ตอนที่ 9 : บทที่ 2 | สวัสดิการจากนายจ้าง [3]
ถึงเมื่อวานนี้จะได้ทำความคุ้นเคยกับเจ้าหลุยส์ ลูกสิงโตของชีคอาซาดิลจนถึงขั้นลูบหัวลูบหางกันได้แล้ว แต่มิถิลาก็ยังเปิดกรงเข้าไปด้วยใจที่เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ อยู่ดี
เธอไม่แน่ใจนักว่าเจ้าสิงโตน้อยจะจำเธอได้หรือเปล่า
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้า ยกถังใส่อาหารเข้ามาด้านในพลางกวาดตามองหาลูกสิงโต
“หลุยส์” มิถาลาทอดเสียงอ่อนโยน เทอาหารออกจากถัง มันเป็นเนื้อสัตว์ติดกระดูก ที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเนื้ออะไร และได้มาอย่างไร รู้แต่ว่าในทุกๆ วันจะมีคนนำอาหารมาส่งให้ น่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่านั่นละ
เจ้าสิงโตน้อยไม่ได้เยี่ยมหน้าออกมาเพราะเสียงเรียกของมิถิลา แต่กลิ่นอาหารทำให้มันยอมโผล่ออกมาจากโขดหินที่มักใช้เป็นที่หลบซ่อน มันยังตัวเล็กอยู่มาก แถมยังผอมมากด้วย บนเนื้อตัวก็มีร่องรอยบาดแผล ไม่ใช่แผลสดใหม่ เจ้าหน้าที่สองคนเมื่อวานเล่าให้ฟังว่าเป็นรอยบาดแผลจากแส้ เธอฟังแล้วแทบจะน้ำตาร่วง
หลุยส์ตัวแค่นิดเดียวเอง ท่าทางมันก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร ถึงกับต้องทารุณมันเช่นนี้เชียวหรือ
“ฉันเอาอาหารมาให้แก ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรหรอก”
หญิงสาวถอยหลังเว้นระยะห่างแล้วยอบตัวนั่งลง เธออาจจะยังเกรงๆ แต่ก็ไม่ได้กลัวแล้ว เจ้าหน้าที่ยืนยันกับเธอเองว่าหลุยส์ค่อนข้างเชื่อง ที่ยังเห็นว่าดูหวาดกลัวเพราะต้องเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ลูกสิงโตตัวนี้ถูกซื้อขายตั้งแต่ยังแบเบาะ แทบไม่มีสัญชาตญาณของสัตว์ป่าอยู่เลยด้วยซ้ำ
มิถิลานั่งอยู่เงียบๆ มองดูเจ้าหลุยส์ลากเนื้อชิ้นหนึ่งไปกินข้างโขดหิน สายตายังเหลือบมองเธอด้วยความระแวดระวังอยู่หลายครั้ง
ท่าทางคงจะฝังใจที่ถูกมนุษย์ทำร้าย
“ฉันเป็นพวกเดียวกับแกนะ ไม่ต้องกลัวหรอก” พูดออกไปแล้วมิถิลาก็ได้แต่ถามตัวเองว่าสิงโตจะเข้าใจภาษามนุษย์หรือเปล่า ถึงอย่างนั้นก็ยังพูดกับมันอีกอยู่ดี ต่อให้มันไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร แต่ก็หวังว่ามันจะรับรู้ผ่านน้ำเสียงว่าเธอมาดี “แกกินให้อิ่มเลยนะ ฉันไปก่อนละ ยังต้องไปทำงานรับใช้เจ้านายของแกอีก ถ้าเย็นนี้ฉันกลับมาเร็ว จะแวะมาหาแกอีกก็แล้วกัน”
*
ตอนที่มิถิลาเดินกลับเข้าไปในบ้าน เธอเห็นว่าเจ้าของบ้านนั่งอยู่ในห้องอาหารแล้ว หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนัง เห็นว่ายังไม่เจ็ดโมงครึ่งก็ถอนหายใจโล่งอก
เธอไม่อยากโดนเขาตำหนิว่าเป็นคนผิดเวลา
มิถิลาเดินไปล้างมือจนสะอาดแล้วจึงค่อยไปนั่งร่วมโต๊ะกับเขา เพิ่งสังเกตว่าชายหนุ่มน่าจะยังไม่ได้อาบน้ำ เขาไม่ได้สวมโต๊ปอย่างที่เธอเห็นเมื่อวาน แต่สวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีทึบ ผมสีเข้มนั่นก็ไม่ได้เซ็ตให้เป็นทรง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาน่ามองลดลงไปเลย
“ออกไปเดินเล่นมาเหรอ” อาซาดิลเอ่ยถามแล้วก็ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ มิถิลาไม่ได้สวมอาบาย่าคลุมทับอย่างที่เขาเห็นเมื่อวานนี้ หญิงสาวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสากล เสื้อกับกางเกงธรรมดา เป็นชุดที่ชายหนุ่มเองก็ชินตา เห็นจากนักท่องเที่ยวก็บ่อย เห็นจากเวลาที่เขาเดินทางไปต่างประเทศเองก็บ่อย ไม่ได้มีปัญหาหรือเจาะจงว่ามิถิลาจะต้องแต่งตัวให้เหมือนชาวอัลมานฮาฌ์ม
หญิงสาวจะใส่อะไรมันก็เรื่องของเธอ หรือจะไม่ใส่...มันก็เรื่องของเธออีกนั่นละ
“เอาอาหารไปให้สิงโตของคุณมาค่ะ”
“อ้อ...” เขาพยักหน้ารับรู้ ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจรดริมฝีปากอีกหน “มันเป็นไงบ้างล่ะ”
“ยังไม่ชินกับคนค่ะ ฉันไม่ได้เข้าไปใกล้ แค่เอาอาหารไปเทไว้ให้”
อาซาดิลรับคำในลำคอพร้อมๆ กับที่แม่บ้านยกอาหารเช้ามาวาง อาหารสองชุดเหมือนกัน เป็นอาหารเช้าแบบอเมริกัน ไข่ดาวสองฟอง ขนมปังปิ้ง แพนเค้ก เบค่อน มันฝรั่งหั่นเต๋า เสิร์ฟพร้อมกับน้ำส้ม
แม่บ้านถามมิถิลาว่าจะรับกาแฟด้วยไหม หญิงสาวเกือบจะพยักหน้า แต่พอเห็นปริมาณอาหารแล้วก็เปลี่ยนใจ
กาแฟก็อยากดื่ม แต่กลัวว่าจะอิ่มจนดื่มได้ไม่หมดแก้ว เดี๋ยวนายจ้างจะมาหาว่าเธอกินทิ้งกินขว้างให้เขาสิ้นเปลืองเสียเปล่าๆ
“คุณเป็นคนต่างชาติ ไม่รู้ว่ากินอะไรได้ไม่ได้ เลยให้แม่บ้านทำอาหารที่คิดว่าคุณน่าจะพอกินได้มาให้”
“ขอบคุณค่ะ” มิถิลาแปลกใจอยู่ไม่น้อย ไม่นึกว่าคนอย่างชีคอาซาดิลจะใส่ใจคนอื่นด้วยเหมือนกัน “ฉันกินง่ายค่ะ กินอะไรก็ได้”
“กินง่ายก็ดี เพราะยังไงผมก็คุ้นชินกับอาหารพื้นเมืองมากกว่า แต่ถ้าคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษก็สั่งกับแม่บ้านได้ หรืออยากจะลงมือทำกินเองก็ได้” เขาอนุญาตให้เธอใช้ครัว เมื่อวานเขาก็บอกไปแล้ว
อาซาดิลเริ่มลงมือกินอาหารเช้า มิถิลาเลยหยิบส้อมกับมีดขึ้นมาบ้าง ทั้งคู่นั่งกินอาหารเช้ากันเงียบๆ ไม่มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างพวกเขา
หลายหนที่มิถิลาลอบมองเสี้ยวหน้าคมสันนั่น บอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร ชีวิตของเธอคล้ายจะผันผวนแต่ก็คล้ายจะไม่ เธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเดินทางมาอัลมานฮาฌ์มเพื่อทำงาน
ตอนแรกที่เธอต้องทำคือเล่นละครเป็นคนรักกับเจ้าชาย ไม่นึกว่าจะต้องมาเปลี่ยนเนื้องานกะทันหันแบบนี้ แถมยังต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของมหาเศรษฐีอีก
ไม่ใช่ว่าไม่ดี ที่นี่สะดวกสบายดี ถึงจะออกไปไหนมาไหนลำบากแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหา มิถิลาไม่ได้ขาดเหลืออะไร ที่ไม่ค่อยชอบใจก็มีเรื่องที่ชีวิตของเธอต้องขึ้นอยู่กับชีคหนุ่มเท่านั้น
ถ้าเขาไม่ออกจากบ้าน หญิงสาวก็คิดไม่ออกเลยว่าเธอจะออกจากที่นี่ไปได้อย่างไร
“มีอะไรจะถามหรือเปล่า” อาซาดิลกินไข่ดาวหมดไปแล้วฟองหนึ่ง เบค่อนก็เกลี้ยงแล้ว ส่วนแพนเค้กเขากินไปแล้วสองชิ้น ในขณะที่อาหารในจานของมิถิลาพร่องไปเพียงนิดเดียว “คุณเอาแต่มองผม”
ดวงตาของมิถิลาไหววูบไปเล็กน้อย เห็นเขาเอาแต่กิน ไม่นึกว่าจะรู้ตัวว่าเธอมองอยู่ แต่ไหนๆ โดนจับได้แล้ว มิถิลาก็ไม่คิดจะแก้ตัว
“ฉัน...สงสัยว่าถ้าคุณไม่ออกจากบ้าน แล้วฉันจะได้ออกไปข้างนอกหรือเปล่า”
“ผมไม่ได้จับคุณมาเป็นเชลยนะ”
“คุณเดินทางด้วยเครื่องบิน จู่ๆ จะให้ฉันไปสั่งลูกน้องคุณให้ขับเครื่องบินไปส่งฉัน เขาคงไม่ทำหรอกถูกไหมคะ”
“อืม” นอกเสียจากเขาจะสั่งให้ลูกน้องเชื่อฟังคำสั่งของมิถิลาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะไม่ทำ “เรียกรถมารับก็ได้นี่”
“ไกลขนาดนี้ ค่ารถคงแพงหูฉี่” มิถิลาพึมพำอยู่คนเดียว แต่ดูเหมือนคนหูดีจะได้ยินไปด้วย
“ช่วยไม่ได้ที่คุณร้องขอที่พักและอาหารฟรี ถ้าคุณยอมเสียค่าที่พักเอง ก็คงจะเลือกสถานที่ที่ไปไหนมาไหนสะดวกได้ แต่ในเมื่อคุณเลือกไม่ได้ ถ้าคุณจะไปไหนมาไหนนอกเหนือจากไปทำงานให้ผม คุณก็ต้องจ่ายค่าเดินทางเอาเอง นี่...รายได้ของคุณไม่ใช่น้อย อย่างกไปหน่อยเลยน่า ค่าเดินทางในอัลมานฮาฌ์มใช่ว่าจะแพงมากมายอะไรเสียหน่อย”
ในใจของมิถิลานึกขัดใจ แต่ก็จนต่อคำพูดของชีคหนุ่ม เขาพูดถูก...เงินค่าจ้างของเธอไม่ใช่น้อย ความจริงเธอไม่ควรจะตระหนี่หากต้องจ่ายค่าเดินทางสำหรับตัวเอง ใช่ว่าเธอจะต้องเดินทางไปไหนมาไหนเองบ่อยๆ เสียที่ไหนกัน
แต่เขาไม่รู้อยู่อย่างหนึ่ง...
สำหรับมิถิลา ต่อให้เป็นเงินน้อยนิดก็สำคัญสำหรับเธอทั้งนั้น เธอดิ้นรนมาขนาดนี้เพื่อเงินก้อนโต เธอยอมไม่ได้ไปไหนมาไหน ดีกว่าต้องฟุ่มเฟือยใช้จ่ายกับเรื่องไม่จำเป็น
เธอตั้งใจไว้แล้วว่าอยู่ที่นี่ก็จะใช้เงินให้น้อยที่สุด ยิ่งน้อยเท่าไรยิ่งดี เงินก้อนใหญ่ก้อนนี้...ยังมีคนที่จำเป็นจะต้องใช้มันมากกว่าเธอ
____________________________________________________
น้องมินต์จะเอาเงินไปทำไมกันนะ???
ปล.คอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวแนนมีสุ่มแจกนิยายจากคอมเม้นต์ด้วยค่ะ
ขอฝากผลงานเรื่องก่อนๆ เอาไว้ด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ภารกิจวันแรกผ่านไปด้วยดี เอาใจช่วย(ให้นางเอกโดนพ่อสิงโตกินไวๆ) อุ๊ปปปปปปปปปปปปป คิดดังไปหน่อยค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ตามเอาใจช่วยนางต่อค่ะ
เริ่มแรกของน้องมินต์กับการเอาอาหารไปให้ลูกสิงโตกินไม่โดนขย้ำกลับมาเป็นอันว่าใช้ได้
แต่พ่อสิงโตนั้นนนนน