ผู้กล้าปีศาจ

ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5

ตอน ความไม่ชอบมาพากลของศาสนจักร

กลางคืนของที่ไหนซักเเห่ง

มิคาเอลเปิดประตูเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่ไม่เล็ก ห้องๆนี้เป็นห้องพักที่ถูกเตรียมไว้เป็นอย่างดี มันดูธรรมดาเเต่ก็มีความเป็นส่วนตัว ภายในมีเตียงเเละโต๊ะเขียนหนังสือ มิคาเอลนั่งลงบนเตียง เขาไม่ได้พักผ่อนเเต่หยิบลูกเเก้วขนาดเท่ากำปั้นออกมา ลูกเเก้วเปล่งแสงสว่าง มีตัวหนังสือเเละภาพที่หลากหลายปรากฏขึ้นบนอากาศ สร้างเป็นฉากที่หน้าประทับใจ

มันคืออุปกรณ์เวทมนตร์ระดับ1ที่ใช้สำหรับบันทึกข้อมูล

“เขตแดนเวทย์เคลื่อนย้ายใช้เวลาสร้าง 3 วัน ความเร็วระดับนี้ถือว่าดีใช้ได้ เเต่เราก็ไม่ควรปล่อยเวลานี้ไป ”

มิคาเอลมองอุปกรณ์ล่ามอนสเตอร์ที่เขาได้รับมา

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นเสียงของผู้หญิงวัยชราก็ดังตามมา

“นำอาหารมาเสริฟเเล้วเจ้าคะ นายท่านมิคาเอล”

“เอาเข้ามาเลย”

มิคาเอลหันไปทางประตู

หญิงชราในชุดเเม่บ้านเดินเข้ามาเงียบๆเเละวางอาหารไว้บนโต๊ะ

“ เเกงกะหรี่เเละข้าวสวยตามที่สั่งได้เเล้วเจ้าคะ หากรับประทานเสร็จเเล้วก็นำจานมาวางไว้นอกประตูได้เลยนะเจ้าคะ เเละหากท่านอยากเข้าห้องน้ำให้เดินตรงไปเเล้วเลี้ยวขวา”

“อืม เข้าใจเเล้ว” มิคาเอลพยักหน้า

“เชิญทานให้อร่อยนะเจ้าคะ ข้าขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวก่อนข้ามีเรื่องอยากถาม ”

มิคาเอลหยุดหญิงชราไว้

“มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ”

“แถวนี้มี เขตล่าระดับFถึงEบ้างไหม”

“ถ้าเรื่องนั้น มีสิเจ้าคะ โฮเอมมีมอนสเตอร์สเปชระดับEอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากตัวเมือง2กิโลเมตรถ้าข้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะเป็นป่าสน ”

“อย่างนี้เองเขตล่าอยู่นอกตัวเมืองสินะ เเล้วยังเป็นเขตล่าระดับE ”

มอนสเตอร์สเปช พื้นที่มอนสเตอร์ เป็นพื้นที่ที่มีมอนสเตอร์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พื้นที่มอนสเตอร์มีหลายรูปแบบ ทั้งทุ่งหญ้า ทั้งป่า ถ้ำหิน ทะเล เเละอื่นๆ ซึ่งมอนสเตอร์เเต่ละชนิดก็จะอยู่ในสเปชที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น สไลม์ก็จะพบอยู่เป็นจำนวนมากในสเปชทุ่งหญ้า มอนสเตอร์ที่มีความถนัดธาตุไม้ก็จะพบมากในสเปชป่า

 ส่วนระดับของสเปชก็จะเรียกง่ายๆตามระดับของมอนสเตอร์ เช่น หากมอนสเตอร์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในสเปชอยู่ระดับF มอนสเตอร์สเปชเเห่งนั้นจะจัดอยู่ในระดับF หากมอนสเตอร์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในสเปชอยู่ระดับAมอนสเตอร์สเปชเเห่งนั้นจะจัดอยู่ในระดับAตามไปด้วย สเปชของโฮเอมเป็นระดับEซึ่งไม่ต่ำเกินไปและไม่สูงเกินไปสำหรับตัวเขา มิคาเอลต้องวางเเผนอย่างพิถีพิถันแต่เขาไม่ได้เครียดกับมันมากนัก

“ว่าเเต่ทำไมถึงถามเรื่องนี้หรือเจ้าคะ”

เเม่บ้านกระพริบตา

“ไม่มีอะไร ข้าเเค่ลองถามดูเท่านั้น เจ้าไปได้เเล้ว”

มิคาเอลโบกมือ

“เช่นนั้นข้าต้องขอตัวก่อน หากต้องการอะไรโปรดเรียกหญิงเเก่คนนี้ได้ทุกเมื่อ”

หลังจากเเม่บ้านเดินจากไปมิคาเอลก็เริ่มกินข้าวพร้อมกับตรวจสอบข้อมูลจำนวนมากที่ฉายอยู่กลางอากาศ

นี่เป็นข้อมูลการเคลื่อนไหวทั้งหมดของอาณาจักรเรเซลนับจากวันสังหารผู้กล้า

“หลังจากฉันตายเวลาก็ผ่านไป10กว่าวันเเล้ว เเสดงว่าเวลาในสวรรค์เดินช้ากว่าบนโลก”

มิคาเอลเข้าไปในสวรรค์ไม่นาน เเต่บนโลกกลับผ่านไป10วัน มันเเสดงให้เห็นว่าการเดินของเวลาบนโลกกับสวรรค์เเตกต่างกัน แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องใส่ใจ

มิคาเอลเริ่มอ่านเนื้อหาอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้ตกหล่น ผ่านไปไม่นานเขาก็เข้าใจเนื้อหาภายในทั้งหมด

สรุปได้ว่า หลังจากสังหารผู้กล้าเสร็จอาณาจักรเรเซลก็ได้ประกาศข่าวที่น่าตกใจนี่ออกไป ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนข่าวนี้ก็สะเทือนไปทั้งโลกเวทมนตร์ เเม้เเต่ทวีปที่อยู่คนละซีกโลกก็ได้รับรู้ข่าวนี้ ชื่อเสียงของอาณาจักรเรเซลพุ่งทะยานขึ้นราวกับดอกไม้ไฟ ชื่อของราชาแอสเบิร์น องค์หญิงวิโอล่า เเละเหล่าอัศวินหน่วยที่1 ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้

 ต่อมาพวกเขาก็ได้ประกาศจัดงานเฉลิมฉลองเป็นเวลา7วัน7คืน โดยมีคนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมในงานเลี้ยงนี้ แอสเบิร์นถือโอกาสในการมอบรางวัลให้เเก่เหล่าจอมเวทย์ที่เข้าร่วมกองกำลังสังหารผู้กล้า แอสเบิร์นทำตามคำพูดเขาเปิดคลังสมบัติของวังเเล้วมอบทรัพย์สมบัติที่มีค่ามหาศาลเเก่เหล่าจอมเวทย์

 สุดท้ายก็เป็นการเลื่อนยศของเหล่าอัศวินหน่วยที่1 อัศวินหน่วยที่1ทุกคนได้เลื่อนระดับเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่สังกัดศาสนจักร เเละผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปลิดชีพผู้กล้ามิคาเอล ลูเซียส ได้เข้ารับตำแหน่ง ผู้กล้าคนใหม่เเละปฏิญาณว่าจะพรรคดีต่อศาสนจักร

“เเปลกเกินไป อัศวินหน่วยที่1เป็นคนของอาณาจักรเรเซลเเล้วทำไมถึงได้ไปเข้าร่วมกับศาสนจักร ”

มิคาเอลขมวดคิ้วเเละเริ่มคาดเดา เขาคาดเดาถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก่อนเป็นอันดับแรก นั่นก็คือ ศาสนจักรเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด

หากสิ่งนี้เกิดขึ้นมันจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากสำหรับเขา มิคาเอลรู้สึกว่าสิ่งนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะเพียงลำพังอาณาจักรเรเซลไม่มีความกล้ามากพอที่จะต่อสู้กับเขาที่เป็นถึงผู้กล้า ถึงจะโชคดีฆ่ามิคาเอลได้จริงๆเเต่มันก็ยังเป็นผลเสียอยู่ดี เเม้จะฆ่ามิคาเอลได้สำเร็จเเต่มันมีความเสี่ยงสูงที่เรเซลเองก็จะได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นกัน มันอาจทำให้พวกเขาหล่นลงจากตำแหน่งมหาอำนาจ มีความเสี่ยงสูงเเต่ผลกำไรที่ได้กลับมีเพียงชื่อเสียง หากนำมารวมกับนิสัยของเเอสเบิร์นคนนั้นเเล้วยิ่งทำให้มิคาเอลมั่นใจว่า อาณาจักรเรเซลไม่มีทางลงมือเองคนเดียว

แอสเบิร์นเป็นคนทะเยอทะยานมากเเต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ กลับกันเขาฉลาดเเละมีไหวพริบของผู้นำ เขาจะไม่ลงมือกับมิคาเอลหากมีความเสี่ยงที่ฝ่ายของเขาจะสูญเสีย เเต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทันทีหากอาณาจักรเรเซลได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจอื่น เขาจะมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะต่อสู้กับมิคาเอล เเล้วกองกำลังมหาอำนาจดังกล่าวในโลกนี้ก็มีเพียงไม่กี่เเห่ง หนึ่งในนั้นคือศาสนจักร

มิคาเอลกัดฟันเเน่น เหตุผลที่มิคาเอลไม่อยากเป็นศัตรูกับศาสนจักรก็เพราะน้องสาวของเขา เมลล่อนอาศัยอยู่ในศาสนจักร ถ้าพูดให้ถูกยิ่งกว่านั้นก็คือมิคาเอลบังคับให้เมล่อนเข้าไปอยู่ในศาสนจักรทั้งที่นางเองก็ปฏิเสธที่จะเข้าไป มันเป็นการตัดสินใจที่เห็นเเก่ตัวของเขาในอดีต

 เขาคิดว่าการที่ให้เมลล่อนได้รับการดูเเลจากมหาอำนาจที่เป็นกลางเเละไม่ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาทางโลกอย่างศาสนจักรจะทำให้เมลล่อนปลอดภัย เเต่ไม่คิดว่าการตัดสินใจของเขาจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาเอง

เเน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เพราะอาจจะเป็นมหาอำนาจอื่นที่ไม่ใช่ศาสนจักรเข้ามาสนับสนุนเรเซลก็ได้เช่นกัน

มิคาเอลคำนึงถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้ก่อนเสมอเเต่เขาจะไม่นำมันมากดดันตัวเองเด็ดขาด

เป้าหมายหลักของเขาคือช่วยเมลล่อน เป้าหมายรองคือการถล่มอาณาจักรเรเซลให้ย่อยยับ

เเล้วถ้าเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนจักรเขาก็ไม่คิดจะไปยุ่งกับทางนั้น หลังจากทั้งหมด ศาสนจักรเป็นขุมพลังเเนวหน้าของโลก เขาไม่อยากชักจูงปัญหาเข้าหาตัว ถึงเขาจะเป็นผู้กล้าที่เเข็งเเกร่งเเต่นั่นเป็นเรื่องในอดีต ตอนนี้เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะมีพลังเทียบเท่าชีวิตก่อน เเต่ถ้าหาก สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนั้นมาถึง เขาก็ไม่ลังเลที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างความลำบากเล็กๆน้อยๆให้เเก่ศาสนจักร เจตนาสังหารเเผดพุ่งออกมาจากดวงวิญญานส่วนลึกของเขา เเต่เขาก็กดข่มมันไว้อย่างรวดเร็ว

“เชิญมีความสุขกันให้เต็มที่เถอะ เพราะเมื่อไหร่ที่พวกเจ้าอยู่ในมือของข้า มันจะไม่ใช่เเค่ความตายที่รอพวกเจ้าอยู่”

เขาเฝ้ารอเวลาที่จะได้เเก้แค้น ขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมสำหรับเเผนการล่ามอนสเตอร์ในวันพรุ่งนี้

“ตรงส่วนสุดท้ายนี้มัน...มีอุบัติเหตุเล็กๆเกิดขึ้นในงานเลี้ยงฉลองวันเเรกจนทำให้งาน หยุดชะงักไปงั้นเหรอ ”

มีเรื่องราวที่ไม่สำคัญนักถูกเขียนไว้ในส่วนสุดท้ายของอุปกรณ์เวทย์บันทึกข้อมูล

มิคาเอลอ่านพวกมันอย่างรวดเร็ว เนื้อหานี้ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย หลังจากอ่านจบเขาก็ถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะเก็บอุปกรณ์เวทย์บันทึกข้อมูล

ภายในของเขามีความรู้สึกที่ครุมเครือปรากฏขึ้น

เนื้อหาส่วนสุดท้ายบันทึกเรื่องที่ค่อนข้างน่าสะเทือนใจ อย่างน้อยก็สำหรับคนทั่วไป

จบ