ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Naruto ) Naruto The paradise of Atlantis ผจนภัยดินแดนแอตเลนติส

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 ความรักที่ทำให้ไม่สิ้นหวัง

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 63







    เช้าวันต่อมา

         วันนี้เป็นเช้าวันใหม่ที่ดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในถ้ำแสงแดดอ่อนส่องมากระทบหน้าเด็กทั้งสองที่ยังคงนอนหลับอย่างสบาย เหล่าบรรดานกนานาชนิดและสัตว์
    ต่าง ๆ ต่างพากันออกมาหาอาหาร

    "อืม เช้าแล้วหรือ" เด็กสาวผมยาวสีแดงตื่นขึ้นมาจากนินทราพร้อมกับขยี้ตา

    "อืม" มินาโตะตืนขึ้นมาถึงแม้ยังอยากจะนอนต่อก็ตามเถอะ

    "เมื่อคืนเป็นไงบ้างนายหลับฝันดีไหม" เด็กสาวถามขณะลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัว

    "ก็หลับฝันดีเหมือนกัน แล้วเธอละเป็นอย่างไรบ้าง" มินาโตะถามกลับมาขณะที่ลุกขึ้น

    "ก็ฝันปกติไม่เห็นมีอะไรเลยและอีกอย่าง ฉันยังคังคาใจกับสิ่งที่เราเจอเหมือนกัน แต่ว่านายไปอาบน้ำก่อนเถอะแล้ววันนี้เราจะไปหลังถ้ำกัน"

         เด็กสาวเดินไปข้างหลังหินแล้ว ถอดเสื้อผ้าทุกอย่างออกหมดแล้วนำผ้าเช็ดตัวมาหอตัวที่เปลือยเปร่าไว้ แล้วก้าวเดินไปอาบน้ำที่สระในถ้ำมินาโตะก็ไม่รอช้า เดินออกไปอาบน้ำที่ทะเลสาปนอกถ้ำ

         หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วทั้งสองนั่งกินข้าวจากอาหารกระป๋อง แบบเดิมเหมือนที่พวกเขากิน เมื่อกินเสด็จแล้วทั้งสองคนก็เดินไปที่สวนศิลาซากุระ เมื่อมาถึงก็พบว่าที่นี้กลับวางเปร่าไม่มีอะไรเลยไม่พบร่องลอยใด
    ๆ ของนางไม้และพรายน้ำ ที่พวกเขาเจอเมื่อคืน

    "เจออะไรบ้าง" เด็กหนุ่มร้องถาม ขณะที่เขากำลังเดินไปตามต้นไม้และรอบ
    ๆ สระกับน้ำตก

    "ไม่เห็นมีอะไรเลย" เด็กสาวตอบกลับไปขณะที่เดินสำรวจอยู่รอบ 
    ๆ สวน

    ตอนนี้ทั้งสองไม่พบอะไรเลยสิ่งเดียวที่คิดได้อย่างเดียว คือพวกเขาคงเป็นบ้าไปแล้ว

    "ส่งสัยเมื่อคืนพวกเราคงฝันไปเองมัง" มินาโตะเกาหัวอย่างรู้สึกเสียหน้า

    "ใช้ฉันก็คิดแบบเดียวกับนายเหมือนกันส่งสัยเราคงจะเหนื่อยจนคิดอะไรเพี้ยนแล้วละ"

    คุชินะแทบจะเป็นแบบเดียวกับมินาโตะเหมือนกัน

    "เอะ นั้นมันเจ้าหมาน้อยพวกนั้นนี้" เด็กสาวรีบชี้ไปที่ฝั่งตรงข้ามของสระก็พบกับเหล่าบรรดาฝูงหมาน้อยตัวสีขาวกำลังออกหาอาหารกินโดยเฉพาะ กระต่ายและหนู

    ทั้งสองไม่รอช้ารีบเดินข้ามสระไปด้วยวิชานินจา เมื่อเข้ามาถึง

    ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ

    เหล่าหมาน้อยต่างพากันรีบวิ่งหนีไปซ่อนอยู่หลังพุ่งไม้แทบไม่ทัน

    "อย่าพึงไป ฉันไม่ได้มาทำร้ายพวกเธอนะ อ่อจริงสิ"

         คุชินะหยิบเนื้อปราแซวมอนออกมาจากกระเป๋า เธอคุกเข่าและยื่นเนื้อปลาแซวมอนไปให้เจ้าหมาน้อยที่ซ่อนอยู่หลังฟุ่มไม้

    "มามา มากินปลาแซวมอนของฉันสิ" เด็กสาวใช้คำพูดอ่อนหวาน

         เจ้าหมาน้อยตัวที่ซ่อนอยู่ ค่อย
    ๆ ก้าวเดินออกมามันค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างระวังราวกับมันกลัวคนแปลกหน้า เมื่อมันก้าวมาถึงมือเด็กสาวแล้ว มันดมชิ้นเนื้อปลานั้นอย่างพิจารณา มันอาปากเล็ก  ๆ ของมันขาบชิ้นปลาแซวมอนจากมือของเด็กสาว แล้วมันก็กินปลาอย่างอร่อย

    "เป็นไงอร่อยไหม" เด็กสาวยิ้มให้กับเจ้าหมาน้อยโดยมีเด็กหนุ่มอยู่ข้าง
    ๆ เจ้าหมาตัวนั้นเมื่อกินเสด็จมันก็เข้ามาใกล้และกระโดดเข้าหาอย่างเป็นมิตร

    "ฮ่า ฮ่า น่ารักจริงเลย" คุชินะหัวเราะขณะที่เจ้ามาน้อยเลียเธอไปมาและกระกิดหาง "รองอุ่มดูสิมินาโตะ มันน่ารักนะ"

    "เอ่อ คือ" เด็กหนุ่มรังเลใจที่จะอ่มเจ้าหมานี้

    "น่า นะ อุ่มหน่อยเถอะ" เด็กสาวยื่นหมาน้อยเข้ามาใกล้

    แห่ แห่ แห่ ปุ ปุ ปุ

    หมาน้อยกระดิกหางไปมาราวกับต้องการความสนใจ เด็กหนุ่มรู้สึกรังเลอย่างมากที่จะอุ่มเจ้าปุบปุยตัวน้อยนี้

    เด็กหนุ่มยื่นมือมาสัมผัสอุ่มเจ้าหมาน้อยมาอยู่ในมือ เจ้ามาน้อยตัวนั้นเริ่มเลียมินาโตะอย่างสนุกสนาน

    "ฮ่า ฮ่าจักจี้ นะ ฮ่า" เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างสนุกสนานขณะเล่นกับหมาน้อย จากนั้นเขาก็ได้วางเจ้าหมาน้อยลงกับพื้น มันวิ่งกลับไปรวมกับฝูงของมันในพุ่มไม้

    "พวกมันดูน่ารักดีนะ" คุชินะพูด "ดูแล้วไม่คอยเป็นอันตรายเท่าไหล่"

    "ใช้พวกมันเป็นมิตร ดีแล้วที่เราไม่เจอไอ้เจ้าสุนัขป่าโลกันต์นั้น" มินาโตะยังคงนึกสยองกับเจ้าหมาป่ายักษ์ที่เคยเจอตอนไปสำรวจวิหาร

    "งั้นพวกเราออกไปหาอาหารกันดีกว่าไหม" คุชินะแนะขึ้นมาทันที่ ใช้แล้วนี้เป็นเวลาต้องออกหาอาหารแล้ว

    "งั้นเราก็ไปกันเถอะเพื่อเราจะได้ไปสำรวจโบราณสถานนั้นด้วย" มินาโตะเก็บดาบและเตรียมเดินกลับเข้าถ้ำ "มาเร็วเขาเราต้องออกสำรวจต่อ"

         เด็กหนุ่มหันมาเรียกเด็กสาวทั้งสองเดินออกจากสวนศิลาซากุระ และเข้าไปในถ้ำทั้งคู่ต่างจัดข้าวของใหม่ในการออกหาอาหารและเดินทางครั้งต่อไป   หลังจากที่เตรียมเสบียงใส่กระเป๋าสำลองเรียบร้อยทั้งคู่ก็ออกเดินทางจากถ้ำมุ่งหน้าไปหาอาหารและผลไม้ในการ

    "วันนี้เราจะไปหาน้ำผึ่งกัน" 

    "น้ำผึ่งเหรอ ฉันก็อยากลองกินเหมือนกันแต่เราจะเอาน้ำผึ่งมาอย่างไรเล่า" 

         เด็กสาว ถามเด็กหนุ่มคณะที่ทั้งสองเดินไปตามป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ 

    "ง่ายจะตายไปฉันเคยเรียนวิชานี้จาก อ.จิไรยะมาแล้ว ฉันรู้วิธี " เด็กหนุ้มเดินนำหน้าไปไม่กี่ก้าว

    "แล้วเราจะอำอย่างไรละ" เด็กสาวถามกลับ

    "ก็ นั้นไงรังผึ้ง " เด้กหนุ่มชี้ไปข้างหน้าก็พบกับรั้งผึ้งขนาดใหญ่บนต้นไม้แห่งหนึ่ง รั้งของมันมีขนาดที่ใหญ่และไม่เคยพบเจอในที่ไหนมาก่อนเลย

    "โอเควิธีแรก" เด็กหนุ่มหันมาหาเด็กสาว "เล่าต้องลมควันมัน ซึ่งจะไล่มันไปได้ ต้องใช้กาบมะพร้าว "

    "แผนดีนี้แล้วเราจะไปเอามาจากไหนละ"

    "ฉันเตรียมไว้แล้ว" เด็กหนุ่มหยิบถุงใบใหญ่ออกมาจากกระเป๋า คุชินะแถบไม่เชื้อสายตาตัวเอง ว่ามินาโตะจะพกของพันนี้มาด้วย

    "งั้นมาเริ่มกันเลย เริ่มแรกเราส่ง ร่างแยกของเราไปให้ใกล้ต้นที่มีผึ่ง จากนั้นก็วางกาบมะพร้าวลงบนพื้นและจุดไฟ "
     เด็กหนุ่มอธิบายวิธีการไล่ผึ่งให้เด็กสาวผมแดงที่ตั้งอกตั้งใจฝั่ง 

         เมื่อพูดเสร็จแล้วเด็กหนุ่มก็ใช้ร่างแยก นำถุงกาบมะพร้าวไปที่ใกล้ต้นไม้ที่ใหล้รั้งผึ้ง แล้วก็เทกาบมะพร้าวออกมา 

    "คาถาไฟ"

        เด็กหนุ่มประสานอินจนสามารถจุดไฟที่กาบมะพร้าวได้ เขาค่อยใช้ทำให้ควันมันเริ่มควันโคมงขึ้นมาตอนนี้เริ่มมีควันมากขึ้นแล้ว เหล่าผึ้งบนรั้งเมื่อมันได้สูดดมควันเข้าไปต่างบินออกมาจากรั้งเป็นฝูงใหญ่มหาศาลมันบินว่อนไปทั้วป่า แต่โชคดีสำหรับเด็กทั้งสองคนที่แอบซ่อนอยู่อีกที่หนึ่งของป่าโดยปล่อยให้ร่างแยกจัดการทั้งหมดเพียงคนเดียว เมื่อฝูงผึ้งไปหมดแล้ว คุชินะ กับมินาโตะ ก็กระโดขึ้นต้นไม้แล้วช่วยกันตัดรั้งผึ่งโดยตัดมาเพียงครึ่งหนึ่งโดยเหลือรั้งอีกครึ่งเอสไว้เพราะพวกผึ้งจะได้กลับมาทำรั้งใหม่ แล้วจะได้มาเก็บน้ำผึ้งได้ตลอดเวลา

     "ต่อไปก็เอา รั้งผึ้งมาบีบให้น้ำผึ้งไหล่ออกมา โดยใส่น้ำผึ่งลงมาในกระติกน้ำนี้" มินาโตะเริ่มบีบรั้งผึ้ง ทำให้น้ำผึ้งไหลสีเหลืองอหล่ามเยิ่มออกมาแล้วมาลงที่ในกระติกน้ำ

    เด็กสาวเอานิ้วมาจิ้มลงบนสายน้ำผึ้งแล้ว นำมาชิ้ม "อืม รสหวานดีนี้ รองชิมดูสิ"

    เด็กสาวเอามืออ่อนบางที่เปื่อนน้ำผึ้งให้เด้กหนุ่มชิมเด็กหนุ่มดูดนิวมืออับบอบบางของเด็กสาว

     "จริงด้วยหวานดีนี้แปลว่าน้ำผึ้งนี้มีคุณภาพมาก" มินาโตะชม 

    หลังจากที่น้ำผึ่งมาเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็ได้ ไปเก็บผลไม้ตามต้นต่างๆ โดยสังเกตุจากพวกนกและลิงที่กินผลไม้

    "อีกนิดเดียวเอง" เด็กสาวเอื้อมมือหมายจะยื่นไปหยิบผลไม้ลูกนั้น ขณะที่เธอยื่นอยู่กิ่งไม้ 

    "ได้แล้ว กรี๊ด!!"

         เด็กสาวไม่ทันระวังตัวลื่นไถลลงมาจากกิ่งไม้แล้วตกลงมา แต่โชคดีเด็กหนุ่มรีบเข้ามารับได้ทันทำให้รางบางหลนลงมายังอ้อมแขนของเด็กหนุ่มที่รองรับเธอไว้ 

    "ไม่เป็นไรแล้วนะ" เด็กหนุ่มยิ้มให้เด็กสาว "คราวหน้าระวังด้วยละ"

    "ขอบใจที่ช่วยคราวหน้าฉันจะระวังให้ดีกว่านี้" 

         เด็กสาวลงมาจากแขนของเด็กหนุ่มด้วยความเขินอายแล้วช่วยกันนำผลไม้ใส่กระเป๋า ทั้งคู่เดินออกจากป่าก็พบกับแม่น้ำที่ใส่แจ่ว ในน้ำนั้นมัปลาแหวกว่ายอยู่มากมายนับไม่ถ้วน

       "เราข้ามแม่น้ำก่อนกันเถอะ" 

         ทั้งสองเดินข้ามแม่น้ำมาได้ซักพัก และข้ามผ่านป่าที่หน้าทึบ และมืดครึม จนกระทั้งได้มาเจอกับซากประตูซุ่มโค้งที่ถูกทิ้งอยู่กลางป่า

     "ฉันอยากรู้จริงว่าใครเป็นคนสร้างที่นี้กันแน่ " มินาโตะเอามือสัมผัสซากประตูที่ผุพังนี้ และพยายามนึกถึงการผจนภัยที่พวกเขาทั้งสองไปเจอเมืองโบราณและวิหารลึกลับ ในกลางป่า

    "ฉันว่ามันคงเป็นสิ่งที่คนในสมัยก่อนบนเกาะแห่งนี้ทิ้งเอาไว้ให้ละมั้ง" คุชินะพูดขณะกำลังดูซุ่มประตูนี้

    แฮ่ แฮ่ แฮ่

         
         เสียงขู่ฟ่อดังมาจากข้างหลังเมื่อทั้งสองหันกลับไปก็พบกับ หมาป่าตัวใหญ่ยักษ์ขนดกดำ หนึ่งตัวกำลังแยกเขี้ยวขู่ใส่พวกเขา

    "มาหลบหลังฉัน" เด็กหนุ่มรีบดึงเด็กสาวให้มาหลบอยู่ข้างหลังแล้วชักคุไนออกมา เพราะดาบของมินาโตะไม่มีฝักทำให้ต้องทิ้งดาบไว้ในถ้ำ เจ้าหมาป่านั้นยังคงจองมองพวกเขาอย่างไม่กระพิบตา เสียงลมหายใจอันบ้าครั้งของมันทำให้เด็กที่สองรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที่

    "เตรียมตัวให้พร้อม" มินาโตะกระซิบให้คุชินะเตรียมตัวรับมือการต่อสู่ ที่จะเกิดขึ้น

    แฮ่!!
         
         เจ้าหมาป่าพุ่งใสเด็กทั้งสองอย่างฉับพลันทำให้ทั้งสองต้องกระโดดหลบไปคนละทิศคนละทางอย่างไม่ทันตั้งตัวเตรียมพร้อม

    "คุชินะหลบไปก่อนทางนี้ฉันจัดการเอง " มินาโตะตะโกนกลับมาขณะที่กำลังจะใช้คาถาแยกร่าง

    " ฉันช่วยนายเองไม่ต้องห่วง" เด็กสาวใช้คาถาแยกร่างพุ่งเข้าจู่โจมหมาป่ายักษ์อย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วของนินจาทำให้หมาป่ายักษ์สับสนและก็ถูกคุไนเชือดเข้าที่ขาของมัน จนมันร้องโหยห่วน และไล่ตะปบอย่างบ้าคลัง

    "มินาโตะตอนนี้แหละ" เด็กสาวตะโกนเรียก เด็กหนุ่มที่อยู่บนต้นไม้

    "พร้อมแล้วกระสุนวงจักร " เด็กหนุมใช้ร่างแยกปั่นกระสุนวงจักรสีฟ้าขึ้นมา ในมือ แล้วก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าใสหมาป่า แต่ทว่า

    ฉัวะ !!

    อ้ากกกกกกกกกกกกกก!!

          ขณะที่เด็กหนุ่มใกล้จะถึงตัวหมาป่า แต่เจ้าหมาป่านั้นมันก็ตวัดกรงเล็บอันแหลมคมเข้าใส่ร่างของเด็กหนุ่มบริเวณหน้าอกอย่างรวดเร็ว จนเลือดไหล่ทะลักออกมา

    "มินาโตะไม่ไม่ๆๆๆ" คุชินะกรี๊ดร้องแทบสิ้นสติเมื่อร่างของเด็กหนุ่มนอนแน่หนึ่งอยู่บนพื้นโดยมีเจ้าหมาเตรียมเข้าขย้ำ

    "ฉันไม่ยอมให้แก่ได้ฆ่าเพื่อนรักของฉันหรอก" 

         เด็กสาวรีบทำมือประสานอินทำให้เกิดโซ่สีทองขนาดใหญ่ 8 เส้นออกมาจากหลัง มันได้เข้ามารัดหมาป่ายักษ์แล้วมันก็ยกร่างของมันขึ้นอยู่เหนือพื้น เจ้าหมาป่ายังคงดิ้นอย่างบ้าคลังเพื่อที่จะหลุดให้ได้แต่ไหมเป็นผล โซ่นั้นยังคงรัดแน่นมากกว่าเดิม

    "นี้สำหรับมินาโตะ"

    ฉับพลันโซ่นั้นก็รัดเจ้าหมาป่าตัวนั้นจนกระดูกหักหลายท่อนแล้วมันก็สิ้นใจตายไปในทันที่ โซ่ที่เคยรัดร่างหมาป่าก็หายไปทันที่ ทำให้ร่างของมันตกสู่พื้นอย่างรวดเร็ว 

    "มินาโตะ ทำใจดีๆเอาไว้นะอย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะ" เด็กสาวรีบเข้าไปดูอาการของเพื่อนหนุ่ม ของเธอซึ่งตอนนี้อยู่ในอาการหมดสติและลมหายใจริบหลี่อย่างแผวเบา เลือดจากบานแผลยังคงไหล่ออกมาไม่อหยุด

    "ทำใจดีดี ไว้ อย่างพึงเป็นอะไรไปนะแข็งใจเอาไว้ แข็งใจเอาไว้" เด็กสาวพยายามกดห้ามเลือดเอาไว้แต่ดูจะไม่เป็นผล และบนเกาะแห่งนี้ก็ไม่มีโรงพยาบาลหรือคนที่จะช่วยเหลืออะไรได้ ร่างของเด็กหนุ่มอยู่ในการแย่ลงอย่างมาก


         ตอนนี้คุชินะรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก จนไม่อาจะจะทำอะไรได้ 

    "นางไม้" เด็กสาวเกิดคิดได้ขึ้นมาทันที่ ว่าหลังถ้ำนั้นมีพวกนางไม้กับพรายน้ำอยู่ พวกเธอน่าจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง

         ไม่รอช้า เด็กสาวรีบอุ่มเด็กหนุ่มด้วยการเอามือของเด็กหนุ่มมาพาดไว้บนไหล่แล้วก็รีบกระโดด ออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

    "อย่าเป็นอะไรไปนะมินาโตะ นายจะต้องรอด นายจะต้องรอดฉันจะช่วยนายเอง" เด็กสาวกระโดดไปตามกิ่งไม้โดยแบกร่างของเด็กหนุ่มที่แทบไม่ได้สติ พร้อมกับเลือดที่ทะลักไหล่ออกมาอย่างไม่หยุด (ขออย่างเดียวเถอะอย่าเป็นอะไรไปมากกว่านี้เลย)

    ***

         ตอนนี้เป็นเวลาที่มืดมากแล้วแสงจันทร์ลอยเด่นส่งาอยู่เหนือฟากฟ้า  สาวรีบพาร่างที่บาดเจ็บไปที่สวนศิลาซากุระ ทันที่ ตอนนี้พวกนางไม้และพรายน้ำต่างออกมาเล่นสนุกสนานเหมือนที่พวกนางเคยทำกัน จนกระทั้ง

    "ช่วยด้วยค่ะ เพื่อนของหนูบาดเจ็บ" เด็กสาวตะโดนเรียกทำให้เหล่านางไม้และพรายน้ำหันมายังเด็กสาวทันที่ เด็กสาวหิ้มร่างของเด็กหนุ่มเข้าไปใกล้ๆพวกนาง และวางร่างของเด็กหนุ่มที่ใหล้ตายลงข้างขอบสระ

    "ช่วยเพื่อนหนูที่ เขาบาดเจ็บขอร้องละนะคะ ช่วยด้วยเถอะ" เด็กสาวร้องอ่อนว่อน และน้ำตาก็ไหล่ลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง

         จนกระทั้ง มีนางไม้อยู่ตนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มแล้วก้าวเดินมาบนน้ำ จนมาถึงร่างของเด็กหนุ่ม นางไม้ผู้นี้ได้วางมืออันบริสุทธิสวยงามและบอบบางลงบนบาดแผลขนาดใหญ่บนหน้าอกของเด็กหนุ่ม 

         เกิดแสงสว่างสีฟ้าขึ้นมาบนร่างของเด็กหนุ่ม และเมื่อเธอนำมือนั้นออกมาจากร่างของเด้กหนุ่มแผลนั้นก็ได้หายไปแล้ว 

    "อืม "

    เด็กหนุ่มเริ่มขยับกายและค่อยลืมตาขึ้นมา ก็พบกับใบหน้าอันงดงามของหญิงผู้หนึ่งกับใบหน้าของเด็กสาวที่กำลังเป็นห่วง อย่างเอาเป็นเอาตาย

    "มินาโตะนายฟื้นแล้ว" เด็กสาวรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

    "คุชินะ ฉัน"

    ไม่ทันไรเด็กสาวโผเข้ากอดเด็กหนุ่มราวกับจะไม่แยกจากกัน เด็กหนุ่มเอาแขนทั้งสองข้างโอบกอดเด็กสาวอย่างแน่น

    "นายอย่าทิ้งฉันไปเป็นอันขาดฉันไม่ยอมแน่นอน" เด็กสาวพูดและหลังน้ำตาออกมา

    "ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก หากไม่มีฉันแล้วเธอจะอยู่อย่างไรเหล่า" 

    หลังจากที่กอดกันนานทั้งสองก็ผละจากกัน มินาโตะลุกขึ้นมาโดยมีคุชินะคอยพยุ่ง

    "ขอบคุณมากนะครับที่คุณช่วยผมไว้" มินาโตะและคุชินะโค้งคำนับนางไม้ตนนั้นนางไม้จนนั้นส่งยิ้มให้ลแล้วเดินกลับไปรวมกลุ่ม กับเหล่านางไม้และพรายน้ำ

    "เราไปที่ทะเลสาปหน้าถ้ำของเรากันดีกว่า" คุชินะกระซิบ ข้างหู และทั้งสองก็เดินออกไปจากสวนศิลาซากุระโดยปล่อยให้เหล่าบรรดานางไม้และพรายน้ำเล่นสนุกกันเหมือนเดิม

    ณ ทะเลสาปนอกถ้ำ

         ทั้งคู่นั้งชิดติดกันอยู่รอบกองไฟในยามค่ำคืนอันแสนหนาวเน็บ เด็กสาวเอนคอมาซบไหล่ของเด็กหนุ่ม อย่างนุ่มนวน

    "วันนี้เราเจออะไรร้าย
    ๆ มาเยอะแล้วนะ" คุชินะพูด "ฉันคิดว่านายเกือบจะไปแล้วเหมือนกันซะอีก"

    "ฉันไม่ตายยากขนาดนั้นหรอก อีกอย่างฉันก็ขอขอบใจเธอด้วยนะที่เธอพาฉันมารักษาตัวได้ทั่นเวลาพอดี"

         ทั้งสองหลับพักสายตาอย่างสงบข้างกองไฟไปได้ 5 นาที นึกถึงเรื่องราวต่าง
    ๆ ที่เคยประสบพบเจอกันมาและรวมทุกข์รวมสุคมาด้วยกัน

    "จริงสิคุชินะฉันมีเรื่องจะสารภาพ" มินาโตะพูดขึ้นมาทันที่ทำให้เด็กสาวที่ฟุบอยู่ข้างไหล่ ตื่นเงยหน้าขึ้นมาทันที่

    "อะไรหรือมินาโตะคุง" เด็กสาวผมแดงถามขึ้นมาทันที่

         เด็กหนุ่มเอามือทั้งสองมาจับที่หัวไหล่สองข้างของเด็กสาว ตอนนี้หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงอย่างผิดปกติจนบอกไม่ถูกราวกับว่าเด้กหนุ่มอันเป็นที่รักกำลังจะบอกอะไรบ้างอย่างออกมา

    "ฉันรักเธอ " เด็กหนุ่มสารภาพออกมาจนทำให้เด็กสาวหน้าแดงอย่างเขินอาย จนบอกไม่ถูก

    "ฉันก็รักนายเหมือนกันมินาโตะคุง" คุชินะออกมายิ้มนิดหน่อย

         ทั้งคู่ค่อย
    ๆ ประกบจูบอย่างแผวเบา และดูดดำความหอมหวานอย่างสนุกสนาน เด็กสาวพละจากชายหนุ่มก่อนจะเดินไปที่ทะเลสาป

    "จะทำอะไรหรือ คุชินะ"

         เด็กหนุมถามแต่เด็กสาวไม่ตอบ ไม่ทันไรคุชินะก็เริ่มถอดเสื้อผ้าและกางเกงออกมา และค่อย ๆ ปลดกางเกงในและยกทรง ออกมาจนหมดเผยให้เห็นผิวกายที่ขาวสะอาด แสงจันทราจากฝากฟ้าสาดส่องลงมาที่ร่างของเด็กสาวทำให้เธอดูมีความเปล่งประกาย เธอสยายผมสีแดงที่ยาวถึงก้น ไปกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน

         มินาโตะถึงกับ หน้งแดงและอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะนึกไม่ถึงว่าเธอจะกล้าทำอะไรเยี่ยงนี้ได้

    "เป็นอะไรไปละ " เด็กสาวหันมาถามเด็กหนุ่มที่กำลังหน้าแดงแป้ดด้วยความอาย

    "เอ่อไม่มีอะไรแต่เธอไม่อายบ้างหรือที่เธอเปลือยกายแบบนี้" เด็กหนุ่มถามอย่างเขิน


    "มาสิมินาโตะคุง เรามาเล่นน้ำด้วยกันเถอะ" เด็กสาวชวนพร้อมยื่นมือบอบบางแสนนุ่มนวนมาที่มินาโตะ

         เด็กหนุ่มรู้สึดเขินอายและไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ทันไรเด็กหนุ่มก็ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วเดินมาจับมือของเด็กสาว

    "ไปกันเถอะ"

         ไม่ทันไรทั้งคู่ก็เดินลงไปในทะเลสาปที่ส่องแสงสะท้อนจากดวงจันทร์ ทั้งสองแวกว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน และดำน้ำ  เล่นกันโดยมีแสงจากจันทราคอยส่องลงมายังผิวน้ำ ความสนุกสนานของทั้งสองช่างเป็นความสุขที่ไม่อาจหาอะไรมาเทียบได้



         จันทราบน นภาสาดส่องลงมายังเรือนร่างที่ไร้สิ่งนุ่งหมปิดบังเรือนร่างของทั้งสอง ที่นอนพักร่างกายจากความสนุกสนานจาการเล่นน้ำ กันมาและทั้งสองได้มองขึ้นไปบนฟ้ามองดาวดวงต่าง ๆ ที่ประดับอยู่บนฟ้า

    "นั้นดาวลูกไก่ สวยไหมละ" เด็กหนุ่มชี้ไปยังหมู่ดาวลูกไก่

    "สวยดีเหมือนกันนั้น ดาวปลาโลมา" เด็กสาวที่ชี้ไปที่รูปหมู่ดาวปลาโลมา ทำให้เด้กหนุ่มขำออกมาอย่างสนุก

    "นั้นดาวรูปหัวใจ" ทั้งคู่ประสานเสียงและชี้ไปยังหมู่ดาวรูปหัวใจ จนทั้งสองรู้สึกเขินอายขึ้นมาที่พูดพร้อมกัน

    "ดาวนั้นเป็นสัญลักษณัแห่งความรัก"

    "ใช้ฉันเคยได้ยินมาว่ามันจะปรากฎก่อต่อเมื่อคนสองคนมีความรักต่อกัน " เสียงหวานของเด็กสาวอธิบายพรางมองไปยังหมู่ดาวรูปหัวใจ

    "และมันก็ได้ปรากฎอยู่ต่อหน้าพวกเราแล้ว "

               เด็กหนุ่มและเด็กสาวผู้บอบบางหันหน้าสบตากัน มือบางของทั้งสองสานสัมผัสกัน เด็กหนุ่มผลิกกาย ขึ้นมาบนร่างบางของเด็กสาวอย่างรวดเร็ว ผิวกายของทั้งสองสัมผัสเสียดสีกัน ลมหายใจแผวเบาและอบอุ่น มือหนาของเด็กหนุ่มกับมือบางของเด็กสาวสัมผัสที่ใบหน้าของทั้งสอง ดวงตาของทั้งสบตาใกล้กันราวกับดวงอาทิทย์และพระจันทร์อยู่เคียงข้างกัน

         "ฉันรักเธอ คุชินะดวงใจของฉันนี้ขอมอบให้เธอ"

         "ฉันรักนายเหมือนกันมินาโตะ ดวงใจของฉันขอมอบให้นายเหมือนกัน เราจะรักกันตราบชั่วนิรันดร์"

         คำบอกรักอันแสนหวาจะตราตรึงอยู่ในหัวใจสองเรานี้ไปตลอดการตราบชัวฟ้าดินสลาย

         แต่อนิจาเรายังเด็กยังเล็กอยู่นักเราไม่ควรสรรสร้างความรักในแบบนี้แต่สัญชาติญานในตัวนั้นย่อมอยู่เหนือเหตุผล ความต้องการของเราทั้งคู่นั้นช่างรุนแรงราวกับไฟที่แผดเผาอยู่ในร่างกายยิ่งนัก รีบฝีปากของทั้งสองค่อย
    ๆ ประกบจูบอันแสนหอมหวานสองกายกอดรัดกันราวกับคู่ชีวิตที่จะไม่แยกจากกัน ความอ่อนหวานละมุมเริ่มร้อนแรงกายเป็นไฟแห่งกามารมณ์ราวกับว่ามันกำลังแผดเผากายของสองคู่รัก ฝ่ามือทั้งสองยามลูบไล้ผิวเนียนละเอียดร้อนผ่าวดั้งใครเป็นผู้จุดพระเพลิงให้ลุกไหม้

        
    สาวน้อยผู้บอบบางบิดเกร็งเมื่อความเป็นชายของเด็กหนุ่มได้สอดแทรกเข้ามาภายในเรื่อนร่าง สัมผัสฝืดเคืองแทรกผ่านความอบอุ่นเชื่องช้าราวกับว่า เด็กหนุ่มพยายามทะนุทะนอมเรื่อนรางที่บอบบางนี้ไว้สุดความสามารถ เด็กหนุ่มดูดดึงลำคอขาวเนียน

    "ใจเย็น ไว้อย่าเกร็งสิแก้วตาของพี่"

         เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบริมใบหู ก่อนไล้เลียมันเพื่อปลุกไฟปรารถนาให้ลุกโชนกว่าเดิม ตาคมจ้องมองเสี้ยวหน้าหวานล้ำที่ทรงอิทธิพลต่อหัวใจแดงซ่าน ดวงตาฉ่ำน้ำตาสะท้อนภาพของเขาที่เคลื่อนไหวกายอย่างหนักหน่วง เนื้อตัวของทั้งคู่ต่างชุมไปด้วยเหงือเม็ดใหญ่ที่พุดขึ้นรอบ
    ๆ กายของทั้งคู่


    "มินา.....โตะ.....อ๊า.....อ๊า.....อ๊า....ชะ...ช้าหน่อย อ๊า"

         เสียงสวรรค์วิมารดังไปทั้วปฐพีเมื่อสัดส่วนโอฬารแหวกผ่านปราการเข้าแตะจุดลึกลับที่สุดในร่างบอบบางโดยไม่ออมแรง เข้าบดขยี้มันราวกับจะสังหารเธอให้ตายในอ้อมกอดแสนรัญจวน


    "อ๊า.....อ๊า.....อ๊า......อ๊า.....อ๊า แน่นมาก!!.....อ๊าาาาาาาาาาา"

         ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงสรวงสวรรค์ เมื่อ
    ร่างกายของหนุ่มน้อย
    กระแทกกายครั้งสุดท้ายปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตลงในช่องบริสุทธิ์ เสียงหอบจากการพาขึ้นสวรรค์นั้นมันช่างเป็นความสุขที่สูงที่สุดราวกับไม่เคยผ่านพบมาก่อนในชีวิตของเด็กทั้งคู่ ทั้งสองประกบจูบกันอีกครั้งอันเป็นการสิ้นสุดการบรรเลง และหลับไหลลงใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมายังเรื่อนร่างของเด็กทั้งสองที่ความอ่อนเพรียได้เข้าครอบงำ เฝ่ารอแสงจากวันพรุ่งนี้ที่จะโผล่ขึ้นมาทักทายทั้งคู่อีกครั้ง




    ********



    จบไปแล้วนะครับผม คงฟินกับฉากนี้นะครับผู้อ่านทั้งหลาย




















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×