คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 มหาลัยของฉัน
บทที่ 1 มหาลัยของฉัน
' มหาลัย ' สถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของวัยรุ่น ที่กำลังจะเดินทางไปสู้การทำงาน หาเงินดูแลครอบครัว ที่นี่เป็นสถานที่สุดท้ายของชีวิตในวัยเรียน แต่มีคนเคยบอกไว้ว่าการเรียนไม่มีคำว่าสิ้นสุด เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ ฉันได้เดินมาถึงหน้าตึกสูง หน้าจะมีประมาน 7 - 8 ชั้นเห็นจะได้ มีป้าที่ดูแล้วอายุน่าจะประมาณ 40 - 50 ปี ออกมาหาพร้อมบอกระเบียบการต่างๆให้ฉันคร่าวๆ ประมาณว่า ประตูหอเปิดตั้งแต่ ตี 5 ปิด 5 ทุ่ม ห้องนึงอยู่กันประมาณ 2-3คน ซึ้งหอนี่ให้เฉาะเด็กปีหนึ่งอยู่เท่านั้น เพราะทางมหาลัยห้ามเด็กปีหนึ่งอยู่หอนอกเด็ดขาดและห้ามอยู่บ้าน เมื่ออยู่ปี 2 - ปี 8 ต้องออกไปหาหอข้างนอกอยู่เอง คุณป้าผู้ดูแลหอพาฉันมาถึงหน้าห้อง 106/9 พร้อมบอกว่านี่คือห้องของฉัน ซึ้งมีคนมาอยู่แล้ว 1 คน กุญแจมีกันคนละ 1 ดอกเพราะฉะนั้นทั้ง 2 คนต้องช่วยกันดูแลข้าวของๆตนเอง ฉันเดินเข้ามาในห้องพร้อมสัมภาระ เล็กน้อย 3-4 อย่าง เพื่อนร่วมห้องของฉันจะต้อง อยู่ในห้องน้ำแน่ๆ " หวัดดี ^^ " เสียงหวานใสน่ารัก หน้าก็อย่างกะตุ๊กตา พระเจ้าเธอน่ารักมาก " หวัดดี เราชื่อ ดอกแก้ว เรียกแก้วเฉยๆก็ได้นะ ^^ " นี่ฉันเป็นผู้หญิงนะแค่พูดด้วยยังเขินเลย ' เอาล่ะ ฉันจะปกป้องเธอแม่ตุ๊กตาของฉัน ' ฉันปฏิญาณในใจอย่างเงียบๆ(ในใจนี่ต้องเงียบอีกหรอ - -; เฮ้อออ) " จ๊ะ เราชื่อ แคนดี้ เรียก เราว่า ดี้ ก็ได้ " ขนาดชื่อยัง inter อ่า (โปรดสำรวมนิดนึง) เราก็พูดคุยกันไปพร้อมเก็บของไป จึงได้ความว่าแคนดี้ หรือดี้ เรียนอยู่คณะเดียวกับฉันนั้นคือคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์ ฉันมาอยู่หอเร็วกว่าเปิดเรียนอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ ฉันกับดี้ เลยจัดทริปทัวร์ มหาลัย กัน 2 คน แต่เดินทัวร์ซักพักเลยมีเพื่อนเพิ่มเข้ามาอีก 1 คน หล่อน ชื่อ มี้ ซึ้งการเจอกันของเราเป็นเรื่องที่บังเอิญมาก ซึ้งถ้าย้อนกลับไปได้ฉันจะไม่เดินไปทางนั้นเด็ดขาด ' ร้อนมันร้อนอะไรขนาดนี่อยากกับห้องไปนอนจัง 'ฉันเริ่มที่จะโวยวาย แต่สาวน้อยที่อยู่ข้างฉันมาตลอดดูเปราะบาง ไม่รู้เอาพลังงานมาจากไหนมากมาย ' แก้ว เราว่าเราเดินไปดูคณะเรามาหมดแล้วเราไปดูคณะอื่นบ้างดีไหม เช่น คณะวิทย์ คณะบริหารเป็นไง เห็นเค้าบอกกันว่ามันสวยแถมตั้งเป็นเอกเทศด้วยนะ ^^ ' โปรดอย่ายิ้มแบบนั้นให้กับฉัน ฉันรับไม่ไหวแล้ว ' ได้จ๊ะ ' TT ^TT อยากกลับห้องแล้วอ่า ช่วงที่เรากำลังเดินไปคณะวิทย์ พวกเราก็ได้ยินเสียง' ช่วยด้วย~~~~ ' เสียงแผ่วๆลอยมาตามลม พวกเราเลยตัดสินใจเดินตามเสียงนั้นไป เราก็ได้เจอกับชายหนุ่มกำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าใต้ต้นมะขาม ลมหายใจรวยริน มีเหงื่อออกเต็มไปหมด เราสองคนเลยรีบเข้าไปถามแล้วดูแลอาการ ตอนแรกกะว่าจะพาไปห้องพยาบาลแต่ติดตรงที่ว่าไม่รู้มันอยู่ที่ไหนเลย เลยตัดสินใจช่วยเองเลย เริ่มจากสันนิฐานว่าน่าจะเป็นลม เพราะเป็นแบบอื่นก็ไม่รู้แล้ว ขั้นตอนที่ 1. ปลดกระดุม 2.ทำอากาศให้ถ่ายเท พอเห็นว่าเริ่มฟื้นเลยเอาน้ำให้ดื่มจากคนที่กำลังนอนพะงาบๆก็แลดูดีขึ้นเยอะ หล่อนบอกว่า หล่อนชื่อ มี้ เป็นนักศึกษาปี หนึ่ง อยู่คณะนิเทศเหมือนกับพวกเราแต่อยู่คนละสาขา มี้อยู่สาขาการแสดง คุณเธอให้การว่า เป็นลมแดด ขณะกำลังเดินดูรอบๆมหาลัย เธอบอกว่าเป็นคนพลังงานมีขีดจำกัดชอบหมดเร็วกว่าชาวบ้าน ทางเทคนิคเรียก แบตเสื่อม ' ใครจะคิดว่าพลังงานมันจามาหมดเอาตอนนี้ แต่ดีนะที่มีพวกเธอมาช่วยเราไว้ ^^' พระเจ้า แบตเสื่อม สงสัยพ่อแม่ไม่ได้อ่านวิธีใช้ลืมกระตุ้นแบตก่อนใช้ ไม่รู้หรอว่ามันต้องชาตร์อย่างน้อย 12 ชั่วโมงตอนเริ่มใช่ ( คนหรืออะไร ) และนี่ทำให้เราทั้งสองคนมีเพื่อนร่วมเดินทางเพิ่มอีกหนึ่งคน
' คณะวิทย์ ' เรียกได้ว่าเป็นคณะที่มีผู้หญิงเยอะมาก มีอัตราส่วนประมาณ ผู้หญิง 10 คน ต่อ ผู้ชาย 1 คน ไม่ได้ร่วมผู้ที่ไม่ใช่ผู้ชายอีกนะ TT ^ TT มี้บอก " ฉันว่าน้า ไม่ใช่ต่อผู้ชาย 1 คนหรอก รับรองว่าส่วนเยอะนะ ไม่ใช่ผู้ชายเกือบ ร้อยละ 80 " มันบอกพวกเดียวกันรู้กัน เออ...เชื่อ!! ฉันเลยถามมันว่า " แล้วทำไมแกอยากมาที่นี่อ่า ไม่ใช่ผู้ชายเกือบ ร้อยละ 80 ไม่ใช่หรอ ส่วนตัวพวกฉันนะแค่อยากเห็นว่ามันหรูขนาดที่คนอื่นเค้าพูดหรือเปล่า " แล้วเดินมาหาของสวยงามดูเฉยๆ แต่อันนี้พูดออกไปไม่ได้มันจะแสดงถึงความหื่นของตัวเอง "ฉันก็เดินมาส่องไอ้ 20% ที่เหลือไง ฮุฮุๆ " ขณะที่ฉันเดินไปเถียงกันไปกับนังมี้ เสียงอันสดใสของดี้ก็ดังขึ้น " นั้นไง คณะบริหาร " " หู้~~~~~~~~ รั่วล้อมรอบ บ่อน้ำพุ ถ้ามีหอในตัวเลยคงดีไม่น้อย " " ใช่แล้วคณะเรามีหอพักและทุกอย่างเป็นของตนเอง จึงไม่จำเป็นที่จะออกไปไหน ไงจ๊ะสาวน้อย " อืมๆช่างหรูหราดีแท้ เห้ย!! ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด (สมองหยุดสั่งการ 10 วิ) เทพบุตรชัดๆ รับรองว่าสิ่งที่ฉันเห็นต้องไม่ใช่คน " หล่อมากค่ะ" " ขอบคุณครับ ^^ " ฉันพูดอะไรออกไปนี่ แต่ยิ้มแบบนี่ น่ารักอ่า >< กรี้ดดดดด ต่อจากนั้นฉันก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้แต่เพียงว่า น่ากินที่ซู๊ดเลย แต่เหมือนที่มีคนเคยบอกไว้ว่าความสุขมีแค่แปบเดียว เพราะจะต้องมีมารมาผจญ " สงสัยจะสติไม่ดี ยืนน้ำลายยืดเซียว " เสียงใคร หันซ้ายหันขาวเจอแล้ว บางทีฉันควรปรับปรุงสมองกับปาก " ปากก็ไม่ได้ดูดีเหมือนหน้าตาเลยนะค่ะ " ปากฉันน่าโดนถีบเนอะ แต่ภูมิใจ สายตาของตานั้นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้ออย่างงั้นแหละ เหอะไม่มีวันที่ดอกแก้วจะหลบสายตาใคร จะถลึงตาให้ทะลุออกมาก็ไม่กลัว " แก้ว!! " ทำไมดี้กับมี้ต้องตะโกนขนาดนั้นด้วยแถมยังลากฉันกลับหอทันทีเลยอีกต่างหาก " นี่ฉันมีเท้านะ เดินเองได้ไม่ต้องลากขนาดนี่หรอก " ไม่ยักรู้ว่าดี้จะแรงเยอะขนาดนี้ ' เฮ้อออ ' การประสานเสียงของสองสาวร่างเล็กและใหญ่ พร้อมกับเสียงแตรดแตดแต้ของนังมี้ " แกรู้ไหม คนเมื่อกี้นี่นะใคร นั้นคุณคิงนะ" "แล้วฉันต้องรู้ด้วยหรอว่า ไอ้ปากม่อม นั้นชื่อคิง คนบ้าอะไรไม่มีมารยาทมาหาว่าฉันเห็นผู้ชายแล้วน้ำลายไหล อย่าให้เจอคราวหน้านะ จะเตะตัดขาให้ดู ฮึ " สองสาวที่เหลือไม่รู้จะทำไงกับเพื่อนสาวที่ออกอาการจะเตะตัดขาท่าไหนดีถึงจะล้มได้ถูก เพราะดูจากท่าทีแล้วแก้วคงไม่ยอมง่ายๆเด็ดขาด ทางที่ดีทั้งสองคนต้องร่วมมือกันภาวนาขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าไม่ให้แก้วได้พบเจอกับบุรุษที่ได้ชื่อว่า คิง อีกครั้ง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ทั้งสองหันหน้าไปดูเพื่อนสาวที่ดูกำลังกระตื่อรื่อร้นที่จะไปล้างตา
ความคิดเห็น