ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    +.*[AnGel's Wrath]*.+ -*Super Junior Yaoi*- HANTEUK !!~!

    ลำดับตอนที่ #6 : Angel's Story * 5 :: วันวานอันแสนหวาน อดีตแสนระทม

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 52


     

     

     

     

                คืนวันที่แสนสุขนั้น อีกนานแค่ไหนที่จะเสียมันไป จะมีวันนั้นมั้ย ใครกันเล่าจะตอบได้ สิ่งสำคัญก็คือ รักษาสิ่งสำคัญของเราตอนนี้ให้ดีที่สุดเป็นพอ

     

    จากครอบครัว. . .กลายเป็นความเดียวดาย

    จากรอยยิ้ม. . .กลายเป็นเกล็ดน้ำตา

    ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้. . .กลับเป็นความเคียดแค้นจงเกลียดจงชัง

     

     

     

    มาแต่เช้าเลยนะคะ คุณฮันกยอง หญิงชราวัน 60 ประจำบ้าน เอ่ยทักบุรุษผู้เดินเข้าธรณีประตูบ้านมา

     

    นม สวัสดีครับ ฮันกยองก้มตัวลงนิดหน่อยเป็นการทักทาย

     

    คุณหนูโบอาเพิ่งตื่นน่ะค่ะ นั่งรอสักแปปล่ะกัน นมจะไปทำอาหารเช้าก่อน จะรับอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ

     

    ไม่ล่ะครับ แม่นมคนสวยยิ้มน้อยๆ แล้วเดินจากไป ทิ้งให้บุรุษหนุ่มรูปงามต้องนั่งอยู่คนเดียวปล่าวเปลี่ยวใจ ฮันกยองจึงเลือกที่จะหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ มานั่งไขว่ห้างอ่านเพื่อความเท่ห์ (-_-)

     

    ก็นึกว่าใครที่ไหนมานั่งกางหนังสือพิมพ์กลับหัวอ่าน ทึ่มจริงๆ เล้ย เสียงที่ดังมาจากด้านหน้าที่โดนหนังสือพิมพ์กลับหัวบังอยู่ ฮันกยองจึงลดหนังสือพิมพ์ลงเพื่อให้ได้เห็นหน้าค่าตา

     

    พี่ฮานึล

     

    อะไรยะ! ว่าแต่มาทำอะไรแต่เช้าในวันเปิดเรียนเช่นนี้กันหึ๊ พ่อหนุ่ม!” ฮานึลแกล้งยีหัวเด็กหนุ่มผู้เป็นเหมือนน้องชายของเขา

     

    ก็มารับแฟนผมไปโรงเรียนน่ะสิ

     

    นี่แกเมาตดรึเปล่าเนี่ย มหาลัยเค้าเปิดอาทิตย์หน้าย่ะ!!”

     

    อ้าว เหรอ แต่เมื่อวานผมบอกเค้าว่าวันนี้จะมารับไปโรงเรียนตอนเช้า เค้าก็ไม่เห็นพูดอะไร แถมยังยิ้มอีกต่างหาก ฮานึลหัวเราะเบาๆ

     

    โดนหลอกแล้วล่ะ ไอ้น้องชาย ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...

     

    ฮานึลหัวเราะอย่างสะใจในอารมณ์ ส่วนอีกคนเปลี่ยนโหมดเป็นมาดนิ่งเรียบร้อย เพราะงงที่ตัวเองโดนหลอก

     

     

     

     

     

     

    อ้าว ฮันกยอง อรุณสวัสดิ์ มาทำอะไรแต่เช้าน่ะ ร่างบางที่วิ่งลงมาจากบันไดพร้อมกระเป๋าเรียนภายในมือ เรียกสายตาทั้งคู่ขึ้นไปมอง

     

    อรุณสวัสดิ์ อีทึก วันนี้น่ารักเหมือนเดิมเลยนะ ฮันกยองชมร่างเล็กที่ปอยผมเริ่มหลุดออกจากระจุกเล็กๆ ที่มัดไว้ เหงื่อเม็ดน้อยๆ เริ่มล่วงตามใบหน้า คนถูกชมหน้าขึ้นสีระเรื่อ อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยที่วิ่งลงมา รึอาจจะเป็นคำพูดที่หลุดออกมาจากคนตัวสูงกันแน่

     

    มันแน่นอนอยู่แล้ว!~ พี่ฮานึลฮะคิบอมยังไม่มาอีกเหรอ คนตาสวยหันไปถามพี่สาวตนเองที่ยืนยิ้มหน้าบาน

     

    ยะ..

     

    พี่อีทึก!!!!! เสร็จยัง!!!!! ผมมารับแล้ว!!!!” ยังไม่ทันที่ฮานึลจะตอบอะไร ก็มีเสียงหล่อตะโกนดังขึ้นมาจากประตูรั้วหน้าบ้าน ที่ไกลจากตัวบ้านมากๆ (-O-)

     

    คิบอมมาแล้ว ผมไปก่อนนะฮะ คนหน้าหวานเดินหายเข้าไปในห้องครัว แล้วกลับออกมาภายในเสี้ยววินาทีพร้อมขนมปังแผ่นหนึ่งคาบไว้ในปาก วิ่งผ่านหน้าฮันกยองไปแ แล้วหันกลับมายิ้มให้เล็กน้อย ไออ่อนอ๊ะ อายย (ไปก่อนนะ บายย) จนคนสวยลับสายตาไปคนหล่อจึงหันมามองฮานึงขึ้นลงเพื่อสำรวจร่างกาย

     

    พี่ฮานึลฮะ ไม่ไปโรงเรียนเหรอ

     

    เออ..ใช่! เกือบลืมแล้วนะเนี่ย  ขอบใจไอ้น้องที่เตือน เมื่อนึกขึ้นได้ก็วิ่งปรู๊ดดดขึ้นบันไดไปอย่างทันด่วน โดยมีเสียงไล่หลังขึ้นมา

     

    เร็วๆ นะ ผมรออยู่

     

    อ้าว..  รอ...รอทำไม?

     

    ไม่ต้องมาทำหน้าเหมือนคนแก่งง ผมกับพี่อยู่โรงเรียนเดียวกันไม่ใช่รึไง ไปเร็วดิ อีก20 นาที เค้าจะปิดประตูโรงเรียนแล้วนะ คนตัวสูงพูดยิ้มๆ ฮานึลที่ยืนฟังอยู่หน้าแดงแปร๋ดดด แล้วรีบวิ่งขึ้นต่อไป เมื่อนึกถึงเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด

     

    ...นายจะทำให้ฉันชอบนายไปถึงไหนนะ  ฮันกยอง

     

     

     

     

     

     

    ปิ๊ง ป๊อง ปิ๊ง ป๊อง  (ออดเลิกเรียน -_-)

     

    เด็กหมู่มากต่างทยอยกันกลับบ้าน รึไม่ก่อนไปเที่ยวเล่นกันตามประสาหนุ่มสาววัยรุ่น บางส่วนอยู่ทำความสะอาดห้องเนื่องจากมีเวร (เอ๊ย!! เป็นเวณทำความสะอาด) และรวมถึง ปาร์ค ฮานึล พี่สาวแสนสวยของ อีทึกด้วย

     

    เฮ้อ~ กรุเป็นซินเดอเรลล่ารึคนใช้ฟร่ะเนี่ย!! หายหัวไปกันหมดเลย ไอ้เพื่อนทั้งหลาย!~” ปากก็บ่นไป มือก็กวาดพื้นห้องไป ช่างเป็นบรรยากาศที่ดีอะไรเยี่ยงนี้ -  -*

     

    อ่ะ..แฮ่มๆๆๆ เสียงไอหล่อดังมาจากประตู ซึ่งนั่นก็เรียกนัยน์ตาสวยที่มองอยู่แต่กับเศษฝุ่นบนพื้นให้หันมามอง

     

    ไม่ทราบว่าบาทาของดิชั้นไปติดคอรึไง!! ฮันกยอง!” เหมือนกับจะด่า แต่ปากเรียวกลับยิ้มในการปรากฎตัวของคนตัวสูง

     

    แหม...พี่ฮานึลอ่ะ แรงนะเนี่ย ผมอุตส่าห์จะมารับกลับบ้าน ฮันกยองทำสีหน้าสลด

     

    เหมือนชั้นขอร้องให้มารับอย่างนั้นแหละ อ๊ะ!!...ฮันกยองนายจะทำอะไรหน่ะ ฮานึลทักยามเห็นคนตัวสูงเดินย่างกรายเข้ามาใกล้  สายตาประหลาดที่หญิงสาวไม่เคยเห็นปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อ

     

    แกร๊งงงงง ง !!

     

    ไม้กวาดที่มีขนประปรายบ่งบอกสภาพการใช้งานมาเป็นอย่างดี ล่วงลงกับพื้นห้องตามค่าg (-_-*) ยามที่สองร่างใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน คนหนึ่งตื่นตะหนกกับการกระทำเช่นนี้ อีกหนึ่งใบหน้านิ่งเรียบเฉย

     

    ใบหน้าคมหล่อเหลาโน้มเข้าใกล้ใบหน้าเรียวสลวย ลมหายใจอุ่นพาดผ่านแก้มใสไปทางด้านหลัง จุดมุ่งหมายของมัน...ใบหู...

     

    พี่ฮะ...พี่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เหรอ ใบหน้าสวยแดงระเรื่อเพราะความอาย หรือเพราะคิดอะไรเกินเลยกับคำกระซิบที่เอ่ยบอก ฮันกยองยังคงนิ่ง นัยน์ตาทั้งสองสบกันเพียงชั่วครู่เดียว ก่อนที่ฮานึลจะผละออกเพราะทนต่อแรงความจริงจังที่ส่งผ่านสายตาคมมามิได้

     

    ฉะ...ฉันจะไปรู้ได้ยังไง!!” ปากก็เอ่ยตอบไปทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าร่างสูงนั้นพูดถึงเรื่องอะไร มือเรียวผละอกคนตรงหน้าออก แต่ก็ถูกมือหนาข้างหนึ่งจับมือทั้งสองเอาไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งขึ้นมาจับบริเวณใบหน้าได้รูป

     

    พี่ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าผม................................ชอบพี่ ดวงตากลมโตไม่แพ้น้องชายเบิกกว้าง คำพูดที่ตนเองอยากได้ยินภายในใจลึกๆ แม้จะเป็นคำพูดที่ทำให้เจ็บกันหลายฝ่าย แต่มันคือ 1 ในใจที่อยากได้ยิน

     

    พะ..พูดอะไรไร้สาระ! นายมีพี่โบอาอยู่แล้วนะ!” ฮานึลพยายามจะถอยห่างเจ้าคนที่เป็นเหมือนน้องชาย แต่มือหนาก็เสมือนมือปลาหมึกเข้าโอบรอบเอวบางกระตุกให้เข้ามาประชิดตัว

     

    ไร้สาระงั้นเรอะ...งั้นพี่จะปฏิเสธเหรอว่าพี่ก็ชอบผมเหมือนกัน สิ้นคำถาม ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงัน ตะวันเริ่มคล้อยลง ท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีส้มแดง แสงที่ส่งผ่านเข้ามาในห้องนั้นช่างมืดสลัว บรรยากาศช่างเป็นใจให้สองร่างกายเลื่อนใบหน้าเข้าหากันประหนึ่งมีอำนาจแม่เหล็กบางๆ ยึดขั้วเหนือกับขั้วใต้เอาไว้

     

    ริมฝีปากจรดกันบางเบา ความอ่อนละมุน นุ่มลึก ไหลผ่านริมฝีปากส่งต่อถึงกันและกัน สองร่างกอดกันแนบแน่น เวลานานผ่านไปเท่าไหร่หาทราบได้ไม่ แต่ทั้งสองยังคงไม่ผละจากกัน ตะวันถูกกลืนกิน ดวงจันทร์ย่างกรายขึ้นสู่ท้องฟ้า (นานเว่อร์ -_-^^ แต่เพื่อความสวยของคำ ^^)

     

    ยอ กิ กา จิ ยา  คือ จือ มา มยอน ดเวท ซอ .... (The Girl Is Mine.)

     

    จนในที่สุด สิ่งที่ทำให้ทั้งสองผละออกจากกันคือ เสียงโทรศัพท์ของคนตัวสูงภายในกระเป๋ากางเกง สติทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่อยู่กับตัว บัดนี้ได้กลับคืนมาดังเดิม ฮานึลจับปากตัวเองเล็กน้อย ...เคลิ้มหนัก!... ความคิดเดียวที่เข้ามาในตอนนี้

     

    ผมขอโทษ ใบหน้าสลด บวกกับเสียงทุ้มอ่อนที่เอื้อนเอ่ยคำขอโทษ ทำให้คนที่เตรียมจะโกรธใจอ่อน  คนตัวสูงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาแล้วจัดการรับทันที

     

    ครับ...ผมกำลังจะกลับ............พี่ฮะ...ผมมีเรื่องจะคุยด้วย...........ครับ  ...เดี๋ยวผมไปรับพี่ที่บ้านนะ...บ๊ายบายครับ ทุกคำพูดที่พูดกับคนปลายสายออกไป ถูกประมวลผลโดนหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ และผลการประมวลคนที่โทรฯ มาคงไม่ใช่ใครที่ไหน ...พี่โบอา... แล้วเรื่องที่จะคุย.....

     

    ฮันกยอง!! นายจะคุยเรื่องอะไรกับพี่โบอา!”

     

    พี่ก็น่าจะรู้...ผมไปก่อนนะ พี่จะกลับบ้านเลยมั้ย ฮันกยองถามและพยายามสบตากับฮานึล แต่อีกฝ่ายกลับมองผ่านเลยไป

     

    นายกลับไปก่อนเถอะ  ว่าเสร็จแล้วก็ก้มตัวลงเก็บไม้กวาดที่ตนเองทำร่วงลงไปก่อนหน้านี้

     

    พี่ไม่ต้องคิดอะไรมาก  ทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของพี่ และแล้วคนตัวสูงที่ทำหัวใจฮานึลปั่นป่วนก็เดินออกจากห้องไป เหลือก็เพียงแต่หญิงสาวภายในห้องที่อาบไปด้วยแสงจันทร์

     

    ...ไม่ใช่ความผิดของฉันงั้นเหรอ   แล้วมันความผิดใครกันล่ะ?

     

     

     

     

     

    -สวนสนุก-

     

    นี่ๆๆๆ  ฮีชอล หนีมาเที่ยวตอนกลางคืนไม่บอกใครแบบนี้มันจะดีเหรอ คนหน้าหวานพูดขึ้น เมื่อมาถึงที่หมายของทั้งสองแล้ว

     

    ดีสิ! โตๆ กันแล้ว  ไม่เป็นไรหรอกหน่า  คืนนี้นายก็นอนบ้านชั้น ถ้าพี่โบอาหรือพี่ฮานึลโทรมาก็บอกว่าติวหนังสือกับชั้นอยู่ที่บ้าน แค่นั้นเอง ไม่เห็นยาก คนถูกถามเดินเข้าใกล้คนถามแล้วกอดคอไว้ หอมไปที่แก้มเบาๆ ทีเผลอ โทษฐานที่ทำตัวน่ารัก น่าหยิก >.<

     

    ฮีชอล! ทำไรเป็นเด็กๆ ไปได้ นี่ที่สาธารณะนะ!” คนตัวเล็กกว่าหันมาดุ

     

    ถ้าไม่ใช่ที่สาธารณะก็ทำได้ใช่มั้ย....ทึกกี้น่ารักชะมัด!!!” และแล้วมือบางของฮีชอลก็หยิกแก้มนิ่มไปอีก สรุป คนหน้าหวานก็เป็นตุ๊กตาให้เจ้าหญิงคนสวยฟัดเพราะความน่ารัก ไร้เดียงสาของตนเองนั่นแหละ

     

    ออ จอล ซู กา ออบ ซอ โย อา มู กอท โต้ มต ทา โก (The One I Love)

     

    ยังไม่ทันที่อีทึกจะได้หันไปว่าอะไรเพื่อนรัก โทรศัพท์เครื่องบางในกระเป๋าก็ดังขึ้น เจ้าตัวจึงต้องรับ แล้วส่งสายตาอาฆาตไปให้ฮีชอล

     

    พี่ฮานึลมีอะไรครับ

     

    (อีทึกกลับถึงบ้านรึยัง?)  เสียงปลายสายดูไม่ค่อยร่าเริงเหมือนปกตินัก ปกติพี่ฮานึลจะร่าเริงตลอดเลยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมวันนี้...

     

    ยังครับ วันนี้ผมว่าจะนอนบ้านฮีชอลเลย ขอโทษนะฮะที่ไม่ได้บอกตั้งแต่แรก

     

    (ไม่เป็นไร.............)

     

    พี่ฮะ วันนี้พี่เป็นอะไรรึเปล่า  น้ำเสียงไม่ค่อยดีเลย เมื่อปลายสายทิ้งช่วงการพูดนานเกินไป อีทึกจึงต้องเอ่ยถามถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

     

    (อีทึก..) หญิงสาวเรียกชื่อน้องชายสุดที่รักเบาๆ

     

    ครับ

     

    (วันนี้ฮันกยองมาบอกชอบพี่....พี่ไม่รู้จะทำไงดี ...พี่จูบกับเค้าไปแล้ว...............แล้ววันนี้เค้าก็นัดพี่โบอาออกไปข้างนอก....)   ฮันกยอง!!! …กับพี่ฮานึล!!! ...

     

    พี่ฮะ  พี่ไม่ต้องคิดไรมากนะ ฮันกยองเค้าอาจจะแค่ล้อเล่นก็ได้  แต่...ถึงขั้นจูบ คงไม่แค่เรื่องล้อเล่นแล้วล่ะ...

     

    (อีทึก..พะ..พี่กลัว....พี่ไม่อยากให้พี่โบอาเสียใจเพราะพี่ อึก...ฮือ.)

     

    พี่ฮะ เชื่อผมเถอะ ไม่มีอะไรหรอกนะฮะ!  ใจเย็นไว้ก่อนคนตัวเล็กพยายามสรรค์หาคำพูดดีๆ ปลอบพี่สาว ดูเหมือนว่าจะได้ผลแค่เพียงเล็กน้อย เมื่อปลายทางเลือกที่จะเงียบไปนานพอสมควร

     

    (อื้มมมม...งั้นแค่นี้ก่อนนะ  พี่อยากอยู่คนเดียวซักพัก)

     

    ปิ๊บบบบบบบ !!

     

    ไม่รอให้อีทึกได้ตอบอะไร ฮานึลตัดสายทิ้งไปเสียก่อน  ฮีชอลเดินเข้ามาใกล้หลังจากที่อีทึกนำโทรศัพท์ออกจากใบหู

     

    มีอะไรรึเปล่า สังเกตได้จากที่เพื่อนคนหน้าหวาน ไม่หันมาหลังจากที่เค้าเอามือไปตบบนบ่า คงจะมีเรื่องอะไรสักอย่าง

     

    มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ว่าแล้วก็หันกลับมายิ้มอย่างที่เจ้าตัวเคยทำอยู่บ่อยครั้ง

     

    ...อีทึก เมื่อไหร่นายจะบอกทุกเรื่องที่นายมีปัญหาให้ฉันฟังสักทีนะ  ฉันไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยเหรอ  นายถึงไม่ระบายเรื่องที่นายเครียดให้ฉันฟัง

     

    ขอโทษนะ ฮีชอล  กลับบ้านกันเถอะ

     

    ได้  แต่ถ้ามาคราวหน้านายต้องเลี้ยงค่าเข้าฉันนะ คนหน้าสวยขยี้หัวเพื่อนรักเบาๆ ส่งผ่านกำลังใจไปให้ แม้ไม่ได้พูดออกมา แต่เชื่อว่าเพื่อนต้องได้รับ

     

    อื้มม

     

    ออ จอล ซู กา ออบ ซอ โย อา มู กอท โต้ มต ทา โก (The One I Love)

     

    ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเดินออกไปจากตรงที่คุยโทรศัพท์เมื่อสักครู่สายใหม่ก็ดังเข้ามา คนหน้าหวานกดรับในทันใด

     

    ว่าไง คิบอม...

     

    พี่อีทึก!!! แย่แล้วพี่โบอาโดนรถชน อยู่ตรงปากซะ...

     

    อะไรนะ!!!!!!!!!!! ! !! !!! ! !!!”  เสียงตะโกนดังทำให้คนแถวนั้นหันมามองกันเป็นทิวแถว แต่คนที่ตกใจมากที่สุดคงไม่พ้นผู้ตะโกน ฮีชอลหันมองขวับ ความตกใจน่ะมีไม่มากหรอกแต่เป็นห่วงสภาพจิตใจคนหน้าหวานข้างๆมากกว่า

     

    (พี่โบอาถูกรถชน...) ถูกรถชน! ชนได้ยังไง?.. ออกไปกับฮันกยองไม่ใช่รึ.. แต่ปัญหานั้นค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้สิ่งที่เป็นห่วงกลับเป็นสิ่งที่พี่สาวคนรองกลัว

     

    คิบอม! ห้ามบอกพี่ฮานึลนะ

     

    (ไม่ได้หรอกพี่)  อีทึกอึ้ง รึว่า! คิบอมโทรบอกฮานึลก่อนบอกเค้า (พี่ฮานึลเค้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย) ร่างกายมันชาไปชั่วขณะ

     

    คิบอม!! ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลอะไร

     

    (โรงพยาบาล.. พี่รีบมานะฮะ พี่ฮานึลเค้านั่งร้องไห้ใหญ่เลย)

     

    อื้มมม สิ้นคำพูดของตนเอง มือบางกดวางสายลง แขนเรียวทิ้งดิ่งลงข้างกาย ขาทั้งสองไร้ซึ่งแรงที่จะมาช่วยพยุงร่างกาย ถ้าไม่ได้ฮีชอลมารับร่างบางไว้ได้ทันพอดี คงเจ็บตัวมิใช่น้อย

     

    อีทึก!!” หยาดน้ำใสหลั่งรินจากนัยน์ตาหวาน

     

    ฮะ..ฮีชอล พี่โบอาถูกรถชน ร่างเล็กกอดเพื่อนตนเองไว้แนบแน่น และมือบางของฮีชอลก็ลูบผมอีทึกไปมา ไม่ใช้เค้าไม่ตกใจที่พี่โบอาถูกรถชน แต่ถ้าเค้าตระหนกไปด้วย เพื่อนรักของเค้าคงเสียใจมากกว่าเดิม

     

    อีทึกนายนั่งรอตรงนี้ก่อนนะ ฉันไปเรียกแท็กซี่ให้ คนหน้าสวยพาคนหน้าหวานที่บัดนี้ดวงตาทั้งสองข้างหลงเหลือเพียงแค่หยาดน้ำตา ออกมาภายด้านนอกสวนสนุก  แล้วให้อีทึกนั่งตรงม้านั่งริมทางก่อน

     

    ไม่นานทั้งสองก็ออกจากด้านหน้าของสวนสนุก เพื่อมุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล... คนตาหวานเหม่อมองออกไปนอกกระจก ทัศนียภาพของเมืองในตอนกลางคืนใช่ว่าจะไม่สวยจับตาแต่ผู้ที่มองนั้นกลับไม่มีอารมณ์ตามไปด้วย ในหัวมีแต่เรื่องพี่สาวทั้งสองอย่างเดียวเท่านั้น

     

    ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลที่คิบอมบอกได้ สี่ขาเรียวของสองคนสวยเดินประหนึ่งวิ่งเข้ามาภายใน จนเจอคิบอมที่นั่งก้มหน้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ที่ไร้แววของอีกคน ....พี่ฮานึล...

     

    คิบอม. อีทึกเรียกชื่อน้องชายเบาๆ คนหล่อยกใบหน้าที่มีน้ำตาเกาะอยู่บริเวณหางตาขึ้นมา อีทึกและฮีชอลมองอย่างงงงวย

     

    พี่ฮานึลล่ะ?..พี่โบอาเป็นยังไงบ้าง.. คิบอมเงียบไปซักพัก ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งสองใจเสียไปแล้วกว่าครึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมา

     

    คุณหมอช่วยพี่โบอาไว้ไม่ได้.. . . . .ส่วนพี่ฮานึลพอฟังหมอเสร็จก็บอกว่าจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวนึง บอกว่าฝากเรื่องพี่โบอาให้พี่อีทึกจัดการ เข่าทรุดเป็นรอบที่สองของวัน ..พี่โบอาจากเค้าไปแล้ว.. น้ำตาที่เหมือนจะหยุดไหลไปแล้ว บัดนี้ได้ทะลักออกมาจากตาคู่สวยอีกครา

     

    ทึกกี้!!/พี่อีทึก!!” สองร่างถลาเข้าไปที่อีทึกที่นั่งขาพับอยู่ คิบอมกอดพี่ตาสวยไว้ โดยมีฮีชอลลูบหัวและหลังเป็นการให้กำลังใจไปด้วย

     

     

     

     

     

     

    ในทางเดียวกันฮานึลที่ออกมาจากโรงพยาบาล ก็มาที่พับชื่อดังแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวงหญิงสาวซดไปแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ หยาดน้ำผสมแอลกอฮอล์แก้วแล้วแก้วเหล่าถูกส่งลงในคอสวย ปริมาณน้ำเมาที่ดื่มเข้าไปกับน้ำในตาที่ไหลออกมาอย่างไม่อายใครช่างสมดุลกันไม่ขาดไม่เกิน สติที่เคยมีถูกกัดกร่อนไปด้วยฤทธิ์จของแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ภายใน

     

    เหมือนว่าหญิงสาวจะรับรู้แล้วว่ากินเข้าไปมันก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นมา จึงเลือกที่จะเดินโงนเงนไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายตังค์ ระหว่างทางนั้นสายตาของชายหนุ่มหลายคนต่างจับจ้องมาที่ร่างสวย (ที่น้อยกว่าน้องชายนิ๊สสส) อย่างไม่วางสายตา

     

    ฮานึลเดินออกมาด้านนอกของผับแล้วยืนรอแท็กซี่ ตอนนี้เป็นเวลาที่นักท่องราตรีหลายคนกำลังสนุกสนานอยู่ภายในสถานบันเทิงใจหลายหลากในย่านนี้ จึงไม่แปลกที่จะไม่มีผู้คนอยู่แถวนี้

     

    อ๊ะ...พวกนายเป็นครายยยเนี่ยยยย ฮานึลทักด้วยความเมาเมื่อมีกลุ่มคนหน้าตาเถื่อนเดินเข้ามาล้อมเธอไว้ประมาณ 1..2..3..4..5...1..2..3..4..5..6...1..2..3..4 เฮ้ย!! ทำไมนับตั้งหลายครั้งมันไม่เท่ากันเลย  อ้าว...แล้วไอ้นี้ทำไมมันแยกร่างได้ล่ะ..เอิ๊กกกส์

     

    พวกฉันเหรอ กลุ่มคนที่หล่อที่สุดในย่านนี้ไงล่ะ!! ไปต่อกันด้วยกันมั้ยน้องสาวหนึ่งในกลุ่มนั้นตอบ และก็เป็นคนเดียงกับที่เอามือมาสัมผัสหน้าหญิงสาวด้วย ฮานึลเบี่ยงหน้าหนีมือสกปรกนั้น แล้วยิ้มแสยะ

     

    ถ้าพวกนายยยหล่อในโลกนี้ก็ม่ายยยมีครายยยยทุเรศแล้วว!” ฮานึลตะโกนใส่หน้าคนที่หน้าจะเป็นหัวหน้าของพวกหน้าเถื่อนนั้น และใครที่ไหนกันเล่าที่จะทนได้ยามาเมื่อมีคนมาตะโกนใส่หน้า

     

    ปากดีนัก มานี่เลย!!~” มือสากจับข้อมือทั้งสองข้างแล้วออกแรงลาก ซ้ำทั้งยังมีแรงผลักดันจากคณะอีก 4 คนที่คุมอยู่

     

    แกจะพาฉันไปไหน!!!! ไอ้พวกหน้าปลาหมึกหลากสี!!” แล้วมีหรือที่คนสวยจะยอม ตะโกนโวยวายโวกเวกประท้วงการกระทำแทนการสะบัดข้อมือที่พยายามเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้รัดแน่นเข้าไปอีก

     

    อุ๊บบบ..เมื่อทนไม่ไหว หัวหน้าของกลุ่มที่หน้าตาประหนึ่งปลาหมึกหลากสีก็ต่อยหนักๆ ไปที่ท้องของหญิงสาว ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างสวยจุกและสติลดลงกว่าเดิมเกินครึ่ง

     

    เงียบๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย เดี๋ยวจะทำให้รู้ว่าสวรรค์น่ะมันเป็นยังไง ว่าแล้วก็แบกร่างที่ไร้ซึ่งสติไปแล้วเข้าไปในมุมมือ พร้อมกับพรรคพวกที่เดินตามกันเป็นขบวน

     

     

     

     

     

     

     

    และในขณะเดียวกันนั่นเอง ฮันกยองที่ผละออกมาจากโบอาเนื่องจากเจ้าตัวบอกเค้าว่าอยากเดินกลับบ้านเอง ได้ขับรถมาที่สถานเริงรมย์อันเริ่ดหรู แต่เจ้าตัวนั้นกลับเห็นอะไรผิดแปลกจากที่เคยเป็น

     

    อันทพาลจำนวนไม่น้อย เฮ้วๆ กันบริเวณหลืบมืด เนื่องด้วยเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็น -*- จึงเลือกที่จะลงจากรถแล้วตะโกน

     

    เฮ้ย!!!!!!!!!~ ตำรวจมา!!!! หนีเร็ว!!!! !!” คนตัวสูงทำตัวเนียนไปอยู่ด้านหลังพวกนั้นแล้วทำท่าหนีคนแรก และกลุ่มนั้นเมื่อได้ยิน จึงเลือกที่จะวิ่งกระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง

     

    พวกกลุ่มอันทพาลทิ้งสิ่งที่ตัวเองกำลังจะกระทำไว้เบื้องหลัง แล้วใส่ตีนหมากันไป และสิ่งที่ทิ้งไว้นั้นทำเอาน้ำตาของชายหนุ่มที่ไม่เคยมีรั่งริน

     

    พี่ฮานึล . . . สภาพหญิงสาวแทบจะดูไม่ได้ เสื้อผ้านักเรียนที่เคยใส่ ถูกฉีกขาดจนเห็นไปถึงผิวขาวๆ ที่มีรอยแดงของการฝากรักไปทั่วทุกจุด น้ำตาไหลเป็นสายออกจากตาหวานไม่ขาดสาย ร่างทั้งร่างเหมือนถูกฉีดขาด เลือดสีสดไหลออกมาจากช่องทางรักที่เหมือนจะถูกสอดใส่อย่างไม่ยั้ง

     

    ฮันกยองทนดูสภาพคนรักต่อไปไม่ไหว พุ่งตัวเข้าไปแล้วถอดเสื้อสูทนักเรียนตัวนอกคลุมตัวหญิงสาว แล้วพาออกจากทางนั้นอย่างทันที

     

    ยอ กิ กา จิ ยา  คือ จือ มา มยอน ดเวท ซอ .... (The Girl Is Mine.)

     

    เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าฮันคยองที่ขับรถอยู่ดังขึ้น คนตัวสูงต้องควักออกมารับ แต่มิวายมองไปยังกระจกหลัง เพื่อมองร่างที่นอนไม่รู้สึกตัว

     

    หวัดดีคับ!!....อะไรนะครับ!!!!  ...ผมไม่ไปไม่ได้เหรอ คือ ตอนนี้ผมมีเรื่องอยู่......ครับๆ ผมจะรีบไป..

     

    ฮันกยองวางโทรศัพท์แล้วรีบเหยียบคันเร่งไปให้ถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว รถเข็นจากโรงพยาบาลรับร่างของหญิงสาวไป  ฮันกยองฝากเบอร์โทรศัพท์ให้กับนางพยาบาลคนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ๆ

     

    เบอร์นี้คือเบอร์ของญาติคนไข้นะครับ  ผมต้องไปก่อน ขอบคุณครับ พยาบาลพยักหน้ารับแล้วเดินจากไป ฮันกยองเมื่อมองรถเข็นที่พาร่างฮานึลจนลับตาแล้วก็เดินกลับออกมา เนื่องจากเค้าต้องไปต่างประเทศกระทันหัน ดวงตาคมเศร้าซึม นี่เค้าทำผิดถึงขนาดนี้เลยรึ  คนรักของเค้าถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ร่างสูงยังหารู้ไม่ว่าคนรักเก่าได้จากเค้าไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนกลับ

     

    ....ขอโทษนะฮะ พี่ฮานึล

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×