คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : `♥BBUOSOHM SF ; & Thank you ..very much : ) [120%] ย้ายออกมาจากบอร์ดเรียร้อย !
.Title : & Thank you ..very much ,,
Author : thanara {`๙โซวอนโรแมนติกฟานี่}
Couple : BUSH X BOOM
Rate : 12+ { ก็ไม่ได้มีอะไรมาก =*= }
Talk : เหตุการณ์ทั้งหมดในฟิคเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับเวลาที่พี่บุชกับพี่บูมพูดภาษาญี่ปุ่น ในเรื่องจะเขียนเป็นภาษาไทยนะครับ { พอดีเค้าไม่ได้สันทัดเรื่องภาษาญี่ปุ่นเลยแม้แต่น้อย - -. }
{อัพครบ 120% ในหน้าเวบนี้เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับใครที่สมัครสมาชิกบอร์ดเข้าไปอ่านกันไม่ทัน ตามอ่านได้ที่นี่แล้วนะ จะได้ไม่ต้องค้างกัน ขอโทษที่หายไปนาน ไม่มีอะไรแก้ตัวหรอกครับ แฮะๆ ไม่สัญญาว่าจะอัพต่อจนจบ เพราะกลัวทำไม่ได้ แต่จะอัพต่อเท่าที่สามารถเขียนได้แล้วกันครับ m(_ _)m
แต่สำหรับฟิคสั้นเรื่องนี้ อัพลงครบเรียบร้อยแล้วครับ อ่านจนจบได้ในที่นี้เลย ! }
.
.
.
...ไม่ว่าจะเป็นเพราะโชคชะตา พรหมลิขิต หรืออะไรก็แล้วแต่
ผมอยากจะขอบคุณ ..ขอบคุณที่มอบสิ่งที่แสนวิเศษมาให้กับคนธรรมดาคนนึงอย่างผม......
อยากขอบคุณที่มอบเขา.. มาอยู่เคียงข้างผม
..........Thank you very much ,, my destiny .
.
.
.
.
ท่ามกลางแสงสีอันตระการตาในยามค่ำคืนของแหล่งรวมประชากรมากที่สุดที่แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ...
ชินจุกุย่านแห่งความเจริญ ทันสมัยและโอ่อ่า ซึ่งได้รับความนิยมเป็นทอปหนึ่งในสามของสถานที่ชอปปิ้งและแหล่งสังสรรค์ในยามราตรี
ตึกอาคารสถานที่สองข้างทางล้วนเปิดร้านลวงกันแน่นขนัด สลับกับห้างสรรพสินค้าเว้นระยะห่างกันสองสามช่วงตึก เยอะเป็นว่าเล่น ยิ่งดึกดื่นยิ่งคึกคัก ป้ายโฆษณามากมายพร้อมเพรียงกันเปิดไฟสีสันสดใสแสบตาราวกับได้นัดแนะกัน ผู้คนมากมายเดินฉวัดเฉวียนเต็มทั่วไปท้องถนนและทางเดิน พร้อมกับถุงของในสองมือมากมาย
บ่งบอกให้รู้ถึงความคึกคักของเขตการปกครองพิเศษชินจุกุ ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจใจกลางประเทศได้เป็นอย่างดี ...
อ่า..........ใช่แล้ว ผมกำลังยืนอยู่บนผืนแผ่นดินประเทศญี่ปุ่น !
โอ้เย ! ผมมีความสุขมากๆ ที่ได้มาเที่ยวที่นี่ มันมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจได้มาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่กิน เที่ยว ช๊อป เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของวัยรุ่นอย่างผมเลยทีเดียว
คุณกำลังอิจฉาผมอยู่ล่ะสิ๊ ! ไม่ต้องคิดแบบนั้นหรอกครับ เพราะผมก็เหลือเวลาอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกอาทิตย์สองอาทิตย์เอ๊งงงง น้อยเนอะ ฮ่าๆๆๆ โอ้ยยย มีความสุขจัง !!
..........................
...........ซะเมื่อไหร่ =_________________=;;
แหล่งช๊อปปิ้งอะไรก็ไม่รู้ของแต่ละอย่างงี้โคตรแพงงงงงง แพงหูฉี่ ฉี่ๆๆ ฉี่แล้วฉี่อีกไม่รู้จะแพงไปไหน ผมวิ่งออกมาหลายร้านแล้ว (พูดจริงๆ นะจะบอกให้) แถมแม่งงงงโคตรวุ่นวายสัดๆ เลย เดินขยับตัวนิดหน่อยก็ชนกันและ ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านราเมง หน้าร้านหนังสือ หรือแม้กระทางเดินที่เดินสวนกันไปมา ไม่รู้จะเบียดเสียดกันเข้ามาทำไมครับบบ มันจะไม่อารมณ์เสียขนาดนี้เลย ถ้าเมื่อกี้ผมไม่ไปเดินชนอาม่าที่ไหนไม่รู้แล้วด่าผมแว๊ดๆ เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยท่าขยับปากไวปานแสงงงง แน่นอนว่าคนที่แค่พูดรู้เรื่อง พอฟังรู้เรื่อง ไม่ได้เทพอะไรด้านภาษาญี่ปุ่นอย่างผมก็คงฟังอาม่าแกไม่ออก เลยทำให้ได้แค่รีบเดินหนีมา อายโคตรๆ อยากจะแทรกแผ่นดินหนี เหอๆ
"บุชชชช ไปนั่นกันๆๆๆ กูอยากไปปปป !!"
แต่คนลำบากคงมีแค่ผมคนเดียวมั้ง เพราะไอ้คนที่มากับผม มันอะเลิร์ทซะได้ตลอดเวลา ชี้นู้นชี้นี่อยากไปตลอดเวลา ไอ้ผมก็ต้องพาไป T T'' สมใจเลยไงได้มาญี่ปุ่นนน
"หูยยยย มึงจะไปไหนอีกอ่ะบูมมมม พอเห๊อะ ! วันนี้ก็เที่ยวกันมาทั้งวันแล้วนะ กูเดินไม่ไหวแล้วเนี่ย"
วันนี้ผมปวดขาเหมือนแทบจะหลุด คิดดูครับว่าเดินตั้งแต่บ่ายโมงกว่ายันสองทุ่มครึ่งมันเมื่อยขนาดไหน เคยไปเข้าค่ายลูกเสือแล้วครูฝึกสั่งให้ลุกนั่งเป็นร้อยรอบมั้ย ? อาการประมาณนั้นเลย แต่ไม่รู้ไอ้คนที่ยิ้มหน้าบานอยู่นี่มันไปเอากำลังขามาจากไหนมากมายยย ดูยังร่าเริงอยู่เลย แต่กูอ่ะเดี้ยงจริงๆ T^T
".......มึง ...เดินไม่ไหวแล้วเหรอ ถ้างั้น กลับก็ได้................................."
แล้วทำไมต้องทำหน้ากับเสียงหงอยเหมือนหมาเฝ้าบ้านแบบนั้นด้วย
เฮ้ออออออ
"อ่ะๆๆ เดินต่ออีกหน่อยก็ได้.... มึงอยากไปไหนเดี๋ยวพาไปทุกที่เลย !" เข้าอีหลอบเดิมเด๊ะ รอบที่สิบของวัน -_,-
"จริงดิ่ !! รักมึงจังงง งั้นไปซื้อทาโกยากิตรงนู้น แล้วก็ไปซื้อหมวกไหมพรมกันโลดดด เมื่อตอนเย็นเห็นสีดำลายหมีแพนด้า โคตรสวยว่ะ ไปๆๆ" บูมยิ้มอย่างร่าเริง พลางเตรียมพร้อมออกวิ่ง..
"เดี๋ยวววว จับมือกันก่อน ..จะได้ไม่หลง" ผมยิ้มตอบ ก่อนจะคว้ามือของมันมาจับไว้แน่น แล้วเป็นฝ่ายฉุดบูมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปแทน
.
.
.
.
.
เอาน่า...... เหนื่อยแค่นี้เพื่อรอยยิ้มของบูม ทำไมบุชจะทำไม่ได้ครับ : )
หลายคนคงสงสัยกันแล้วว่าทำไมผมถึงมาเที่ยวด้วยกันถึงญี่ปุ่น และมาเดินจับมืออะไรกันโจ่งแจ้งแบบนี้ คำตอบก็คือด้วยความด้าน.. เฮ้ยย ไม่ใช่สิ !
อืมมม... ถ้าจะว่ากันตามตรงผมกับบูมก็คบกันเป็นแฟนมาได้สักระยะนึงแล้วล่ะ ตอนนี้ผมขึ้นปีหนึ่งแล้ว(ยังไม่แก่นะ ผมออกจะเฟรชชี่ หุหุ) ส่วนบูมก็อยู่มอหก คงเป็นเวลาปีกว่าๆ ได้แล้วที่เราได้หยิบยื่นความรู้สึกดีๆ ที่เรียกว่าความรักให้แก่กัน ...ถึงแม้จะมีทะเลาะกันบ้าง โกรธกันบ้างแต่ก็รักกันอยู่นะ หวานด้วย คึคึ
ผมคิดว่าที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมาเที่ยวอะไรกันจริงๆ จังๆ แบบนี้สักครั้ง เลยได้ตัดสินใจมาญี่ปุ่นตอนปิดเทอมนี่ล่ะ ฮ่าๆๆ(ได้ยินแว่วๆ ใครบอกว่ามาฮันนีมูนนน เดี๋ยวเหอะ ! เขินเป็นนะ.... //// ) แต่กว่าจะขอแม่ได้ก็แทบแย่เหมือนกันนะ เพราะผมไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศแถมยังพาบูมไปด้วยอีก(แม่ผมก็รู้จักบูมครับ เรียกได้ว่ารู้จักกันทั้งครอบครัวเลยล่ะ ฮ่าๆ) ผมต้องอดทนอย่างหนักตามตื้ออยู่เกือบเดือนกว่าจะอนุญาต แม่คอนกำชับอยู่สเมอว่าถ้าดูแลบูมไม่ดี ไม่ต้องกลับบ้าน ....ความจริงแม่ไม่บอก ผมก็ทำอยู่แล้วล่ะ เพราะงั้นเลยต้องเดินตามกันทุกฝีก้าว ใครจะปล่อยให้มันไปเดินคนเดียวครับ แฟนผมทั้งคนนะ !
แล้วก็ยังมีอีกเหตุผลนึงที่ผมเลือกจะมาญี่ปุ่น
อ่า.........อุบไว้ก่อนดีกว่า
.
.
.
.
"มัวยืนเหม่ออะไรรรร !!!!!"
"ตะโกนมาได้ ! หูแตกกก -.- "
ตกใจหมด ! อยู่ดีๆ มันก็ยื่นหน้าเข้ามาตะโกนใส่หูผมซะเสียงดัง แข่งกับเพลงอะไรไม่รู้ที่เปิดมาจากร้านใกล้ๆ
ผมว่าเสียงเพลงงุ้งงิ้งๆ นั่นดังแล้ว เสียงไอ้บูมดังกว่าอีก -*-
"ก็กูถามว่าจะเอาทาโกยากิด้วยเปล่า ?? ถามเป็นรอบที่ล้านแปดแล้วววว"
เรื่องเว่อร์ล่ะไม่เกินใคร ! ผมเลยมองไปตามกลิ่นหอมๆ ของทาโกยากิที่อยู่ในเตาข้างหน้า..
หูย.. น่ากินสุดๆ
"อยากกินใช่เปล่าล่ะ ?? คราวนี้กูเลี้ยงเองงง ..ลุงครับทาโกยากิสองถาด !!"
"เฮ้ยจริง !? "
"อืม สงสัยอะไร เลี้ยงก็เลี้ยงดิ" มันพูดพลางควักเงินขึ้นมาจ่าย โห มันไปกินยาอะไรมาเนี่ย ใจดีผิดปกติว่ะ !
"แทงคิ้วว่ะบูมมมม"
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ทาโกยากิคนละถาดมาไว้ในครอบครอง ...แล้วเดินต่อไปยังห้างสรรพสินค้าอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงหัวมุมถนนด้านนู้น
ก่อนที่คนข้างๆ จะหันมามองหน้าผมแล้วกระพริบตาปริบๆ ใส่
เพื่ออะไร -*-
"นี่ๆ กูเลี้ยงทาโกยากิมึงแล้ว งั้นเดี๋ยวมึงซื้อหมวกไหมพรมให้กูนะ ถือว่าพลัดกัน !" บูมว่าพลางจิ้มทาโกยากิเข้าปาก
อ๋อ เก็ท !
ก็ว่าแล้วมันแปลกๆ.. ผมหลุดยิ้มในความกวนตีนที่เสมอต้นเสมอปลายของมัน ก่อนจะตบหัวมันเล่นทีนึง
"สาดดดด เจ้าเล่ห์นัก"
"คนฉลาดเค้าก็ทำกันงี้แหละ ฮ่าๆๆ"
"โหยยยยย ที่จริงซื้อให้ก็ได้ แต่ค่าทาโกยากิกับหมวกมันไม่คุ้มกันเลยนะเว้ย กูขออะไรเพิ่มอีกอย่างได้เปล่า ?"
"ขอไรอ่ะ ?? " บูมหันมามองผมอย่างงงๆ
"ป้อนทาโกยากิให้เค้าหน่อยดิ๊.. นะครับที่รัก" ผมพูดด้วยเสียงที่โคตรจะแบ๊ว(อย่าไปบอกใครนะว่าผมปีหนึ่ง XD ) ก่อนจะเอาคางไปถูกับไหล่บูมเบาๆ จนมันสะบัดตัวแล้วก็เดินหนี ฮ่าๆๆ ขำว่ะ
"ไอ่บ้า !" รู้ได้ทันทีว่ามันเขิน หึหึ แฟนใครวะแม่งน่ารักกก
"เร็วๆ ดิ่ครับ ป้อนหน่อยยย อ้ำๆๆ เดี๋ยวซื้อหมวกให้สิบใบเลยเอ้า"
"ก็..........ก็กินเองดิ !"
เหมือนผมยิ่งพูดมันก็ยิ่งเดินหนี แต่ถ้ายอมง่ายๆ ก็ไม่ใช่บุชอ่ะเส่ะ !
"ไม่ป้อน เดี๋ยวคืนนี้ไม่ได้หลับไม่รู้นะที่รักกก หึหึ....หึหึ"
"มึงพอเลยยย"
"ถ้าอยากเจอกันทั้งคืนก็โอเค ! อันนั้นมันเร้าใจกว่าใช่ม้าาาาาาาา"
"เออๆๆ ป้อนก็ได้ !! แล้วมึงก็หยุดพูดได้แล้ว //////// "
ผมยังไม่ทันพูดจบดี มันก็เอาไม้มาจิ้มทาโกยากิลูกเบ้อเริ่ม แล้วยัดเข้าปากผมทันที ..
โว้ยยยยยยยยยยย ร้อน !!!!!
"อ๊อนอิ๋บอ๋ายยยยยยยย !! T T "
"ฮ่าๆๆๆ สม ! อยากแกล้งกูดีนัก ไปได้แล้วเมื่อกี้จำได้มึงบอกจะซื้อหมวกให้กูสิบใบ.. ใช่มั้ยจ๊ะที่รัก ???? "
" T_____________________T " ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ซักหน่อย
.
.
.
.
หลังจากที่เข้าไปซื้อหมวกมาแล้วสิบใบ เลือกกันอยู่ชั่วโมงกว่า ผมล่ะเชื่อเค้าเลยยย(บูมมันบอกว่าถึงสิบใบ เยอะแค่ไหนแต่ก็ต้องเอาแต่อันที่สวยจริงๆ ไม่ใช่แค่เลือกๆ มา แล้วเอามาเก็บไว้ไม่ได้ใช้อะไร เพราะไม่ถูกใจ นะนะน่ะ !! เป็นไงล่ะ เหตุผลโคตรดีเลย จะดีกว่านี้มั้ยถ้าไม่ใช่เงินกู !)
แล้วจากนั้นพวกเราก็เดินต่อกลับมาที่โรงแรมชินจุกุปริ้นซ์โฮเทล โรงแรมใหญ่ระดับสามดาวใจกลางชินจุกุ คงกำลังคิดกันอยู่ล่ะสิว่าผมได้เข้ามาอยู่ที่ได้ยังไงทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็เป็นซีซั่นทัวร์แล้วก็เที่ยวค่าที่พักก็ขึ้นจนแพง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโกยผลประโยชน์เข้าประเทศ คำตอบก็คือผมมีเส้นครับ ไม่ได้โม้นะจะบอกให้ ..เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยเล่าทีหลังละกัน ผมขึ้นลิฟท์มาชั้นยี่สิบสี่กับบูม(โดยที่ตลอดเวลาตอนยืนอยู่ในลิฟท์พวกเราบ่นกันมาตลอด แต่ที่ไม่เหมือนกันก็คงเพราะบ่นกันคนละเรื่องนี่แหละ ผมบ่นว่าอยากนอนพัก ส่วนไอ้บูมบ่นว่าอยากเดินเที่ยวต่อ -*- เจริญมั้ยย ) ไม่นานก็ถึงห้อง ผมรีบใช้คีย์การ์ดเปิดห้องอย่างรีบร้อน โอ้ยยย อยากพักเต็มทนแล้นนน วันนี้เหนื่อยจริงๆ ตอนนี้ผมขอไปอาบน้ำก่อนดีกว่า !
ปึง !
ผมรีบฉิ่งวิ่งเข้าห้องน้ำตัดหน้าไอ้บูมไปอย่างฉิวเฉียด
"มึงขี้โกง มึงมาทีหลังอ่ะ !" มันตวาดผมมาจากข้างนอกเสียงดัง
"ก็กูเหนียวตัวไปหมดแล้วอ่ะ ขออาบก่อน แป๊บเดียวๆ"
"เฮ้ย ได้ไงอ่ะ ! มึงเปิดประตูเลย กูมาก่อนๆๆๆ" เหมือนมันจะไม่ยอมง่ายๆ แฮะ - -.
"ก็บอกแป๊บเดียว ไอ้นี่นิ !"
"ออกมาาาาาาา" บูมทุบประตูห้องน้ำปึงปังๆ อยู่หน้าห้อง แม่งมอหกแล้ว ทำตัวเป็นเด็กๆ อีก
ก็ได้ เล่นด้วยก็ได้
"อ่ะเปิดก็ได้ ! ถ้าเปิดแล้วก็เข้ามาอาบด้วยกันเลย ! เอาเปล่าล่ะ ?? เดี๋ยวจะถูหลังให้ หึหึ.."
"ไอ้บ้า ! กูอาบทีหลังก็ได้"
เรื่องแบบนี้ผมชนะใสๆ ฮ่ะๆๆ ^___________^
.
.
.
พอผมกับบูมก็อาบน้ำเสร็จ มันก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว แถมวันนี้พวกเราก็เหนื่อยกันมาทั้งวัน(เอ๊ะ หรือว่าผมเหนื่อยคนเดียววะ ?) เลยตัดสินใจกันนอนดีกว่า
ฮ้า ~~ โคตรรักเตียงนุ่มๆ กับผ้าห่มหนาๆ เลยยยย หลังจากที่เอาของเข้ามาเก็บเมื่อเช้า ผมก็เพิ่งได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงครั้งแรกนี่แหละ สวรรค์ ~
ผมนอนพลิกไปพลิกมาอยู่สักพัก ก่อนจะหันไปหาบูมที่นอนอยู่ข้างๆ
"ยังไม่นอนอีกเหรอมึง ?" ผมถาม เมื่อเห็นว่ามันยังนอนลืมตาแป๋วอยู่เลย
"แล้วมึงอ่ะ เหนื่อยไม่ใช่อ่อ ทำไมไม่นอน ?" มีการย้อนอีกแน่ะ
"กูถามมึงก่อน ก็ตอบก่อนดิ"
"ก็คง...แปลกที่มั้ง ฮ่ะๆๆ"
"กูก็คงงั้นอ่ะ แต่อีกเดี๋ยวก็น่าจะหลับว่ะ"
พอพูดก็ชักจะเริ่มง่วงขึ้นมาแล้วสิ ตาจะปิดแฮะ -0-
"บุช........."
"หา ? "
"............ขอบคุณนะ.."
"ขอบคุณไรอ่ะ ??"
"เรื่องวันนี้อ่ะ ขอบคุณ....สำหรับทุกอย่างนะ ....กูรู้ว่ามึงเหนื่อย แต่มึงก็เดินไปเป็นเพื่อนกูทุกที่เลย
ซึ้งนะเนี่ย ฮ่าๆๆ"
"..........................."
ผมยิ้มกับคำพูดนั้นเบาๆ
"ขอบคุณมึงอีกรอบว่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอก ..ได้ยินแค่นี้กูก็หายเหนื่อยแล้ว .."
ผมเลื่อนใบหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูบูม ก่อนจะรวบคนตรงหน้าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แล้วค่อยๆ บรรจงกดริมฝีปากลงบนหน้าผากของบูมเบาๆ
"......................"
"ฝันดีนะ"
"อืม... ฝันดี"
เราสองคนนอนกอดกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ไม่ว่าเวลาไหนรอยยิ้มของบูมก็ยังคงปรากฎให้เห็นอยู่เสมอ แม้ในขณะหลับ..
ผมจ้องมองรอยยิ้มของคนที่อยู่ในอ้อมกอดก่อนจะเผลออมยิ้มน้อยๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว
แค่นี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
.
.
.
.
.
.
อืมม.. รีบนอนดีกว่า...
เพราะพรุ่งนี้มีภารกิจสำคัญรอผมอยู่
50 %
เช้าวันต่อมาเป็นวันอาทิตย์ที่อากาศเย็นสบายยย ไม่สิ เย็น...เย็นมาก เย็นกว่าเมื่อวานอีก
บูมรีบปลุกผมแต่เช้าไล่ให้ไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะคว้าเสื้อกันหนาวตัวหนาออกมาจากห้องพักกันคนละตัว แล้วลากผมออกมาไปเที่ยวอีกแล้ว
มันก็ยังคงร่าเริงเหมือนเมื่อวานครับ ญี่ปุ่นคือสวรรค์ของบูม เหอๆ -_-
พวกเรานั่งรถไฟฟ้าต่อกันมาจากสถานีชินจุกุ ซึ่งก็ด้วยความเร็วของรถไฟฟ้าแป๊บเดียวพวกเราก็มาอยู่ในย่านกินซ่าเรียบร้อย เท่าที่ผมรู้มาที่นี่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งช๊อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ครับ เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์รวมของแบรนด์เนม สินค้าโคตรมีคุณภาพ แล้วก็ของแพงๆ จากทั่วทุกสารทิศแล้ว ยังเป็นย่านที่มีการทำธุรกิจการค้ากันสูง จนค่าเช่าต่อตารางเมตรแพงถึงตารางเมตรละไม่ต่ำกว่าสิบล้านเยนหรือคิดเป็นเงินไทยก็สามล้านบาท(ไม่ได้โม้นะจะบอกให้ !) ที่นี่คงเหมาะกับคนมีเงินมาเดินกันจริงๆ แฮะ ส่วนพวกผมน่ะเหรอ ?? ก็ตามบุญตามกรรมครับ มีเท่าไหร่ก็นั้นอ่ะ ฮ่าๆๆ ที่พวกเรามาที่นี่ก็เพราะอยากมาเที่ยวกันล้วนๆ เลย มาถึงนี่ทั้งทีต้องเที่ยวให้ทั่วๆ จริงมั้ยล่ะครับ !
ออกมาจากสถานีปุ๊บ พวกเราก็พากันเดินเสียจนทั่ว วันนี้พักเอาแรงมาแล้ว ! ไม่ปวดขาง่ายๆ ว้อยยยย
พวกเราวนเข้าไปด้านในตรอกเล็กๆ และเดินอยู่นานเลย ที่นี่ร้านขายของอะไรๆ เยอะแยะจริงๆ แต่อย่าหวังจะได้แฮพเงิน แม่งแพงซะะะะะะะ ยังดีที่บูมมันพอจำได้ว่าพวกเรายังไม่ได้กินข้าวเช้ากันมา เลยพากันไปหาอะไรกินกันก่อน ส่วนมากร้านอาหารแถวนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น และอิตตาเลี่ยนเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยความโชคดีคือว่าเดินเจอร้านอาหารไทยแถวนี้ด้วยยย แต่งหน้าร้านด้วยสีเทาครีมแบบเรียบๆ ดูหรูดีครับ มีต้นไม้กระถางแบบไทยๆ ด้วยนะ ปลื้มสุดๆ ! และเท่าที่ดูแล้วร้านอาหารแถวนี้ถือว่ายังไม่แพงเท่ากับราคาสินค้าทั่วๆ ไป.. ท่าทางร้านนี้ก็ด้วยเหมือนกัน เราสองคนหันมามองหน้ากันก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปทันที ฮ่าๆๆ
ผมเข้าไปนั่งจองโต๊ะที่ด้านในเกือบสุดของร้าน ก่อนที่บูมจะเดินตามมา
รู้สึกว่าในร้านเงียบเหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะตอนเช้าเลยยังไม่มีคนมา แต่ก็ชอบ รู้สึกมีความเป็นส่วนตัวดี..
ผมกวาดตามองไปทั่วร้านที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูและสวยงาม พลันเหลือบไปเห็นพี่พนักงานสาวหน้าตาไทย๊ไทยเดินยิ้มแผล่ออกมาต้อนรับพวกเรา
เหมือนพี่เค้าจะงงๆ ที่เห็นคนหน้าตาไทย๊ไทยเหมือนกันนะเนี่ย จากท่าทางแล้วทักทายกันไม่ถูกเลยทีเดียว
"สวัสดีครับบบ" ผมเลยทักเป็นภาษาไทยใส่ แอบฮาที่พี่เค้าสะดุ้งโหยง จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเป็นยิ้มกว้างให้พวกผมทันที
"อ้าว ! พวกน้องนี่คนไทยเหรอเนี่ย มิน่าล่ะก็ว่า หน้ามาแนวๆ พี่จังเลย ฮ่ะๆๆ"
"อ่ะครับ แฮะๆ"
แนวพี่นี่เนี่ยแนวไหนวะ ?
หลังจากนั้นพวกเราสามคนก็จ้อกันอยู่นานนม จนเกือบลืมไปว่ามากินข้าวกันนี่หว่า ! ผมกับบูมจึงหาโอกาสสั่งอาหารกับพี่เค้า ก่อนที่พี่เค้าจะเดินกลับเข้าไปทางหลังร้าน
แค่ประมาณสิบห้านาทีอาหารไทยที่คุ้นเคยก็ใส่จานมาเสิร์ฟพวกเราร้อนๆ ถึงที่ ทั้งต้มยำกุ้ง(ยอดฮิตสุดๆ) ปลาเก๋าผัดเผ็ด ยำวุ้นเส้น ทอดมันกุ้ง ข้าวสวยร้อนๆ โห่ยยย น้ำลายไหล.. อืมม.. ก็แปลกดีนะครับ ทั้งๆ ที่เป็นอาหารไทยธรรมดาๆ แต่พอมาจัดแต่งให้ดูสวยงามในจานสวยๆ แล้วก็ดูทรงคุณค่าไม่แพ้อาหารชาติอื่นๆ เลยทีเดียว
ทอดมันกุ้งของโปรดดดด ขออ !
ฉึก !
บูมคว้าส้อมมาจิ้มทอดมันกุ้งอันกลมๆ ที่ผมเล็งไว้แล้วกัดกินกร้วมๆ ทันที
=___________=
"หื้มมม หร่อยว่ะบุช ! ที่เหลือกูขอเหอะ"
=__________________=;;
ผมจ้องทอดมันกุ้งในจาน สลับกับหน้าที่ตอนนี้โคตรอ้อนวอนของบูม
..เออออออ มึงไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก
กูยอมก็ได้ -_-''
"อื้อ จะเอาก็เอาไปดิ๊ กูไม่ได้ชอบเท่าไหร่หรอกไอ้ทอดมันกุ้งเนี่ย"
ไม่ได้ชอบนะ ไม่ได้ช๊อบบบ !
"ฮ่าๆๆๆ หน้ามึงโคตรแสดงออกเลยว่าอาลัยทอดมันกุ้ง กูล้อเล่นนน เอาไปเห๊อะะะ !"
บูมเปลี่ยนจากกำลังถือส้อมกัดกิดทอดมันกุ้งอย่างท่าทางโคตรอร่อยมาเป็น ตักทอดมันกุ้งมาใส่จานผมสองอันแทน
แม่งงงงง รู้ใจ !
"มึงให้จริงๆ อ่ะ.... อืมๆ งั้นเอาก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆ"
"โห่ๆๆ ไม่ต้องมาพูดงั้นแล้วแอบยิ้มเลย เดี๋ยวเอาคืนหรอก"
"ไม่ให้แล้ว ฮ่ะๆๆ เอานี่ไปอ่ะ กุ้งตัวใหญ่ๆ... นี่ด้วยๆ" ผมตักกุ้งจากหม้อต้มยำไปใส่ไว้ในจานบูม แล้วเอื้อมมาเจาะเนื้อปลาตามไปวางข้างๆ
"เฮ้ยยย พอแล้วๆ มึงไปกินทอดมันกุ้งที่กูตักให้เหอะ"
"เอาอีกดิ" ผมตักปลาให้บูมอีกรอบ "ช่วงนี้มึงผอมนะ ต้องกินเยอะๆ" จริงๆ นะ ช่วงนี้บูมผอมจริงๆ จากที่นอนกอดเมื่อคืนแล้วรู้สึกไม่ค่อยเต็มไม้เต็มมือยังไงไม่รู้
"ถ้ากูผอมแล้วมึงไม่ก้างเหรออออ ตัวก็ไม่โต กูว่ามึงอ่ะควรกินเยอะๆ"
มีย้อนอีก -_-'' โอเค ยอมรับกูก้าง ! แต่ตัวก็ไม่โตนี่ไม่ยอมโว้ยยยยย
"กูก็โตขึ้นเหอะ !"
"จริงเร้อออ ยังไงก็เตี้ยกว่ากูอยู่ดีอ่ะ ฮ่าๆๆ " บูมพูดพลางหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข
"สัด -.- เดี๋ยวโบก"
แกล้งกันจังนะเรื่องเนี้ย อย่าน้องตอนนี้กูก็สูงเกือบเท่ามึงแล้วกัน หึ(แต่ก็ยังไม่เท่าซะที แม่มมม)
"เออๆ เรื่องโตไม่โต ไม่เถียงก็ได้เดี๋ยวไม่จบ กินกันดีกว่า กินกันๆๆ หิวๆ"
ก็จริงของมัน ..
ผมรู้สึกหิวและส่วนหนึ่งก็ไม่อาจต้านทานความน่ากินของอาหารหลายอย่างบนโต๊ะนี่ได้ จึงรีบลงมือโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก
อาหารอร่อยไม่แพ้หน้าตาที่สวยงามเลยครับ ชอบร้านนี้จริงๆ เลย แต่ว่าหลังจากที่นั่งเถียงไปเมื่อกี้ก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนเข้าร้านมาเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ บรรยากาศก็เลยไม่ค่อยน่าเบื่อ เพราะคอยแอบมองว่าใครสั่งอะไรมากินก็มีเรื่องคุยแล้ว ฮ่าๆๆ ก็อาหารไทยนี่เนอะ
ครืด...ครืด...
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงสั่นเป็นสัญญาณบอกข้อความเข้า ผมผละออกจากการกินแล้วหยิบขึ้นมาเปิดอ่านทันที
เป็นข้อความที่ผมรออยู่พอดี..
.
.
.
.
.
' สามทุ่มที่ห้องอาหารโรงแรม
แล้วเจอกัน '
"อะไรเหรอบุช ??" ผมสะดุ้งเพราะเสียงบูมถาม พลางจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยนั้น
ก่อนจะยิ้มแหยๆ ออกมา
"ไม่มีไรหรอก กินต่อๆ"
... ขอโทษนะเว้ย ที่ต้องโกหก
หลังจากกินข้าวกันซะอิ่มแปร้แล้วพวกเราก็เดินดูของแถวนั้นต่ออีกหน่อย แต่ที่จริงไม่หน่อยอ่ะ อีกประมาณสามสี่ชั่วโมงเห็นจะได้(ซึ่งก็ไม่เห็นจะได้อะไรติดกลับไปเลย - -)
พอตกกลางวันก็เริ่มหิวอีก เลยได้เสียเงินกินข้าวกลางวันในร้านอาการญี่ปุ่นแถวนั้นต่ออีกแป๊บ มันก็ชวนผมออกมาเดินต่ออีกแล้ว เหอๆ
ลางร้ายว่าเริ่มเหมือนเมื่อวานกำลังเข้าใกล้แล้วครับ และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไอ้คนที่มาด้วยก็บอกอยากไปโตเกียวดิสนีย์แลนด์ขึ้นมาซะเฉยๆ มันไม่ได้อยู่ในโปรแกรมเลยนะมึงง ! อืมม.. อันที่จริงผมก็อยากไปนะ แต่เดินเข้ามาในกินซ่าซะโคตรไกลแล้วให้เดินกลับไปนั่งรถไฟฟ้าต่อไปที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์อีกเหรอออ
"มึงไหวป่ะเนี่ย.. ถ้าไม่ไหวกลับกันก็ได้นะ"
อีกแล้ว แบบนั้นอีกแล้วววว มึงเลิกทำหน้าอ้อนแล้วกระพริบตาปริบๆ แบบนั้นซะทีเหอะ
กูใจอ่อนหมด เฮ้ออ..
"ใครบอกไม่ไหววะ อย่างภูริณัฐไม่มีหรอกเว้ย ! ไปๆๆ"
แค่มีมึงอยู่ข้างๆ
กูก็พร้อมที่จะยิ้มให้มึงได้เสมอแหละ ..
พอเดินกลับมาก็รีบต่อรถไฟฟ้ามาที่สถานี อุระยะซึ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดจิบะครับ โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ทซึ่งเป็นที่ตั้งของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ก็ตั้งอยู่ที่นี่ แปลกเนอะ ขึ้นชื่อว่าเป็นโตเกียวดิสนีย์แลนด์แต่กลับอยู่ในจังหวัดใกล้ๆ กันกับโตเกียว แทนที่จะอยู่ในโตเกียวเลยซะงั้น
ลงจากรถไฟฟ้ามาเดินมาอีกหน่อยก็ถึง ผมกับบูมตื่นตาตื่นใจกับที่นี่มาก เพราะแค่ทางเข้าก็เว่อร์แล้วอ่ะ ! มันเป็นแบบทางเข้าปราสาทในการ์ตูนเลย แบบนี้ดิเรียกว่าสวนสนุกของจริง ฮ่าๆๆ
พวกเราสองคนรวมกันใช้เงินเข้ามาที่นี่ 11600 เยน คนละ 5800 เยนครับ ก็ถือว่าเป็นราคาที่โอเคเพราะเราจะอยู่ที่นี่ต่อจนถึงมืดๆ เลย (เอาให้คุ้มกับเงินเว้ยยย)
เท่าที่ได้ฟังจากคนที่นี่เค้าบรรยายกัน(ไม่ได้แอบฟังนะครับ แค่ได้ยิน แฮะๆ) เค้าบอกกันว่าขบวนพาเหรด Disney’s Dreams on PARADE “Moving On” ช่วงกลางวัน ซึ่งแสดงตั้งแต่ตอนเที่ยงถึงบ่ายสามเพิ่งจบไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ถึงจะแอบเสียดายแต่แค่ได้เห็นอะไรตระการตาแบบที่นี่ก็ไม่เสียใจแล้วล่ะครับ ช่างเป็นสวนสนุกที่โคตรเหมือนในฝันเลย ทุกส่วนสร้างสรรค์ออกมาได้เหมือนกับในการ์ตูนมากๆ เลยไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น ร้านขายของ หรือว่าปราสาทราชวัง แม้กระทั่งเสาไฟที่ตั้งอยู่ทุกๆ จุดก็เหมือนหลุดออกมาจากดิสนีย์ของจริง(ขนาดพุ่มไม้ยังถูกตัดแต่งให้เหมือนกับเจ้าชายอสูรเลย เมพขิงๆ !) ที่สำคัญคือที่นี่กว้างมากๆ จนพวกเราสองคนเดินกันไม่หมด ไม่รู้เป็นพื้นกี่สิบไร่แต่คงจะหลายอยู่อ่ะนะ..
World Bazaar โซนนี้เป็นโซนร้านขายของ น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้โซนอื่นเลย เพราะของที่ระลึกแม่งน่ารักกกกกกกอ่ะ
แน่นอนผมยังว่าน่ารักเลย แล้วบูมล่ะ ..
"บุช ! ไปซื้อเป้มิกกี้เมาส์ตรงนั้นกัน น่ารักว่ะะะะะะะะ"
นั่นแน่ เซนส์เกี่ยวกับบูมผมน่ะไม่พลาดหรอกนะ..
"เออๆ ไปกัน"
ผมกับบูมเดินมาอยู่ที่ร้านขายของซึ่งทำหน้าร้านเหมือนบ้านแม่มดเลย อาจจะมีแม่มดโผล่ออกมาก็ได้ ใครจะไปรู้
"ซื้ออะไรจ๊ะ ? เลือกดูก่อนได้เลย" คุณป้าเจ้าของร้านซึ่งใส่ชุดแม่มด (นั่นไง !! เดาถูกอีกแล้วอ่ะ) ออกมาถามพวกเราด้วยสีหน้ายิ้มๆ ก่อนจะถามคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าร้านและในร้านด้วยประโยคเดียวกันเหมือนกับเปิดเทปที่อัดไว้
"มึงจะซื้อเป้มิกกี้เมาส์ไม่ใช่เหรอ ไปยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอ่ะ ? " ผมจ้องมองบูมที่ยืนดูอะไรบางอย่างอยู่ตรงข้างฝั่งที่วางขายเป้อยู่ ก่อนจะเดินตามไปดู
หื้มมมม ?
แหวนคู่รัก ?
"บุชซื้อนี้กันดีกว่า แหวนคู่อ่ะ" ดวงตาบูมเปล่งประกายแรงกล้าพลางจ้องมองแหวนคู่สีเงินที่วางขายอยู่ในตู้กระจก
เย้ยย ถ้าซื้อตอนนี้มันก็ผิดแผนแย่ดิ๊ ไม่ได้ !!
"ไม่ๆๆๆ ไปซื้อเป้ดีกว่า ซื้อเป้คู่ก็ได้น่ารักกว่าแหวนเยอะเลย"
"อย่างมึงอยากได้เป้มิกกี้เมาส์ด้วยเหรอ -*- ? " มันหันมาถามผมพลางทำหน้าโคตรไม่เชื่อ เชื่อกูบ้างก็ได้ โธ่ !
"เอาเหอะ ซื้อเป้กันๆๆ" ผมคว้าเป้มิกกี้เมาส์อันที่เหมือนกันมาสองอันแล้วควักเงินจ่ายที่ป้าเค้าอย่างรวดเร็วปานแสง(เหมือนจะลืมหยิบเงินทอนด้วยอ่ะ ซวยจริง T T) แล้วค่อยลากบูมออกมาจากร้านอย่างยากลำบาก "อ่ะเป้ ซื้อให้เลยนะเนี่ยยย" ผมยื่นเป้มิกกี้อันนึงให้บูม แต่มันเหมือนไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่เลยแฮะ
"กูอยากได้แหวนด้วยอ่ะ.........."
"แต่กูซื้อเป้ให้แล้ว เอาไปก่อนโอเคมะ ??"
"แล้วแหวน..."
"อย่าดื้อดิ ก็ตอนแรกบอกอยากได้เป้ไง !"
เหมือนผมจะเผลอใส่อารมณ์มากไป เลยเผลอขึ้นเสียงไปหน่อยแฮะ ...
"....................."
แล้วอยู่ๆ ไอ้คนที่เดินข้างๆ ก็สะบัดหน้าหนีซะเฉยๆ อ้าว ...งานเข้าเลยคราวนี้
"บูมครับบบบ แหวนถ้าอยากได้เดี๋ยวบุชซื้อให้ทีหลังนะะะะ"
เฮ้ยยยย อย่าเพิ่งเดินหนี !
จนกระทั่งมืดแล้ว ที่นี่ดูเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว แสงไฟจากปราสาทราชวังของเล่นหรือโคมไฟหลากสี ส่องเป็นประกายราวกับอยู่ดินแดนแห่งเทพนิยายอะไรอย่างงั้น สวยจังเลยแว้ ! แต่ที่ยังเหมือนเดิมก็คือ บูมยังไม่ยอมดีกับผมสักที เอาแต่เดินหนีลูกเดียว ผลจะออกมายังไงล่ะครับ !? ก็เดินวนไปวนมาในนี้ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
สงสารกูหน่อย ให้กูพักบ้างงง อยากเล่นเครื่องเล่นบ้างอะไรบ้างนะ Y____Y
สักพักทั้งผม บูม และอีกหลายๆ คนที่กำลังสนุกสนานอยู่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไฟทั้งหมดดับลง ทั้งสวนสนุกตกอยู่ในความมืด หลังจากนั้นมีพลุจุดดังปุ๊งลอยขึ้นไปบนฟ้าและแตกกระจายเป็นแสงหลากสีสัน หนึ่งนัด สองนัก สามนัด.. และอีกเรื่อยๆ ถูกส่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสีดำก่อนจะแต่งแต้มแสงสีให้กับมันอย่างสวยงาม
ตอนนี้หนึ่งทุ่มครึ่ง คงเป็นเวลาของการแสดงพาเหรดตอนกลางคืน Tokyo Disneyland Electrical Parade Dream lights ล่ะมั้ง
ผมหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะลอบมองรอยยิ้มบางๆ ของบูมที่สะท้อนกับแสงไฟจากพลุ อืมมม.. อยู่กันเงียบๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยผมก็ได้เห็นมันในมุมแบบนี้ ฮ่าๆๆ
หลังจากที่พลุนัดสุดท้ายกระจายอยู่บนท้องฟ้า เสียงปรบมือและเสียงพูดว่าเลดี้แอนด์เจนเทอร์แมนอะไรสักอย่างก็ดังมาจากลำโพงทั่วทุกสารทิศ ทำให้คนอื่นๆ หันกลับไปสนใจที่ขบวนพาเหรด ซึ่งค่อยๆ เดินขบวนกันออกมา ทางด้านหน้าของผม
เอ่อออ.. ซึ่งแม่งวิ่งไปบังกันให้รึ่ม แล้วกูจะเห็นอะไรเนี้ยยยย ???
จะให้ไปเบียดกับใครๆ ก็ไม่รู้แล้วเข้าไปดูผมไม่เอาด้วยหรอกนะ ไม่ดูก็ได้วะ หึ !
แต่.... แล้ว
"บูม.. อยากดูมั้ย ? "
"บุชชชชช พาไปดูหน่อย ! "
"อะ...อ่า ถ้าอยากไปก็ไปสิ" ผมแทบทำอะไรไม่ถูก ทั้งๆ ที่นึกว่าจะไม่พูดกันเหมือนเดิมซะอีก
ถ้าบูมอยากดูผมก็อยากดู..
พวกเราวิ่งเข้าไป แล้วพยายามเบียดเข้าไปในวงล้อมคนที่มุงขบวนพาเหรดเอิกเกริกข้างหน้า เสียงดนตรีบรรเลง กับแสงไฟที่พอจะมองลอดได้จากตรงนี้แม้ไม่ชัดก็อลังการแล้วอ่ะครับ
ตัวการ์ตูนอะไรเดินกับเต็มเลยอ่ะ ซึ่งส่วนมากผมไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่หรอก แฮะๆ ที่พอจะจำชื่อได้ก็มีมิกกี้ มันมินนี่ แล้วก็มีตัวเต่าทองด้วย ชื่ออะไรหว่า ? มีเจ้าหญิงแปลกๆ เต็มไปหมดเลย แล้วก็เต่าทองหลายๆ สีนั่นอีกก
แต่ว่ามองยังไงก็ไม่ชัดอยู่ดี อารมณ์เสียวุ้ยย
"แม่งไม่ชัดอ่ะ กูจะถ่ายรูปปป ทำไงดีๆๆๆ" บูมร้องตะโกนโวยวายกับผม ซึ่งตอนนี้ผมเอ๋อไปละ
อยากถ่ายรูปก็ต้องเบียดเข้าไปข้างหน้าอ่ะสิเฮ้ย แล้วจะเข้าไปได้ไงคนเยอะแบบนี้ !
มีวิธีนึง ลองดูหน่อยก็ดี..
เอาก็เอาวะ !
"บูม... ขี่หลังกูมั้ย ? "
"ฮะะะะะ !!?"
"ขี่หลังไง จะได้เห็น เอาเปล่า ?"
"เฮ้ย หลังหักดิ"
โคตรแช่งเลย กูทำเพื่อมึงเลยนะเนี่ย =[]= !!
"กูแข็งแรงจะตาย มาๆ ถ้าอยากดูก็กระโดดขึ้นมาเลยยยย" กระโดดขึ้นมาเลย T^T
"เอาจริงอ่อ ? กูว่าเบียดเข้าไปปลอดภัยกว่านะ"
"เหอะน่า ! ไม่เชื่อใจกูเหรอ ?" เจอคำถามนี้ไปบูมก็บูมเหอะ ยังต้องจอด
"งั้นก็โอเคคคค"
เหมือนมันจะค่อยๆ ปีนขึ้นมา แต่ไม่ได้ผลแม่งก็เลยกระโดดขึ้นมาจริงๆ
อุ๊บส์ TTxTT
ดีนะมันผอมลงบ้างแล้ว ผมเลยพอแบกไหว ขอถอนคำพูดไม่ให้มันกินเยอะๆ แล้ว เจอสถานการณ์แบบนี้แล้วคงไม่รอด
"โหวววว แม่งโคตรสวยเลยยย บุชดูดิ๊ๆๆ !"
"เหรอๆๆ " เหอๆ อยากจะตะโกนจริงๆ ว่ากูจะเห็นได้ยังไง
"เออๆ มึงไม่เห็นนี่หว่า" ยังดีที่มึงคิดได้นะ เหอๆ "เดี๋ยวกูถ่ายรูปไปให้ดูนะ สุดยอด สวยจังเลยยยยยยย"
"อืมๆ แล้วเอามาให้กูดูด้วยนะ..."
เห็นมึงมีความสุข กูก็มีความสุขแล้วล่ะ : )
ขาเริ่มสั่น ... นานแล้วนะเว้ยยย พอยังเนี่ย แล้วคนทำไอ้ขบวนนี่แม่งก็เทพเกิน เยอะไปไหน ?? ผมเห็นเปิดเพลงพาเหรดซ้ำกันสองรอบแล้ว ไอ้ตัวการ์ตูนที่เดินๆ ก็ไม่หมดสักที นิดเดียวก็พอได้แล้วมั้ง !
..หลังจากที่ก้มหน้าก้มตาแบกอยู่นาน ก็เพิ่งคิดได้ว่าเงยหน้าขึ้นสูดอากาศบ้างก็ดี พลันเหลือบไปเห็นนาฬิกาเรือนใหญ่ที่เข็มเป็นหลอดไฟเปลี่ยนสีได้ มันบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว อืมม สวยจังเลยแฮะ ..........
..........................
เย้ยยยย !
สองทุ่มครึ่ง !!
จำได้ว่ามีนัดตอนสามทุ่มนี่หว่า ??
เวรแล้ววววว
ผมรีบสะกิดบูมให้ลงมาก่อน เหมือนมันจะรำคาญที่ผมสะกิดมันไปเป็นสิบๆ ทีเลยรีบลงมา
"ทำไมหน้ามึงเหงื่อเยอะงั้นอ่ะ !? นานไปหน่อยกูขอโทษษษ แต่ได้รูปมาเยอะเลยนะ"
"เออๆ กูไม่เป็นไรอ่ะ"
"งั้นต่ออีกแป๊บได้มะ ยังไม่ได้ถ่ายตัวการ์ตูนในอลิซอินวอนเดอร์แลนด์เลยยย"
กูบอกไม่เป็นไร มึงก็ว่าไม่เป็นไรจริงๆ เนอะ -_-''
"กูไม่ไหวแล้วก็ได้ กลับโรงแรมไปพักเหอะ เร็วววววววววว" ผมบอก ก่อนจะรีบลากบูมออกมาจากโตเกียวดิสนีย์แลนด์ทันที
พวกเรานั่งรถไฟฟ้าสายเดิมย้อนกลับมาที่ชินจุกุ แล้วเดินต่อมาถึงชินจุกุปริ้นซ์โฮเทลซึ่งเป็นที่พัก แล้วก็ที่นัดของผมวันนี้ด้วย
ว้ากกกกก สามทุ่มยี่สิบ สายไปยี่สิบนาที T_________T
"ทำไมมึงดูรีบๆ อ่ะ มีนัดกับใครเหรอ ?? "
"เอ่ออ... เปล่านี่ แค่อยากพัก มึงขึ้นไปก่อนก็ได้นะ กูหิวๆ อ่ะ เดี๋ยว..เดี๋ยวซื้อของกินไปฝากละกัน ขึ้นก่อนเลยย" ผมพูดอย่างตะกุกตะกักและรีบร้อน
พยายามไม่ให้มีพิรุธที่สุดแล้วนะเนี่ย แต่ทำไมบูมยิ่งทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อวะ - -.
"ไม่มีไรจริงอ่ะ"
"อื้อ ขึ้นไปก่อนนะ เดี๋ยวตามไปพร้อมของกิน.."
ผมยิ้มให้บูม พลันหันหลังวิ่งไปทางห้องอาหารโรงแรมที่อยู่ชั้นหนึ่ง เลยทางเข้ากับล็อบบี้กับล็อบบี้เข้าไปหน่อย
ก่อนจะกวาดสายตามองหาใครบางคนที่ผมตามหาอยู่
"บุช ! ทางนี้ๆ "
ผมหันมองตามเสียงเรียกก็เจอ ต้นเสียงนั่งโบกมือให้กับผมอยู่ด้านในของห้องอาหาร
ผมรีบวิ่งเข้าไปหาก่อนจะคว้ามันเข้ามากอดทันที คิดถึงจังวุ้ยยย
"โยจริงๆ ป่ะวะเนี่ยยย ไม่ได้เจอกันนานโคตรรร คิดถึงว่ะ" ผมถึงตรงนี้ผมต้องพยายามร่ายคำพูดออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น
เพราะว่าไอ้เพื่อนของผมคนนี้เป็นคนญี่ปุ่นครับ มันชื่อว่าโยชิ ผมรู้จักมันก็เพราะมันเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ไปอยู่โรงเรียนผมไง(ที่จริงโยก็พูดไทยได้นะ แต่ออกจะลำบากหน่อย เลยอย่าดีกว่า)
ได้เจอกันวันนี้รู้สึกว่ามันโตขึ้นเยอะเลยครับ ผมเคยเห็นแต่เวลามันอยู่ในชุดนักเรียน ก็ตี๋ๆ เข้มๆ ดี แต่พอตอนนี้แม่งอยู่ในชุดสูตสีดำ แล้วดูหล่อขึ้นโคตรๆ เลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ
(โยเป็นลูกชายคนเดียวของบริษัทจิวเวลรี่รายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เรียกได้ว่าโคตรรวย ที่ผมได้เข้าพักที่นี่ก็เพราะโยช่วยนี่แหละ ฮ่าๆๆ ถึงได้บอกว่าผมเส้นใหญ่ ! อิอิ)
"บุชสูงขึ้นนะเนี่ย ฮ่ะๆๆ แต่ก็เตี้ยกว่าเราอยู่ดี"
" -_-'' " ..เออ มึงไม่ต้องพูดก็ได้เรื่องเนี้ยยยย
"ไม่เห็นต้องทำหน้าแบบนั้นเลย เจอกันทั้งทียิ้มหน่อยดิ๊ !" มันตบหลังผมเข้าป๊าบใหญ่ก่อนจะหัวเราะ
นอกจากกวนตีนเหมือนเดิม ยังแรงเยอะเหมือนเดิมด้วย - -.
"อุตห์ส่าจะชมว่าหล่อขึ้นนะเนี่ย แม่มมม แต่ขอโทษที่มาสายจริงๆ นะ เราติดธุระนิดหน่อยอ่ะ" ผมยิ้มแหยๆ ให้แต่เหมือนโยจะไม่คิดอะไรมากแฮะ เพราะมันก็ยิ้มตอบเหมือนกัน
"อยากบอกว่าก็เพิ่งมาเหมือนกัน ยังกลัวบุชมารอเลย ฮ่าๆๆ"
"อ้าว งั้นหรอกเหรอ.." ก็พอกันทั้งคู่เลยว่ะ กูจะได้ไม่รู้สึกผิด !
"อืมๆ แต่บุชมาทีหลังก็ดีแล้ว เรารอไม่เป็นไรหรอก.. ว่าแต่จะกินไรก่อนมั้ย ??"
"ไม่ดีกว่า เรารีบอ่ะ" เหมือนมันจะทำหน้าผิดหวังนิดนึง ที่ได้เจอกันแต่ผมดันรีบซะงั้น โทษทีๆ "เราอยู่ที่นี่อีกหลายวันแหละ ได้เจอกันบ่อยๆ แน่ ..แล้วของที่ขอไว้ได้ป่ะวะ ??"
"ได้ดิ๊ ....อ่ะนี่ เตรียมไว้แล้ววว"
ภารกิจสำคัญวันนี้ก็คือการมาเอาของกับโยเนี่ยแหละครับ
ผมขอแหวนเงินคู่นึง ซึ่งสลักคำว่า ' BBUOSOHM ' จากโยไว้นานแล้ว พอมาญี่ปุ่นถึงได้ฤกษ์มาเอาเนี่ยแหละ ฮ่ะๆๆ
โยยื่นกล่องใส่แหวนสีเทามาให้ผมกล่องนึง ผมเปิดออกมาเห็นแหวนเงินสองวง ซึ่งถูกทำขอบเป็นลายดอกกุหลาบเล็กๆ ปนกับเพชรส่องประกายระยิบระยับ
และตัวหนังสือสลักไว้อย่างสวยงามที่รอบแหวนว่า BBUOSOHM
ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างพอใจ ไม่สิ เกินความพอใจอีกมั้งเนี่ยยย
"โหยยยย เราไม่รู้จะตอบแทนยังไงอ่ะ สวยมากเลย ขอบคุณนะๆๆ ขอบคุณจริงๆ"
ผมกระโดดกอดคอโยอย่างรู้สึกซาบซึ้ง ฮืออออ โคตรรักมึงเลยยย !
"ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร แค่นี้เล็กน้อย.. บุชดีใจก็ดีแล้ว แต่เราว่าปล่อยก่อนดีกว่ามั้ย ? หันหลังดูก่อนก็ดีบุช.."
หาาา ? อะไร ???
ผมหันกลับไปมองเห็นบูมกำลังยื่นมองผมกับโยนิ่งที่อยู่ที่ทางเข้าห้องอาหาร
เอ้ยยย แล้วเห็นอะไรเนี่ย !? ไม่ใช่อย่างที่คิดนะเว้ยย !
ผมไม่ทันที่จะตะโกนเรียกบูม มันก็วิ่งหนีออกไปซะแล้ววว
"โย ! เราว่าลางไม่ดีอีกแล้วอ่ะ ไปก่อนนะ !"
"ฮ่าๆๆ ง้อกันดีๆ นะ"
"แฮะๆ = =; "
ผมโบกมือลาโยอย่างรีบร้อนก่อนจะวิ่งตามบูมซึ่งมันวิ่งขึ้นบันไดไปไหนแล้วเนี่ยยย
ผมเลยจำเป็นต้องวิ่งขึ้นไปตาม เลี้ยวแล้วเลี้ยวเล่า ขึ้นมาเป็นสิบชั้นแล้วมั้ง !
"บูมเดี๋ยวก่อน รอก่อนดิ๊ !!"
แฮ่กๆ แฮ่กๆ แฮ่กๆ
ในที่สุดก็หยุด จะไม่ให้หยุดได้ไงในเมื่อมันถึงดาดฟ้าแล้วเนี่ย =______=;;
สุดยอดเลย วิ่งขึ้นมาสามสิบกว่าชั้น เหนื่อย !
ผมเห็นมันยืนมองวิวอยู่ตรงระเบียง เก่งว่ะ ไม่กลัวความสูงด้วย..
"มึงมีอะไรจะพูดมะ ?"
=[]= ! โห พูดเหมือนมาเคลียร์ปัญหาครอบครัว
"มี ! มีเยอะด้วยยย.." ผมเดินเข้าไปหามัน ก่อนจะสวมกอดเข้าทางด้านหลัง แล้ววางคางลงบนไหล่บูม(อา... ผมทำได้ยังไง ? รองเท้าผ้าใบคู่นี้เสริมส้น 5 เซนฯ ครับ แฮะๆ) ผมรู้สึกว่าบูมตัวสั่นๆ เล็กๆ ด้วยแฮะ "ขอกอดนะ... รางวัลที่เหนื่อยมาทั้งวันอ่ะ"
".............................."
เหมือนบูมจะยังนิ่ง คงเพราะเห็นตอนที่ผมกอดกับโยเมื่อกี้แน่เลยย
มันมีอะไรที่ไหนเล่า !
"เมื่อกี้แค่เพื่อนอ่ะ ที่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปโรงเรียนเราไง... มึงก็เคยเจอจำไม่ได้อ่อ ?"
".............................."
"เพื่อนกันทั้งนั้น อย่าคิดมากดิ๊ ไม่มีไรจริงๆ "
".............................."
ทันทีที่ผมเห็นมันหันมามองผม ก็ต้องรีบปั้นหน้าอ้อนทันที โอกาสต้องตักตวงเด่ะ อิอิ
"จริงๆ น้าาาาา"
"อืม... งั้น..งั้นกูคงคิดมากไปเองอ่ะ"
"หึหึ มึงหน้าแดงๆ นะ ไม่สบายเปล่า ?"
"ไอ้บ้า..."
ถามไปงั้น ความจริงผมรู้ว่าบูมเขิน ฮ่าๆๆ ง้อแบบนี้กูก็เขินเหมือนกันแหละ !
"อืมมม... วันนี้มึงบอกอยากได้แหวนคู่ใช่ป่ะ ?"
ผมยิ้มกว้างพลางถามบูมที่ทำหน้างงๆ
"ใช่ๆ ....."
"งั้นหลับตาก่อนนะ... เดี๋ยวบุชเสกให้ !"
ผมเอื้อมมือไปปิดตาบูม ก่อนจะหยิบกล่องแหวนที่ได้มาจากโยเมื่อกี้ขึ้นมา
"หนึ่ง.. สอง........... สาม"
"............................."
"อ่ะ แหวนคู่ ! "
ผมเปิดกล่องแหวนแล้วหยิบวงนึงขึ้นมา ก่อนจะบรรจงใส่ให้บูมที่นิ้วนางข้างซ้ายของบูม....
แล้วค่อยหยิบอีกวงนึงมาใส่ไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของผมเช่นกัน
"กูจองมึงไว้แล้วนะ ....ไม่ขออะไรมากขอแค่รักษาไว้ให้ดีๆ ..
อืมมม... หรือถ้ามึงโกรธกูจะเอาไปต้มยำทำแกง เอาไปโยนทิ้งลงทะเล เหยียบให้เละก็เชิญเลย แต่รู้ไว้ว่ามันก็เหมือนกับหัวใจ......ของกู” ผมเอื้อมไปยกมือข้างซ้ายของมันมาทาบทับเข้าที่อกซ้ายของผม ตรงตำแหน่งหัวใจ ที่กำลังเต้นรัวอยู่
“หัวใจกูอยู่กับมึงแล้วนะ...."
....ผมพูดอะไรออกไปก็ไม่รู้แฮะ แต่รู้สึกว่ามีความสุขจังเลย
ผมยิ้มให้กับบูมที่กำลังยิ้มตอบผมเช่นกัน...
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าผม ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป หากแต่เป็นความจริงที่สัมผัสได้ รับรู้ได้ และสามารถทำให้หัวใจของผมเต้นแรงได้ .....
"รักมึงนะ..."
"...กูก็รักมึง"
.
.
.
.
.
...ไม่ว่าจะเป็นเพราะโชคชะตา พรหมลิขิต หรืออะไรก็แล้วแต่
ผมอยากจะขอบคุณ ..ขอบคุณที่มอบสิ่งที่แสนวิเศษมาให้กับคนธรรมดาคนนึงอย่างผม......
อยากขอบคุณที่มอบเขา.. มาอยู่เคียงข้างผม
..........Thank you very much ,, my destiny : )
120 %
+++++++++++++++++++++++++++++++
- เอามาให้อ่านติ๊สสสเดียว XD ติดตามต่อได้ที่ http://bushb8m.ipbfree.com/index.php?showtopic=24 อย่าลืมสมัครสมาชิกก่อนอ่ะเน้อ เรื่องนี้เป็นฟิคสั้นอีกเรื่องนึง ที่อัพลงไว้ที่บอร์ด ตอนนี้อัพไว้ที่นั่น 50% (นานแล้วด้วย - -.) เรื่องนี้ออกแนวใสๆ ไม่เครียดเน้อ มีแต่ฉากหวานๆ น่าจะอัพต่อได้เร็วๆ นี้ อย่างเร็ววันเสาร์อาทิตย์นี้ อย่างช้าวันจันทร์เน้อ เสร็จแล้วจะกลับมาปั่นเรื่องยาวต่อ : )
+++++++++++++++++++++++++++++++
อีดิทอีกรอบ . เนื่องจากคิดว่าวันนี้จะได้มาอัพฟิคยาวต่อ แต่ว่าปั่นไปได้ติ๊ดเดียวเอง
แยกเป็นเปอร์เซ็นนิดๆ มาก็น่าเกลียด เลยแจ้งข่าวเฉยๆ ว่าเรื่องนี้อัพเพิ่มเป็น 120% แล้วนะครับ เยอะอยู่
และที่สำคัญสำหรับวันนี้อีกวัน
Happy Birthday พี่บุชด้วยยยย วันนี้วันเกิดพี่บุช ขอให้พี่บุชมีความสุขมากๆ
สมหวังในทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่กับพี่บูมและบีบีแฟนไปนานๆ เน้ออออ : )
ตั้งใจทำมากมายย มีความสุขมากๆ นะเฮียยยย
ความคิดเห็น