ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Naruto ) Naruto The paradise of Atlantis ผจนภัยดินแดนแอตเลนติส

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 19 ป่าดำมรณะ

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 63





         หลังจากที่ได้ไปท่องป่าชายเลนมาครอบครัวอุซึมากิ-นามิคาเซะก็กลับมาทำงานตามปกติ วันนี้ผลผลิตในไร่ยังคงออกดอกออกผลแย่างดี และขายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่เรื่องการใช้เงินนั้น มินาโตะและคุชินะมักสอนลูก ๆ เสมอว่าควรใช้จ่ายอย่างประหยักและใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช้ใช้ฟุ่มเฟื่อย และถ้าอยากได้สิ่งใดก็ต้องหาด้วยตัวเองคำสอนเหล่านี้ได้ฟังลึกเข้าไปในสมองของเด็กน้อยทั้งสองคน 

         ตอนนี้เป็นตอนเช้าที่แสนสดใส่ ทั้งสี่ต่างออกมาทำงานตามปกติรวมทั้งฝึกฝนวิชานินจาไปในตัวด้วย ตอนนี้ที่ไร่ของเราครอบครัวนั้นพืชผลเจริญเติบโต อย่างสวยงาม เพราะ พวกแฟรี่ที่อพยพมาอยู่ในไร่นั้นได้ใช้พลังทำให้พืชผลผลิตต่าง ๆ นั้นเจริญเติบโตอย่างสวยงาม และมีความสดใหม่

         ซากุระยังคงเดินเก็บพวกลูกสตอเบอรี่ที่สุกใหม่ และสวยสดงดงาม ใส่ลงในตระก้าที่เธอสะพายไว้ข้างหลังพลางปาดเหงื่อบนหน้าผากไปด้วย

    "ซากุระจัง เก็บลูกสตอเบอรี่เสร็จแล้วมาช่วยแม่เก็บแอปเปิลด้วยน่ะ"

    "ค่ะท่านแม่เดียวหนูไปช่วยเก็บค่ะ"

         เด็กสาวตอบรับคำสั่งจากผู้เป็นแม่ ตอนนี้เธอยังคงเดินเก็บสตอเบอรี่ต่อไปถึงอากาศวันนี้จะร้อนอบอ่าวแต่ก็ยังพอมีลมเย็นพัดมาให้เย็นสบาย

    แค่ก แค่ก

         เด็กสาวเอามือปิดปากหลังจากที่ตัวเองไอออกมา วันนี้เธอรู้สึกแปลกมากเธอตื่นขึ้นมานั้นเธอเริ่มรู้สึกเวียนหัวได้ซักพักหนึ่งและเวลากินข้าวเธอรู้สึกเหมือนจะอาเจียนแต่ดีที่มันไม่ออกมา เธอยังคงเดินเก็บสตอเบอรี่ต่อไป แต่เด็กสาวก็ครุ่งคิดสิ่งหนึ่งที่เธอนั้นมักถามและหนักใจมาตลอดในชีวิตนั้นคือทำไมเธอถึง

    ฟึบ

         มืออันบอบบางใกล้จะเด็ดสตอเบอรี่ลูกหนึ่ง แต่ยังไม่ทันไรเด็กสาวก็สลบนอนลงไปฟุบอยู่กับพื้นดิน อย่างไม่ได้สติ

    "ซากุระจังลูกอยู่ไหน ได้ยินแม่แล้วตอบด้วย"

    คุชินะเรียกบุตรสาวของตนแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา ทำให้เธอเดินเข้าไปในสวนสตอเบอรี่ เพื่อหาบุตรสาว

    "ซากุระจ่า ลูกอยู่ไหน ซากุระ"

         เธอเดินมาได้ซักพักและเหยียบเข้ากับลูกสตอเบอรี่ที่ตกอยู่กับพื้นลูกหนึ่ง เมื่อเธอหันไปข้างๆ ก็พบกับร่างของบุตรสาวสลบนอนอยู่กับพื้นดิน

    "ซากุระ!! ซากกุระ!! ลูกแม่ลูกเป็นอะไรไป" คุชินะร้องด้วยความตกใจ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาร่างบ่างของเด็กน้อยที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น เธอรีบอุ่มซากุระขึ้นมาแล้วพยายามเขย่าเรียกสติ "ซากุระ ซากุระ ฟื้นสิลูกแม่ ซากรุะ"

         เธอพยายามเรียกชื่อบุตรสาวเพื่อให้ฟื้นคืนสติแต่ไม่เป็นผล ลมหายใจของเด็กสาวหายใจอย่างเชื่องช้าราวกับคนใกล้ขตาย

    "อดทนไว้น่ะลูกเดียวแม่จะตามพ่อของลูกมา อดทนไว้น่ะ"

         เธอรีบอุ่มบุตรสาวขึ้นมาแล้วรีบหอบร่างที่ไร้สติกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว และนำร่างไปว่างลงบนเตียงนอน และรีบเข้าไปในครัวหยิบผ้าขนหนู้จุ่มน้ำและบิดเอามาว่างไว้บนหน้าผากของบุตรสาว ตอนนี้ต้องรอไปก่อนเพราะมินาโตะและนารูโตะออกไปหมู่บ้านเดรอนยังไม่กลับมา

    ********


         มินาโตะรีบกลับเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็วหลังจากที่ทราบว่าบุตรสาวของตนหมดสติ เด็กหนุ่มเรียกแฟรี่ที่เชียวชาญการแพทย์มารักษาบุตรสาวของตนที่นอนสลบอย่างไม่ได้สติ โดยที่สามพ่อแม่ลูกยังคงอยู่ข้างเตียงบุตรสาวอย่างใกล้ชิดโดยไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว แฟรี่เพศหญิงที่ชื่อว่าทิกซี่เอามือเล็กจิ๋วสัมผัสลงบนหน้าฝากของซากุระ

    "น้องของผมเป็นยังไงบ้างเธอเป็นอะไรหรือ" นารูโตะถามด้วยความเป็นห่วงขณะเกาะแขนเสื้อของพ่อไว้แน่น

    "ใจเย็นไว้ลูกซากุระ น้องของลูกต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน " มินาโตะพูดปลอบลูกชายของตนพรางเอามือมาจับที่ไหล่นารูโตะ

    ทิกซี่หลังจากที่ตครวจดูอาการเสร็จแล้วเธอบินมาหา ทั้งสาม ด้วยสีหน้าที่หนักใจอย่างมาก

    "ซากุระจังเป็นอะไรไปหรือ" คุชินะถามทิกซี่

    "ลูกสาวของคุณนั้นป่วยเป็นโรคไข้ป่า ไม่ค่อยรุนแรงอะไรมากหรอก แค่ให้พักผ่อน กินอาหารร้อนและ ทานยาเท่านี้เธอก็จะฟื้นเป็นปกติแล้ว" ทิกซี่พูดอธิบายให้คุชินะฟัง

    " ฮือ ฮือ โธ่ลูกแม่ อะไรทำให้เจ้าถึงเป็นเช่นนี้" คุชินะเอามือกุมหน้าด้วยความเสียใจที่ต้องเห็นบุตรสาวอันเป็นที่รักล่มป่วย

    "คุชินะอย่าพึงรีบเป็นอะไรไปสิลูกเราแค่ป่วย เดียวฉันกับนารูโตะจะออกไปหาสมุนไพรในป่าเขาให้ไม่ต้องห่วง"

    "แต่ซากุระ ลูกเรา"

    "ผมก็จะช่วยอีกแรงครับ ท่านแม่ไม่ต้องห่วงซากุระต้องหายดีแน่นอน"

          มินาโตะพูดปลอบใจภรรยาของตน ทางด้านบุตรชายก็พูดให้กำลังใจ สมุนไพร ความจริงแล้วที่บ้านครอบครัวอุซึมากิ-นามิคาเซะนั้นก็มีปลูกบ้างแต่ยังไม่โตเต็มที่นักทำให้ไม่สามารถนำมาทานได้ จำเป็นต้องเดินไปหาในป่า พลังของแฟรี่เองนั้นทำได้เพียงบรรเทาอาการได้เท่านั้นแต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อันที่จริงก็มีแฟรี่ที่เก่งด้านการแพทย์เหมือนกันแต่หายากมาก และแฟรี่ที่อยู่ในสวนของครอบครัวนั้นก็หาคนเก่งด้านการแพทย์ยากมาก

         วันต่อมามินาโตะและนารูโตะก็ได้เตรียมข้าวของใส่เป้และเตรียมจะเดินป่าเพื่อไปหาสมุนไพร ในป่าดำซึ่งเป็นป่าที่อันตรายมาก มีสัตว์นักล่าอยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น หมีดำตัวยักษ์ หมาป่าโลกันต์ สิงโตภูเขา และอีกมากมายนับไม่ถ่วน คุชินะจัดเตรียมอาหารใส่ปิ่นโต ใส่อาหารไว้ ให้มินาโตะและนารูโตะ ตอนนี้ทั้งสองได้ออกมายื่นอยู่หน้าประตูแล้ว ทั้งสองใส่ชุนสีน้ำตาลกางเกงสีเขียว และมีกระเป๋าเป้สะพายหลังสีน้ำตาล โดยมีคุชินะมาส่งลา

    "ขอให้กลับมาอย่างปลอดภัยนะทั้งสองคน" คุชินะกล่าวส่งลา

    "ไม่เป็นไรหรอก เดียวเราก็กลับมาอีกไม่นานหรอก ฉันสัญญาฉันจะกลับมาให้ได้" มินาโตะพูดกับภรรยา

    "ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอก พวกเราจะหาสมุนไพรมารักษาซากุระให้ได้" นารูโตะพูด

    "งั้นพวกเราออกเดินทางกันได้แล้ว"

         มินาโตะและนารูโตะต่างหันหลังออกจากบ้านโดยมีคุชินะส่งเสียงกล่าวลาทั้งสอง ให้กลับบ้านมาอย่างปลอดภัย ตอนนี้ทั้งสองได้เดินออกมาจากอาณาเขตบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเดินเข้าไปในป่าขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้สูงใหญและหน้าทึบเป็นจำนวนมาก

    ********



         ป่าดำเป็นพื้นป่าที่ใหญ่โตและหนาทึบอย่างมาก ต้นไม่ที่นี้นั้นมีขนาดใหญ่โตและมีความสูงอย่างมาก ที่นี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาพันธ์ และทุกชนิด และพืชและกล้วยไม่มากมายและหายากมาก ต้นไม่ที่หนาทึบสามารถบกบังแสงอาทิตย์ให้ไม่สามารถส่องลงมายังพื้นป่าได้ ทำให้ที่นี้ได้รีบสัญญานามว่าป่าดำ

    "สมัยที่พ่อกับแม่มาอยู่ ใหม่ๆ นี้เคยเข้ามาสำรวจแถวนี้บ้างไหมครับ" นารโุะตะถามขณะก้าวเดินตามบิดา

    "สมัยนั้นน่ะหรือแถวนี้น่ะเป็นเขตที่พ่อพยายามไม่เข้ามาเหยีบเป็นอันขาดเพราะที่นี้น่ะเต็มไปด้วยสัตว์นักล่ามากมาย รวมทั้งงูพิษด้วย เพราะฉะนั้นที่นี้จึงเป็นที่อันตรายมาก" มินษโตะพูดขณะก้าวข้ามขอนไม้

    "แล้วทำไมเราต้องเข้ามาในนี้ด้วยล่ะ ทำไมไม่ไปซื้อยาที่หมู่บ้านดายรอน" นารูโตะภาม เพราะตามความจริงแล้วสมุนไพรสามารถไปหาที่อื่นก็ได้ หรือซื่อมาจากหมู่บ้านดายรอนก็ได้

    "ที่นี่นะพ่อเคยได้ยินมาว่าแถวนี้มีสมุนไพรชนิดที่หายากมาก มันถูกเรียกว่าใบ เอทิส มันสามารถรักษาได้ทุกโรค มันจึงมีค่ายิ่งกว่าทองอย่างมาก และที่เราไม่ไปซื่อยาที่หมู่บ้าน ลูกก็รู้ดีนี้ว่าวันนี้ร้านยาขาดตลาด หมดเกลี้ยง ทำให้ไม่สามารถหายาได้ เพราะฉะนั้นเราต้องพึ่งพาตัวเองก่อนแล้วล่ะ"



         มินาโตะพูดให้บุตรชายรับรู้ ยิ่งทั้งสองเดินเข้ามาในป่านี้มากเท่าไหล่ ก็เริ่มหายใจลำบากมากขึ้นเพราะแทบไม่มีลมพัดผ่านเข้ามาเลย และบรรยากาศรอบ ๆ ก็เริ่มดูมืดมนต์และวังเวงมากขึ้น ราวกับป่าช้า นารูโตะรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครจับตามองพวกเขาทั้งสองอยู่ ลมหายใจของทั้งสองมีความถี่มากขึ้นราวกับตระหนักได้บ้างอย่างว่าที่แห่งนี้มันเหมือนมีอะไรบ้างอย่าง

    "ไปต่อเถอะช้าอีกนิดเดียวอาการน้องเจ้าต้องแย่แน่"

    "ครับ"

         มินาโตะและนารูโตะรีบก้าวเดินต่อไปภายในป่าดำ ที่มืดมนต์ ทั้งสองรีบก้าวเดินต่อไปอย่างระมัดระวังจนกระทั้งก็พบกับแสงจากปากทางที่ส่องผ่านต้นไม้เข้ามา ทั้งสองรีบเดินออกมาจากฟื้นป่า จนเมื่อออกมาแล้วก็ได้มาหยุดอยู่หน้าทะเลสาปกลางป่า ทั้งสองไม่รอช้ารีบเดินลงไปดื่มน้ำจากทะเลสาปให้หายชื่นใจ และสูดอากาศหายใจราวกับต้องการมัน หลังจากที่ต้องเดินขาดหายใจในป่าดำมา




    อ้าฮู

    "เอาแล้วไง"

         เสียงหมาป่าหอนดังขึ้นทำให้ทั้งสองรีบตื่นตัวทันที่ มินาโตะชักดาบออกมาส่วนนารูโตะชักคุไนออกมาป้องกันตัว หมาป่าโลกันต์ใหญ่ยักษ์ 5 ตัว ขนสีน้ำตาลก้าวเดินออกมาจากพื้นป่าอย่างช้า  ๆ พร้อมทั้งแยกเขียวอันใหญ่ยาวข่มขู่

    แฮ่ แฮ่

         มันทั้งห้าตัวทำเสียงข่มขู่คำรามและใช้ดวงตาสีแดงฉาน จองมาที่เหยื่อทำให้สองพ่อลูกถึงกับขนลุกซู่  แต่ก็พยายามจองมองพวกมันอย่างไม่คลาดสายลมหายใจของสองพ่อลูกถี่มากขึ้น เด็กน้อยเล่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจที่ครั้งนี้เขาจะต้องต่อสู่กับอสูรร้ายแห่งพื้นป่าที่ เขามักได้ยินจากนิทานก่อนนอนเสมอ และนี้คงเป็นการฆ่าครั้งแรกในชีวิตของเขา ตอนนี้พวกมันทั้ง ห้าใกล้เตรียมจะกระโจนเข้าใส่แล้ว

    "เตรียมตัวให้พร้อม" มินาโตะกระซิบให้บุตรชายตนเตรียมรับการโจมตี

    แฮ่!!

    "คาถาแยกเงา 20 ร่าง"

    หมาป่า 5 ตัวพุ่งกระโจนใส่สองพ่อลูกอย่างฉับพลัน แต่ทั้งคู่ก็ประสานอินกันจนเกิดร่างแยก 20 ร่างพุ่งเข้าโรมรันกับเหล่าบรรดาหมาป่าทั้ง 5 มินาโตะและร่างแยกยกดาบกวัดแกว่งฟันเข้าใส่ทั้ง 5 ส่วนนารูโตะก็กระโจนตัวเองและร่างแยกขึ้นไปบนตัวหมาป่าและกระหน่ำแทงหลัง ลูกตา และท่องอย่างบ้าครั้ง

    ย้าก!!

    ฉัว!! ฉัว!!

    เห้ง เห้ง

    "คาถาลูกไฟ"

         หมาป่าทั้ง 5 ร้องเสียงหลง พวกมันตวัดกลงเล็บอย่างบ้าครั้ง แต่ร่างแยกของมินาโตะและนารูโตะ ใช้คาถาลูกไฟเผาหมาป่า 4 ตัว จนไหม้เกลียมจนส่งกลิ่มเนื้อย่างออกมาคลุงไปทั่ว ตัวสุดท้ายนั้นอาการหนักเอาการ นารูโตะกระหน่ำแท่งอย่างบ้าครั้ง จนเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดที่ท่วมตัว

    ฉัวะ ฉัวะ ฉึก ฉึก

    "ตายซะ"

         นารูโตะกระหน่ำแท่งอย่างบ้าครั้งจนมันล่มนอนจมกองเลือดกับพื้น แต่นารูโตะและร่างแยกก็ยังไม่หยุดแทงร่างหมาป่ายักษ์ เด็กน้อยยังคงกระหน่ำแทงต่อไปราวกับเขารู้สึกสนุก ในหัวของเขามีอยู่เพียงคำพูดเดียว ตายซะ ตายซะ
    ตายซะ ตายซะ ตายซะ

    "พอได้แล้ว "

         มินาโตะคว้ามือนารูโตะที่จะแทงรอบต่อไปจนทำให้นารูโตะนั้นได้สติ เด็กน้อยหยุดแทงหมาป่าที่ตายและหันมาหาผู้เป็นบิดาในสภาพที่มีเลือดหมาป่าท่วมตัวไปหมด

    "พอ...ได้แล้วลูกไปร่างหน้าซะ "

         มินาโตะเม้นเสียงที่เด็ดขาด นารูโตะเตะร่างหมาป่าอย่างเซ็งและเดินไปที่ทะเลสาปร่างแยกตางกลายเป็นลมและหายไป เด็กน้อยจองมองลงไปในน้ำก็พบกับในหน้าที่เปือนเลือด และเปลี่ยนไปเขาแทบไม่เหลือความเป็นเด็กที่เคยร่าเริงแจ่มใส่แล้วตอนนี้ตัวเขาเป็นปีศาจที่หลุดออกมาจากขุ่มนรก ก่อนที่จะตักน้ำมาร่างหน้าเพื่อเอาคราบเลือดออก เมื่อร่างเสร็จนารูโตะเดินไปนั้งอยู่ตรงหินและกอดเขาไว้ มินาโตะหลังจากที่ตรวจซากหมาป่า 5 ตัวเสร็จก็เดินไปร่างมือในทะเลสาป

    "ฮือ ฮือ ฮือ"

    เด็กน้อยที่กอดเขาอยู่เริ่มร้องไห้ มินาโตะเดินเข้าไปหาและเอามือมาจับไหล่บุตรชายของตน

    "นารูโตะลูกไม่เป็นไรน่ะ" มินาโตะเม้นเสียงต่ำ ถามบุตรชายที่กำลังร้องไห้

    "นี้มัน....ไม่ใช้....ตัวผม...ผม....ผม....ผมรู้สึก....ผมเป็นอะไร....กันแน่" เด็กน้อยค่อยพูดๆ พรางสะอึก

    "พ่อรู้ดี ว่านี้เป็นการฆ่าครั้งแรกพ่อเองก็เคยเป็นแบบเดียวกับลูกเหมือนกัน พ่อเคยฆ่าคนครั้งแรกมาก่อนเหมือนกันและก็เป็นแบบเดียวกับเจ้าเหมือนกัน แต่ลูกเอ่ยโลกใบนี้นั้นได้สอนพ่อไว้อย่างหนึ่งการฆ่านั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ กฏของการฆ่าคือไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า" มินาโตะพูดปรอบใจบุตรชายของตนที่ขวัญเสีย

    "แต่ทำไมเราต้องฆ่าด้วยและที่หมู่บ้านพวกเขาสอนให้เป็นทุกคนเป็นนักฆ่าที่ไร้หัวใจหรือเปร่า" นารูโตะถามขึ้น

    "ที่หมู่บ้านโคโนฮะนั้นนินจาถูกสอนมาเสมอให้ฆ่าหรือกำจัดคนที่สมควรตายหรือป้องกันตัว กฎข้อแรกเลยคือเราจะไม่ฆ่าใครจนกว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนเริ่มก่อนถึงเวลานั้นเราก็ฆ่าได้ ไม่ใช้ฆ่าแบบพล้ำเพล้อเพื่อสนองความสนุก อย่างหมาป่าที่โจมตีเรา เรานั้นไม่ได้ทำอะไรพวกมันแต่พวกมันจะฆ่าเราเพียงเพราะเราเป็นอาหารของมัน ถ้าเราไม่ฆ่ามันมันจะฆ่าเราสองคนที่นี้เข้าใจหรือยัง"

         ผู้เป็นพ่อพูดให้บุตรชายฟัง เด็กน้อยยังคงคอตกอยู่เหมือนเดิม เพราะรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว

    "ไปเถอะลูกเรารีบไปตามหาสมุนไพรต่อเถอะ ส่วนเรื่องในวันนี้ก็ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตก็แล้วกัน"

         มินาโตะพานารูโตะลุกขึ้นยื่นก่อนที่จะออกเดินทางอีกครั้ง คราวนี้พวกเขาเดินเข้าไปในป่าเหมือนเดิม ตลอดการเดินทางนารูโตะ ทำหน้าตายอย่างไร้อารหมณ์จากเด็กที่เคยร่าเริงบัดนี้กลายเป็นเด็กที่เงียบกริบไม่มีความสุขในใจของเขายังคงคิดถึงเรื่องการฆ่าครั้งแรกในชีวิตที่มันยังคงหนักใจเขาอยู่เหมือนเดิม เขาอยากจะกลับไปเป็นเด็กที่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนแต่นี้คงจะเป็นการเสียไปตลอดการและไม่หวนกลับมาอีก

    *******



    "ที่นี้ที่ไหน"

         เด็กสาวลืมตาขึ้นมาอย่างมึนงงและพบว่าตัวเองนั้นอยู่ในป่าแห่งหนึ่งที่ดำทมึนไร้ซึ่งแสงสว่าง เธอลุกขึ้นยื่นขึ้นและกวาดตามองไปทั่วรอบทิศแต่ก็ไม่พบสิ่งใดทั้งสิ้น นอกจากความวังเวงและความสยดสยองขนพ่อง

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่นารูโตะ"

         ซากรุะตะโกนเรียกชื่อครอบครัวของตนอย่างหวาดกลัว แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา (ฉันกลัวกลัวจริงเลยทำไมฉันต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ด้วย พ่อ แม่และพี่นารูโตะอยู่ไหนหนูกลัวหนูกลัวจริงๆ ฮือ) ซากรุะกอดตัวเองด้วยความหวาดกลัวเด็กสาวค่อยก้าวเท้าเดินไปตามทางเดินของป่ามืดที่ไม่มีแสงสว่าง ตัวของเธอทั้งสั่นสยองขนพ่องและหวาดกลัวต่อบรรยากาศรอบ ๆ ที่มืดมนต์

         เธอก้าวเดินต่อไป และเดินต่อไปอย่างไม่มีจุดสินสุดดูแถบจะไม่พบเห็นทางออกหรือแสงสว่างปรายทางเลย และรอบ ๆ ตัวก็มีเสียงสยองขนพ่องดังไปทั่วมันเป็นเสียงหัวเราะที่ใครฟังยังต้องสยองขนลุกซู่

    "ซากุระ.....ซากรุะ" มีเสียงแผวเบาร้องเรียกเธออยู่ข้างเธอ เด็กสาวหันไปทั่วเพื่อหาตนเสียงแต่ก็ไม่พบอะไร

    "นั้นใครน่ะ"

         เด็กสาวถามตอบเสียงปริศนานั้นแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ เธอหันไปทั่วเพื่อพยายามหาต้นเสียงแต่ก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากความมืด

         จนกระทั้งเธอพบหญิงสาวคนหนึ่งผมสีแดงยาวกำลังยื่นหันหลังอยู่ข้างหน้าทางเดิน เด็กสาวรู้ตัวทันที่ว่านั้นคือแม่ของเธอ

    "ท่านแม่ ท่านแม่"

    เด็กสาวรีบวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นแม่กระโดดกอดเธอ อย่างดีใจ

    "หนูคิดถึงแม่มากแม่ไปอยู่ไหนมา ทำไม"

         เด็กสาวเริ่มสัมผัสได้ว่าร่างของแม่ของเธอนั้นกับเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง และผิวของแม่เธอก็ซีดจนขาวราวกับเธอนั้นไม่มีชีวิต เด็กสาวค่อยก้าวถอยหลังด้วยความกลัว เธอเริ่มรู้แล้วว่านั้นไม่ใช้แม่ของเธอ ลมหายใจของเด็กสาวหายใจเข้าออกอย่างรุนแรงด้วยความกลัว

    "คุณไม่ใช้แม่หนู"

         หญิงสาวผู้นั้นค่อยหันมาหาเธอพร้อมกับฉีกยิ้มอย่างบ้าครั้งด้วยความสยอง หัวใจของเด็กสาวเต้นอย่างรุนแรงเธอพยายามจะก้าวถอยหลังให้เร็วที่สุดแต่ขาของเธอนั้นกลับไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียวเธอพยายาม จะก้าวแต่ก้าวไม่ออก

    แฮ่ !!

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!

         ฉับพลันคุชินะก็กลายล่างเป็นสุนัขป่าโลกันต์ และกระโจนเข้าใส่ร่างของเด็กสาว เธอหวีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงก่อนภาพเหล่านั้นจะหายไป


    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    "ซากุระนี้แม่ เอง ลูกแม่ นี้แม่เอง"


         เด็กสาวรีบลืมตาขึ้นมาก็พบกับผู้เป็นแม่ของเธออยู่ข้าง ๆ โดยที่มืออันอ่อนนุ่มจับอยู่ที่ไหล่ของเธอ  เธอกวาดตามองไปทั่วก็พบว่าเธออยู่ในห้องนอนและบนเตียงของเธอ เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่พบว่านั้นเป็นเพียงแค่ฝันร้าย

    "ลูกเป็นอะไรเปร่า แม่เห็นลูกกรี๊ดร้องแม่เลยรีบเข้ามาดูลูก"

    "ไม่มีอะไรค่ะหนูแค่ฝันร้าย"

    คุชินะถามด้วยความเป็นห่วงบุตรสาว แต่เด็กสาวก็ตอบกลับไป และกลับฟุบไปนอนกับเตียงเหมือนเดิม

    "ฝันร้ายหรือลูกฝันอะไรหรือ"

    "ไม่มีอะไรแค่ฝันร้ายเฉย "

         เด็กสาวตอบกลับไปในสภาพที่เธอรู้สึกอ่อนแรง แต่เธอคิดเหมือนกันว่าเธอไม่สบายแต่ยังสามารถร้องออกไปดังได้ขนาดนั้นได้อย่างไร

    "มาเถอะลูก มากินข้าวก่อนแม่ทำซุปครีมเห็นร้อนๆ ให้น่ะ"

         ผู้เป็นแม่เดินออกไปจากห้องก่อนที่เธอจะถือถาดที่มีซุปร้อน ๆที่ส่งกลิ่มหอม อยู่ในชามสีขาว เธอนำไปวางไว้บนโต๊ะก่อนจะพาร่างของบุตรสาวมานั่งลงที่โต๊ะเด็กสาวตักซุปกิน รสชาตินั้นช่างอร่อยมากนี้แหละฝีมือแม่ของเธอ

         เด็กสาวกินเสร็จแล้วเะอก็ได้เดินกลับไปนอนที่เตียงของเธอโดยมีแม่ของเธอเดินไปส่งให้ เธอค่อยนั่งลงบนเตียงก่อนที่จะเอนกายตัวเองนอนลงบนเตียงนุ่ม

    "พ่อกับพี่ยังไม่กลับมาหรือ" ซากรุะถามผู้เป็นมารดา

    "ยังจะลูกพ่อกับพี่ยังไม่กลับมาเลย แต่อีกไม่นานหรอกพวกเขาต้องกลับมาแน่นอน" คุชินะตอบไปตามความจริงและเอามือมาแตะหน้าผากของบุตรสาว "ผักผ่อนให้เพียงพอนะลูก"

         เด็กสาวค่อยหลับตาลงก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเดินออกไปจากห้อง เธอค่อยเดินลงบันไดที่ละก้าวและเดินต่อไปที่ห้องครัว และล้างจานพลางมองออกไปนอกหน้าต่างเฝ่ามองหาสามีและลูกชายที่กำลังจะกลับมา



    ********

























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×