ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Naruto ) Naruto The paradise of Atlantis ผจนภัยดินแดนแอตเลนติส

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 17 แฟรี่ตั้งถิ่นฐาน

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 63






         วันนี้เป็นวันใหม่ ครอบครัวอุซึมาก-นามิคาเซะ ออกมาทำไรไถ่นาตามปกติเช้านี้เป็นเช้าที่อากาศสดใส่ ลมเย็นพัดป่านอย่างสบาย ครอบครัวนี้กำลังช่วยกันทำงาน ในไร่นาของพวกเขา ทุกอย่างดูเหมือนปกติไม่มีอะไรผิดแผก แต่ทว่า


    "อย่าหนีไอ้!! ปุบปุ๋ย"

         นารูโตะตะโกนขึ้นด้วยความโมโหขณะกำลังไล่จับกระต่ายขนปุบป๋ยสีขาวหน้ารักที่ได้แอบเข้ามากินพืชผลเป็นประจำ นารโุตะวิ่งไล่กระต่ายตนนั้นเกือบจะถึงรู้แล้ว

    "ที่นี่และแก่เสร็จฉันแล้ว"

    ตุ๊บ

         นารูโตะกระโจนหมายจะจับกระต่ายแต่กระต่ายได้หนีเข้ารู้ไปเรียบร้อยแล้วโดยที่หน้าของนารูโตะยังคงจออยู่ที่หน้าปากรู้ถ้ำ (คราวหน้าถ้าแก่ออกมากินอีกฉันจะจับแก่ไปทำฟายกระต่ายกินเลยคอยดู) นารูโตะคิดอย่างหัวเสีย

    "นี้นารูโตะลูกทำอะไรของลูกนะแล้วทำไมลูกถึงเอาหน้าไปจอปากโพลงนั้นล่ะ" เสียงหนึ่งพูดขึ้นมาทำให้นารูโตะหันไปก็พบกับมินาโตะที่กำลังถือจอบและเนื้อตัวที่เปลื่อนโครน

    "ก็ไอ้เจ้านั้นมันเข้ามาแย้งพืชผลของพวกเรา เราควรจัดการมันได้แล้วน่ะพ่อไม่อย่างนั้พืชผลอาจโดนมันกินจนเลียบเลยก็ได้" นารูโตะพูดอย่างอารมณ์เสีย

    "พ่อรู้ดีว่าพวกสัตว์มันต้องกินพืชผลเป็นเรื่องธรรมดาแต่ลูกไม่ควรจะใช้อารมณ์นะ" มินาโตะเตือนลูกชายแต่นั้นทำให้ลูกชายดูโมโหเข้าไปใหญ่

    "อารมณ์หรือนี้พ่อไม่เห็นหรือไงว่าสวนของเรากำลังมีปัญหาสัตว์บุกรุกอยู่น่ะหากไม่ทำอะไรทุกอย่างได้เละแน่พ่อเตรียมหาทางป้องกันหรือยังล่ะ" นารูโตะสวนกลับ

         มินาโตะเองก็เริ่มคิดเหมือนกันว่าตอนนี้มีพวกสัตว์จำพวกนกกระต่ายและแมลงเริ่มเข้ามากัดกินพืชผลของพวกเขาแล้วหากไม่ทำอะไรซักอย่างที่นี้คงเละอย่างที่ลูกชายพูดไว้แน่นอน และอาจรวมไปถึงการขาดแคลนอาหารด้วย

    "ที่ลูกพูดมาก็ถูกน่ะแต่ไว้ตอนเย็นพ่อจะนำเรื่องนี้มาพูดคุยกับบนโต๊ะอาหารนะ งั้นมาช่วยพ่อทำงานต่อเถอะสวนเจ้ากระต่ายปล่อยมันไปก่อน"

         มินาโตะกล่าวเสียงเรียบก่อนจะเดินผ่านนารูโตะไป เด็กชายก็เดินตามบิดาของตนไปแต่ก็พรางหันมามองที่โพล่งนั้นราวกับจะเอาเป็นเอาตายไอ้กระต่ายนั้น เจ้ากระต่ายนั้นออกมาจากโพลงและโบกมือลา นารูโตะ (ดูมัน ดูมัน เดียวเถอะครั้งนี้แก่ตายแน่ฟากไว้ก่อนเถอะไอ้ต่าย )

    *********

         หลังจากที่ทำไร่ไถนาเสร็จแล้ว ก็ได้แบ่งผลผลิตตามเดิมก่อนที่จะข่นส่งขึ้นเรือและแล่นไปที่หมู่บ้านเดรอนตามปกติ ที่นี้เหล่าบรรดาลูกค้าที่เคยซื้อผลไม้ไปทุกคนบอกว่าอร่อยมากและอยากซื้อไปกินอีกทำให้วันนี้ ของขายหมดไปอย่างตามปกติ จริงสิวันนี้พ่อจะสอนพวกเราเรื่องการเป็นพ่อค้าแม่ค้านี้

    "พ่อครับผมสงสัยอย่างหนึ่งครับ" นารูโตะถามมินาโตะขณะเดินไปตามถนนของหมู่บ้าน พร้อมกับซากุระ ถนนรอบๆเต็มไปด้วยชาวบ้านที่ออกมาจับจ่ายใช้ส่อยมากมาย

    "มีอะไรหรือลูก" มินาโตะถาม

    "ทำไมเราถึงไม่ใช้คาถาเทพสายฟ้าเหินในการมาที่นี้ล่ะ มันอาจช่วยให้พวกเรายนระยะเวลาในการขนสินค้าของเราได้น่ะ" นารูโตะพูด สิ่งที่พูดนั้นทำให้มินาโตะเข้าใจว่าทำไม่ถึงไม่ใช้คาถาเทพสายฟ้า

    "นั้นก็เพราะ ว่ามันเปลื่องจักระไงลูก อย่าลืมสิจักระของเรานั้นต้องใช้อย่างระมัดระวัง หากใช้มากจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียเหนื่อย หรืออาจถึงตายได้ทันที่น่ะ เพราะฉะนั้นต้องใช้จักระอย่างรู้คุณค่าและระวังอย่างมากเข้าใจมัย" มินาโตะพูดให้คำตอบแก่บุตรชาย

    "เข้าใจแล้วครับ" นารูโตะพยักหน้า

     "จริงสิวันนี้พ่อจะสอนพวกเราในการค้าขายอย่างไรหรือ" ซากุระถามมินาโตะ โดยที่ในมือของมินาโตะถือถุงเหรียญทองคำขนาดใหญ่เอาไว้

    "ใช้แล้วลูกวันนี้พ่อจะสอนการเป็นพ่อค้าแม่ค้าให้" มินาโตะพูด

    "แล้วพวกเราจะทำอย่างไรล่ะครับ" นารูโตะถามบิดาของตน

    "เดี่ยวดูพ่อน่ะ"

    ไม่รอช้ามินาโตะเดินเข้าไปในร้านขายของชำ และเอาเงินในถุงที่มีอยู่ถึง 1000 เหรียญ โดยเข้าได้หยิบออกมาเพียงแค่ 200 เหรียญ และจัดแจงซื้อของมากมายแล้วเดินออกมาจากร้าน ซึ่งมีตั้งแต่ ต้นไม้ อุปกรณ์งานบ้าน และของต่าง ๆ 

    "และพ่อซื้อของพวกนี้มาทำไมหรือดูไม่เห็นจะมีอะไรเลยด้วยซ่ำ" นารูโตะรู้สึกว่านี้หรือการเป็นพ่อค้าดูแปลก ๆ ยังไงไม่รู้

    "เดียวพ่อจะสาธิตให้ดู มานี้สิ" 

    สามพ่อลูกกลับไปที่โซนขายของประจำ หลังจากที่กลับมาประจำที่แล้ว มินาโตะก็ได้ขายของพวกนั้นไป ซึ่งลูกค้าก็ซื่อของพวกนั้นไปตามปกติแต่เด็กทั้งสองก็ยังมึนงงอยู่ดีว่านี้คือการค้าหรือ

    "เข้าใจหรือยังลูก " มินาโตะหันมาถามลูกทั้งสอง

    "มันยังไงหรือพวกเราไม่เข้าใจ" ซากุระถาม ด้วยความมึนงง

    "ผมก็เห็นด้วยที่ซากุระพูดน่ะ มันยังไงกันแน่ นี้คือการค้าขายหรือครับ" นารูโตะถามพ่อ

    "ใช้แล้วลูกนี้คือการค้า ที่พ่อทำไปเมื่อกี่นี้คือการซื้อสินค้ามาขายต่อยังไงล่ะ เช่นเราซื้อทองมาในราคา 100 เหรียญ เราก็ขายไปในราคา 150 เหรียญ หรือซื้อผลไม้มาในราคาโลละ 5 บาท เราก็ขายไปในโลละ 10 บาท ซึ่งจะทำให้เราได้กำไรอย่างไรล่ะลูก "

    เด็กทั้งสองถึงอ่อ ขึ้นมาทันที่เพราะสิ่งที่ผู้เป็นพ่อ

    "พวกเราเข้าใจแล้วครับ/ค่ะ" เด็กทั้งสองพูดอย่างพร้อมเพลียง

    "ดีลูกงั้นวันนี้เรามาช่วยกันค้าขายต่อน่ะ เดียวเราค่อยกลับไปบ้านกันน่ะ"

         ทั้งสามกลับไปค้าขายกันตามปกติ ซึ่งก็ได้กำไรมากขึ้นเป็นปกติ จนกระทั้งตกเย็นทั้งสามก็ได้ร่องเรือกลับมายังบ้านของพวกเขา เมื่อเรือเทียบท่าแล้ว ซากุระกับนารูโตะก็ได้เดินไปที่สวนทันที่เพื่อไปพบแม่ ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบ ในไร่นั้นเต็มไปด้วยเหล่าหมาป่าจิ๊วสีขาวขนปุบปุ๋ยกำลังเดินไปทั่วสวนไร่นา

    "แม่นี้มันอะไรกันทำไมถึงมีเจ้า ปุบปุ๋ย เต็มไปหมดเลยล่ะ" นารูโตะพูดขึ้นอย่างตกใจ 

    เจ้าหมาปุบปุ๋ยตัวน้อยตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหาซากุระ เด็กสาวอุ่มขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เจ้าหมาน้อยเลียหน้าเด็กสาวอย่างสนุกสนาน

    "5555 จักจี้น่ะ555" เด็กสาวหัวเราะโดยที่เจ้าหมาน้อยกำลังเลียหน้าเธอ

    ปุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    "อ้าว กลับมาแล้วหรือลูก" คุชินะในชุดชาวนาเดินออกมาหาลูกพร้อมกับเหล่าบรรดาหมาปุบปุ๋ยที่อยู่รอบ ๆ ตัวเธอ

    "แม่ค่ะทำไมถึงมีพวกเจ้าหมาป่าปุบปุ๋ย เต็มไปหมดเลยค่ะ" เด็กสาวถามมารดาและว่างเจ้าหมาน้อยลงพื้นอย่างแผวเบา

    "อ่อ พอดีแม่ไปชวนเหล่าบรรดาเจ้าหมาป่าปุบปุ๋ยมากำจัดเหล่าบรรดากระต่ายที่เข้ากัดกินพืชผลไร่นาอย่างไรล่ะ พวกมัดกำจัดได้ดีด้วยซ่ำไป  " คุชินะอุ่มเจ้าปุบปุ๋ยตัวน้อยขึ้นมาขยี่หัวเล่น 

    "แล้วแม่จะส่งพวกมันกลับไปที่สวนซากุระศิลาไหมครับ" นารูโตะถามและพยายามเอาไม้เขียเจ้าหมาป่าจิ๊วที่มาเกาะเท้าเล่น 

    "ไม่หรอก ที่นั้นน่ะกระต่ายหายากมาก แต่ที่นี้มีกระต่ายมากมาย พวกมันไม่มีวันหิวหรอก โอเคงั้นมาเถอะเข้าบ้านกันเถอะแม่เตรียมอาหารแสนอร่อยไว้แล้ว" 

    คุชินะพาลูกทั้งสองเข้าบ้านพร้อมมินาโตะ ทั้งสี่ได้เข้ามากินข้าวอย่างอร่อยและพูดคุยถึงเรื่องค้าขาย และคุชินะก็ได้เล่าให้มินาโตะฟังว่าเธอนั้นเจอปัญหากระต่ายเข้ามากินพืชผลเลยตัดสินใจพาเจ้าหมาป่า ปุบปุ๋ย มาที่นี้เพื่อมาเป็นเวรยามในการกำจัดกระต่าย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการใช้ธรรมชาติในการดูแลไร่สวน

    "ว้าวแม่นี้สุดยอดไปเลยนึกไม่ถึงจะทำได้ถึงขนาดนี้" นารูโตะชมแม่

    "แม่แน่อยู่แล้วจะลูกไม่มีงานอะไรที่แม่ทำไม่ได้หรอกลูก แล้ววันนี้ลูกค้าขายเป็นยังไงบ้าง" คุชินะถามซากุระที่นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะ

    "ก็ค้าขายได้ดีค่ะ พ่อสอนพวกเราซื้อของไปขายต่อด้วยค่ะ" ซากุระพูดพรางตักซุปเข้าปาก 

    "อืมนายสอนลูดได้ดีนี้มินาโตะ อีกไม่นานลูกเราคงกลางเป็นคนรวยแล้วละมัง" คุชินะชมสามีของเธอ และพลางขำไปด้วย

    "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคุชินะ เอาล่ะถ้ากินเสร็จแล้วเรามาช่วยล้างจากกันเถอะน่ะ" มินาโตะพูดตัดจบ ทั้งสี่ช่วยกันล้างจานและเข้านอน ซากุระเขียนบันทึกของเธอและวาดรูปประกอบ ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้พบในวันนี้ ก่อนที่เธอจะกับไปนอนที่เตียงของเธอ ทั้งสี่ได้หลับลงในบัดดลท่ามกลางรัตติกาลที่ได้เข้าปกคลุม


    ********


         กลางดึกคืนหนึ่งซากุระ เธอเริ่มนอนละเมอ และตื่นขึ้นมาเธอกวาดตามองไปรอบ ๆ ภายในห้องที่มืดมนต์และแสงจันทร์ที่ทอดส่องผ่านหน้าต่าง เธอเดินลุกออกมาจากเตียงและเดินไปที่หน้าต่าง หมายจะมองออกไปที่สวนเพื่อดูอะไรคลายเคลียนด ทุกครั้งที่เธอละเมอเธอมักจะจุดเทียนและไปห้องสมุดเพื่อหาหนังสืออ่านเล่น ฆ่าเวลา แต่ครั้งนี้เะอไม่อยากหาอะไรอ่านแล้วเพราะเธออ่านจนครับหมดแล้ว

         เด็กสาวทอกสายตามองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดคลืน ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใด ๆ เพราะทุกชีวิตต่างพากันหลับไหล่ไปหมด เธอมองออกไปราวกับจะหาอะไรบ้างอย่างจนกระทั้ง

    (นั้นมันอะไรน่ะ) เด็กสาวพูดในใจเมื่อได้พบเห็นแสงไฟจำนวนมากมาย ท่อประกายเต็มพืชสวนไร่นาเต็มไปหมด มันมีตั้งแต่แสงสี ฟ้า แดง เหลื่อง เขียว ขาว ฯลฯ เต็มไปหมด และเธอก็ได้ยินเสียงเพลงที่ถูกบรรเลงขึ้นมามันเป็นเสียงที่แผวเบาและไพเราะสะเนาะหู มันเป็นความรู้สึกประหลาดอย่างมากที่เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต เธอรีบออกจากหน้าต่างและเปิดประตู ที่พาไปสู่บันไดนอกบ้าน เธอรีบเดินลงมายังพื้นดินโดยไม่ได้ใส่รองเท้า เธอเดินเข้าไปในสวน สว่างจาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

         เธอก้าวเดินไปอย่างระมัดระวัง และมองไปยังลูกไฟต่าง ๆ มากมายด้วยความสงสัยแต่ระมัดระวัง เสียงเพลงและเสียงหัวเราะดังไปทั่วไร่น่าและสวนผักอย่างสนุกสนาน  จนกระทั้งเธอได้เดินไปถึงไร่องุ่นเธอก็ได้มองเข้าไปในแสงที่เปล่งประกาย ก็พบว่า

    "แฟรี่"

         เด็กสาวพูดขึ้นมาทันที่ด้วยตาลุกว่าว เพราะแสงพวกนี้นั้นคือเหล่าบรรดาแฟรี่ พวกมันมีลักษณะเหมือนกับมนุษย์แต่มีขนาดแค่ 3 นิ้วครึ่ง และพวกมันยังมีปีกที่เหมือนกับแมลงปีกแข็ง มีทั้งเพศชายและหญิง รวมทั้งเด็ก ๆ อีกด้วย แฟรี่นั้นเท่าที่ซากุระเคยอ่านมานั้นพวกมันมีพลังเวทมนต์ ซึ่งสวนใหญ่จะเป็นธาตุ ดิน ลม  น้ำ และแสง พวกมันมีลักษณะนิสัยที่ขี้เล่นและชอบความสนุกสนาน ที่ไหนก็ตามที่มีพวกแฟรี่ที่นั้น จะมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก เพราะพลังจากแฟรี่จะทำให้พื้นดินที่เคยแห้งแล้งหรือเสื่อมโทรมมาก่อนกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

    "หวัดดีแม่หนูน้อย"

    "อ้า!!"

    แฟรี่ตนหนึ่งพูดขึ้นขณะอยู่บนไหล่ของซากุระ ทำให้เด็กสาวตกใจอย่างมาก แฟรี่ตนนี้เป็นเพศหญิงสวมใสเสื้อกระโปร่งสีฟ้า เปล่งแสงสีขาวสว่างออกมา

    "ขอโทษที่น่ะที่ทำให้เธอตกใจ"

    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะหนูไม่ถือโทษโกรธใครหรอกค่ะ" ซากุระหายตกใจ โดยที่สายตายังคงจ่องมองประกายแสงจากตัวแฟรี่"แต่พวกคุณเป็นใครหรือแล้วมาทำอะไรในไร่สวนของครอบครัวหนูหรือ"

    " พวกเราเป็นแฟรี่ ที่อพยพมาหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่น่ะ จ่ะ" แฟรี่ตนนั้นตอบ "เพราะแผ่นดินเดิมของเราถูกบุกรุกโดยพวกออร์คทำให้พวกเราต้องหาที่อยู่ใหม่น่ะจะ"

    "อ่อ หนูเข้าใจค่ะว่าพวกคุณมาหาที่อยู่ใหม่ แต่พวกคุณจะอยู่ที่นี้เลยหรือ" ซากุระถาม

    "ใช้แล้วจะพวกเราจะอยู่ที่นี้ ที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีอาคมของนางไม้และพรายน้ำ ทำให้บริเวณนี้ปลอดภัยจากสัตว์ร้ายอย่างมาก พวกเราจะลงหลักปักฐานที่นี้และไม่ว่าอย่างไรพวกเราขออนุญาติอยู่ที่นี้ได้ไหม" แฟรี่สาวพูดจาอ่อนวอนขออนุญาติจากเด็กสาว

    ซากุระพยายามครุงคิดต่าง  ๆ นานาว่าจะให้พวกเขาเหร่านี้มาอยู่อาศัยหรือไม่น่ะ

    "งั้นหนูจะลองไปถามพ่อกับแม่ของหนูดูก่อนนะ ค่ะ" ซากุระพูดด้วยเสียงที่สุภาพ

    "ได้อยู่แล้ว งั้นรีบมารีบไปน่ะ" แฟรี่สาวยิ้ม ก่อนที่เด็กสาวจะรีบเดินกลับไปที่บ้านพรางหันมามองที่สวนซึ่งบัดนี้เต็มไปด้วยแสงต่างมากมาย เธอเดินขึ้นบันไดและปิดประตูก่อนจะมุ่งไปที่เตียงของพ่อแม่เธอ

    "ท่านพ่อท่านแม่ตื่นเร็วค่ะ รีบตื่นเร็วค่ะ" ซากุระรีบเขาไปเขย่าปลุกพ่อกับแม่ของเธอที่กำลังนอนอยู่

    "ซากุระนี้ มันยังดึกอยู่น่ะลูก ลูกจะมาปลุก อะไรตอนนี้หรือ" มินาโตะพรางตื่นขึ้นมาพร้อมกับคุชินะด้วยเสียงงัวเงี้ย

    "มองออกไปนอกหน้าต่างสิค่ะตรงนั้นมีพวกแฟรี่มาตั้งถิ่นฐานในบ้านของค่ะ"

    เด็กสาวพูดทำให้มินาโตะเดินไปที่หน้าต่าง ตาที่อยู่ในสภาวะจะหลับถึงกับลุกโพลงขึ้นมาทันที่เมื่อพบว่าพืชนสวนไร่นานั้นเต็มไปด้วยแสงไฟมากมายมหาศาล

    "คุชินะ มาดูนี้เร็วสิเธอต้องไม่เชื้อแน่ว่าเราเจออะไร"

    "นี้มินาโตะ นายคงไม่ได้ คุณพระช่วย !!"

         คุชินะถึงกับตกใจทันที่ เพราะเธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในไร่สวนของเธอ ถึงเธอจะพบมาก่อนในการผจนภัยของเธอตลอด 4 ปีมานี้และเธอก็รู้ว่าพวกมันคือแฟรี่

    "นี้มันเกิดอะไรขึ้นซากุระ ทำไมไร่สวนของเราถึงสว่างจาแบบนี้" มินาโตะหันมาถามลูกสาว

    "พวกแฟรี่เขาบอกหนูว่าจะอพยพเข้ามาอยู่ในไร่นาของพวกเราค่ะ"

         มินาโตะนึกขึ้นได้ทันที่ ว่าตลอดการเดินทางนั้นเขาเคยเห็นแฟรี่มาก่อนเหมือนกัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ที่พวกมันมาอยู่ในไร่

    "มาเถอะค่ะ พวกเขาต้องการจะคุยกับท่านพ่อและท่านแม่ค่ะ"

         ซากุระรีบดึงมือบิดาให้ออกจากบ้าน ทั้งสามได้เดินออมานอกบ้านและมุ่งตรงมาที่ไร่สวน แฟรี่ที่เป็นราชินีได้บินมาอยู่ตรงหน้าพร้อมกับเหร่าบริวาร เธอเป็นแฟรี่ที่สวยที่สุดในหมู่ เธอมีผมสีน้ำตาล เสื้อกระโปร่งที่ทำจากใบไม้ ดวงตาสีฟ้า

    "สวัสดีท่านผู้เป็นเจ้าของพื้นดินนี้ขออภัยด้วยนะที่พวกเรามารบกวนพวกท่าน" ราชินีแฟรี่โค้งคำนับ

    "ไม่เป็นไรหรอก ข้าไม่ไม่ถือสาพวกท่านหรอก เรารู้ดีว่าพวกท่านเข้ามาในสวนของพวกเรา จริงหรือเปร่าที่พวกท่านจะมาอยู่อาศัยที่นี้" มินาโตะถาม

    "ใช้แล้วและพวกเราจะมาอยู่ที่นี้ พวกท่านจะให้พวกเราอยู่ได้หรือไม่" แฟรี่ราชินีถามด้วยเสียงเรียบพรางยิ้ม

    " อืมถ้าพวกท่านมาอยู่ไม่เป็นไรหรอก " คุชินะพูดขึ้น "เราเองต้องการมีเพื่อนบ้านเหมือนกัน แต่เราก็มีข้อแรกเปลี่ยนน่ะ หนึ่ง พวกท่านทั้งหลายจะต้องช่วยกันดูแลพืชสวนไร่นาและช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิต ของพวกเราด้วยน่ะ สองพวกท่านต้องคอยเป็นหูเป็นตาเฝ่าระวังสัตว์ป่าให้กับพวกเราน่ะ สามผลผลิตในสวนและไร่นาเราแบ่งให้พวกท่านกินและใช้ได้  แค่นี้ก็พอแล้วแหละ "

    "ข้อเสนอของพวกท่านพวกเรายอมรับ พวกเนราจะปฏิบัตตามที่พวกท่านได้เสนอมา"

         คำพูดของคุชินะทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี นั้นคือ พวกแฟรี่ได้มีโอกาศตั้งถื่นฐานอยู่ในสวนและไร่นา โดยแรกกับการดูแลพืชสวนและผลผลิตต่าง ๆ รวมทั้งคอยเป็นหูเป็นตา ในเรื่องความปลอดภัยให้ด้วยผลสุดท้ายทุกอย่างจบด้วยดี ทั้งสามกลับเข้าไปนอนในบ้านต่อ สวนพวกแฟรี่ก็จัดแจงสร้างบ้านเรือนของตนตามพืชสวนไร่นา



    ********




















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×