ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มนต์รักเสน่ห์จันทร์

    ลำดับตอนที่ #1 : ตามหาจันทร์หอม

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 53


    ตอนที่ 1
     

    ตามหาจันทร์หอม

     

                    จันทร์หอม  จันทร์หอมเอ๊ย   เสียงผู้หญิงวัยกลางคน  ร้องเรียกเสียงดัง  เสียงนั้นเริ่มชัดเจนขึ้น  ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ  จันทร์หอมพร้อมลูกสาวชะเง้อมองไปตามเสียง  เห็นผู้หญิงวัยกลางคนสองคนท่าทางรีบร้อน 

    เนี่ยเจอตัวก็ดีแล้วตามหายากจริงแม่คุณ  พอดีฉันพาคุณหญิงทับทิมมาตามหาหล่อนน่ะ

      พอสิ้นเสียงพูดเท่านั้น  จันทร์หอมพินิจดูผู้หญิงวัยกลางคนแต่งตัวดี  ดูหน้าตา อวบอิ่ม    น่าเกรงขาม        รีบก้มลงกราบแทบเท้า  พร้อมกับบอกให้ลูกสาวคนเดียวกราบลงพร้อมกัน

    ชมพู่  กราบคุณหญิงย่าสิลูก

      เด็กสาวชมพู่  ทำหน้าตาสงสัย  แต่ก็ก้มลงกราบแทบเท้าคุณหญิงทับทิม  ด้วยความเต็มใจ 

    หล่อนมีลูกสาวคนเดียวรึไง  ได้ยินว่ามีลูกชายอีกสองคนมิใช่รึ  คุณหญิงทับทิมไตร่ถาม

    เอ่อมีลูกชายอีก 2  คน ค่ะ คนหนึ่งไปทำงานเรียนต่อที่กรุงเทพ 

    และอีกคนหนึ่งก็ไปกับคุณพ่อเขาเจ้าค่ะ

    นี่คือลูกสาวคนเดียวของดิฉันชื่อชมพู่เจ้าค่ะ

    เพื่อน ๆ เค้าเรียกหนูว่าชมพู่แก้มแหม่มค่ะ  ชมพู่รีบพูดขึ้นทันที

      เด็กหญิงชมพู่เอ่ยพูดบอกคุณหญิงทับทิม  เอ่อแนะหน้าตาดูคมขำ  น่ารักน่าชัง 

    แล้วยังกล้าพูด     น่าเอ็นดูเหมือนกันนะ

    คุณหญิงค่ะอย่าชักช้าเลยค่ะ  เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน  นมกลิ่นเอ่ยขึ้น

    เราต้องเดินทางกลับบางกอกใช้เวลานานเหมือนกันเจ้าค่ะ

    เออนี่ฉันลืมแนะนำนมกลิ่น เป็นคนรับใช้เก่าแก่ที่บ้าน  หัสดีดิลก  ของฉันเอง

    จันทร์หอม  และลูกสาวก้มกราบนมกลิ่นหลังจากที่คุณหญิงแนะนำ 

    เอ๊ยไม่ต้องกราบไม่ต้องไหว้กันหรอก

    เดี๋ยวก็เข้าไปอยู่ด้วยกันแล้ว  แต่ยังไงก็ต้องปฏิบัติตัวดี ๆ  หละ

    ฉันเห็นคุณหญิงคิดตริตรองตั้งนานกว่าจะมารับหล่อนกับลูก

     แล้วตกลงจะไปกลับท่านรึเปล่า

    ถ้าไปก็รีบไปจัดข้าวของซะ  ชักช้าอยู่ได้ 

    จากบางกอก  มาอีสานนี่ไกลโขเหมือนกันนะ

    หมู่บ้านที่เธออยู่นี่ก็กันดารด้วย

    ไปเจ้าค่ะ  ไปเจ้าค่ะ 

    คุณหญิงท่านอุตส่าห์มารับด้วยตนเอง  ยังไงก็คงต้องไป

    ไปลูกชมพู่เราไปเก็บของกัน

    ไปอยู่บ้าน หัสดีดิลก  รับใช้คุณหญิงย่าทับทิมกัน

    แม่ค่ะบ้านเราก็มี

    ทำไมต้องไปรับใช้เค้าด้วยค่ะ

    เราก็มีอยู่มีกิน  มีความสุขดีนี่ค่ะแม่

    ทำไมต้องไปพึ่งคนอื่นด้วย

    เออน่าลูก  เชื่อแม่นะชมพู่

    แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูก

    ลูกชอบเรียนหนังสือไม่ใช่เหรอ

    ใช่ค่ะ  ทำไมค่ะแม่

    แม่จะพาลูกไปเรียนโรงเรียนดี ๆ  มีเพื่อนเยอะด้วย

    เหรอค่ะ  ยั่งงั้นชมพู่ก็จะไปค่ะ

    ชมพู่จะได้ไปเรียนที่บางกอกใช่มั๊ยค่ะ

    เค้าบอกว่าบางกอกทันสมัย

    ชมพู่ก็อยากเห็นเหมือนกัน

    รู้ดีไปทุกเรื่องเลยนะ

    ไม่หรอกค่ะ  คุณครูเหล่าให้ฟังค่ะ

    จันทรห์หอม และชมพู่คุยกัน  พลางจัดข้าวของ

    นี่แม่จันทร์หอม  เสร็จรึยัง  รอนานแล้วนะ

    นมกลิ่นร้องเตือนจันทร์หอม และชมพู่ให้เร่งจัดข้าวของ

                    เนี่ยดีนะนมกลิ่นที่ฉันตัดสินใจมารับแม่จันทร์หอม

      เพราะดูสภาพจากแล้วก็น่าสงสารเหมือนกันนะ

    ผู้หญิงคนเดียวอยู่กับลูกสาวตัวเล็ก

    กำลังจะโตเป็นสาว

    บ้านก็หลังเล็กทางเข้าก็เปลี่ยวน่ากลัวพิรึก

    ก็คนมันไม่ค่อยมีก็ลำบากอย่างนี้แหละค่ะคุณหญิง

     เค้าก็คงอยู่ไปตามสภาพน่ะเจ้าค่ะ

    ยังไงฉันก็ขอภาวนาว่าขอให้การตัดสินใจของฉันครั้งนี้มันถูกต้องด้วยเถิด

    เพราะจากที่ฟังเรื่องของจันทร์หอมมาฉันก็ยังรู้สึกกังวลเหมือนกัน

    ว่าแต่คุณหญิงไม่กลัวจริง ๆ หรือเจ้าค่ะ

    แน่ใจแล้วนะเจ้าค่ะ

    ว่าจะรับแม่จันทร์หอมกับลูกสาวเข้าไปอยู่บ้านกับคุณหญิง

    ฉันก็ว่าจันทร์หอมเค้าก็ดูหน้าตาดี  ดูซื่อ ๆ

    อัธยาศัยดี  มีมารยาท เจียมเนื้อเจียมตัว

    สมกับที่มีเชื้อสายเจ้าเมืองเก่านะ

    แต่เรื่องนั้นเราก็คงต้องคอยดูกันอีกทีว่าจะจริงหรือไม่

                    มันอาจจะเป็นเพียงคำกล่าวหาก็ได้

                    กล่าวหาอะไรค่ะ  คุณนาย

                    ช่างเถอะ ๆ 

                    อ้าวเสร็จรึยังแม่จันทร์หอม

                    เสร็จแล้วเจ้าค่ะ  เสร็จแล้ว

                    ไปกันได้แล้วปะแม่ชมพู่แก้มแหม่ม

                    แม่ค่ะ  ชมพู่ยังไม่ได้ลาเพื่อน ๆ กับคุณครูอ้อย  เลย

                    ไม่ต้องลงต้องลาแล้วลูก  ไม่มีเวลาแล้ว  คุณย่ารออยู่เห็นมั๊ย

                    แล้วทั้งสี่คนก็มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร  เพื่อไปเพื่อมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หัสดีดิลก  ของคุณหญิงทับทิม

                    เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านสูงตะง่าน  ประตูรั้วอัลลอยด์ทองคำ  ประตูเปิดออกเผยให้เห็นคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่  สวยงาม  โอ่อ่า  ทำให้จันทร์หอม และลูกรู้สึกเกรงกลัว  และตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก 

                    โอ้โหแม่  ทำไมบ้านคุณย่าหลังใหญ่จังเลย

    เห็นมั๊ยลูกคุณหญิงย่าเมตตาเราแค่ไหน

    ชมพู่ต้องไม่ดื้อ

    ต้องเชื่อฟังแม่  และกตัญญูรู้คุณท่านนะลูก

      จันทร์หอมกระซิบสั่งสอนลูก  คุณหญิงเหลือบมองดูด้วยสายตานิ่งเฉย

                    มาแล้ว  มาแล้ว

      คนรับใช้ในบ้านต่างตื่นเต้น  และเฝ้ารอดูว่าคุณหญิงทับทิมไปรับสมาชิกใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน  แอบเฝ้าดู  และซุบซิบกัน  เมื่อเข้ามาในคฤหาสน์  คุณหญิงพาจันท์หอม  และชมพู่  มาแนะนำให้สมาชิกในบ้านหัสดินได้รับทราบ 

    เป็นยังไงบ้างคุณหญิง

    ได้ยินว่าไปรับคนเข้ามาอยู่ในบ้าน 

    เหนื่อยค่ะคุณพี่  อยู่ไกล  อากาศก็ร้อน

    บอกแล้วให้ผมพาไปก็ไม่เชื่อ

    ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่

    เห็นคุณพี่งานยุ่ง  ดิฉันไม่อยากรบกวนค่ะ

    อีกอย่างฉันก็กะว่าจะรีบไปรีบกลับอยู่แล้ว

    ว้ายคุณแม่ค่ะไปรับคนจรจัดที่ไหนเข้ามาในบ้านค่ะเนี่ย

    อย่าบอกนะค่ะว่าไปรับแม่จันทร์หงจันทร์หอมอะไรนั่น

    อ้าวหญิงพิมพ์นี่แต่งตัวจะไปไหนอีกแล้วค่ำมืดแล้วนะลูก

    เมื่อไหร่จะเลิกเที่ยวกลางคืนซะทีนะ

    เป็นผู้หญิง  ดูไม่ดีเลยนะลูก

    คุณแม่ !  ทำไมต้องดุหญิงทุกทีเลยนะ

    นั่งอยู่ก่อนเดี๋ยวแม่จะแนะนำให้รู้จัก คนรับใช้คนใหม่

      เมื่อได้ยินดังนั้นชมพู่รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดว่า คนรับใช้ 

    หนูกับแม่ไม่ได้มาเป็นคนรับใช้นะค่ะ 

     ชมพูดขึ้นด้วยสายตาแข็งกร้าว 

    เพราะว่าเราไม่ได้ตั้งใจมาอยู่ที่นี่  แต่คุณย่าไปรับเรามาเองนะเจ้าค่ะ

    เรามาเป็นแค่ผู้อาศัยชั่วคราว เท่านั้นแหละ  ไม่ได้อยากอยู่นักหรอก

    ชมพู่  จันทร์หอมรีบเอามือปิดปากชมพู่

    หยุดพูดเดี๋ยวนี้  จันทร์หอมกระซิบข้างหนู

    ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรานะลูก  จำไว้

    ว๊าย  คุณแม่ดูมันซิค่ะ  ขนาดมันยังไม่มาอยู่เลย  มันยังต่อล้อต่อเถียงขนาดนี้

    หญิงรับไม่ได้ค่ะ  คุณแม่ขา

    หญิงพิมพ์ส่งเสียงกรี๊ด  ไม่พอใจ

    หญิงพิมพ์  หยุดเดี๋ยวนี้นะ  เอ๊ะทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลอย่างนี้

     ต๊ายคุณแม่ไอ้เด็กแก่แดดเนี่ยมันเป็นใครค่ะ

    มันกล้ามาต่อปากต่อคำกับคุณแม่  กับหญิงพิมพ์ยังงี้ได้ยังไงค่ะ

    โอ๊ยช่างเถอะหญิงพิมพ์ชมพู่ยังเด็ก

    อย่าไปถือสาเลย

    เชอะ  เด็กแก่แดดหละไม่ว่า  หญิงพิมพ์พูดเสียงดัง และมองไปที่ชมพู่

    ชมพู่  และหญิงพิมพ์มองหน้ากัน  สายตาไม่ลดหละ

    คนในบ้านเริ่มรู้สึกว่า  สงครามเย็นกำลังจะเกิดขึ้นในบ้าน  หัสดีดิลก  แล้ว

    หญิงพิมพ์ไม่ยอมนะค่ะ เด็กอะไรไม่มีมารยาท

    ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง  แหมมันน่าตีจริง ๆ

    โอ๊ย ๆ  อย่าถือสาแกเลยนะค่ะ

    ดิฉันต้องขอโทษแทนแกด้วยเจ้าค่ะ

    ดิฉันมัวแต่ไปขายของ

    ไม่ค่อยได้อบรมด้านมารยาทมากนัก

    แม่จันทร์หอมนี่ก็เหมือนกัน

     มาอาศัยอยู่นี่ระมัดระวังด้วยหละ

    อย่ามาเผล่นพล่านในบ้านก็แล้วกัน แขกเหรื่อเข้าออกกันบ่อย ๆ

    หญิงพิมพ์ไม่ชอบให้เค้าเข้ามาวุ่นวายในบ้านนะเจ้าค่ะคุณหญิงแม่

    ไอ้พวกชั้นต่ำ ไม่มีตระกูลเนี่ย

    เหม็นสาบคนจนจริง ๆ

     หญิงพิมพ์พอแล้ว ๆ ไม่ต้องพูดแล้ว

    แม่จันทร์หอมเนี่ยเค้าก็เป็นคนมีดีมีสกุลนะลูก

    สกุลไหนค่ะ  พิมพ์ไม่เคยได้ยิน  สกุลบ้านนอกน่ะสิ

    หญิงพิมพ์หัวเราะพอใจ

     แม้ว่าเค้าจะอยู่ในชนบท

    แต่พ่อของเค้าก็มีบุญคุณต่อท่านตาของเรานะลูก

    บุญคงบุญคุณอะไรค่ะ

    ก็แค่เป็นลูกน้องวิ่งรับกระสุนแทนเจ้านายก็ถูกต้องแล้วนิค่ะ

    เป็นหน้าที่ที่ลูกน้องต้องปกป้องเจ้านายเสมอ

    คุณตาออกไปตรวจราชการในพื้นที่ห่างไกลเหนื่อยยากสร้างประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองมากมาย

    ก็แค่ลูกน้อง  จะสำคัญอะไร๊

    เอาเป็นว่าสำคัญก็แล้วกัน

    ลูกยังไม่เคยเข้าไปทำงานในองค์กรอย่างจริงจัง

    มัวแต่เที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆ ยังไม่รู้ความสำคัญของงานหรอก

    นี่คุณแม่ปกป้องพวกมันเหรอค่ะไม่ได้ปกป้อง

    แต่แม่เล่าเรื่องจริงให้ฟังก็เท่านั้นเอง

    แม่ต้องการบอกให้ทราบว่าทำไมต้องรับเค้าเข้ามาอยู่ที่นี่

    เอ้ายังไงอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

    เดี๋ยวแม่ขอแนะนำสมาชิกในบ้านให้เค้ารู้จักก่อนนะ

    นี่ ท่านเทพบุตร  เป็นผู้พิพากษา อาวุโส  สามีฉันเอง

    และนี่ พิมพ์ใจลูกสาวคนเล็กของฉัน ส่วนลูกชายอีกสองคนไม่อยู่

    ชายใหญ่ชื่อ ทรงพล

    คงออกไปเที่ยวเตร่อยู่แถวนี้กระมัง

    ส่วนชายรองชื่อ ทรงชัย ไปเป็นนักวิทยาศาสตร์

    ทำงานประจำอยู่ที่ประเทศอเมริกา

    ชายรองเค้าไม่ค่อยจะได้กลับมาที่บ้านนักหรอก

    งานยุ่ง  นานๆ  ถึงกลับมาที

    ถ้าเค้ากลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะแนะนำให้รู้จักอีกทีนะ  แต่ก็คงนานเหมือนกัน

    ท่านเทพ  และหญิงพิมพ์  นี่แม่จันทร์หอม  และลูกสาวคนเล็กของเขา

    ลูกสาวจันทร์หอม  ชื่อ ประกายดาว ชื่อเล่น ชมพู่  ขอแนะนำเป็นทางการแล้วกันนะ

    ไหน ๆ ก็จะได้เข้ามาอยู่ภายในอาณาเขตบ้านเดียวกันแล้ว

    แล้วคุณแม่จะให้พวกนี้ไปอยู่ตรงไหนหละค่ะ

    ลูกไม่เห็นมีที่ว่างภายในอาณาเขตบ้านของเรา

    หญิงพิมพ์ยิ่งไม่ชอบพวกคนแปลกหน้าอยู่ด้วย

    คนเราสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ

    แม่จะให้เขาไปอยู่เรือนหลังเล็กที่ติดกับประตูรั้วข้างกำแพงบ้านเราน่ะลูก

    ตรงที่มีประตูเล็กเปิดทะลุที่อีกผืนหนึ่งของเรานั่นแหละ

    อ๋อไอ้บ้านเรือนไทยร้าง ของคุณตาคุณยายน่ะเหรอค่ะ

    ก็ดีค่ะ  คุณตาจะได้รับรูว่าเราช่วยพวกมันแล้ว

    ให้รู้เรื่องรู้ราวกันไปซะที

    ไม่ต้องให้มาวุ่นวายภายในเขตนี้นะค่ะ

    จ๊ะแม่ก็ไม่ได้พิศวาสอะไรเค้านักหรอก

    แม่ก็ทำตามที่ท่านตาได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ก่อนท่านจากเราไป

    อย่าลืมสิลูก  ผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ที่เราอาศัยอยู่นี่ก็เป็นของท่านตาทั้งนั้น

    ท่านตาท่านยายมีบุญคุณกับเรามากนะลูก

    และท่านตาได้เขียนจดหมายทิ้งไว้  ให้แม่คอยติดตามช่วยเหลือคนเหล่านี้

    คุณแม่ก็ไม่ต้องทำตามท่านตาก็ได้นี่ค่ะ

    ไม่เห็นจำเป็นเลยค่ะ

    หญิงพิมพ์ต้องเข้าใจแม่นะลูก  คิดซะว่าให้แม่ทำอะไรตอบแทนท่านตาซักครั้ง

    เพราตอนที่ท่านตาเสีย  แม่ไปเรียนต่างประเทศ  ก็ไม่ทันได้กลับมาดูใจท่าน

    แม่ยังเสียใจมาถึงทุกวันนี้

     ท่านตาก็เสียไปตั้งนานหลายปีแล้ว

    เออน่าหญิงพิมพ์

    เอาพวกเค้าเข้ามาก็ไม่เดือดร้อนอะไรนี่ลูก

    ดีซะอีกมีคนคอยให้ใช้เพิ่มขึ้น

    หญิงพิมพ์ไม่ถูกชะตาก็แม่ลูกคู่นี้นิค่ะไม่ชอบหน้า

    โดยเฉพาะเด็กชมพู่นั่นน่ะ

    ไม่น่ารักเลย  ดูผอม ๆ  แกร็น ๆ  แล้วยังดูห้าวเหมือนเด็กผู้ชายอีก

    แม้จะหน้าตาดีก็เถอะ ที่สำคัญเป็นเด็กแก่แดด  พิมพ์ไม่ชอบ ไม่ชอบ  ไม่ชอบค่ะ

    คุณแม่ได้ยินมั๊ยค่ะว่า  หญิงพิมพ์ไม่ชอบมัน

     ไม่ต้องพูดมากแล้วหญิงพิมพ์

    จันทร์หอมกับชมพู่ก็อยู่ตรงนี้

    จะว่าเค้าไปถึงไหนลูก

    พึ่งมาแท้ๆ

    หญิงพิมพ์ก็เป็นยั่งงี้แหละแม่จันทร์หอม  อย่าถือสาเลยนะ

    ลูกสาวเดียว  เอาแต่ใจ

     เอาเป็นว่ารู้จักกันแล้วนะเดี๋ยวจะให้นมกลิ่นพาไปดูบ้านพักอยู่ติดกำแพงด้านทิศตะวันออก

    เป็นบ้านทรงไทยโบราณที่คุณตาทิ้งไว้ให้ทรงพล

     ลูกชายคนโตของฉันเอง

    แต่ทรงพลเค้าไม่ค่อยใส่ใจหรอก

    มักแต่เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ

    เนี่ยฉันก็ยังไม่ได้บอกเค้า

    แต่ฉันปรึกษากับท่านเทพบุตรแล้ว

    คงไม่มีปัญหาอะไร

    ดูแล้วเธอกับลูกก็น่าจะอยู่ที่นั่นได้สบายกว่าที่เดิม

    แต่ฉันมีข้อแม้ว่าฉันไม่ได้ให้เธออยู่ฟรีน่ะ

    เพราะที่ฉันไปรับเธอมาก็เห็นเธอเช่าบ้านอยู่ใช่มั๊ย

    ใช่เจ้าค่ะ

    ฉันก็จะให้เธอจ่ายค่าเช่าบ้านทรงไทยนั้นให้ฉันด้วย

    แต่คิดในราคาเดิมที่เธอเคยเช่า

    ฉันว่าเธอจะได้อยู่อย่างสบายใจ

    ไม่เป็นหนี้บุญคุณกัน

    แล้วเจ้าหล่อนจะว่ายังไง

    พอรับได้มั๊ย

    หรือจะกลับไปอยู่บ้านซอมซ่อชนบทหลังเดิมนั่น

    ดีมั๊ยหละจันทร์หอม

    คุณหญิงทับทิมพูดพลางจ้องมองมาที่หน้าจันทร์หอมเพื่อรอคำตอบ 

    ได้เจ้าค่ะ

    ดิฉันเต็มใจเสียค่าเช่าบ้านให้แก่คุณหญิง

    จันทร์หอมพูดพลางส่งสายตาที่มุ่งมั่น

     เพราะคิดว่าตนเองมีความสามารถในด้านการอาหารที่พอจะหาเงินส่งค่าเช่าบ้านให้กับคุณหญิงได้      พร้อมกับต้องการให้ลูกสาวคนเดียวของตนได้มีอนาคตดี  อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น 

    แล้วแต่คุณหญิงจะกรุณาน่ะเจ้าค่ะ

    แต่ถ้าสามีดิฉันกลับมาจากแอฟริกาแล้วดิฉันอาจจะขออนุญาตไปอยู่ข้างนอกตามเดิมนะเจ้าค่ะ

    หล่อนยังหวังว่าสามีหล่อนจะกลับมาเหรอ

    ฉันได้ยินข่าวว่าสามีหล่อน

    ทิ้งหล่อนไปช่วยราชการต่างประเทศที่แอฟริกา

    หายไปเป็นสิบปีไม่เคยได้ยินข่าวคราวกันเลยมิใช่รึ

    ฉันได้ยินข่าว  คิดสงสารหล่อน  จึงไปรับหล่อนมานี่แหละ

      ดิฉันหวังสักวันหนึ่งว่าเค้าจะกลับมาเจ้าค่ะ

    ที่สำคัญดิฉันเกรงใจคุณหญิงกลัวจะเป็นภาระมากน่ะเจ้าค่ะ

    แต่ตอนนี้ห่วงชมพู่

    เค้ายังเด็กมากไม่ค่อยรู้ประสา

    ก็ไม่เป็นไรน่ะ

    เรื่องเด็กชมพู่เนี่ย

    เดี๋ยวฉันจะช่วยเรื่องการเรียน

    เห็นว่าแกเรียนดีใช่มั๊ย

    ฉันจะฝากเข้าโรงเรียนราษฎร์แถวนี้

    โรงเรียนก็ใช้ได้นะ

    ที่สำคัญฉันก็มีมูลนิธิ อุปถัมถ์โรงเรียนนี้อยู่ด้วย

    ขอบพระคุณเจ้าค่ะ

     อีกหน้าที่นึงที่ฉันอยากฝากให้เธอดูแล

    พอดีแม่บ้านของฉันที่รับผิดชอบเรื่องอาหารแม่เค้าไม่สบายมากกลับบ้านต่างจังหวัดไม่รู้ว่าจะกลับมา  หรือเปล่า

    เธอก็มีหน้าที่ทำอาหารส่งมาที่เรือนหลังใหญ่ก็แล้วกันนะ

    เจ้าค่ะ

    วันนี้ฉันเหนื่อยมากแล้วขอตัวไปพักผ่อน

    อ้าวท่านเทพหญิงพิมพ์ไปไหนหละ

    ออกไปตั้งนานแล้วคุณหญิง

    ไม่ไหวเลยหญิงพิมพ์นี่

    หญิงพิมพ์คงจะรอฟังคำคุณหญิงอยู่กระมัง

    งอนหน้าบึ้งเดินจากไปตั้งแต่คุณหญิงพูดกับแม่จันทร์หอมแล้วหละ

    เดี๋ยวเราก็ไปพักผ่อนกันดีกว่า

    เพราะพรุ่งนี้ผมมีว่าความแต่เช้า

      ขณะอยู่ในห้องนอน  คุณหญิงทับทิมนอนมือก่ายหน้าผาก  คิดถึงจดหมายที่ท่านพ่อ

    ได้เขียนจดหมายทิ้งไว้  ความว่า  ให้เจ้าจงไปติดตามถามข่าวถึงครอบครัวของนาย แท่น  ทองดี  ข้าราชการ                  ผู้จงรักภักดีต่อเจ้านาย  ยอมแม้กระทั่งมอบกายถวายชีวิต  สืบมาแล้ว ตระกูลของนายแท่น  ทองดี  มีเชื้อสายเจ้าเมืองจันทร์เกศนคร  ในเขตพื้นที่อีสานใต้ใกล้ ๆ ชายแดนเขมร  เป็นตระกูลดี แม้นจะตกทุกข์ได้ยากอยู่บ้าง  ก็ไม่ละทิ้งความเป็นคนดี  ซื่อสัตย์  รักเจ้านาย  หากพ่อตาย  เจ้าจงไปสืบหา  คอยช่วยเหลือลูกหลานของนายแท่นที่ตกทุกข์ได้ยาก  หากมีโอกาส  ขอให้ลูกช่วยเหลือพวกเขาเถิด  เพราะพ่อเชื่อว่าคนในตระกูลนี้จะไม่มีอันตราย  มีแต่ความจงรักภักดีเหลือหลาย  และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่พ่อของเขาได้ช่วยปกป้องชีวิตพ่อ  ในสมัยออกตรวจราชการในเขตอีสาน  จนพ่อได้เป็นข้าราชการดีเด่น  ได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้  ถือเป็นคำขอสุดท้ายที่พ่อขอให้ลูกช่วยพ่อก็แล้วกัน  รักลูกทับทิมเสมอ

                    อ้าวคุณหญิง

    ยังไม่นอนอีกเหรอ

    ดิฉันนอนไม่หลับค่ะท่านเทพ

    คิดถึงจดหมายคุณพ่อ  กับเรื่องแม่จันทร์หอม

    ฉันไม่แน่ใจว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือไม่

    ไม่ต้องวิตกกังวลแล้วหล่ะคุณหญิง

    ไหน ๆ  ก็รับเค้าเข้ามาอยู่แล้ว

    เรื่องอนาคตว่ากันทีหลัง  นอนได้แล้ว

    อะไรจะเกิด  มันก็ต้องเกิด  เราคงห้ามมันไม่ได้หรอก

    ในเมื่อคุณหญิงตัดสินใจแล้ว

    มันก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว

    เพราะจันทร์หอมกับลูกสาวเค้าก็ยอมหอบข้าวของมาอยู่กับคุณหญิงแล้วด้วย

    ทำใจให้สบาย  นอนเถอะนะ

    แล้วท่านเทพบุตรพูดพลางห่มผ้าให้คุณหญิงทับทิม

                     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×