ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Naruto ) Naruto The paradise of Atlantis ผจนภัยดินแดนแอตเลนติส

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 15 หมู่บ้านเดรอน

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 63








         



         ทางด้านการฝึกฝนวิชาต่างๆ ของพี่น้องอุซึมากิ-นามิคาเสะ นั้นยังคงดำเนินต่อไป เป็นเวลาหนึ่งเดือน ตอนนี้นารูโตะและซากุระเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นแล้วพวกเขาเริ่มสามารถใช้วิชาคาถานินจาต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแครวแคลว จนทำให้มินาโตะ และคุชินะภูมิใจอย่างมากที่ลูก ๆ ของพวกเขาเริ่มเรียนรู้การเป็นนินจามากขึ้น

    แกร็ง แกร็ง

         เสียงมีดคุไนกระทบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย  โดยเด็กทั้งสองกำลังต่อสู้ฝึกซ่อมกันอย่างให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโดยไม่ยอมแพ้ ทางด้านคุณพ่อของทั้งสองก็คอยดูอยู่ห่าง ๆ

    "คาถาแยกเงา"

    "คาถาลูกไฟ"

         นารูโตะประสานอินกันจนเกิดร่างอีกร่างหนึ่งขึ้นมาแล้วพุ่งตรงไปที่ซากุระ ทางด้านสาวน้อยก็ประสานอินจนเกิดลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้ามาใส่นารูโตะ แต่นารูโตะก็หลบทัน และกระโดดขึ้นไปบนกิ้งต้นไม้ เมื่อได้จังหวะก็กระโจนลงมาใส่เด็กสาวแต่เด็กสาวหลบทัน มือที่ถือมีดคุไนตั้งท่ารับการปะทะจากพี่ชายของเธอ 

    แกร็ง แกร็ง

         ทั้งสองฟาดฝันอย่างเอาเป็นเอาตายจนกระทั้งนารูโตะขัดขาซากุระจนล้มไปนอนกองกับพื้นและเอามีดคุไนจ่อที่คอหอยของเธอ

    "เสร็จพี่แล้ว ซากุระ"

    ปุ้ง

    "อะไรกัน"

         นารูโตะไม่เชื้อสายตาเมื่อร่างของน้องสาวนั้นกลายเป็นตอไม้ ฉับพลันซากุระก็มาปรากฏอยู่ข้างหลังนารูโตะพร้อมกับเอามีดจ่อที่คอหอยของนารูโตะ นารูโตะเริ่มรู้แล้วว่าเสียท่าน้องสาวของเขาไปเรียบร้อยแล้ว

    "เยี่ยมมากเลยนารูโตะ ซากุระ ลูกสองคนทำได้เยี่ยมมาก" มินาโตะตบมือด้วยความภูมิใจที่ลูก ๆ ได้มีพัฒนาการทางด้านนินจามากขึ้น "นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าลูกจะฝีมือพัฒนาได้มากขนาดนี้"

    ซากุระเอามีดที่จอคอพี่ชายออกและหันมาหาผู้เป็นบิดา

    "ก็เพราะท่านพ่อสอนพวกเรามาดี พวกเราถึงได้มีวันนี้ไงค่ะ" ซากุระพูดด้วยเสียงใส ด้วยความภูมิใจ

    " พ่อน่ะสุดยอดไปเลย พวกเราถึงได้เป็นยอดนินจาได้อย่างไงล่ะ" นารูโตะชูนิ้วโป่ง ให้กับบิดาของตน

    "ลูกเองก็ควรภูมิใจตัวเองด้วยน่ะ ที่ลูกสามารถทำได้วันนี้ก็เพราะพวกลูกมันฝึกฝนกันเป็นประจำอย่างไรล่ะ "มินาโตะยิ้มอย่างภูมิใจ ที่ลูกของพวกเขาเริ่มจะเป็นนินจาได้แล้ว

    " 55555 พี่ก็ยังแพ้หนูเหมือนเดิมเลยน่ะ" ซากุระแซวพี่ชายของเธอ

    "อะไรน่ะ ซากุระ พี่ไม่ได้แพ้เธอซะหน่อยพี่แค่ เผลอไปเท่านั้นเองแน่จริงก็มาสู้กันอีกรอบไม่หละ หะ" นารูโตะพูดด้วยความหัวเสียนี้เป็นครั้งที่เท่าไหลก็ไม่รู้ที่แพ้ให้กับน้องสาวของตนเอง 

    "ได้เดียวหนูจัดหมัดช้างสารให้พี่แน่นอน"

    "เอาน่าลูกรัก ใจเย็นก่อนน่ะ" มินาโตะเข้ามาห้ามศึกระหว่างสองพี่น้อง "แพ้ชนะไม่สำคัญหรอกขอแค่ว่าพวกลูกมีประสบการณ์ในการเป็นนินจาแค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว"

    คำพูดของผู้เป็นบิดาทำให้เด็กทั้งสองที่จ่องตาเขม็งกันผ่อนคลายลงไปได้บ้าง

    "จริงสิพ่อจะสอนวิชา เทพสาฟ้าเหินให้พวกเราได้หรือยัง" นารูโตะยิงคำถามมาหาผู้เป็นบิดา ทำให้ผู้เป็นบิดาขมวดคิ้ว

    "เท่าที่พ่อดูจากฝีมือลูก ๆ มาแล้วลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมากงั้นพ่อจะสอนพวกเจ้าให้" มินาโตะตบมือหฯึ่งที่

    "ไชโย" เด็กทั้งสองประสานเสียงด้วยความยินดีพร้อมกันที่พ่อสุดที่รักจะสอนวิชาขั้นเทพให้พวกเขาแล้ว หลังจากที่เฝ่าคอยเวลานี้มานานมากแล้ว

         ตอนนี้มินาโตะได้พาลูก ๆ มาที่สนามฝึกซ่อมที่เขาได้เตรียมเอาไว้ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

    "เอาและเริ่มแรก วิชานี้เป็นวิชาที่ต้องใช้จักระมหาศาลและการควบคุมที่แม่นยำ " มินาโตะพูดอธิบายให้ลูกฝัง และเริ่มสาธิต "ขั้นตอนแรกลูกต้องทำสัญลักษณ์ไว้ที่แผ่นกระดาษนี้ และเอามาหอผันกับคุไนของลูก จากนั้นก็เขวี้ยงมันไปที่ต้นไม้นั้น"

         มินาโตะสาธิตด้วยการประสานอินลงบนกระดาษแผ่นเล็กแผ่นหนึ่งที่ติดกับคุไน ลูกทั้งสองก็เริ่มทำตามที่พ่อสอน หลังจากที่ทำตามเสร็จเรียบร้อยแล้ว มินาโตะได้เขวี้ยงคุไนไปที่ต้นไม้สูง ก่อนที่ร่างจะกลายเป็นแสงและขึ้นไปบนต้นไม้อย่างฉับพลัน นารโุตะซากุระก็ทำตามที่พ่อของตนได้ทำ ทำให้ทั้งสองสามารถขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้นั้นได้สำเร็จ

         มินาโตะเองแทบไม่เชื้อสายตาว่าลูก ๆ จะฝึกฝนได้เร็วปานนี้ ที่จริงวิชานี้ต้องใช้เวลาและสติอย่างมากกว่าจะฝึกได้

    "เป็นไงล่ะ วิชาดูง่ายจังเลยะ ไม่เห็นยากอย่างที่คิดเลย" นารูโตะฉีกยิ้มอย่างภูมิใจ ที่ตัวเองสามารถทำวิชานี้ได้สำเร็จ

    "จริงด้วยวิชานี้ดูง่ายจังเลย ไม่เห็นยากอย่างที่คิด" ซากุระพูดแบบเดียวกับพี่ชาย

    "จริงอยู่ว่าวิชานี้มันง่ายสำหรับลูก แต่แท้จริงแล้วคนที่จะฝึกวิชานี้ได้ถือว่าหายากมากๆ เลยด้วยซ่ำ" มินาโตะพูดพรางมองลูกทั้งสอง

    "ทำไมหรือท่านพ่อ" นารูโตะถามด้วยความสงสัย

    "นั้นก็เพราะวิชานี้ คนที่ฝึกต้องมีวิธีควบคุมจักระและความแม่นยำให้อยู่กับสมาธิอย่างมากแต่ที่พวกลูกทำได้เร็วปานนี้ก็เพราะจักระ 9 หางในตัวลูกนั้นแหละที่เป็นตัวตนเหตุทั้งหมดนี้เอง " มินาโตะอธิบายให้ลูกฟัง โดยที่เด็กทั้งสองยังคงฟังอย่างตั้งใจ

    "งั้นที่พวกเรา ทำได้ก็เพราะพลังในตัวของพวกเราใช้ไหมครับ" 

    "ใช้แล้วลูก เอาล่ะมาฝึกกันต่อเถอะ เดียวพวกเราจะได้กลับบ้านกันแล้ว"  

         มินาโตะ พาลูกทั้งสองกลับไปฝึกฝนอีกครั้งครั้งนี้เด็กทั้งสองทำดีกว่าแต่ก่อน รวมทั้งยังสอนการทำสัญลักษณ์ใส่ตามจุดอื่น ๆ และวาร์ปไปตามที่ต่างๆ ซึ่งเด็กทั้งสองก็ทำได้ดีเยี่ยมมาก ๆ นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเด็กสี่ขวบสองคนจะสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ได้ถึงเพียงนี้

    "ยาฮู สนุกเป็นบ้าเลย ........" นารูโตะเริ่มเป็นลม และร่างของเด็กชายก็ได้ลงไปนอนกับพื้น 

    "นารูโตะ ลูกเป็นอะไรไป ซากุระ!!"  มินาโตะรีบมาดูลูกชายเมื่อหันกลับไปก็พบว่าซากุระนั้นก็เป็นลมแบบเดียวกันกับนารูโตะ


    (สงสัยคงใช้จักระมากเกินไปเลยทำให้หมดแรงอย่างรวดเร็ว) มินาโตะใช้วิชานินแยกร่างแล้วให้ ร่างแยกแบกซากุระขึ้นหลังก่อนที่จะเดินหอบลูกทั้งสองออกจากสนามฝึกเพื่อเดินทางกลับบ้าน 

    ณ บ้านของครอบครั้วอุซึมากิ-นามิคาเซะ เวลาเย็น

    "กลับมาแล้วจ่ะ" มินาโตะพูดก่อนจะแบกร่างลูกชายและลูกสาวเดินเข้าบ้าน

    "ยินดีต้อนรับกลับมานะ" คุชินะพูดในมือถือตะหลิวอยู่ในมือ ก่อนที่จะรีบออกมาดูร่างของลูกชายและลูกสาวที่นอนหลับอยู่บนหลังของมินาโตะ

    "มินาโตะ! นารูโตะซากุระ ไปทำอะไรมาถึงได้สลบหมดสติเช่นนี้หล่ะ" เด็กสาวพูดก่อนจะรีบเข้ามาดูร่างของลูกชายและลูกสาวที่หลับอยู่บนหลังของมินาโตะ 

    " สงสัยฝึกหนักไปหน่อย และใช้จักระมากก็เลยสลบแบบนี้แหละ" มินาโตะตอบกลับไปตามตรง คุชินะแสดงสี่หน้าไม่พอใจมินาโตะ ก่อนจะหันไปมองเด็กทั้งสองและถอนหายใจ

    "เฮ้ออ แค่นี้ยังน้อยไปถ้าเทียบกับตอนนายเอาจริง พาลูกไปเช็ดตัวและเข้านอนซะสวนนายก็ลงมากินข้าวเย็นด้วยล่ะอย่าลืมน่ะ" เมื่อจัดแจงเรียบร้อยแล้วเด็กสาวก็เดินเข้าครั้วไป ทางด้าวนเด็กหนุ่มก็แบกลูกทั้งสองไปห้องนอน และเช็ดเนื้อเช็ดตัวเปลียนเสื้อผ้าให้ลูก ๆ ทั้งสอง หลังจากที่ทำภารกิจเสร็จแล้วมินาโตะก็เดินลงมากินข้าวเย็นข้างล่าง

    "ลูกเราฝึกเป็นอย่างไรบ้าง" คุชินะถามขณะตักข้าวเข้าปาก

    "ลูกเรามีพัฒนาการเรียนรู้ไว้มาก ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าเด็กอายุ 4 ขวบจะสามารถเรียนรู้ได้เร็วเพียงนี้ ตอนนี้พวกเขาสามารถใช้เทพสายฟ้าเหินได้แล้ว" มินาโตะกล่าวชมขณะซดน้ำแกง

    "จริงหรือนึกไม่ถึงจริงว่าลูกเราจะเก่งถึงเพียงนี้ นายคงเหนื่อยน่าดูเลยนะตลอดเวลามานี้" คุชินะกล่าวชมในความอุสาหะของมินาโตะ

    "แค่นี้ยังจิป ๆ ไป" มินาโตะยิ้มพรางจองตาของคุชินะจนเธอเขินอาย "งั้นเรามาทำอะไรเหมือนที่เราทำกันบนเตียงนอนดีไหม แต่ครั้งนี้จะเป็นในห้องน้ำรับรองลูกไม่ "

    "พูดบ้า ๆ ฉันจะไม่ยอมทำแบบนั้นอีกแล้วฉันเข็ดตั้งแต่พวกเขาตื่นมาเห็นพวกเราทำอะไรกันแล้ว นายกินเสร็จแล้ว มาช่วยกันร่างจานเถอะนะ หยุดมองได้แล้วตาบ้า และก็หยุดคิดเรื่องที่นายจะทำอะไรฉันได้แล้ว" คุชินะพูดด้วยความเขินอาย หลังจากนั้นสองสามีภรรยาก็ช่วยล้างจานและกลับขึ้นไปนอนในห้องนอนเหมือนเดิม

    *********


    เช้าวันต่อมา

         วันนี้เป็นวันที่มินาโตะให้ลูกได้หยุดพัก ซึ่งกำหนดเวลาหยุดพักยาวไว้ซัก 10 วัน เด็กทั้งสองได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างสงบหลังจากที่ฝึกฝนวิชามานาน ทำให้มีเวลาในการเที่ยวเล่นไปตามที่ต่าง ๆ นานาได้ 




         ทางด้านสาวน้อยซากุระกับพี่ชายของเธอ นั้งพักผ่อนอยู่บนทุ่งหญ้าสีทอง ที่มีแสงแดดส่องลงมาจนเหลืองอาหล่าม พลางมองต้นไม้และเนินเขาสีที่มีต้นไม้ปกคลุม จนมองเห็นไร้นาที่ท่านฮารุกะได้ปลูกเอาไว้ให้พวกเราดูแล ไร่ที่อยู่ตรงหน้าเป็นไร่มันฝรั่ง และแครอท ทางด้านซากุระเองก็ ก็หยิบหนังสือที่เป็นสมุดบันทึกซึ่งมีจำนวน 1000 หน้าขึ้นมาเขียนบันทุกเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝน การทำงานและชีวิตประจำวัน แต่ที่เด่นที่สุดคงจะเป็นภาพประกอบ เพราะเธอวาดภาพได้เสมือนจริงมา จนมินาโตะและคุชินะยังทึ่งกับความสามารถพิเศษของบุตรสาว ภาพที่เธอวาดก็จะเป็น พ่อแม่พี่ชาย บ้าน พืชสวนไร้นา ธรรมชาติรอบ ๆ บ้าน พื้นป่า ภูเขา ก้อนหิน ดอกไม้ ชนิดต่างๆ ภาพสัตว์ป่าต่างๆ การฝึกใช้วิชาและการใช้กระบวนท่า ซึ่งเธอก็วาดออกมาได้เหมือนจริงมาก ๆ ตอนนี้เธอกำลังนั้งวาด ภาพพืชสวนไรนาตรงข้างหน้าอยู่

    "นารูโตะ ซากุระจัง" เสียงหวานของผู้เป็นแม่ดังขึ้นมาทำให้เด็กทั้งสองลุกขึ้นจากพื้นและรีบวิ่งไปหาแม่ของตนที่กำลังเก็บมันฝรั่งอยู่

    "มีอะไรหรือท่านแม่เรียกพวกเรามีอะไรหรือ" นารโตะถามคุชินะ ขณะที่เธอดึงมันฝรั่งขึ้นจากพื้นดินด้วยการใช้เวทมนต์ดึงมันขึ้นมา

    "วันนี้พวกเราจะออกไปเที่ยวสำรวจกันลูกจะไปเที่ยวกันไหม" คุชินะถามและปาดเหงือบนหน้าผาก

    "ไปเที่ยว ผมอยากไปมานานแล้ว" นารูโตะพูดด้วยความตื่นเต็น

    "หนูก็อยากไปเที่ยวด้วยเหมือนกันแต่จะพาหนูไปที่ไหนหรือค่ะ" ซากุระถาม มาดรของเธอ

    "เราจะท่องเที่ยวตามป่าเขากันจะ โดยเราจะเริ่มข้ามเทือกเขาลูกนั้นกัน ตรงนั้นพ่อกับแม่เคยไปมาแล้วบอกไว้ก่อนที่หลังภูเขานั้นเป็นสถานที่สวยงามมาก ๆ เลย" คุชินะชี้ไปที่หลังภูเขา ซึ่งเป็นถูเขาที่สูงมากและเด็กทั้งสองก็ไม่เคยข้ามมาก่อน "เอาล่ะไปเตรียมข้าวของได้แล้วพวกเราจะออกเดินทางกันแล้ว"

    "ได้เลยครับ/ค่ะ" เด็กทั้งสองรีบกลับไปที่บ้านเพื่อเก้บข้าวของ 


         หลังจากที่เก็บข้าวของเสร็จแล้ว สี่พ่อแม่ลูกก็ได้เริ่มต้นออกเดินทางกันทั้งสี่ได้เดินขึ้นไปตามเนินเขาที่มีต้นไม้มากมาย การเดินนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบากแต่สำหรับเด็กทั้งสองแล้วคงไม่เป็นไรมากเพราะมินาโตะนั้นฝึกฝนพวกเขามาเยอะมากแล้ว  ทั้งสี่ยังคงเดินขึ้นไปตามภูเขาจนกระทั้งมาถึงยอดเขาแล้วก็รู้สึกสบายใจที่มาถึงที่หมายทั้งสี่ต่างสูดอากาศหายใจเข้าปอดด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการปีนเขา และนั่งพักด้วยความเหนื่อย

    "โคตรเหนื่อยชิบหายเลยไหนมันถึงสูงขนาดนี้" นารโูตะบ่นออกมาอย่างอารหมณ์เสีย

    "ขาหนูแทบจะเดินต่อไม่ไหวแล้ว" ซากุระทรุดลงไปนั่งกับพื้น ทันที่ด้วยความเหนื่อยอย่างหนัก

    "ปีนเขาก็แบบนี้แหละลูกเอ่ย ลองปีนเขาที่สูงกว่านี้สิรับรองลูกคงเหนื่อยตายเลยแหละ " มินาโตะปาดเหงื่อบนหน้าผาก "แค่นี้ยังจิบ ๆ เลยด้วยซ่ำไป "

    "โห้ พ่อไงไม่บอกผมล่ะว่าเขาลูกนี้มันสูง ผมเกือบเป็นตะคิวกินอยู่แล้ว" นารูโตะบ่นและนั่งลงกับพื้น   "เป็นงี้ผมอยู่บ้านยังจะดีกว่า"

    "นี้ลูก แม่เคยปีนภูเขาสูงกว่านี้อีก แค่นี้ทำเป็นจะยอมแพ้ง่าย ๆ ลูกไม่รู้หรือไงเราคืออุซึมากิ สายเลือดแห่งความอดทน ไม่ย่อท้อกับอุปสรรคอะไรง่ายหรอก ปีนเขาแค่นี้ถือว่า จิ้บ ๆ เลยด้วยซ่ำ" คุชินะว่าลูกชาย

    "อะท่านแม่ค่ะนั้นมันอะไรน่ะ"

    ซากุระชี้ลงไปข้างล่าง ทำให้ทั้งสามพ่อแม่ลูกต่างมองลงไปข้างล่างภูเขาตามที่ลูกสาวชี้ลงไปก็พบว่า




         ข้างล่างนั้นช่างสวยงามเหมือนที่พ่อแม่ได้บรรยายไว้เลยที่เดียว ข้างล่างนั้นมีแม่น้ำที่ไหล่คดเขียวไปมา มีภูเขาและเนินต่าง ๆ มากมาย แสงแดดส่องกระทบกับปุยเมฆที่ลอยอยู่บนฟ้า รวมทั้งพื้นป่าอันเขียมฉะอุ่ม แต่ตรงกลางพื้นป่านั้นกลับพบหมู่บ้านแห่งหนึ่งตั้งอยู่ซึ่งดูจากไกลแล้วน่าจะมีอยู่ซัก 500 หลังคาเรือน รวมทั้งไร่นาและฟาร์ม

    "นั้นมันหมู่บ้านนี้ ตอนที่พ่อกับแม่มาติดที่นี้มันมีหมู่บ้านมาก่อนหรือเปร่าค่ะ" ซากุระถามด้วยความสงสัยเพราะเธอไม่เคยเห็นพ่อแม่ บอกเล่าเรื่องราวตรงนี้มาก่อน

    "เป็นไปไม่ได้ ตอนที่มาสำรวจตรงนี้ครั้งแรกไม่เคยมีหมู่บ้านมาก่อนนี้นะ " มินาโตะพูดอย่างไม่เชื้อสายตาตัวเองเพราะตั้งแต่เขากับคุชินะมาติดที่นี้บริเวณนี้ไม่เคยมีหมู่บ้านมาก่อนเลย

    "จริงอย่างที่นายพูดเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ่ำ ที่จะมีหมู่บ้านอยู่ที่นี้ได้" คุชินะพูดแบบเดิยวกับสามี

    "งั้นจะรออะไรอยู่ไร พวกเราไปทักทายพวกเขากันเถอะ" นารูโตะพูดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นและวิ่งลงไปจากเนินเขา

    "เดียวสินารูโตะ ให้ตายเถอะ" มินาโตะรีบตามลูกชายสุดแสบลงไป ซากุระคุชินะไม่รอช้ารีบตามลงไปเหมือนกัน


         ตอนนี้ทั้งสี่พ่อแม่ลูกต่างเดินลงจากภูเขา ซึ่งการเดินลงมานั้นก็ถือได้ว่าลำบากเอามาก ๆ เพราะเต็มไปด้วยหินที่ ทำให้การเดินลงมานั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก หลังจากที่ลงมาได้สำเร็จทำเอาทั้งสี่ถึงกับเหนื่อยหอบเพราะนึกไม่ถึงว่าตอนลงจะลำบากถึงเพียงนี้

         หลังจากที่ลงมาแล้ว ทั้งสี่ก็เดินไปตามถนน ซึ่งระหว่างทางก็พบไร่นา ต้นข้าว และพืชพักผลไม้ที่อกดอกออกผล อย่างสวยงามและตามไร่นา 2 ข้างทางนั้นก็พบผู้คนมากมายที่ใช้วัวป่าออรอชในการทำเกษตร โดยคนที่อาศัยอยู่ที่นี้นั้น เป็นพวกมนุษย์หมาป่ากับเหล่าสาวอเมซอน รวมถึงมนุษย์เผ่าจิ้งจอกที่มีหู หาง และกรงเล็บเหมือนจิ้งจอก มินาโตะให้ลูกทั้งสองมาอยู่ข้างหลังเพราะยังคงมีอดีตฝั่งใจกับพวกมัน ตอนที่พวกมันกำลังจะข่มขืนคุชินะ

         แต่สำหลับเด็กทั้งสองกลับพบว่าเหล่ามนุษย์หมาป่าที่เคยได้ยินมาจากนิทานที่พ่อมักเล่าว่าเป็นพวกป่าเถือน สกปรก เลวซามต่ำช้า แต่นี้กลับต่างกันมาก พวกมนุษญ์หมาป่าที่อยู่ที่นี้นั้นกลับมีลักษณะขนสวยขาวสะอาดใบหน้า หน้าตาดูเป็นมิตรมากกว่าจะป่าเถื่อน อย่างในนิทาน

         หลังจากที่เดินมาถึงซุ่มประตูที่ประดับสวยงาม ทั้งสี่ก็ได้พบกับบ้านเรื่อนที่สร้างขึ้นจากหินขาวที่ฉาบปูนสีทราย บ้านเรื่อนต่าง ๆ สวนใหญ่สร้างเป็นบ้าน 2-3 ชั้น กระจกบ้านเลื่อนต่าง ๆเป็นแบบทั่ว ๆ ไป คนที่อาศัยอยู่ที่นี้เป็นเหล่าหญิงสาวอเมซอนกับมนุษย์หมาป่า และยังมีมนุษย์หมาป่าประเภทที่เรียกว่า ฮิววูฟ มันเป็นมนุษย์หมาป่าที่มีลักษณะ มีหู หาง และกงเล็บเหมือนหมาป่า แต่รูปลักษณะที่เหลือเป็นมนุษย์ ซึ่งมีทั้งชายและหญิง 

         ตอนนี้ชาวบ้านทั้งหมดที่กำลังทำกิจกรรมอยู่ต่างมา หยุดกิจกรรมและมาดูผู้มาใหม่ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ทุกคนต่างสงสัยอย่างมากเพราะไม่เคยมีแขกแบบนี้มาก่อนยกเว้น พวกมนุษย์หมาป่าเผ่าอื่น ๆ ที่เข้ามาจีบสาว ๆ ในหมู่บ้าน


    "ยินดีต้อนรับสหายผู้มาจากต่างถิ่น" มนุษย์หมาป่าขนสีขาวสะอาดรูปลักษณ์ดูราวกับนักรบที่แข็งแรง และเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ออกมากล่าวต้อนรับผู้มาใหม่

    ครอบครัวอุซึมากิ-นามิคาเซะกวาดตามองไปรอบด้วยความไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

    "ขอบคุณมากครับที่ต้อนรับพวกเรา เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ" มินาโตะและครอบครัวโค้งคำนับ 

    "พวกเจ้ามาจากไหนหรือพวกเราเองก็ไม่เคยพบแขกอย่างพวกเจ้ามาเยือน" มนุษย์หมาป่าที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านถาม

    "พวกเรามาจากหลังภูเขานั้นครับ" มินาโตะชี้ไปที่หลังภูเขา จนทำให้หัวหน้าหมู่บ้านกระดกหัวด้วยความเข้าใจ

    "อย่างนี้นี้เอง แต่ข้าไม่เคยพบพวกเจ้ามาก่อนจริงสิพวกเจ้าชื่ออะไรล่ะ พวกเราอยากจะทราบชื่อของพวกเจ้าแล้ว" 

    มนุษย์หมาป่าผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านถาม ทำให้มินาโตะตัดสินใจบอกชื่อแซ่ของเขาและครอบครัว

    "กระผมชื่อ อุซึมากิ-นามิคาเซะ มินาโตะ และนี้คือภรรยาของผม  อุซึมากิ-นามิคาเซะ คุชินะ และเด็กสองคนนี้คือ อุซึมากิ-นามิคาเซะ นารูโตะ และซากุระ" มินษโตะพูดแนะนำครอบครัวให้หัวหน้าหมู่บ้านฟัง

    "อืม ยินดีที่ได้รู้จักนะ มินาโตะ คุชินะ นารูโตะ ซากุระ ข้าชื่อ เอธซอส ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้" มนุษญ์หมาป่าเอธซอสพูดแนะนำตัว

    "จริงสิแล้วที่นี้ชื่ออะไรหรือครับ" นารูโตะที่หลบอยู่หลังบิดาของตนถามขึ้นมา 

    "ที่นี้นะหรือที่นี้คือหมู่บ้านเดรอน" เอธซอส พูดแนะนำ

    "แล้วพวกท่านมาจากไหนหรือค่ะ เพราะท่านพ่อท่านแม่บอกเราว่าที่นี้ไม่เคยมีหมู่บ้านมาก่อนเลย" ซากุระพูดทำให้เอธซอสกระดกคิว

    "เดียวพวกเจ้าจะได้รู้เองมาเถอะมารวมงานกับเราดีกว่านะวันนี้เป็นวันเทศการฤดูใบไม้ผลิ" เอธซอสพูดชวนหลังจากนั้น เขาก็ได้พาครอบครัวของมินาโตะพาไปเดินชมตามบ้านเรื่อนต่าง

         ที่นี้นั้นถือได้ว่าสวยงามมากนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าพวกเขาจะสร้างสรรค์หมู่บ้านในฝันได้ เหล่าผู้คนที่นั้น โดยเฉพาะมนุษย์หมาป่า สวนใหญ่นั้นสืบเชื้อสายมาจากเหล่านางไม้แลพพรายน้ำทำให้พวกมันมนิสัยรักสงบและกินพืชผลไม้ได้ ส่วนเหล่าสาวอเมซอนนั้นพวกเธอก็เดินทางมาตั้งถิ่นฐานรวมกัน สวนเผ่ามนุษย์หมาป่า ฮิววูฟนั้นก็อาศัยอยู่ตามติ่งแหลมมิโตะมานานมากแล้วแต่ก็ยังมีบางส่วนกระจัดกระจายอยู่ตามทวีป 

         นารูโตะและซากุระต่างสนุกสนานด้วยการวิ่งเล่นกับบรรดาเหล่าเด็ก ๆ ในหมู่บ้านพวกเขาต่างพากันตื่นตะลึงกับวิชานินจาที่ทั้งสองได้ใช้เพราะ ที่นี้ไม่เคยมีใครใช้วิชานินจาได้มาก่อนนอกจากเวทมนต์  

    "คาถาแยกร่าง"

    ปุ้ง

    นารูโตะ ซากุระ ประสานอินจนเกิดขวัญขึ้นมาเผยให้เห็นร่างแยกของพวกเขา 

    "สุดยอดไปเลย พวกนายทำได้อย่างไรกันนะ" ลูกมนุษย์หมาป่าถามด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่เคยมีใครในทวีปนี้ทำได้อย่างนี้

    "มันคือพลังจักระน่ะ ในโลกนินจานั้นจะมีพลังพวกนี้ไหล่เวียนอยู่ตามธรรมชาติอย่างมาก " ซากุระอธิบายก่อนที่ร่างแยกจะหายไป

    "สุดยอดไปเลย แต่พวกนายรู้ไหมที่โลกนี้นั้นเรามีสิ่งที่เรียกว่าเวทมนต์ ซึ่งมันก็ทดแทนจักระได้เหมือนกันนะ" เด็กสาวอเมซอน อธิบาย

    "เวทมนต์หรือ พวกนี้พ่อแม่ของเราก็มีเหมือนกันนะ" นารูโตะพูดพรางนึกถึงกิจกรรมชีวิตประจำวันต่าง ๆ ที่พ่อและแม่มักจะใช้เวทมนต์ในการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นานา


    "นายช่วยแสดงวิชาต่างหน่อยสิพวกเราอยากจะเห็นแล้วนะ"

    "ได้เลยเดียวเราจะแสดงให้ดู"

         ซากุระ และนารโุตะยังคงสนุกสนานกับเหล่าเด็กจนกระทั้งพวกผู้ใหญ่เรียกให้มาร่วมตัวกันที่โต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่ตรงจัตุรัสของหมู่บ้าน ทั้งหมดจังเดินไปนั่งประจำโต๊ะอาหาร บนโต๊ะอาหารที่ทำจากไม้แกะสลักอย่างดี นั้นมีอาหารต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น




    เนื้อวัวป่าออรอชทอด


    หมูซอสเครื่องเทศกับมันฝรั่ง




    มักกะโรนีชีส



    มันฝรั่งไส้ชีส




    เค้กช็อกโกแลตยักษ์

         อาหารแต่ระหว่างมีรสชาติที่อร่อยมากสำหรับนารูโตะและซากุระแล้ว อาหารพวกนี้ถือได้ว่าเป็นของแปลกใหม่สำหรับพวกเขา มันมีรสชาติ เผ็ด กลมกล่อม หวาก เค็ม อาหารครั้งนี้ถือได้ว่าถูกปากพวหเขาอย่างมาก บนโต้ะอาหารนั้นชาวบ้านต่างพูดคุยแรกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ นานากับมินาโตะและคุชินะ โดยสวนใหญ่ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการมาติดอยู่ที่นี้ รวมทั้งเรื่องราวของมนุษย์เพราะชาวบ้านที่นี้ไม่เคยพบเจอมนุษย์มาก่อนนอกจากได้ยินเป็นตำนานเล่าขานเท่านั้น แต่นี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีมนุษย์มาร่วมโต๊ะงานเลี้ยง

         และจักการซักถามเรื่องราวต่างเกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งนี้ ทั้งสีได้รับคำตอบว่า หมู่บ้านแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ  2 ปีก่อนโดยผู้ที่สร้างส่วนใหญ่เป็นลูกหลานที่มีเชื้อสายนางไม้และพรายน้ำ พวกเขาได้รังสรรค์หมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ที่นี้ถูกออกแบบให้มีโรงพยายบาลหมู่บ้าน โรงเรียน ตลาด โบสถ์พระมารดา โรงสี และอีกมากมาย 

         หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาเต้นรำกันแล้ว เหล่าแขกทั้งหมดลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและไปที่เวที่ที่จัดแต่งอย่างสวยงาม






         เพลงจากวงดนตรีต่างเริ่มบรรเลงเพลงขึ้นมา ประกอบไปด้วยปี่ ขลึ่ย กลอง ที่บรรงเลงเพลงอย่างไพเราะ และเสนาะหู สวนผู้คนก็ต่างพากันเต้นรำ กันโดยมีการจับคู่ของตัวเองเต้นรำ มินาโตะจับคู่กับคุชินะ สวนนารูโตะจับคู่กับซากุระ

         การเต้นรำยังคงเป็นไปอย่างรื่นรมย์ และสนุกสนานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จากทุกคนที่เป็นมิตร การเต้นรำและความสนุกสนานยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั้งถึงเวลาเย็น ตอนนี้เป็นเวลาที่ครอบครัวมินาโตะต้องถึงเวลาเดินทางกลับกันแล้ว

    "พวกเราขอขอบคุณ อาหารและงานเลี้ยงอันสนุกสนานพวกนี้นะครับ" มินาโตะและครอบครัวโค้งคำนับเหล่าชาวบ้านและหัวหน้าหมู่บ้าน

    "ไว้พวกเจ้าจะมาหาพวกเราใหม่ได้ตลอดเลยนะ ที่นี้พร้อมต้อนรับพวกเจ้าเสมอ" เอธซอสกล่าว

    "ผมไม่อยากกลับจริงเลย เรากำลังสนุกอยู่เลยด้วยซ่ำ" นารูโตะทำหน้าง่อนใส่พ่อ

    "ไม่ได้ลูกนี้ใกล้ อาทิตย์ตกดินแล้ว หากเราไม่กลับบ้านไป เราจะต้องข้างอยู่ที่นี้นะ เพราะฉะนั้นกลับเถอะลูก" มินาโตะพูดกับลูกชาย

    "ก็ได้ครับ" นารูโตะพูดอย่างน้อยใจ

    "ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับมิตรภาพ กับพวกท่าน" คุชินะกล่าวเสียงใส่

    "ขอให้พวกท่านเดินทางกลับอย่างปลอกภัยนะ อ่อ เราจะส่งคนของเราไปส่งพวกเจ้าได้ไหม เพื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้น"  เอธซอส พูด

    "ได้เลยครับงั้นพวกเราขอลาก่อนนะครับ"  มินาโตะกล่าวลาพร้อมโค้งคำนับ

    "ลาก่อน"

         ทุกคนในหมู่บ้านต่างมากล่าวลา ครอบครัวมินาโตะ  ตอนนี้ทั้งสี่ได้เดินออกจากหมู่บ้านโดยมีมนุษย์หมาป่า สองตัวที่เอธซอสส่งมาคุมกันให้เดินทางปลอกภัยตามมาด้วย ทั้งหมดเดินขึ้นเขาอย่างยากลำบากตามเคย ซึ่งหลังจากที่กลับมาถึงบ้านมนุษยหมาป่าสองตัวก็เดินจากไป ทั้งสี่กลับมาที่บ้านด้วยสภาพที่เหนื่อยหอบอย่างมาก หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็เขานอน ทางด้านซากุระ เองก็จดบันทึกและวาดภาพต่าง ๆ ที่วันนี้เธอได้พบมา ลงบนหนังสือเล่มโปรดของเธอ ก่อนจะกลับไปนอนที่เตียงของเธอ





    **************


















































    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×