ตอนที่ 33 : บทที่ 9 | คนของเขา [2]
“ก็อยากใส่เรือนที่คุณชอบ”
อะไรกันเนี่ย แบบนี้เรียกว่าเป็นการล่อลวงให้เธอตกลงไปในหลุม (รัก) ลึกขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า ทำไมต้องเอาอกเอาใจกันขนาดนี้ด้วยนะ กลัวเธอไม่รักไม่หลงหรือไง
“ฉันว่าเรือนที่เป็นสายหนังสีน้ำตาลเหมาะกับคุณดี คุณว่าไงคะ”
“ถ้าคุณว่าดี ผมก็ซื้อเรือนนี้ไง จะว่าไงได้ล่ะ”
“แล้วคุณชอบหรือเปล่า”
“อันที่จริงก็ชอบทั้งสามเรือน นี่กะว่าถ้าคุณตัดสินใจไม่ได้ก็จะซื้อทั้งสามเรือนเลย”
มิถิลาเหล่ใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ จ้า! พ่อคนรวย ใช้เงินเก่งเหลือเกิน แต่ก็ว่าไม่ได้ เงินเขาหามานี่นะ
“ทีนี้ตาผมเลือกให้คุณบ้างนะ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันไม่ได้จะเอา”
“เอาเถอะครับ อยากให้”
อาซาดิลไม่รอฟังคำพูดของมิถิลาอีก รู้ว่าประโยคต่อไปของเธอจะต้องเป็นการห้ามปรามแน่ๆ เขาเลยเดินไปเลือกดูนาฬิกา ทำเป็นเพิกเฉยต่ออาการเง้างอดของมิถิลา มองหานาฬิกาสำหรับผู้หญิงที่ดูคล้ายกันกับเรือนที่เธอเลือกให้เขา พอได้ที่ถูกใจแล้วจึงถือกล่องนาฬิกาเดินเอาไปให้อีกฝ่ายลองสวม
“คุณนี่จริงๆ เลยน้า” บ่นเขาแต่ก็ต้องยอมยื่นข้อมือให้ชีคหนุ่มสวมนาฬิกาให้
ไหนๆ เขาก็เอาใจเธอไปแล้ว เธอเอาใจเขากลับหน่อยจะเป็นอะไรไป
“อะไรจริงๆ น่ารักมากจริงๆ อย่างงั้นเหรอ”
อีกแล้ว...เคลมตัวเองหน้าตาเฉยอีกแล้ว
“หล่อค่ะ หล่อ รวย และใช้เงินเก่งมากจริงๆ ต่างหากล่ะคะ”
“ถือว่าเป็นคำชมได้ใช่ไหม” เขาถามทั้งที่รู้ว่ามิถิลาตั้งใจจะบ่นเขามากกว่า
“แล้วแต่คุณจะคิดสิคะ แต่ก็ระวังหน่อยแล้วกัน เปย์เก่งขนาดนี้ ระวังฉันจะปอกลอกคุณจนหมดตัว” เธอแกล้งขู่ รู้ดีว่าเขาไม่มีทางสะทกสะท้านแน่ๆ
“ถ้างั้นช่วยปอกให้เกลี้ยงเลยนะ เอาแบบไม่ให้เหลือเสื้อผ้าอยู่บนตัวผมสักชิ้นเลย”
มิถิลาเบิกตากว้าง เอื้อมมือไปหยิกเขาที่หนึ่งที่จู่ๆ ก็ดึงบทสนทนาเข้าเรื่องนี้ นี่ดีนะที่ในร้านให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกค้าพอที่จะไม่มีใครได้ยินที่เขาพูดเมื่อกี้ ไม่งั้นเธอคงอายแย่
แต่ถึงจะรู้กันแค่สองคน เธอก็ยังอายอยู่ดี
ที่เธอแหย่ว่าจะปอกลอก ไม่ได้หมายถึงอย่างที่อาซาดิลคิดเสียหน่อย ทำไมเขาแปลความไปได้แบบนี้ก็ไม่รู้ แกล้งกันชัดๆ เลย
“เลิกพูดมากแล้วก็รีบๆ ไปจ่ายเงินได้แล้วค่ะ”
มิถิลารุนหลังเขา ซ่อนสีหน้าแดงระเรื่อเอาไว้ไม่ให้เขาเห็น ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็ได้หาเรื่องแหย่เธออีก
‘ผมชอบมองเวลาคุณหน้าแดง ปกติคุณไม่ได้หน้าแดงบ่อยๆ เป็นเฉพาะเวลาที่เขินมากๆ หรือไม่ก็...ตอนที่กำลัง ‘ฟิน’ มากๆ’
ชีคอาซาดิลเคยบอกมิถิลาเอาไว้แบบนั้น แล้วหลังจากวันนั้นเขาก็ขยันหาเรื่องให้เธอหน้าแดงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่บนเตียงหรือว่านอกเตียงก็ตาม
*
มิถิลาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของชีคอาซาดิลมาหลายเดือน เพิ่งจะเคยเห็นว่าที่นี่มีแขกมาเยือนก็คราวนี้เอง เขาบอกว่าวันนี้จะมีคนมากินมื้อค่ำด้วย ดูท่าทางจะเป็นแขกพิเศษ ชีคหนุ่มถึงกับตามเชฟมิชลินสตาร์มาเสิร์ฟอาหารให้ถึงที่บ้าน
“อาซาดิลคะ แขกวันนี้เป็นใครเหรอ ทำไมดูคุณเตรียมการต้อนรับดีจัง หรือปกติคุณต้อนรับแขกแบบนี้อยู่แล้ว” มิถิลาอดถามไม่ได้ ยิ่งได้ฟังเมนูในคอร์สอาหารที่จะเสิร์ฟวันนี้แล้วก็ยิ่งสงสัย แต่ละเมนูดูหรูหราอลังการ ทั้งที่ปกติแล้วชายหนุ่มออกจะกินง่ายด้วยซ้ำไป
“เพื่อนผมเอง ทำบ่อน้ำมันด้วยกัน แต่พักหลังมานี้แทบไม่มีเวลาได้เจอกัน เพราะหมอนั่นต้องแบกภาระของเจ้าชายรัชทายาทเอาไว้”
“คะ? นี่คุณคงไม่ได้กำลังจะบอกว่า...” แขกที่จะมาเยือนในวันนี้คือเจ้าชายรัชทายาทแห่งอัลมานฮาฌ์มอย่างนั้นเหรอ
“เป็นอย่างที่คุณคิดนั่นแหละ วันนี้เราต้องกินมื้อเย็นกับเจ้าชายรัชทายาทและพระคู่หมั้น”
มิถิลาเบิกตากว้าง ก่อนหน้านี้เธอจินตนาการเอาไว้ว่าแขกที่จะมาเยือนอาจจะเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ เพื่อน หรือไม่ก็ญาติๆ ของอาซาดิล แต่ไม่คิดว่าจะต้องมานั่งร่วมโต๊ะกับ...เจ้าชาย
“ตกใจอะไร” อาซาดิลอมยิ้มกับสีหน้าตกตะลึงของหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะช็อกอยู่นิดๆ “เจ้าชายรัชทายาทกับผมสนิทกันมาก”
แล้วอย่างไรล่ะ มิถิลาไม่ได้สนิทกับเจ้าชายด้วยเสียหน่อย
“มื้อเย็นวันนี้ ถ้าฉันขอตัวจะได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ ผมอยากให้คุณได้กินของอร่อย”
“ฉันทำตัวไม่ถูกนี่คะ”
“ทำตัวปกตินั่นแหละ ไม่ต้องคิดว่าเขาเป็นเจ้าชาย”
“ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนกับพระองค์เหมือนที่คุณเป็นนี่คะ แล้วอีกอย่าง...ฉันเคยเกือบจะต้องไปแสดงละครเป็นคนรักของเจ้าชาย แล้วพระองค์มากับพระคู่หมั้นแบบนี้ ฉันกลัวว่าตัวเองจะเผลอพูดอะไรออกไป อาจจะไปทำให้พระคู่หมั้นไม่สบายใจไม่รู้ตัว”
“คุณไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นหรอก แล้วผมก็ตั้งใจว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อยู่แล้ว แอชตันไม่เคยเห็นหน้าคุณ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่วานให้ผมจ้างมาเล่นละครเป็นคนรักคือคุณ” ชีคอาซาดิลเพิ่งจะทำสัญญาจ้างงานกับมิถิลาได้ไม่ถึงสามวัน เจ้าชายแอชตันก็เริ่มต้นความสัมพันธ์กับนาวาห์ไปแล้ว เพราะแบบนั้นอาซาดิลถึงต้องลอยแพมิถิลา แต่เธอก็วิ่งกลับเข้ามาของานเขาทำอยู่ดี
หนีกันไม่พ้นมันเป็นแบบนี้นี่เอง...
“ตอนนี้คุณเป็นคนของผมนะมินต์ แล้วคุณก็ไม่ได้ทำงานให้แอชตัน คุณกับหมอนั่นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย”
“แปลว่าฉันทำไม่รู้ไม่ชี้ไปเลยได้ใช่ไหมคะ”
“อืม ก็แค่ทำตัวปกติ คิดซะว่ากินข้าวกับเพื่อนผม ไม่ได้อยู่ในวัง ไม่ต้องเคร่งครัดพิธีรีตองอะไรหรอก คุณเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าแอชเพิ่งได้บรรดาศักดิ์คืน ก่อนหน้านี้หมอนั่นใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ อยู่แบบคนทั่วไป ผมกับแอชก็คบหากันมาแบบคนธรรมดา”
“แต่คุณก็เป็นเชื้อพระวงศ์นี่คะ”
“ปลายแถวน่ะ ปลายมากๆ ด้วย แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับที่ผมไปสนิทกับแอชอยู่ดี ตอนที่เรารู้จักกัน เรารู้จักด้วยเรื่องธุรกิจ แล้วค่อยมารู้ทีหลังว่าใครเป็นใคร ถึงได้บอกคุณตั้งหลายหนไงว่าความสัมพันธ์มันคือเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ”
____________________________________________________
ท่านเค้าให้ความสำคัญกับน้องมินต์มากๆ เลยนะเนี่ยยยยยยย
ปล.คอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวแนนมีสุ่มแจกนิยายจากคอมเม้นต์ด้วยค่ะ
ขอฝากผลงานเรื่องก่อนๆ เอาไว้ด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ท่านชีคเริ่มเปิดตัวน้องมินต์แล้ว
เจ้าชายแอชตันยังไม่แต่งงานอีกหรือคะ
จะแต่งพร้อมเพื่อนเหรอ
อ่านไปก็ระแวงไป หวานชื่นแบบนี้จะโดนจัดพายุมา ตอนไหนมั้ยนะ?
ท่านน่ารักเปิดตัวน้องโดยไม่รู้ตัว😀
ตกใจหมด นึกวา.. จะมีมาม่า พาสาวๆสวยๆมาให้ นางเอกเข้าใจผิดซะอีก โล่งไปคะ