ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชุดราตรี
ชุดราคา 20000 บาทห้อยไว้กับไม้แขวนเสื้อไม้หน้าตู้เสื้อผ้าในห้องพักโกโรโกโสแห่งหนึ่งในการเคหะแห่งชาติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าบ่อนไก่
เธอนั่งขัดสมาธิมือหนึ่งถือจานข้าวแกงสแตนเลสและอีกมือจับช้อนตักข้าวคลุกปลาทูเข้าปาก
เธอชื่อจารุณี  สูงราวร้อยหกสิบผมยาวสลวยพาดกลางหลังสีดำแวววาว เธอมีหน้ารูปไข่ตากลมโตผิวหน้าเนียนชนิดยากนักที่ชายจะไม่หลงไหล รูปร่างเพรียวบางเอวเข้ารูป หน้าอกเต่งตึง หน้าท้องแบนเรียบ
ใครจะนึกว่าเธอผู้นี้ อายุ 32 ขวบปีบริบูรณ์เมื่อคืนวาน
เธอใส่เสื้อกระทิงแดงกางเกงขาสั้นมวยไทยนั่งกินข้าวเย็นกับลูกสาวที่นั่งตรงข้ามเธอ
อนงค์ อายุ17ปีเรียนมัธยมโรงเรียนรัฐฯแห่งนึงแถบบ้านเธอ  รูปร่างของเธอไม่ได้ต่างจากแม่เธอนักหากแต่ด้วยความที่เธอเพิ่งแตกเนื้อสาวได้ไม่กี่ปี  เราจึงยังไม่สามารถเห็นความบริบูรณ์ของส่วนสัดเธอมากนัก
เธอยังอยู่ในชุดนักเรียนรัฐบาลที่เธอใส่มาจากโรงเรียน นั่งขัดสมาธิกินข้าวกับชามสแตนเลส และข้าวคลุกปลาทู
นาฬิกาตีบอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง
จารุณีวางจานลง เอ่ยปากขึ้นว่า
\"อีนงค์ .... คืนนี้แม่มีนัดสองทุ่มครึ่ง  เอ็งล้างจานให้แม่ด้วยแล้วกัน เดี๋ยวแม่ซื้อโจ๊กกพรุ่งนี้เช้า\"
อนงค์หรือที่แม่เรียกเธอว่าอีนงค์พยักหน้ารับ
\"แม่ ... พรุ่งนี้นงค์ไปค้างบ้านเพื่อนนะ ... ต้องทำการบ้านเคมี\"
\"เออ ... ตามใจมึงเถอด .... อย่าไปเที่ยวมากนักล่ะเรา .... เลือดแกมันนักเที่ยวเหมือนพ่อแกอยู่ด้วย \"
\"โถ่แม่ ... นงค์เคยเที่ยวซะที่ไหน\" นงค์เอ่ยขึ้นทั้งที่หล่อนเองยังไม่รู้จักพ่อของหล่อนแม้แต่นิดเดียว
\"เออ เออ เออ ช่างมันเถอด ... แม่ต้องรีบไปแล้ว\"
จารุณี ถอดเสื้อ ... เธอเห็นไฝเม็ดนึงที่ลำตัวของหล่อนขณะที่หล่อนชโลมร่างของหล่อนด้วยน้ำหอม
เธอมอง \"ชุดราตรี\" ของเธอด้วยสายตารังเกียจแกมชื่นชม .... เธอสวมมันลงไปในร่างหล่อน
เธอรูดซิปด้านหลังขึ้นด้วยความลำบากเล็กน้อย  แต่ความเคยชินทำให้มันไม่เป็นอุปสรรค์อีกต่อไป
เธอมองหน้ากระจก  เอามือจับนมสองข้างแล้วดันมันตั้งขึ้น
\"ดูฉันสิค่ะ .... ฉันสวยไม๊คืนนี้\"  เธอพูดกับจารุณีอีกคนซึ่งอยู่ในอีมิติหนึ่งของกระจก
เธอเดินผ่าน อนงค์ไป แต่แล้วหันกลับมาแล้วจูบลาลูกของเธออย่างเช่นที่ทำเกือบทุกวันที่เธอออกไปข้างนอกตอนกลางคืน
เธอปิดประตูเบาๆถอนหายใจเฮือกใหญ่
คืนนี้คงยาวนานนักเช่นหลายๆคืนที่ผ่านมา ... เธอคิด
รถแท็กซี่จอดที่หน้าโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเอื่อยเวลาสองทุ่มตรง
เธอเดินช้าๆแต่สง่างามไปที่บาร์ชั้นใต้ดินของโรงแรม
ช้าเหมือนพยาหงษ์แวกว่ายในคูน้ำลำธาร
เด็กเปิดประตูบาร์มองเธอเหลียวหลังจนกระทั่งเธอเดินลับมุมหายไป
เธอนั่งที่บาร์ด้วยชุดราตรี สีดำที่เธอรักและธนุถนอมมันมาสามปี
เธอเดาถูกที่คนที่เธอนัดไว้มาก่อนเวลาเสมอ .... ชายร่างใหญ่หน้าตาเกือบหล่อเหลามีเคราแพะและคิ้วหนา
เค้าสวมสูทมีราคา และสูบซิการ์ยี่ห้อดัง
จารุณีสั่งกามิกาเซ่สองแก้วแล้วถือมันเดินไปนั่งข้างชายคนนี้
\"คุณชอบมาก่อนเวลานะค่ะ .... คุณไพฑูรย์\"
\"เพราะผมรู้ว่าคุณจะมาก่อนเวลาเสมอไงล่ะ .... จารุณี\"
จารุณียื่นแก้วให้ไพฑูรย์
เค้ายกแก้วดื่มหนเดียวหมด แล้วจึงมองมาที่หน้าจารุณี
เธอดื่มมันรวดเดียวหมดเช่นกัน แล้วมองมาที่หน้าไพฑูรย์
เค้าทั้งสองดื่มเตกีล่าและว๊อดก้าต่ออีกหลายสิบแก้วต่อจากนั้น
\"โอ๊ะ คุณเมาจนทำหกเลอะหน้าอกคุณแล้ว\"
\"งั้นขอฉันไปเช็ดมันออกที่ห้องคุณนะค่ะ\"
\"เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ห้องเอง\"
ห้องสวีทเบอร์ 1201 ชั้นบนสุดของโรงแรมที่มองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองกรุงได้ครบถ้วนถูกเปิดให้คุณไพฑูรย์พาจารุณีมาเช็ดเครื่องดื่มที่หกเลอะหน้าอกเธอ
ทันทีที่ไพฑูรย์ล็อกห้อง เค้าเดินไปโอบกอดจารุณีที่มองออกนอกหน้าต่างดูวิวทิวทัศน์
\"วิวสวยจังเลยนะค่ะ\"  จารุณีพูดขึ้นขณะที่ไพฑูรย์ไซร้ซอกคอเธอพลางเอามือโอบเอวที่บางเบาของจารุณี
\"เดี๋ยวขอฉันไปเช็ดว็อดก้าออกก่อนสิค่ะ\" จารุณีพยายามพลักไพฑูรย์ออกไป
แต่ไพฑูรย์เปลี่ยนตำแหน่งโอบรัดเธอมาด้านหน้า
\"งั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง\" ว่าแล้วเค้าก็บรรจงเลียหน้าอกที่อยู่ภายนอกการปกคลุมของชุดราตรีนั้น
ขณะที่เลียไพฑูรย์รูดซิปกลางหลังของจารุณีแล้วรูดเสื้อให้ตกมากองอยู่ที่พื้นทำให้เห็นส่วนสัดที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในซึ่งรูปร่างนี้โชว์ให้เห็นถึงความงามของผู้หญิงซึ่งมีมนต์ขลังยิ่งกว่าสายตาพยาราชสีห์
จารุณี ปลดกระดุมชายหนุ่มตรงหน้า และกระชากเสื้อออกไปที่พื้น
ไพฑูรย์พลักจารุณีลงบนเตียงขนาดยักษ์ ถอดกางเกงออกแล้วล้มลงบนตัวจารุณี
เสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ไม่ได้ใจความดังขึ้น
จารุณีครางออกมาเบาๆ สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความเจ็บปวดและความสุขระคนกัน
น้ำตาเธอไหลออกมาขณะที่ร่างของเธอขยับไปมาตามแรงสะท้านของหนุ่มร่างใหญ่ที่ปลุกปล้ำเธอ
\"อย่าค่ะ....อ๊า\"
เธอเอามือกำผ้าปูเตียงไว้แน่น
ค่ำคืนนั้นผ่านไป
เช้าวันรุ่งขึ้น จารุณีเปิดล็อกประตูห้องของเธอออกเห็นอนงค์กำลังสวมกระโปงนักเรียนเพื่อที่จะไปโรงเรียน
\"เอ้านี่โจ๊ก ... แม่ซื้อมาฝาก\"
เธอยื่นถุงโจ๊กให้ลูกเธอ พลางถอดชุดราตรีแขวนไว้ที่เก่า
\"อีนงค์ ... แม่ได้เงินค่าเถอมแกมาแล้วนะ แต่ยังไม่พอสำหรับค่าห้อง\"
\"แล้วแม่ว่าเมื่อไหร่แม่จะได้ล่ะ\"
\"คงอาทิตย์หน้านั่นแหละ ... คุณไพฑูรย์เค้าจะมาจากต่างประเทศอีกที\"
เธอปลื่อยกายล้อนจ้อน ล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย
ลูกสาวสุดที่รักของเธอกินโจ๊กเสร็จแล้วก็ออกไปโรงเรียน
อนงค์ไม่ได้กล่าวคำอำลาเพราะนึกว่าแม่ของเธอหลับไปแล้ว
แต่จารุณีหาได้หลับไม่ ....  เธอนอนแผ่อยู่อย่างนั้นพร้อมน้ำตา
เธอรู้ว่าเธอจะไม่ได้ถ่ายรูปกับลูกสาวตอนรับปริญญาในอีกห้าปีข้างหน้า
อนงค์เพิ่งมารู้เรื่องนี้อาทิตย์ก่อน
รู้ที่ว่าจารุณีเป็นเอดส์
เธอนอนร้องให้จนผลอยหลับไป
หลายเดือนต่อจากนั้นร่างของจารุณีก็ได้รับการบรรจุลงโลงเผา
อนงค์มองโลงศพด้วยน้ำตา
เธอกลับมาบ้านอย่างอ่อนล้า ... หมดอาลัยตายอยากในชีวิต
ไหนจะค่าที่ ... ค่าเรียน ค่าน้ำค่าไฟ
เธอร้องให้ แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
แล้วเธอก็มองที่ชุดราตรีนั้น .....
เธอนั่งขัดสมาธิมือหนึ่งถือจานข้าวแกงสแตนเลสและอีกมือจับช้อนตักข้าวคลุกปลาทูเข้าปาก
เธอชื่อจารุณี  สูงราวร้อยหกสิบผมยาวสลวยพาดกลางหลังสีดำแวววาว เธอมีหน้ารูปไข่ตากลมโตผิวหน้าเนียนชนิดยากนักที่ชายจะไม่หลงไหล รูปร่างเพรียวบางเอวเข้ารูป หน้าอกเต่งตึง หน้าท้องแบนเรียบ
ใครจะนึกว่าเธอผู้นี้ อายุ 32 ขวบปีบริบูรณ์เมื่อคืนวาน
เธอใส่เสื้อกระทิงแดงกางเกงขาสั้นมวยไทยนั่งกินข้าวเย็นกับลูกสาวที่นั่งตรงข้ามเธอ
อนงค์ อายุ17ปีเรียนมัธยมโรงเรียนรัฐฯแห่งนึงแถบบ้านเธอ  รูปร่างของเธอไม่ได้ต่างจากแม่เธอนักหากแต่ด้วยความที่เธอเพิ่งแตกเนื้อสาวได้ไม่กี่ปี  เราจึงยังไม่สามารถเห็นความบริบูรณ์ของส่วนสัดเธอมากนัก
เธอยังอยู่ในชุดนักเรียนรัฐบาลที่เธอใส่มาจากโรงเรียน นั่งขัดสมาธิกินข้าวกับชามสแตนเลส และข้าวคลุกปลาทู
นาฬิกาตีบอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง
จารุณีวางจานลง เอ่ยปากขึ้นว่า
\"อีนงค์ .... คืนนี้แม่มีนัดสองทุ่มครึ่ง  เอ็งล้างจานให้แม่ด้วยแล้วกัน เดี๋ยวแม่ซื้อโจ๊กกพรุ่งนี้เช้า\"
อนงค์หรือที่แม่เรียกเธอว่าอีนงค์พยักหน้ารับ
\"แม่ ... พรุ่งนี้นงค์ไปค้างบ้านเพื่อนนะ ... ต้องทำการบ้านเคมี\"
\"เออ ... ตามใจมึงเถอด .... อย่าไปเที่ยวมากนักล่ะเรา .... เลือดแกมันนักเที่ยวเหมือนพ่อแกอยู่ด้วย \"
\"โถ่แม่ ... นงค์เคยเที่ยวซะที่ไหน\" นงค์เอ่ยขึ้นทั้งที่หล่อนเองยังไม่รู้จักพ่อของหล่อนแม้แต่นิดเดียว
\"เออ เออ เออ ช่างมันเถอด ... แม่ต้องรีบไปแล้ว\"
จารุณี ถอดเสื้อ ... เธอเห็นไฝเม็ดนึงที่ลำตัวของหล่อนขณะที่หล่อนชโลมร่างของหล่อนด้วยน้ำหอม
เธอมอง \"ชุดราตรี\" ของเธอด้วยสายตารังเกียจแกมชื่นชม .... เธอสวมมันลงไปในร่างหล่อน
เธอรูดซิปด้านหลังขึ้นด้วยความลำบากเล็กน้อย  แต่ความเคยชินทำให้มันไม่เป็นอุปสรรค์อีกต่อไป
เธอมองหน้ากระจก  เอามือจับนมสองข้างแล้วดันมันตั้งขึ้น
\"ดูฉันสิค่ะ .... ฉันสวยไม๊คืนนี้\"  เธอพูดกับจารุณีอีกคนซึ่งอยู่ในอีมิติหนึ่งของกระจก
เธอเดินผ่าน อนงค์ไป แต่แล้วหันกลับมาแล้วจูบลาลูกของเธออย่างเช่นที่ทำเกือบทุกวันที่เธอออกไปข้างนอกตอนกลางคืน
เธอปิดประตูเบาๆถอนหายใจเฮือกใหญ่
คืนนี้คงยาวนานนักเช่นหลายๆคืนที่ผ่านมา ... เธอคิด
รถแท็กซี่จอดที่หน้าโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเอื่อยเวลาสองทุ่มตรง
เธอเดินช้าๆแต่สง่างามไปที่บาร์ชั้นใต้ดินของโรงแรม
ช้าเหมือนพยาหงษ์แวกว่ายในคูน้ำลำธาร
เด็กเปิดประตูบาร์มองเธอเหลียวหลังจนกระทั่งเธอเดินลับมุมหายไป
เธอนั่งที่บาร์ด้วยชุดราตรี สีดำที่เธอรักและธนุถนอมมันมาสามปี
เธอเดาถูกที่คนที่เธอนัดไว้มาก่อนเวลาเสมอ .... ชายร่างใหญ่หน้าตาเกือบหล่อเหลามีเคราแพะและคิ้วหนา
เค้าสวมสูทมีราคา และสูบซิการ์ยี่ห้อดัง
จารุณีสั่งกามิกาเซ่สองแก้วแล้วถือมันเดินไปนั่งข้างชายคนนี้
\"คุณชอบมาก่อนเวลานะค่ะ .... คุณไพฑูรย์\"
\"เพราะผมรู้ว่าคุณจะมาก่อนเวลาเสมอไงล่ะ .... จารุณี\"
จารุณียื่นแก้วให้ไพฑูรย์
เค้ายกแก้วดื่มหนเดียวหมด แล้วจึงมองมาที่หน้าจารุณี
เธอดื่มมันรวดเดียวหมดเช่นกัน แล้วมองมาที่หน้าไพฑูรย์
เค้าทั้งสองดื่มเตกีล่าและว๊อดก้าต่ออีกหลายสิบแก้วต่อจากนั้น
\"โอ๊ะ คุณเมาจนทำหกเลอะหน้าอกคุณแล้ว\"
\"งั้นขอฉันไปเช็ดมันออกที่ห้องคุณนะค่ะ\"
\"เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ห้องเอง\"
ห้องสวีทเบอร์ 1201 ชั้นบนสุดของโรงแรมที่มองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองกรุงได้ครบถ้วนถูกเปิดให้คุณไพฑูรย์พาจารุณีมาเช็ดเครื่องดื่มที่หกเลอะหน้าอกเธอ
ทันทีที่ไพฑูรย์ล็อกห้อง เค้าเดินไปโอบกอดจารุณีที่มองออกนอกหน้าต่างดูวิวทิวทัศน์
\"วิวสวยจังเลยนะค่ะ\"  จารุณีพูดขึ้นขณะที่ไพฑูรย์ไซร้ซอกคอเธอพลางเอามือโอบเอวที่บางเบาของจารุณี
\"เดี๋ยวขอฉันไปเช็ดว็อดก้าออกก่อนสิค่ะ\" จารุณีพยายามพลักไพฑูรย์ออกไป
แต่ไพฑูรย์เปลี่ยนตำแหน่งโอบรัดเธอมาด้านหน้า
\"งั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง\" ว่าแล้วเค้าก็บรรจงเลียหน้าอกที่อยู่ภายนอกการปกคลุมของชุดราตรีนั้น
ขณะที่เลียไพฑูรย์รูดซิปกลางหลังของจารุณีแล้วรูดเสื้อให้ตกมากองอยู่ที่พื้นทำให้เห็นส่วนสัดที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในซึ่งรูปร่างนี้โชว์ให้เห็นถึงความงามของผู้หญิงซึ่งมีมนต์ขลังยิ่งกว่าสายตาพยาราชสีห์
จารุณี ปลดกระดุมชายหนุ่มตรงหน้า และกระชากเสื้อออกไปที่พื้น
ไพฑูรย์พลักจารุณีลงบนเตียงขนาดยักษ์ ถอดกางเกงออกแล้วล้มลงบนตัวจารุณี
เสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ไม่ได้ใจความดังขึ้น
จารุณีครางออกมาเบาๆ สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความเจ็บปวดและความสุขระคนกัน
น้ำตาเธอไหลออกมาขณะที่ร่างของเธอขยับไปมาตามแรงสะท้านของหนุ่มร่างใหญ่ที่ปลุกปล้ำเธอ
\"อย่าค่ะ....อ๊า\"
เธอเอามือกำผ้าปูเตียงไว้แน่น
ค่ำคืนนั้นผ่านไป
เช้าวันรุ่งขึ้น จารุณีเปิดล็อกประตูห้องของเธอออกเห็นอนงค์กำลังสวมกระโปงนักเรียนเพื่อที่จะไปโรงเรียน
\"เอ้านี่โจ๊ก ... แม่ซื้อมาฝาก\"
เธอยื่นถุงโจ๊กให้ลูกเธอ พลางถอดชุดราตรีแขวนไว้ที่เก่า
\"อีนงค์ ... แม่ได้เงินค่าเถอมแกมาแล้วนะ แต่ยังไม่พอสำหรับค่าห้อง\"
\"แล้วแม่ว่าเมื่อไหร่แม่จะได้ล่ะ\"
\"คงอาทิตย์หน้านั่นแหละ ... คุณไพฑูรย์เค้าจะมาจากต่างประเทศอีกที\"
เธอปลื่อยกายล้อนจ้อน ล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย
ลูกสาวสุดที่รักของเธอกินโจ๊กเสร็จแล้วก็ออกไปโรงเรียน
อนงค์ไม่ได้กล่าวคำอำลาเพราะนึกว่าแม่ของเธอหลับไปแล้ว
แต่จารุณีหาได้หลับไม่ ....  เธอนอนแผ่อยู่อย่างนั้นพร้อมน้ำตา
เธอรู้ว่าเธอจะไม่ได้ถ่ายรูปกับลูกสาวตอนรับปริญญาในอีกห้าปีข้างหน้า
อนงค์เพิ่งมารู้เรื่องนี้อาทิตย์ก่อน
รู้ที่ว่าจารุณีเป็นเอดส์
เธอนอนร้องให้จนผลอยหลับไป
หลายเดือนต่อจากนั้นร่างของจารุณีก็ได้รับการบรรจุลงโลงเผา
อนงค์มองโลงศพด้วยน้ำตา
เธอกลับมาบ้านอย่างอ่อนล้า ... หมดอาลัยตายอยากในชีวิต
ไหนจะค่าที่ ... ค่าเรียน ค่าน้ำค่าไฟ
เธอร้องให้ แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
แล้วเธอก็มองที่ชุดราตรีนั้น .....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น