ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 13 บ้านหลังใหม่ของ ครอบครัว
หลังจากที่มินาโตะและคุชินะได้กลับมาหาลูก ๆ ที่พลักพรากจากกันไป 4 ปี เด็กทั้งสองมีแต่ความสุขที่ได้อยู่ใต้อ่อมกอดอันแสบอบอุ่นของพ่อแม่ เวลานอนเด็กทั้งสองนั้นจะมีพ่อแม่คอยนอนกอดอยู่ตลอดเวลา หรือแม้แต่เวลาตื่นเด็กทั้งสองพยายามคิดว่านี้เป็นเพียงฝันแต่ความจริงแล้วนี้ไม่ใช้ฝันมันคือความจริง ความจริงที่ว่าพ่อแม่อยู่ข้างพวกเขาเสมอ ทั้งสองได้เล่าเรื่องราวความเป็นมาของพวกเขาว่าเป็นคนจากหมู่บ้านนินจาโคโนฮะ รวมทั้งสาเหตุที่มาติดอยู่ทวีปนี้ และยังได้เล่าเรื่องราวการผจนภัยของพวกเขาตลอด 4 ปี ที่พวกเขาไม่อยู่ด้วยกัน รวมทั้งตอนที่มินาโตะมาช่วยคุชินะ จากนินจาคุโมะ
"ในตอนนั้นมีนินจาจากคุโมะมาลักพาตัวแม่ ตอนนั้นแม่กลัวมาก ๆ " คุชินะเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ลูก ๆ ฟังขณะที่อยู่ใต้ต้นไม้พร้อมมินาโตะ "แม่แทบสิ้นหวังอย่างมากคิดว่าคงไม่มีใครมาช่วยแล้ว"
"และจากนั้นพ่อก็ได้รีบเข้ามาอัดนินจาพวกนั้นลงไปนอนกับพื้นก่อนที่จะกระโดดไปช่วยแม่ของเจ้าที่กำลังตกลงมาให้มาอยู่ในอ้อมแขนของพ่อ สายตาของเราสองคนต่างสบตากัยราวกับรักแรกพบ ภายใต้แสงจันทร์เต็มดวงที่สาดสองมายังพวกเรา"
เด็กหนุ่มเล่าออกมาอย่างภูมิใจ จนทำให้ลูก ๆ ทั้งสองตั้งอกตั้งใจฟังอย่างสนุกสนาน
"ว้าวพ่อหนูเก่งจังเลย" ซากรุะตบมือชมในความเป็นสุดยอดวีรุบุรษของมินาโตะ "ราวกับเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเจ้าหญิง ช่างโรแมนติกจริง ๆ"
"พ่อเก่งไปเลย " นารูโตะยกนิ้วโป้งให้ "นี้แหละสุดยอดนินจาของพวกเรา"
"55555 ลูกก็" มินาโตะหัวเราะ "ถ้าไม่ได้พ่อช่วยแม่ไว้ลูกคงไม่มีวันมาอยู่ตรงนี้หรอก"
"แล้วสมัยที่ท่านพ่ออยู่ที่หมู่บ้านพ่อเป็นคนอย่างไรบ้าง หรือค่ะ" ซากุระถามมินาโตะ เพราะอยากรู้เรื่องราวในสมัยที่อยู่หมู่บ้าน
"พ่อหรือ 55555 พ่อเป็นเด็กหนุ่มรูปงาม สุภาพบุรุษฝีมือเป็นที่หนึ่งของหมู่บ้าน จนได้รับฉายาว่าอัจฉริยะแห่งนินจา และยังมีสาว ๆ ในหมู่บ้านตามจีบพ่ออีกมากมายเลยที่เดียว" มินาโตะพูดอย่างภาคภูมิใจให้ลูกทั้งสองได้ฟัง
"ว้าวพ่อผมนี้สุดยอดไปเลย" นารูโตะกล่าวชมพ่อตัวเองอย่างภูมิใจ "นึกไม่ถึงว่าพ่อจะเป็นคนหล่อและเท่ขนาดนี้ได้นี้แหละพ่อในฝันของผม"
"5555 พ่อ เองก็หล่ออย่างนี้แหละ แต่พอแม่เข้ามาในชีวิตพ่อเหล่าสาว ๆ ต่างต้องหลีกทางให้กันเลยที่เดียวเพราะไม่อยากมีปัญหากับแม่ของเจ้า" มินาโตะแซว ทำให้คุชินะเอาซอกมาสกิดเตือนว่าอย่าพูดมากกว่านี้
"จริงสิท่านแม่ท่านเป็นคนจากหมู่บ้านอุซึมากิใช้ไหมครับ" นารูโตะถามผู้เป็นมารดา
"ใช้แล้วจ่ะ " คุชินะตอบแบบยิ้มๆ "แม่นั้นเป็นลูกสาวของหัวหน้าตระกูลอุซึมากิที่มีเชื้อสายจากผู้ปกครองแคว้นอุซึโนะคุนิ ทำให้สายเลือดของแม่มีเชื้อของผู้ปกครองแคว้นไปด้วย"
"งั้นแปลว่าแม่ก็เป็นเจ้าหญิงแห่งอุซึมากิใช้ไหมค่ะ" ซากุระตอบเสียงใส "ว้าวหนูไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี้ย "
"ใช้แล้วจ่ะซากุระ" คุชินะหัวเราะในลำคอ ทำให้ซากุระตาลุกว่าวขึ้นมาอย่างไม่เชื้อสายตาว่าแม่ของตนจะเป็นถึงเจ้าหญิงผู้เลอโฉมขนาดนี้
"แล้วพ่อรู้มาตลอดหรือเปร่าครับว่าท่านแม่เป็นเจ้าหญิง" นารูโตะถาม
"พ่อรู้มาก่อนแล้วล่ะลูกรัก ว่าแม่เป็นเจ้าหญิงแห่งอุซึมากิ พ่อเองก็ไม่เชื้อเหมือนกันว่าจะได้แต่งงานกับเจ้าหญิงผู้เลอโฉมขนานนี้"
"พ่อค่ะช่วยเล่าเรื่องคุณปู่คุณย่าหน่อยค่ะ" ซากุระถามผู้เป็นบิดานั้นทำให้มินาโะแน่นิ้งไปทันที่ เด็กสาวรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นไม่ควรถามเรื่องนี้กับพ่อเลยด้วยซ่ำ
"เดี่ยวพ่อจะเล่าให้ลูกฟังน่ะ ถ้าจะเริ่มล่ะก็ตั้งแต่พ่อเกิดมานั้น พ่อไม่เคยเห็นปู่ของลูกเลยด้วยซ่ำ ย่าของลูกซึ่งเป็นแม่ของพ่อ ชื่อนามิคาเซะ นามิ เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ป้าดังโกะ เก็บมาเลี้ยง ตลอดชีวิตของพ่อนั้นถือได้ว่าพวกเรานั้นเป็นช่วงเวลาที่ถือว่าลำบากมาก ย่าของลูกต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงพ่อ และทุกคืนพ่อมักจะเห็นย่าของลูกนอนร้องไห้ตลอดเวลา แต่โชคดีหน่อยที่มีลุง ทาซึดะคอยช่วยเหลือแก่เป็นคนดีมากแก่ช่วยเหลือพ่อกับย่ามาตลอด พ่อเองก็เคยถามย่าของลูกเหมือนกันว่า ปู่นั้นเป็นใคร ย่าก็บอกเพียงว่าปู่นั้นตายในขณะทำภารกิจ ปู่นั้นเป็นคนกล้าหาญและเสียสละ รักครอบครัว พ่อพยายามถามรูปลักษณ์ของปู่และขอดูภาพถ่าย แต่ย่าของลูกตอบเพียงว่าจำไม่ได้และทำภาพหายไปแล้ว และเธอก็ร้องไห้ พ่อเองก็รู้สึกว่าการตายของปู่นั้นกระทบจิตใจย่ามาก ก็เลยไม่ถามเรื่องนี้อีกเพราะพ่อไม่อยากทำร้ายจิตใจของย่า ตลอดชีวิตมานี้พ่อพยายามถามนินจาทุกคนเกี่ยวกับปู่ของพ่อแต่ทุกคนตอบว่าไม่รู้จัก เด็กๆ ในหมู่บ้านโคโนฮะโดยเฉพาะพวกที่หมั่นไส้ พ่อนั้นมักจะล่อพ่อเสมอว่า ไอ้ลูกไม่มีพ่อ ไอ้ลูกนอกสมรส ไอ้ลูกพ่อทิ้งไปมีเมียใหม่ ไม่ลูกกะหรี่ นั้นทำให้บ้างครั้งพ่อถึงกับซัดพวกมันไปนอนกับพื้นเลยที่เดียว "
มินาโตะตอบด้วยเสียงที่เรียบแต่แฝงไปด้วยความเศร้าและพลางถอนหายใจอย่างแผวเบา นั้นทำให้คุชินะต้องเข้ามาปลอบใจเด็กหนุ่ม สำหรับมินาโตะแล้วเรื่องของพ่อตัวเองนั้นดูจะเป็นเรื่องที่หนักใจมาก ๆ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลยด้วยซ่ำและมันเป็นปมในใจมาจนถึงทุกวันนี้
"หนูขอโทษที่ หนูไม่หน้าถามเรื่องนี้เลยหนูขอโทษด้วยท่านพ่อ" ซากุระพูดด้วยความรู้สึกผิด
"ไม่หรอกลูก ลูกไม่ได้ผิดอะไรหรอก " มินาโตะพูดปลอบลูกสาว "ยังไงซะลูกรู้ไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี้อย่าได้โทษตัวเองไปเลยลูกรักของพ่อ อย่าร้องน่ะเดียวลูกจะกลายเป็นเด็กหญิงหน้าเศร้าไม่สวยน่ะ"
ทั้งสี่พ่อแม่ลูกต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนานตามประสาครอบครัว มินาโตะและคุชินะมักใช้เวลาสอนสิ่งต่าง ๆให้ลูกไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของทวีปนี้ ภาษาต่าง ๆ รวมทั้งวัฒนธรรมต่างๆ ของชนเผ่าในทวีปนี้
วันต่อมา
วันนี้เป็นวันที่ท่านหญิงได้พา พวกเราไปพักร้อนที่ปราสาทแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ตรงปากอ่าวทางตอนเหนือ ว่ากันว่าที่นั้น เป็นที่พักร้อนที่สวยงามมาก ๆ เมื่อพวกเรามาถึงพวกเราถึงกับทึ่งในความสวยงามมาก ๆ
ทะเลสีครามที่เราสองพี่น้องไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต มันช่างสวยงามมาก ตรงกลางนั้นมีเกาะโขดหินสีขาวสะอาด ที่มีภาพแกะสลักรูปหงส์ บนเกาะเป็นที่ตั้งของปราสาทญี่ปุ่น 3 ชั้น และมีการปลูกต้นซากุระล้อมรอบทั่วปราสามด้วย พวกเราเห็นครั้งแรกถึงกับร้องทันที่ว่ามหัศจรรย์จริง ๆ เลย
ณ หาดทรายสีขาว
สี่พ่อแม่ลูกกำลังเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน ตามประสาครอบครัว มินาโตะและนารูโตะใส่กางเกงในสีขาวเล่นน้ำ ขณะที่คุชินะและ ซากุระส่วมชุดบิกินีสีแดง ทำให้เห็นเรือนร่างที่ถูกเปิดเผยของสองแม่ลูกสาวนั้นดูมีเสนห์แรงอย่างมาก แต่โชคยังดีที่พื้นที่แถวนี้เป็นหาดสวนตัวของท่านฮารุกะทำให้ทั้งสี่สามารถใช้ชีวิตสนุกสนานได้เต็มที่โดยไม่ต้องมีใครจับตาดู แต่ถ้าเป็นชายหาดทั่วไปนั้นจะเต็มไปด้วยสาว ๆ อเมซอนกับพวกอมนุษย์ทั้งหลายที่มาพักร้อนและเล่นน้ำทะเลรวมทั้งอวดเรือนร่างอันสวยงามล่อตาล่อใจพวกตัวผู้ทั้งหลาย มินาโตะเองก็ดูเป็นห่วงไม่น้อยเพราะภรรยาและลูกสาวใส่ชุดว่ายน้ำบิกินีที่ดันดูเซ็กซี่อย่างมาก ซึ่งถ้าเป็นชายหาดที่มีผู้คนแล้วละก็คงไม่พ้นสายตาพวกหนุ่ม ๆ และเด็กผู้ชายอมนุษย์ทั้งหลายที่จะพากันจองมองอย่างไม่ขาดสายซึ่งสำหรับมินาโตะแล้วเขาพร้อมจะส่งสายตาขู่หรือพร้อมบีบกะโหลกพวกมันให้เละไปเลย (เมียกูลูกสาวกูใครอย่าจีบหรือแตะเด็ดขาด ไม่งั้นตาย : มินาโตะกล่าวไว้) แต่ถ้าเป็นคุชินะแล้วละก็สาวอเมซอนหรือพวกอมนุษย์เพศเมียตัวไหนแอบจองมองมินาโตะสามีของเธอที่มีรูปร่างกายสูงใหญ่กำยำแข็งแรงและหน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตรแล้วละก็ เธอพร้อมจะตบพวกชะนีทั้งหลายให้จมดินไปเลย (ผัวกูใครอย่าแตะเดี่ยวแม่จะตบให้จมดินไปเลยจำไว้ : คุชินะกล่าวไว้) แต่ตอนนี้สี่พ่อแม่ลูกต่างสาดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งต่างแหวกว่ายดำน้ำดูปะการังและดูสัตว์ทะเลต่าง ๆ
หลังจากที่เล่นกันเสร็จแล้วทั้งสี่ก็มานอนพักผ่อนในร่ม ที่กางเอาไว้โดยที่ทั้งสี่นอนลงบนผ้าที่ปูลงบนพื้นทรายสีขาว โดยมีเหล่าลูก ๆ ทั้งสองช่วยท้าครีมอาบแดด หลังจากที่ท้าเสร็จพ่อกับแม่ก็มาจัดการท้าให้พวกลูก ๆ บ้าง
"จริงสิท่านแม่ค่ะ หนูมีเรื่องจะถามค่ะ" ซากุระถามขึ้นมาขณะที่คุชินะกำลังท้าครีมอาบแดดบนผิวกายที่บอบบางของนาง
"อะไรหรือลูก"
"หนูสงสัยจริง ๆ ว่า ทำไมท้องของหนูกับท่านพี่ถึงได้มีสัญลักษณ์แปลก ๆ อยู่บนท้องละคะ รวมทั้งบนท้องท่านแม่ด้วย" ซากุระเอามือลูปท้องที่แบนราบที่มีสัญลักษณ์ผนึกแปดทิศ ราวกับสงสัยมานานแล้วว่ามาจากไหนถึงถามท่านฮารุกะหรือคนทั่วไปทุกคนมักจะพูดว่าเป็นปานอย่างหนึ่ง
"ใช้ครับผมเองก็มีสัญลักษณ์แปลกบนท้องเหมือนกันครับ" นารูโตะพูดขึ้นมาและหันมาหาแม่
"นั้นน่ะมันคือผนึกแปดทิศจ่ะลูก"
"ผนึกแปดทิศ" เด็กทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกันราวกับไม่เชื้อสายตา จากปากมารดา
"แล้วมันสำคัญอย่างไรหรือทำไมพวกเราถึงมีสิ่งนี้"
ซากุระถามคุชินะเอาฝามือมาจับที่ท้องของลูกสาวอย่างแผวเบา และจับเอามือบุตรสาวมาจับที่ท้องของเธอ
"ผนึกแปดทิศนี้ เป็นผนึกที่ได้กักขังพลังจักระเก้าหางเอาไว้จะลูก" คุชินะอธิบาย
"จักระเก้าหางมันคืออะไรหรือ" นารูโตะถามอย่างสงสัย
"มันคือสัตว์หางที่ไม่มีใครรู้ที่มาว่าพวกมันมาจากไหนแม้แต่พวกเราก็ไม่รู้ พลังจักระ 9 หางนั้นถือได้ว่ามีพลังอย่างมาก มันสามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานได้ ซึ่งบนท้องของลูกนั้น ท่านฮารุกะได้ผนึกพลังเอาไว้ในช่วงแรกเกิดจะลูก"
"แล้วท่านแม่มี เจ้า 9 หางด้วยนะสิ"
"ใช้จะเดี่ยวแม่เรียกมันออกมาให้น่ะมันออกจะขี้เกียจนิดหนึ่ง นะ"
"คุรามะออกมาหน่อย" คุชินะเรียกคุรามะ ชับพลัน เจ้าจิ้งจอกเก้าหางก็ออกมาโดยมันออกมาในลักษณะที่เป็นลูกจิ้งจอกหน้ารักขึ้นมาอยู่บนไหล่ของคุชินะ
"อะไรอีกล่ะเธอ จะกวนการหลับพักผ่อนของฉันหรือยังไง" คุรามะรู้สึกหัวเสียอย่างมาก เพราะรู้สึกต้องกลับมาอยู่ในร่างของคุชินะอีกครั้ง หลังจากที่เป็นอิสระเพียง 4 ปี ก่อนที่คุชินะจะไปเจอมันเข้าขณะกำลังนอนหลับปุ่ยภายในป่า
"ว้าวหน้ารักจังเลยนึกไม่ถึงว่านายจะหน้ารักขนาดนี้"
เด็กสาวไม่รอช้ารีบดึงเจ้าสุนัขจิ้งจอกคุรามะลงมาจากไหล่ของแม่ เด็กสาวลูบหลังของมันอย่างแผวเบา
"ขนนุ่มจริงเลยน่ะ"
"พอได้แล้ว คุชินะเธอมาช่วยเอาฉันออกจากมือลูกเธอที่" จิ้งจอกพูดด้วยความหัวเสีย ขณะที่เด็กสาวกำลังฟัดขนปุบปุยอันนุ่มนวลของเจ้าคุรามะ
"มาขอฉันอุ่มบ้าง" นารูโตะรีบดึงคุรามะมาจากมือน้องสาว "มามะนายมาว่ายน้ำกับฉันกัน"
"ไม่นะ !! เจ้าเด็กเปรตเอามือของแกออกจากตัวฉันนะ" คุรามะพยายามดินให้หลุดจากมือของนารูโตะ แต่ไม่ทันใดนารูโตะก็วิ่งอุ่มเจ้าคุรามะลงไปในทะเลพร้อมกับน้องสาว
"รอหนูด้วยพี่ชาย" เด็กสาวตามพี่ชายลงไปในทะเลโดยมีมินาโตะและคุชินะคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
เจ้าคุรามะ ช่างหน้าส่งสารยิ่งนักเพราะตอนนี้ต้องดำน้ำเล่นกับเด็กทั้งสองโดยที่ตัวเองไม่อยากจะเล่นน้ำเลยด้วยซ่ำ (โอ้ยอยากจะบ้าตายจริงทำไมต้องมาเล่นกับเด็กแสบทั้งสองด้วย ช่วยฉันที่) เจ้าคุรามะคิดในใจ ขณะดำน้ำโดยที่ตัวเองนั้นดำไม่เป็นเลยด้วยซ่ำ
หลังจากที่เล่นน้ำทะเลเสร็จแล้วก็เป็นช่วงเวลาใกล้เย็นพอดี คุรามะได้กลับไปอยู่ในตัวคุชินะตามสมใจอยาก ทั้งสี่พ่อแม่ลูกเดินกลับเข้าไปในปราสาทแล้วเข้าไปอาบน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วทั่งสี่ ก็เดินไปที่ห้องออoเซ็น
ภายในห้อง บ่อออนเซ็นนั้นเป็นพื้นที่เปิดโล่งกว้างขวาง มีต้นซากุระรายล้อม ตรงกลางมีบ่อหินที่ทำจากหินภูเขาไฟ มีควัญลอยออกมาจากบ่อ พื้นในห้องปูโดยหินชนวน ที่เรียบราวกับกระจก นอกจากนี้ยังได้ชมวิวทิวทัศน์ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินได้อีกด้วย
ทั้งสี่ค่อยปลดเปลือง ผ้าขนหนูสีขาวออก และค่อย ๆ ก้าวลงไปในบ่ออย่างใจเย็น และจากนั้นก็ค่อย ๆ ก้าวลงไปทั้งตัวและลงไปแช่อย่างสบายใจ ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากได้แช่บ่อออนเซ็นทั้งครอบครัวและได้ดูดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน ช่างเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวมีความสุขอย่างมาก
"ท่านพ่อ ท่านแม่ค่ะ พวกท่านจะสอนพวกเราเป็นนินจาไหมครับ" นารูโตะถาม
"สอนอยู่แล้วจะลูก พวกเราจะสอนให้เจ้าควบคุมพลังในตัวเจ้าให้ได้" มินาโตะกล่าว
"แล้วโฮคาเงะ คืออะไรหรือค่ะ" ซากุระถาม
"โฮคาเงะคือผู้นำหมูบ้านมีหน้าที่คอบบริหารและรักษาความสงบภายในหมู่บ้านรวมทั้งปกป้องแคว้นด้วยไง" คุชินะกล่าวอย่างสบายใจ
"แล้วการจะขึ้นเป็นโฮคาเงะต้องทำอย่างไรหรือครับ"
เด็กน้อยถามทำให้ผู้เป็นพ่อขมวดคิ้ว ก่อนจะหัวเราะในรำคอ
"คนที่จะเป็นโฮคาเงะได้นั้นต้องได้รับการยอมรับจากคนในหมู่บ้านและเหล่านินจาด้วย โดยพวกเขาต้องทำคุณประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับหมู่บ้านและแคว้น และอีกอย่างโฮคาเงะต้องยึดหลักที่ว่า จะไม่ยอมเหยียบศพพวกพ้องตัวเองแต่โฮคาเงะจะเป็นสะพานทอดกายให้พวกพ้องเหยียบ ซึ่งความหมายคือโฮคาเงะต้องเป็นผู้เสียสละเพื่อคนสวนใหญ่อย่างไรล่ะ " มินาโตะอธิบายให้ลูกชายฟังทำให้นารูโตะรู้สึกชอบอย่างมากเกี่ยวกับการเป็นโฮคาเงะ
"สุดยอดจริง ๆ ผมอยากเป็นโฮคาเงะจังเลยซักวันหนึ่งผมต้องเป็นแบบโฮคาเงะให้ได้ เลย" นารูโตะพูดด้วยความดีใจที่ได้ฟังเรื่องราวจากบิดา ทำให้มีความใฝ่ฝันว่าซักวันหนึ่งต้องเป็นโฮคาเงะที่ยิ่งใหญ่ให้ได้ คอยดู
"จริงสิตอนนี้ฉันคิดค้นนามสกุลใหม่แล้วนะ" คุชินะพูดขึ้น
"นามสกุลเราจะใช้อุซึมากิหรือนามิคาเซะดีค่ะท่านแม่" ซากรุะหันมาถามมารดา
"นามสกุลเราจะเป็น อุซึมากิ-นามิคาเซะ คืดว่าเป็นอย่างไรมินาโตะ" คุชินะพูดขึ้นมา
"ฉันก็เห็นด้วยน่ะ อุซึมากิ-นามิคาเซะ ถือว่าเป็นการรวมนามสกุลสองสกุลไว้เป็นหนึ่งเดียวกันฉันชอบนะ" มินาโตะชม
"งั้นผมคงใช้ชื่อว่า อุซึมากิ-นามิคาเซะ นารูโตะใช้ไหม" นารูโตะถามขึ้น
"ใช้แล้วจะ"
ทั้งสีต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนานและเห็นด้วยที่จะใช้นามสกุลว่า อุซึมากิ-นามิคาเซะ เพราะถือว่าเป็นนามสกุลร่วมกันซึ่งในโลกนินจาถือว่าไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยด้วยซ่ำ แต่นี้ถือเป็นครั้งแรก
"จริงสิท่านแม่ค่ะ
ทำไมหนูถึงมีผมสีชมพูเหมือนดอกซากุระและมีดวงตาสีเขียวมรกตไม่เหมือนพ่อ
แม่และพี่ที่มีดวงตาสีฟ้าค่ะ" ซากรุะถามผู้เป็นมารดา คุชินะเองก็เกิดนึกถึง เด็กน้อยที่ช่วยเธอไว้จากการถูกมนุษย์หมาป่าทำร้ายเธอเองก็พบว่าลูกของเธอช่างมีความคล้ายดับเด็กคนนั้นมาก
"ว้าวหนูเกิดมาแปลกจริง ๆ เลยแต่หนูชอบผมสีชมพูนะค่ะหนูรู้สึกว่ามันทั้งนุ่มและหอมดี " เด็กสาวพลางเอามือลูปผมอย่างแผวเบา คุชินะพลางอมยิ้มในความหน้ารักของบุตรสาวไปด้วย แต่แล้วไม่ทันใดซากุระนั้นก็นำมือน้อย ๆ มาจับหน้าอกที่ดูมีขนาดกลางแต่มีรูปทรงที่ดูงดงามและมีหัวนมชมพูอ่อนของคุชินะ ทำให้คุชินะถึงกับหน้าแดงด้วยความอายขึ้นมาทันที่
"แม่ค่ะทำไมหน้าอกของแม่ถึงดูสวยจัง มันไม่เล็กและไม่ใหญ่มากไป ดูกำลังพอดีเลย แล้วเมื่อไหล่หนูจะมีหน้าอกที่สวยเหมือนแม่ค่ะ" ซากุระขยุ่มหน้าอกของผู้เป็นแม่รวมทั้งยังฝัดลงไปยังตรงกลางอกทั้งสองของคุชินะ เด็กสาวถึงกับหน้าแดงจบพูดไม่ออก แม้แต่สองพ่อลูกที่อยู่ตรงฝั่งตรงข้ามยังอยากจะเข้าไปสัมผัสกับหน้าอกที่งามดั่งดอกบัว
"ซากุระหยุดก่อนแม่จักจี่นะ 555 " เด็กสาวถึงกับหัวเราะ กับความไร้เดียงสาของลูกสาวที่กำลังขยุ่มหน้าอกเล่น "เดียวลูกโตเมื่อไหล่มันก็จะโตเอง หน้าอกของแม่นี้แหละที่ให้นมพวกลูกทั้งสองได้กินมาตั้งแต่ยังแบเบาะ"
"งั้นหนูขอกินนมจากเต้าของแม่น่ะ"
"ซากุระ อย่าน่ะ อ่ะ"
ไม่ทันขาดคำเด็กสาวตัวน้อยก็เข้าไปดูดหัวนมสีชมพูของผู้เป็นแม่ถึงมันจะไม่มีนมแล้วก็ตามเถอะ
"ขี้โกงนี้ซากุระ ขอพี่กินบ้างด้วยคนซิ" นารูโตะรีบเข้าไปหาผู้เป็นแม่ก่อนจะจับหน้าอกอันแสนหนุ่มข้างขวาของคุชินะแล้วเข้าไปดูดกิน ตอนนี้คุชินะรู้สึกเขินและขำกับความไร้เดียงสาของลูกทั้งสอง เด็กทั้งสองยังคงดูดเต้านมอันแสนหนุ่มนวนของผู้เป็นมารดาอย่างสนุกสนาน โดยที่คุชินะคอยพลางลูบหัวเด็กทั้งสองอย่างแผวเบา แต่คนที่ดูอิจฉาสุดคงเป็น คุณพ่อเด็กหนุ่ม มินาโตะที่ดูจะเดือดไม่ใช้น้อยที่ลูกทั้งสองนั้นเข้ามาแย้งดูดและจับหน้าอกที่สวยงามของผู้เป็นภรรยาของเขา แท่นที่จะเป็นเขาก่อนที่ควรจะได้สัมผัสกับดูดดื่มหน้าอกของผู้เป็นภรรยารวมทั้งทำกิจกรรมอันเร้าร้อน หลังจากหางหายกันไปนาน 4 ปี แต่ผลสุดท้ายลูกกับแย้งไปเฉยเลย ()
หลังจากที่แช่ออนเซ็นเสร็จแล้ว ทั้ง 4 ก็ได้แต่งตัวด้วยชุดยูคาตะแล้วไปกินข้าวเย็นซึ่ง อาหารทะเลบนโต๊ะนั้นเป็นอะไรที่แปลกตาสำหรับเด็กทั้งสองอย่างมากเช่น ปลากระพงย่าง หอยเชลล์อบชีส กุ้งมังกรเผา ปลาแซลมอนซาซิมิ กุ้งเทมปุระ อาหารมือนี้เป็นอะไรที่อิ้มท้องมาก นอกจากนี้ยังได้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลยามเย็นอีกด้วย หลังจากที่อิ่มหนำสำราญแล้วทั้ง 4 ก็ได้เข้านอนพัก
******
หลังจากที่ได้เที่ยวทะเลได้ 5 วันทั้งสีก็ได้เดินทางกลับมาที่เมืองอุซึชิโอะ เด็กทั้งสองไม่อยากกลับเลยด้วยซ่ำเพราะกำลังสนุกกับการดำน้ำและเก็บหอย แต่อย่างไรก็ตามความสนุกต้องมีวันจบเสมอ เมื่อกลับมาแล้วมินาโตะได้ออกไปทำภารกิจที่อยู่เพียงอาณาเขตที่ท่านฮารุกะกำหนดไว้โดยมีคุชินะคอยดูแลลูกทั้งสอง
"มินาโตะ คุชินะ ท่านหญิงเรียกเข้าพบค่ะ" สาวใช้เดินมาบอกทั้งสองขณะทั้งสองจะเดินเข้าห้อง ทำให้ต้องตามสาวใช้ไปโดยไม่รู้เลยว่าท่านหญิงเรียกไปพบด้วยเรื่องอะไร
"อ้าวมาพอดีเลยน่ะทั้งสองคน" ฮารุกะวางเอกสารลงบนสมุด และหันหน้ามาพบทั้งสอง
"เรียกพวกเราด้วยเรื่องอันใดหรือครับ" มินาโตะถามด้วยความสงสัย
"พอดีฉันมีเรื่องจะเซอร์ไพล์พวกเธอหนอยน่ะ" หญิงสาวพูดทำให้ทั้งสองถึงกับงงในคำพูดของท่านหญิง
"เรื่องอะไรหรือค่ะ" คุชินะถาม
"ก็เรื่องที่ตอนนี้ฉันได้สร้างบ้านใหม่ให้พวกเธอแล้วไงล่ะ" ฮารุกะกล่าว "ตอนนี้ฉันสร้างไว้ที่ทะเลสาปแห่งหนึ่งตรงเกาะเอนิออส ที่พวกเธออยู่อย่างไรล่ะ"
"จริงหรือครับ" มินาโตะตาวาวขึ้นมาทันที่นึกไม่ถึงว่าท่านหญิงจะทำในสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึง
"จริงสิฉันไม่ได้โม้นะ ฉันให้เวลาพวกเธอเก็บของกี่วันก็ได้ หรือจะอยู่ที่นี้ต่อก็ได้น่ะฉันไม่ไล่พวกเธอหรอก" ท่านหญิงกล่าวเสียงเรียบ
"ขอบคุณมากเลยค่ะ ท่านฮารุกะ" คุชินะโค้งคำนับ "เราไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรดี"
"ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกน่ะ พวกเธอเท่าที่ฉันเห็นมานั้น พวกเธอสอบผ่านการเป็นพ่อแม่คนแล้วงั้นฉันให้พวกเธอดูแลลูกทั้งสองได้ตามสบายเลย"
"งั้นพวกเราจะไปบอกลูก ๆ ของพวกเราก่อนนะครับ"
"ตามสบายเลยทั้งสองคน"
ทั้งสองไม่รอช้ารีบออกจากห้องทำงานแล้วไปที่ห้องของพวกเขาที่ลูกทั้งสองกำลังรอพวกเขาอยู่ ด้วยความดีที่กำลังจะบอกพวกเขา
"นารโุตะ ซากุระพ่อกับแม่มีข่าวดีจะบอกลูก " มินาโตะรีบเข้ามาบอกลูกๆทั้งสอง
"เรื่องอะไรหรือครับ/ค่ะ" เด็กทั้งสองถามพร้อมกันขณะอ่านหนังสืออยู่
"ท่านฮารุกะได้สร้างบ้านให้พวกเราแล้ว พวกเราจะได้ไปใช้ชีวิตรวมกันยังไงล่ะ" คุชินะพูดให้ลูกฟัง
"จริงสิ" มินาโตะเดินเข้ามากอดลูกทั้งสอง "เราทั้งสี่ พ่อแม่ลูกจะได้อยู่ด้วยกัน ที่นั้นน่ะสวยงามและปลอดภัยด้วยน่ะ พวกลูกจะได้ผจนภัยในดินแดนแห่งใหม่ด้วยนะ"
"ผมอยากผจนภัยมานานแล้วนี้และคือวันที่ผมรอมานานแล้ว" นารุโตะร้องด้วยความดีใจ
หลังจากนั้นทั้ง 4 ก็ช่วยกันเก็บข้าวของทั้งหมดใส่หีบ เช้าวันต่อมาท่านฮารุกะก็ได้พาพวกเราขึ้นเรือบิน และมุ่งหน้าไปยังติ่งแหลมมิโตะ ลูกทั้งสองเมื่อขึ้นมาแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้ขึ้นเรือบินครั้งแรก พวกเขาได้เห็นทั้งมังกรยักษ์และนกยักษ์ที่ใหญ่โตมโหฬาร รวมทั้งปุ่ยเมฆสีขาวสะอาด และลมเย็นสบาย แต่ลูกของเรากลับเมาเรือจนอาเจียนออกมานารูโตะนั้นหนักสุดหน่อยนิดหนึ่งเพราะไม่เคยขึ้นเรือมาก่อน ในที่สุดเรือก็มาจอดลงเทียบท่าในที่โล่งกว้างแห่งหนึ่ง
พวกเราเดินไปตามทางเดินที่ถูกสร้างไว้โดยมีเหล่าทหารหญิงคอยคุมกัน จนกระทั้งเราก็มาถึงทะเลสาปแห่งหนึ่ง ใช้แล้ว ที่นี้คือทะเลสาปที่ฉันกับมินาโตะมาอาศัยอยู่ในช่วงที่มาติดอยู่ที่นี้นั้นเอง
"ว้าวที่นี้สวยจังเลย" ซากุระร้องด้วยความตื่นเต้นที่ได้เห็น ทะเลสาปสีฟ้าใส่สะอาดดุจมรกต
หมู่แมกไม้ต่างๆมีใบไม้หลากสีสัน
รวมทั้งภูเขารอบข้างก็มีหมู่ต้นไม้เติบโตสวยงามเต็มไปหมด
ภายในทะเลสาปมีหมู่ปลาแวกว่ายไปมาอย่างสะบายใจ
"นึกไม่ถึงจริงว่ามันจะสวยงามเช่นนี้ ว้าวราวกับภาพวาดในฝันเลย อยากกระโดดลงไปเล่นแล้ว" นารูโตะชมด้วยความตื่นเต้น
"ใช้แล้วจะลูกที่นี่ คือที่ ที่พ่อกับแม่มาติดและหลบพักอยู่ที่ไงล่ะ" มินาโตะกล่าวและยังคงนึกถึงอดีตที่เคยมาติดอยู่ที่นี้กับคุชินะและใช้ชีวิตรวมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน "นึกไม่ถึงว่ามันจะยังคงสวยสดงดงามเหมือนเดิมเลยนะเนี้ย"
"แล้วพวกท่านหลบอยู่ที่ไหนหรือ" นารูโตะถาม
"นั้นไงบ้านของพวกเรา" คุชินะชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่เกือบใกล้กับทะเลสาป ทั้งหมดจึงเดินไปที่บ้านหลังนั้นอย่างไม่รอช้า
บ้านหลังนี้ เป็นบ้านหลังใหญ่ มีสองชั้นมันถูกสร้างจากหินผสมดินออกสี่เนื้ออ่อน ๆ หลังคาปูด้วยกระเบื่องสี่น้ำตาลอ่อน ข้างหน้าบ้าน มีหน้าต่างสี่เหลี่ยม 4 บาน ที่ทำจากไม้สัก สองบานอยู่ข้างล่างอีกสองบานอยู่ข้างบนชั้นสอง ประตูบ้านทำจากไม้สักที่แกะสลักอย่างสวยงาม มีปล่องเตาผิงสองปล่อง นอกจากนี้ยังมีบันไดนอกบ้านที่มีดอกไม้ถูกปลูกขึ้นไปตามทางเดิน สำหรับขึ้นไปชั้นสองอีกด้วย ตรงบริเวณหน้าบ้านยังมีซุ่มไม้ที่มีต้นไม้ขึ้นออกดอกผล อาณาบริเวณรอบ ๆ มีไร้ดอกราเวนเดอร์สีขาวและม่วงออกดอกผลและส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
"นี้ไงล่ะบ้านที่ฉันสร้างให้พวกเธอ" ฮารุกะกล่าว "เชิญเข้าไปชมได้เลยน่ะ"
"ว้าวที่นี้สวยจังเลยนี้แหละบ้านในฝันของหนู"
เด็กทั้งสองไม่รอช้ารีบวิ่งไปชมบ้านหลังนั้นอย่างตื่นเต้น เมื่อเด็กน้อยทั้งสองเปิดเข้ามาก็พบกับภายในบ้านที่มีห้องนั่งเล่นที่ถูกจัดอย่างสวยงาม มีเพอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้มะฮอกกานี ห้องครัวและห้องอาหารที่ดูเรียบง่ายและสะอาด ห้องน้ำนั้นภายในมีอ่างไม้ขนาดใหญ่ที่คน 8 คนสามารถลงไปแช่น้ำได้ และบ้านหลังนี้มีกลไก กังหันน้ำที่ตักน้ำมาจากหลังบ้านไหลเข้ามาภายในทำให้สามารถใช้น้ำล้างจานหรืออาบน้ำได้ ส่วนท่อระบายน้ำนั้นถูกเชื่อมไปปล่อยไว้ที่หลังบ้านและไหลลงไปยังสวนหลังบ้าน รวมทั้งยังมีห้องเก็บของที่อยู่ชั้นใต้ดินแบ่งออกเป็นสองห้องใหญ่คือห้องเก็บอาหารและเก็บของทั่วไปซึ่งความวิเศษของห้องเก็บอาหารคือมันเป็นห้องศูนย์ยากาศที่ใช้เวทมนต์ทำให้ภายในจุของได้ไม่จำกัดและอาหารที่เก็บนั้นสามารถอยู่ได้นานโดยไม่เสีย เมื่อชมเสร็จแล้วทั้งสี่ได้ขึ้นไปชมห้องชั้นสองโดยใช้บันไดภายในบ้าน ซึ่งบันไดขึ้นชั้นสองของบ้านมีสองแห่งคือภายในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งบนห้องนั้นมีอยู่สามห้อง ห้องแรกคือห้องนอน ที่ภายในมีเตียงขนาดกลางที่นอนได้สองคนกับเตียง อีกสองเตียงสำหรับเด็กทั้งสอง โดยมีแสงจากข้างนอกส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้อง ห้องที่สองเป็นห้องนั้งเล่นที่มีชึ้นหนังสือมากมายและเตาผิง และห้องสุดท้ายเป็นห้องทำงาน ห้องทั้งสามห้องบนชึ้นสองนี้มีความกว้างใหญ่มาก ๆ เพราะ มีการใช้คาถาขยายพื้นที่ ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก ถึงแม้ภายนอกบ้านจะดูไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ถ้าเข้ามาภายในบ้านแล้ว ภายในนี้กลับกว้างขวางและใหญ่โตอย่างมากอันเป็นผลมาจากคาถาขยายพื้นที่ภายใน
"เป็นไงล่ะบ้านที่ฉันออกแบบให้" ฮารุกะพูด
"มันสวยงามมากเลยท่านฮารุกะขอบคุณมากเลยค่ะที่ท่านช่วยสร้างบ้านให้พวกเรา" คุชินะกล่าวขอบคุณ
"ไม่เป็นไรหรอกที่ฉันสร้างให้ไว้ก็เพื่อให้พวกเธอทั้งสี่ได้อยู่พร้อมกันอย่างไรล่ะ" ฮารุกะกล่าวและมองเด้กทั้งสองชมสิ่งต่าง ๆ อย่างสนอกสนใจ
"ขอบคุณมาเลยท่านฮารุกะ ที่นี้สวยมาก" มินาโตะกล่าว
"จริงสิฉันต้องกลับแล้วล่ะนะ" ฮารุกะกล่าว "ฉันต้องไปทำงานเอกสารอีกมากมายที่กองเป็นภูเขา สวนเรื่องอาหารไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันเตรียมข้าวสารและอาหารไว้ในห้องใต้ดินเรียบร้อย และอีกอย่างข้างนอกยังมีแปลงเกษตรที่มีผลไม้และพืชผักต่าง ๆ นานาไว้สำหรับบริโภค งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ อ่อลืมไปมินาโตะฉันของมอบแผ่นที่นี้ให้"
ท่านฮารุกะได้มอบแผ่นที่นี้ให้กับมินาโตะเมื่อเด็กหนุ่มคลี้ม่วนกระดาษมันออกมาเกาะพบว่ามันคือเกาะทวีปขนาดใหญ่สองเกาะ
"นี้คือแผ่นที่เกาะเอนิออส ที่พวกเราเคยสำรวจมาก่อน เกาะแห่งนี้มีเนื่อที่ประมาณ 500,000,000 ตารางกิโลเมตร เก็บเอาไว้น่ะเพื่อเธอจะได้ทำการสำรวจต่อจากพวกเรา"
"ครับผมผมจะรักษามันไว้อย่างดีเลยครับ" มินาโตะรับปากท่านหญิง
"ขอบคุณท่านฮารุกที่ท่านได้เลี้ยงดูพวกเรามาจนเติบโต เราจะไม่ลืมบุญคุณของท่าน" นารูโตะและซากุระพูดขึ้นพร้อมกันและโค้งคำนับ หญิงสาวเอามือมาวางบนหัวเด็กทั้งสองอย่างแผวเบา
"ฉันก็ขอให้พวกเธอมีความสุขด้วยนะ" ฮารุกะกล่าวเพราะรู้ดีว่าอีกไม่นานจะต้องจากล่าเด้กทั้งสองแล้ว "หากมีอะไรก็กลับมาหาฉันได้อีกนะ เมืองอุซึชิโอะพร้อมต้อนรับพวกเธอเสมอ"
หลังจากนั้น ครอบครัวอุซึมากิ-นามิคาเซะ ก็ได้มาส่งท่านหญิงที่เรือบินก่อนที่เรือลำนั้นจะบินออกไป โดยที่พวกเขาต่างโบกมือลาคนที่เคยให้ที่นอน อาหารและการศึกษามา ตลอด
"ลาก่อนนะท่านฮารุกะ"
"หนูขอให้ท่านมีความสุขน่ะค่ะ"
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะท่านฮารุกะ"
สี่พ่อแม่ลูกต่างส่งเสียงบอกลาเรือที่กำลังจะบินขึ้นท่านหญิงก็รู้สึกปลืมและภูมิใจที่ครอบครัวนี้จะได้อยู่อย่างมีความสุขพร้อมหน้าพร้อมตากัน จากนั้นเรือบินก็ได้หายเข้ากรีบเมฆไป
หลังจากนั้น ทั้งสี่ได้กลับเข้าบ้านและทำการจัดข้าวของต่างให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ออกไปชมไร่ผลไม้และพืชผักที่ท่านฮารุกะได้ปลูกไว้ซึ่งทั้งมินาโตะและคุชินะต่างก็มีองค์ความรู้ในการดูแลและเพิ่มพืชผลเป็นอย่างดี เพราะตลอด 4 ปี ที่ผ่านมาพวกเขาเคยเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรมาก่อนทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะอดตาย
ไร่ผลไม้และพืชผักถูกจัดเป็นแปลงใหญ่ ด้วยกัน 20 แปลง มีตั้งแต่ องุ่น แอปเปิล สตอเบอร์รี่ ส้ม มังคุด กล้วย สาลี ลองกอง ชมพู ผักบุ่ง ผักกระเชด อ้อย พริกหวาน พริกชนิดต่าง ๆ กะหล่ำปี แครอท มะเขือเทศ มันฝรั่งยักษ์ที่ใหญ่กว่าลูกมันฝรั่งทัวไป แตงโม ฯลฯ อีกมากมายนับไม่ถ้วน โดยแต่ละไร่จะมีทางน้ำซึ่งเป็นน้ำจากทะเลสาปเข้ามาหล่อเลี้ยง
ตกเย็นทั้งสี่ได้มาอาบน้ำ ซึ่งภายในห้องน้ำนั้นมีอ่างไม้ขนาดใหญ่ที่คน 8 คนสามารถลงไปแช่น้ำได้ และยังมีกลไกส่งน้ำเข้ามาภายในอ่างน้ำด้วย พื้นของห้องน้ำปูด้วยหินภูเขาไฟ ทั้ง 4 ต่างพากันมาลงอ่างแช่น้ำร้อนอุ่น และสนธนาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับการผจนภัยและนินจา หลังจากนั้นสี่พ่อแม่ลูกขึ้นจากอ่าง เช็ดตัวและแต่งตัวด้วยชุดธรรมดา แล้วมานั่งกินข้าวเย็นกัน ซึ่งมีตั้งแต่แซวมอนย่างจากทะเลสาป และข้าวขาว หลังจากกินเสร็จทั้งสี่แปลงฝันโดยใช่เปลือกหมากสีฟัน หลังจากแปลงฝันเสร็จก็ได้มาเข้านอน ซึ่งลูกทั้งสองอยากจะนอนรวมกับพ่อและแม่ด้วยซึ่งมินาโตะและคุชินะก็ไม่ห้ามโดยให้ทั้งสองนอนตรงกลางเตียงสวนพวกเขาจะนอนอยู่ทางซ้ายและขวา สวนตุ๊กตาที่มินาโตะและคุชินะทำให้ลูกทั้งสอง ก็นำมาขึ้นว่างไว้บนหิ้งพร้อมกับตุ๊กตาที่ทำขึ้นใหม่อีกสองตัวแล้วนำมาไว้ข้าง ๆตุ๊กตาสองตัว เป็นสัญลักษณ์ของพ่อแม่ลูกที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน
"แม่ดูอะไรอยู่ค่ะ" ซากุระถามผู้เป็นมารดาขณะกำลังนั่งอยู่บนเตียงพลางถือรูปภาพรูปหนึ่งอยู่
"ไม่มีอะไรหรอกลูกก็แค่ภาพแม่สมัยเด็ก ๆ กับ ตายายของลูกน่ะ ลูกมาดูนี้สิ" คุชินะเรียกลูกทั้งสองมานั้งอยู่ข้างและนำภาพ ภาพหนึ่งให้ลูกได้ดู
ภาพนี้เป็นภาพชายหญิงสองคนกำลังคุกเข่ายืนถ่ายภาพกับเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งมีผมยาวสรวยสีแดงถึงสะโพก โดยชายหนุ่มที่อยู่ทางขวานั้นเป็นชายหนุ่มที่ดูหล่อมากดวงตาสีฟ้าเหมือนเด็กสาวที่อยู่ตรงกลาง เขาไว้ผมแดงสั่น ส่วมเสื้อคลุมสีแดงและมีตราสัญลักษณ์น้ำวนอยู่ทางแขนเสื้อข้างขวา ขณะที่หญิงสาวที่อยู่ทางฝั่งซ้ายนั้นกลับมีความงดงามอย่างมากเธอ มีดวงตาสีเขียวมรกตไว้ผมสีแดงยาวสรวยและมัดผมเอาไว้ อาจพูดได้ว่าเด็กสาวคนตรงกลางนั้นถอดแบบมาจากผู้หญิงทางซ้ายอย่างมาก
"นี้คือ" นารูโตะกำลังจะพูด
"นี้คือตาและยายของลูก ไงจ่ะ ผู้ชายรูปหล่อคนขวาคืออุซึมากิ อาราชิ บิดาของแม่เองเขาเป็นผู้นำแคว้นอุซึชิโอะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและกล้าหาญดุจอาชา ส่วนหญิงสาวรูปงามทางซ้ายคือมารดาของแม่เอง อุซึมากิ ซากุระ เจ้าหญิงผู้เลอโฉมงดงามและแข็งแกล่งไม่แพ้ชายชาติบุรุษ แม่ถอดแบบมาจากยายของลูกมากทั้งความงามนิสัยและความกล้าหาญ"
หญิงสาวพลางเอามือสัมผัสรูปภาพอันเป็นของที่ละลึกก่อนจะจากหมู่บ้านที่ตัวเองเกิดและรัก ซากุระเขยิบเขามาเอามือสัมผัสรูปภาพของตากับยายราวกับว่าภาพนี้คือความทรงจำของแม่ในวัยเด้กทั้งหมด
"งั้นที่แม่ตั้งชื่อหนูว่าซากุระเพราะ หนูเหมือนยายใช้ไหมค่ะ" ซากุระถาม ทำให้ผู้เป็นแม่เอามือมาลูปหัว
"ใช้แล้วจ่ะลูก เพราะลูกนั้นเหมือนยายของลูกมาก ตรงที่ดวงตาสีมรกต คนอุซึมากิเชื้อว่าเด็กหญิงคนใดเกิดมามีดวงตาสีมรกตนั้นหมายถึงเด็กคนนั้นจะเกิดมาพร้อมกับพลังและพรสรรค์ที่ไม่เหมือนใครไง เวลาแม่มองลูกที่ไร มันทำให้แม่นึกถึงยายของลูกขึ้นมาทันที่" คุชินะมองเขาไปในลูกตาสีมรกตของบุตรสาวสายตาที่อ่อนโยนและเมตตาทำให้เธอนึกถึงสายตาของผู้เป็นมารดาที่เคยเลี้ยงดูเธอมาแต่เด็ก ๆ ก่อนที่จะต้องจากกันไปตลอดการ
"แม่คิดถึง ท่านตาและยายไหม" เด็กชายตัวน้อยถาม
"แม่คิดถึงตลอดเวลาเลย ไม่ว่าจะเดินทางหรือนอนหลับแม่จะคิดถึงพวกท่านทั้งสองตลอดเวลา แม่ภาวนาให้พวกเขานั้นคอยปกป้องรักษาลูกทั้งสองตลอดเวลา" คุชินะกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเศร้า "ตั้งแต่แม่จากพวกท่านมาแม่ก็ไม่เคยได้พบพวกเขาอีกเลย"
คำพูดของผู้เป็นมารดาเกือบทำให้ทั้งเด็กทั้งสองและตัวเธอเองถึงกับร้องไห้ทั้งสามรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ชายหญิงทั้งสองหลังจากที่แม่ของพวกเขามาอยู่ที่โคโนฮะ มันเป็นสิ่งที่คุชินะแม่ของพวกเขานั้นไม่อาจลืมเลือนได้ การล่มสลายของหมู่บ้านนินจาและแคว้นอุซึชิโอะจากนำมือของนินจาศัตรูเพียงเพราะพวกเขานั้นมีพลังที่เหนือกว่าไม่เหมือนใครและหวาดละแวงว่าจะถูกรุกรานในเมื่อแคว้นอุซึชิโอะเป็นเพียงแคว้นที่รักสงบอย่างมาก
"อืม งั้นได้เวลานอนแล้วฟันดีน่ะนารูโตะ ซากุระ"
"ท่านแม่ค่ะ ช่วยเล่านิทานให้เราสองคนฟังหน่อยได้ไหมค่ะ" ซากุระอ้อนผู้เป็นแม่ ขณะอยู่บนเตียง
"ใช้ผมอยากฝังแล้วเหมือนกัน" นารูโตะพูด
"ก็ได้จะงั้นแม่จะเล่านิทานให้พวกลูกฟังเอง มินาโตะนายอยากฟังไหม" คุชินะถามผู้เป็นสามีที่อยู่ข้าง ๆ
"ฉันก็อยากฟังเหมือนกันนะ" มินาโตะพูด "อยากรู้จริงว่าเธอจะเล่าเรื่องอะไรดี"
ทั้งสี่ได้ขึ้นมาอยู่บนเตียง พร้อมกันแล้ว คุชินะก็ได้เริ่มเล่านิทาน
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมี เด็กหญิงคนหนึ่งเธอเกิดมาและได้รับความเกลียจชั่งจากผู้คนในตระกูลเพียงเพราะเธอนั้นเป็นลูกนอกสมรส เธอถูกคนในตระกูลกดขี่ข่มเหงรังแกต่างๆ นานาแต่เธอก็พยายามกัดฟันสู่และฟันฝ่ามาตลอด ถึงแม้คนในตระกูลจะเกลียจเธอแต่ก็มีอยู่คนหนึ่งที่รักเธอและดูแลปกป้องเธออย่างดีนั้นคือ พ่อของเธอ พ่อของเธอนั้นจะคอยปกป้องและดูแลเธอจากเมียหลวงที่ไม่ชอบหน้าเธอรวมทั้งพี่น้องต่างมารดาของเธอด้วย พ่อของเธอคอยอบรมและดูแลเอาใจใส่เธออย่างดี จนกระทั้ง พ่อของเธอได้ตายลงเพราะพยายามปกป้องเธอจากกลุ่มนินจาที่พยายามเข้ามาโจมตีตระกูลของเธอ เด็กสาวโศกเศร้าเสียใจอย่างมากที่ต้องศูนย์เสียบิดาอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ในช่วงงานศพของพ่อเธอนั้น เธอพยายามจะเข้าไปจูบลาพ่อผู้เป็นที่รักครั้งสุดท้ายแต่ ก็ถูกคนในตระกูลโยนออกมาพร้อมทั้งตราหน้าว่า เป็นตัวจัญไลที่นำความซวยมาสู่ตระกูลนี้ เป็นผลทำให้เธอถูกไล่ออกจากตระกูลในที่สุด" คุชินะเล่าด้วยเสียงที่เรียบ ราวกับว่านิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดูสะเทือนใจอย่างมาก ราวกับมาจากชิวิตจริงของใครคนใดคนหนึ่ง
"เศร้าจังเลย ทำไมเด็กหญิงคนนั้นถึงต้องเผชิญชะตากรรมอย่างนี้ด้วย " ซากุระทำเสียงเศร้าและกำลังจะร้องไห้
"ใจเย็นซากุระอย่าร้องไหนะลูก เดี่ยวแม่จะเล่าบทสรุปสุดท้ายให้ฟังน่ะลูก" คุชินะพูดปลอบลูกสาว ทำให้ลูกสงบลง
"หลังจากถูกขับออกมาแล้ว เธอก็ได้มาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอทำงานทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะหนักหรือเบาเธอทำหมด และในช่วงที่เธออยู่ในหมู่บ้านนั้นเธอก็ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย จนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ จนกระทั้งอยู่มาวันหนึ่งได้มีโจรเข้ามาลักพาตัวเธอหมายจะเอาเธอไปทำมิดีมิร้าย แต่โชคดีมีนินจาหนุ่มผู้หนึ่งผู้ซึ่งตกหลุมรักหญิงสาวคนนี้มาก่อนได้เข้ามาช่วยเหลือไว้ ทำให้ทั้งสองได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันจนมีลูกด้วยกันสองคนเป็นชายและหญิง ครอบครัวของหญิงสาวจึงมีแต่ความสุขตราบจนลมหายใจสุดท้ายได้มาเยือน"
หลังจากที่เล่านิทานจบลงก็พบว่าเด็กทั้งสองก็ได้หลับลงไปแล้ว ภาพที่ทั้งสองนอนหลับนั้นช่างเป็นภาพที่น่ารักจริง ๆ คุชินะได้นำผ้าห่มมาคลุมลูกทั้งสองที่กำลังหลับอยู่อย่างสบาย
"ลูกเราหลับแล้วนะ" มินาโตะมาอยู่ข้างตัวคุชินะ และหอมแก้ม
"งั้นเราก็คงต้องถึงเวลานอนแล้วล่ะ ฝันดีน่ะมินาโตะคุง" คณะที่คุชินะกำลังจะเตรียมนอนอยู่นั้น มินาโตะก็ได้นำฝ่ามือมาจับที่ที่แก่มของเด็กสาวอย่าวแผวเบาก่อนจะทำการจูบที่ริมฝีปากแต่แล้วการจูบที่แผวเบากับเป็นการคลอเลียกันอย่างสนุกสนาน
"มินาโตะขอล่ะ ลูกของพวกเราก็นอนอยู่ข้าง ๆ นะมันคงไม่ดีแน่ถ้าพวกเขาตื่นขึ้นมาเห็นพวกเรา " คุชินะพูดเตือนแต่เด็กหนุ่มห็ยังไม่หยุดคลอเคลียบริเวณซอกคอของเด็กสาว
"ไม่เป็นไรหรอกเดียวฉันจะทำเบา ๆ ให้นะลูกไม่ตื่นขึ้นมาหรอกและอีกอย่างตลอด 4 ปีมานี้ฉันอัดอั่นมานานมากแล้วอยากสัมผัสเรือนร่างของเธอจริง ๆ เลย" มินาโตะสัมผัสอีกฝ่ายอย่างอย่างไม่เร่งร้อน และนี้ไม่ใช่ครั้งแรกก็เหมือนครั้งแรก
ตัวคุชินะเริ่มเกร็งเมื่อเขาใช้มือลูบไปใต้เสื้อและเกาะกุมอกเนียนนุ่มเอาไว้
“รักนะ”
มินาโตะย้ำเพื่อให้คุชินะมั่นใจในการกระทำของเขาว่าจะไม่ทำให้เจ็บปวดแน่นอน มือที่ขยุมแขนเสื้อเขาแน่นเริ่มคลายออก เสื้อทั้งคู่ดึงขึ้นทางศีรษะลงไปกองข้างๆเตียง มินาโตะปลดกางเกงออกและเขวี้ยงมันลงไปข้าง ๆ เตียงที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของทั้งสอง ตอนนี้กายของทั้งสองไร้ซึ่งสิ่งปิดบังเรือนร่างแล้วเผยให้เห็นร่างที่ขาวสะอาด เนินหน้าอกที่ดูราวกับดอกบัวขนาดกลางไม่ใหญ่และเล็กจนเกินไปแต่กำลังได้ที่ ทรวดทรงที่สมส่วนเซ็กซี่ และแข็งแรงดุจนักรบหญิงอเมซอนของเด็กสาว และกายของเด็กหนุ่มที่บึกบึนและกำยำแข็งแรง ซิกแพกหน้าท้องที่ทรงพลังของเด็กหนุ่มมันทั้งแน่นและแข็งแรง ราวกับว่าร่างกายของเด็กหนุ่มนั้นผ่านการฝึกฝน และผ่านสมรภูมิมาเยอะ ยังไม่ร่วมถึงดาบของเด็กหนุ่มที่มีขนาดใหญ่และยาวมาก แม้แต่คุชินะเองเมื่อเห็นดาบของเด็กหนุ่มยังถึงกับตกตะลึงเพราะเธอเคยเห็นของมินาโตะมาก่อนซึ่งมันไม่ใหญ่มากนัก แต่นี้แค่ผ่านมา 4 ปี มันกลับมีขนาดใหญ่ยาวและแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก หากสาวใดได้มาเห็นเข้าคงต้องละลายใจให้กับรูปร่างที่งดงาม กำยำแข็งแรง รวมทั้งดาบที่ใหญ่ยาวและทรงพลังของเด็กหนุ่มผู้นี้ที่พร้อมจะทำให้หญิงใดที่ได้ลิ้มลองมันต่างต้องขึ้นสวรรค์ทุกราย คุชินะเริ่มเอนกายลงไปนอนกับเตียงที่ขาวนุ่ม นัยน์ตาสีฟ้าสดหลับลงหน้าแดงซ่าน แขนสองข้างรวบเข้ามากอดอกโดยทันที มินาโตะหันมามองลูกทั้งสองที่นอนอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ตื่นมาเห็นการกระทำของพ่อแม่ เมื่อแน่ใจแล้วจึงหันมายังร่างของเด็กสาว
ตัวคุชินะเริ่มเกร็งเมื่อเขาใช้มือลูบไปใต้เสื้อและเกาะกุมอกเนียนนุ่มเอาไว้
“รักนะ”
มินาโตะย้ำเพื่อให้คุชินะมั่นใจในการกระทำของเขาว่าจะไม่ทำให้เจ็บปวดแน่นอน มือที่ขยุมแขนเสื้อเขาแน่นเริ่มคลายออก เสื้อทั้งคู่ดึงขึ้นทางศีรษะลงไปกองข้างๆเตียง มินาโตะปลดกางเกงออกและเขวี้ยงมันลงไปข้าง ๆ เตียงที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของทั้งสอง ตอนนี้กายของทั้งสองไร้ซึ่งสิ่งปิดบังเรือนร่างแล้วเผยให้เห็นร่างที่ขาวสะอาด เนินหน้าอกที่ดูราวกับดอกบัวขนาดกลางไม่ใหญ่และเล็กจนเกินไปแต่กำลังได้ที่ ทรวดทรงที่สมส่วนเซ็กซี่ และแข็งแรงดุจนักรบหญิงอเมซอนของเด็กสาว และกายของเด็กหนุ่มที่บึกบึนและกำยำแข็งแรง ซิกแพกหน้าท้องที่ทรงพลังของเด็กหนุ่มมันทั้งแน่นและแข็งแรง ราวกับว่าร่างกายของเด็กหนุ่มนั้นผ่านการฝึกฝน และผ่านสมรภูมิมาเยอะ ยังไม่ร่วมถึงดาบของเด็กหนุ่มที่มีขนาดใหญ่และยาวมาก แม้แต่คุชินะเองเมื่อเห็นดาบของเด็กหนุ่มยังถึงกับตกตะลึงเพราะเธอเคยเห็นของมินาโตะมาก่อนซึ่งมันไม่ใหญ่มากนัก แต่นี้แค่ผ่านมา 4 ปี มันกลับมีขนาดใหญ่ยาวและแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก หากสาวใดได้มาเห็นเข้าคงต้องละลายใจให้กับรูปร่างที่งดงาม กำยำแข็งแรง รวมทั้งดาบที่ใหญ่ยาวและทรงพลังของเด็กหนุ่มผู้นี้ที่พร้อมจะทำให้หญิงใดที่ได้ลิ้มลองมันต่างต้องขึ้นสวรรค์ทุกราย คุชินะเริ่มเอนกายลงไปนอนกับเตียงที่ขาวนุ่ม นัยน์ตาสีฟ้าสดหลับลงหน้าแดงซ่าน แขนสองข้างรวบเข้ามากอดอกโดยทันที มินาโตะหันมามองลูกทั้งสองที่นอนอยู่ข้าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ตื่นมาเห็นการกระทำของพ่อแม่ เมื่อแน่ใจแล้วจึงหันมายังร่างของเด็กสาว
“ไม่ต้องอาย ดูดีออก”
มินาโตะพูดพลางดึงแขนของร่างบางที่แข็งแรงออกอย่างช้าๆ คุชินะลืมตามองตาสีฟ้านั้นตาที่กวาดไปทั่วร่างของเธอดั่งว่าถูกไฟเผา ร้อนรุ่มไปทั้งตัว
“ฉัน...กลัว....”
“ไม่เป็นไรนะ ฉันจะไม่ทำให้เจ็บหรอก”
"เดียวฉันขอใช้คาถาป้องกันก่อนดีกว่า จะได้ไม่ท้องอีก" คุชินะพลางเอามือประกบลงบนท้องของตัวเองเพื่อใช้คาถาป้องกันการท้อง
เด็กหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะประกบจูบริมฝีปาก พลางเอามือของคุชินะมาจับประสานเข้ากับมือที่ใหญ่และหยานกรานของเด็กหนุ่มด้วยกัน ช่วงเวลาที่ไร้เสียงคำพูดใด มีเพียงลมหายใจที่หอบกระชั้นมากขึ้น หลังจากที่ดื่มดำกับจุมพิตอันหอมหวาน เด็กหนุ่มค่อย ๆ ไล่เลียลงมายังจุกสีชมพูบนหน้าอกของเด็กสาว
"อ๊ะ อ๊ะ มินาโตะ อ้าาาาาาา" เด็กสาวครางออกมาอย่างได้อารมณ์ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังไล่เลียดูดหน้าอกของเด็กสาว ไฟแห่งราคะของทั้งสองนั้นกำลังลุกโชนราวกับกำลังแผดเผาร่างทั้งสอง
เมื่อปลุกไฟแห่งราคะถึงที่สุดแล้วมินาโตะดันดาบที่มีขนาดใหญ่ยาวของตัวเองเข้าไปช้าๆ มือของคุชินะจากที่สัมผัสกันอย่างแผวเบาก็เริ่มจับกันแน่นมากขึ้น
"ฮ้า ... ฮ้า.....อืออออ มินาโตะ!!!” หญิงสาวคราง เมื่อดาบของเด็กหนุ่มมันแทงเข้ามาลึกสุด จนราวกับจะขาดใจตายอยู่แล้ว
“อือ... อึ๊ก!!!”
ร่างข้างใต้สะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเริ่มเพิ่มความเร็วมากขึ้น การรวมรักกันของทั้งสองเป็นไปอย่างเร่าร้อนและแผวเบาเพราะไม่อยากปลุกลูก ๆ ให้มาเห็นสิ่งที่พ่อแม่ทำกัน มินาโตะกระแทกกายครั้งสุดท้ายปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตเข้าไปในเรือนรางของร่างบาง ทั้งสองต่างหอบกันอย่างแผวเบาก่อนที่มินาโตะจะประกบจูบที่ริมฝีปากของคุชินะ หลังจากจบการรวมรักกันของสองสามีภรรยาแล้วทั้งสองก็ใส่เสื้อผ้าและกับไปนอนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือของทั้งสองประสานกอดร่างของลูกน้อยทั้งสองที่นอนอยู่ตรงกลางเตียง
**********
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น