ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หลืบ รัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #3 : ปักษ์ระทม

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 46


    มันคือวันที่สิบห้า





    ผมไม่อยากออกไปเลย .... มันเป็นคืนที่คนหลายๆคนที่ทำงานขายหาบเร่แผงลอยร้านอาหารริมทางที่ซอยสี่อย่างผมต้องกล้ำกลืนฝืนใจ





    ทุกๆวันที่หนึ่งและสิบห้าของทุกเดือนเป็นวันที่พวกเค้ามาหาเรา



    เฉลี่ยสิบห้าวัน





    พันบาทต่อสิบห้าวัน







    พวกมันมาหาผมเป็นประจำ มายืนหน้าร้าน .... สบตา



    ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมาย แต่ผมรู้ว่าผมต้องจ่าย



    เค้าเรียกมันว่าค่าคุ้มครอง







    ถ้าจะว่าไป ....ก็เป็นค่าคุ้มครองกะลาหัวมันจากความจน





    มันมีกันห้าคน





    ไอ้พี่ใหญ่ในกลุ่มมันน่ะตัวเท่าลูกหมา    แต่เพราะมันเอาปืนเหน็บเอวไว้.....ถึงไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง











    ผมขายโจกอยู่ริมทาง ...... ผมมีลูกค้าไม่มาก

    ผมมีลูก ..... มีเมีย  มีค่าบ้านที่ต้องผ่อน







    คุณคิดว่าเงินที่หายไปสองพันต่อเดือนนี้มันสำคัญกับผมมากไม๊





    ผมจะบอกให้ ..... มันไม่สำคัญหรอกครับ

    แต่ที่มันสำคัญน่ะ คือความกลัว







    ผมเคยเห็นคนโดนรุมซ้อมทุบตีจนดิ้นทุรนทุรายอยู่ข้างทาง

    เลือดสดๆไหลออกมาแดงฉาน....ฉาบด้วยแสงทอพระจันทร์เต็มดวง





    มันก่อให้เกิดความกลัว

    กลัวว่าซักวันนึงผมจะเป็นเช่นนี้บ้าง







    ตำรวจ





    มีคนมาเสนอความคิดนี้ให้ผมหลายเที่ยวที่เดียว

    พวกมันบอกว่ามันมีเส้นกับ ผู้กำกับสถานีนี้....ไม่มีใครหน้าไหนจะแจ้งตำรวจได้







    เสียงขู่ของพวกมันดังเหมือนเสียงขู่ฟ่อของงูพิษ  แหบแห้งแต่ร้ายกาจ



    เรายังโดนขู่อีกว่าหากแม้คิดจะหนีจากถิ่นนี้ล่ะก็ ..... อาจจะไม่ได้ออกไปในสภาพสมบูรณ์แน่

    เราจึงยังไม่กล้าออกไปทำงานที่ไหน..... กลัวมันมาจองล้างจองผลาญ



    วันที่สิบห้า





    ผมขายโจ๊กต่อไปตามปกติ .... มีลูกค้าโต๊ะเดียว



    ซึ่งก็คือพวกมันนั่นเอง





    ไอ้หัวหน้ามันเดินมาหาผม

    ผมไม่รู้ว่าคนสมัยนี้ยังมีคนไว้เคราอย่างดารา หนังบู๊สมัยก่อนอยู่อีก

    ดูคล้ายดาม ดัสกรในอายุ 30ก็เป็นได้







    มันมาที่ผมเอ่ยสั้นๆกระชับๆ \"เงินล่ะ\"





    \"วันนี้ยังไม่มีลูกค้าเลย ...ไปเก็บที่อื่นก่อนแล้วค่อยกลับมา\"







    \"อย่างนี้แปลว่าไม่มีเงินจ่ายน่ะสิ .... จำได้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับไอ้เฮ้งเวลามันไม่มีเงิน\"





    เด็กของมันเดินมาสมทบกับพี่ใหญ่



    แล้วมันก็กระทำการอัปปรีย์





    ลูกน้องมันล้มรถเข็นโจ๊กของผม ..... โจ๊กทีผมทำไหลไปตามพื้นถนนไปจนมาถึงขาผม



    ผมโมโห จะเข้าไปชกหน้ามันหากแต่มันไม่โชว์ปืนขึ้นมาก่อนล่ะก็....









    ผมยืนนิ่ง แต่ตัวสั่นเทาด้วยความโมโหโทโสโทสะแล่นพล่านทั่วร่างกาย







    มันหันไปทางไอ้เฮ้ง ....ซึ่งตอนนี้มุดหัวอยู่ในแผงขายแผ่นเพลงเถื่อนของมัน





    \"แล้วมึงล่ะ .....เฮ้ง\"





    เสียงอ้อนวอนเริ่มขึ้น



    \"เฮียปล่อยผมไปเถอะวันนี้ ....ผมยังไม่มีเงินมาใช้เฮีย ......ค่าข้าวผมยังไม่มีเลย ....เฮียอย่า  โอ๊ย\"





    ภาพเดียวกันที่ติดตาผมสิบห้าวันก่อนก็กลับมาใหม่

    เหมือนวีดีโอที่กรอกลับแล้วเล่นใหม่





    เพียงแต่









    \"มึงอย่าทำอะไรไอ้เฮ้งมันมากได้ไม๊......มันไม่มีตังค์ก็ปล่อยมันหน่อยสิ\"  น้อย แผงลอยเสื้อผ้าถัดไปแย้งขึ้น





    \"ปากดีเหรอนังน้อย ..... เดี๋ยวลากกลับบ้านไปด้วยกันซะเลยคืนนี้\"



    \"ไอ้เลว ....เลิกยุ่งกับแผงลอยพวกกูได้แล้ว ....\"



    ว่าแล้วหลังฝ่ามือก็ฟาดลงบนใบหน้าสวยงามของน้อย

    น้อยล้มลง .... ถูกเตะซ้ำอีกหลายหนจนนอนแผ่เหมือนโจ๊กที่ผมทำ





    ผมต้องทำอะไรซักอย่าง ..... ขนาดผู้หญิงมันยังไม่เว้น

    เอ๊า .....เอาไงเอากัน .......ไปฟ้องตำรวจก็ได้ ....อย่างน้อยก็ต้องมีจ่าดีๆซักคนที่ช่วยเราได้





    ว่าแล้วผมก็ออกวิ่ง







    สถานีตำรวจอยู่สามซอยถัดไป เลี้ยวซ้าย







    มันรู้แล้วว่าผมกำลังเริ่มต้นออกวิ่ง ..... มันเริ่มย่ำฝีเท้าหมายเข้ามาหยุดผม



    ผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปที่สถานีตำรวจ ....... มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ





    เรื่อยๆ



    เรื่อยๆ



    เรื่อยๆ







    แล้วก็หยุด







    ผม ณ บัดนี้ยืนอยู่ในสถานีตำรวจแล้ว ..... มันจะเข้ามาต้อยผมก็ได้

    มันมองผม พูดขึ้น \"ผู้กำกับเค้ารู้จักกูเว้ย ....เดี๋ยวมึงก็เสร็จกูไอ้ก้าง\"





    ผมมองหน้ามัน ...... มันอาจจะไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้





    ผมเดินขึ้นโรงพักไป  เข้าแจ้งความ







    สิบห้านาทีต่อมาน้อยและไอ้เฮ้งถูกหามส่งโรงพยาบาล ...... ม้ามไอ้เฮ้งแตก  น้อยแค่ฟกช้ำ



    ส่วนไอ้ห้าตัวนั่นถูกจับ ..... ผู้กำกับบอกว่าเค้าไม่รู้จักไอ้ห้าคนนี้มาก่อนเลย





    รู้งี้ผมน่าจะมาฟ้องตั้งแต่วันแรกแล้ว





    ไอ้ห้าตัวนั้นโดนข้อหา ทำร้ายร่างกาย รีดไถ พกปืน(ที่ไม่มีกระสุน)โดยไมมีใบอณุญาติ  ฯลฯ

    ดีไม่ดีโดนยึดทรัพย์ในข้อหาซ่องโจร











    กลับไปที่ร้านโจ๊กของผม



    ผมตั้งรถขึ้น.....เข็นกลับบ้าน

    วันนี้ผมคงไม่ได้กำไรขายโจ๊ก











    แต่ผมก็ได้กำไรชีวิตที่กำจัดคนเลวๆได้อีกหลายคน.............
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×