ตอนที่ 10 : บทที่ 3 | บัดสีบัดเถลิง [1]
ผู้ชายเจ้าชู้นี่ควรอยู่ให้ห่างจริงๆ
งาน ‘สับราง’ ให้ชีคอาซาดิลนั้นน่าปวดหัวมาก เขามีลิสต์ที่ต้องพบปะกับผู้หญิงเยอะมาก แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาไปเสียหมด บางคนเป็นเพื่อน บางคนเป็นคู่เดต บางคนเป็นคู่ค้า แล้วก็มีอีกหลายคนที่เป็นคู่ขา
ในช่วงสามสี่วันแรกๆ นั้นทุกอย่างก็ดูจะราบรื่นดี เธอมาทำงานต่อจากตารางนัดหมายที่อิมลอฮ์ทำเอาไว้ แต่แน่นอนว่ามีนัดหมายเพิ่มขึ้นทุกวัน มิถิลารับสายจากผู้หญิงของอาซาดิลบ่อยมาก พวกหล่อนล้วนโทร.มาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน
...ต้องการพบหน้าชีคอาซาดิล
นัดหมายใหม่ๆ ส่วนมากจะเป็นคู่ค้าจากต่างชาติ แต่ดูทรงแล้ว มิถิลาคิดว่าคู่ค้าคงอยากจะขยับมาเป็นคู่ขามากกว่า
“คุณกลับบ้านไปก่อนได้เลยนะ”
ไม่ต้องให้ชีคอาซาดิลบอกเหตุผล มิถิลาก็พอจะเข้าใจอยู่แล้วว่าเป็นเพราะอะไร นัดสุดท้ายของวันนี้เป็นนางแบบชาวสเปน สวย สูง ขาเรียว เอวเล็ก นมสะบึม จะแปลกอะไรถ้าชีคอาซาดิลอยากใช้เวลาร่วมกันกับหล่อนทั้งค่ำคืน
“รับทราบค่ะ” มิถิลายิ้มรับคำสั่ง ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอจ้องมองเจ้านายด้วยสายตาวิบวับติดจะล้อเลียน ปกติเธอเห็นผู้หญิงเดินเข้าออกทำงานของชีคหนุ่มบ่อยๆ ก็จริง แต่ตั้งแต่ทำงานให้เขามา ก็ยังไม่เห็นเขาใช้เวลากับคนไหนนานเป็นพิเศษ
...จนกระทั่งวันนี้
ดูเหมือนชีคอาซาดิลก็จะรู้เท่าทันสายตาแบบนั้นของหญิงสาว แต่เขาก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมา แค่มองตาอีกฝ่ายกลับ เพียงพอที่จะบอกว่าเขารู้ทันว่ามิถิลากำลังคิดอะไรอยู่ก็พอแล้ว
หึ...ถ้าคิดว่ามองล้อเลียนแบบนั้นแล้วจะทำให้คนอย่างอาซาดิลรู้สึกรู้สาอะไรได้ละก็...คิดผิดแล้วละ
ชายหนุ่มหน้าหนา ยิ่งเป็นการแซวหรือหยอกเย้าเกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือ เขายิ่งไม่รู้สึกรู้สา กลับจะลำพองใจเสียด้วยซ้ำ
คนที่เป็นฝ่ายส่งสายตาเย้าแหย่เขาน่ะ ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถอะ
“คุณอยากอยู่ในตารางนัดของผมไหม” ทีแรกว่าจะปล่อยผ่าน แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ชีคอาซาดิลเลยคิดว่าถ้าได้แกล้งมิถิลาเสียหน่อยก็น่าจะดีอยู่เหมือนกัน
“คะ?”
“เห็นคุณทำตาเป็นประกายใส่ผม ก็เลยคิดว่าคุณอาจจะอยากพาตัวเองเข้ามาอยู่ในรางรถไฟของผมด้วย ลองดูก็ได้นะ ยังไงตารางนัดหมายของผมก็อยู่ในกำมือคุณอยู่แล้ว”
ทีแรกมิถิลาฟังแล้วก็สับสน แต่พอมองสบกับดวงตาสีอำพันพราวระยับนั่นแล้วก็พอจะเข้าใจ
บ้าจริง! นี่เขาคิดว่าเธอก็อยากได้เขาเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ หรือไง
“ไม่มีทางหรอกค่ะ”
ถึงชีคหนุ่มจะหล่อและรวยมาก แต่ผู้หญิงในสต็อกของเขาก็เยอะมากเหลือเกิน ไม่อยากหาเรื่องปวดหัวให้ตัวเอง
แล้วเอาตัวไปยุ่งกับผู้ชายเจ้าชู้ ท้ายที่สุดคงไม่ใช่แค่ปวดหัว แต่คงจะต้องปวดใจด้วย
*
เจ้าชายอาซาดิลไม่ได้กลับบ้านพร้อมเธอ แต่มิถิลาก็ยังได้โดยสารเครื่องบินเจ็ต พอเลียบๆ เคียงๆ ถามกับรามู เขาก็บอกว่าต้องเอาเครื่องบินกลับอยู่แล้ว ส่วนอาซาดิลมีรถที่จอดทิ้งไว้ที่บริษัท การเดินทางเลยไม่ใช่ปัญหาของเขา
สรุปว่านี่ไม่ใช่สวัสดิการรับส่งพนักงาน เพียงแต่มิถิลาได้ติดเครื่องบินกลับมาด้วยก็เท่านั้น
หญิงสาวแวะไปที่กรงสิงโตก่อน พอเจอหน้ากันหลายวันเข้า เจ้าหลุยส์ก็คุ้นชินกับเธอแล้ว เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าบอกว่ามันเป็นสัตว์ตระกูลแมว จะว่าไปมันก็ดูคล้ายๆ กับแมวยักษ์อยู่เหมือนกัน
ชอบเอาตัวไปถูไถกับต้นไม้ โขดหิน เคยมีครั้งหนึ่งที่มันเอาตัวมาถูไถกับขาของมิถิลา ทำเอาหญิงสาวแทบหัวใจวาย แต่พอรู้ว่ามันเข้าหาอย่างเป็นมิตร หญิงสาวก็เลิกกลัว เจ้าหลุยส์เองก็เลิกหวาดระแวงเธอเหมือนกัน
เล่นอยู่ในกรงสิงโตพักหนึ่งมิถิลาก็เดินเข้าบ้าน เธอบอกแม่บ้านว่าไม่ต้องทำอาหาร เดี๋ยวเธอหาอะไรง่ายๆ กินเอง
หญิงสาวยังไม่สนใจมื้อเย็น เธอเข้าห้องนอนแล้วหยิบโทรศัพท์มาวิดีโอคอลหาคนที่อยู่ประเทศไทย เวลาที่อัลมานฮาฌ์มเร็วกว่าที่ไทยอยู่สามชั่วโมง ตอนนี้ยังไม่ห้าโมงเย็น ที่ไทยก็ยังไม่สองทุ่ม
...น่าจะยังไม่นอน
“พี่มินต์” คนปลายสายกดรับสายแล้วส่งเสียงทักทายมาทันที น้ำเสียงไม่ได้สดใสมากนักแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความดีใจ
“ไง...ยังไม่นอนใช่ไหม” มิถิลาสังเกตใบหน้าของน้องสาวผ่านหน้าจอโทรศัพท์ พยายามจะให้ถี่ถ้วนมากที่สุด “หน้าตาสดใสขึ้นนี่นา”
อันที่จริงมิถิลาสังเกตอะไรไม่ได้มากนัก โทรศัพท์ทั้งของเธอและของมารตีต่างก็ไม่ใช่รุ่นที่ดีและสเปกสูง แค่สมาร์ตโฟนธรรมดา ราคาไม่แรง พอให้ใช้งานได้ทั่วๆ ไปเท่านั้น
“ฮื่อ ช่วงนี้รู้สึกแข็งแรง...ขึ้นมานิดหนึ่ง แต่เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็ต้องให้คีโมอีกแล้ว เบื่อจัง”
“เบื่อไม่ได้...”
____________________________________________________
ท่านชีคคะะะะ แบบนี้คืออ่อยมั้ยน้าาาา?
ปล.คอมเม้นต์กันเข้ามาเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวแนนมีสุ่มแจกนิยายจากคอมเม้นต์ด้วยค่ะ
ขอฝากผลงานเรื่องก่อนๆ เอาไว้ด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หาเงินรักษาน้องนี่เอง
มินต์ระวังตัวนะ ท่านชีคไม่น่าไว้ใจ
น้องมินต์อยากบอกท่านชีคว่าอยู่กับหลุยส์สบายใจกว่าอยู่กับท่านชีคเยอะเลย แถมไม่ต้องเปลืองตัวอีกต่างหาก
นี้ซินะ เหตุผลของนาง