัพแบบต่อเนื่องไปด้านหน้า สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวมานั้นไม่หวั่นหวาด สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะสามารถจัดการได้ง่ายๆ พวกที่สามารถเดินทางออกมาจากความมืดได้อย่างรวดเร็ว ผู้เดินทางมา

จากความมืดนั้นมันไมท่หวั่นหวาด ข้าขอตามล่าไปจนสุดทางไม่ใช่ว่าจะทำลาย เขาคนนั้นมันเกินกว่าปีศาจ ผู้ปรากฏตัวมาในเวลานี้นั้นไม่อาจถูกทำลาย สิ่งมีชีวิตนั้นมันเหมือนกับว่าสามารถเดินทางไปได้อย่างรวดเร็ว ผู้ปรากฏตัวมานั้นมันเกินกว่าจะสามารถทำลายล้างได้โดยง่ายดาย เขาคนนั้นมันเหมือนกับว่าเป็นปีศาจ สายตานั้นมันบอกมาถึงความอาฆาติที่ไม่อาจลืม

ไม่สามารถจะจัดการสถานการณ์ได้ อาจใช่สำหรับพวกมนุษย์ที่สูญพันธ์ แต่ไซเบอร์โอเวอร์ลอร์ดนั้นมันยังคงแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง สายตานั้นมันบอกมาว่าจะไม่ล่าถอยสู่ความกลัว ผู้ปรากฏตัวมานั้นมันไม่ใช่ว่าจะหวาดหวั่น สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะถูกหยุดยั้ง ทหารของเหล่าไซเบอร์โอเวอร์ลอร์ดเตรียมอาวุธปืนยาวเล็งมาจากด้านบน