ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วณิพกพเนจร
\"เกิดมาเป็น .....วณิพกพเนจร .......เที่ยวแรนรอน .....ร้องเพลงแล้กเศษเงิน เหลือกินเหลือเก็บ\"
มันเป็นบาร์เบียร์เพื่อชีวิตแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา
ในเวลากลางคืนมีเพียงแสงสว่างเรืองๆสีเหลืองตามโต๊ะลูกค้าที่มานั่งกินเหล้าฟังเพลง
เป็นเวลาพักผ่อนของมนุษย์เพื่อชีวิตทั้งหลาย
\"จะนำเงินนั้นไป......รักษาดวงตา......\"  ผมจบบทเพลงสุดท้ายในช่วงแรกก่อนที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักร้องอีกคนซึ่งมาเล่นคู่กันกับผมทุกคืนร้องนำไป
ผมลงมาพักกินเบียร์ที่ด้านล่างเวที  ....
ที่บาร์ ...ผมสั่งเบียร์แก้วนึงมาดื่มดับกระหายในลำคออันเนื่องมาจากการร้องเพลงเมื่อครู่
ผมทำงานแลกเงินเพียงน้อยนิดในแต่ละคืน แต่กลับได้รับความสุขกว่าการทำงานกลางวันอันแสนเคร่งเครียดในย่านสุขุมวิท
ผมทำงานเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทขายเครื่องครัวจากเยอรมัน .....
ผมได้เงินเดือน หกหมื่น ..... คุมพนักงานกว่า 200 คน และลูกจ้างในโรงงานกว่า 2000 คน
ผมต้องเข้าประชุมบอร์ดกับผู้บริหารทุกๆสองสามวัน
การแข่งขันระหว่างบริษัทมีมากขึ้น แนวโน้มการบริโภคสินค้าจากบริษัทเราต่ำลง
มาตรฐานสินค้าไม่สู้เครื่องครัวอเมริกา .... คนงานขอขึ้นเงินเดือน ฯลฯ
การเป็นคนใหญ่คนโตไม่ได้ช่วยให้ชีวิตมีความสุขได้เลย
มีเพียงแต่เวลากลางคืนเท่านั้นที่ผมได้ปลดปล่อยชีวิตของตัวเอง
จากสูทเปลี่ยนมาเป็นกางเกงยีนส์
จากปากกาโทรศัพท์เปลี่ยนมาเป็นกีต้าร์
ผมบอกว่าผมทำงานเป็นผู้จัดการ
แต่ผมไม่ใช่ผู้จัดการ
ผมเป็นศิลปิน
ศิลปินเพื่อชีวิต
วันนี้ผมโดนคนสองสามคนในบอร์ดโจมตีอย่างรุนแรงเรื่องที่เงินกำไรหดหายไปสามเปอร์เซนต์
ผมช่วยอะไรไม่ได้ ..... ผมแค่ทำหน้าที่ของผมเต็มที่แล้ว
ผมกลับบ้าน ...ล้างเนื้อล้างตัวแล้วหิ้วกีต้าร์ออกไปที่บาร์
\"เกิดมาเป็น.....วณิพกพเนจร ......เที่ยวแรนรอม ......ร้องเพลงแลกเศษเงิน\"
ผมไม่รู้ว่าทำไม วณิพกพเนจรมันดูมีความสุขกว่าชีวิตของผม
อย่างน้อยเค้าก็มีพอกินพอใช้.....มีความสุขตามสภาพการณ์
\"ใครจะว่าร้องเพลงให้ความยฟัง....ฉันก็ยังมีคนที่เข้าใจ .......ใครจะว่าร้องเพลงให้ควายฟัง.....ฉันก็ยัง.....\"
อย่างน้อยวณิพกก็ยังมีคนที่เข้าใจ ..... อาจเป็นผมที่เข้าใจเค้ามากกว่าใคร
ผมกลับมาบ้านตอนตีสอง.....ล้มตัวลงนอน
แต่แล้วก็ต้องลุกขึ้นมาทำการรายงานส่งบอร์ดในการประชุมวันพรุ่งนี้
รุ่งขึ้นผมหอบเอาเอกสารเข้าไปในห้องประชุม ..... ดวงตาช้ำเล็กน้อยเนื่องมาจากการทำงานหนักเมื่อคืน
\"สวัสดีครับ......วันนี้ผมนำรายงานการนำเข้าชนิดของสินค้าที่ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับ...\"
\"เดี๋ยว คุณธน \"บอร์ดบริหารเอ่ยทักขึ้น
\"ครับ\" ผมรอบอร์ดกล่าวอะไรซักอย่าง
\"ผมได้รับรายงานเรื่องการประพฤติตนอันเป็นที่น่าครหาในหมู่พนักงาน\" ว่าแล้วบอร์ดก็ยื่นรูปภาพสี่ห้ารูปซึ่งเห็นผมนั่งเล่นกีต้าร์อยู่บนเวที
\"เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในระบบบริหารนะคุณ ธน ...... เราไม่ต้องการให้คุณไปรับงานพิเศษอื่นๆซึ่งทำให้คุณเสียเวลาในการทำงานโดยใช่เหตุ ..... โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานอย่าง....\"
\"แปลว่าคุณจะให้ผมออกจากการเป็นนักดนตรีประจำเหรอครับ\" ผมมองไปที่บอร์ดแปดคนซึ่งนั่งมองหน้าผมอยู่
บอร์ดพยักหน้ารับ
\"ผมขอปฏิเสธครับ ....นั้นเป็นเพียงแค่งานอดิเรกส่วนตัวของผม\"
\"มันจะทำลายชื่อเสียงของบริษัทคุณ ธน .....คุณก็คงรู้ว่าคนระดับผู้บริหารมาเล่นเพลงเพื่อชีวิตมัน...\"
\"มันผิดเหรอครับ ! กับการที่เราแค่พิศมัยในดนตรี ....เหมือนคุณไปตีกอล์ฟ ....ไปเที่ยวทะเล ไป...\"
\"งั้นทางบอร์ดบริหารเห็นสมควรว่าจะต้องเชิญคุณออก\" บอร์ดหยุดการพูดอยู่เพียงเท่านี้
ผมมองหน้า
แล้วผมก็ยิ้มให้กับบอร์ด
\"ขอบคุณครับ\"  ผมวางแฟ้มไว้เดินออกจากห้องประชุม
ผมไปที่ห้องทำงานผม....ถอดสูทกับเน็กไทแขวนไว้ที่ราว ....แล้วหยิบรูปภาพผมสมัยเด็กๆในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ใส่กระเป๋า
ผมขึ้นรถ ..... มองไปที่กีต้าร์ที่เบาะข้างๆตัวผม
\"คราวนี้เราจะได้เป็นวณิพกซะที\" ผมพูด ถอยรถออกจากสิ่งที่ผมเคยเรียกว่าที่ทำงาน
\"เที่ยวแรนรอน .....ร้องเพลงแลกเศษเงิน ....เหลือกินเหลือเก็บเป็นส่วนเกิน..\"ผมร้องเบาๆไปกับเทปเพลงที่ผมเพิ่งเปิด
แล้วรถก็แล่นไป
มันเป็นบาร์เบียร์เพื่อชีวิตแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา
ในเวลากลางคืนมีเพียงแสงสว่างเรืองๆสีเหลืองตามโต๊ะลูกค้าที่มานั่งกินเหล้าฟังเพลง
เป็นเวลาพักผ่อนของมนุษย์เพื่อชีวิตทั้งหลาย
\"จะนำเงินนั้นไป......รักษาดวงตา......\"  ผมจบบทเพลงสุดท้ายในช่วงแรกก่อนที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักร้องอีกคนซึ่งมาเล่นคู่กันกับผมทุกคืนร้องนำไป
ผมลงมาพักกินเบียร์ที่ด้านล่างเวที  ....
ที่บาร์ ...ผมสั่งเบียร์แก้วนึงมาดื่มดับกระหายในลำคออันเนื่องมาจากการร้องเพลงเมื่อครู่
ผมทำงานแลกเงินเพียงน้อยนิดในแต่ละคืน แต่กลับได้รับความสุขกว่าการทำงานกลางวันอันแสนเคร่งเครียดในย่านสุขุมวิท
ผมทำงานเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทขายเครื่องครัวจากเยอรมัน .....
ผมได้เงินเดือน หกหมื่น ..... คุมพนักงานกว่า 200 คน และลูกจ้างในโรงงานกว่า 2000 คน
ผมต้องเข้าประชุมบอร์ดกับผู้บริหารทุกๆสองสามวัน
การแข่งขันระหว่างบริษัทมีมากขึ้น แนวโน้มการบริโภคสินค้าจากบริษัทเราต่ำลง
มาตรฐานสินค้าไม่สู้เครื่องครัวอเมริกา .... คนงานขอขึ้นเงินเดือน ฯลฯ
การเป็นคนใหญ่คนโตไม่ได้ช่วยให้ชีวิตมีความสุขได้เลย
มีเพียงแต่เวลากลางคืนเท่านั้นที่ผมได้ปลดปล่อยชีวิตของตัวเอง
จากสูทเปลี่ยนมาเป็นกางเกงยีนส์
จากปากกาโทรศัพท์เปลี่ยนมาเป็นกีต้าร์
ผมบอกว่าผมทำงานเป็นผู้จัดการ
แต่ผมไม่ใช่ผู้จัดการ
ผมเป็นศิลปิน
ศิลปินเพื่อชีวิต
วันนี้ผมโดนคนสองสามคนในบอร์ดโจมตีอย่างรุนแรงเรื่องที่เงินกำไรหดหายไปสามเปอร์เซนต์
ผมช่วยอะไรไม่ได้ ..... ผมแค่ทำหน้าที่ของผมเต็มที่แล้ว
ผมกลับบ้าน ...ล้างเนื้อล้างตัวแล้วหิ้วกีต้าร์ออกไปที่บาร์
\"เกิดมาเป็น.....วณิพกพเนจร ......เที่ยวแรนรอม ......ร้องเพลงแลกเศษเงิน\"
ผมไม่รู้ว่าทำไม วณิพกพเนจรมันดูมีความสุขกว่าชีวิตของผม
อย่างน้อยเค้าก็มีพอกินพอใช้.....มีความสุขตามสภาพการณ์
\"ใครจะว่าร้องเพลงให้ความยฟัง....ฉันก็ยังมีคนที่เข้าใจ .......ใครจะว่าร้องเพลงให้ควายฟัง.....ฉันก็ยัง.....\"
อย่างน้อยวณิพกก็ยังมีคนที่เข้าใจ ..... อาจเป็นผมที่เข้าใจเค้ามากกว่าใคร
ผมกลับมาบ้านตอนตีสอง.....ล้มตัวลงนอน
แต่แล้วก็ต้องลุกขึ้นมาทำการรายงานส่งบอร์ดในการประชุมวันพรุ่งนี้
รุ่งขึ้นผมหอบเอาเอกสารเข้าไปในห้องประชุม ..... ดวงตาช้ำเล็กน้อยเนื่องมาจากการทำงานหนักเมื่อคืน
\"สวัสดีครับ......วันนี้ผมนำรายงานการนำเข้าชนิดของสินค้าที่ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับ...\"
\"เดี๋ยว คุณธน \"บอร์ดบริหารเอ่ยทักขึ้น
\"ครับ\" ผมรอบอร์ดกล่าวอะไรซักอย่าง
\"ผมได้รับรายงานเรื่องการประพฤติตนอันเป็นที่น่าครหาในหมู่พนักงาน\" ว่าแล้วบอร์ดก็ยื่นรูปภาพสี่ห้ารูปซึ่งเห็นผมนั่งเล่นกีต้าร์อยู่บนเวที
\"เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในระบบบริหารนะคุณ ธน ...... เราไม่ต้องการให้คุณไปรับงานพิเศษอื่นๆซึ่งทำให้คุณเสียเวลาในการทำงานโดยใช่เหตุ ..... โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานอย่าง....\"
\"แปลว่าคุณจะให้ผมออกจากการเป็นนักดนตรีประจำเหรอครับ\" ผมมองไปที่บอร์ดแปดคนซึ่งนั่งมองหน้าผมอยู่
บอร์ดพยักหน้ารับ
\"ผมขอปฏิเสธครับ ....นั้นเป็นเพียงแค่งานอดิเรกส่วนตัวของผม\"
\"มันจะทำลายชื่อเสียงของบริษัทคุณ ธน .....คุณก็คงรู้ว่าคนระดับผู้บริหารมาเล่นเพลงเพื่อชีวิตมัน...\"
\"มันผิดเหรอครับ ! กับการที่เราแค่พิศมัยในดนตรี ....เหมือนคุณไปตีกอล์ฟ ....ไปเที่ยวทะเล ไป...\"
\"งั้นทางบอร์ดบริหารเห็นสมควรว่าจะต้องเชิญคุณออก\" บอร์ดหยุดการพูดอยู่เพียงเท่านี้
ผมมองหน้า
แล้วผมก็ยิ้มให้กับบอร์ด
\"ขอบคุณครับ\"  ผมวางแฟ้มไว้เดินออกจากห้องประชุม
ผมไปที่ห้องทำงานผม....ถอดสูทกับเน็กไทแขวนไว้ที่ราว ....แล้วหยิบรูปภาพผมสมัยเด็กๆในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ใส่กระเป๋า
ผมขึ้นรถ ..... มองไปที่กีต้าร์ที่เบาะข้างๆตัวผม
\"คราวนี้เราจะได้เป็นวณิพกซะที\" ผมพูด ถอยรถออกจากสิ่งที่ผมเคยเรียกว่าที่ทำงาน
\"เที่ยวแรนรอน .....ร้องเพลงแลกเศษเงิน ....เหลือกินเหลือเก็บเป็นส่วนเกิน..\"ผมร้องเบาๆไปกับเทปเพลงที่ผมเพิ่งเปิด
แล้วรถก็แล่นไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น