พีรวัสและราชีฟเดินตามทหารเข้าไปในวัง ตากลมมองดูพระราชวังอย่างตื่นตาตื่นใจ สิ่งปลูกสร้างต่างๆใหญ่โตมโหฬาร นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าได้เข้ามาในพระราชวังชั้นใน ตากลมมองดูเหล่านางกำนัลที่เดินกันอย่างขวักไขว่ ส่วนทหารยืนอยู่หน้าวังต่างๆอย่างแข็งขัน
" ราชีฟ ในวังนี่สวยงามจริงๆ " เสียงหวานพูดอย่างตื่นเต้น ราชีฟหันมายิ้มกว้างให้พีรวัส
" ก็พระราชวังเป็นที่อยู่ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ เขาก็ต้องสร้างให้สมกับฐานะของเขา " ราชีฟพูด พีรวัสพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
" พวกเจ้าเดินเร็วๆเข้าสิ ข้ายังต้องทำงานอีกมาก มิมีเวลาให้พวกเจ้าเดินสำรวจวัง " หัวหน้าทหารหันมาพูดกับพีรวัสและราชีฟอย่างรำคาญ
" ขอรับ/ขอรับ " พีรวัสและราชีฟรับคำ แล้วรีบเดินตามหัวหน้าทหาร
พีรวัสและราชีฟถูกจัดให้อยู่ห้องนอนเดียวกัน เพราะพวกเขาเป็นทหารมาใหม่ ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน ก็จากพระราชวังด้านหน้าเดินมาถึงฝ่ายก่อสร้าง เขาก็เดินจนขาแทบลาก
" ท่านพีรวัส ท่านนอนพักก่อนเถิด หน้าตาท่านซีดเซียวยิ่งนัก " ราชีฟพูดขณะที่ยื่นน้ำให้พีรวัส พีรวัสรับน้ำไปดื่มอย่างรวดเร็ว
" เจ้าแข็งแรงยิ่งนัก เจ้ามิอ่อนล้าจากการเดินทางบ้างหรือ ข้านี่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางแล้วยังต้องมาปะทะริมฝีปากกับชีคหื่นนั่นอีก "
" ท่านพูดเบาๆหน่อยสิ หากใครได้ยินเข้า ท่านอาจจะเดือดร้อนได้ " ราชีฟเตือน พีรวัสถอนหายใจออกมาเบาๆ
" เจ้าโกรธข้าหรือไม่ที่ทำให้เจ้าต้องลำบากไปกับข้า " ตาคมจ้องมองตากลมอย่างลึกซึ้ง
" หากมีท่านอยู่ที่ใด ที่นั่นก็คือความสุขของข้า " ริมฝีปากบางยิ้มกว้างออกมา
" เจ้าพูดประโยคนี้เหมือนตอนที่พวกเรายังเด็กๆอยู่เลย ข้าจำได้ตอนที่ข้าทำสินค้าของท่านพ่อเสียหาย ข้าถูกลงโทษให้ไปอาบน้ำอูฐอยู่เกือบเดือน ข้าก็ถามเจ้าเช่นนี้ ส่วนเจ้าก็ตอบข้าแบบนี้เช่นกัน " เสียงหวานพูด ขณะที่มือกำลังเก็บสัมภาระของตนเองลงหีบ จึงไม่เห็นสายตาหม่นๆของราชีฟ ประโยคคำพูดของเขาที่เขาพูดออกไปเพื่อให้ร่างเล็กเข้าใจความรู้สึกของเขา แต่ดูเหมือนพีรวัสจะไม่เข้าใจเลยสักนิด
เช้าวันต่อมา พีรวัส ราชีฟ และเหล่าทหารกำลังช่วยกันขุดสระ เพื่อสร้างสระบัวภายในตำหนักเมทาวัน ร่างเล็กขุดหลุมอย่างขมักเขม้น แต่พอขุดไปได้นิดเดียวเขาก็พัก จึงถูกหัวหน้าทหารเอ็ดอยู่หลายครั้ง เขาเคยทำงานหนักๆแบบนี้ที่ไหนกัน งานของเขาตอนที่อยู่ที่เมืองอุริยะก็แค่จับกระดาษและดินสอ ไม่ต้องทำงานกลางแจ้งแบบนี้
" ท่านพีรวัสเป็นอย่างไรบ้าง " เสียงทุ้มถาม ขณะที่มือหนาใช้ผ้าเช็ดไปที่หน้าของพีรวัสเพื่อซับเหงื่อที่ไหลจนชุ่มหน้า
" ข้ามิเป็นไร วันนี้เป็นวันแรกในการทำงาน ร่างกายของข้าอาจยังไม่ชิน " เสียงหวานพูด ขณะที่มือยังคงขุด หลุมไม่หยุด จนกระทั่งตะวันอยู่ตรงหัวของพวกเขา เสียงของหัวหน้าทหารก็ดังขึ้น
" ทหารทุกคนพักกินข้าวได้ " เสียงหัวหน้าทหารสั่ง พีรวัสและราชีฟจึงวางจอบลง
เหล่านางกำนัลฝ่ายห้องครัวยกอาหารออกมาแจกจ่ายเหล่าทหาร ทหารแต่ละคนแยกย้ายกันกินข้าวภายในบริเวณใกล้ๆบริเวณสระที่พวกเขากำลังขุด พีรวัสเดินถือจานข้าวมานั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ราชีฟอาสาไปเอาน้ำให้เขา
" จิ๊บ จิ๊บๆ " ตากลมหันไปดูเมื่อได้ยินเสียงลูกนกร้อง ลูกนกกำลังส่งเสียงร้องอยู่บนพื้นดิน พีรวัสแหงนหน้าขึ้นมองบนต้นไม้ เขาก็เห็นรังของลูกนก ลูกนกคงตกลงมาจากรัง พีรวัสคิดในใจ ร่างเล็กอุ้มลูกเจี๊ยบเอามาไว้ในผ้า แล้วห่อลูกนกไว้ พีรวัสปีนขึ้นต้นไม้อย่างชำนาญ แต่ไหนแต่ไรเขาชอบปีนต้นไม้บ่อยๆเมื่อตอนอยู่ที่บ้าน
" เจ้าขึ้นไปทำอะไรบนนั้น เจ้าอัปลักษณ์ " เสียงทุ้มที่ดังขึ้น ทำให้พีรวัสตกใจ ร่างเล็กค่อยๆร่วงตกลงมาจากต้นไม้
" โอ้ย! " ร่างเล็กร้องโอครวญ สะโพกของเขากระแทกลงกับพื้นดินเต็มๆ ใบหน้าคมยิ้มขำ แล้วจ้องมองพีรวัสอย่างขบขัน
" เจ้านี่ความสามารถมากจริงๆ เป็นทั้งพ่อค้า ทหาร และยังสามารถปีนต้นไม้ได้อีกด้วย " ใบหน้าหวานแหงนหน้าขึ้นค้อนปราชญาด้วยสายตา
" กระหม่อมยังมีความสามารถอีกมากที่พระองค์ยังมิรู้พะยะค่ะ " เสียงหวานพูดประชดประชัน ชีคปราชญานั่งยองๆลงข้างๆร่างเล็กที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นดิน
" เช่นนั้นหรือ เยี่ยงนั้นต่อไปข้าคงต้องมาตรวจงานบ่อยๆ เผื่อว่าข้าจะได้เห็นความสามารถอื่นๆของเจ้าอีก " เสียงทุ้มพูดเย้า แล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ความจริงเขาแค่เดินผ่านมาเพื่อจะไปหาพิชญะที่ฮาเร็ม แต่สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเจ้าอัปลักษณ์กำลังอุ้มลูกนก เขาจึงหยุดดูเหตุการณ์ แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆเขาก็อยากแกล้งเจ้าอัปลักษณ์ขึ้นมา จึงส่งเสียงดังเพื่อให้เจ้าอัปลักษณ์ตกใจ
" ท่านพีรวัสเป็นอย่างไรบ้าง " ราชีฟวิ่งเข้ามาหาพีรวัสอย่างเป็นห่วง ราชีฟค่อยๆประคองพีรวัสขึ้น แล้วพาไปนั่งบนเก้าอี้
" ข้ามิเป็นอะไร เจ้ามิต้องห่วงข้าหรอก แค่ระบมที่สะโพกเล็กน้อย " เสียงหวานพูดเพื่อให้ราชีฟสบายใจ ก็ราชีฟทำหน้ารู้สึกผิด ที่ไม่ได้ดูแลเขา
" แล้วเหตุใดท่านจึงมีสภาพเช่นนี้ " ราชีฟพูดพร้อมกับสำรวจแขนและขาของพีรวัสที่ถลอกเล็กน้อย
" ข้าเห็นลูกนกพลัดตกจากรัง ข้าจึงนำมันกลับขึ้นไปวางบนรัง แต่ข้าก็พลั้งตกลงมา " พีรวัสพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เขาไม่อยากให้ราชีฟไม่สบายใจหากรู้ว่าเขาไปต่อปากต่อคำกับชีคปราชญา
" เช่นนั้นวันนี้ท่านกลับไปพักก่อน ข้าจะไปรายงานหัวหน้าให้ "
" มิได้หรอก ข้ามิอยากถูกคนอื่นครหาว่าข้าอู้งาน " เสียงหวานพูด
พีรวัสกัดฟันทำงานทั้งที่สะโพกของเขาระบม ขาของเขามันก็เริ่มฟกเป็นจ้ำๆขึ้นมา จวบจนตะวันเริ่มตกดินงานของพวกเขาก็หมดไปหนึ่งวัน
" ราชีฟ ข้าเดินมิไหวแล้ว เจ้าช่วยประคองข้าได้หรือไม่ " เสียงหวานพูด ขณะที่เขากำลังนั่งอยู่บนกองไม้
" ได้สิขอรับ " ราชีฟประคองพีรวัสเดินไปจนถึงห้อง พีรวัสค่อยๆนั่งลงบนเตียง ราชีฟนั่งลงข้างๆพีรวัส มือหนาถกขากางเกงของพีรวัสขึ้น รอยฟกช้ำปรากฏบนขาของพีรวัสเต็มไปหมด
" ท่านรอข้าที่อยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปขอยาให้ขอรับ " พีรวัสพยักหน้าหงึกหงัก ร่างเล็กนอนคว่ำหน้าอย่างเจ็บระบมไปหมด
ปัง! เสียงเปิดหน้าต่างห้องของเขาทำให้พีรวัสเหลือบไปมอง ตากลมเห็นชายคนหนึ่งกระโดดเข้ามาในห้องของเขา เขาใช้ผ้าปิดบังใบหน้าไว้ ทำให้เขาเห็นเพียงดวงตาของชายคนนั้น
" เจ้าเป็นใคร แล้วเข้ามาในห้องของข้าทำไม " เสียงหวานถามด้วยเสียงตื่นตระหนก ตอนนี้เขาไม่สามารถสู้กับคนที่จะมาทำร้ายเขาได้ อย่าว่าแต่สู้เลย แค่จะขยับขายังทำไม่ได้เลย
" ข้าเป็นองครักษ์ของชีคปราชญา วันนี้ข้าเห็นเจ้าพลัดตกจากต้นไม้ ข้าจึงนำยามาให้เจ้า " ชายคนนั้นวางยาลงบนโต๊ะ
" เจ้าช่วยข้าทำไม ในเมื่อเรามิรู้จักกัน " เสียงหวานถามอย่างคลางแคลงใจ
" ข้าถูกชะตาเจ้า ข้าจึงอยากช่วยเจ้า ข้าไปล่ะ " ชายคนนั้นรีบกระโดดออกไปทางหน้าต่าง เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูจากหน้าห้อง พีรวัสมองตามชายคนนั้นอย่างงงงวย แค่ถูกชะตานี่น่ะ ถึงกับต้องเอายามาให้เขาด้วยตัวเอง
" ท่านพีรวัส ข้าไปขอยาจากหัวหน้าแล้ว แต่พวกเขามิมียา ข้าต้องไปเบิกที่ห้องโอสถในวันพรุ่งนี้ ข้าคิดว่าอาการของท่านหากรอวันพรุ่งนี้มันคงอักเสบ ข้าจะออกไปซื้อยาให้ท่านนอกวัง ท่านรอข้าสักประเดี๋ยว " ราชีฟพูด
" มิต้องแล้วราชีฟ มีคนเอายามาให้ข้าแล้ว " เสียงหวานพูด พร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะที่มียาวางอยู่
" ผู้ใดเอายามาให้ท่าน "
" ข้าก็มิรู้จัก เขาเป็นทหาร พอดีเขาเห็นข้าตอนพลัดตกจากต้นไม้ เขาจึงนำยามาให้ข้า "
" คนผู้นั้นมีน้ำใจยิ่งนัก " ราชีฟพูด พีรวัสพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ในใจของเขาก็ยังสงสัยว่าคนๆนั้นเป็นใคร
พีรวัสอาบน้ำอย่างทุลักทุเลเพราะสะโพกของเขามันปวดแปลบไปหมด เขานึกแค้นใจนัก หากตอนนั้นชีคปราชญาไม่ส่งเสียงดัง เขาคงไม่ตกใจแล้วตกต้นไม้แบบนี้ พีรวัสเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ราชีฟกำลังยืนรอเขาอยู่ ราชีฟยืนเฝ้าเขาหน้าห้องอาบน้ำราวกับกลัวใครจะเข้ามา ทั้งที่จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรหากใครจะเข้ามาอาบน้ำกับเขา เพราะเขาเองก็เป็นบุรุษเพศ แต่มันก็แปลกที่ท่านพ่อกับท่านแม่ชอบกำชับไม่ให้เขาอาบน้ำร่วมกับผู้ชาย เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หากเป็นพี่ชายของเขา เขาก็พอเดาออก เพราะพี่ชายของเขามีหน้าตางดงามยิ่งกว่าสตรี หากมีชายใดอยากทำมิดีมิร้ายก็ไม่แปลก แต่เขานี่สิหน้าตาขี้เหร่ ใครจะทำอะไร
" ราชีฟ คราวต่อไปเจ้ามิต้องเฝ้าข้าแล้ว ข้ามิใช่อิสตรี มิมีผู้ใดทำอะไรข้าหรอก "
" มิได้ขอรับ แต่ไหนแต่ไรข้าก็ปฏิบัติต่อท่านเช่นนี้เสมอ ท่านอย่าคิดเปลี่ยนแปลงเลยขอรับ " ราชีฟพูดขณะที่ประคองพีรวัสไปกินข้าวในโรงเลี้ยงอาหาร ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยทหารฝ่ายก่อสร้าง นั่งกันอยู่หลายสิบโต๊ะ พีรวัสนั่งลงบนเก้าอี้ ทหารสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยมองเขาอย่างแปลกใจ
" เจ้าทหารใหม่ เจ้าชื่อว่าอะไร "
" ข้าชื่อพีรวัส พวกท่านล่ะชื่อเยี่ยงใดกัน " พีรวัสพูดกับทหารที่น่าจะอายุเยอะกว่าเขาอย่างนอบน้อม
" ข้าชื่อฟิลลัส ส่วนเจ้านั่นชื่ออุบาส " ฟิลลัสตอบ ราชีฟวางจานข้าวของตนเอง และของพีรวัสลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็นั่งลงข้างๆพีรวัส
" เหตุใดหน้าของเจ้าซีกหนึ่งงาม อีกซีกหนึ่งน่าเกลียดยิ่งนัก " อุบาสถามอย่างอยากรู้ พีรวัสยิ้มกว้าง
" มันเป็นมาตั้งแต่เกิด ข้าก็มิรู้ว่าทำอย่างไรมันถึงจะหาย แต่ข้าว่าเป็นอย่างนี้ก็ดี เมื่อตอนเด็กๆข้าเดินหลงเข้าไปในกลุ่มคนในตลาด พ่อกับแม่ก็หาข้าพบ แม้ว่ายืนอยู่ไกลๆ " พีรวัสพูดอย่างอารมณ์ดี ทำให้ราชีฟยิ้มตาม
" ฮ่า ฮ่าๆ เจ้านี่อารมณ์ดียิ่งนัก พูดกับเจ้านี่ ทำให้ข้าผ่อนคลายได้มาก " ฟิลลัสพูด
" ฟิลลัสไปกันเถอะ พวกเราต้องไปเฝ้าสระที่ขุดไว้เมื่อตอนกลางวัน " อุบาสพูด
" ท่านอุบาส พวกเราต้องไปเฝ้าที่นั่นด้วยหรือ " พีรวัสถามอย่างแปลกใจ อุบาสพยักหน้า
" ใช่ หัวหน้าจะแบ่งเวรให้เฝ้าที่สระคืนละสองคน เพราะที่นั่นจะเป็นที่พำนักขององค์ราชินี " อุบาสพูด
" ชีคปราชญามีราชินีแล้วหรือ " พีรวัสถาม
" ยังหรอก พระองค์ให้สร้างไว้ แต่มิแน่พระสนมเอกมินตาอาจได้ขึ้นเป็นราชินีเร็วๆนี้ " อุบาสพูด พีรวัสพยักหน้าอย่างเข้าใจ
" รีบไปเถิดอุบาส " ฟิลลัสเร่งอุบาส
" ข้าไปล่ะ " อุบาสพูด แล้วเดินตามฟิลลัสออกไป ใบหน้าหวานทำสีหน้าหนักใจ
" ราชีฟ ข้าชักเป็นห่วงพี่พิชญะแล้วสิ ข้ากลัวเขาถูกกลั่นแกล้ง พี่ของข้าก็เป็นคนอ่อนแอจะสู้ใครได้ "
" มิต้องเป็นกังวลหรอกขอรับ พี่ชายของท่านเก่งกว่าที่ท่านคิด " ราชีฟพูด เขารู้ว่าพิชญะทั้งร้ายและเจ้าเล่ห์ไม่มีทางถูกใครรังแกได้ง่ายๆ ตอนที่เขาเข้ามาทำงานในบ้านพีรวัส พ่อของพีรวัสเลือกให้เขาเป็นพี่เลี้ยงของพิชญะ เด็กที่อ่อนแอ แต่เมื่อเขาเห็นแววตาของพิชญะเขาก็พอมองออกว่านั่นเป็นการเสแสร้ง เขาจึงปฏิเสธ เขาเลือกที่จะเป็นพี่เลี้ยงของเด็กที่มีแววตาใสซื่อ และเต็มไปด้วยความซุกซนอย่างพีรวัสคงจะดีกว่า
" ราชีฟ เจ้ามานอนบนเตียงกับข้าสิ เจ้าจะลงไปนอนบนพื้นแข็งๆทำไม " เสียงหวานพูด หลังจากเขาทายาเสร็จ เขาก็เห็นราชีฟปูผ้าลงบนพื้นที่เย็นเฉียบ
" มิได้ขอรับ ท่านพีรวัสเป็นเจ้านาย ข้าจะไปนอนเสมอท่านมิได้ " พีรวัสทำหน้ามุ่ย แต่สำหรับราชีฟเขามองว่ามันน่ารัก
" ตอนนี้เจ้ากับข้า เราเป็นทหารเช่นเดียวกัน มิใช่เจ้านายกับลูกน้องแล้ว " เสียงหวานพูดอย่างไม่พอใจ
" อย่างไรก็ไม่ได้ ข้าจะนอนตรงนี้ ท่านนอนให้สบายเถิด " พีรวัสถอนหายใจแรงๆอย่างขัดใจ
" เช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้า " ร่างเล็กโยนผ้าห่มลงมาให้ราชีฟ แล้วพยายามพลิกตัวนอนหันหลังให้ราชีฟอย่างทุลักทะเล ราชีฟยิ้มบางๆเมื่อเห็นท่าทางของคนขี้งอน เขาจะขึ้นไปนอนข้างๆพีรวัสได้อย่างไร เพราะเขารู้ความลับของพีรวัสอยู่ข้อหนึ่งซึ่งเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ วันแรกที่เขามาทำงานพ่อของพีรวัสก็บอกกับเขา และให้เขาปกปิดเป็นความลับ พีรวัสสามารถท้องได้ และเขากลัวว่าเขาจะอดกลั้นไม่รังแกคนที่เขารักมาเนินนานไม่ได้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย