ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวห้าวตัวร้ายกับพี่ชายตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #2 : ผู้หญิงคนนั้น

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.พ. 50


    2

    ฟ้ายามนี้มืดสนิท ดวงจันทร์และหมู่ดาวทั้งหลายเริ่มปรากฏขึ้นแม้จะไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนนัก แต่ริวเองก็ยังรู้สึกได้ว่าพระจันทร์วันนี้สวยเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะวันนี้พระจันทร์เต็มดวงก็ได้ที่ทำให้ริวคิดเช่นนั้น เขานั่งนิ่งอยู่บนรถไฟฟ้าขณะกลับบ้าน ในมือนั้นจับกีตาร์ตัวเก่งเอาไว้มั่น จนเมื่อรถไฟฟ้าจอดเทียบสถานี ผู้คนมากมายต่างก็เดินเข้าออกไปตามจุดหมายของตน ริวสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนโหนอยู่จึงลุกให้เธอนั่ง

    ขอบคุณค่ะ เธอกล่าวเสียงใสพลางยิ้มให้ รอยยิ้มนั้นสวยและเป็นมิตรอย่างที่ริวเคยเห็นบนใบหน้าของแม่มาก่อน

    ริวถึงกลับยิ้มออกเมื่อได้เห็นรอยยิ้มนั้น หญิงสาวนั่งแทนที่ของเขาอย่างระมัดระวัง เธอยังคงสวมชุดนักศึกษาอยู่ เสื้อขาวขนาดพอเหมาะไม่รัดตัวอย่างคนอื่นๆกับกระโปรงจีบรอบและรองเท้าผ้าใบนั้นทำให้เธอดูน่ารักและร่าเริงตลอดเวลา

    กีตาร์ตัวเก่งล่ะสิค่ะ เธอเอ่ยขึ้นพลางมองที่กีตาร์อย่างสนใจ

    ค...ครับ ความจริงก็มีอยู่ตัวเดียว ริวตอบตะกุกตะกัก ในใจนั้นเต้นรัวไปหมด เธอดูเป็นมิตรและน่ารู้จักที่สุดเท่าที่ริวเคยเห็นมา

    ฉันก็มีอยู่ตัวหนึ่งเหมือนกันคะ

    คุณก็เล่นกีตาร์ด้วยเหรอครับ ริวถามออกไปอย่างไม่ทันคิด หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ ทำไมเธอจะเล่นกีตาร์ไม่ได้

    ริวรู้ตัวว่าพูดอะไรโง่ๆ เขาได้แต่ก้มหน้า แล้วหันไปทางอื่น

    คุณยังจำเพลงแรกที่คุณหัดเล่นได้ไหม เธอถามขึ้น

    จำได้สิครับ

    จริงเหรอ ฉันก็จำได้เหมือนกัน บางคนมักจำไม่ได้เพราะเขามักจะหัดไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจอะไร แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันยังจำเพลงนั้นได้เสมอ

    ริวยิ้มรับ เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูมีเสน่ห์ที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา บางทีเขาอาจหลงเสน่ห์เธอเข้าแล้ว

    รถไฟฟ้าจอดเทียบสถานี ทั้งเขาและหญิงสาวคนนั้นต่างก็เธอออกมาจากรถไฟพร้อมกัน และเดินลงบันไดมาพร้อมกัน แต่แล้วเธอก็หยุดเดินก่อนจะหันมามองเขา

    ฉันต้องไปทางนี้ เธอเอ่ยขึ้น

    อ้อ ส่วนผมต้องไปทางนี้ ริวตอบตะกุกตะกัก

    งั้น โชคดีนะคะ เธอเอ่ยลาก่อนจะหันเดินไป ริวเองก็หันเดินไปตามทางของเขาแต่แล้วเขาก็ต้องรีบหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงนั้น เออ...คุณ ขอบคุณมากนะคะสำหรับความมีน้ำใจของคุณ

    ริวกุมหัวพยักหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก เธอหันกลับ เขาเองก็เช่นกัน แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดเดินแล้วร้องถามขึ้น

    เออ คุณชื่ออะไรครับ

    แต่เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว คนในละแวกนั้นต่างพากันมองว่าเขาพูดกับใคร ริวแทบจะแทรกแผ่นดินหนีความหน้าแตกให้ได้

    ทันทีที่ริวกลับมาถึงบ้าน เขาก็เดินขึ้นไปบนห้องจนลืมทักน้องสาวที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง อิงรู้สึกแปลกๆที่พี่ชายไม่ทักเช่นเคย เธอจึงลองเดินขึ้นไปเพื่อถามดูว่าพี่ชายเป็นอะไรรึเปล่า

    เธอเคาะประตูก่อนเอ่ยขึ้น พี่ชาย อิงเข้าไปได้รึเปล่าคะ

    เข้ามาสิ

    อิงเปิดประตูเข้าไป ริวกำลังจับกีตาร์ขึ้นมาไว้ที่ตักเพื่อที่จะกลับไปเล่นเพลงแรกที่เขาเคยเล่น

    พี่ชายกินอะไรมารึยังคะ อิงถามก่อนที่เสียงเพราะๆของกีตาร์จะถูกบรรเลงขึ้น

    ริวไม่ยอมตอบอะไร เขามัวแต่สนใจกีตาร์ในมือ อิงนั่งมองริวเล่นกีตาร์ด้วยแอบชมพี่ชายอยู่ลึกๆ พี่ชายคนนี้ต้องต่อสู้กับอะไรต่อมิอะไรมามากมายเกินกว่าที่เธอจะรู้ได้ ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก พี่ชายคนนี้ก็จะต้องตื่นมาแต่เช้าเพื่อไปช่วยแม่จ่ายตลาด ทำงานทุกอย่างช่วยแม่มาโดยตลอด หลังจากที่แม่เสียไป พี่ชายคนนี้ก็ยอมลำบากอยู่ข้างนอกโดยเอาเงินที่ป้าส่งมาให้ทั้งหมดไปจ่ายค่าเทอมให้กับน้องสาวจนตัวเองต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัว หลายครั้งที่อิงเองก็รู้สึกเหมือนตัวเองเห็นแก่ตัวที่อยู่อย่างสุขสบายในโรงเรียนประจำ ทั้งๆที่พี่ชายยังลำบากอยู่ข้างนอก แต่เมื่อเธอจะออกจากโรงเรียน พี่ชายที่แสนดีคนนี้กลับบอกว่า จะหนีไปให้พ้นๆ ดีกว่าต้องมาทนเห็นน้องตัวเองต้องลำบาก

    นี่ มานั่งจ้องพี่อย่างนี้ทำไม ริวถามขึ้น อิงรีบปาดน้ำตาที่คลออยู่ให้ออกไปก่อนที่พี่ชายจะสังเกตเห็น

    อะไร อิงไม่ได้จ้องอะไรสักหน่อย อิงหลบหน้ารีบเช็ดน้ำตาทันที

    เป็นอะไรไปล่ะเรา

    เปล่าซะหน่อย พี่ชายนั่นแหละเป็นอะไร เดินเข้าบ้านแล้วตรงมาที่ห้องนอนอย่างนี้เลย เป็นใจลอยๆแปลกๆยังไงพิกล

    พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ริวตอบพลางก้มหน้าจับกีตาร์ไปมา อิงเริ่มสังเกตเห็นรอยยิ้มที่ค่อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพี่ชายได้

    นี่ มีอะไรไม่บอกกันเลยน้า

    ไม่มีอะไรสักหน่อย

    โกหก อิงพูดเสียงแข็งพลางจ้องริวตาเขม็งเพื่อหาความจริง

    อะๆ บอกก็ได้

    อะไรเหรอ...อิงถามพลางยื่นหน้ามาใกล้แต่ริวกลับหยิบหมอนขึ้นมาตีหัวเธอ

    นู้น... ประตูอยู่นู้น ไปเลยไป คนจะเล่นกีตาร์ มากวนเขาอยู่ได้

    พี่ชายน่ะ

    อะไร

    จำไว้เลย

    ก็ได้จะจำไว้ ไปได้แล้ว พี่จะเล่นกีตาร์

    ก็ได้ๆ อิงพูดเสียงตลกก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปตามที่พี่บอก เออ จริงสิ พรุ่งนี้อิงขอไปดูหนังกับเพื่อนนะ

    ดูหนังเหรอ กับใครบ้างอ่ะ

    ก็ปุ้มกับไชนไง

    อะไรนะ กับไชนด้วยเหรอ อิงรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงนั้นเปลี่ยนไป

    ค...ค่ะ

    ไม่ไปไม่ได้เหรอ

    ทำไมล่ะคะ อิงก็เห็นว่าไม่มีธุระอะไรนี่คะ

    เออ...คือ ริวพยายามนึกเหตุผลขึ้นมาให้ได้ แต่ยิ่งนึกเขาก็ยิ่งกลับนึกไม่ออกว่าจะหาเหตุผลใดมาห้ามน้องดี

    ว่าไงค่ะ

    งั้นพี่ไปด้วยได้ไหมล่ะ พี่ไม่ได้ไปดูหนังนานแล้วเหมือนกัน

    อิงมองหน้าเขาเป็นเชิงสงสัย พี่จะไปด้วยเหรอคะ

    ได้ไหมล่ะ แค่พี่อีกคนเดียวคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอกมั้ง

    แต่มันมีแต่ผู้หญิงที่ไปกันนะคะ

    ก็พี่เป็นพี่นี่ ไม่ใช่คนห่างคนไกลที่ไหนหรือว่ารังเกียจพี่

    เปล่านะคะ เพียงแต่...

    เพียงแต่อะไรล่ะ

    เพียงแต่อิงกลัวว่าพี่จะไม่สนุกล่ะสิ เพราะก็มีแต่เพื่อนผู้หญิงทั้งนั้น

    อะไรกัน ก็ไปดูหนังไม่ใช่เหรอ ไม่ได้คุยอะไรกันอยู่แล้วนี่

    อิงมองหน้าริวอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก ทำไมอยู่ดีๆพี่ชายถึงอยากไปดูหนังพร้อมกับเธอและเพื่อนๆอย่างนี้

    ก็ได้คะ... อิงตอบอย่างจำยอม ส่วนหนึ่งก็นึกขึ้นได้ว่าอยากแนะนำพี่ชายให้ไชนรู้จัก

    โอ.เค. ต้องอย่างนี้สิน้องรัก

    อิงยังคงมองหน้าริวอย่างแปลกๆ เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าพี่ชายของตนกำลังคิดอะไรอยู่

    อ้าว ออกไปได้แล้วสิ พี่จะเล่นกีตาร์

    แหม ทีอย่างนี้ล่ะไล่เลยนะ

    ไม่ต้องทำมาเป็นเล่นลิ้น ไปเลย...

    อะๆ ไปแล้วก็ได้ อิงพูดเสียงตลกก่อนเดินออกไป

     

    เสียงนาฬิกาปลุกตั้งขึ้น แต่ชายผู้เป็นเจ้าของห้องก็ยังคงหลับใหลอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขานอนต่อไปจนน้องสาวต้องเดินเขามาปิดนาฬิกาให้

    นี่ พี่ชาย วันนี้ต้องไปดูหนังนะ ผู้เป็นน้องพูดพลางเขย่าตัวพี่ชาย

    อืมๆ รู้แล้ว ผู้ที่ยังคงหลับคงตื่นพึมพำ แต่ก็ยังปล่อยให้ร่างกายอยู่บนที่นอนแสนนุ่มต่อไป จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ

    พี่ชาย ลุกเดี๋ยวนี้เลยนะ เสียงหวีดร้องดังขึ้น ถ้าไม่ลุก อิงจะไปคนเดียว ปุ้มกับไชนเขาคอยอยู่

    ทันทีที่หูทั้งสองได้ยินชื่อไชน บุรุษผู้หลับใหลก็สะดุ้งลุกขึ้นจากเตียงทันที

    ไชนเหรอ...ไชน เขาพึมพำอย่างคนไม่ได้สติก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อสะสางตัวเอง และเพียงไม่กี่นาที เขาก็ออกมาจากพร้อมกับความร่าเริงอย่างเช่นทุกวัน

    ปะ ไปกันได้แล้วน้องสุดที่รัก เขาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้าบูดๆของน้องสาว 

    ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงหน้าโรงหนังที่คราครั่งไปด้วยผู้คน อิงพยายามใช้สายตาสอดส่องมองหาเพื่อนของตนอย่างไม่สะดวกนัก

    ไหนล่ะเพื่อนอิง ริวถามขึ้นพลางพยายามมองคนไปทั่ว

    อิงก็ยังไม่เห็นเหมือนกัน อิงตอบหน้าเสียเล็กน้อย เธอยังคงพยายามมองหาเพื่อนต่อไปเรื่อยๆ

    งั้นคอยอยู่นี่ก่อนนะ พี่หิวน้ำ จะไปซื้อน้ำทางนู้นก่อน

    ค่ะ เดี๋ยวอิงจะยืนคอยตรงนี้แหละ

    อย่าไปไหนล่ะ เดี๋ยวหากันไม่เจอ วันนี้ทำไมคนเยอะผิดปกติ

    อืม อิงจะยืนคอยตรงนี้แหละ

    อิงไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายต้องย้ำแล้วย้ำอีก เธอไม่ใช่เด็กๆแล้วนะที่จะหายไปง่ายๆในฝูงชนอย่างนี้

    ริวเดินเบียดผู้คนเข้าไปซื้อน้ำด้วยอาการคอแห้ง ทันทีที่มือนั้นได้น้ำอัดลมแก้วใหญ่มา เขาก็รีบดื่มโดยไม่ทันระวังจนเดินไปชนกับคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเข้า

    ขอโทษครับ เขากล่าวขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่กลับต้องนิ่งเมื่อเห็นหน้าฝ่ายตรงข้าม

    เจอกันอีกแล้ว หญิงสาวที่เขาเจอบนรถไฟฟ้าเมื่อวานนี้เอ่ยขึ้นเสียงใส เธอเองก็แปลกใจไม่ใช่น้อยที่ได้พบเขาอีกครั้งในวันนี้ ว้าว...ไม่อยากจะเชื่อเลย

    ใช่ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้พบคุณอีก ริวกล่าวอย่างไม่คาดฝันเช่นกัน นัยน์ตานั้นจ้องไปอย่างฝ่ายตรงข้ามไม่วางตาจนเธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

    เออ มาดูหนังเหรอคะ เธอเอ่ยแก้เขินเพราะถูกเขามองนานเกินไป

    อ้อ ครับๆ คุณก็คงจะมาดูหนังเหมือนกัน

    คะ ก็ที่นี่โรงหนัง

    ทั้งสองต่างรู้สึกว่าพูดอะไรโง่ๆออกไป แต่แล้วความคิดทั้งหมดก็ต้องหยุดลงเมื่อ...

    ไชน... อิงร้องเรียกก่อนวิ่งเข้ามาหา หาตั้งนานแน่ะ

    ทั้งหมดดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปหมด ริวแทบขยับตัวไม่ได้ รู้สึกว่าหน้าชาขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ กับชื่อที่อิงเรียกผู้หญิงตรงหน้านั้น เธอที่แสนดีและมีเสน่ห์คนนี้คือไชน คนที่เขาไม่ต้องการให้มายุ่งเกี่ยวกับน้องสาวของเขาเหนือสิ่งอื่นใด

    อ้าว พี่ชาย พี่ชาย อิงเรียกพลางโบกมือไปมือไปหาให้ผู้ที่อยู่ในภวังค์รู้สึกตัว

    นี่พี่เธอเองเหรอ ไชนเอ่ยขึ้น สำหรับเธอแล้วมันไม่น่าเชื่อเลยที่คนที่เธอพึ่งรู้จักเมื่อวานนี้จะมาเป็นพี่ชายที่แสนดีที่เพื่อนรักเอ่ยถึงบ่อยๆ

    พี่ชาย เป็นอะไรรึเปล่า พี่ชาย

    หา...อะไรนะ

    นี่ไชน เพื่อนของอิงไง อิงพูดอย่างร่าเริง นี่รู้จักกันมาก่อนแล้วเหรอ

    ก็...ประมาณนั้น เคยพบกันครั้งหนึ่ง ริวตอบตะกุกตะกัก เขายังคงอยู่ในอาการที่ยังควบคุมตัวเองไม่ได้มากนัก นัยน์ตานั้นมองไปที่ไชนอย่างไร้ความรู้สึก ทำไมต้องเป็นเธอคนนี้ด้วย คนบนโลกก็มีตั้งมากมาย แต่ทำไมต้องเป็นเธอคนนี้ด้วย

    ไม่น่าเชื่อเลย โลกเรานี่มันกลมจริงๆเลยนะ

    อืม ไม่น่าเชื่อเลย ไชนตอบรับคำพูดของอิง ใบหน้านั้นยังคงรอยยิ้มไว้เสมอ

    เห็นปุ้มยังล่ะไชน

    ยังไม่เห็นเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเลทตามเคยรึเปล่า ไชนพูดแกมหัวเราะ อิงเองก็พลอยหัวเราะไปด้วย แต่คนที่ขำไม่ออกก็เห็นจะมีแต่ริวที่ยังรับไม่ได้กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

    เออ งั้นเดี๋ยวพี่ขอไปห้องน้ำก่อนนะ ริวเอ่ยขึ้นกับอิงพลางส่งแก้วน้ำให้ ฝากน้ำด้วย

    อืม อิงจะรอแถวนี้นะ

    เดี๋ยวพี่มา ริวพูดแล้วรีบปลีกตัวออกมาให้เร็วที่สุด

    นี่บอกมาเลยนะว่าเคยพบกับพี่เราที่ไหน อิงเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตเห็นพี่ชายเดินออกไปไกลแล้ว

    ก็เมื่อวานนี้แหละ

    ยังไง เล่าให้ฟังหน่อยสิ

    ก็...พี่ชายของอิงน่ะลุกให้ไชนนั่งบนรถไฟฟ้า เราก็เลยได้คุยกันนิดหน่อย

    พี่ชายดูตกใจไม่น้อยเลยที่ได้รู้จักเธอ

    อืม หน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลย

    ทันทีที่ริวย่างเท้าเข้าไปในห้องน้ำ มือของเขาก็รีบกดเบอร์ของตามทันที การรอตามมารับสายช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน ตอนนี้แค่ทรงตัวยืนให้อยู่นิ่งๆเขาก็ทำไม่ได้แล้วรู้สึกเหมือนวิญญาณมันออกจากร่างไปตั้งแต่ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว

    ริวเหรอ เสียงนั้นดุจเสียงสวรรค์ที่เข้ามาช่วยเขา

    ตาม ฉันควรทำยังไงดีว่ะ เขารีบพูดอย่างรีบร้อน

    เดี๋ยวๆ แกเป็นอะไรของแกว่ะ

    ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนี้ มันชาไปหมดเลยว่ะ

    เฮ้ยเดี๋ยว นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่

    ฉันเห็นไชนแล้ว

    เป็นไง น่ารักใช่ไหมล่ะ

    ก็...เออน่า แต่ที่สำคัญ เธอเป็นคนเดียวกับ...

    กับใคร ซันเน้นเสียง

    กับ...กับคนที่ฉันปิ๊งเมื่อคืนนี้

    หา...ว่าไงนะ แกดันไปชอบคนเดียวกันกับน้องสาวเหรอว่ะ

    เฮ้ย นั่นไม่ใช่ประเด็นเว้ย ประเด็นคือ ฉันจะทำยังไง อิงถึงจะเลิกชอบไชนซะที

    นั่นแน่ จะเก็บไว้กินเองล่ะสิ

    กินบ้ากินบออะไรล่ะ ถ้าเป็นคนนี้จริง มีหวังน้องฉันจะไม่ได้ชอบผู้หญิงตลอดไปรึไงว่ะ

    เฮ้ย อย่าคิดมาก ตามรีบปลอบความคิดเพื่อนทันที แต่... มันก็น่าคิดจริงๆนะเว้ย

    เฮ้ย ฉันจะทำยังไงดีว่ะ

    แล้วตอนนี่แกอยู่ที่ไหนว่ะเนี่ย

    อยู่ที่โรงหนัง

    งั้นเหรอ ตามพูดพลางคิดวิเคราะห์

    แกอย่าเงียบไปสิว่ะ

    เฮ้ย ฉันคิดอยู่...แต่แกแน่ใจแล้วรึไงว่า ไชนกับน้องแกน่ะเป็น...อย่างว่าจริงๆ ฉันว่าแกน่าจะดูสถานการณ์ไปก่อนนะ บางที มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิดและเข้าใจก็ได้นะเว้ย

    งั้นเหรอ

    ใช่ แกต้องเงียบไว้ก่อน สังเกตพฤติกรรมของพวกเขาดูให้แน่ใจซะก่อน ถึงจะลงมือทำอะไร เพราะถ้ามันพลาดมาเนี่ย เรื่องใหญ่เลยนะเว้ย

    โอเคๆ สังเกตพฤติกรรมไปก่อน งั้นแค่นี้นะ ปล่อยให้อยู่กันตามลำพังนานๆไม่ได้

    เออๆ สังเกตเงียบๆก่อนนะเว้ย

    เออ...น่า งั้นแค่นี้ล่ะ

    ริววางสายพลางนึกถึงคำพูดของตาม ให้สังเกตพฤติกรรมไปก่อนงั้นเหรอ แล้วถ้าอิงเกิดนึกชอบกับไชนขึ้นมาจริงๆล่ะ เขาจะทำอย่างไร

    ริวเดินออกมาจากห้องน้ำพลางมองหาน้องสาวของตน เธอหายไปจากสายตาเขาซะแล้ว เธอหายไปกับผู้หญิงคนนั้นเสียแล้ว

    พี่ชาย... เสียงนั้นดังขึ้น

    ริวรีบหันไปที่เสียงนั้นทันที น้องสาวผู้เป็นที่รักกำลังกวักมือเรียกเขาอย่างร่าเริงโดยผู้ที่อยู่ข้างๆก็คือเธอคนนั้น ริวเดินตรงเข้าไปหาพวกเธอทันทีด้วยไม่อยากให้พวกเธออยู่ด้วยกันนานๆ ถึงแม้ว่า เวลาทั้งหมดที่ผ่านมาพวกเธอจะอยู่ด้วยกันมานานเพียงใดก็ตาม

    อยู่นี่เอง พี่มองหาแทบแย่เขาเอ่ยขึ้นกับน้องสาวแต่สายตานั้นกับมองไปที่ไชนไม่วางตาจนพลอยไม่สังเกตเห็นปุ้ม เพื่อนของอิงอีกคนที่พึ่งมาถึง

    พี่ริว หวัดดีค่ะ ปุ้มเอ่ยขึ้นเพื่อให้ริวรับรู้ว่าเธอเองก็อยู่ในที่นั้นเหมือนกัน

    ริวหันมายิ้มให้ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างสนิทสนมเพราะรู้จักกับปุ้มมาตั้งแต่ตอนที่ปุ้มเรียนมัธยมมาพร้อมกับอิงแล้ว อ้าว...ปุ้ม มากับเขาเหมือนกันเหรอเรา

    ทุกคนออกจะงงๆกับคำพูดที่เอ่ยขึ้นอย่างไม่หันคิดของริว ปุ้มดูเหมือนจะวางตัวไม่ถูกเล็กน้อย

    ก็มาสิค่ะ...ก็อิงชวน เธอพูดเสียงเบาพลางมองอิงอย่างทำตัวไม่ถูก

    ว่าแต่ เราจะดูเรื่องอะไรกันดีล่ะ ไชนเอ่ยขึ้นก่อนทุกคนจะวางตัวไม่ถูกไปกันหมด รักนี้มีเพียงเธอ...ดีไหม หนังเกาหลีเรื่องนั้นไง นางเอกน่ารักมากเลยใช่ไหมปุ้ม

    เออ...ใช่ พระเอกก็หล่อกระซากใจเลยล่ะ เอาไหมๆ ทั้งไชนและปุ้มต่างก็มีความเห็นตรงกัน แต่สิ่งที่ริวเห็นในคำพูดของไชนกลับเป็นว่า ไชนชมนางเอกแต่ในขณะที่ปุ้มชมพระเอก

    เราว่าก็ดีเหมือนกันนะ ที่ว่าเพื่อนแอบรักเพื่อนใช่ไหม ได้ข่าวว่าเล่นเอาน้ำตาท่วมโรงหนังเลยหนิ อิงมีความคิดเห็นเช่นกัน ทุกคนจึงโฟกัสสายตามาที่ริวโดยอัตโนมัติ

    เออ...แต่พี่ว่า หนังผีเรื่องนี้ก็น่าสนุกดีนะ ที่สำคัญเป็นหนังไทยด้วย เงินจะได้ไม่รั่วไหลออกนอกประเทศไง เห็นว่าเล่นเอาขวัญกระเจิงกันทั้งโรงเลยนี่

    หัวเด็ดตีนขาดยังไง ริวก็ไม่มีทางให้อิงได้ดูหนังเรื่องนั้นแน่...เพื่อนชอบเพื่อน แถมไชนยังชมว่านางเอกน่ารักด้วย ยังไงเขาก็มีวันให้อิงได้ดูหนังเรื่องนี้แน่

    เอาเป็นว่าตกลงนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อตั๋วให้ ริวรีบตัดบททันทีเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่เห็นด้วยของทุกคน

    ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมตั๋วสี่ใบ ใบหน้านั้นยิ้มด้วยความพอใจที่สามารถขัดความคิดของไชนได้ ภูมิใจในความเป็นเผด็จการอย่างเต็มที่

    นี่ไง...อีกสิบห้านาทีหนังฉาย เข้าโรงหนังได้เลย ไปกันเถอะ ริวผู้พลางส่งตั๋วแต่ละใบให้กับหญิงสาวทั้งสามที่ต่างทำอะไรไม่ถูกในระบบเผด็จการนี้ โดยเฉพาะไชนที่เกลียดการเผด็จการเข้าไส้ เธอรู้สึกไม่พอใจนักที่ริวไม่เคารพการตัดสินใจของทุกคน

    เขาเดินนำเข้าโรงหนังอย่างร่าเริงเป็นที่สุด เพราะเขาได้จัดให้ไชนกับอิงนั่งแยกกันโดยมีเขาขั้นกลางในขณะที่ปุ้มนั่งข้างฝักอีกที

    ในขณะที่ทุกคนได้แต่ทำอะไรไม่ถูกและมึนงงกับการกระทำของริว ริวก็ได้แต่คิดว่าจะพิสูจน์อิงกับไชนอย่างไรต่อไป

    ภาพที่ปรากฏบนฉากใหญ่ตรงหน้านั้นต่างทำให้ทุกคนในโรงหนังร้องกรี๊ดออกมาเป็นระยะๆ แต่ไชนกลับไม่เคยกรี๊ดออกมาเลยสักครั้ง เธอนั่งนิ่งบนที่นั่งสุดหรูและยังคงคุมสติตัวเองได้ดี นานๆจะสะดุ้งทีตามเนื้อหาของหนังหรืออุทานออกมาบ้าง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะกรี๊ดออกมา

    ริวผู้นั่งอยู่ข้างๆเธอยิ่งรู้สึกประหลาดใจที่ไชนไม่กรีดร้องเมื่อตกใจอย่างผู้หญิงคนอื่นๆ เขาแทบจะไม่ได้ดูหนังเลยเพราะมัวแต่สังเกตพฤติกรรมเธอ แต่เขาก็ต้องสะดุ้งครั้งใหญ่เมื่อรู้สึกได้ว่ามือนั้นจับที่แขนเขาอย่างกะทันหัน ทั้งสองต่างมองหน้ากันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ริวรู้สึกกลัวขึ้นมาทันตาเห็น หากแต่ความกลัวนั้นไม่ได้เกิดจากหนังที่เขาดู เพียงแต่เกิดจากความหวั่นใจเมื่อได้เห็นใบหน้านั้น

    เมื่อหนังนั้นจบลง ริวก็ชวนให้อิงกลับบ้านทันที อิงไม่ค่อยพอใจกับการกระทำของริวในวันนี้นัก แต่เธอก็ยังต้องการกลับบ้านในตอนนี้ ด้วยอยากจะถามผู้เป็นพี่ให้แน่ชัดว่า พี่ชายต้องการทำอะไรกันแน่...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×