ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ฆาตกรรม ณ ประตูน้ำ
ในช่วงเริ่มรัชกาลที่หก ... กรุงเทพมหานคร
ในคืนที่ฝนตกกรรโชกเสียประหนึ่งเทพยดาฟ้าดินพิโรธ
น้ำปริ่มตลิ่งแม่น้ำลำคลองหนองบึงทั้งสิ้นทั่วพระนครมิเว้นแม้แต่ ณ ประตูน้ำ
หญิงสาวนางหนึ่งแต่งตัวเฉกเช่นนางสนมวิ่งฝ่าพายุเลียบริมตลิ่งดูรีบร้อนกระวนกระวาย
สีหน้าของเธอดูราวกับว่าเพิ่งพบผีมาก็มิปาน
นางหยุดหอบหายใจเอาอากาศเข้าเต็มปอดพลางมองดูซ้ายขวา แลมิเห็นผู้ใดในพระนครเหตุเพราะอุดอยู่แต่ในเรือนหลบฝน หรือไม่ก็ถูกเจ้ากระทรวงกลาโหมเกนฑ์ไปช่วยวิดน้ำในหวังหลวงที่ท่วมเจิ่งนองเป็นแน่แท้
เธอขยับเท้าพร้อมที่จะสาวก้าววิ่งต่อไป หากแต่มีลูกดอกพุ่งมาปักที่กลางหลัง ทำให้นางล้มลง
เห็นแก่ตัวกลัวแต่ตาย ...นางเอื้อมมือจับที่ลูกดอกอันบัดนี้ปักกลางหลังแล้วพยายามชักมันออกสุดแรงกำลัง
ลูกดอกหล่นลงสู่พื้นพร้อมเลือดสีแดงสดหยดผสมโคลนตม นางพยายามออกวิ่งหากแต่เรี่ยวแรงนั้นหดหายมลายเกือบสิ้น
นางล้มลุกคุกคลาน ... พยามจะหนีจากบุคคลผู้ยิงหน้าไม้ใส่อย่างมิคิดชีวิต
จะเกรงก็แต่บุคคลผู้นั้นวิ่งตามมาถึงนางเสียแล้ว
นางหันกลับไปเห็นผู้ประสงค์ร้ายชักดาบออกจากฝัก
เสียงกรีดร้องดังขึ้นปนเปกับเสียงสายอสุนีบาต
................................................................
สองวันถัดมา
"เร่งเร็วเข้าเถิด ช้านักหนังสือหนังหามิเปียกปอนป่นเปื่อยกระนั้นหรือ ?" เสียงตวาดโวยวายดังลั่นบ้านฝรั่งบุโรทั่งอันตั้งอยู่ในย่านแขกขาว
เสียงตวาดนั้นมาจากผู้ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังสั่งให้ คนรับใช้หอบหนังสือหนังหาจากชั้นล่างของบ้านขึ้นไปสู่ชั้นบน
ชายผู้นั้นแก้มตอบ ผมเริ่มปรากฏรอยแซมสีขาว อันบ่งบอกว่าเป็นช่วงประมาณสี่สิบปีได้ ร่างผอมเกร็ง หากแต่ดูน่าเกรงขาม
"ขอรับ คุณ ฉลู" คนรับใช้ขานรับ
"ฉันชื่อชลอ ... ชลอ โหระพา นายยอด ... ชลอ โหระพา"
"ขอรับ คุณฉลู เอ้ย ... ชลอ" นายยอดทั้งที่รู้แต่ก็ยังมักจะแกล้งนายท่านเสมอๆตามวิสัยทะเล้นทะลึ่งตึงตัง หากมิใช่ว่าเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์และรอบรู้มีความสามารถกอปรกับครอบครัวของโหระพานั้นเป็นนายบ่าวกับครอบครัวของนายยอดมาตั้งแต่ต้นราชวงศ์จักรีแล้วล่ะก้อ นายยอดคงถูกเขกกบาลด้วยไม้เท้าสิงห์ฟันหักของคุณชลอเป็นแม่นมั่น
"มิเขกกบาลมันทีหรือขอรับ"
ชลอหันไปพบชายตัวเตี้ยร่างกำยำแลดูหนุ่มแน่นกว่าคุณชลอราวสิบปีเห็นจะได้
"อ้าว ... คุณหมอสุวัต สวัสดีขอรับ"
"สวัสดีขอรับ คุณชลอ" คุณหมอประนมมือไหว้งามๆ
"กระผมต้องขออภัยด้วยที่บ้านกระผมรกเลอะเทอะวุ่นวายเสียเพียงนี้ ... อาจจะเปนความคิดที่ผิดกระมังที่กระผมดันซื้อบ้านฝรั่งหลังนี้แทนการปลูกเรือนไทยตามตำหรับเดิมแต่มีมา" คุณชลอหยิมหนังสือมาตั้งไว้บนโต๊ะรอนายยอดลงซึ่งยกกองหนังสือขึ้นไปชั้นบนลงมาหามต่อ
"คงมิผิดหรอกขอรับ เพราะคุณชลอเองได้ร่ำเรียนศึกษาจากอังกฤษประเทดก็นานอยู่ คงคิดติดชอบด้วยวิถีความคิดฝรั่งเป็นแม่นมั่น"
"จริงขอรับ แต่กระผมก็ยังชอบความเย็นโปร่งโล่งสบายของบ้านเรือนไทยมากกว่า โดยเฉพาะอากาศอย่างประเทดสยามนี้" ว่าแล้วคุณชลอก็ก้มลงดูน้ำที่เจิ่งอยู่ในระดับตาตุ่มเท้า
"จะว่าไป ... คุณหมอมีธุระกระไรหรือเปล่าขอรับ ถึงได้ถ่อน้ำลุยโคลนมาค่อนนครเพื่อมาพบกระผม"
"มีขอรับ ... เกรงว่าจะเป็นเรื่องด่วนเสียด้วยสิขอรับ"
"ราชนาวีไทยมีเรื่องด่วนด้วยกระนั้นหรือขอรับ" คุณชลอ คงหมายถึงคุณหมอสุวัต ซึ่งเป็นราชนาวีไทยประจำการอยู่เป็น แพทย์ประจำเรือลบหลวงหลายลำก่อนจะปลดประจำการ
"มิใช่กระผมดอกครับ ... สันติบาลไทยขอร้องกระผมให้มาบอกคุณชลอเท่านั้นเองขอรับ"
"คุณหมอคงมิได้หมายถึง ท่านสารวัตประวิพาทีกระมั้งครับ"
"ใช่แล้วครับ ... มิใช่ใครอื่นครับ"
สารวัตประวิพาทีเป็นชายแก่อ้วนลงพุงไว้หนวดดัดยาวสลวย เป็นนายสารวัตที่คุณชลอรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจบการสืบสวนจากสันติบาลอังกฤษใหม่ๆซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สารวัตท่านได้อวยยศเป็นสารวัตพอดิบพอดี
"งั้นกระผมคงต้องไปพบท่านสินะ"
คุณชลอหันหลังมองไปทางบันไดบ้าน
"นายยอด ... หนังสือที่เหลือฝากเป็นธุระที ฉันต้องออกไปทำกิจข้างนอก"
"ขอรับ ! คุณฉลู"
"เดี๋ยวข้าก็เขกกบาลให้เสียทีดอก"
............................................................................
เรือพายเข้าเทียบท่าน้ำที่ท่าเรือประตูน้ำ คุณชลอและคุณหมอสุวัตแลเห็นคนเป็นอันมากมุงดู อะไรบางอย่างในน้ำ
"คงมิใช่ตัวเงินตัวทองเป็นแน่" คุณหมอกล่าว
ทั้งสองเดินเรียบริมตลิ่งเข้ามาพบ สันติบาลหลายนายกำลังกันผู้คนมิให้เข้าใกล้ริมตลิ่งมากนัก
"กระผมชลอ โหระพา และนี่คือคุณหมอสุวัต เพื่อนของกระผม ... สารวัตเชิญกระผมมาพบครับ" คุณชลอ กล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"โอ้ สารวัตท่านรอพบ คุณทั้งสองพอดีขอรับ เชิญเลยขอรับ" สันติบาลกล่าวอย่างยิ้มแย้มแล้วจึงนำชายทั้งสองมาพบกับ สารวัตซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก
"สารวัตขอรับ ... คุณชลอกับคุณหมอสุวัตขอรับ" นายตำรวจก้มโค้งคำนับก่อนจะถอยหลังเดินกลับไป
"เป็นอย่างไรบ้าง ... คุณชลอ" สารวัตเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
"วุ่นวายเลยทีเดียวเทียว .. บ้านกระผมถูกน้ำท่วมน่ะขอรับ"
สารวัตยิ้ม
"ก็เหตุว่าบ้านฝรั่งนั้นสู้เรือนไทยมิได้ไงขอรับ คุณชลอถึงได้วุ่นวายหอบสัพเพเหระหนีน้ำกันให้จ้า" ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
"พอเถิดสารวัต ... จะให้กระไรก็ว่ามาเถิดขอรับ ... ช้านักกระผมจะลากลับเสีย จะได้มิเปลืองเวลาหากินกระผม" คุณหมอสุวัตพูดตัดบทตัดคำ .... คงเป็นเหตุด้วยว่าทหารเรือก็แรงศักดิ์ศรี สันติบาลก็แรงศักดิ์ศรี จึงมิค่อยถูกชะตากันเท่าใดนัก
สารวัตชี้ไปที่ตรงปากประตูน้ำ คุณชลอและคุณหมอจึงเพ่งพินิจดูอย่างถ่องแท้
แลเห็นเป็นศพอำแดงผู้หนึ่งติดอยู่ที่ปากประตู สภาพศพอืดอมน้ำเสียแทบจะจำต้นเค้าเดิมมิได้
"เมื่อไหร่จะมีใครไปเอาศพขึ้นมาเสียที กระผมรอมานานหลายเพลาแล้ว" สารวัตบ่นขึ้นอย่างมีโมหัน สันติบาลจึงเริ่มวิ่งแจ้นม้าถูกไฟคลอกหาง
"คดีนี้สะเทือนขวัญประชาชนพอสมควรนะขอรับ กระผมจึงต้องขอรบกวน นักสืบมีฝีมืออย่างคุณชลอขอรับ"
"อนึ่งสารวัต ... กระผมเองมิได้เป็นนักสืบ จะเป็นก็เพียงผู้ตรวจการกรมสันติบาลสยามแทนผู้มีอำนาจบางท่านเป็นบ้างครั้งครากระนั้นเอง และอีกอย่างทำไมท่านสารวัตไม่จัดการคดีด้วยตนเอง ... หรือว่าจะเป็นที่ว่าเสื้อผ้าของผู้ตายนั้นบ่งบอกว่าเป็นนางสนมนางใน จึงมิกล้านำชื่อเสียงสารวัตเข้าเสี่ยงกระนั้นฤๅ" คุณชลอจ้องหน้าสารวัตราวกับไต่ความนักโทษก็เห็นจะได้
"เฮ้อ ... กระผมกับสันติบาลเองก็มีงานยุ่งรอบด้านอยู่แล้วขอรับ ยิ่งเป็นต้นรัชกาลยังมีหลายอย่างในกรมกองที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและแก้ไข รั้งมายุ่งเกี่ยวกับชาววังชาวสนมยิ่งเป็นเรื่องที่ทำให้กระผมโดนปลดได้ไม่ยากนะขอรับ ... เห็นใจกระผมหน่อย ถือเสียว่าช่วยงานกระผมหนนึง แล้วกระผมจะตอบแทนบุญคุณทีหลังนะขอรับ"
"เรื่องบุญคุณนั้นกระผมมิถือหรอกขอรับ ... จะสักแต่เพียงว่าศพนั้นเมื่อไหร่จะขึ้นจากน้ำเสียที" คุณหมอสุวัตเอ่ยขัดคอตามนิสัย
"พวกเอ็งสองสามคนทำพระแสงอะไรกันอยู่ ถอดเสื้อผ้ากระโดดไปกู้ศพมาเดี๋ยวนี้ ... ช้านักข้าจะจับออกจากราชการเสียเดือนนึงจะได้มิต้องมีกินมีใช้กัน อู้มิ้เข้าเรื่องเชียว"
คุณชลอมองศพขณะ กำลังถูกกู้ขึ้นมา ... คดีนี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ....
...................................................................................................
สวัสดีครับ
เรื่องนี้เป็นนิยายแต่งขึ้นทั้งหมดนะครับ เป็นนิยายสืบสวนแบบเชอล็อคโฮลม์ ( ฉบับยาขอบ ) ปนงานของคุณคึกฤทธิ์ ปราโมช บางส่วนครับ ... เนื่องจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์นั้นผมเองไม่มีเวลาค้นคว้า ... ดังนั้นเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการผมเองทั้งหมดครับ ... แม้กระทั่งภาษาที่ใช้ในเรื่องก็เป็นภาษา ที่ "เสแสร้ง" ที่จะเป็นโบราณครับ ... ถ้ามีข้อบกพร่องใดๆ ก็ขอน้อมรับไว้ ณ ที่นี้ครับ .... กว่าผมจะว่างแต่งเรื่องอีกทีคงต้องรอนานกันเล็กน้อยครับ ... ตอนต่อไปลองติดตามดูนะครับ ว่า ใครคืออำแดง ที่ถูกฆ่าตาย : )
ปักษาราตรี
ในคืนที่ฝนตกกรรโชกเสียประหนึ่งเทพยดาฟ้าดินพิโรธ
น้ำปริ่มตลิ่งแม่น้ำลำคลองหนองบึงทั้งสิ้นทั่วพระนครมิเว้นแม้แต่ ณ ประตูน้ำ
หญิงสาวนางหนึ่งแต่งตัวเฉกเช่นนางสนมวิ่งฝ่าพายุเลียบริมตลิ่งดูรีบร้อนกระวนกระวาย
สีหน้าของเธอดูราวกับว่าเพิ่งพบผีมาก็มิปาน
นางหยุดหอบหายใจเอาอากาศเข้าเต็มปอดพลางมองดูซ้ายขวา แลมิเห็นผู้ใดในพระนครเหตุเพราะอุดอยู่แต่ในเรือนหลบฝน หรือไม่ก็ถูกเจ้ากระทรวงกลาโหมเกนฑ์ไปช่วยวิดน้ำในหวังหลวงที่ท่วมเจิ่งนองเป็นแน่แท้
เธอขยับเท้าพร้อมที่จะสาวก้าววิ่งต่อไป หากแต่มีลูกดอกพุ่งมาปักที่กลางหลัง ทำให้นางล้มลง
เห็นแก่ตัวกลัวแต่ตาย ...นางเอื้อมมือจับที่ลูกดอกอันบัดนี้ปักกลางหลังแล้วพยายามชักมันออกสุดแรงกำลัง
ลูกดอกหล่นลงสู่พื้นพร้อมเลือดสีแดงสดหยดผสมโคลนตม นางพยายามออกวิ่งหากแต่เรี่ยวแรงนั้นหดหายมลายเกือบสิ้น
นางล้มลุกคุกคลาน ... พยามจะหนีจากบุคคลผู้ยิงหน้าไม้ใส่อย่างมิคิดชีวิต
จะเกรงก็แต่บุคคลผู้นั้นวิ่งตามมาถึงนางเสียแล้ว
นางหันกลับไปเห็นผู้ประสงค์ร้ายชักดาบออกจากฝัก
เสียงกรีดร้องดังขึ้นปนเปกับเสียงสายอสุนีบาต
................................................................
สองวันถัดมา
"เร่งเร็วเข้าเถิด ช้านักหนังสือหนังหามิเปียกปอนป่นเปื่อยกระนั้นหรือ ?" เสียงตวาดโวยวายดังลั่นบ้านฝรั่งบุโรทั่งอันตั้งอยู่ในย่านแขกขาว
เสียงตวาดนั้นมาจากผู้ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังสั่งให้ คนรับใช้หอบหนังสือหนังหาจากชั้นล่างของบ้านขึ้นไปสู่ชั้นบน
ชายผู้นั้นแก้มตอบ ผมเริ่มปรากฏรอยแซมสีขาว อันบ่งบอกว่าเป็นช่วงประมาณสี่สิบปีได้ ร่างผอมเกร็ง หากแต่ดูน่าเกรงขาม
"ขอรับ คุณ ฉลู" คนรับใช้ขานรับ
"ฉันชื่อชลอ ... ชลอ โหระพา นายยอด ... ชลอ โหระพา"
"ขอรับ คุณฉลู เอ้ย ... ชลอ" นายยอดทั้งที่รู้แต่ก็ยังมักจะแกล้งนายท่านเสมอๆตามวิสัยทะเล้นทะลึ่งตึงตัง หากมิใช่ว่าเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์และรอบรู้มีความสามารถกอปรกับครอบครัวของโหระพานั้นเป็นนายบ่าวกับครอบครัวของนายยอดมาตั้งแต่ต้นราชวงศ์จักรีแล้วล่ะก้อ นายยอดคงถูกเขกกบาลด้วยไม้เท้าสิงห์ฟันหักของคุณชลอเป็นแม่นมั่น
"มิเขกกบาลมันทีหรือขอรับ"
ชลอหันไปพบชายตัวเตี้ยร่างกำยำแลดูหนุ่มแน่นกว่าคุณชลอราวสิบปีเห็นจะได้
"อ้าว ... คุณหมอสุวัต สวัสดีขอรับ"
"สวัสดีขอรับ คุณชลอ" คุณหมอประนมมือไหว้งามๆ
"กระผมต้องขออภัยด้วยที่บ้านกระผมรกเลอะเทอะวุ่นวายเสียเพียงนี้ ... อาจจะเปนความคิดที่ผิดกระมังที่กระผมดันซื้อบ้านฝรั่งหลังนี้แทนการปลูกเรือนไทยตามตำหรับเดิมแต่มีมา" คุณชลอหยิมหนังสือมาตั้งไว้บนโต๊ะรอนายยอดลงซึ่งยกกองหนังสือขึ้นไปชั้นบนลงมาหามต่อ
"คงมิผิดหรอกขอรับ เพราะคุณชลอเองได้ร่ำเรียนศึกษาจากอังกฤษประเทดก็นานอยู่ คงคิดติดชอบด้วยวิถีความคิดฝรั่งเป็นแม่นมั่น"
"จริงขอรับ แต่กระผมก็ยังชอบความเย็นโปร่งโล่งสบายของบ้านเรือนไทยมากกว่า โดยเฉพาะอากาศอย่างประเทดสยามนี้" ว่าแล้วคุณชลอก็ก้มลงดูน้ำที่เจิ่งอยู่ในระดับตาตุ่มเท้า
"จะว่าไป ... คุณหมอมีธุระกระไรหรือเปล่าขอรับ ถึงได้ถ่อน้ำลุยโคลนมาค่อนนครเพื่อมาพบกระผม"
"มีขอรับ ... เกรงว่าจะเป็นเรื่องด่วนเสียด้วยสิขอรับ"
"ราชนาวีไทยมีเรื่องด่วนด้วยกระนั้นหรือขอรับ" คุณชลอ คงหมายถึงคุณหมอสุวัต ซึ่งเป็นราชนาวีไทยประจำการอยู่เป็น แพทย์ประจำเรือลบหลวงหลายลำก่อนจะปลดประจำการ
"มิใช่กระผมดอกครับ ... สันติบาลไทยขอร้องกระผมให้มาบอกคุณชลอเท่านั้นเองขอรับ"
"คุณหมอคงมิได้หมายถึง ท่านสารวัตประวิพาทีกระมั้งครับ"
"ใช่แล้วครับ ... มิใช่ใครอื่นครับ"
สารวัตประวิพาทีเป็นชายแก่อ้วนลงพุงไว้หนวดดัดยาวสลวย เป็นนายสารวัตที่คุณชลอรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจบการสืบสวนจากสันติบาลอังกฤษใหม่ๆซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สารวัตท่านได้อวยยศเป็นสารวัตพอดิบพอดี
"งั้นกระผมคงต้องไปพบท่านสินะ"
คุณชลอหันหลังมองไปทางบันไดบ้าน
"นายยอด ... หนังสือที่เหลือฝากเป็นธุระที ฉันต้องออกไปทำกิจข้างนอก"
"ขอรับ ! คุณฉลู"
"เดี๋ยวข้าก็เขกกบาลให้เสียทีดอก"
............................................................................
เรือพายเข้าเทียบท่าน้ำที่ท่าเรือประตูน้ำ คุณชลอและคุณหมอสุวัตแลเห็นคนเป็นอันมากมุงดู อะไรบางอย่างในน้ำ
"คงมิใช่ตัวเงินตัวทองเป็นแน่" คุณหมอกล่าว
ทั้งสองเดินเรียบริมตลิ่งเข้ามาพบ สันติบาลหลายนายกำลังกันผู้คนมิให้เข้าใกล้ริมตลิ่งมากนัก
"กระผมชลอ โหระพา และนี่คือคุณหมอสุวัต เพื่อนของกระผม ... สารวัตเชิญกระผมมาพบครับ" คุณชลอ กล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"โอ้ สารวัตท่านรอพบ คุณทั้งสองพอดีขอรับ เชิญเลยขอรับ" สันติบาลกล่าวอย่างยิ้มแย้มแล้วจึงนำชายทั้งสองมาพบกับ สารวัตซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก
"สารวัตขอรับ ... คุณชลอกับคุณหมอสุวัตขอรับ" นายตำรวจก้มโค้งคำนับก่อนจะถอยหลังเดินกลับไป
"เป็นอย่างไรบ้าง ... คุณชลอ" สารวัตเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
"วุ่นวายเลยทีเดียวเทียว .. บ้านกระผมถูกน้ำท่วมน่ะขอรับ"
สารวัตยิ้ม
"ก็เหตุว่าบ้านฝรั่งนั้นสู้เรือนไทยมิได้ไงขอรับ คุณชลอถึงได้วุ่นวายหอบสัพเพเหระหนีน้ำกันให้จ้า" ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
"พอเถิดสารวัต ... จะให้กระไรก็ว่ามาเถิดขอรับ ... ช้านักกระผมจะลากลับเสีย จะได้มิเปลืองเวลาหากินกระผม" คุณหมอสุวัตพูดตัดบทตัดคำ .... คงเป็นเหตุด้วยว่าทหารเรือก็แรงศักดิ์ศรี สันติบาลก็แรงศักดิ์ศรี จึงมิค่อยถูกชะตากันเท่าใดนัก
สารวัตชี้ไปที่ตรงปากประตูน้ำ คุณชลอและคุณหมอจึงเพ่งพินิจดูอย่างถ่องแท้
แลเห็นเป็นศพอำแดงผู้หนึ่งติดอยู่ที่ปากประตู สภาพศพอืดอมน้ำเสียแทบจะจำต้นเค้าเดิมมิได้
"เมื่อไหร่จะมีใครไปเอาศพขึ้นมาเสียที กระผมรอมานานหลายเพลาแล้ว" สารวัตบ่นขึ้นอย่างมีโมหัน สันติบาลจึงเริ่มวิ่งแจ้นม้าถูกไฟคลอกหาง
"คดีนี้สะเทือนขวัญประชาชนพอสมควรนะขอรับ กระผมจึงต้องขอรบกวน นักสืบมีฝีมืออย่างคุณชลอขอรับ"
"อนึ่งสารวัต ... กระผมเองมิได้เป็นนักสืบ จะเป็นก็เพียงผู้ตรวจการกรมสันติบาลสยามแทนผู้มีอำนาจบางท่านเป็นบ้างครั้งครากระนั้นเอง และอีกอย่างทำไมท่านสารวัตไม่จัดการคดีด้วยตนเอง ... หรือว่าจะเป็นที่ว่าเสื้อผ้าของผู้ตายนั้นบ่งบอกว่าเป็นนางสนมนางใน จึงมิกล้านำชื่อเสียงสารวัตเข้าเสี่ยงกระนั้นฤๅ" คุณชลอจ้องหน้าสารวัตราวกับไต่ความนักโทษก็เห็นจะได้
"เฮ้อ ... กระผมกับสันติบาลเองก็มีงานยุ่งรอบด้านอยู่แล้วขอรับ ยิ่งเป็นต้นรัชกาลยังมีหลายอย่างในกรมกองที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและแก้ไข รั้งมายุ่งเกี่ยวกับชาววังชาวสนมยิ่งเป็นเรื่องที่ทำให้กระผมโดนปลดได้ไม่ยากนะขอรับ ... เห็นใจกระผมหน่อย ถือเสียว่าช่วยงานกระผมหนนึง แล้วกระผมจะตอบแทนบุญคุณทีหลังนะขอรับ"
"เรื่องบุญคุณนั้นกระผมมิถือหรอกขอรับ ... จะสักแต่เพียงว่าศพนั้นเมื่อไหร่จะขึ้นจากน้ำเสียที" คุณหมอสุวัตเอ่ยขัดคอตามนิสัย
"พวกเอ็งสองสามคนทำพระแสงอะไรกันอยู่ ถอดเสื้อผ้ากระโดดไปกู้ศพมาเดี๋ยวนี้ ... ช้านักข้าจะจับออกจากราชการเสียเดือนนึงจะได้มิต้องมีกินมีใช้กัน อู้มิ้เข้าเรื่องเชียว"
คุณชลอมองศพขณะ กำลังถูกกู้ขึ้นมา ... คดีนี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ....
...................................................................................................
สวัสดีครับ
เรื่องนี้เป็นนิยายแต่งขึ้นทั้งหมดนะครับ เป็นนิยายสืบสวนแบบเชอล็อคโฮลม์ ( ฉบับยาขอบ ) ปนงานของคุณคึกฤทธิ์ ปราโมช บางส่วนครับ ... เนื่องจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์นั้นผมเองไม่มีเวลาค้นคว้า ... ดังนั้นเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการผมเองทั้งหมดครับ ... แม้กระทั่งภาษาที่ใช้ในเรื่องก็เป็นภาษา ที่ "เสแสร้ง" ที่จะเป็นโบราณครับ ... ถ้ามีข้อบกพร่องใดๆ ก็ขอน้อมรับไว้ ณ ที่นี้ครับ .... กว่าผมจะว่างแต่งเรื่องอีกทีคงต้องรอนานกันเล็กน้อยครับ ... ตอนต่อไปลองติดตามดูนะครับ ว่า ใครคืออำแดง ที่ถูกฆ่าตาย : )
ปักษาราตรี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น