เช้าวันต่อมาเป็นเช้าวันใหม่ที่สดใส่อากาศที่เมืองนี้เย็นสบายจริง เสียงนกร้องเพลิงอย่างไพเราะ เสนาะหู วันนี้คงเป็นอีกวันหนึ่งที่พวกเราได้อยู่ในนครเอลเดอร์
ตอนนี้ฉันกับมินาโตะได้เดินมาที่ห้องแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของสระน้ำในพระราชวัง ภายในห้องนั้นเป็น เป็นห้องโถงขนาดใหญ่และกว้าง มีกระจกบานใหญ่เปิดอารับลม จากข้างนอก ตรงกลางของห้องคือสระน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่ น้ำนั้นใส่แจ่วราวกับกระจก โดยมีรูปปั้นหญิงสาวคอยเทน้ำลงมายังสระ
ทั้งคู่ต่างเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในห้อง เด้กหนุ่มเดินออกมาก่อนโดยใส่เพียงแต่กางเกงในผ้าสีขาว เพียงตัวเดียว
"ย่า ฮู"
ตูม
เด็กหนุ่มไม่รอช้ากระโดดลงไปในสระน้ำ แล้วแหวกว่ายไปมาอย่างสนุกสนาน ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังแหวกว่ายอยู่นั้นเข้าก็หันไปพบกับ คุชินะที่ก้าวเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เธอใส่เพียงแค่กางเกงในกับผ้าที่ห่อปิดหน้าอก ผิวกายเด็กสาวดูขาวอมชมพู ถึงเธอจะท้องป่องออกมาก็ตาม เด็กสาวค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างระมัดระวัง จนมาถึงขอบสระ
"มาฉันช่วยให้นะ มาสิส่งมือมาสิ"
"ขอบใจมากมินาโตะคุง"
เธอค่อย ๆ ย่อนตัวเองลงไปในสระน้ำโดยมีเด็กหนุ่มค่อยจับที่มืออย่างแผวเบา เมื่อเธอลงมาในสระน้ำที่เย็นสบายแล้วเด็กสาวและเด็กหนุ่มก็แวกว่ายเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน และหยอดล้อเล่นกันตามภาษาของพวกเขา
"มามะมาให้จับซะดี " เด็กหนุ่มว่ายน้ำไล่ตามเด็กสาว
"ไม่ยอมให้จับง่ายหรอก"
คุชินะไม่ยอมแพ้ เธอยังคงว่ายน้ำหนี แต่ก็ว่ายได้ไม่มากนักเพราะ เธอท้องอยู่ทำให้เด็กหนุ่มจับเด็กสาวได้ทันเวลา
"ฮ่า ฮา จับได้แล้วแม่สาวน้อย" เด็กหนุ่มจับเด็กสาวได้อย่างดีใจ
"ฮา ฮา มินาโตะก็" เด็กสาวหัวเราะอย่างมีความสุขและพลักน้ำกระเด้นไปโดนเด็กหนุ่ม
หลังจากที่เล่นน้ำกันมานาน เด็กสาวก็ขึ้นมานั้งตรงขอบสระและเอามือหวีผมสีแดงยาวสรวย โดยมีเด็กหนุ่มว่ายเข้ามาแล้วเอาใบหูแนบเข้ากับท้องที่ป่องออกมาของเด็กสาวเพื่อฟังเสียงชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะเกิดออกมา
"อยากรู้จริงๆ ว่าลูกเรานั้นจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายนะ " เด็กหนุ่มพูดอย่างแผวเบา พลางเอามือลูปท้องของเด็กสาว
"ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเป็นชายหรือหญิงจริงสิ นายตั้งชื่อลูกไว้หรือยัง" เด็กสาวถาม
"ยัง ยังไม่รู่ว่าจะตั้งชื่อลูกของเราสองคนว่าอย่างไรดี นะ" มินาโตะเอามือลูปท้องของเด็กสาวอย่างแผวเบาอย่างทะนุทนอม
"ถ้าลูกเราเกิดมาคงเป็นเด็กที่น่ารักมากเลยนะ" คุชินะรู้สึกขำ "ได้เชื้อจากพวกเราสองคนเอง"
ทั้งสองยังคงหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน จนเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปพบท่านฮารุกะ ทั้งสองเดินออกจากสระแล้วไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปยังห้องอาหาร
พวกเรายังคงอยู่ในนครแห่งนี้ไปได้ซัก 5 วันแล้ว เราได้เห็นการใช้ชีวิตของผู้คนที่มีความสุข เราได้ออกไปเดินตลาดชมเมือง รวมทั้งซื้อของใช้ต่าง ๆ ที่มีความแปลกประหลาดและสวยงาม อีกทั้งอาหารการกินและผลไม้ของเมืองนี้ก็มีความอร่อยไม่แพ้กัน ด้านศาสนานั้นเมืองนี้นับถือเทพีแห่งต้นไม้ที่เชื้อกันว่าเป็นมารดาของทุกสรรพสิ่งบนพื้นแผ่นดินนี้ ศิลปะและวัฒนธรรมของเมืองนี้ถือได้ว่ามีความสวยงามและงานมีความประณีตมาก ๆ โดยเฉพาะเครื่องสังคโลข ผ้าแผล เสื้อผ้า อัญมณี รวมทั้ง เครื่องไม้ต่าง ๆ อาหารที่นี้มีความหลากหลายรสชาติมาก ๆ ไม่ว่าจะเผ็ด เปรี่ยว เค็ม หวานก็มีหมดและยังอร่อยอีกด้วย การผจนภัยของเราครั้งนี้ถือได้ว่ามาแล้วคุ่มค่าที่สุด
จนกระทั้งวันที่ 6 ก็ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกลับ ราชินีเอลดาร์มาส่งเราถึงท่าเรือบิน และหลังจากนั้นพวกเราก็บอกลาท่านราชินีและขึ้นเรือเดินทางกลับเมืองอุซึชิโอะของเราไป
********
หลังจากการผจนภัยในครั้งนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 2 เดือนแล้วตอนนี้ ครรภ์ของฉันมีอายุได้ 6 เดือนแล้ว วันนี้มินาโตะออกไปทำภารกิจข้างนอกทำให้ฉันต้องอยู่ที่ตำหนักนี้เพียงรำพัง แค่คิดก็หน้าเบื่อเต็มที่แล้วฉันอยากออกไปข้างนอกอยากออกไปผจนภัยตามป่าเขาจริง เลย ไม่อยากจะอยู่อย่างนี้เลยด้วยซ่ำ
เด็กสาวท้องโย่วในชุดกีโมโนสีแดง กำลังจองมองออกไปที่หน้าต่าง มองเหล่าเด็กน้อยกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน นกน้อยไนติงเกลบินมาเกาะที่ริมหน้าต่างร้องเพลงอย่างไพเราะ เด็กสาวนั้นคิดถึงคู่ชีวิตของเธอที่กำลังจะกลับมาแต่ตอนนี้เธอกลับยังไม่เห็นเขาเลยด้วยซ่ำ และนานเข้าเธอก็เริ่มรู้สึกอึดอัดอยากออกไปข้างนอกจริง ๆ อยากเดินไปตามป่าเขาสูดดมกลิ่นอายธรรมชาติ
คลืน
ประตูเลื่อนถูกเปิกออกเมื่อหญิงรับใช้ของท่านฮารุกะมาหา
"ท่านฮารุกะเรียกท่านไปพบที่ห้องค่ะ"
"ได้เดี่ยวหนูตามออกไปค่ะ"
เด็กสาวรับปาก และเดินออกจากห้องขณะที่เดินมาถึงทางเดินที่กำลังจะไปที่ห้องของท่านฮารุกะนั้น
"คุชินะ คุชินะ !!"
หญิงสาวรับใช้หันกลับมาก็พบว่าเด็กสาวนั้นได้หาย ตัวไปแล้วเธอรีบวิ่งควานหาอย่างรีบร้อน แต่ก็หาไม่พบเธอรีบไปแจ้งท่านหญิงฮารุกะให้ทราบ
"ท่านฮารุกะแย่แล้วเจ้าค่ะ "
"มีอะไรหรือ"
"คุชินะหายตัวไปเจ้าค่ะ สงสัยนางจะแอบออกไปข้างนอกแน่นอนเลยเจ้าค่ะ"
สาวใช้รายงานเรืองทั้งหมด ทำให้ฮารุกะถึงกับนึกขึ้นได้ทันที่ว่าเด้กสาวนั้นกำลังตั้งท้อง
"แย่แล้วเธอกำลังท้องอยู่ด้วยเพื่อเกิดอะไรกับเธอใครจะรับผิดชอบงั้นรีบไปตามเธอกลับมาเร็วเข้า"
หญิงสาวรีบออกมาจากห้องและรีบไปที่ คอมม้าซึ่งภายในคอมม้านั้นมีม้าสายพันธ์ชนิดต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อว่าหายากที่ที่สุด เธอรีบขึ้นบนหลังม้าสีขาวและควบออกจากปราสาทไป พร้อมกับสุนักป่าโลกันต์ขนดำตัวใหญ่เท่าวัวกระทิงยักษ์
********
ทางด้านเด็กสาวผู้ไร้เดียงสาเธอได้เดินมาอยู่ในพื้นป่าแห่งหนึ่งซึ่ง เป็นพื้นที่ที่อยู่หางจากเมืองอุซึชิโอะไปราวประมาณ 20 กิโลเมตร เธอเดินชมความสวยงามของธรรมชาติและสูดดมอากาศอันบริสุทธ์ อย่างสบายใจและ รับแสงแดดจากฝากฟ้าที่ส่องลงมายังข้างล่าง
"ลูกจ่า ลูกเกิดมาเร็ว ๆนะแม่รอเจ้าอยู่นะ ออกมาดูโลกภายน้อกที่กว้างใหญ่นี้สิลูก มันช่างสวยงามจริงๆ เลยน่ะ"
เด็กสาวเอามือลูบท้องที่โย่วออกมาอย่างแพวเบา เธอมองไปทั่วพื้นป่าที่เขียวฉอุ่ม นกน้อยบนต้นไม้กำลังทำรั้งและดูแลไข่เพื่อรอวันที่ลูกน้อยจะฟักเป็นตัว
เพี่ยว!! ตึก!!
"อ้า !!" เด็กสาวร้องเสียงหลง เมื่อมีลูกธนูปริศนา พุ่งเฉียดตัวเธอมาปักอยู่ตรงกลางตนไม้ เธอหันไปมองก็พบกับ เหล่ามนุษย์หมาป่าตัวใหญ่ 5 ถึง6 ตัวลุมล้อมเธอเอาไว้ พวกมันใช้สายตาอันอำมหิตจองมองมาที่เธอราวกับเธอเป็นลูกแกะที่กำลังจะถูดเฉือดเพื่อกิน
(แม่จะต้องปกป้องลูกให้ได้ แม่จะไม่ยอมให้ใครมาทำอันตรายลูกเด็ดขาด) เด็กสาวรีบหันหลังวิ่งอย่างรวดเร็ว เธอพยายามจะใช้จักระเพื่อกระโดดไปตามต้นไม้แต่ที่ทำไม่ได้เพราะเธอกำลังท้องอยู่และกลัวเป็นอันตรายต่อลูกในท้องยังไม่รวมถึงพลังจักระในตัวเธอที่เริ่มเหลือน้อยเต็มที่อันเนื่องมาจากลูกในท้องจะดูดพลังจักระไปจำนวนมากทำให้ผู้เป็นแม่เสียพลังจักระไปมหาศาล เด็กสาวพยายามวิ่งเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่พ้นความว่องไวของพวกหมาป่าที่วิ่งไล่ตามเด็กสาวมาติด ๆ เธอหายใจถี่สูงด้วยความหวาดกลัว มีความคิดเดียวในหัวคือต้องปกป้องลูกในท้องไว้ให้ได้ เธอจะไม่ยอมให้อสูรพวกนั้นทำอันตรายลูกๆ ของเธอเป็นอันขาด
แต่ก็ไม่เป็นผลเหล่ามนุษย์หมาป่าล้อมเด็กสาวไว้ทุกทิศทางตอนนี้เธอไม่อาจหนี บรรดาอสูรพวกนี้ไปได้แล้ว พวกมันค่อย ๆ เดินเขามาใกล่เด็กสาวอย่างช้า เธอตั้งท่าเตรียมสู่กับพวกมัน
"ยอมให้เราจับซะดีๆ แม่หนูไม่อย่างนั้นเธอจะโดนหนักมากกว่านี้" มันพูดด้วยเสียงแหลมสูง คุชินะแค่ได้ยินคำพูดของมันยังตัวสั่นสยองขนพ่องไม่หยุด
"ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกทำอะไรลูกของฉันเป็นอันขาด หากพวกแกเข้ามาฉันจะสู่ เพื่อลูกของฉัน พวกแกอย่าได้หวังจะทำอะไรฉันเป็นอันขาด" เด็กสาวตะโกนตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัวเหล่าบรรดาอสูรร้ายที่ลายล้อมเธออยู่
"ปากดีนักจับมัน"
พวกมนุษย์หมาป่าต่างกระโจนใส่คุชินะ แต่เด็กสาวได้ประสานอิน ทำให้โซ่สีทองออกมาจากหลังของเธอและพุงทะลุล่างใส่เหล่ามนุษย์หมาป่า พวกมนุษย์หมาป่าต่างรีบ กระโจนออกจากพื้นที่ใกล้เคียงแต่ก็ไม่รอดจากสายโซ๋ที่เข้ามาพันร่างของพวกมันและขยี้ร่างของพวกมันเป็นชิ้น ๆ จนไส้และเลือดทะลักเต็มพื้นดินไปหมด
"เรายอมแล้ว เรายอมแล้ว"
"พวกเรายอมแล้วปล่อยพวกเราไปเถอะ เราจะไม่ทำแล้ว "
คำอ่อนว่อนเหล่านั้นไม่ทำให้เด็กสาวหยุดสังหารพวกมัน เธอยังคงใช้โซ่จักระสังหารหมู่เหล่ามนุษย์หมาป่าที่คิดทำลายเธอกับลูกเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว และความโกรธที่พวกมันคิดทำไม่ดีกับเธอ เลือดของพวกมันกระเด็นมาโดนที่ใบหน้าของเด็กสาว แต่เธอก็ไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ ทั้งสิน ยังคงทรมานและฆ่าพวกมันต่อไป ทำให้พวกมันที่เหลือต่างพากันออกห่างจากเด็กสาวผู้นี้ทันที่
เฟี้ยว ตึก
มีบางสิ่งบางอย่างพุ่งเข้ามาปักตรงบริเวณคอของเด็กสาว เธอดึงมันออกมาก็พบว่ามันคือลูกดอก ดวงตาของเธอเริ่มพล่ามัวเลี้ยวแรงที่เคยมีกลับเริ่มอ่อนล้าลง เด็กสาวทรุดลงไปนอนกับพื้น แต่ก็ไม่ถึงกับหลับ เธอยังพอมีสติรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ (ไม่ไม่ ช่วยด้วยมินาโตะช่วยฉันกับลูกด้วย ได้โปรด)
"ดูสิเราได้เหยื่อแล้ว วันนี้พวกเรามีของเล่นมาให้สนุกแล้ว ฮา ฮา"
มนุษยหมาป่าพูดด้วยเสียงที่ฟังชวนสยอง คุชินะเองพึ่งเคยเรียนภาษามนุษย์หมาป่ามาทำให้เธอฟังพวกมันออกได้ มนุษย์หมาป่าที่เป่าลูกดอกนำเอาเชื้อกมามัด แขนของร่างบางและขา โดยที่เด็กสาวไม่อาจจะขยับร่างกายใด ๆ ได้เลย
"ปล่อยหนูไปเถอะหนูขอร้อง หนูกำลังท้องอยู่" เด็กสาวร้องอ่อนว่อน ด้วยความอ่อนแรงและลิ้นของเธอนั้นฉาไปหมด "อย่าทำอะไรลูกของหนูเลยได้โปรดขอร้อง "
"หุบปาก" มนุษย์หมาป่าตะคอกและเอามือใหญ่หยาบกรานขึ้นมาบีบกรามของเด็กสาวอย่างแรง เล็บของมันกีดลงบนแก้มที่อ่อนหวานจนมีเลือดออกนิด ๆ ดวงตาสีแดงฉานจองมองลึกเข้าไปในดวงตาเล็กๆที่กำลังหวาดกลัวและร้องขอชีวิต จนร่างเล็กนั้นสัมผัสได้ถึงความอำมหิตที่จองเขามาภายในดวงตา "หากแกไม่เงียบแก่กับลูกในท้องแก่ จะมีจุดจบที่น่าสยดยองกว่านี้" มันหายใจลดใส่ใบหน้าอันสวยงามและอ่อนหวานจนเธอได้กลิ่นเหม็นเน่า จากโพลงจมูกของมัน มันแบกร่างของเธอขึ้นมา และ พวกมันก็ออกจากบริเวณนั้นไป เด็กสาวผู้หน้าส่งสารทำได้เพียงอย่างเดียวคือภาวนาขอให้มีคนมาช่วย (มินาโตะนายอยู่ไหน มาช่วยฉันกับลูกของฉันหน่อย เถอะ ขอร้องละ)
*******
ทางด้านเด็กหนุ่มกำลังเดินทางกลับมาเมืองอุซึชิโอะเข้าเดินผ่านถนนที่มีพื้นป่าปกคลุม อย่างลมเย็น แสงแดดยามบ่ายสาดส่องปกคลุมไปทั่วพื้นป่า
(ฉันอยากจะกลับไปกอดเธอกับลูกของเธอจังเลยนะ อดคิดถึงไม่ไหวแล้ว) เด็กหนุ่มคิดในใจอย่างมีความสุข ขณะที่กำลังจะได้กลับไปหาคนในครอบครัว ที่รออยู่
โฮ่ง!! โฮ่ง!! โฮ่ง!!
เสียงหมาเห่าดังมาแต่ไกลทำให้เด็กหนุ่มได้สติ ก็พบกับ หญิงสาวบนหลังม้าสีขาวพร้อมกับสุนัขป่าโลกันต์ กำลังมุ่งมาทางนี้ ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้ได้ทันที่นั้นคือท่านฮารุกะ นั้นเอง
"ท่านฮารุกะท่านมาทำอะไรที่นี้หรือ"
"นี้ไม่ใช้เวลาจะมาถามเกิดเรื่องใหญ่แล้ว "
เรื่องอะไรหรือ เด็กหนุ่มถามโดยที่ในใจรู้สึกหวั่นเกลงคงจะเป็นข่าวร้ายบ้างอย่างที่เขาไม่อยากจะได้ยิน
"คุชินะเธอออกไปข้างนอก มีคนพบเธอเดินเข้าไปในป่านอกเมือง" หยิงสาวพูดอย่างร้อนรน
"คุชินะ !!"
เด็กหนุ่มถึงกับเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที่ เขานั้นลืมบอกไปเลยว่าพื้นป่านั้นมันมีอันตรายมาก เพราะพื้นตรงนั้นมีสายข่าวแจ้งมาว่าพบกลุ่มมนุษย์หมาป่าเถือน มาหลบซ่อยอยู่ในป่าแห่งนี้ พวกนี้เป็นพวกที่ถูกเนรเทศออกจากฝูง เพราะทำตัวเลวทรามต่ำช้าเกิดรับได้
โฮ่ง!! โฮ่ง!!
หมาป่ารีบพุ่งกระโจนเข้าไปในป่าโดยมีเด็กหนุ่มกับท่านฮารุกะติดตามไปด้วย เมื่อเข้าในได้ลึกมากแล้วก็พบ
"นี้มัน"
หญิงสาวถึงกับตะลึงเมื่อพบ เศษผ้ากิโมโนที่ฉีกขาดติดกับกิ่งไม้ มินาโตะจำได้ทันที่เลยว่านี้เป็นเสื้อกิโมโนที่คุชินะใส่ก่อนที่จะออกไปทำภารกิจ
เด็กหนุ่มรีบดึงมันออกมา เขากำมันไว้แน่น ในใจของเขาภาวนาได้อย่างเดี่ยวว่าอย่าเป็น อะไรไปนะคุชินะ
"ไม่ ไม่ คุชินะ เธออยู่ไหน คุชินะ " เด็กหนุ่มตะโกนไปทั่วพื้นป่า แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
"เราต้องรีบแล้ว คงเกิดเรื่องไม่ดีแน่นอน เอาผ้านั้นมาเร็วเข้า " หญิงสาวเอาผ้ามาจากมือของเด็กหนุ่มแล้วเอาให้หมาป่าโลกันต์ดม มันสูดดมได้ซักพัก มันก็เริ่มดมกลิ่น ไปตามพื้นก่อนจะชี้หน้าไปทางเหนือ
"เร็วเข้าตอนนี้มันจับกลิ่มได้แล้ว ไปรีบไปเร็ว" หญิงสาวสกิดเด็กหนุ่มก่อนที่เธอจะควบม้าตามหมาป่าโลกันต์ไปโดยมีเด็กหนุ่มวิ่งตามไปด้วย อย่างรวดเร็ว
(ขอละอย่าเป็นอะไรไปนะคุชินะ ฉันกำลังจะไปช่วยเธอกับลูกแล้วอดทนหน่อยนะ) เด็กหนุ่มกันฟันด้วยความโกรธแค้น ถ้าพวกเดรัจฉาน นั้นมันทำอะไรเธอล่ะก็ กูจะฆ่าพวกมันอย่างไรความปราณี
*******
เด็กสาวถูกแบกมาที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในเต็มไปด้วยมนุษย์หมาป่า เพศผู้ ทั้ง 10 ตัว ที่มีสภาพราวกับหมาป่าเถื่อนพวกมันจองมองเหยื่อตัวน้อย ๆ ที่น่าสงสารราวกับจะกระทำในสิ่งที่เลวร้ายสุดพรรณา ๆ ได้
"ท่านหัวหน้าเราได้ของขวัญมาให้ท่านแล้วครับ"
มนุษย์หมาป่าที่แบกเด็กสาวอยู่ได้วางร่างของเด็กสาว ลงต่อหน้ามนุษย์หมาป่าที่ตัวใหญ่ยักษ์ดำทมิฬ มนุษย์หมาป่าที่เป็นจ่าฝูงก้มลงและเอามือใหญ่หยาบกรานมาจับใบหน้าน้อยของเด็กสาว คุชินะอยู่ในอาการหวากกลัวขีดสุด เธอไม่สามารถขยับเขยื่อนไปไหนได้
"ทำได้ดีมากพวก" จ่าฝูงคำราม "ดูสิเราได้แม่สาวน้อยเนื้อหวานมาแล้ว โอ่ "
มันใช้จมูกสูดดมไปตามร่างกายและเส้นผมสีแดงยาวของเด็กสาวเธอรู้สึกขยะแขยงเจ้าหมาป่าตัวนี้มาก
"ขอ ร้องละปล่อยหนูไปเถอะขอร้อง ดูยังท้องอยู่ไว้ชีวิตหนูกับลูกเถอะ ได้โปรด ขอร้อง" เด็กสาวร้องอ่อนวอน น้ำตาไหล่ลงอาบใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเธอ โดยที่มีมือหยาบกรานบีบขางเธอไว้อยู่
"ฮา ขอร้องหรือได้ เดียวข้าจะจัดให้!!"
"กรี๊ด!!"
เด็กสาวหวีดร้อง เมื่อมนุษย์หมาป่าเอากรงเล็บฉีกเสื้อกิโมโนแสนสวย ออกจนขาดกระจายไปทั่วเผยให้เห็นร่างบางขาวอมชมพูที่กำลังท้อง มันเอามือใหญ่หยาบกรานกระชากซับในกับกางเกงในของเด็กสาวออกจนหมดโดยมีมนุษย์หมาป่าเหล่าลูกสมุนต่างพากันหัวเราะเยาะและเชียร์
"เสร็จเมื่อไหล่ตาพวกเราด้วยนะ "
"เอาเลยลูกพี่เอาเลย เสร็จแล้วตาพวกเราด้วย "
เสียงเชียร์อันป่าเถื่อนดังกึกก้องไปทั่วถ้ำ สติของเด็กสาวใกล้จะดับเต็มที่แล้ว เมื่อต้องเผชิญกับสายตาของอสูรตรงข้างหน้าที่มันกำลังจะปูยี่ปูยำเธอ
"อย่า ขอร้อง ฮือ ฮือ อย่าทำอะไรลูกของหนู อย่า!! "
เด็กสาวร้องและดิ้นพยายามจะให้หลุดจากฝ่ามือที่หยาบกรานของมนุษย์หมาป่า ตอนนี้มันใกล้จะกระทำชำเราเธอแล้ว
"ไม่อย่า อย่าเอามันเข้ามา อย่า กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!"
เด็กสาวหวีดร้อง จนสิ้นสติ แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
คลืนๆๆๆๆ
"นี้มันอะไรกัน!!"
มีต้นไม้พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน แล้วต้นไม้นั้นก็ได้ใช้รากไปตวัดใส่ เหล่ามนุษย์หมาป่ากระเด็นไปทั่วทิศทาง ตัวหัวหน้านั้นถูกรากไม้แทงทะลุเข้าปาก รากไม้ได้เข้ามารับร่างของเด็กสาวที่สลบ อย่างไม่ได้สติแล้วเอา เอาร่างบางเข้าไปอยู่ภายในต้นไม้
เหล่ามนุษย์หมาป่าต่างพากันแตกตืนและพยายามหนีตายสุดชีวิตราวกับผึ้งแตกรั้ง เมื่อพวกมันวิ่งไปถึงประตูทางออก อย่างหวาดกลัวถึงขีดสุด
ฉัวะ !!
มนุษย์หมาป่าตนหนึ่งถูกบางสิ่งบ้างอย่าง ฟันเข้าที่คอจนขาด และสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นคือ เด็กหนุ่มที่ถือดาบเปือนเลือดอยู่ในมือพร้อมความโกรธแค้นที่ยาก จะดับได้ เด็กหนุ่มกวาดตามองพวกมนุษย์หมาป่าด้วยไฟที่ครุงแค้น เขาอยากจะฆ่าไอ้เดรัจฉานพวกนี้นัก
"พวกแก พวกแกทำอะไรกับคุชินะและลูกของฉัน "
ฉัวะ !! ฉัวะ !!
เด็กหนุ่มคำรามกึกก้องก่อนที่จะ เอาดาบคู่ใจตวัดฟัน พวกมนุษย์หมาป่าอย่างบ้าครั้ง พวกมันต่างพยายามจะสู่กับมินาโตะแต่ก็ไม่มีตัวไหนเลยที่หยุดความบ้าครั้งและความโกรธเกรี่ยวของเด็กหนุ่มได้ เลือดของพวกมันไหล่อาบเจิงนองไปทั่วพื้นเศษสมองและไส่ถูกฟันออกมากองกับพื้น
"อย่า อย่า ได้โปรด อย่า" มนุษย์หมาป่าตนหนึ่งที่ถูกฟันจนขาขาดทั้งสองข้าง กำลังร้องขอชิวิตเด็กหนุ่มราวกับลูกหมา
ฉัวะ !!
เด็กหนุ่มไม่สนคำขอความเมตตา และสะบัดดาบฟันร่างมนุษย์หมาป่าขาดเป็นสองท่อน เลือดของมันไหล่กระเด็นมาที่ใบหน้าอันโหดเหี่ยมของเด็กหนุ่ม ดวงตาสีฟ้าเหี้ยมเกลียมและเบิกโพลงกวาดตามองไปรอบศพมนุษย์หมาป่าที่เขาได้เป็นคนลงมือฆ่า
"คุชินะ คุชินะ " เด็กหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปในถ้ำทันที่ โดยที่ท่านฮารุกะกับมหาป่าโลกันต์ได้มาภายหลังก็พบกับซากศพของมนุษญ์หมาป่าที่ตายอย่างน่าสยดสยองด้วยฝีมือเด็กหนุ่มเพียงคนเดียว
เด็กหนุ่มวิ่งต่อไปในถ้ำมืดจนมาถึงกลางโถงถ้ำก็พบกับ ต้นซากุระที่โผล่อยู่กลางโถง และมีซากศพมนุษย์หมาป่าตายอย่างสยดสยองบนพื้น
ต้นซากุระที่สวยงามเปิดอ่าลำต้นออกมาทำให้เด็กหนุ่มได้พบกับเด็กสาวที่ไรซึ่งเสื้อผ้าอาถรณ์ที่กำลังหลับอย่างไม่ได้สติ ไม่รอช้าเด็กหนุ่มรีบวิ่งไปอุ่มร่างของเด็กสาวที่ไม่ได้สติออกจากต้นไม่ทันที่ทันที่
"คุชินะทำใจดีไว้นะ ฉันมาช่วยแล้วอย่างพึ่งเป็นอะไรไปนะ" เด็กหนุ่มเขย่าตัวเด็กสาวที่ไม่ได้สติ
ฮารุกะรีบควบม้าเข้ามาดูอาการของเด็กสาวก็พบว่าตามเนื้อตัวมีรอยแผลพกช้ำจากกงเล็บของมนุษย์หมาป่า แต่ที่แปลกคือแผลพวกนั้นกำลังสมานกันและเริ่มหาย
"เร็วเข้าเราต้องรีบรักษาเธอหากช้าไปกว่านี้ เธอกับลูกของเธอจะอาจตายทันที่ได้" หญิงสาวรีบอุ่มร่างคุชินะขึ้นไปบนม้าแล้วควบออกไปพร้อมกับมินาโตะและหมาป่าโลกันต์
(อย่าเป็นอะไรไปนะคุชินะ ถ้าเธอกับลูกเป็นอะไรไปแล้วฉันจะอยู่อย่างไรได้) เด็กหนุ่มกัดฟันวิ่งพร้อมกับปาดน้ำตา ตามม้าของหญิงสาวไปด้วยใจที่เป็นห่วงเด็กสาวที่สลบอยู่ รวมทั้งลูกในท้อง
*******
"ที่นี้.....ที่ไหน"
เด็กสาวลืมตาขึ้นมาก็พบกับ จันทรายามคำคืนที่สาดส่องลงมายัง ท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ไพศาล และทะเลสาปที่สวยงามราวกับไพริน เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนก็พบว่าร่างกายของเธอนั้นไร้ซึ่งเสื้อผ้าใด ๆ และท้องของเธอก็ไม่ได้โย่วออกมา เด็กสาวกวาดตามองไปทั่วก็ไม่พบอะไร
"ตืนแล้วหรือค่ะ" มีเสียงใสปริศนา พูดขึ้นทำให้คุชินะอันกลับไปข้างหลังก็พบกับ เด็กสาวตัวน้อยวัย 5 ขวบ ที่หน้าตาหน้ารัก ผมสีชมพูราวกับดอกซากุระ ดวงตาสีเขียวมรกต ผิวกายขาวบอบบาง ไร้ซึ่งเสื้อผ้า
"หนูเป็นใครแล้วทำไมหนูถึงมาอยู่นี้ แล้วนี้ฉันตายแล้วหรือ" คุชินะจับร่างกายของตัวเองเพื่อดูว่าเะอยังมีชีวิตอยู่
"คุณยังไม่ตายหรอกค่ะ " เด็กน้อยตอบเสียงใส "คุณยังมีชีวิตอยู่ค่ะ"
เด็กสาวตัวน้อยค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้คุชินะแล้วเอามือบอบบางมาจับที่มือของเด็กสาวอย่าแผวเบา
"ตามหนูมาสิ พี่ของหนูรอคุณอยู่"
"เอ่อ แต่เดียวก่อน สิ นี้เธอยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนะ" เด็กสาวพยายามจะรั้งเอาไว้แต่เห็นว่าคงจะเป็นการเสียมารยาทจึงตามเด็กน้อยไป
เด็กสาวตัวน้อยจูงมือของเด็กสาวไปตามทางเดิน จนมาถึงทะเลสาปแห่งหนึ่งก็พบกับเด็กหนุ่มตัวน้อย ๆ ผมสีบลอนด์ หน้าตาหน้ารัก ผิวสีน้ำผึ่ง ดวงตาสีฟ้าดุจน้ำทะเล และแก้มทั้งสองข้างมีขีด 3 ขีดเหมือนลูกแมว แต่ว่าไปแล้วทำไมเด็กคนนี้ถึงหน้าตาเหมือนมินาโตะนะ เหมือนมากเลยด้วยซ่ำ
"มาแล้วหรือ" เด็กน้อยวิ่งเข้าโผกอดเด็กสาว "ผมรอคุณอยู่เลยทำไมถึงมาช้าจังล่ะ แต่ช่างเหอะ มาเล่นน้ำกับผมหน่อยได้ไหมครับ"
"เอ่อ.... แต่"
"น่า...น่า....นะครับ"
เด็กชายอ้อน เด็กสาวนั้นในใจอยากปฏิเสธ แต่ก็ไม่อาจจะทนสายตาที่กำลังอ้อนของเด็กทั้งสองที่ไร้เดียงสาได้ เพราะฉะนั้น
"ได้จ่ะ งั้นเราสามคนมาเล่นน้ำกัน"
"เย้....เย้"
เด็กสาวรับปาก แล้วพาเด็กน้อยทั้งสองกระโดดลงไปในทะเลสาปและแหวกว่ายกันอย่างสนุกสนาน เด็กน้อยว่ายน้ำเร็วมาก และกำลังว่ายแข็งกับน้องสาวของตั้วเอง โดยที่คุชินะนั้นได้แต่มองอย่างมีความสุขที่ได้เห็นเด็กทั้งสองเล่นกันอย่างสนุกสนาน
หลังจากที่เล่นเสร็จทั้งสามก็มานอนบนพื้นหญ้าหงายหน้ามองดูหมู่ดาวที่แสนสวยงาม บนท้องฟ้ายามรัตติกาล ส่วนเด้กชายนั้นก็หลับอย่างกับลูกแมวน้อย
"ตอนนี้หนูอยากจะบอกคุณว่าคุณปลอดภัยแล้ว" เด็กสาวตัวน้อยพลิกตัวหันมาคุย "ไม่ต้องกังวลอะไรหรอก"
"หมายความว่าไงหรือ" คุชินะถาม
"เพราะหนูช่วยคุณไว้เองหนูเห็นคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายหนูจึงช่วยคุณไว้" เด็กสาวตอบทุกอย่างทำให้คุชินะรู้สึกซาบซึ่งอย่างบอกไม่ถูก ราวกับมีเทวดาตัวน้อยได้เข้ามาปกป้องเธอกับลูกในท้อง
"ขอบใจเธอมากเลยนะที่เธอช่วยฉันไว้ " เด็กสาวเอามือบอบบางมาจับที่ใบหน้าเด็กน้อยอย่างแผวเบา "แต่เธอเป็นใครหรือ"
"หนูเป็นเทพนางไม้ค่ะ หนูอยู่บนสวรรค์มานานตั้ง 1000 ปี แล้ว หนูกำลังหมดอายุขัยมาเกิดเป็นมนุษย์ แล้วปรากฏว่าหนูเห็นคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายเลยทำให้พี่ของหนูและตัวหนูเลยเข้ามาช่วยคุณไว้เพราะพวกหนูรู้ว่าคุณคือคนที่กำลังจะให้กำเนิดพวกเรา หนูอยากมีพ่อมีแม่เหมือนคนอื่นๆบ้างค่ะ" สาวน้อยพูดเสียงใส่ “หนูสองคนจะอยู่กับคุณ คุณจะแข็งแรงขึ้นแน่ แต่อย่าทิ้งพวกหนูไปนะ”
“ทำไมถึงจะอยู่กับฉันแล้วพ่อแม่หนูล่ะ พวกท่านไปไหนหรือ”
เด็กสาวไม่ตอบแต่ยิ้มให้อย่างน่ารัก มือเล็กเลื่อนขึ้นจับใบหน้าของเด็กสาว สัมผัสที่ช่างคุ้นเคยเหมือนกับสัมผัสรักที่เธอลูบท้องขณะเจ้าตัวเล็กอยู่ในนั้น
“แม่คะ หนูรักแม่ รอดูหนูลืมตานะค่ะ”
คำพูดอันแสนไพเราะทำให้ทุกอย่างมืดลง ราวกับภาพนั้นได้หายไปแล้ว หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาและกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบว่าที่นี้คือห้องนอน และเธอก็นอนอยู่บนฟูก แสงแดดจากหน้าต่างสาดส่องเข้ามาภายในห้อง เธอพยายามคิดว่านั้นคงเป็นเพียงแค่ฝันไปเท่านั้น มือบางลูปท้องอย่างแผวเบาราวกับว่าเธอและลูกปลอดภัยแล้ว
"คุชินะ ตื่นแล้วหรือ" เสียงหนึ่งดังขึ้นมาเมื่อเด็กสาวหันไปที่ประตูก็พบกับเด็กหนุ่ม
มินาโตะรีบเข้ามากอดเด็กสาวราวกับจะไม่ให้เราต้องแยกจากกัน
"ฉันนึกว่าเธอจะเป็นอะไรไปแล้วเสียอีก อย่าทิ้งฉันไปเด้ดขาดนะ ฉันผิดเองฉันควรดูแลเธอให้ดีกว่านี้" เด็กหนุ่มกอดเด็กสาวและหลั่งน้ำตาแห่งความยินดีออกมา
"ไม่หรอกฉันไม่มีวันตายหรือจากนายไปหรอก เราสองคนจะครองคู่กันไปตราบชั้วฟ้าดินสลาย" เด็กสาวกอดเด็กหนุ่ม
"จริงสิลูกเราเป็นอย่างไรบ้าง" เด็กหนุ่มไม่รอช้าเอามือมาลูปท้องที่ป่องของเด็กสาว และเอาหูแนบฟังกับท้อง
"นี้ไม่ต้องอะไรขนาดนั้นก็ได้ลูกเราปลอดภัยดี" เด็กสาวพูดเอ็ดพ่อวัยใสที่กำลังเป็นห่วงลูกในท้องอย่างลุกลน
"คุชินะ" เด็กหนุ่มรีบเอาหูที่แนบกับท้องของเด็กสาวออกแล้วได้ขึ้นมามองหน้าสบตากัน "ฉันขอโทษด้วยนะที่ปล่อยเธออยู่ตามลำพัง แต่ต่อไปนี้ฉันจะดูแลเธอกับลูกของเธอเอง ฉันสัญญา "
"ฮือ ...ฮือ มินาโตะนายก็"
คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้เด็กสาวหลังน้ำตาออกมาทั้งสองคนกอดกันอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่ามี ท่านหญิงฮารุกะนั้นยังคงยืนมองอยู่ที่ประตูด้วยความยินดีที่เด็กสาวฟื้นขึ้นมาได้เสียที่ และลูกในท้องของทั้งคู่ก็ปลอดภัยดี (อ้า เรื่องร้าย ๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้วละน่ะ)
**********
ความคิดเห็น