คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Angel's Story * 2 :: หมากตัวแรก !~
“ทึกกี้. .ฮันกยองอะไรนั่นอยู่โรงเรียนอะไรอ่า ?? ?” คนหน้าสวยคมนาม’ฮีชอล’ เอ่ยถามเพื่อนรัก ขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติริมสระน้ำภายในบ้านคนถูกถาม
อีทึกเปิดกระเป๋าถือข้างกายรื้อค้นสิ่งของบางอย่าง หนังสือเล่มบางมีกระดาษสอดอยู่ด้านในถูกส่งให้ฮีชอล คนสวยพิจารณาดูแล้วพบว่ามันคือ. .
...ระเบียบการรับสมัครนักศึกษาใหม่ โรงเรียนเอกชนเอสเจ !!! !
“โรงเรียนเอสเจ!” ฮีชอลร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ทำเอาคนหน้าหวานต้องเงยหน้าจากเค้กที่บรรจงตัดอย่างสวยงามขึ้นมาสบสายตา งงไม่น้อยที่เพื่อนตัวเองทำเสียงดังขนาดหนัก
“หือ?”
“ก็ชีวอนแฟนฉัน. .เป็นประธานนักเรียนอยู่ที่นั่นน่ะสิ” ยิ้มมุมปากของอีทึกถูกกระตุกขึ้น เมื่อคำตอบที่ได้จากฮีชอลมาเข้าทางเขาพอดี
. .ประธานนักเรียนงั้นเรอะ .
“ก็ดี .. .จะได้หาตัวฮันกยองง่ายขึ้น” สะบัดหน้าลงหลังจากพูดเสร็จ ขนมเค้กที่ตัดแล้วเป็นเป้าหมายที่ต้องจัดการ ส้อมเตรียมพร้อมที่จะจิ้มเข้าภายในเนื้อนั้น . .คงสนุกไม่น้อยหากเค้กนี้คือฮันกยอง แล้วส้อมนี้คือความเจ็บปวด . .ความเจ็บปวดที่ค่อยเข้าไปในเนื้อนั้น เจ็บปวดอย่างช้าๆ ทรมานจนกว่าจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป ~
“นี่ทึกกี้. .” ฮีชอลเรียกชื่อ จึงทำให้เจ้าของชื่อเงยใบหน้าขึ้นจากขนมเค้กชิ้นนั้นที่ตัวเขาจ้องตาเป็นมัน “ถ้านายเจอฮันกยองแล้ว. .นายจะทำยังไง?” ไม่ใช่ว่าอยากรู้อะไรมากมาย แต่สิ่งที่เพื่อนเขาจะทำ อย่างน้อยถ้าเขาพอจะช่วยอะไรได้ . .เขาก็จะทำ
“ก็ทำให้มันเจ็บ. . .เจ็บจนไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เลยไงล่ะ!! !” น้ำเสียงเย็บเยียบที่ฮีชอลไม่เคยได้ยิน หลุดออกจากปากบางพร้อมเจ้าของเสียงนั้นที่ทำหน้าตาจริงจัง บัดนี้ภาพรวมของเพื่อนรักทั้งหมดทำให้เลือดในกายฮีชอลเย็บเยียบจนขนลุกชันขึ้นมาตามธรรมชาติ ...อีทึก ความแค้นทำให้นายเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ
“อ๊ะ...ขอโทษนะฮีชอล พอดีมันเผลอไป” ทั้งน้ำเสียงทั้งสีหน้าได้กลับมาเป็นอีทึกคนเดิมจนทำให้ฮีชอลโล่งใจ ก่อนทำหน้าเครียด แล้วก็บอกสิ่งที่ใจตัวเองคิด
“นี่ทึกกี้ ถึงฉันจะช่วยนายให้แก้แค้น ก็ใช่ว่าฉันจะเห็นด้วยกับการกระทำทั้งหมดของนายหรอกนะ ที่ฉันอยากจะบอกจริงๆ ก็คือ. .อย่าทำให้ตัวเองเจ็บปวดอีก รู้มั้ย? ?. .” ฮีชอลจับมืออีทึกมากุมเอาไว้แล้วส่งผ่านความจริงใจไปกับกระแสความอบอุ่นของมือนั่น
“อื้มม ม ฉันรู้ดีหรอกหน่า. .” อีทึกรับคำเป็นหมั้นเป็นเหมาะ แล้วยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจ จนคนรับจากสีหน้าเครียดกลายเป็นยิ้มตามอย่างช่วยไม่ได้ แต่พลันสายตาของคนหน้าสวยก็ไปเห็นจากขนมที่ว่างเปล่า
“ขนมหมดแล้ว เดี๋ยวฉันเข้าไปเอาให้ วันนี้ทึกกี้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันนะ. .” ฮีชอลเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนที่จะถือจานขนมกลับเข้าบ้านไป ทิ้งให้เพื่อนรักต้องนั่งยิ้มอยู่กับที่กับการหมัดมือชกชัดๆ ที่ผ่านไปเมื่อสักครู่ ก่อนที่สายตาระริกจะแปรเปลี่ยนเป็นแววเคร่งเครียด นึกถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมกับใบหน้าของฮีชอลที่ต้องเข้าร่วมการแก้แค้นของเขา
“ถึงใครหรือแม้แต่ตัวฉันเองที่ต้องเจ็บปวดกับชะตากรรมในครั้งนี้. .แต่ฉันจะไม่มีวันทำให้นายเจ็บปวด คิมฮีชอล...”
“นี่ ทึกกี้ เราจะมากันแต่เช้าทำไมอ่า า หาวววววววว. .” ฮีชอลเดินตามเพื่อนอย่างเอือยๆ ผ่านหน้าประตูโรงเรียนปะยี่ห้อ. .เอสเจเอาไว้ แม้จะเป็นโรงเรียนที่สุดสวาทขาดใจของตนเองเรียน แต่อารมณ์ก็ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ พลางมองนาฬิกาเรือนสวยที่ติดอยู่กับข้อมือ . .7.00 น.
“ดีออก สมัครแล้วก็เรียนเลย” อีทึกหันหน้ากลับไปมองเพื่อนที่เดินตามมาแบบหมดอาลัยตาอยาก แม้แต่หนังตายังไม่อยากจะลืมเสียด้วยซ้ำ พูดพลางยิ้มๆ ก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ
สองหนุ่มหน้าสวยที่เดินผ่านเข้าอณาเขตโรงเรียนมาทำให้นักเรียนทั้งหลายหันกลับมามองไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ต่างมองด้วยอารมณ์แตกต่างกันออกไป ความงามที่เรียกน้ำลายนักเรียนชายไหลย้อยกันเป็นทิวแถว ตามด้วยเสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงบางกลุ่มก้อน
บางคนก็อดสงสัยไม่ได้ถึงชุดนักเรียนชายโรงเรียนเอสเอ็มที่ยังคงเด่นหราอยู่บนตัวของทั้งคู่ แต่จะให้ทำเยี่ยงไรได้นอกจากเก็บความข้องใจไว้ภายใน แม้แต่คนที่กล้าที่สุดของโรงเรียนยังมิอาจเอื้อมจะถามสองชายที่ดูสูงศักดิ์ เต็มไปด้วยความงามแห่งมาดนางพญา . .งามถึงขนาดบางคน ถึงกับยกย่องในใจ ว่าสองคนที่เดินเข้ามานี้เปรียบประหนึ่ง . .นางฟ้า และเจ้าหญิง
แต่ไซร้ทั้งสองจะสนใจ เดินต่อไปดังกับว่าเรื่องพวกนี้คือเรื่องธรรมดาที่พวกเขาเจอกันทุกวัน เสียงนินทาเบาๆ หากแต่ก็หลายกลุ่มก้อนทำให้เกิดเป็นเสียงหือดังผึ้งแตกรัง จุดหมายของทั้งสองคงหนีไม่พ้นสถานที่สมัครเรียน ภายใต้อาคารกลางของโรงเรียนที่พวกเขากำลังจะถึงในไม่ช้านี้
“ฮีชอล คนที่รับรายงานตัวเรา คือประธานนักเรียนกับรองประธานนักเรียนของที่นี่นะ” อีทึกบอกกับเพื่อนรักหลังจากที่ตนเองนั้นเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่รับใบสมัครเข้าเรียน และคิวต่อไป. .ฮีชอล
“จริงอ่า า. . ไม่ได้เจอวอนตั้งนาน เซอร์ไพร์สแน่ๆ !!” ฮีชอลสลัดความง่วงที่มีอยู่ทิ้งไป ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เมื่อสักครู่ตนเองนั่งนอยอยู่ เต้นดุ๊กดิ๊กๆ อย่างน่ารัก ทำเอานางฟ้าคนงามส่ายหัวกับการกระทำของเพื่อน
“ฉันเข้าไปล่ะนะ” บอกลาเพื่อนก่อนเดินตรงไปตามทางระเบียงอย่างแน่วแน่ ไม่สนใจแม้แต่เสียงเบาๆ ของฮีชอลที่บอกว่าโชคดี ในสมองตอนนี้มีแต่เรื่องแก้แค้น !! นัยน์ตาที่เคยสุกใสเปล่งประกายราวแสงอาทิตย์ก็กลับกลายเป็นเย็นชา พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก
...เราจะได้เจอกันแล้วนะ ฮันกยอง
...แต่ก่อนหน้าที่ฉันจะเจอนาย ฉันก็ต้องมีหมากตัวแรก ไว้ทำให้เกมส์นี้มันง่ายขึ้นก่อน
คนหน้าหวานคิดก่อนจะปรับอารมณ์และสีหน้าอีกครั้งให้กลายเป็นเด็กอินโนเซ็นต์ไร้เดียงสา ประกายนัยน์ตาบัดนี้วิบวับยิ่งกว่าประกายกลิตเตอร์เสียอีก แต่ภายในสายตาวิบวับนั้นก็ยังคงแฝงสายตาเยี่ยงนังแมวป่าเอาไว้
อีทึกค่อยๆ เปิดประตูสภานักเรียนเข้าไปอย่างช้าๆ ก่อนที่จะปรากฏร่างที่นั่งตระหง่านอยู่ตรงกลางห้อง ร่างที่สง่างามราวกับเจ้าชาย กำลังนั่งเพื่อรอคนมารายงานตัวบนเก้าอี้และโต๊ะกลางห้อง ใบหน้านิ่งดั่งรูปปั้นนั้นพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อให้ผู้มาใหม่ได้เข้าไป
ร่างบางก้าวเข้าไปแล้วพลันสายตาก็ไปสบกับอีกร่างหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟาริมห้อง ทั้งร่างถึงกับชะงักลืมหายใจไปชั่วขณะ ริมฝีปากจะกระตุกยิ้มเล็กน้อย ก่อนเดินตรงไปยังบุรุษที่นั่งอยู่ใจกลางห้อง
“ปาร์คจองซู. . จากโรงเรียนSMครับ” มือบางส่งให้อย่างเป็นมิตร พร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ประทับตรงตาตรึงใจของผู้พบเห็น
“ผมชเว ชีวอน. .ประธานนักเรียน ส่วนนั้นรองฯ” พออีทึกจะหันไปตามคำแนะนำ ก็รู้สึกได้ถึงความบางเบาจากสัมผัสที่มือของตน มือหนาของชีวอนที่เอื้อมมาจับถูไถเบาๆ กับมือของเขา อีทึกชักมือกลับช้าๆ อย่างเขินอาย . .เข้าแผน
“ชีวอน. .อาจารย์ลีน่าส่งข้อความมาตาม เขาอยากคุยกับนาย ด่วน!!” อีกหนึ่งบุรุษที่อยู่ในห้องนี้เอ่ยขึ้นมา เรียกความสนใจจากคนทั้งห้อง ชีวอนมองหน้าคนพูดอย่างหัวเสีย ดันมาเรียกอะไรตอนนี้! ซ้ำแล้วยังเป็นอาจารย์ลีน่า ผู้ช่วยปกครองสุดโหด เห็นทีจะต้องรีบไป. .
“จองซูครับ เดี๋ยวผมมานะครับ” คนหน้าหวานพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆ ในใจแทบกระโดดโลดเต้นที่จะได้อยู่กับอีกหนึ่งผู้นั้นอย่างเป็นส่วนตัว
“รีบมานะครับ . .ผมจะรอ” น้ำเสียงหวานที่ทำให้ชีวอนพยักหน้ารับ และรีบเดินออกไปโดยที่ไม่ลืมให้หน้ากลับมายิ้มให้คนตาสวยอีกครั้งก่อนที่ประตูห้องจะปิดลง
ปัง ง!!
เมื่อประธานนักเรียนรูปหล่อออกไปแล้ว อีทึกก็หมุนเก้าอี้กลับมาประจันหน้ากับบุคคลที่นั่งอยู่บนโซฟา สายตาหนึ่งโกรธแค้น!! . . อีกสายตาหนึ่งกลับเรียบเฉย ก่อนที่จะเป็นบุรุษที่เอ่ยขึ้นมาก่อน
“ไม่นึกเลยว่า จะได้เจอน้องสาว อ๊ะ!!...ไม่สิ น้องชายคนสวยของพี่โบอา กับพี่ฮานึลที่นี่”
“ฉันก็ไม่นึกว่าแกจะเป็นรองประธานนักเรียนของที่นี่เหมือนกัน ฮันกยอง!!!!” อีทึกโต้กลับไปด้วยอารมณ์ครุกรุ่น ฉุนกึกขึ้นมาเมื่ออีกฝ่ายทำเป็นพูดผิดๆ ถูกๆ !! !
“พูดจาไม่เพราะเลยนะ. . .คนสวย” ฮันกยองพูดแล้วก็ลุกขึ้น สาวเท้าเข้ามาใกล้คนสวยที่เขากำลังพูดถึง คนสวยที่ทำหน้าโมโหเสียแทบไม่เหลือเค้าโครงของความสดใสที่เคยมีอยู่ประจำ
“ดีเลยที่นายเดินเข้ามาใกล้แบบนี้” แล้วคนสวยก็ยิ้มโปรยเสน่ห์ เล่นเอาคนมองเคลิ้มตาม ก่อนที่จะหุบยิ้มลงอย่างฉับพลัน “เพราะฉันจะได้ซัดนายได้เต็มๆ ไงล่ะ!!! !~!”
ตั้บ!!!!!! ! !!
แทนที่จะเป็นฮันกยองที่รับหมัดของอีทึกเต็มๆ กลับกลายเป็นรับหมัดของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย ปากหนายกยิ้มเหี้ยม ก่อนจะปล่อยถ้อยคำดูถูก
“หมัดอะไรของนาย. . เบาชะมัด”
พูดจบฮันกยองก็บิดแขนเรียวสองข้างให้มาไขว้หลัง ก่อนจะดันร่างบางให้หันหน้าเข้ากำแพง แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ไม่ได้ใช้พันธนาการข้อมือทั้งสองข้างของร่างบาง ขึ้นมาเชยคางสวยได้รูปให้หันมาประจันหน้ากับตนเอง ก่อนที่มือนั้นจะค่อยๆ เกลี่ยไล้ไปตามโครงหน้าสวย
...สวยจริงๆ ยิ่งเข้ามาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ยิ่งน่าหลงใหล
ฮันคยองคิดหลังจากที่ตนนั้นพิจารณาใบหน้าของคนตรงหน้า ทั้งนัยน์ตาสวยที่ดุเหมือนลูกแมวโดนแกล้ง ทั้งจมูกโด่งที่รั้นเหมือนนิสัยของเจ้าของ อีกทั้งริมฝีปากบางอวบอิ่ม ทำเอาฮันกยองเคลิ้มไปกับใบหน้านั้น
“เฮ้ย!! . .แกจะทำอะไร ออกไปนะ!!” อีทึกเริ่มโวยวายเมื่อร่างสูงค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะประทับจุมพิตบนลักยิ้มของคนสวย ที่โผล่ขึ้นมายามที่เจ้าตัวนั้นตะโกน
“หวานจริงๆ ” ฮันคยองว่าพลางทำสีหน้ากรุ่มกริ่ม ปล่อยคนหน้าหวานให้เป็นอิสระ “แค่ลักยิ้มยังหวานได้ขนาดนี้ แล้วนายยังมีที่ไหนหวานอีกบ้างนะ”
เพี๊ยะ!!!!!!!!!!! !!!!!!! !!!!! !
“แกทำกับพี่สาวฉันยังไม่พออีกเหรอ!!! ห่ะ!!!! !!!!!” อีทึกตะโกนใส่อารมณ์เต็มๆ หน้าของฮันกยองหวังว่าจะให้คนที่ยืนฟังนั้นได้คิด แต่ก็เปล่าฮันกยองจับหน้าตัวเองบริเวณที่โดนตบก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างหื่นกระหาย แล้วก็เข้ามากระชากร่างบางล็อคตัวไว้กับกำแพงอีกครั้ง แต่คราวนี้ให้ร่างบางหันหลังให้กำแพงแล้วหันหน้ามาเผชิญกับตนเอง
ฮันกยองกดบดริมฝีปากของตนเองลงบนริมฝีปากของร่างบางอย่างหนักหน่วง มือหนากดกรามของอีทึกให้เปิดปาก เพื่อให้ลิ้นร้อนของตนเองนั้นได้ชอนไชหาความหอมหวานจากปากเล็กๆ นั่น
“อื้อออ ออ อ อ” อีทึกส่งเสียงประท้วง แต่ทว่าเสียงนั้นกลับออกมาจากลำคอ จนแทบจะไม่ได้ยิน สัมผัสจากลิ้นของคนตรงหน้าช่างชำนาญจนร่างบางถึงกับเคลิ้มไป ลิ้นเล็กเริ่มเกี่ยวกระหวัดตอบรับการเข้ามาอย่างลุกล้ำของลิ้นร้อนตรงหน้า
ฮันกยองรับรู้ถึงปฏิกิริยาตอบสนองของร่างตรงหน้า จนทำให้ตนเองนั้นกระหยิ่มยิ้มย่องกับการได้ชัยของตน ก่อนที่ลิ้นร้อนนั้นจะค่อยผละออกจากเรียวปากสวยไล้เลียไปทั่วใบหน้างาม
“อ๊ะ.......อ๊าาา~” มือของฮันกยองที่เคยจับข้อมือทั้งสองข้างของอีทึกไว้ ปล่อยให้ร่างบางเป็นอิสระ แม้ริมฝีปากของร่างหนานั้นจะยังไม่ผละออกจากใบหน้างามของร่างบาง มือของอีทึกเริ่มหาที่ยึดเหนี่ยวร่างที่โอนอ่อน มือเล็กทั้งสองข้างสอดเข้าไปภายใต้ท้ายทอยของคนตัวสูง อารมณ์โกรธเมื่อสักครู่เริ่มหายไป กลายเป็นความรู้สึกบางอย่างที่อยากจะคาดเดา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
“ฮันคะ. . อยู่ในนั้นรึป่าว ??”
เสียงประตูที่ดังนั้น ทำให้ทั้งสองร่างที่อยู่ในห้องได้สติกลับมา . .หนึ่งคนที่หลงมัวเมาไปกับใบหน้าที่งามนั้น . .อีกคนที่เคลิ้มไปกับสัมผัสที่อีกคนมอบให้จึงลืมความแค้นไปชั่วขณะ อีทึกที่ได้สติก่อนออกแรงผลักร่างสูงที่ยังคงคลอเคลียอยู่ไม่ห่างราวกับไม่สนใจเสียงหวานที่ตะโกนเข้ามาแม้แต่น้อย
แอ๊ด ด!!! !
เพี๊ยะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“นี่!! !! แกทำอะไรฮันของฉันน่ะ!! !” หญิงสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเดินมาเกาะแขนฮันกยองอย่างหน้าหมั่นไส้ เมื่อหล่อนเข้ามาพอดีฉากที่ใบหน้าของฮันกยองหันไปตามแรงตบของคนที่เป็นใครตัวหล่อนก็ไม่รู้จัก แถมไม่เคยเห็นหน้า
“ถามฮันของเธอเถอะ!! ว่าทำอะไรฉัน!” อีทึกตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ สายตาอาฆาตส่งกลับไปให้แต่ฮันกยองแต่เพียงผู้เดียว ราวกับหญิงสาวไม่ได้มีตัวตนอยู่ในที่นี้
“ฮันคะ. .ยุนอาไม่เคยว่าเลยฮันเลยนะคะ ที่ฮันจะเอาผู้หญิงมานอนกก แต่นี้มันผู้ชายนะคะฮัน!! !” เสียงหวานเอ่ยอย่างตัดพ้อ หวังให้คนฟังง้อเขาสักนิด แต่ก็คิดผิดเมื่อฮันกยอง แกะมือของเธอออกจากแขนแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจ
ปัง ง ง !!! ~!
ทิ้งทั้งสองร่างบางเอาไว้ภายในห้องกันตามลำพัง ก่อนที่ยุนอาจะเปิดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น!! นึกไม่ถูกชะตาอย่างแรงกับคนตรงหน้า . .สวย หล่อนก็สวยกว่า!! ทำไมฮันต้องทำเหมือนแคร์มันมากขนาดนั้น! คิดแล้วก็แค้นนัก!!
“นี่นายน่ะ!! . . . .หน้าตาก็ติ๋มๆ เอาส่วนไหนไปล่อฮันล่ะ!”
“ก็คง. . คล้ายๆ กับเธอที่เอาส่วนนั้นมาล่อเขาล่ะมั้ง ง” อีทึกตอบหน้าตาย เขาไม่แคร์สักนิดกับผู้หญิงคนนี้ ในใจคิดแต่เรื่องของฮันกยองเพียงเท่านั้น น
“ปากดีนักนะ!! มาลองโดนสักทีดีมั้ย!!!!” ยุนอาไม่ว่าเปล่า กางมือหมายจะฟาดลงไปบนใบหน้าเรียวนั้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอีทึกก็ไม่ได้โต้ตอบ หรือตั้งรับแต่อย่างใด ยืนนิ่งให้อารมณ์โมโหของอีกฝ่ายปะทุหนักขึ้นกว่าเดิม
แอ๊ดด ด!! !
“ยุนอา!! เธอเข้ามาทำอะไรในนี่!” เสียงที่ทรงพลังอำนาจเอ่ยพร้อมกับถลาร่างสูงนั้นเข้ามาขวางระหว่างร่างบางของหญิงสาว กับร่างบางของชายหนุ่ม
“ก็นังนี่...!!”
“เรียกจองซูว่านังนี่ได้ยังไง!!!! มีมารยาทหน่อย!” คำพูดที่ทำให้ยุนอากระฟัดกระเฟียด แล้วเดินออกนอกห้องไปในที่สุด ทำเอาอีทึกกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ ...เล่นกับใคร ให้มันรู้ซะบ้าง
“จองซูเป็นอะไรรึเปล่า ยุนอาทำอะไรคุณมั้ย? ??” ชีวอนเข้ามาสำรวจร่างกายของคนตาสวยอย่างใกล้ชิด จับร่างเล็กหันซ้ายขวา กวาดสายตามองรอบร่างกายบาง จนชนิดที่เรียกได้ว่าทุกรูขุมขน
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะ ที่มาช่วยไว้ได้ทัน”
“ครับ” ชีวอนรีบปรี่ไปเลื่อนเก้าอี้มารองรับอีทึก พลางสังเกตต่อไป จนมาถึง ง. .
“จองซู ปากคุณบวมๆ ยุนอาทำอะไรคุณรึเปล่าครับ” อีทึกถึงกับนัยน์ตาเบิกกว้างกับคำถาม พลางยกนิ้วขึ้นสัมผัสริมฝีปากของตนเอง ลูบไล้เบาๆ รู้สึกได้เลยว่าบวมขึ้นจริงๆ
...อีทึกเอ๊ย!! แกนี่มันจริงๆ เล้ยย ย!! จะเสียเรื่องแล้วมั้ยนั่น
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมว่า. .เรามาคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า า”
“จองซูอยากคุยเรื่องอะไรล่ะครับ” ชีวอนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั้นเข้าใกล้อีทึก
“ผมแค่อยากรู้ว่าคนอย่างชีวอนน่ะ. . .” ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนตักแกร่งของคนตรงข้ามที่บัดนี้ แม้แต่สันจมูกก็ยังห่างกันไม่ถึงเซน รอยยิ้มบางปรายออกมาให้อีกคนเห็นอย่างใกล้ๆ แล้วกระซิบเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน “. .มีคนรู้ใจรึยังครับ”
“ถ้าผมบอกว่าไม่. . จองซูจะรับอาสาดูแลหัวใจผมรึเปล่าล่ะครับ”
...เข้าทางแล้วไง
“ตกลงครับ” ไม่ต้องรอให้คำถามยืดเยื้อย อีทึกรีบตอบคำถามในทันใด ชีวอนยกยิ้มกว้าง ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ โดยมีใบหน้าหวานที่ทำตามเช่นกัน ริมฝีปากที่เหลือความห่างกันไม่ถึง10 มิล ก็ยิ่งขยับเข้าใกล้กันขึ้นเรื่อย ก่อน. .
อั๊กกกกกกก!! ! ! ! ! ! !!!
“อ๊ะ!!...จองซูทำอะไร” ชีวอนผละตัวออกจากร่างเล็กที่อยู่ๆ ก็ฟันศอกใส่เขาเฉย ทั้งๆ ที่เมื่อสักครู่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยไม่ใช่รึไง? ?? สายตาของคนตัวสูงมีแต่ความงง แต่สายตาสวยเชื่อมใบนี้มีแต่ความไม่พอใจ
“พูดมาได้ว่าไม่มีแฟน!!! รู้มั้ยถ้าเพื่อนฉันมาได้ยินเข้าจะรู้สึกยังไง!!!” อีทึกตะโกนใส่หน้าชีวอนที่งงแตกไปเป็นที่เรียบร้อย เพื่อน ? ??. . อีทึกหยิบบางสิ่งบางอย่างขึ้นออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดวนให้ซีวอนฟังอีกครั้ง เพื่อคลายความสงสัยให้ชีวอน
“ผมแค่อยากรู้ว่าคนอย่างชีวอนน่ะ. . . . . . . . มีคนรู้ใจรึยังครับ”
“ถ้าผมบอกว่าไม่ จองซูจะรับอาสาดูแลหัวใจผมรึเปล่าล่ะครับ”
ชีวอนได้ฟังแล้วก็ยังงงค้างอยู่ จะอัดไว้เพื่ออะไร? ?? แล้วเพื่อนของจองซูคือใครกัน? เมื่อเห็นชีวอนยังทำหน้าตางงงวยอยู่อีทึกก็เลยชี้แจงให้กระจ่าง
“อ๊ะ! ! แนะนำตัวอีกครั้งก็แล้วกัน ฉันปาร์คจองซู หรือเรียกว่าอีทึกก็ได้” ชีวอนเบิกตาขึ้นกว้าง
“อีทึก!!”
“ใช่!! ก็อีทึกเพื่อนของฮีชอล แฟนสุดที่รักของนายไงล่ะ!!! ” อีทึกโมโหไม่หาย ถึงแม้ว่าชีวอนจะเพิ่งเคยเห็นหน้าเขาเป็นครั้งแรกแต่ฮีชอลก็คอยเล่าเรื่องของเขาในนามอีทึก ให้ชีวอนฟังอยู่ตลอดเวลา
“อ๊ะ!! . .แล้วคุณชายชีวอนจะทำยังไงดี ? ?? ถ้าเทปอันนี้ตกไปอยู่ในมือของฮีชอล” คนหน้าหวานพูดด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ ชีวอนเสียวสันหลังวาบ คนนี้ๆ . .เปลี่ยนไปเป็นคนละคน คิดไปพลางมองหน้าคนตั้งคำถามไป . .ฮีชอลรู้คงไม่ดีแน่! แม้นิสัยเขาจะเหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วๆ ไปที่หวั่นไหวไปกับรูปร่างและหน้าตาภายนอก แต่ความรู้สึกที่มีต่อฮีชอลก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ . .ที่หนึ่งของหัวใจ
“ต้องการอะไร” คำถามที่ทำให้อีทึกเดินเข้าใกล้ ก่อนจะก้มใบหน้าหวานลงเรื่อย จนริมฝีปากบางๆ อยู่ในระดับหูพอดี คำกระซิบเสียงอ่อนถูกส่งออกมา
“. .แค่อยากให้นายเป็นตัวหมากให้ก็เท่านั้น”
ความคิดเห็น