ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้กล้าปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 66


    ตอน กำไรที่คาดไม่ถึง

    มิคาเอลค่อนข้างพึงพอใจกับผลลัพธ์ เขาได้รับพลังเวทย์มา5หน่วย จากการฆ่าอ็อคระดับFตัวเดียว

     ครั้งก่อนเขาต้องฆ่าสไลม์ทั้งฝูงกว่าจะได้พลังเวทย์มา5หน่วย จำนวนมันต่างกันมาก เเต่มันก็ไม่เเปลก จำนวนพลังเวทย์จะได้รับโดยคำนวณจากหลายปัจจัย หลักๆคือ ความเเข็งเเกร่งของมอนสเตอร์เเละวิธีจัดการกับมอนสเตอร์ ระดับของมอนสเตอร์ เเละยังมีปัจจัยเล็กๆน้อยๆอีกนับไม่ถ้วนที่ส่งผลต่อการคำนวณพลังเวทย์ ดังนั้น การคำนวณพลังเวทย์ที่ได้จึงไม่ใช่การสุ่ม เเต่เป็นการคำนวณโดยพิจารณาทุกด้านมาเเล้ว

    มิคาเอลทำการหั่นร่างของอ็อคออกเป็นหลายๆชิ้นด้วยขวานเเละมีดที่เตรียมมา หลังจากนั้นเขาก็นำอวัยวะเเต่ละชิ้นขึ้นมาด้านบนเเล้วนำอวัยวะเหล่านั้นไปซ่อนไว้หลังต้นไม้ ซึ่งเขาได้ขุดหลุมเตรียมไว้เรียบร้อยเเล้ว

     เขาโยนอวัยวะต่างๆของอ็อคลงไปในหลุมจากนั้นก็กลับมาที่กับดักทำการกลบหลุมกับดักอีกครั้ง เขาทำซ้ำขั้นตอนเดิมคือ ไปหลบหลังต้นไม้ เเละรออยู่นิ่งๆ ขั้นตอนการล่ามอนสเตอร์ด้วยหลุมกับดักนั้นไม่ซับซ้อนเเต่ได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยม 

    การล่าที่เเสนง่ายดายนี้ดำเนินไปเป็นเวลาครึ่งวัน จำนวนพลังเวทย์ที่ได้นั้นทำให้มิคาเอลยิ้มออกมามันเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ ครึ่งวันที่ผ่านมามีอ็อคระดับFตกลงสู่หลุมกับดักมากกว่า30ตัว ทำให้ได้รับพลังเวทย์49หน่วย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก เเต่สิ่งนี้ก็ดำเนินไปได้ไม่นานนัก 

    ในที่สุดมันก็มาถึงขีดจำกัด ขีดจำกัดดังกล่าวก็คือ การฆ่ามอนสเตอร์ชนิดเดิมซ้ำๆ การฆ่ามอนสเตอร์ชนิดเดิมซ้ำๆ จะทำให้จำนวนพลังเวทย์ที่ได้รับลดลงหรือไม่ได้เลย การฆ่าอ็อคตัวเเรกทำให้เขาได้รับพลังเวทย์5หน่วย เเต่การฆ่ามันซ้ำๆทำให้จำนวนพลังเวทย์ที่เขาได้รับค่อยๆลดลง หลังจากตัวที่20มิคาเอลก็ไม่ได้รับพลังเวทย์อีก

    “คงได้เวลาเปลี่ยนที่เเล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะล่าอ็อคระดับFต่ออีก”

    มิคาเอลตัดสินใจที่จะเปลี่ยนสถานที่ล่า ก่อนที่จะไปเขาต้องนำร่างอ็อคตัวสุดท้ายไปทิ้งรวมกับตัวอื่นๆ เเต่ในตอนที่เขาเดินไปถึงหลุมที่ทิ้งซากร่างของอ็อคที่ตอนนี้มันกลายเป็นกองภูเขาอวัยวะอ็อคไปเเล้ว มิคาเอลกลับพบสิ่งที่ทำให้ขนทั้งตัวเขาต้องลุกชูชัน

     ภาพที่มิคาเอลเห็นคือสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายเสือกำลังกัดกินชิ้นส่วนอวัยวะของอ็อคอย่างตะกละตะกลาม วินาทีต่อมามิคาเอลเคลื่อนที่ไปหลบหลังต้นไม้อย่างไร้เสียง หัวใจเขาเต้นเเรง มิคาเอลยื่นหน้าออกไปมอง เขาเห็นว่าสิ่งที่คล้ายกับเสือเเต่ไม่ใช้เสือตัวนั้นยังคงยุ่งอยู่กับการกินเเละไม่ได้สังเกตเห็นเขา

    “มนุษย์สัตว์งั้นเหรอ?”

    มิคาเอลประหลาดใจ สิ่งมีชีวิตตัวนั้นรูปร่างคล้ายกับเสือ เเต่มันยืนด้วยสองขา เเละยังใส่เสื้อผ้าของมนุษย์ ที่หลังของมันมีขวานขนาดใหญ่ที่ดูทรงพลังเเละน่าเกรงขาม

    มนุษย์สัตว์ทุกตัวได้รับการยืนยันว่า มีร่างกายที่เเข็งเเกร่งเทียบเท่า มอนสเตอร์ระดับ F ตั้งเเต่คลอดออกมาจากท้องของมารดา เเละมีพลังเวทย์ ตั้งแต่กำเนิดอยู่ที่ 20 หน่วย เรียกได้ว่ามนุษย์สัตว์ทุกตัวจะอยู่ในขั้น นักเวทย์ฝึกหัด ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ลืมตาดูโลก ส่วนมนุษย์สัตว์ผู้ใหญ่นั้นจะต้องเป็นผู้ชำนาญเวทย์เป็นอย่างน้อย 

    พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่เเข็งเเกร่งเเละมีจิตวิญญาณของนักสู้ มันจึงไม่เเปลกเลยที่เผ่ามนุษย์สัตว์จะสามารถกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก มิคาเอลจ้องมองมนุษย์สัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายเสือตัวนี้อย่างเคร่งขรึม

    ความคิดที่จะต่อสู้หรือฆ่าอีกฝ่ายไม่เคยอยู่ในหัวสมองของเขา เพราะมันเเทบเป็นไปไม่ได้

    “ปกติพวกมนุษย์สัตว์ผู้ใหญ่มักจะอยู่ในสเปชระดับcขึ้นไปเเล้วทำไมถึงมีมนุษย์สัตว์ผู้ใหญ่มาอยู่ในมอนสเตอร์สเปชระดับต่ำเเบบนี้”

    มิคาเอลมองไปที่รอยเเผลจำนวนมากทั่วร่างกายของมนุษย์เสือ แล้วเขาก็ได้รับคำตอบ ภายในเผ่ามนุษย์สัตว์จะไม่มีชนชั้นวรรณะหรือยศฐาบรรดาศักดิ์ มันมีเพียง ผู้แข็งแกร่งและผู้แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น พวกเขาจะให้ความเคารพใครก็ตามที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง ในทางกลับกัน ผู้อ่อนเเอคือความอัปยศของเผ่าพันธุ์ จะถูกกำจัดทิ้งอย่างไม่มีการละเว้น

     เเม้ว่าสิ่งนี้จะดูโหดร้ายไปบ้างเเต่มันกลับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เผ่ามนุษย์สัตว์ขึ้นสู่มหาอำนาจ อีกอย่างมนุษย์สัตว์เป็นเผ่าที่ผลิตลูกหลานได้เป็นจำนวนมาก มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะฆ่าคนในเผ่า

     มิคาเอลค่อนข้างมั่นใจว่า มนุษย์เสือตัวนี้ถูกทิ้งเเล้ว หลักฐานคือหางที่ถูกตัด เหตุผลที่เขาไม่ถูกฆ่าอาจเป็นเพราะ เขามีสายเลือดของจ่าฝูง มิคาเอลไม่มั่นใจในเรื่องนี้ เเต่ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาคาดเดาได้จากการมองเพียงอย่างเดียว มันอาจถูกหรืออาจผิด ในสถานการณ์นี้หากเป็นคนทั่วไปพวกเขาอาจเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ เเต่สำหรับมิคาเอลมันช่างเหมือนลาภลอย มิคาเอลเริ่มคิดเเผนการที่จะใช้ประโยชน์จากมนุษย์เสือตัวนี้ หลังจากคิดจนถี่ถ้วนเขาก็เริ่มเเผนการทันที

    สิ่งที่เขาจะทำนั้นอันตรายมาก เเต่หากเขาทำได้ มันจะเป็นกำไรครั้งใหญ่

    มิคาเอลค่อยๆเคลื่อนที่ออกจากจุดที่เขาอยู่อย่างช้าๆ เขาไปหลบอยู่ในโพรงต้นสนอีกต้นซึ่งเป็นจุดที่เขาประเมินเเล้วว่าปลอดภัย เหตุผลที่เขาต้องพาตัวเองมาหลบในที่ปลอดภัยนั้นเป็นเพราะ หลังจากนี้เขาจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ชั่วคราว มิคาเอลนั่งลงเเละเริ่มใช้งานเวทมนตร์ ชื่อของมันคือ เวทมนตร์ระดับ1 ร่างความคิด จ่ายพลังเวทย์6หน่วยเพื่อเรียกใช้งาน

    หลังจากเรียกใช้เวทมนตร์นี้ ดวงตาของมิคาเอลก็มัวลงราวกับคนตาย ร่างกายทั้งหมดของเขาหยุดเคลื่อนไหว ไม่นานบางสิ่งบางอย่างก็ลอยขึ้นมาจากศีรษะของเขา สิ่งนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เเต่หากมีคนมองเห็นเขาจะเห็นว่ามันก็คือมิคาเอลอีกคน 

    ตอนนี้มิคาเอลอยู่ในร่างความคิด ร่างนี้เขาเปรียบเสมือนวิญญาณที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็น คุณสมบัติของเวทมนต์ชนิดนี้ คือการเเยกความคิดออกมาจากร่างกาย ข้อดีของมันคือมันสามารถบินได้อย่างอิสระในสภาพล่องหน ข้อเสียของมันคือไม่สามารถจับต้องหรือสัมผัสสิ่งของ และยังมีเวลาที่จำกัด ความเสี่ยงของเวทมนตร์นี้คือหากร่างความคิดถูกโจมตีคนๆนั้นก็จากกลายเป็นคนที่บกพร่องทางความคิด

    มิคาเอลรู้ทั้งข้อดีเเละข้อเสียทั้งหมดของเวทมนตร์ชนิดนี้ เขาจึงเลือกใช้มัน

    ร่างความคิดบินขึ้นไปด้านบน เมื่อไปถึงความสูงที่สามารถมองเป็นทั่วทั้งมอนสเตอร์สเปชป่าสน เขาก็เริ่มมองหาบางอย่าง

    “ มอนสเตอร์ระดับE บอสของสเปชป่าสน”

    มิคาเอลกวาดตามองทั่วทั้งป่า เพื่อจะหามอนสเตอร์ที่ดูเหมือนบอส เเต่ด้วยความสูงของต้นสนทำให้มันเป็นไปไม่ได้ในการมองหามอนสเตอร์ที่อยู่ตามพื้น มิคาเอลรู้เรื่องนี้อยู่เเล้วดังนั้นเขาจึงหยุดมองหาเเละเริ่มใช้เวทมนตร์เป็นครั้งที่2 มันมีชื่อว่า เวทมนตร์ระดับ1 ดวงตาตรวจจับพลังเวทย์ จ่ายพลังเวทย์5หน่วยเพื่อใช้งาน

    ดวงเเสงมากมายปรากฏขึ้นทั่วทั้งสเปช ดวงเเสงเหล่านี้ก็คือพลังเวทย์ของมอนสเตอร์ 

    บางดวงเล็กบางดวงใหญ่ คุณสมบัติของเวทมนตร์นี้คือการทำให้ดวงตาของผู้ใช้ สามารถมองเห็นพลังเวทย์ของสิ่งมีชีวิตได้ มันเหมือนกับเครื่องตรวจจับความร้อน เพียงเเค่สิ่งที่มันตรวจจับคือ พลังเวทย์ ไม่นานมิคาเอลก็พบดวงเเสงที่มีขนาดใหญ่กว่าดวงเเสงดวงอื่น มันมี2ดวง ดวงเเรกก็คือพลังเวทย์ของ มนุษย์เสือ เเละดวงที่สองที่มีขนาดทัดเทียมกันคือสิ่งที่มิคาเอลตามหา มันคือบอส

    มิคาเอลบินไปยังทิศนั้นทันที เขาบินทะลุต้นไม้อย่างง่ายดายจนไปถึงจุดที่บอสอยู่ บอสตัวนี้เป็นยักตัวสูงใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์เเต่มีตาเพียงดวงเดียว มันคือไซครอปส์ ร่างกายของมันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ที่มือของมันถือค้อนขนาดใหญ่

    มิคาเอลไม่รอช้าเเละดำเนินการต่อทันที เขาใช้เวทมนตร์อย่างที่3 

    ร่างกายที่ล่องหนของเขากลายเป็นสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาบินไปด้านหน้าของไซครอปส์เพื่อยั่วยุมัน ไซครอปส์เริ่มโจมตีเขา มันใช้ค้อนฟาดลงมา ในจังหวะที่ค้อนกำลังจะสัมผัสร่างของมิคาเอล ค้อนนั้นกลับทะลุผ่านตัวเขาไป 

    ไซครอปส์รู้สึกสับสนเมื่อการโจมตีของตนพลาดเป้า มันคำรามเเละเริ่มไล่ล่ามิคาเอลอย่างบ้าคลั่ง มิคาเอลไม่หลบการโจมตีเเละยังบินไปด้านหน้าโดยทิศทางที่เขามุ่งหน้าไปก็คือทิศทางที่มีมนุษย์เสือ 

    พื้นดินสั่นสะเทือนมอนสเตอร์ระดับFทุกตัวต้องหลีกทางให้กับไซครอปส์ตัวนี้ ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงจุดที่มนุษย์เสืออยู่ มิคาเอลกลับไปอยู่ในร่างล่องหน ไซครอปส์สูญเสียเป้าหมายทันที มันมองไปรอบๆเเต่ก็ไม่พบร่างของมิคาเอล 

    มันคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว เเต่ทันใดนั้นสายตาของมันก็เหลือบไปเห็นมนุษย์เสือที่กำลังกินเนื้อสดๆของอ็อค มนุษย์เสือก็จ้องมองมันเช่นกัน สายตาทั้งสองจับจ้องกันชัดเจนว่าสิ่งต่อไปที่จะเกิดขึ้นคืออะไร 

    ไซครอปส์กระโดดพร้อมกับคำราม มันฟาดค้อนลงมาที่มนุษย์เสืออย่างสุดเเรง มนุษย์เสือตอบสนองอย่างรวดเร็วเเละพุ่งหลบไปด้านข้าง เขาหลบค้อนได้ทันอย่างฉิวเฉียด ร่างกายเขายังได้รับผลจากเเรงกระเเทกเมื่อครู่

    มนุษย์เสือคำรามออกมาด้วยความโกรธ

    “กล้ามากที่โจมตีข้า ไซครอปส์ เเกไม่รู้ซะเเล้วว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร งั้นก็จงตายซะ ”

    มนุษย์เสือจับขวานใหญ่ที่อยู่กลางหลัง มีลวดลายเสือปรากฏขึ้นตามใบขวานชัดเจนว่ามันเป็นเวทมนตร์

    มิคาเอลไม่รู้จักชื่อเวทมนตร์นี้ เเต่เขารู้ว่ามันคือเวทย์ที่จะช่วยเสริมพลังให้กับอาวุธช่วงเวลาสั้นๆที่การต่อสู้เริ่มขึ้นมิคาเอลใช้เวลานี้กลับไปยังจุดที่เขาทิ้งร่างกายที่แท้จริงเอาไว้ ร่างความคิดเข้าไปผสานกับกายเนื้อ เมื่อมิคาเอลกลับเข้าร่างเขาก็รีบวิ่งมายังบริเวณที่เกิดการต่อสู้

    มนุษย์เสือกระโดดขึ้นกลางอากาศเเล้วใช้ขวานฟันใส่ไซครอปส์ เเต่ฝ่ายหลังป้องกันไว้ด้วยค้อน ไซครอปส์นั้นมีความได้เปรียบเรื่องพละกำลัง ส่วนมนุษย์สัตว์นั้นมีเทคนิคที่หลากหลาย มิคาเอลสังเกตการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้อยู่รอบนอก

    “ถ้าหากมนุษย์เสือผู้ใหญ่คนนี้อยู่ในสภาพปกติ เขาคงจัดการไซครอปส์ตัวนี้ได้ด้วยมือเดียว สถานการณ์ที่การต่อสู้สูสีนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น น่าเสียดายที่เขาบาดเจ็บมาก่อนหน้านั้นเเล้ว อีกไม่นานก็คงรู้ผล”

    ในจังหวะที่มนุษย์เสือหลบการโจมตีด้วยการกระโดดขึ้นไปด้านบน ขาทั้งสองข้างของเขาก็มีเลือดพุ่งออกมา มันเกิดจากการที่ฝืนใช้ร่างกายมากเกินำปจนทำให้กล้ามเนื้อทนรับไม่ไหวจนเกิดการฉีกขาด ตอนนี้ขาของเขาพังเละ มันใช้การไม่ได้เเล้ว เเต่การต่อสู้ยังไม่จบเขาจึงต้องกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด

     ค้อนของไซครอปส์ก็ฟาดเข้ามาไม่หยุดทำให้มนุษย์เสือไม่มีจังหวะสวนกลับ ไซครอปส์มีความโดดเด่นด้านพละกำลังการโจมตีของมันจะไม่หยุดจนกว่าศัตรูจะตาย

     ด้วยการฟาดอย่างไม่หยุดทำให้ในที่สุดมนุษย์เสือก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ เขาโดนค้อนยักฟาดลงกับพื้นจนหมดสติเลือดจำนวนมากทะลักออกมา เขาหมดสภาพต่อสู้อย่างสมบูรณ์ มิคาเอลจับจ้องสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร้อารมณ์ เเต่มือเขาจับธนูไว้แน่น ไซครอปส์เห็นว่ามนุษย์เสือยังมีลมหายใจมันจึงยกค้อนขึ้นเพื่อที่จะจบชีวิตของอีกฝ่าย 

    ในวินาทีที่ค้อนกำลังจะถูกฟาดลง เสียงตัดอากาศก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของไซครอปส์ ขวานลายเสือหมุนควงกลางอากาศแล้วตัดเข้าที่ลำคอของไซคลอปส์ ไซคลอปส์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ร่างกายของมันก็เริ่มเอียงเเละล้มลง

     ผลลัพธ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ย้อนกลับไปเมื่อไซครอปส์ทำการโจมตีอย่างไม่หยุดพัก มนุษย์เสือทำอะไรไม่ได้นอกจากป้องกัน ในสถานการณ์ที่ไร้ทางออกมนุษย์เสือตัดสินใจเดิมพัน เขาใส่พลังเวทย์ทั้งหมดลงไปในขวานแล้วขว้างมันออกไป การกระทำนี้ทำให้มนุษย์เสือไม่สามารถป้องกันตัว เขาจึงถูกไซครอปส์ฟาดจนหมดสติ แต่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ขวานที่มนุษย์เสือโยนไปนั้นก็เลี้ยวกลับมาแล้วเฉือนเข้าที่ลำคอจนไปถึงกระดูดคอของไซครอปส์

     การต่อสู้ครั้งนี้มนุษย์เสือเป็นฝ่ายชนะ ไซครอปส์ที่พ่ายเเพ้มันกำลังจะตาย 

    เสียงครางของมันดังออกมาเบาๆก่อนจะหยุดลง เเต่ในเสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะหมดลมหายใจ ลูกศรลูกหนึ่งก็พุ่งออกมาจากหลังต้นไม้มันปักลงที่ดวงตาของไซครอปส์ แล้วมันก็ได้ตายลงในวินาทีต่อมา

    เสียงเเจ้งเตือนที่ไร้อารมณ์ราวกับหุ่นยนต์ดังขึ้นมาในหัวของมิคาเอล

    ไซครอปส์ (บอส)ระดับE ถูกสังหาร ได้รับพลังเวทย์+40

    มิคาเอลใช้โอกาสก่อนที่ไซครอปส์จะตายส่งการโจมตีครั้งสุดท้ายเพื่อปริดชีพมัน เป็นไปตามคาด ระบบประมวลผลว่ามิคาเอลคือคนที่ฆ่าไซครอปส์ตัวนี้ ดังนั้นเขาจึงได้รับพลังเวทย์จำนวน40หน่วยนี้ โดยปกติมอนสเตอร์ระดับEจะให้พลังเวทย์สูงสุดที่30หน่วย เเต่เพราะไซครอปส์ตัวนี้เป็นบอส จำนวนพลังเวทย์ที่ให้จึงเยอะตามไปด้วย

    “ถ้าไม่มีมนุษย์เสือฉันคงไม่มีทางฆ่าไซครอปส์ตัวนี้ได้ คงต้องไปขอบคุณซะหน่อยเเล้ว”

    มิคาเอลเดินไปทางมนุษย์เสือ เเต่โดยไม่คาดคิด มนุษย์เสือกลับลืมตาขึ้นมา สายตาของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณก่อนที่มันจะพบเข้ากับมิคาเอล

    มิคาเอลที่เห็นดังนั้นสายตาของเขาก็กลายเป็นมืดมน เจตนาฆ่าเพิ่มสูงขึ้น เวทมนตร์โจมตีระดับ3 พร้อมใช้งานทุกเมื่อ

    “เจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร”

    มนุษย์เสือพูดด้วยเสียงที่เบาเเละแหบพร่า

    มิคาเอลคิดคำตอบที่ดีที่สุด ก่อนจะตอบออกไปอย่างใจเย็น

    “ ยังไม่ขอบคุณอีกงั้นเหรอ ทั้งๆที่ฉันคือคนที่ช่วยชีวิตนายไว้”

    มิคาเอลเลือกที่จะโกหกและเล่นละครตบตามนุษย์เสือ มนุษย์เสือมีท่าทีตกใจและไม่เชื่อสิ่งที่มีใครเขาพูด

    “เจ้าช่วยข้างั้นหรอ มีหลักฐานอะไร หากไม่มีข้าจะฆ่าเจ้า”

    มนุษย์เสือพูดจบเเละกระอักเลือดออกมา

    “นั่นคือหลักฐาน”

    มิคาเอลชี้นิ้วไปยังบริเวณดวงตาของไซครอปส์

    มนุษย์เสือมองตามนิ้วของมิคาเอลจนไปพบเข้ากับลูกศรที่ปักเข้าไปในดวงตาของไซครอปส์

    “การโจมตีสุดท้ายของนายมันรุนแรงก็จริงแต่มันพลาดเป้าหมายไปเล็กน้อย ขวานของนายฟันคอด้านข้างของมันเท่านั้ร เเต่กระดูกคอยังไม่ขาด ดังนั้นมันจึงไม่ตาย ”

    มิคาเอลพูดเรื่องไร้สาระราวกับเป็นเรื่องจริง เขากระทั่งชี้นิ้วไปที่ลำคอของตัวเองพร้อมกับทำท่าทางประกอบต่างๆให้ดูราวกับว่ากำลังอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

    “ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ ก็เห็นกันอยู่ว่ากระดูกคอของมันหักไปแล้ว แล้วเจ้ายังจะมาบอกว่าการโจมตีสุดท้ายของข้าไม่ได้ตัดคอมันงั้นหรือ”

    “ใจเย็นๆฟังที่ฉันอธิบายให้จบก่อน”

    มิคาเอลพูดขัด เเละพูดต่อ

    “ในตอนที่ไซครอปส์มันกำลังจะทุบนายฉันที่บังเอิญล่าอยู่แถวนี้ก็ผ่านมาเห็น ฉันยิงธนูออกไปปักเข้าที่ตาของมันทำให้มันไม่สามารถมองเห็นจนเกิดเสียหลักล้มลง ตอนที่มันล้มลงนั่นแหละที่หัวของมันกระแทกพื้นจนทำให้กระดูกคอหักจนตาย ”

    มิคาเอลใช้ท่าทางประกอบราวกับนักเล่าเรื่องที่เชี่ยวชาญ หลังจากได้ฟังสิ่งที่มิคาเอลเล่ามนุษย์เสือก็ไม่พูดอะไรอีก เพราะสิ่งที่มิคาเอลพูดมันสมเหตุสมผลและยังมีหลักฐานที่ยืนยันได้ แม้จะไม่พอใจแต่เขาก็ต้องเชื่อว่ามิคาเอลคือคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ มนุษย์เสือถอนหายใจยาวออกมา

    “ท่านผู้มีพระคุณข้าขอบพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ นี่ชีวิตครั้งนี้ข้าจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน ข้าชื่อเซก้า หากมีสิ่งใดที่ข้าสามารถตอบแทนท่านได้ โปรดพูดออกมา”

    มนุษย์เสือที่ทั้งทรงพลังและก้าวร้าวก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่มีมารยาทต่อมิคาเอล

    มิคาเอลมีใบหน้าเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับยินดี ประการแรกคือมนุษย์เสือไม่ได้มองว่าเขาเป็นศัตรูเเล้ว นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะหากเกิดการต่อสู้ขึ้นมิคาเอลก็แทบไม่มีโอกาสชนะ ประการที่สอง ตอนนี้เขาทำให้มนุษย์เสือติดหนี้ชีวิตเขา การตอบแทนของมนุษย์เสือนั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน มันเป็นกำไรที่มิคาเอลไม่คาดคิดว่าจะได้รับ


    จบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×