ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Naruto ) Naruto The paradise of Atlantis ผจนภัยดินแดนแอตเลนติส

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 วันที่ดวงตะวันน้อยๆถือกำเนิด

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 63









         หลังจากที่เหตุการณ์ร้าย ๆ ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ครรภ์ของฉันมีอายุได้ 9 เดือนแล้ว มันใหญ่มาก จนทำให้ฉันไม่สามารถเดินได้สะดวกขึ้นอีกต่อไป แต่โชคยังดีที่ฉันยังค่อยมีมินาโตะคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง คงเป็นเพราะเหตุการณ์ร้ายเมื่อครั้งก่อนทำให้เขาไม่อยู่ห่างจากฉันแม้แต่ก้าวเดียว

          เดือนนี้เป็นเดือนธันวาคม เป็นช่วงเช้า ที่ฤดูหนาวได้เข้ามาแล้ว เมืองอุซึชิโอะกลายเป็นเมืองที่มีหิมะตก บ้านเลือนต่าง ๆ ปกคลุมไปด้วยหิมมะจนขาวโพรน แม้แต่ในปราสาทเอง ก็ยังไม่มีใครออกมาเล่นข้างนอกหรือทำอะไรเลย ต้นไม้ต่าง ๆ เต็มไปด้วยหิมะที่เกาะอยู่บนใบไม้

         ภายในห้องนอนอันแสบอบอุ่น เด็กสาวนั้นกำลังนั้งอยู่บนฟูก พร้อมกับเด็กหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ พร้อมกับรับความอบอุ่นจากเตาฝิงที่จุดขึ้น

    ตึก ตึก ตึก

    "อะ ลูกดิ้น" คุชินะเอามือบอบบางกุ่มท้องที่ใหญ่โต เธอรู้สึกได้ถึงความรักน้อย ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกและภายในห้องของเธอนั้นลูกน้อยทั้งสองต่างถีบท้องแรงมาก ราวกับอยากจะออกมาดูโลกภายนอก

    "อุอุ ลูกพ่อ" มินาโตะ เอามือลูบท้องคุชินะอย่างแผวเบา "อย่าซนสิ แม่ของลูกอุ่มท้องเจ้าอยู่อย่าทำให้นางต้องลำบากนะ"

         คำพูดของอันแสนเมตตาขอเด็กหนุ่มทำให้ เด็กในท้องถึงกับหยุดดิ้นไปในทันที่  ราวกับเด็กในท้องนั้นฟังสิ่งที่พ่อแม่พูดรู้เรื่อง

    "ฮา ลูกของเราคงอยากจะออกมาลืมตาดูโลกแล้วนะสิ" หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่เด็กหนุ่มเอาหูมาแนบกับท้องที่ป่อง เพื่อฝังหัวใจดวงน้อย 

    "พ่อรอเจ้าอยู่นะ ออกมาลืมตาดูโลกที่แสนกว้างใหญ่นะ " 

         เด็กหนุ่มพูดด้วยเสียที่แผวเบา เขาเฝ่ารอวันนี้มานานแล้ววันที่เราจะได้เป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่น และอยากจะพาลูกน้อยไปท่องโลกกว้างให้พวกเขาได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ ในโลกที่กว้างใหญ่นี้

    "แล้ววันนี้นายจะไม่ออกไปข้างนอกหรือ" คุชินะถาม

    "ไม่หรอกฉันจะอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด ฉันจะไม่ทิ้งเธอกับลูกให้อยู่ตามลำพังอีกต่อไปแล้ว ฉันเฝ่ารอวันที่เหล่าลูกตัวน้อยของเราจะตืนมาลืมตาดูโลกใบนี้"

          เด็กหนุ่มเอาหัวที่แนบอยู่กับท้องของเด็กสาวออกแล้วเอามือมาจับที่ใบหน้าของเด็กสาวอย่างแผวเบา ดวงตาของทั้งสองสบตาประสานเข้าด้วยกัน

    "และเราจะเป็นครอบครัว" 

    "ที่แสบอบอุ่นตลอดไป" เด็กสาวพูด

         มินาโตะและคุชินะได้ประกบจูบลิมฝีปากอย่างแผวเบา ขณะที่ข้างนอกนั้นสุนัขจิ้งจอกที่ออกหาอาหารได้กลับมาที่รั้งที่ซึ่งจิ้งจอกตัวเมียท้องแก่กำลังนอนพักอยู่และจิ้งจอกตัวผู้ได้เอาเนื้อกระต่ายมาให้ตัวเมียกิน และเลียขนสีขาวของตัวเมียเพื่อทำความสะอาด และเอาหูแนบฟังเสียสิ่งมีชีวิตตัวน้อย ๆ ที่กำลังจะถือกำเนิด

    *******



         ตอนนี้เป็นวันที่ ฤดูหนาวรุนแรงสุด ๆ วันนี้เป็นวันที่ 25 ธันวาคม เมืองอุซึชิโอะยังคงกลายเป็นเมืองที่มีหิมะตก สภาพอากาศเลวร้ายลง พายุหิมะพัดผ่านอย่างบ้าคลัง ทำให้ผู้คนไม่ค่อยออกมาเดินเล่นข้างนอกหรือทำกิจกรรมใด ๆ นัก

         ภายในปราสาทนั้นช่างแสนอบอุ่นเสียจริง ด้วยมีการจุดไฟหน้าเตาผิงที่อบอุ่น ภายในห้องนั้นเด็กสาวกำลังนอนอยู่บนฟูกโดยมี หมอหลวงซึ่งเป็นชาวเอลฟ์ ที่มีหน้าตาดูหนุ่ม ผมยาวสีเงิน ดวงตาสีเขียวและ มีหูแหลม กำลังทำการตรวจครรภ์ของคุชินะ เพื่อเตรีมตัวในการทำคลอดในช่วงเวลานี้ โดยข้าง ๆ ก็มีฮารุกะและมินาโตะคอยเฝ่าอย่างใกล้ชิด

    "เด็กในท้องก็ยังแข็งแรงดี" หมอหลวงพูด และหันมามองที่ฮารุกะ "ไม่พบอาการผิดปกติว่าเด็กใกล้คลอด"

    "แล้วคิดว่าเธอจะคลอดลูกในช่วงเวลาไหนได้" มินาโตะถามอย่างเป็นห่วง

    "น่าจะอีกห้าวันหรือไม่ก็สามวัน" หมอหลวงอธิบาย "แต่เวลานี้ต้องค่อยดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษเลยละเนื่องจากสภาพอากาศข้างนั้นหนาวเย็นมาและอาจมีผลกระทบต่อแม่และเด็กอย่างมาก เพราะฉะนั้นควรดูแลอย่างใกล้ชิดก้แล้วกัน"

    "ขอบใจมากท่านหมอหลวงที่ให้คำแนะนำที่ดี" 

         ฮารุกะกล่าวขอบคุณก่อนที่เธอและท่านหมอหลวงจะออกไปข้างนอกโดยทิ้งเด็กทั้งสองคนเอาไว้  มินาโตะกะเถิบเข้ามาหาเด็กสาวและเอามือมาจับที่มือของเด้กสาว

    "เข็มแข็งไว้นะคุชินะ ฉันอยู่ข้างเธอ ๆ เสมอ" 

    "ไม่เป็นไรหรอกฉันแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ฉัน" เด็กสาวหยุดพูดไปทันที่ราวกับกำลังคิดอะไรบ้างอย่าง

    "แต่ทำไมหรือ" เด็กหนุ่มรู้สึกสงสัยอย่างมากในสิ่งที่เด็กสาวกำลังจะพูด

    "แต่ฉันกลัวมินาโตะ " เด็กสาวพูดอย่างแผวเบาด้วยความกลัว "ฉันกลัวจะเจ็บเพราะฉันไม่เคยคลอกลูกมาก่อน ฉันไม่รู้ว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหน"

         คำพูดของเด็กสาวทำให้เด็กหนุ่มรู้ดีว่า เธอนั้นหวาดกลัวความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น จากการให้กำเนิดลูก ๆ ของเราสองคน

    "ใจเย็น ฟังฉันให้ดีนะ" เด็กหนุ่มกุมมือเด็กสาวไว้แน่ "ความเจ็บปวดเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แม้แต่ตอนที่แม่ของฉันคลอดฉันออกมาท่านก็ยังเคยเจ็บปวดมาก่อนเลย เธอลืมไปแล้วหรือว่าเธอคืออุซึมากิ สายเลือดที่มีความอดทนสูงที่สุดในโลกนี้"

         คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้เด็กสาวคิดได้ทันที่ว่าเธอนั้นเป็นอุซึมากิสายเลือดที่มีความอดทนต่ออุปสรรคต่าง ๆ ทำไมจะต้องมากังวลต่อความเจ็บปวดด้วยละ

    "ที่นายพูดก็ถูกฉันคืออุซึมากิ " เด็กสาวพูดด้วยเสียงที่แผวเบา " ฉันไม่ควรจะมีความกลัวต่อความเจ็บปวดเลยด้วยซ่ำ ฉันจะต้องเข็มแข็งให้ได้ "

    "จริงสิฉันว่าฉันจะพาเธอไปอาบน้ำนะ เธอจะให้ฉันพาไปไหม"

    "ไปอยู่แล้วล่ะ"

          เด็กหนุ่มจัดแจ้งอุ้มเด็กสาวขึ้นมาก่อนที่จะใช้วิชาคาถาเทพสายฟ้าเหิน พาเด็กสาวไปที่ห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็วอย่างแทบไม่น่าเชื้อ มินาโตะนั้นได้เรียนวิชานี้มาจากครูนินจาคนหนึ่งในเมืองอุซึชิโอะ ซึ่งคนที่จะใช้วิชานี้ได้นั้นถือได้ว่าหายากมาก ๆ และในโลกนินจานั้นคนที่ใช้วิชานนี้ได้นั้นก็มีแต่ เซนจู โทบิรามะ เท่านั้น มือของเด็กหนุ่มที่อุ้มเด็กสาวมาได้ว่างร่างบางที่ท้องแก่ลงในอ่างน้ำขนาดใหญ่ แล้วจึงหันไปเปิดน้ำอุ่น เด็กหนุ่มถอดเสื้อออก ทิ้งไว้ในตะกร้าเป็นจังหวะเดียวเดียวกับที่เด็กสาวปลดเปลื้องเหลือเพียงซับในเบาบาง

    "จะอาบด้วยกันหรือมินาโตะคุง" แก้มเนียนละเอียนแดงซ่านเมื่อเด็กหนุ่มแทรกกายลงมาในบ่อพร้อมกับครีมอาบน้ำกลิ่นหอมกลุ่น ลำแขนเรียวถูกดึงไปฟอกสบู่เพื่อชำระคราบสกปรก คุชินะเกล็งกายแน่นหลังสัมผัสกับฝ่ามือที่อ่อนหนุ่มถูครีมอาบน้ำมายังซอกคอ เนินอก และท้องที่ใหญ่โย่วออกมา

         แขนของเด็กหนุ่มโอบเอวคอดเข้าแนบชิด บังคับให้เธอกางขาคล่อมเอวของตนเอาไว้ นิ้วเรียวดึงเชือกผูกชั้นในออกจากแผ่นหลังขาวเนียนเงียบเชียบ ในหัวของเด็กหนุ่มมีแผนการที่จะแอ้มนางสิงห์ท้องแก่ สักครั้ง 


    "ฉันจะทำเบา ๆ ให้ไม่ต้องกลัวหรอก" มินาโตะเป็นคนพูดเร็ว ทำเร็วมาตั้งแต่ไหนแต่ไร สิ้นคำนั้นมือของเด็กหนุ่มก็บรรจงยกสะโพกกลมเข้าหาส่วนอุ่นร้อนสุดปรายทาง เสียงครางฮือดังขึ้นประทัวงเพราะท่วงท่าครั้งนี้ดูจะเข้าลึกเหลือเกิด

    "อ้า ตาบ้า" 

    "อย่าพูดมากอาบน้ำกันต่อเถอะ"


         เขาพูดพรางลงมือถูสบู่และสระผมให้เธอต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ทุกครั้งที่ขยับแกนกายฝั่งแน่นในความอบอุ่นก็ขยับเช่นกัน ดวงตาสีฟ้าหรี่ลงด้วยความเสียวซ่า และรู้สึกมีความสุขที่ได้รับความหฤหรรษ์นั้นอย่างเต็มใจ

    "อ๊า....ช้าหน่อย "

         เด็กหนุ่มยังคงขยับกายของตนเองอย่างแผวเบา และค่อยๆแรงมากขึ้นมากขึ้นที่ระนิด และจากนั้นก็กลายเป็นแรงขึ้นเด็กสาวเริ่มรู้แล้วว่ามันแรงมากเกินไป

    "มินา.....โตะ.....อ๊า.....อ๊า.....อ๊า"

         เด็กหนุ่มกระแทกกายครั้งสุดท้ายปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตจำนวนมหาศาลเข้าไปในร่าง ตอนนี้ความสนุกสนานได้จบลงเรียบร้อยแล้ว

    "มาร่างตัวเหอะ เราต้องขึ้นแล้วล่ะ" 

         เด็กหนุ่มตักน้ำมารดใส่ตัวเด็กสาว และได้ล้างสบู่และยาสระผมออกจนหมด เมื่อล้างตัวเรียบร้อยแล้วเด็กสาวก็ได้เดินลุกออกจากอ่างแต่ก็ทุรักทุเรนิดหนึ่งเพราะท้องที่ใหญ่ของเธอ เมื่อออกมาได้แล้วเด็กหนุ่มเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแต่ไม่ทันไร

    "อ๋า!! " เด็กสาวร้องเสียงหลง แล้วเอามือกุมที่ท้องโย่ว

    "เป็นอะไรไปคุชินะ!!" 

         เด็กหนุ่มหันกลับมาก็พบว่าน้ำคล่ำได้ไหล่ลงมาระหว่างขาของเด็กสาว นี้เป็นสัญญาว่าเธอกำลังจะคลอดลูกแล้ว

    "มินาโตะช่วยด้วยฉันกำลังจะคลอดลูก" 

         เด็กสาวทรุดตัวลงแต่ดีที่เด็กหนุ่มารับร่างบางไว้ในอ้อมแขนได้ทันเวลา อย่างรวดเร็ว

    "อย่าเป็นอะไรไปนะคุชินะ ฉันจะพาเธอไปหาท่านฮารุกะเอง" 

    "มินาโตะลูก ของเรา"

         เด็กหนุ่มรีบเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างของเด็กสาวและอุ้มขึ้นมาก่อนที่จะรีบพาเด็กสาวไปหาท่านฮารุกะที่อยู่ที่ห้องรับรอง

    "ท่านฮารุกะแย่แล้วครับ" เด็กหนุ่มร้องตะโกนออกมา

    "เกิดอะไรขึ้น เดียวนี้มัน"  หญิงสาวถึงกับตะลึงเมื่อเด็กหนุ่มอุ่มเด็กสาวเข้ามาในสภาพที่มีน้ำคล้ำไหล่เยิ่มออกมาจากระหว่างขาของเด็กสาว

    "คุชินะเธอกำลังจะคลอดลูกแล้วครับรีบช่วยเร็วเข้าครับ"

    "ได้ๆๆ รีบพาเธอไปที่ห้องนอนก่อน เดียวฉันจะไปตามหมอหลวงมาให้ รีบไปที่ห้องก่อน " หญิงสาวรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้และสั่งคนใช้ให้ไปเตรียมของต่าง ๆ ในการทำคลอด รวมทั้งตามหมอหลวง

    **********

    ภายในห้องนอน

         ตอนนี้ภายในห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความตึงเครียด เด็กสาวท้องแก่นอนเปลือยกายอยู่บนฟูกและจับผ้าฝูกไว้แน่นราวกับจะขาดใจตาย

    "อื้อออออออออออ! เจ็บ"

    "อดทนไว้นะคุชินะ หายใจเข้าลึกๆ " หมอหลวงชาวเอลฟ์ที่เป็นผู้หญิง ก้มมองใบหน้าหวานสลับกับช่องคลอดเป็นระยะ โดยมีท่านหญิงฮารุกะค่อยอยู่ข้างๆ  เด็กสาวกัดปากจนช้ำไปหมดก็ยังไม่หลุดพ้นจากความรู้สึกเจ็บปวดนี้ เม็ดเหงือพุดพรายขึ้นทั่วทั้งตัว ร่างบอบบางหายใจแรง 

         ขณะที่เด็กหนุ่มนั้นต้องค่อยอยู่ข้างนอกอย่างร้อนรน ในใจเข้าอยากจะเข้าไปค่อยให้กำลังใจ เด็กสาวสาวและดูหน้าลูกน้อยในยามแรกเกิดแต่เข้าไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ นอกจากอยู่ข้างนอกและฟังเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของเด็กสาว (เทวดาทั้งหลายผมขอล่ะช้วยปกปักคลุมครองลูกและภรรยาผมด้วย ขอให้พวกเขาปลอดภัยด้วยเถอะ) เด็กหนุ่มอธิถานภายในใจ เขาขอเพียงอย่างเดียวขอให้คนอันเป็นที่รักปลอดภัย

    "อื้อออออออออออ! อึก!....อึก!

         คุชินะพยายามสูดหายใจให้ลึกที่สึุด เธอออกแรงเบ่งสุดตัวเมื่อมองเห็นสัญญา หัวใจดวงเล็ก ๆ เต้นรัวเหมือนจะหลุดออกมาจากอก 

    "อึก! อึก! อ๊าาาาาาาาาาา !!! แฮก! แฮก! "

    "หัวโผล่ออกมาแล้วค่ะ! อีกนิดเดียวหนูน้อย" หมอหลวงชาวเอลฟ์เห็นอย่างนั้นก็รู้โล่งใจไปหนึ่งเปราะ และกระตุ่นเด็กสาวให้ให้ฮึดสู่อีกครั้ง

    "อีกนิดเดียวคุชินะลูกของเธอใกล้ออกแล้ว " ท่านหญิงฮารุกะกระซิบ

    "หายใจเข้าลึกๆ นะคะ แล้วเบ่งออกมาให้สุดแรงเลยค่ะ!"

         เด็กสาวแห่งอุซึมากิเหลือบมองท่านหญิงแห่งอุซึชิโอะขณะรวบรวมเรียวแรงครั้งสุดท้าย ความเจ็บปวดของความเป็นมารดาเพิ่มทวีคูณเท่ากับลมหายใจที่สูดเข้าลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะปลดปล่อยทั้งหมดออกมาภายในการเบ่งครั้งเดียว

    "อึก! ฮึบ! ฮึบ! อ๊าาาาาาาาาาา !!! อื้ออออออออ!!"


    "อุแว้! อุแว้! อุแว้!"

    "เด็กออกมาแล้วเอาน้ำสุกมาเร็ว" และแล้วเสียงสวรรค์ที่ทั้งหมดรอคอยมาถึง เด็กน้อยผิวสีน้ำผึ้งผมสีบลอนด์ แก้มทั้งสองข้างมีรอยขีดสามขีดเหมือนลูกแมว ร้องเสียงดั้งลั่น ฮารุกะหันไปสั่งสาวใช้ด้วยรอยยิ้มเต็มแก้ม สาวใช้เตรียมจะทำความสะอาดทารกแรกเกิดก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น

    "อื้ออออออออ!! อึก! อึก!"

    "แย่แล้วท่านฮารุกะ ดูเหมือนว่าจะมีอีกคนค่ะ " หมอหลวงก้มดูช่องคลอดที่เต็มไปด้วยเลือดข้นคลั่ก และเริ่มเห็นศรีษะของทารกเริ่มดั่นออกมาจากแรงเบ่งของแม่ สาวใช้รีบส่งทารกเพศชายแรกเกิดให้ชาวใช้คนอื่นจัดการทำความสะอาด

    "อดทนหน่อยนะแม่หนู ลูกของเธอใกล้จะออกมาแล้ว"

    "อึก! อึก! อื้ออออออออ!! อ๊าาาาาาาาาาาาา!!


    อุแว้! อุแว้! อุแว้! " 

         เสียงร้องดังกว่าอีกคนลั่นไปทั่วห้อง เด็กหญิงหน้าตาหน้ารัก ผมสีชมพูดอกซากุระคลอดออกมาจากการเบ่งครั้งเดียว สาวน้อยมีสีหน้าปกติแม้จะเปรอะเปรือนด้วยเลือดของมารดา หมอหลวงรีบตัดสายสะดือแล้วอุ่มออกมาเช็ดตัวในทันที่

    "มินาโตะข่าวดีเธอได้ลูกลูกชายและลูกสาวรีบเข้ามาเร็ว"

    "จริงหรือ!!"

         ฮารุกะรีบเปิดประตูเลื่อนออกมาบอกเด็กหนุ่มที่กำลังอยู่ในอาการอยากพบหน้าลูกเมีย เด็กหนุ่มไม่รอช้ารีบตามหญิงสาวคนนั้นเข้าไป ภาพที่เห็นคือร่างของคุชินะที่เปลือยเปร่าและชุ่มเหงื่อ ใบหน้าเหนื่อยอ่อนหากยังคงยิ้มเป็นสุข สาวใช้นำห่อผ้าขาวๆสองห่อ มาให้อย่างระมัดระวัง เด็กสาวรับไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม ก่อนที่จะให้ลูกน้อยทั้งสองดื่มนมอันแสนหวานจากเต้านมสองข้าง

    "มินาโตะมานี้สิ"

         เด็กสาวเรียกเรียกเด็กหนุ่มเข้าไปใกล้ๆอีกหน่อย ด้วยความตื่นเต้น มินาโตะเข้าไปนั่งยืนอยู่ข้างๆฟูก


    ลูกน่ารักจัง... ดูสิ 

         
    คุชินะยื่นเด็กน้อยให้มินาโตะดู น้ำตาคลอด้วยความยินดี มินาโตะยื่นมือที่สั่นน้อยๆไปเปิดผ้าที่บังหน้าเจ้าตัวเล็กทั้งสองจากสายตาเขาออกเพื่อที่จะมองได้ถนัดขึ้น 

    "ลูก.....ลูกพ่อ ลูกช่างน่ารักจริง ๆ "

    ระหว่างที่เขาก้มลงไปดูลูกน้อยนั้นเอง
     ร่างที่อุ้มเจ้าหนูทั้งสองก็กระซิบที่ข้างหูเบาๆของเด็กหนุ่ม

    "สุขสันต์วันปีใหม่ของเราสองคนนะ"
     

         เด็กหนุ่มยิ่มหัวเราะอย่างมีความสุข เขาเอามือสัมผัสลูกน้อยทั้งสองด้วยความรัก ราวกับดวงตะวันน้อย ๆ ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้

    "จริงสิและพวกเธอทั้งสองจะตั้งชื่อลูกแฝดว่าอย่างไรล่ะ" ฮารุกะถามขึ้นขณะที่มองเด็กทั้งสอง "หรือว่าพวกเธอลืมที่จะตั้งชื่อลูกแล้ว"

    "ผมนึกชื่อไว้แล้วครับ ลูกชายคนโตผมตั้งชื่อว่านารูโตะครับ ส่วนลูกคนที่สองผมตั้งชื่อว่าซากุระครับ"

    "ฉันชอบชื่อที่นายตั้งให้ลูกนะ" เด็กสาวยิ้มและหัวเราะนิดหน่อย 

    "เธอชอบหรือ" เด็กหนุ่มถามพลางจับไหล่เด็กสาว "เผอิญว่าชื่อนี้ฉันคิดขึ้นได้เองน่ะ นารูโตะนั้นฉันตั้งตามลูกชิ้นราเมงที่เราสองคนชอบกินเป็นประจำน่ะ"

    "ที่นายตั้งถือว่าดีแล้วล่ะ นารูโตะนั้นช่างเหมือนนายจริง ๆ ส่วนซากุระนั้นชื่อของลูกสาวเรานั้นเหมือนต้นซากุระในยามแรกรุ่น เหมือนกับเส้นผมลูกของเรา " คุชินะพลางพูดด้วยเสียงอ่อน ๆ สายตาสีท้องสมุทรของผู้เป็นมารดาวัยใสมองบุตรสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน "ซักวันหนึ่งลูกของเราจะเติบโตและสง่างามเหมือนพวกเรา"

    "ใช้แล้วซักวันหนึ่งพวกเขาจะเติบใหญ่ และแข็งแกล่งเหมือนพวกเรา"

         เด็กหนุ่มเอามือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเด็กสาวอย่างแผวเบาก่อนที่จะจุมพิษที่ริมฝีปาก ภาพนี้กลายเป็นภาพที่น่าประทับใจจนบรรดาสาวใช้ หมอหลวง และท่านฮารุกะเองก็ยังปาดน้ำตาแห่งความปลืมปืติ ฤดูหนาวข้างนอกได้สงบลงแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ แสงแดดจากฟากฟ้าได้ส่องลงมายังที่ปราสาทอีกครั้งราวกับวันใหม่ได้เข้ามาถึงแล้ว







    ************








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×