ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้กล้าปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 66


    ตอน คำสาปส่งเเละการเริ่มต้น

    “ฆาตกรในที่สุดก็สิ้นฤทธิ์เเล้วสินะ ”

    “เจ้าหลบหนี คำพิพากษาจากคนทั้งทวีป ตั้งเเต่เหนือสุดลงมาใต้สุด ตอนนี้เจ้าหนีไปไหนไม่ได้อีกเเล้ว ”

    “ผู้กล้าปีศาจ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งชื่อนี้แต่มันช่างเหมาะกับเจ้า เจ้าสังหารผู้คนนับพันชีวิต เพียงเพราะพวกเขาต้องการปกป้องความยุติธรรม”

    “มิคาเอล ไม่คิดเลยว่าสหายที่ดีของข้าจะตกต่ำลงถึงขั้นนี้ ล่อลวงองค์หญิงเฮเลน่ายังไม่พอยังทำการต่ำช้า ย่ำยีศักดิ์ศรีนาง ข่มขืน เเละสังหารนาง!! ด้วยความเลือดเย็น ข้าไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดเจ้าถึงเปลี่ยนไป จิตใจที่เมตตาของเจ้าจึงหายไปหมด ความยุติธรรมที่เจ้ายึดมั่นหายไปไหน ในอดีตข้าเคยชื่นชมเจ้า เคยยกย่องเจ้า เเต่ในตอนนี้เจ้าควรยอมเเพ้เเละกลับไปรับโทษ”

    ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาพูดด้วยอารมณ์ที่เอ่อล้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา

    ในทุ่งหญ้าที่รกร้างว่างเปล่า บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด กลุ่มจอมเวทย์มากกว่าห้าสิบคนปิดล้อมชายคนหนึ่งเอาไว้ตรงกลาง ชายคนนั้นคือ ผู้กล้ามิคาเอลที่ถูกกล่าวถึง เขาใส่ชุดเกราะสีทองศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในสภาพที่เสียหายอย่างหนัก มีรูตรงกลางหน้าอกที่เผยให้เห็นเนื้อหนังเเละเลือดจำนวนมากที่ไหลออกมา ในกลุ่มจอมเวทย์มีชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาราวกับกำลังตัดสินนักโทษ

    “ผู้กล้ามิคาเอลหลังจากที่ปราบจอมมาร เรายกย่องเจ้าว่าเป็นวีรบุรุษ เเต่โชคชะตาช่างน่ากลัว หลังจากนั้นเจ้ากลับหันหลังให้เเสงสว่างเเละเข้าสู่ด้านมืดเจ้าเเทนคุณด้วยโทษ กบฏต่ออาณาจักรเรเซลที่เลียงดูเจ้ามา ไม่เพียงเเค่นั้นเจ้าเเสดงความป่าเถื่อนของปีศาจออกมา เจ้าลอบฆ่าสมาชิกปาตี้ผู้กล้าที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันเเละนำศพของพวกเขาไปทิ้งไว้กลางเมือง สร้างความอัปยศที่ไม่อาจลบเลือนให้พวกเขา ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ต้องตายในวันนี้”

    มิคาเอลที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดยกสายตาขึ้นมองกลุ่มจอมเวทย์ เเววตาของเขาเป็นสีทองอร่ามเเต่มันกลับดูขุ่นมัว ไม่มีร่องรอยของการพยายามหลบหนีเขาคุกเข่าอยู่ตรงนั้นอย่างหมดสิ้นหนทางหลังจากหลบหนีการตามล่าของกลุ่มคนเหล่านี้มาตั้งแต่ภาคเหนือมาถึงภาคใต้ ตอนนี้เขาไม่เหลือทางรอดอีกเเล้ว

    “ เฮ้อ ”

    เขาถอนหายใจ การเคลื่อนไหวนี้ทำให้กลุ่มคนเริ่มระวังตัวเพราะคิดว่าเขาจะโจมตี เเต่มิคาเอลไม่เคยมีความคิดเเบบนั้น ในความเป็นจริงเขาไม่เคยส่งการโจมตีใส่คนเหล่านี้เเม้เเต่ครั้งเดียว มีเพียงพวกเขาที่โจมตีมิคาเอลอยู่ฝ่ายเดียวตั้งเเต่เเรกจนเขาตกอยู่ในสภาพนี้ การถอนหายใจของเขาเป็นเพราะความหมดหวังเเละหมดหนทางจริงๆ

    “อย่าห่วงเลยทุกคน พวกเจ้าคือคนที่ข้าเคยปกป้องเอาไว้ เเม้ข้ากำลังจะตายก็ไม่มีความคิดจะโจมตีพวกเจ้า”

    “ว่าไงนะ ไม่คิดตะโจมตี”

    “ปกป้องพวกเรางั้นหรอ”

    “หุบปาก จะ เจ้ามันก็เเค่ปีศาจ เราต้องฆ่าเขา”

    ดูเหมือนคำพูดของมิคาเอลจะทำให้จิตใจของกลุ่มคนเหล่านี้เริ่มหวั่นไหว

    “พวกเจ้ารู้ดีว่าข้าถูกใส่ร้ายเเต่ถึงอย่างนั้นก็ยังจะสังหารข้างั้นหรือ”

    มิคาเอลพูด ถูกต้อง เขาถูกใส่ร้าย เรื่องทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกวางเเผนเเละเตรียมการไว้เป็นอย่างดี เพื่อวันนี้ วันที่จะสังหารผู้กล้า เเละผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเเต่เป็นพวกราชวงศ์เรเซลที่เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องเอาไว้

    “ ไร้สาระ ฆาตกรอย่ามาทำตัวเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อไม่มีใครใส่ร้ายเจ้าทั้งนั้น พวกเราทุกคนที่อยู่ในที่เเห่งนี้ล้วนเป็นวีรชนผู้กล้าและมีเกียรติ เหตุใดถึงต้องทำการต่ำช้าอย่างการใส่ร้ายเจ้า”

    หญิงสาวที่งดงามคนหนึ่งพูดขึ้น นางใส่ชุดนักบวชสีขาวรัดรูปเเละมีเส้นผมสีดำ ทั้งหมดทำให้นางดูงดงาม นางก็คือองค์หญิงลำดับที่สาม วิโอล่า นางเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ผู้กล้าตำเเหน่ง นักบวชเเละเป็นคนที่มิคาเอลเคยชื่นชอบ เเต่นั่นเป็นเรื่องในอดีต ตอนนี้นางยืนอยู่คนละฝั่งกับเขาเเละเป็นหนึ่งในตัวการหลักที่วางเเผนใส่ร้ายเขา ตอนนี้นางยืนอยู่ต่อหน้าของมิคาเอลในฐานะหนึ่งในกองกำลังสังหารผู้กล้า ในมุมนี้มิคาเอลยังมองเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยจากนางได้อย่างชัดเจน

    “วิโอล่า ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงทำเรื่องเเบบนี้ ถ้าข้าทำอะไรให้ราชวงศ์ของพวกเจ้าไม่พอใจ ข้าต้องขอโทษจากใจจริง เเต่ได้โปรดหยุดเรื่องไร้สาระนี้”

    มิคาเอลตอบไปอย่างสงบเเต่มันก็เต็มไปด้วยความอ่อนล้าในประโยคสุดท้ายเขายังกระอักเลือดออกมาอีกด้วย เขามองไปที่องค์หญิงลำดับที่สามวิโอล่าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เเม้จะรู้ดีว่ามันไม่มีความหมายเเต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องพูดประโยคนี้ออกไป

    การเเสดงออกของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่จริงใจของผู้กล้า เหตุใดสิ่งที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับผู้กล้าถึงไม่เหมือนกับความเป็นจริง ข่าวลือพวกนั้นมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่พวกเขาเกิดความไม่เข้าใจ เป็นตอนนั้นเองที่ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งบินลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ชายวัยกลางคนคนนี้ใส่เครื่องเเต่งกายที่หรูหราบ่งบอกถึงสถานะของตนเอง เขาคือเเอสเบิร์น ราชาเเห่งอาณาจักรเรเซล เเอสเบิร์นมองมาที่ผู้กล้ามิคาเอลที่มีสภาพใกล้ตาย จากนั้นเขามองไปที่การเเสดงออกของกลุ่มคนด้วยเเววตาที่เฉียบคมก่อนจะพูด

    “อย่าโดนทักษะการเเสดงของผู้กล้าปีศาจคนนี้หลอกเด็ดขาด เขายังไม่สิ้นฤทธิ์ ตอนนี้เขากำลังถ่วงเวลาเพื่อรวบรวมพลังเวทย์ หากรอช้าเขาอาจจะหนีไปอีก เราต้องรีบจัดการเขาให้เร็วที่สุด หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ ”

    เอ่อ

    โดยไม่รอฟังคำตอบราชาเเอสเบิร์นออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่หนักเเน่น

    หน่วยอัศวินที่หนึ่ง ทำลายเเกนพลังเวทย์ของผู้กล้าปีศาจซะ! ”

    “รับทราบองค์ราชา!”

    กลุ่มคนหนุ่มสาวเหล่านั้นเดินมาตรงหน้ามิคาเอล มีรอยยิ้มเล็กๆปรากฏบนใบหน้าคนเหล่านี้ มีเพียงมิคาเอลที่อยู่ตรงข้ามพวกเขาเท่านั้นที่มองเห็นรอยยิ้มนี้ ต่อมาชายที่เคยกล่าวว่าเคยเป็นสหายของมิคาเอลก่อนหน้านี้เดินมารวมกลุ่มนี้เเต่การเเสดงออกของเขาเเตกต่างจากคนอื่น องค์หญิงวิโอล่าก็เดินเข้ามารวมกลุ่มนี้เช่นกัน นางยิ้มออกมาอย่างไม่ปกปิด ทั้งเจ็ดคนยื่นมือออกมาทางมิคาเอล มิคาเอลได้เเต่จ้องมองอย่างสงบเเต่จิตใจของเขาจมดิ่งลงจนถึงที่สุด

    ในวินาทีที่พลังเวทย์ของทั้งเจ็ดคนกำลังจะถึงตัวมิคาเอล เเสงสีทองก็ปรากฏขึ้นบนร่างการของมิคาเอลเเละป้องกันพลังจากทั้งเจ็ดคนเอาไว้

    “หึ คุณสมบัติของฉายาผู้กล้ายิ่งอยู่ในสภาพที่ย่ำเเย่ก็ยิ่งเเข็งเเกร่ง เเต่มันจะทนได้เเค่ไหนกัน”

    รอยยิ้มเเห่งชัยชนะปรากฏขึ้นที่มุมปากของราชาเเอสเบิร์น เขาหมุนตัวไปยังกองกำลังจอมเวทย์

    “หากต้องการสังหารผู้กล้า ข้าจำเป็นต้องทำลายเเกนพลังเวทย์เเละเเกนพลังกายของเขาก่อน เเต่ทั้งสองขั้นตอนจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากพวกเจ้าทุกคน”

    “เเต่นี้มันค่อนข้างจะ...”

    เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนมองหน้ากัน การปรึกษากันเริ่มขึ้น สถานการณ์ในตอนนี้ซับซ้อนมาก ผู้กล้าที่พวกเขาคิดว่าชั่วร้ายเเต่สิ่งที่ได้เห็นทำให้พวกเขาไม่เเน่ใจ คนที่ฉลาดเริ่มคิดได้ ทั้งเรื่องที่ผู้กล้าบอกว่าราชวงศ์เรเซลเป็นคนวางเเผนใส่ร้ายตนเอง เเม้พวกเขาจะไม่เชื่อ เเต่ก็มีความเป็นไปได้ที่มันจะเป็นความจริงเช่นกัน ถ้าหากสิ่งนี้เป็นเรื่องจริงพวกเขาที่ให้ความร่วมมือกับราชวงศ์ที่เป็นผู้ร้ายตัวจริงเพื่อสังหารผู้บริสุทธิ์ พวกเขาจะไม่ถูกประณามจากคนทั้งทวีปรึไง

    ราชาเเอสเบิร์นเห็นท่าทีลังเลใจของคนเหล่านั้นเเละเผยรอยยิ้มที่น่าสยดสยอง เเต่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูยุติธรรม

    “ทุกท่าน หากให้ความร่วมมือกับข้า ข้าราชาเเอสเบิร์นของสัญญาด้วยนามของอาณาจักรเรเซลว่าจะตอบเเทนทุกคนที่ให้ความร่วมมืออย่างเหมาะสม ข้าจะเปิดคลังสมบัติของวังเเละให้พวกท่านเลือกหนึ่งในนั้น

    หลังจากสิ้นสุดประโยคนั้น เเววตาของคนที่ลังเลก็เปลี่ยนไป มันมีเพียงเเค่ความโลภที่อยู่ในเเววตาของพวกเขา

    “จะว่าไปเเล้ว ถึงเรื่องที่ราชวงศ์วางเเผนกำจัดผู้กล้าจะเป็นความจริงเเล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขากัน ตราบใดที่มันไม่ถูกเปิดเผยก็ไม่มีใครสามารถรับรู้ เเละถึงมันจะถูกเปิดโปงในอนาคตเเต่พวกเขาก็สามารถตอบได้ว่า พวกเขาเพียงถูกราชวงศ์หลอกใช้ พวกเขาเพียงโยนความผิดไปที่ ราชวงศ์ก็พอเเล้ว”

    ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมา ถึงจุดนี้ความถูกต้อง ความผิดชอบชั่วดีถูกปัดทิ้งไปจากความคิดเหล่าจอมเวทย์

    บางคนเริ่มส่งพลังเวทย์ของตนออกมาเพื่อสนับสนุนอัศวินทั้งเจ็ดอย่างลับๆ เเต่ไม่นานทุกคนก็ส่งพลังไปให้อัศวินทั้งเจ็ด

    “ฮาฮ่าฮ่า ถูกต้อง พวกเจ้าเลือกถูกเเล้ว ปีศาจสมควรถูกกำจัด !”

    เเอสเบิร์นหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ ต่อมาเเสงสว่างรอบตัวมิคาเอลก็ไม่สามารถทน พลังเวทย์ของคนจำนวนมากได้ มันสลายหายไป พลังของฉายาผู้กล้าอ่อนกำลังลงจนไม่สามารถปกป้องเขาได้อีก มิคาเอลมองดูพลังเวทย์จากภายนอกเเทรกซึมเข้าไปในร่างการของเขา การเเสดงออกของเขาบิดเบี้ยวเเละอยากจะกรีดร้องออกมา

    “ข้ากำลังจะสูญเสียพลังเวทย์กับพลังกายทั้งหมด”

    ความรู้สึกที่ซับซ้อนปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา เขาคิดในใจ “เเอสเบิร์น ลูเซียส อัศวินหน่วยที่1 วิโอล่า เเละทุกคน พวกเจ้าเคยเป็นสหายข้า เราเคยใช้เวลาร่วมกัน เดินทางผจญภัยไปรอบๆ ต่อสู้กับศัตรูที่เเข็งเเกร่ง พูดคุยเเละหัวเราะ ข้าไม่เชื่อว่าพวกเขาต้องการสังหารข้าด้วยเจตนาของพวกเขา พวกเขาอาจจะมีเหตุผลที่ทำเรื่องเเบบนี้ ไม่เเน่ว่าอาจจะมีปีศาจที่เเข็งเเกร่งบังคับให้พวกเขาทำ”

    ในวินาทีต่อมาคลื่นพลังเวทย์ก็หยุดลง ในตอนนี้มิคาเอลได้สูญเสียพลังเวทย์เเละพลังกายทั้งหมดไปตลอดกาล เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีความสำคัญต่อโลกนี้อีกต่อไป

    เเต่ในตอนนั้นที่มิคาเอลได้เปิดปากพูดออกมา

    “นี่ทุกคน พวกเจ้ากำลังถูกปีศาจบางตนบังคับให้ทำเรื่องนี้ใช่ไหม คงจะทรมานมากใช่ไหม ไม่เป็นไรนะ เราจะผ่านอุปสรรคนี้ไปด้วยกันเชื่อสิ อุปสรรคที่หนักหนากว่านี้เรายังผ่านมันมาได้ ขอเเค่รวมพลังกันเเละช่วยกันคิดหาทางรับมือกับมัน เราต้องผ่านมันไปได้เเน่”

    มิคาเอลกรีดร้องออกมา ด้วยความโศกเศร้า

    “ฟุ ฮาฮ่าฮ่า! อะเเฮม ขออภัยที่เสียมารยาท”

    หนึ่งในอัศวินทั้งห้าที่เป็นชายหนุ่มรูปงามหลุดขำออกมาจึงรีบปิดปากตัวเองเเละขออภัย

    “ไม่เป็นไร คราวหน้าก็ระวังกริยาด้วย”

    ราชาเเอสเบิร์นพูด ในตอนนั้นเองที่เสียงๆหนึ่ง ถูกส่งเข้ามาในหัวของมิคาเอล

    “ เจ้ากำลังพูดไร้สาระอะไร หรือเจ้าเสียสติไปเเล้ว นี่คิดว่าพวกเราถูกปีศาจบังคับให้ทำงั้นหรอ ฮ่าฮ่า ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ”

    ราชาเเอสเบิร์น วิโอล่า เเละคนอื่นเเสดงท่าทางที่กำลังกลั้นเสียงหัวเราะอย่างสุดชีวิต เสียงนี้มาจากวิโอล่านางส่งเสียงผ่านเวทมนตร์มายังสมองของเขาโดยตรงสิ่งนี้ทำให้คนอื่นๆไม่ได้ยิน

    “ อะไรกัน เจ้าโกหก ความจริงเจ้ากำลังเสียใจใช่ไหมที่ถูกบังคับให้ทำเเบบนี้”

    มิคาเอลตะโกนออกมา

    นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการให้เป็น เเต่นั่นก็เป็นเพียงความเพ้อเจ้อของเขา ในตอนนี้มิคาเอลไม่เหลือความเป็นผู้กล้าอีกเเล้ว เขาดูน่าสมเพชอย่างมาก สภาพของเขาในตอนนี้ราวกับขอทาน

    “เสียใจงั้นรึ งั้นเจ้าลองมองดูสิว่านี่คือใบหน้าของคนที่กำลังเสียใจอยู่หรือไม่”

    วิโอล่าส่งเสียงที่เต็มไปด้วยความขบขันมายังหัวเขาอีกครั้ง

    “ไม่จริงใช่ไหม!...”

    ความเศร้าโศกเสียใจบนใบหน้าที่มิคาเอลอยากจะเห็นกลับไม่มีอยู่จริง บนใบหน้านั้นมีเพียงความสุข มุมปากยกตัวขึ้นสูง เเววตาเต็มไปด้วยความยินดี

    “เจ้านี่โง่จริงๆ ฮาฮาฮ่า”

    หนึ่งในอัศวินทั้งห้าที่หลุดหัวเราะก่อนหน้าพูดผ่านเวทมนตร์

    ดวงตาของมิคาเอลกลายเป็นไร้เเววเเห่งชีวิต

    “ช่างน่าเวทนา มิคาเอลเจ้าควรจะตายในฐานะวีรบุรุษ การตายในลักษณะนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น เเต่คนที่ทำให้มันเกิดขึ้นคือเจ้าเอง”

    ลูเซียสหัวหน้าหน่วยอัศวินที่1 คนที่เคยกล่าวว่าเคยเป็นสหายที่ดีกับมิคาเอลพูดขึ้น การเเสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความเวทนาที่มีต่อมิคาเอล

    “ถึงเวลาจบเรื่องนี้ บัดนี้ถึงเวลาทำการประหารปีศาจร้าย ”

    ลูเซียสก้าวออกมาอย่างมั่นคงเเละค่อยๆชักดาบศักดิ์สิทธิ์คู่กายของเขาออกมาจากฝัก

    “อย่างน้อยๆข้าจะเป็นคนปลิดชีพเจ้าเอง มิคาเอล”

    ร่องรอยของน้ำตาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลูเซียส

    “ลูเซียส บอกข้า หากเรายังเป็นเพื่อนกัน หลังจากข้าตาย เจ้าจะปกป้องน้องสาวของข้า”

    มิคาเอลมองลูเซียสด้วยใบหน้าอ้อนวอน

    ลูเซียสมีสีหน้าที่หน้าเกลียดยิ่งกว่าเดิม เขากัดฟันอย่างรุนเเรง ก่อนจะพูดออกมาอย่างยากลำบาก

    “ขอโทษด้วย เเต่นางเองก็ต้องถูกสังหารเช่นกัน ”

    “ถูกต้อง เพราะนางเป็นคนใกล้ชิดที่สุดของผู้กล้าปีศาจเป็นไปได้ว่านางเองก็เข้าร่วมกับปีศาจเช่นกัน เราจะทำการค้นความทรงจำของนางเพื่อดึงข้อมูลทั้งหมดออกมาเเละขึ้นรับคำพิพากษา หากนางไร้ความผิดเราก็จะดำเนินการอย่างยุติธรรม”

    เเอสเบิร์นพูด

    “อะไรกัน นี่พวกเจ้า!”

    “เสียใจด้วยนะมิคาเอล เเต่นางมีชะตากรรมเเบบเดียวกับเจ้า หลักฐานทุกอย่างยืนยันว่านางเองก็เป็นพวกเดียวกับปีศาจ หลังจากเจ้าตาย ข้าจะส่งนางไปกับเจ้าเอง ”

    ลูเซียสพูดด้วยความเสียใจ เขายกดาบขึ้นเเละฟาดลงมาตัดลำคอของมิคาเอลอย่างไม่รอช้า

    “นี่ข้าจะต้องตายจริงๆงั้นเหรอ... เมลล่อนน้องต้อง...”

    มิคาเอลรู้สึกได้ว่าโลกเริ่มหมุน นั่นเป็นเพราะศรีษะของเขาถูกตัดเเละลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะกลิ้งไปตามพื้น ผู้กล้ามิคาเอลตายเเล้ว

    ***

    ภายในสถานที่ที่ว่างเปล่า มันไม่มีด้านซ้ายด้านขวา ด้านหน้าหรือด้านหลัง ไม่หนักไม่เบา ไม่ดำไม่ขาว เป็นสถานที่ที่ไม่สามารถบรรยายได้ มันว่างเปล่า

    มันก็คงจะเป็นเเบบนั้น ข้า... หือ ไม่สิ นี่ฉันลืมวิธีพูดของตัวเองไปเเล้วหรอ

    โอ้ นี่คือความทรงจำที่ฉันลืมมันไปเเล้วงั้นหรอ เขารู้สึกราวกับว่าความทรงจำของเด็กหนุ่มม.ปลายที่เขาลืมมันไปเเล้ว มันเริ่มชัดเจนขึ้น ฉันไม่ได้เป็นคนของโลกใบนี้ตั้งเเต่เเรกเเต่ถูกอัญเชิญมา เมื่อก่อน อาจจะราวๆ20ปีก่อน ฉันเคยเป็นเเค่เด็กหนุ่มม.ปลายธรรมดาๆในโลกใบเก่า เเต่วันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เหมือนพล็อตนิยายเเนวต่างโลกที่เคยอ่านสมัยก่อนเลยเเฮะ นักเรียนธรรมดาอยู่ๆก็ถูกอัญเชิญมาที่โลกเเฟนตาซี ถูกราชาเห็นเเก่ตัวยัดเยียดภาระที่ยิ่งใหญ่

     กลายเป็นผู้กล้าที่เเบกรับความคาดหวังของทุกคนเอาไว้บนบ่า ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคจนเก่งขึ้นเพื่อให้สมกับความคาดหวังของคนอื่น เมื่อปราบราชาปีศาจลง เเทนที่จะได้รับคำยกย่องสรรเสริญ เเต่กลับถูกคนที่ไว้ใจมาตลอดหักหลัง โดนใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรฆ่าเพื่อนตัวเอง เป็นอาชญากรฆ่าข่มขืน เป็นกบฏที่คิดล้มล้างอาณาจักร ถูกคนทั้งทวีปประณามไม่ต่างจากปีศาจ ถูกคนที่เชื่อใจผลักไสเเละถูกตามล่าอย่างไม่หยุดพัก ต้องดิ้นรนหนีหัวซุกหัวซุน สุดท้ายก็ตายอย่างน่าสมเพช ทั้งหมดนี้คือชีวิตของมิคาเอล

    “ ฮาฮ่าฮ่า ผู้กล้าที่เเข็งเเกร่งเเละจิตใจดีตามที่ทุกคนคาดหวัง ฉันเป็นให้เเล้วไม่ใช่รึไง เเล้วทำไมถึงต้องทำร้ายฉัน ทำไมถึงเกลียดฉันมากขนาดนี้ ... พวกนายไม่เคยเห็นฉันเป็นเพื่อนเลยรึไง ”

    ก็อยากจะตะโกนออกมาดังๆเเบบนั้นอยู่หรอก เเต่ตัวเราในตอนนี้ ไม่รู้สึกโกรธเลย พอเเล้วพอดีกว่า

    หลังจากนั้นเขาก็รับรู้ถึงความเปลี่ยนเเปลงที่เเปลกประหลาดเขาถูกส่งมายังมิติลึกลับเเห่งหนึ่ง มันมีพื้นที่ที่สามารถยืนได้ ตอนนี้มิคาเอล กลับมามีร่างกายอีกครั้งไม่เหมือนก่อนหน้าที่มีเพียงความคิดที่เหลืออยู่ เขาไม่เเปลกใจเท่าไหร่เเละเริ่มสำรวจดูร่างกายตัวเอง ปรากฏว่าเขาอยู่ในร่างกายของเด็กม.ปลายอีกครั้ง นี้เป็นร่างเดิมของเขาในโลกมนุษย์ใบเดิมก่อนที่จะมายังโลกเวทมนตร์เเละกลายเป็นผู้กล้า เมื่อได้ร่างกายเดิมกลับมาเเทนที่จะดีใจเขากลับคุกเข่าความคิดต่างๆที่อยู่ในหัวตีกันมั่วไปหมด ท่ามกลางความคิดที่ยุ่งเหยิงภาพของเด็กสาวที่วิ่งเล่นอย่างมีความสุขปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ใบหน้าที่น่ารัก รอยยิ้มที่สดใส่ ท่าทางที่ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างกระทันหัน

    “เมลล่อน พี่ทำให้น้องตกอยู่ในอันตราย!”

    เขาหยุดความคิดที่ยุ่งเหยิงเเละกลับมามีสติอีกครั้ง

    “ถูกต้อง เมลล่อนน้องสาวเเละครอบครัวเพียงคนเดียวของเขายังมีชีวิตอยู่ที่นั่น เมลล่อนจะต้องถูกตามล่าจากพวกราชวงศ์เพราะเธอเป็นน้องสาวของผู้กล้าปีศาจ”

    เขากำหมัดเเน่นเเววตาที่ดูมุ่งมั่นของเขาเปลี่ยนเป็นคมกริบราวกับใบมีด ในเวลาไม่นานเขาสามารถลุกขึ้นจากความเสียใจ จิตใจของเขาสงบนิ่งราวกับสายน้ำ เจตนาฆ่าของเขาลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง

    เขาลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคงความสนใจของเขากลับมาที่ปัจจุบัน

    เขากวาดตามองรอบๆตอนนี้เขาอยู่ในมิติลึกลับ เขาไม่ตกใจเพราะเขาเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาเเล้ว

    ที่นี่ยังคงเหมือนเดิมมันเป็นห้องโถงขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กถูกตกเเต่งอย่างหรูหราสไตล์โรมัน เขาหยุดสายตาเเละจ้องมองกลางห้อง กลางห้องนั้นไม่มีใครเเต่เขาก็เริ่มพูดกับความว่างเปล่า

    “เทพธิดา ฉันอยากจะพบน้องสาว ส่งฉันกลับไปได้ไหม”

    “ไม่ได้ค่ะ”

    เสียงหนึ่งตอบกลับอย่างรวดเร็ว มิคาเอลมองไปยังทิศทางของเสียงเพื่อพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้ว่านางยืนอยู่ตรงนั้นตั้งเเต่เมื่อไหร่เเต่ก่อนหน้านี้นางไม่ได้พูดอะไรเเละเอาเเต่มองเขาอยู่เงียบๆ

    “ทำไม”

    มิคาเอลถาม

    “เพราะคุณตายเเล้วหลังจากนี้ต้องไปที่สวรรค์ค่ะ”

    “ไม่มีวิธีเลยงั้นเหรอ”

    สายตาของเขามืดลงเเต่เขายังไม่ยอมเเพ้ เขามองผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่วางตา เธอใส่ชุดสีขาวที่ส่องประกายศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ มงกุฎบนศรีษะของเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่งดงามสมบูรณ์แบบเเละศักดิ์สิทธิ์ราวกับเทพธิดาผิวขาวราวกับหิมะ ใบหน้าของเธอเผยให้เห็นรอยยิ้มบาง มองครั้งเเรกก็รู้เลยว่าต้องไม่ใช่มนุษย์เพราะนางงดงามเกินไป นางพูดอย่างไม่ใส่ใจ

    “ยอมรับชะตากรรมซะเถอะมิคาเอล ทั้งดวงวิญญาณเเละร่างกายของคุณตายจากโลกนั้นไปอย่างสมบูรณ์เเล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นคืนชีพ อีกอย่างการคืนชีพก็ผิดกฏสวรรค์ค่ะ”

    “เเต่เธอใหญ่สุดในสวรรค์ไม่ใช่รึไง”

    มิคาเอลพูดอย่างไม่ใส่ใจ คำกล่าวของมิคาเอลทำให้นางเเสดงท่าทีตกใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างลึกลับ

    “ไม่รู้สินะ ยังไงกันเเน่นะ ”

    “ฉันรู้ว่าเธอทำได้ ช่วยฉันคืนชีพฉันเเล้วฉันจะจ่ายค่าตอบเเทน”

    “อะไรนะ ฮาฮ่า ดูเหมือนคุณจะเข้าใจผิดอยู่นะคะ”

    เทพธิดาหุบยิ้มเเละพูดต่ออย่างเย็นชา

    “ที่บอกว่าจะไม่คืนชีพให้คุณไม่ใช่เพราะว่าฉันทำได้หรือไม่ได้ เเต่ที่ฉันไม่ทำเพราะมันเป็นกฎต่างหากละคะ”

    เเต่มิคาเอลกลับส่ายศรีษะ

    “เธอเองก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ ฉันไม่ได้ขอให้ช่วยฟรี ฉันบอกจะจ่ายค่าตอบแทนให้”

    “โห มั่นใจหรอว่าคุณจะจ่ายไหว ฉันชักอยากรู้เเล้วสิว่ามันจะเป็นค่าตอบแทนเเบบไหน”

    “ฮ่าฮ่า อย่างที่คิดไม่ว่าโลกมนุษย์ใบเดิม โลกเเฟนตาซีหรือ สวรรค์เเห่งนี้ ไม่มีอะไรซื้อขายไม่ได้หรอก มันเป็นเพียงเรื่องของราคา” เขาคิด

    “ฉันจะยอมทุกอย่างราคานี้พอไหม”

    เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของเทพธิดาเปลี่ยนเป็นส่องประกาย

    “ทุกอย่างงั้นหรอคะ ”

    การเเสดงออกของนางดูมีความสุขเเต่ก็เเค่ไม่กี่วินาทีก่อนที่มันจะเปลี่ยนกลับไปเย็นชาเหมือนเดิม

    “ฮ่าฮ่า หน้าสนุกจริงๆ เเล้วคุณจะให้อะไรฉัน ลองเสนอมาก่อนสิค่ะ ขอบอกไว้ก่อนว่าอย่าเสนอชีวิตของคุณ เพราะฉันไม่ต้องการ”

    มิคาเอลพยักหน้าเห็นด้วยราวกับรู้ก่อนหน้าว่านางจะพูดเเบบนี้

    “ชีวิตของฉันคงไม่มีค่าอะไรสำหรับเธอเพราะยังไงเธอก็อยู่ที่นี่เเละดูดกลืนชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วนอยู่เเล้ว ดังนั้นสบายใจได้สิ่งที่ฉันจะเสนอจึงไม่ใช่ชีวิต ”

    “เเล้วมันคืออะไรคะ”

    เทพธิดาถาม

    “เทวดากับเทพธิดาอย่างพวกเธอกินพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มอายุไขใช่ไหม”

    “ถูกต้อง ช่างรอบรู้จริงๆ เเล้วคุณจะให้ฉันเท่าไหร่ล่ะ”

    “เอาไปทั้งหมดเลย พลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด พรจากสวรรค์ทั้งหมด หรือเเม้เเต่ฉายาผู้กล้า เอาไปทั้งหมดเลย”

    “นี่คุณ!”

    เทพธิดาตกใจ เป็นครั้งแรกที่นางเเสดงออกอย่างรุนเเรงเช่นนี้ มิคาเอลเสนอพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด พรจากสวรรค์ทั้งหมด เเละฉายาผู้กล้า จะให้นางไม่ตกใจได้ยังไง เพราะของทั้งสามเป็นสิ่งที่มีค่ามากเเม้จะอยู่บนสวรรค์ เเค่พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างเดียวก็มีค่ามากพอจะเเลกเปลี่ยนกับการคืนชีพเเล้ว ต้องรู้ก่อนว่ามิคาเอลมีสถานะเป็นผู้กล้าดังนั้น พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขามีจึงมีคุณภาพเเละปริมาณสูงมาก หากเปรียบเทียบกับคนธรรมดาพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขามีปริมาณมากกว่าคนธรรมดาถึงร้อยล้านคนรวมกัน หากเทพธิดาได้รับสิ่งนี้อายุขัยของนางจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    “ทราบเเล้วๆ ครั้งนี้จะถือเป็นกรณีพิเศษ ฉันยินดีเเลกเปลี่ยนกับคุณค่ะ”

    เทพธิดาถูกล่อลวงอย่างง่ายดาย ตอนนี้มิคาเอลได้เรียนรู้อย่างหนึ่งเเม้จะเป็นถึงเทพที่เเข็งเเกร่งเเละดนบรรดาลทุกสิ่งได้ก็ยังมีความอยากที่ไม่รู่จักพอ มิคาเอลรู้ว่านางเป็นถึงเทพสูงสุดในหมู่เทพทั้งปวงเเต่นางยังมีความต้องการที่จะไปให้สูงยิ่งกว่านี้ ถ้าเเม้เเต่เทพยังมีความต้องการก็ไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงตัวตนอย่างมนุษย์

    ภาพขององค์หญิงวิโอล่า ราชาเเอสเบิร์น เเละคนอื่นๆ ปรากฏขึ้นภายในความคิดของเขา มิคาเอลรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจพวกเขาเหล่านั้นมากขึ้นก่อนที่เขาจะปัดเป่าภาพเหล่านั้นทิ้งไป

    จบ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×