ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Naruto ) Naruto The paradise of Atlantis ผจนภัยดินแดนแอตเลนติส

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 สร้างที่พัก

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 63


    ยามเช้าของวันใหม่

         ตอนนี้แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังพื้นทรายสีขาว เหล่านกนางนวลต่างบินออกหาอาหารยามเช้า ตอนนี้เด็กสาวตื่นขึ้นมาจากนิทรา ข้างกายเธอนั้นเด็กหนุ่มได้หายไปแล้วแต่เธอก็รู้ดีว่าเด็กหนุ่มนั้นออกไปข้างนอกเพื่อหาอาหารและสำรวจ

     "ห่าว วันนี้รู้สึกดีจริง" เด็กสาวผมแดงออกมาจากถังไม่และยืดเส้นยืดสายอย่างเป็นกิจวัตร

    "เอ่อฉันก็ว่าอย่างนั้น มานี้มากิน ปลากระป๋องก่อนเถอะ เราต้องเตรียมออกเดินทางอีกไกล" มินาโตะ เรียกคุชินะให้มากินข้าวที่เตรียมเอาไว้แล้วอาหารยามเช้าเป็นอาหารกระป๋องที่พกติดตัวมา

         เด็กสาวไม่รอช้าเดินมานั้งรอบกองไฟที่มินาโตะก่อแล้วหยิบปลากระป๋องที่มินาโตะส่งให้มาจากนั้นก็ใช้ช้อนตักเขาปากไป 

          (รสชาติแบบนี้ฉันจะไม่มีวันกินเป็นอันขาดต่อให้อยู่ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิตก็ตาม อ่อย ฉันอยากจะกินราเมงจริงๆใจจะขาดอยู่แล้ว) คุชินะพูดในใจพร้อมกับตักปลากระป๋องเข้าปากใช้ ซึ่งสำหรับเธอแล้วมันคืออาหารที่ชาตินี้ไม่ขอแตะต้องเป็นอันขาด แต่ในชีวิตแต่สถาการณ์แบบนี้จะเลือกกินไม่ได้

    "เช้านี้นายไปสำรวจอะไรบ้างหรือยัง" คุชินะถามขึ้นพรางตักปลากระป๋องเข้าปาก

    "ก็ เช้านี้ฉันก็ออกไปสำรวจไม่ไกลเท่าไหล่หรอกแต่ที่แน่ๆ ฉันเจอแม่น้ำ ลำธารแล้วก็สัตว์ป่าที่มีลักษณะที่แปลกพิศดาร ซึ่งไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต " มินาโตะพูด และกระดกน้ำจากกระติต

    "แล้วที่นายเจอมีอะไรบ้างหรือ" เด็กสาวผมแดงถามเด็กหนุ่มทำให้เด็กหนุ่มถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ

    "ก็ สัตว์ที่ฉันเจอมี ตั้งแต่เอ่อ เสื่อเขียวดาบซึ่งสามารถพรางตัวได้และมีขนาดเท่าม้า นกยักษ์ที่บินไม่ได้แต่สามารถวิ่งได้เร็ว กวางที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าม้าและมีเขาที่สวยงาม และก็ยังมีม้าป่าที่ตัวใหญ่กว่าม้าทั่วไปที่เราเคยเจอ " 

         มินาโตะได้เล่าสิ่งต่างๆที่ได้ไปเจอมาในตอนเช้า นั้นทำให้คุชินะนั้นเริ่มคิดหนักเพราะเกาะแห่งนี้ดูจะสวยงามและมีธรรมชาติแปลกๆ แต่ก็มีสัตว์ที่มีพิษมีภัยที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนแม้จะยังเคยพบเห็นตามสวนสัตว์หรือไม่ก็ในป่าใหญ่ในสมัยที่ยังอยู่บนแผ่นดินใหญ่ก่อนที่จะมาติดเกาะแห่งนี้

    "งั้นเราคงต้องระวังตัวมากขึ้นแล้วละ "

    "ใช้เราต้องระวังตัวให้มากขึ้น ไม่งั้นเราอาจตกเป็นอาหารโอชะของสัตว์ป่าแน่นอน" แค่พูดฉันก็เสียวสั่นหลังแล้วตกเป็นอาหารสัตว์ป่า แม่หญิงผมแดงอย่างฉันไม่ยอมให้สัตว์ป่ากินหรอก

    "ฉันว่าเรารีบกิน ให้เสร็จแล้วรีบออกเดินทางต่อกันดีกว่า" มินาโตะตักปลาตัวสุดท้ายเขาปาก

    "จริงด้วยเราต้องรีบเดินทางต่อแล้ว" คุชินะตักปลากระป๋องตัวสุดท้ายเข้าปาก

         หลังจากที่พวกเขากินกันเสร็จแล้ว ทั้งสองต่างเก็บสัมภาระของตัวเองและออกเดินทาง ทั้งสองกระโดดไปตามต้นไม้น้อยใหญ่เหมือนที่พวกนินจาเคยทำกัน 

     "ที่ที่เธอไปเจอนะ เป็นที่ที่ทำเลดีหรือเปร่า" มินาโตะถามคุชินะขึ้นขณะที่กระโดดเหยียบกิ่งไม้ของต้นไม้

    "ใช้มันสวยมาก ตรงนั้นเราพอจะอาศัยอยู่ได้แน่นอน" คุชินะยังคงกระโดดต่อไปโดยทิ้งห่างมินาโตะไม่เท่าไหล่ มินาโตะพยายามกระโดดให้ทันคุชินะโดยเร็วที่สุด จนกระทั้งพวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่คุชินะพูดถึง



    "ที่ที่นี้นะหรือว้าว สวยจริงเลย" มินาโตะไม่เชื้อสายตาที่เห็น ทะเลสาปขนาดใหญ่สีมรกตราวดั่งกระจก และงดงามจนไม่อาจพรรณาได้

    "เป็นไงล่ะบอกแล้วใช้ไหมล่ะว่าฉันเจอที่ดีๆเข้าแล้ว" คุชินะพูดออกมาอย่างมีชัย

    "เธอพูดถูกที่นี้มีความสมบูรณ์อย่างมากถ้าเราสร้างที่พักตรงนี้น่าจะดีมาก"

    "ใช้แต่ ปัญหาคือเราจะสร้างมันอย่างไร"

         คำพูดของคุชินะทำให้เด็กหนุ่มคิดขึ้นมาได้ทันที่ ใช้ถึงจะมีอุปกรณ์ต่างที่เก็บได้จากการที่มีของถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาด แต่สำหรับเด็กหนุ่มแล้วเขานั้นไม่เคยเรียนรู้วิธีสร้างบ้านเลย นี้แหละเป็นปัญหาใหญ่เลยสำหรับมินาโตะ

    "เอ่อ สิ ฉันเองก็ไม่รู้วิธีสร้างมันเหมือนกัน" มินาโตะถึงกับเอามือกุมขมับอย่างปวดใจ

    "จริงด้วยพวกเราก็ไม่รู้วิธีสร้างที่พักเหมือนกัน" เด็กสาวถึงกับถอดใจเพราะตั้งแต่เป็นนินจามานี้ยังไม่เคยเรียนวิธีการสร้างที่พักมาก่อนเลย แล้วนี้เรามาติดเกาะอีกไม่รู้จริงเลยว่าจะทำอย่างไรดี

    "เอะ นั้นถ้ำใช้ไหม" เด็กสาวชี้นิ้วไปยังฝั่งตรงข้ามทำให้เด็กหนุ่มเห็นปากถ้ำที่อยู่บนเนินเขา ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของทะเลสาป

    "จริงด้วยงั้นเราไปสำรวจกันดีกว่า"

    "ไปกันเถอะ"

         ทั้งสองไม่รอช้าต่างวิ่งกันไปบนผิวน้ำทะเลสาป อย่างชำนาญการจนในที่สุดก็มาถึงปากถ้ำ ตอนนี้ทั้งสองได้มายืนอยู่ตรงเนินเขาที่ลาดชัน  แล้ววิ่งขึ้นไปอย่างง่ายดาย จนมาถึงปากถ้ำ ที่ภายในดูมืด แต่ไม่มากนัก

     "ฉันว่ามันมืดนะ" คุชินะถึงกับตัวสั่นเพราะเธอกลัวความมืดภายในถ้ำมากไม่รู้ว่าภายในนั้นจะมีตัวอะไรกันแน่อยู่ ตอนนี้ร่างบางเกาะแขนของเด็กหนุ่มด้วยความกลัว

    "ไม่ต้องห่วงหรอก คาถาไฟ" 

         มินาโตะแบบฝ่ามือออกมา ไม่ทันใดก็ปรากฎเปลวไฟบนฝ่ามือ ทั้งสองเดินเขาไปในถ้ำ ทางเดินภายในถ้ำนั้นดูขรุขระ ต้องเดินข้ามก้อนหินต่างที่อยู่บนพื้นรวมถึงหินงอกหินย้อยที่อยู่บนพื้นไม่ก็อยู่บนผนังถ้ำ ไฟจากมือของมินาโตะได้ส่องสว่างไปทั่วทำให้ได้เห็นภายในถ้ำที่มีความกว้างใหญ่ไพศาลอย่างมาก บรรยายกาศภายในถ้ำนั้นมีลมเย็นพัดผ่านมาตลอดเวลา พวกเขาเดินต่อไปจนมาถึงปากทางแยก ที่มีสองทาง 

    "งั้นเราไปทางไหนกันก่อนดี" มินาโตะเอาไฟส่องไปดูเส้นทางทั้งสาม

     "ฉันว่าเราไปทางซ้ายก่อนดีกว่า" คุชินะแนะและชี้ไปยังปากถ้ำทางซ้าย

     "ได้งั้นเราไปกันเถอะ"
       
         ทั้งสองเดินเดินเข้าไปในปากถ้ำทางซ้ายมือ ทางเดินภายในนั้นดูเรียบมากทำให้เดินได้สะบาย เมื่อพวกเขาเดินมาไม่เท่าไหล่ก็พบกับ

      


         โถงถ้ำอันกว้างใหญ่ ที่มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในถ้ำ และมีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจากรูถ้ำ  น้ำในถ้ำแห่งนี้สร้างมีความสวยสด งดงามยิ่งหนักมันใส่แจ่วอย่างกระจกจนมองเห็นใต้น้ำได้ชัดเจน

      "ว้าว สวยจังเลย " คุชินะถึงกับร้องด้วยความปิติ กับความสวยงามภายในถ้ำแห่งนี้

       "ใช่มันสวยมากตรงนี้เราน่าจะใช้เป็นที่อาบน้ำ และดื่มนะ" มินาโตะแนะ ถ้ำตรงนี้เหมะที่จะเป็นแหล่งน้ำไว้ใช้ดืมและอาบ ถ้าพวกเราทั้งสองมาอยู่ในถ้ำนี้ก็สะบายแล้ว

      "ฉันว่าเราไปชมถ้ำอื่นต่อดีกว่า"

       "ใช่ เราไปกันเถอะ"

        ทั้งสองเดินกลับไปทางเดิม และเดินมาถึงจุดเดิม 

       "งั้นเราไปถ้ำทางขวาดีกว่า" 
        
         มินาโตะคุชินะ เดินไปที่ปากถ้ำทางขวา พวกเดินต่อไป จนกระทั้งพบเห็นปากอุโมงค์ที่มีแสงส่องเขา ทั้งเดินต่อไปจนกระทั้งพ้นออกจากปากถ้ำ



         เมื่อพวกเขาเดินออกมาก็พบกับสวนขนาดย่อมที่มีต้นไม้ขนาดกลาง และสระน้ำขนาดย่อม โดยข้างบนเหนือต้นไม้นั้นเป็นหลุมขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าตรงนั้นเป็นหลุ่มยุบขนาดใหญ่และข้างล่างของหลุ่มนี้ก็เป็นสวนขนาดย่อม

     "ดูเหมือนว่าที่พักของเรามีสวนหลังบ้านแล้ว" มินาโตะแซว

     "ฉันก็ว่าอย่างนั้น แต่ฉันชอบที่นี้นะ" 

       คุชินะกวาดตามองไปรอบๆสวนและคิดอยากให้ที่นี้เป็นสวนหลังบ้านของเธอจริงๆ

      "งั้นฉันตัดสินใจแล้ว เราเอาถ้ำนี้ยึดเป็นบ้านของเราเลยไหม" มินาโตะพูดขึ้นมาอย่างตัดสินใจ

      "ฉันเห็นด้วยเหมือน ตอนนี้เรามีที่พักแล้ว" คุชินะรู้สึกดีใจอย่างมากเพราะจะได้ไม่ต้องไปนอนแออัดกันภายในถังไม้นั้นอีก

     "งั้นเรากลับไปช่วยเอาสัมภาระริมหาดมาดีกว่า"

    เด็กทั้งสองเดินกลับไปทางเดิมที่พวกเขาเข้ามาเมื่อมาถึงจุดที่เป็นทางแยกภายในถ้ำ

    "เดียวก่อนทำไมถึงมีทางอีกทางหนึ่งละ" คุชินะชี้ไปยังทางถ้ำอีกทางหนึ่งซึ่งพวกเขาทั้งสองไม่ได้สังเกตเห็นเลย 

    "งั้นอย่ารอช้าเราไปสำรวจกันดีกว่า" 

          มินาโตะจูงมือคุชินะเดินไปทางที่พวกเขาไม่ได้สำรวจเมื่อเดินไปตามอุโมงค์ถ้ำก็พบกับแสงสว่างที่ปรายอุโมงค์เมื่อทั้งคู่เดินออกมา



         ทั้งคู่ก็พบกับแอ่งน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหล่ลงมาจากน้ำตกบนภูเขา รอบเต็มไปด้วยต้นไม้ต่างนานาพันธ์รวมทั้งดอกไม้ราเวนเดอร์ แต่ที่เด่นสุดคงจะเป็นเกาะกลางแอ่งน้ำตก ที่มีศิลารายล้อม โดยมีก้อนศิลา 2 ก้อนตั้งตระหง่าอยู่ตรงกลาง  ข้างเกาะกลางน้ำที่เกาะขนาดย่อมที่มีต้นซากุระผลิบานสวยงามส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ ข้างหลังศิลาสองแท่งคือหุบเขาข้างหลังที่รายล้อมและมีน้ำตกไหล่ลงมายังแอ่งน้ำ

    ทั้งสองจองหน้ากันอย่างไม่เชื้อสายตากับสิ่งที่พบ ไม่นึกไม่ถึงว่าจะมีสิ่งที่มหัศจรรย์ใดที่ไม่เคยเห็นบนเกาะนี้มาก่อน

    "เรารีบไปดูกันเถอะ" มินาโตะชวนคุชินะ ทั้งคู่กระโดดไปตามโขดหินและรากไม้ที่โผล่พ้นน้ำ ทั้งสองมายื่นอยู่หน้าแท่งศิลาคู่ขนาดใหญ่

     "ฉันไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิตของฉัน" คุชินะเอามือสัมผัสลงบนแท่งศิลาขนาดใหญ่

     "แต่ฉันว่ามันแปลกๆนะ ดูนี้สิ" มินาโตะชี้ไปที่แท่งศิลาทั้งสองก็พบกับรวดรายที่เป็นครึ่งวงกลมที่ถูกทำออกมาอย่างประณีต อย่างไม่เชื้อสายตา

     "ที่นี้อาจเคยมีคนอาศัยอยู่มาก่อนก็ได้" มินาโตะตั้งสมมุติขึ้นมาเป็นไปได้เหมือนกันที่เกาะใหญ่แห่งนี้อาจจะมีคนอาศัยอยู่เห็นได้จากศิลาสองแท่งนี้มีลวดวลายแกะสลักที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่คำถามคือพวกเขาอยู่ไหน

    "นายคิดว่าอาจจะมีคนอยู่ที่นี้ใช้ไหม" 

    "ใช้บางที่ที่นี้เราอาจไม่ได้อยู่ตามลำพังแน่นอน เอาเป็นว่าถ้าเราเจอพวกเขาเราต้องระวังไว้ก่อน เราไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู" 

         คำพูดของมินาโตะที่คุชินะได้ฟัง นั้นมีความหมายเพราะไม่รู้ว่าเกาะแห่งนี้จะมีกลุ่มคนที่เป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่ และที่สำคัญถ้าเจอกันจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ไหม

    "และเราจะเรียกที่นี้ว่าอะไรดี" คุชินะภามขึ้นมา

    "ฉันว่าฉันขอตั้งชื่อไว้ละกันว่า สวนศิลาซากุระ" มินาโตะพูดขึ้น

    "ฉันชอบชื่อนี้นะ" เด็กสาวพอใจกับชื่อที่ตั้งให้สวนแห่งนี้ "มันฟังดูดีมากเลย"


         หลังจากที่เฉยชมความงดงามของธรรมชาติแล้ว ตอนนี้ทั้งสองตัดสินใจแล้วว่าจะเอาที่นี้เป็นบ้านของพวกเขา ทั้งสองกลับไปที่ริมชายหาดและขนข้าวของที่จำเป็นเดินทางมาเก็บไว้ที่ถ้ำแห่งนี้ ภายในถ้ำคุชินะออกไปเก็บรวบรวมใบไม้แล้วนำมาปูบนพื้นถ้ำเพื่อทำเป็นที่นอน

    ยามเย็น

         อากาศข้างนอกช่างหนาวเย็น แต่ภายในถ้ำที่ทั้งสองอยู่นั้นมันกลับช่างมีความอบอุ่นเสียจริงๆ ตอนนี้มินาโตะกับคุชินะนั้งรอบกองไฟภายในถ้ำอย่างอบอุ่น และนำปลาแซลมอนที่จับได้จากทะเลสาปมาย่างกินโดยการเสียบไม้

     "พรุ่งนี้เช้าเราจะไปสำรวจตรงไหนกันต่อละ" 

     "พรุ่งนี้หรือ ฉันคิดว่าเราจะรองข้ามภูเขาไปยังพื้นที่ที่ เราไม่เคยสำรวจ " มินาโตะหยิบปลาแซลมอนที่ย่างเสร็จ แล้วกินคำหนึ่ง "ตรงนั้นฉันเคยไปมาแล้ว ที่นั้นยังมีอะไรหลายอย่างให้สำรวจอีกเยอะ"

     "อ่อย " คุชินะถอนหาย พรุ่งนี้เราจะเดินทางเข้าไปในเขตที่เราไม่รู้เลยว่าจะมีอันตรายอะไรซ่อนอยู่ "ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอันตรายอะไรรออยู่"

    "อย่าพึงสินหวังสิ" มินาโตะวางปลาลงแล้วเดินเข้ามาจับไหล่ทั้งสองข้างของคุชินะ "เราเป็นนินจานะ ความลำบากนั้นทำให้เรามีความเข็มแข็ง และอดทนต่ออุปสรรค เราต้องสามารถอยู่รอดบนเกาะแห่งนี้ให้ได้ถึงมันจะหนักหนาสาหัสก็ตามเถอะ และอีกอย่างเราอยู่ที่เกาะแห่งนี้มาได้ 2 วันแล้วนะ"

     คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้เด้กสาวกลับมามีความหวังอีกครั้ง ใช้เราเป็นนินจาจะท้อถอยต่อความยากลำบากไม่ได้

     "ที่นายพูดมันก็ถูกเราเป็นนินจา จะสิ้นหวังไม่ได้" คุชินะลุกขึ้นและกอดมินาโตะ

    " ใช้แล้ว " มินาโตะยังคงกอดคุชินะอย่างแผวเบา "แต่ว่าปลาของเธอคงจะไหม้แล้วละมัง"

    "อะไรนะ!!  ไม่แซวมอนของฉัน!!"

         เด็กสาวถึงกับร้องขึ้นมาทันที่เมื่อพบว่าปลาแซลมอนย่างกำลังจะไหม้เธอรีบนำปลาออกมาแล้วเป่าให้หายร้อน โชคดีที่ไหม้เฉพาะ หนังแต่เนื้อภายในยังพอกินได้อยู่ หลังจากที่กินเสร็จแล้วเด็กน้อยทั้งสองคนก็พลอยหลับลงไปในกองใบไม้ที่ถูกนำมาทำเป็นที่นอนบนพื้นถ้ำ ในนิทรานั้นทั้งสองยังคงเฝ่าถึงวันพรุ่งนี้ว่าจะมีการผจนภัยใหม่ๆอะไรบ้าง



    ยามเช้าวันใหม่

         ร่างบางของเด็กสาวบิดเกร็งอย่างขี้เกรียจ และลุกขึ้นจากเตียงใบไม้ เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบกับเด็กหนุ่มที่กำลังย่างปลาแต่ปรากฎว่าเด็กหนุ่มหาได้ใส่เสื้อผ้าและกางเกงไม่ เผยให้เห็นกายที่ขาวสะอาดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจากการฝึกซ้อมถึงจะยังเด็กอยู่ก็ตาม และก็หน้าท้องที่มีซกส์แผกถึง 6 ก้อน แต่โชคดีหน่อยที่เด็กหนุ่มใส่กางเกงในไว้ไม่งั้นคงได้เห็นเจ้าน้องชายแล้ว  

    "ว้าย!!"

     เด็กสาวถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันที่ด้วยความอายและหันหลัง

    "อ้าวตื่นแล้วหรือ พอดีวันนี้ฉันได้ปลามาตั้งสามสี่ตัว มากินสิ" มินาโตะชวนโดยยื่นปลาให้เด็กสาวกิน

    "นายใส่เสื้อผ้าหน่อยได้ไหม ไม่อายบ้างหรือไง" กัน

     เด็กสาวร้องด้วยความอาย และเขิน

    "อะไรกันพอดี ฉันลงไปดำน้ำจับปลามาก็เลยนั้งผิงไฟให้ตัวแห้งหน่อยนะ ไม่ต้องอายหรอกนาเห็นนิดเห็นหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี้" มินาโตะวางปลาลงบนหินแล้วเดินเข้ามาแนบชิดเด็กสาว ตอนนี้ใบหน้าสุดหล่อเริ่มประชิดใบหน้าของหยิงสาวราวกับกำลังจะจุมพิษ

    "อย่านะ อย่าเข้ามา" คุชินะดันหน้ามินาโตะออกไปห่างๆ 

    "ไม่ต้องกลัวหรอกฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกแต่ผมเธอหอมจริงๆ " มินาโตะใช้จมูกสูดดมกลิ่นผมของคุชินะอย่างชื่นใจ โดยเด็กสาวหรือสึดจักจี้ แต่แล้วมินาโตะก็เริ่มเปลี่ยนจากการสูดดมกลิ่นผม มาเป็นการคลอเคลียตรงซอกคอของเด็กสาวและมือของเด็กหนุ่มเลื่อนเข้าไปในใต้เสื้อของเด็กสาว ตอนนี้เด็กสาวเริ่มรู้แล้วว่าถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างคงอาจถึงขั้นมีอะไรกันขึ้นมาก็ได้

    " หยุดซักที่!!

    ผลัวะ!!


     เด็กสาวปล่อยหมัดใส่หน้าเด็กหนุ่มอย่างจังจนล้มลงไปอยู่กับพื้น

    "โอ้ย เจ็บจัง" เด็กหนุ่มถึงกับเอามือลูบตรงใบหน้าอันหล่อเหรา ที่ถูกชก  แต่ไม่ทันไรเด็กสาวก็มายื่นอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม ตอนนี้มินาโตะถึงกับคลานถอยหลังติดกำแพงถ้ำเพราะตอนนี้คุชินะกลายเป็นปีศาจขึ้นมาแล้ว

    "ฉันเตือนนายแล้วใช้ไหมว่าอย่าลวนรามฉัน!! " คุชินะแผดเสียงก้องกังวาลไปทั้วถ้ำจนค้างคาวภายในถ้ำต่างบินหนีกันออกมาจากถ้ำอย่างอลหม่าน คุชินะอัดมินาโตะไม่ยั้ง ตอนนี้เด็กหนุ่มกลายเป็นกระสอบทรายระบายความโกรธไปเรียบร้อยแล้ว

         เมื่อจัดการมินาโตะเสร็จแล้วเด็กสาวก็เดินไปอาบน้ำที่สระน้ำภายในถ้ำ เมื่ออาบเสร็จแล้วก็ไล่ เด็กหนุ่มไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมออกไปสำรวจโลกใหม่บนเกาะแห่งนี้

    "ออกเดินทางกันได้" คุชินะตะโกนอย่างดีใจยกเว้นเพียงมินาโตะที่ถูกอัดซะสภาพเกือบเละทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยพกซ่ำจากการโดนซ้อม

         ทั้งคู่เดินออกจากถ้ำแล้วกระโดดไปตามป่าไม้ต่าง ๆ อากาศวันนี้ไม่ร้อนเหมือนเมื่อวานวันนี้ช่างเย็นสะบายมากนัก พวกเขาแวะพักกินข้าวใต้ต้นไม้โดยอาหารส่วนใหญ่จะเป็นปลาตากแห้งกับผลไม้เมื่อกินเสร็จแล้วก็ เดินสำรวจไปตามพื้นดิน  พวกเขาได้พบเจอกับพืชและสัตว์ป่ามากมาย แต่ก็ต้องคอยหลีกเลี้ยงพวกมันเพื่อป้องกันอันตราย

    "ที่นี้ดูแปลกจริง" คุชินะหักโค่นกิ้งไม้ตามทางแล้วก้าวเดินข้ามรากไม้ที่ขึ้นมาตามพื้นดิน "ป่าที่นี้ทึบไปหมดเลย"

         เด็กสาวมองไปรอบๆทั่วป่า ที่มีแสงแดดส่องลงมายังใบไม้อ่อน อย่างระยิบระยับ อากาศภายในป่านี้ช่างร้อนชื่นยิ่งหนักแต่ก็ไม่มากเท่าไหล และมีเหล่าแมลงชนิดต่าง เกาะอยู่ตามต้นไม้ไม่ก็บินไปบินมาอยู่ข้างบน

    "ใช้ที่นี้ดูราวกับทะเลสีเขียว และ " มินาโตะยังไม่ทันได้พูดเขาก็สังเกตเห็นบ้างอย่าง ศิลาที่อยู่บนพื้นนั้นถูกสลักเป็นรูปหมาป่า 

    "นี้มันอะไรกัน " เขาเดินเข้าไปดูใกล้ แล้วยื่นมือหมายจะสัมผัสมัน รูปปั้นนั้น


    "มินาโตะมาดูทางนี้เร็ว ! "

    เสียงเด็กสาวตะโกนเรียกทำให้เด็กหนุ่มผละจากความสนใจแล้วรีบวิ่งไปตามเสียงเรียก จนมาพบกับเด็กสาว

    "มีอะไรหรือ " มินาโตะถามอย่างรีบร้อน

    "ดูข้างหน้าเราสิ !!"

         เด็กสาวชี้ไปข้างหน้ามินาโตะเมื่อมองไปข้าง เขาถึงกับตกตะลึงและตัวสั่นขึ้นมาทันที่ร่างกายของเขาถึงกับไม่อาจขยับไปไหนได้เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นมันช่างพิศวงและยิ่งใหญ่ มันคงจะเป็นคำตอบเดียวเหมือนที่เขาเคยเจอกับแท่งศิลาทั้งสอง ที่อยู่สวนหลังถ้ำของพวกเขา




    *******



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×