ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักษ์ รักภาษาไทย

    ลำดับตอนที่ #4 : หมุนไปตามลมปาก

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 54


      

     หมุนไปตามลมปาก

    ศาสนาพุทธสอนเรื่องศรัทธา (ความเชื่อ)จะต้องมีปัญญากำกับเสมอ เพื่อมิให้เชื่ออย่างงมงายไร้เหตุผล ผู้นับถือศาสนาพุทธจะไม่ถูกชักจูงหรือขู่บังคับให้เชื่อในสิ่งที่ไม่อาจจะตรองให้เห็นจริงได้ด้วยปัญญา พุทธศาสนิกชนทุกคนควรจะต้องมี"โยนิโสมนสิการ"แปลว่าไตร่ตรองโดยแยบคายเมื่อเห็นดีเห็นชอบด้วยปัญญาของตนฉะนี้แล้ว ความเชื่อที่เป็นเช่นนี้เป็นกำลังอันยิ่งใหญ่ เป็นเครื่องทำความกล้าหาญให้แก่ผู้เชื่อ ไม่ต้องเปลี่ยนความเชื่อหรือหมุนไปตามลมปากของผู้อื่น ดังมีนิทานแสดงตัวอย่างบุคคลผู้หมุนไปตามลมปาก ดังนี้
               

    นานมาแล้วมีพราหมณ์หนึ่งปรารภจะบูขายัญ จึงไปซื้อแพะมาตัวหนึ่ง แบกขึ้นบ่าแล้วเดินกลับบ้านไป

     

                   หนทางตั้งแต่ตลาดไปจนถึงบ้านของพราหมณ์นั้นค่อนข้างไกล ทั้งเป็นทางเปลี่ยวคดเคี้ยวต้องผ่านป่าไม้ย่อมๆ หลายแห่ง

     

                   ขณะที่พราหมณ์กำลังแบกแพะเดินไปนั้น นักเลง 3 คน ซึ่งยืนอยู่ที่ถนนแลเห็นเข้านักเลงเหล่านั้นอดอยากซูบผอมมาหลายวัน จึงปรึกษากันว่าแพะตัวนี้มีเนื้อมากทีเดียว ถ้าได้มาด้วยอุบายอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว พวกเราจะระงับความหิวได้โดยไม่ต้องสงสัย

     

                   นักเลงเหล่านั้นมองเห็นอุบายอย่างหนึ่ง ก้อกระซิบบอกกันและกัน แล้วแยกกันไปสู่ที่ต่างๆ เพื่อดำเนินการตามอุบายของตน

     

                   พราหมณ์นั้นเดินไป ก้อพบนักเลงคนหนึ่งเดินสวนทางมาแล้วกล่าวว่าพราหมณ์!ทามอารายของท่านอย่างนั้นเล่า? ท่านแบกสุนัขสกปรกนั้นไปทามไม?”

     

                   พราหมณ์หาได้ใส่ใจคำพูดของนักเลงนั้นไม่ คงเดินต่อไปข้างหน้าตามปรกติ

     

                   เมื่พราหมณ์เดินไปด้ายสักหน่อย นักเลงคนที่ 2 ก้อเดินสวนทางมาและร้องขึ้นว่าอัศจรรย์อะไรอย่างนี้ พราหมณ์!สุนัขนี้มีประโยชน์อะไรสำหรับท่านหรือ? ท่านทามกานน่าติอย่างร้ายแรงนี้ได้อย่างไร?”

     

                   พราหมณ์ได้ฟังดังนั้น รู้สึกสงสัยอยู่ครั้นๆ แต่ก้อยังเดินต่อไปข้างหน้า และ พบนักเลงคนที่ 3 สวนทางมาอีกเหมือนคนก่อนๆ พอแลเห็นพราหมณ์ นักเลงคนนั้นก้อร้องขึ้นว่า

     

                   “พราหมณ์!ท่านนำสายยัญโญปวีต (ด้ายยัญที่คล้องบนบ่าซ้ายพาดลงมาใต้แขนขวา) และ สุนัขไปอย่างไรกัน? ท่านเป็นนายพรานมิใช่พราหมณ์เสียแล้วหรือ จึงออกล่าด้วยเนื้อสุนัขนี้

     

                   พราหมณ์รู้ไม่เท่า ก้อแน่ใจว่า สัตว์นี้บูชายัญไม่ได้เสียแล้วคงเป็นสุนัขแน่ๆ เพราะคนทั้งหมดจะเห็นผิดไปได้อย่างไร? คิดแล้วก้อทิ้งแพะนั้นเสีย แล้วอาบน้ำกลับไปบ้าน นักเลงเหล่านั้นก้อนำแพะไปฆ่ากินกันอย่างร่าเริง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×