ตอนที่ 24 : บทที่ 6 | ข่าวร้ายของมิถิลา [4]
สวัสดีค่าาา วันนี้เอาปกท่านชีคกับน้องมินต์มาอวดด้วยค่ะ น้องสวยมากกกกกกกก
เล่มนี้ตีพิมพ์กับ สนพ. ไลต์ ออฟ เลิฟ เหมือนเดิมนะคะ
ราคาปก 229 บาท เท่ากับเล่มแรกในเซ็ตเลย
ชุด จอมใจทะเลทราย มีทั้งหมด 2 เล่มค่ะ อ่านแยกได้ไม่งงค่า
1. นางบำเรอแดนทราย (เจ้าชายแอชตัน x นาวาห์)
2. สุภาพบุรุษแดนทราย (ชีคอาซาดิล x มิถิลา)
ตอนนี้ทางหน้าเพจของ สนพ. ไลต์ ออฟ เลิฟ กำลังเปิดจองอยู่นะคะ
จิ้มที่รูปเพื่อลิงก์ไปยังโพสต์สำหรับจองหนังสือได้เลยค่ะ
หรือถ้าไม่สะดวก จะรอซื้อผ่านหน้าเว็บ สนพ. / Shopee / Lazada ก็ได้นะคะ
สำหรับอีบุ๊ก มีนะคะ จะออกช้ากว่ารูปเล่มราวๆ 1-2 สัปดาห์น้าาาา
มารตีดีใจมากที่ได้เห็นหน้ามิถิลา สองพี่น้องกอดและพูดคุยกันด้วยความคิดถึง มิถิลาแทบจะผูกบทสนทนาทั้งหมดเอาไว้ ไม่อยากให้น้องต้องมาเหนื่อยในการออกแรงพูดเสียเอง
กำลังใจจากคนใกล้ชิดสำคัญจริงๆ พอสภาพจิตใจของมารตีดี อาการทางกายก็พลอยดีขึ้นไปด้วย ทั้งคู่คุยกันแล้วว่าจะลองให้คีโมแบบไฮโดสดู มิถิลามีความหวังว่าน้องจะกลับมาแข็งแรง ส่วนมารตี...อันที่จริงหญิงสาวหมดหวังไปแล้ว แต่พอเห็นสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของพี่สาว หล่อนก็รู้ว่าหล่อนทำลายมันไม่ได้
มิถิลาไม่ได้รับการติดต่อจากชีคอาซาดิล ผ่านไปหลายวันเขาก็ยังไม่ติดต่อมา หญิงสาวก็เลยคิดว่าตัวเขาเองยังจัดการธุระไม่เสร็จ เธอไม่ได้มีเวลานึกถึงชีคหนุ่มมากนัก มิถิลาแทบจะใช้เวลาในแต่ละวันให้หมดไปกับการดูแลมารตี
คนป่วยได้รับคีโมไฮโดสแล้ว น่าหวั่นใจที่รอบนี้อาการของมารตีทรุดลงมาก มีอาการเลือดออกตามเหงือกและไรฟัน เบื่ออาหาร กินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมา น้ำหนักลดลงฮวบฮาบจนมิถิลาใจคอไม่ดีเอาเสียเลย จากตอนแรกที่กำลังใจดีฮึกเหิมพร้อมสู้ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้มารตีถึงกับพูดออกมาว่าไม่อยากทำคีโมอีกแล้ว
ผ่านไปอีกหลายวันอาการของมารตีก็ยิ่งย่ำแย่ หญิงสาวอ่อนเพลีย กินอะไรไม่ได้เลย เนื้อตัวก็ซีดเซียวไปหมด
หมอเรียกมิถิลาเข้าไปคุย สีหน้าของหมอคราวนี้เคร่งเครียดยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“วาระสุดท้ายแล้วนะ”
“คะ?”
“ค่ามะเร็งสูงขึ้น ส่วนแร่ธาตุในเลือดต่ำมาก ตอนนี้หมอให้แร่ธาตุผ่านน้ำเกลือเพื่อปรับค่าแร่ธาตุไม่ให้หัวใจหยุดเต้น แต่ตอนนี้...หมอทำการรักษาต่อไปไม่ได้แล้วนะ”
“หมายความว่ายังไงคะ” มิถิลาหูอื้อตาลายไปหมด เธอไม่อยากทำความเข้าใจว่าหมอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
...แต่เธอก็ดันเข้าใจ
หญิงสาวมองใบลิฟวิ่งวิลล์[1]ที่หมอยื่นมาตรงหน้าด้วยดวงตาที่พร่าเบลอไปด้วยน้ำตา เธอรู้ว่านี่หมายความว่าอย่างไร แต่ก็ไม่มีสติมากพอที่จะอ่านรายละเอียดบนหน้ากระดาษ
“คนไข้อยู่ในวาระสุดท้ายแล้ว ตอนนี้หมอทำได้แค่ประคับประคองอาการ แต่เวลาที่ร่างกายอ่อนแอแบบนี้ก็มักจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ตลอดเวลา หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยการใส่ท่อช่วยหายใจ การให้ยาเพิ่มความดัน การปั๊มหัวใจก็ล้วนแต่มีความเสี่ยงทั้งนั้น คนเป็นหมอก็อยากให้คนไข้จากไปอย่างสบายที่สุดในช่วงสุดท้ายของชีวิตก็เท่านั้น หมอรู้ว่าเรื่องนี้ทำใจได้ยาก แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ น้องสาวของคุณก็มีแต่จะทรมาน”
มิถิลาน้ำตาไหลพราก มันไหล่บ่าราวกับเขื่อนแตก หญิงสาวซบหน้าลงกับฝ่ามือ ไม่อยากต้องเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้เลย
ชีวิตของคนแต่ละคนล้วนต้องมีเรื่องให้ตัดสินใจ บางครั้งตัดสินใจถูก บางครั้งตัดสินใจผิดพลาด หลายเรื่องเป็นบทเรียน แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้...
ครั้งนี้มันยากเกินไปจริงๆ
____________________________________________________
เหมือนตอนนี้จะสั้นนิดหนึ่งเนอะ พอดีมันตัดจบบทพอดีค่ะ ยังไงเดี๋ยวค่ำๆ แนนจะมาอัปเพิ่มให้นะคะ
ปล.คอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวแนนมีสุ่มแจกนิยายจากคอมเม้นต์ด้วยค่ะ
ขอฝากผลงานเรื่องก่อนๆ เอาไว้ด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้ำตาซึมเลยเรา เศร้าใจมากๆ
เราเข้าใจความรู้สึกของน้องมินต์เลยครั้งหนึ่งเราก็เคยประสบพบเจอปัญหาเดียวกันยังกับน้องมินต์มันทำใจลำบากกับการยอมรับการรักษา แต่ถ้าเรายังดันทุรังทำการรักษาต่อก็เหมือนเป็นการทรมานคนป่วยว่าเจ็บแล้วแต่คนที่ต้องตัดสินใจมันเจ็บกว่า มันบีบคั้นอารมณ์แบบสุดๆ