ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You Kill me

    ลำดับตอนที่ #14 : Part XIII

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 53


    Part XIII

     

    ใช่! ความต้องการของคุณพ่อผมขัดไม่ได้ ตัวผมอาจจะอยู่กับคุณไปตลอดกาลลิลิต แต่ใจของผมจะอยู่ที่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง... จะอยู่ที่เธอคนนั้นตลอดกาล และไม่ว่าความต้องการของใครก็พรากใจของผมจากเธอคนนั้นไม่ได้!”

    คำพูดนั้นแม้มีอานุภาพมากพอที่จะทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงได้ หากแต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้ฉันลืมข้อเท็จจริงข้อที่ว่าเขาได้สาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าจะอยู่กับหญิงสาวอีกคนหนึ่งไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ลงได้

    และที่สำคัญที่สุด... ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ฉัน!

    เสียงพูดคุยยังคงดังอยู่เป็นระยะ และแม้เจ้าของเสียงจะมิได้ตั้งใจให้ใครๆได้ยินบทสนทนานั้น แต่มันก็ดังมากพอที่ฉันจะได้ยินทุกคำพูดของเขาและหล่อน...

    ผู้หญิงคนนั้นรักคุณตอบด้วยหรือคะ?”

    ผมเชื่อว่าเธอรักผม น้ำเสียงของเขายังคงหนักแน่น

    เชื่อ?... เธอไม่ได้บอกว่า รักคุณหรอกหรือคะ?”

    บางครั้งความรักก็ไม่สามารถแสดงออกได้ด้วยคำพูดหรอกนะลิลิต เสียงที่พูดนั้นราบเรียบทว่ามั่นคง และแล้วเขาก็ถอนหายใจคล้ายว่าได้ตัดสินใจบางอย่างอย่างเด็ดขาดแล้ว ความรักน่ะ แสดงออกได้ด้วยการกระทำมากกว่า และผมก็เชื่อว่าการกระทำของเธอคนนั้นแสดงให้เห็นว่าเธอรักผม

    เสียง เฮอะ แหลมขึ้นจมูกดังขึ้น

    แล้วคุณคิดว่าการบอกรักทางอ้อมด้วยการแสดงออกของคุณจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นทราบได้หรือคะ ว่าคุณรักเธอ... บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจให้คุณได้เพียงแค่ความเป็นเพื่อนก็ได้ ต่างจากฉัน ฉันต่างหากที่เป็นทุกอย่างของคุณ เข้าใจคำพูดของคุณแม้ว่าคุณจะไม่ได้พูดมันออกมา

    ผมรู้ว่าคุณทำได้ลิลิต การรู้เรื่องที่คนอื่นกำลังคิดโดยที่เขาไม่ได้พูดออกมาน่ะเป็นความสามารถพิเศษของคุณ และผมก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะทำไม่ได้ แต่สิ่งที่คุณทำได้มันก็แค่... แค่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ คุณเข้าใจผมไม่ได้ คุณไม่เคยเข้าใจสักนิดว่าความคิดของผมพยายามจะสื่ออะไรกับคุณ

    ฉันอาจเข้าใจคุณถ้าคุณจะให้โอกาสฉันสักครั้ง!”

    เสียง หึ ที่มีสำเนียงประชดประชันดังขึ้น

    หรืออย่างน้อย... ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งนะคะประกาศิต น้ำเสียงของเจ้าหล่อนเปลี่ยนมาเป็นเว้าวอนอ่อนหวานอีกครั้ง... น้ำเสียงนั้นหวานและชวนเคลิบเคลิ้มเสียจนฉันกลัวเหลือเกินว่ามันจะทำให้เขาทำตามที่หล่อนต้องการ

    แม้ว่าฉันจะยังไม่สามารถทำใจได้กับความสัมพันธ์ของเขาและหล่อน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกทำใจได้กับการสูญเสียเขาไปเลย...

    คุณทิ้งโอกาสนั้นไปเองลิลิต และตอนนี้ถึงแม้ว่าผมจะต้องการให้โอกาสคุณแค่ไหน ผมก็ไม่สามารถจะทำได้ เพราะหัวใจของผมไม่มีที่ว่างให้คุณอีกต่อไปแล้ว

    เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นอีกครั้ง

    กลับไปซะเถอะลิลิต ยังไงคุณก็ไม่มีวันได้ตัวผมกลับไปหรอก และยังไงคุณก็จะไม่มีวันได้ใจผม... ตลอดกาล

    ถ้าอย่างนั้นล่ะก็... ขอให้คุณรู้ว่าถ้าฉันไม่ได้ ตัว และ ใจ ของคุณกลับไป ก็จะไม่มีวันที่ใครคนไหนจะได้ ตัว ของคุณไปเลย จำไว้!”

    ฉันถอยห่างออกจากบานประตู และกลับไปนั่งแปะลงกับเก้าอี้ของตนเอง บทสนทนาอันแสนโหดร้ายยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท

    ไม่นานนักเสียงเปิดประตูจากห้องทำงานของเขาก็ดังขึ้น พร้อมกับที่ร่างสูงโปร่งเจ้าของวงหน้าแสนสวยหวานสนิทจะก้าวออกมา เมื่อหล่อนสังเกตเห็นฉันหล่อนก็ผงะไปอย่างตกใจ ก่อนจะส่งเสียงทักเมื่อเริ่มปรับสีหน้าได้แล้ว

    อ้าว คุณจิตรา... เพิ่งมาถึงหรือคะ เมื่อเช้าฉันมาก็ไม่เห็นคุณเลย

    แม้น้ำเสียงนั้นจะหวานกังวานสดใสดังเคย แต่ฉันก็จับสำเนียงฝืดและเฝื่อนที่หล่อนพยายามที่จะปิดบังได้

    ค่ะคุณลิลิต ฉันเพิ่งมาถึงเมื่อไม่ถึงไม่ทันจะถึงนาทีเลยค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องโกหก แต่ฉันก็พูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้แจ่มใสมากพอๆกับหญิงสาวผู้นั้น

    เผอิญว่าปวดศีรษะน่ะค่ะคุณลิลิต ก็เลยมาทำงานสาย แล้วคุณลิลิตล่ะคะ มานานแล้วหรือคะ?” ฉันตอบกลับไป และรู้สึกว่าความ  ฝืด และเฝื่อน ในน้ำเสียงของหญิงสาวผู้นั้น แท้จริงแล้วหาได้ถึงครึ่งของความรู้สึกเช่นเดียวกันในจิตใจของฉันเลย

    ความรู้สึกอันแสนร้าวรานนั้นบีบคั้นหัวใจราวกับจะทำให้มันสลายลง!

    ค่ะ ฉันมาตั้งแต่เช้าแล้ว แวะมาคุยกับประกาศิต ตอนนี้กำลังจะกลับแล้ว เจ้าหล่อนตอบเสียงเรียบผิดกับปรกติ ริมฝีปากของหญิงสาวผู้นั้นมิได้เหยียดเป็นรอยยิ้มอย่างเคย แต่กลับถูกเม้มไว้แน่น

    ท่าทีของหล่อนทำให้ฉันรู้สึกเห็นใจ... หล่อนคงรู้สึกไม่ต่างจากฉัน... รู้สึกเสียใจ เจ็บปวด ถูกทอดทิ้งและถูกทำร้าย

    เมื่อคิดได้เช่นนั้นฉันจึงพยายามที่จะแสดงน้ำใจกับหล่อน

    คุณลิลิตจะดื่มอะไรก่อนออกไปไหมคะ ฉันจะไปเอามาให้

    เจ้าหล่อนคลายริมฝีปากที่เม้มไว้ออก ก่อนที่จะคลี่ยิ้มแปลกประหลาดที่ดูขื่นขม

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ... แหม เสียดายจังนะคะ วันนี้ฉันจะกลับแล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้คุยกับคุณจิตราอีก เจ้าหล่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้เชื่อว่าหล่อนเสียดายจริง แต่แล้วก็บอกลาด้วยน้ำเสียงสดใส หากแต่ฟังแล้วห้วนสั้นนัก และเดินจากไป

    ฉันหอบแฟ้มงานที่ทำเสร็จไปยังห้องทำงานของเขา หวังจนล้นใจว่าวันนี้อาการหมางเมินอันแสนจะอึดอัดนั้นจะหายไป และหวังยิ่งกว่าที่จะได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของเขา... เรื่องราวระหว่างเขาและหล่อนที่เขาปิดบังไว้ ไม่เคยบอกให้ฉันรู้

    ฉันเข้าไปได้ไหมคะ?”

    ไม่มีเสียงตอบรับจากเขา หากแต่สิ่งที่ฉันได้รับแทนคำอนุญาตนั้นคือเขาที่เดินมาเปิดประตูต้อนรับฉันด้วยตนเองพร้อมกับคำถาม

    คุณมาถึงนานแล้วหรือ?”

    คำถามเดียวกับที่หญิงสาวผู้นั้นถามฉัน... ริ้วรอยกังวล หวาดกลัวและสับสนฉายชัดอยู่ในแววตาของเขา

    ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ และนั่นยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาดูตื่นตระหนก กระนั้นเขาก็ยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและถามฉันด้วยน้ำเสียงราบเรียบเย็นชา

    คุณมีอะไรหรือเปล่า?”

    แม้น้ำเสียงนั้นยังคงเย็นชา แต่ฉันก็ดีใจที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนอีกต่อไป และอย่างน้อยเขาก็ยังอุตส่าห์เดินมาเปิดประตูให้ฉัน ทั้งๆที่เขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย

    ฉัน...เอ่อ

    คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”

    ฉันได้ยินคุณพูดกับคุณลิลิต เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกจากปากไปแล้ว ฉันก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

    คุณได้ยินอะไรบ้าง?”

    สีหน้าของเขาในยามนี้เหมือนกับวันที่ฉันคาดคั้นเขาเรื่องหญิงสาวในร้านไอศกรีมไม่มีผิด... เขาก้มหน้าลง ซ่อนแววตาว้าวุ่น กังวล และพร้อมที่จะปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไว้ไม่ให้ฉันรู้ แต่ทว่าวันนี้ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว!

    คุณกับคุณลิลิต... คุณลิลิตเป็นภรรยาของคุณหรือคะ?”

    ประโยคคำถามตรงๆไม่อ้อมค้อมนั้นทำให้เขาเงยหน้าขึ้นและสบตาฉันด้วยความสำนึกผิด แต่ในขณะเดียวกันก็ดูกร้าวคล้ายคำพูดของฉันแทงใจ ของเขาอย่างรุนแรง

    มันไม่ใช่ธุระของคุณเลย... คุณไม่ควรแอบฟังเรา

    ฉันขอโทษค่ะ... ฉันไม่ได้ตั้งใจเลย คำโกหกนั้นไม่แนบเนียนนัก และฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตัวเองจึงพูดออกไปแบบนั้น

    เขาถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวันนี้ และปรายตามามองฉันด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะเอ่ยขึ้น

    บอกผมมาว่าคุณได้ยินอะไรไปบ้าง

    จากวินาทีนั้นบางสิ่งที่อธิบายไม่ได้ก็เกิดขึ้น ทุกระบบในร่างกายของฉันคล้ายถูกควบคุมด้วยพลังงานที่มองไม่เห็น... ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่เดินเข้ามาในสำนักงานปรากฏขึ้นในสมองคล้ายกับภาพยนตร์ เสียงของบุคคลทั้งสองสนทนากันดังก้องในหู... คำพูดที่เป็นเสมือนพุ่งเข้าทิ่มแทงทุกอณูในหัวใจ

    และแล้วฉันก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังด้วยความรู้สึกเลื่อนลอยคล้ายอาการของคนที่กำลังละเมอ ความรู้สึกเจ็บปวดสาหัสหายไป...

    เขานั่งฟังเรื่องราวฉันเล่าด้วยอาการสงบ ไม่มีสีหน้าสำนึกผิดหรือกังวลใจใดๆให้เห็นอีกต่อไป... และทันทีที่เล่าเรื่องทั้งหมดจบลง ฉันก็รู้สึกกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง และความเจ็บปวดก็กลับมา!

    ผมขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องมารับรู้เรื่องส่วนตัวของผม

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็ขอโทษที่บังเอิญได้ยินเรื่องส่วนตัวที่คุณคงไม่อยากให้รู้

    ฉันหัวเราะขื่นๆ กล้ำกลืนความรู้สึกอันแสนจะเจ็บปวดลงให้ลึกไปจนสุดขั้วหัวใจ ก่อนจะถามคำถามที่หัวใจอยากรู้มากที่สุดออกไป

    คุณบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่คุณจะฝากหัวใจไว้กับเธอตลอดไป บอกฉันได้ไหมคะ ว่าผู้หญิงคนนั้น... ใช่ฉันหรือเปล่า?”

    หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ รอคอยคำตอบจากปากของเขา ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ว่าคำตอบนั้นจะออกมาว่า ใช่หรือ ไม่ใช่ หัวใจของฉันก็จะต้องเจ็บช้ำพอๆกัน!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×