เธอผู้หมดไป - เธอผู้หมดไป นิยาย เธอผู้หมดไป : Dek-D.com - Writer

    เธอผู้หมดไป

    "จงมีชีวิตอยู่ ... จงมีชีวิตอยู่"

    ผู้เข้าชมรวม

    890

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    890

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ม.ค. 49 / 23:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ผมเปิดตู้เย็น ... หยิบน้ำหนึ่งเหยือก ... รินมันบนแก้วอย่างไม่สนแสสายน้ำ ... กระดกมันเข้าปากเพื่อดับกระหาย ... กลับมานั่งที่เก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์





      วันนี้ว่างมากครับ ... ดาว์นโหลดสารคดีมาดูเรื่องนึงครับ









      จะมีสิ่งใดในโลกที่คนอย่างเราไม่รู้บ้าง ?




      เยอะไปครับ






      เยอะเสียจนเก็บมาคิดก็ไม่ได้รู้สึกอะไรดี










      มีอะไรบ้างที่ผมเพิ่งรู้











      เ กาหลีเหนือ ... อุณหภูมิลบสิบองศา ... เด็กหญิงคนหนึ่งจุงคุณแม่เร่เข้ามารวมกับประชากรหมู่บ้านร้อยกว่าคน หลังจากได้ยินสัญญาณโทรโข่งจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล เด็กๆตื่นเต้นและสนใจมากว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

      เธอยื่นหน้าแหวกฝูงชนออกไปดู .... เห็นพ่อของเธอถูกมัดอยู่กับเสาไม้

      แม่ของเธอซึ่งแหวกฝูงชนสำเร็จเห็นภาพเดียวกับที่เธอเห็น


      " เราไม่นำท่านมากล่าวอ้างเด็ดขาด ... ท่านเป็นผู้มีคุณธรรมและ จรรโลงให้เราได้มีความสุขเสมอมา ... ใครก็ตามที่คิดไม่ดีต่อท่าน ... เราจะให้เค้ามีชีวิตอยู่ต่อไปหรือ ?"


      เสียงก่นด่าเซ็งแซ่กึกก้องบริเวณ ... ชาวบ้านร้อยกว่าคนหยิบก้อนหินก้อนกรวดปาใส่พ่อของเธอจนฟกช้ำไปทั่วร่างกาย


      สัญญาณตะโกนดังกึกก้องหุบเขาหิมะซึ่งห้อมล้อมหมู่บ้านคอมมูน ทหารสามคนตรงหน้าคุณพ่อยกปืนไรเฟิลขึ้นประทับบ่า


      แม่ของเธอวิ่งออกไปห้ามแต่ถูกทหารสองคนยึดแขนไว้ไม่ให้ขยับตัวได้


      "ยิง !"




      เสียงปืนดังขึ้นตรุด ตุด ตุด



      ร่างของบิดาเด็กน้อยร่วงลงสู่พื้น


      "ยิง !"


      ตรุด ตุด ตุด


      เลือดคั่งออกมาจากร่างอันผอมแห้งไม่มีแม้แต่แรงจะเดิน


      "ยิง !"


      ตรุด ตุด ตุด


      หัวของเค้าแหลกละเอียดชุ่มโชกไปด้วยเลือด







      เสียงปรบมือดังกึกก้องราวกับว่าเทศกาลแห่งความสุขจบลงอย่างสดุดี






      แม่ของเธอถูกลากเข้าไปในบ้านพักทหารใกล้เคียง .... เธอพยายามอย่างสิ้นสุดกำลังอันน้อยนิดที่จะร้องเรียกลูกน้อยของเธอ




      แม่ของเธอไม่ได้เรียกชื่อเรียกอะไรทั้งสิ้น




      เธอเพียงแค่ย้ำเตือนคำสอนสุดท้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า





      "จงมีชีวิตอยู่ต่อไป ..... จงมีชีวิตอยู่ต่อไป"








      หลายสิบปีให้หลัง เธอโตขึ้นมาแก่กล้า แก้มตอบ ... แขนขาแม้ซูบผอมแต่ก็มีกล้ามเนื้อซึ่งบริบูรณ์จากการทำงานอย่างโชกโชน



      กลางค่ำคืนพระจันทร์เสี้ยวบางๆ ... ชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ



      เธอยืนอยู่ในแม่น้ำที่แข็งปานห้องแช่แข็งของโรงครัวทหาร





      น้ำไหลเชี่ยวกรากในระดับอกของเธอ ผมเปียสองข้างนั้นลอยลู่ไปกับกระแสน้ำ





      ในเงามืดนั้นมีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากพุ่มไม้ลงมาในน้ำ .... ยื่นกล้องวิดิโอ และบุหรี่สองกล่อง




      "เราจะออกไปด้วยกันหลังจากนี้ ... ฉันสัญญา" ชายคนนั้นกล่าว ... เสียงแผ่วเบาดั่งเสียงใบไม้ลู่ลม



      "ฉัน รัก เธอ" หญิงสาวสวมกอดชายคนนั้น



      "เราจะแต่งงานกันนะ .... รีบทำงานให้เสร็จแล้วมาอยู่ด้วยกัน" ชายหนุ่มผลักหญิงคนนั้นออกไปแล้วสาวเท้าข้ามแม่น้ำ










      เสียงตะโกนภาษาจีนดังขึ้นทางอีกฝั่งของแม่น้ำ .... มีเสียงวิ่งซอกแซกๆเป็นเวลาหลายนาที ก่อนจะจบลงที่เสียงปืนดังอุตลุต



      และความเงียบก็เข้าปกคลุม






      เธอหลับตาลงเป็นการไว้อาลัยคนที่เธอรักคนสุดท้าย ...








      เ ธอเดินกระหย่องกระแหย่งกลับมาขึ้นฝั่ง ... นำบุหรี่สองกล่องมอบให้นายทหารตระเวนชายแดนเป็น ค่าสินบน และเริ่มออกเดินทางทั่วเกาหลีเหนือ






      ภาพเด็กชายที่พยายามขโมยกระเป๋าเงินจากป้าคนหนึ่งแต่ถูกจับได้และโดนทำโทษโดยการทำร้ายร่างกาย

      ภาพทหารลากชายต้องสงสัยขึ้นรถทหาร

      ภาพคนนอนตายทั่วเมืองซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตในเมือง

      ภาพคนก้มลงเก็บเศษเมล็ดพืชที่ร่วงลงมาจากช่องไม้ในขบวนรถไฟขนสินค้าที่จอดเทียบชานชลา

      ภาพของกลุ่มต่อต้านท่านผู้นำประเทศติดโปสเตอร์ด่าทอรัฐบาลเผด็จการ







      เธอบันทึกมันไว้หมดราวกับวิดิโอม้วนนั้นคือความทรงจำของเธอเองก็มิปาน






      เธอนั่งรถไฟเที่ยวสุดท้ายไปที่พรมแดนอีกครั้ง .... พร้อมที่จะนำวิดิโอเทปออกไปเผยแพร่ให้โลกได้รับรู้







      เที่ยงคืน .... มีคนมารอเธอ ณ ที่แห่งเดิมกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก



      หิมะตกปรอยพร้อมหมอกที่หนาแน่น





      หญิงสาวก้าวเดินไปข้างหน้า ... ใจของเธอนั้นอยู่ในประเทศจีน ... มือของเธอกุมกระเป๋าใส่กล้องวิดิโอไว้แน่น







      ร่างของชายสามสี่คนปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอ ... และเห็นชัดขึ้นเมื่อชายทั้งสามคนเดินมาใกล้เธอมากขึ้น



      พวกเขาเหล่านั้นเป็นทหารพิเศษของเกาหลีเหนือ




      ทหารพากันมาสมทบเรื่อยๆ หิมะเบาบางลงพร้อมกับหมอกที่ค่อยๆจางหายไป






      ในที่สุดเธอก็ค้นพบว่ามีทหารสามสิบคนล้อมรอบเธออยู่





      เธอปล่อยกระเป๋าลงจากมือ ยืนทื่อๆไม่มีความรู้สึกใด






      นายทหารยิ้มย่องเหมือนกับสุนัขได้กระดูกชิ้นใหม่





      ใ นราตรีนั้นเธอถูกเปลื้องผ้าในอุณหภูมิลบสิบองศา ถูกชำเราโดยทหารสามสิบคน ก่อนที่จะจบลงด้วยการจ่อยิงศรีษะจนเลือดและสมองเจิ่งนองตัดสีหิมะอันขาวสะอา ด


      ยังไม่พอหรอกครับ .... นายทหารคนหนึ่งนำกล้องวิดิโอออกมาจากกระเป๋าของเธอ ... บันทึกภาพการชำเราหมู่ที่ทารุณและโหดร้ายที่สุดนับแต่มีมนุษย์ชาติขึ้นมาลงบ นกล้องวิดิโอ


      เธอถูกตบ ถูกจิกผม ถูกกรีดด้วยดาบปลายปืน ถูกทุบด้วยส้นรองเท้าบูททหาร ถูกพานท้ายปืนตีแสกหน้า หิมะหนาวสะท้านกัดกร่อนร่างของเธอจนเป็นแผลเลือดซืมไหลอยู่ทุกอณูของรูขุมขน เลือดไหลจนกระทั่งกลายเป็นเพียงน้ำหนองเหลืองใสไหลออกมาจากผิวหนัง




      ไ ม่มีความรู้สึกใดๆ ออกมาจากสีหน้าของหญิงสาว ... มีเพียงแต่เลือดสีแดงสดที่ไหลออกมา เพื่อย้ำเตือนหล่อนว่ายังมีชีวิตและลมหายใจอยู่จนกระทั่ววินาทีที่เสียงปืนด ังขึ้น ... มีเพียงเสียงของแม่เธอที่ก้องอยู่ในหัว





      "จงมีชีวิตอยู่ต่อไป ... จงมีชีวิตอยู่ต่อไป"






      ปัง! ... ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!ๆๆๆๆๆๆๆ......










      ในเวลาต่อมาไม่นานนัก...ชายที่กำลังรอหญิงสาว ก็พบกับกระเป๋าของหล่อนลอยตามกระแสน้ำมา






      มันอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เจ้าหล่อนสามารถทำได้ ... ถึงแม้ลมหายใจของเจ้าหล่อนจะหมดแล้ว





      ชายคนนั้นหยิบกระเป๋าแล้วกลับไปที่รถของตน







      ระหว่างทาง ... ชายคนนั้นหยิบเอากล้องวิดิโอมาเปิดดู









      ดูว่าข้างในเกาหลีเหนือ .... มีสาวน้อยคนหนึ่งซึ่งก็เป็นหนึ่งในสองล้านคนที่ต้องตายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา














      แล้วเรื่องก็ผ่านไปเป็นตัวอักษรครับ .... อย่างที่ผมว่าไงครับ .... เหมือนเสียงลมพัดใบไม้หวิว











      แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเสียแต่อย่างใด








      ผ มเดินไปเปิดตู้เย็น .... หยิบเหยือกน้ำออกมา ... บรรจงรินมันลงบนแก้ว ... ค่อยดื่มด่ำกับน้ำอันใสสะอาดและบริสุทธ์ .... เพราะว่าคนอย่างหล่อนคงไม่เคยได้ดื่มน้ำที่ชุ่มช่ำขนาดนี้ก็เป็นได้





      ชีวิตเราไม่ได้ดีขึ้นหรอกครับเมื่อเราได้รับรู้






      ชีวิตเรามันดีอยู่แล้วต่างหาก..................

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×