ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องพักออริที่นก V.2

    ลำดับตอนที่ #39 : {AU Fanfic KHR Reborn} Hey! Mr.Right : นากางาวะ อายาโนะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 120
      0
      14 มี.ค. 60

    APPLICATION



    “กรอบรูปนั่น..น่าจะขยับไปทางซ้ายอีก2เซนติเมตรนะคะ”



    ชื่อ :: นากางาวะ อายาโนะ { Nakagawa  Ayano } 

    ชื่อเล่น :: อายาโนะ { Ayano } 

    อายุ :: 24 ปี

    ลักษณะภายนอก :: หญิงสาววัย 24 ปี ผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีชมพูดั่งดอกไฮเดรนเยีย ทอประกายเมื่อต้องแสงสุริยันในยามเช้าและแสงจันทราในยามราตรี  ยาวสลวยลื่นมือจนถึงขาอ่อนไร้ซึ่งการผูกมัดใดๆนอกจากเปียคาดผมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดวงตาเฉียบคมสีแดงไล่สีอ่อนลงมาจนเป็นสีส้มสุกสกาวดั่งดวงดาราที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้าสีรัตติกาลไม่ว่าผู้ใดได้มองก็ต้องหลงไหล ใบหน้าเรียวได้รูปแลดูอ่อนหวานและเรียบเฉยในเวลาเดียวกัน ปากบางอมชมพูน่าสัมผัส ผิวพรรณเนียนขาวราวหิมะในฤดูหนาวที่โปรยปรายจนทับถมกัน สูง165 น้ำหนัก50

    ลักษณะนิสัย :: 
    หลงใหล 'ความสมมาตรและความเพอร์เฟค'
    'ไม่ว่าจะทำอะไร ทุกอย่างต้องสมมาตร ทุกอย่างต้องเพอร์เฟค' คือคำที่เธอนั้นใช้เตือนตัวเองและคนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง ถ้ามีส่วนไหนไม่สมบูรณ์แบบเธอจะรีบจัดการให้มันเข้าที่เข้าทาง และมักจะไม่สบอารมณ์ทุกครั้งที่เห็นอะไรบิดเบี้ยว เช่นกรอบรูป ไม่ว่ารูปนั้นจะเอียงไปทางขวาเพียงแค่เซนฯเดียว ก็ไม่สามารถรอดสายตาที่เฉียบคมดั่งเหยี่ยว(?)ของเธอไปได้ เธอจะทำการตำหนิคนจัดกรอบรูปเล็กๆน้อยๆเพื่อไม่ให้เขาทำพลาดอีก และจะจัดการด้วยตัวเองทันที ไม่ใช่เพียงแค่กรอบรูปอย่างเดียวเท่านั้น แม้แต่เทียนที่ตั้งไว้บนโต๊ะบูชายันต์(?)ก็ต้องมีความสูงและขนาดที่เท่ากันทั้ง 2 ข้าง เปลวเทียนก็ต้องยาวเท่ากัน เรียกได้ว่าทั้งชีวิตของเธอจะมีแต่ความสมมาตรและความเพอร์เฟค

    หน้านิ่ง
    เธอเป็นคนที่หน้านิ่งตลอดเวลา น้อยครั้งมากที่ริมฝีปากบางจะยกยิ้มขึ้น เพราะเหตุนี้เองทำให้เธอถูกมองว่าเป็นคนเย็นชา ไร้ความรู้สึก และเหมือนมีประตูคอยปิดกั้นหัวใจเธอไม่ให้ยอมรับคนอื่นๆที่เข้ามา ฉายาที่คนอื่นตั้งให้เธอก็คือ 'สาวไร้อารมณ์' เพราะไม่ว่าจะเวลาไหนหน้าเธอก็มักจะนิ่งอยู่ตลอดเวลา แต่เธอนั้นก็เคยแสดงอารมณ์อื่นออกมาเหมือนกันเพียงแค่คนรอบข้างมองไม่ออกเท่านั้นเอง เช่น
    สนุก&มีความสุข > > > (- - )
    เศร้า&เสียใจ > > > (- - )
    โกรธ > > > (- -+ ) ชิ้ง~
    โกหกไม่เนียน(?) > > > (- -; )
    ก็...นะ แบบนี้คนอื่นจะมองไม่ออกก็คงไม่แปลกหรอก จะมีแค่เวลาโกรธและโกหกไม่เนียน(?)เท่านั้นที่หน้าตาของเธอจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย และแน่นอนว่าที่เธอชอบทำหน้านิ่งๆนั่นก็เพื่อแอ๊บขรึม(?)เท่านั้นเอง;)

    ไม่รู้จักวิธีเข้าหาคนอื่น
    ตลอดเวลา24ปีที่ผ่านมาในชีวิตของเธอนั้นมีแต่คำว่าเรียนและต้องเป็นที่ 1 เท่านั้น เนื่องจากทางบ้านต้องการให้เธอสืบทอดธุรกิจของตระกูลจึงให้ความคาดหวังกับเธอไว้มาก วันๆก็ให้เรียนอย่างเดียวจนเธอไม่มีเวลาออกไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆเลย เมื่อโตขึ้นก็กลับกลายเป็นว่าเธอไม่รู้ว่าควรเข้าหายังไง? ต้องเริ่มจากตรงไหน? จึงทำให้เธอกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวและด้วยความที่เข้าถึงยากอยู่แล้วจึงทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้ามาทำความรู้จักกับเธอสักเท่าไหร่ ถึงภายนอกเธอจะดูไม่สะทกสะท้านกับเรื่องนี้ แต่ภายในใจนั้นกลับเต็มไปด้วยความเหงาและความโดดเดี่ยว เวลามีเรื่องไม่สบายใจก็ไม่สามารถระบายออกมาให้ใครฟังได้เลยจึงเก็บเรื่องนั้นไว้เพียงคนเดียว นานวันเข้าก็กลายเป็นคนเก็บกดไปเสียดื้อๆ

    ซึนเดเระ
    ซึนเดเระหรือปากไม่ตรงกับใจคงต้องยกให้เธอคนนี้เลยล่ะ ที่จริงแล้วเธอเป็นคนที่เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนร่วมงานมาก แต่แสดงออกมามากไม่ได้เท่านั้นเอง   เธอมักจะสังเกตเพื่อนร่วมงานทุกคนว่ามีปัญหาอะไรบ้างและจะเนียนๆเข้าไปช่วยแก้ปัญหาแบบไม่ให้อีกคนรู้ว่าเธอนั้นแอบเป็นห่วงอยู่ เช่น เพื่อนร่วมงานคนไหนที่บ้านอยู่ไกลจากที่ทำงานจึงต้องอดข้าวเช้าเพื่อมาให้ทันเวลางาน ด้วยความที่เธอมาทำงานเช้ากว่าทุกคนอยู่แล้วจึงมักจะวางขนมปังกับน้ำไว้ให้บนโต๊ะของเพื่อนร่วมงานคนนั้นเพื่อให้เขากินรองท้องแทนข้าวเช้าไปก่อนหลังจากนั้นก็จะทำตัวตามปกติเพื่อไม่ให้เพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมงานจับได้ว่าเธอเป็นคนเอาขนมปังนั่นไปวางไว้บนโต๊ะทำงานตน บางครั้งเธอก็มักจะเรียกร้องความสนใจแบบเนียนๆ(?)เพื่อให้คนอื่นชวนเธอคุยบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำบ่อยอะไรนักเพราะว่านอกจากงานคำนวณแล้วเธอยังต้องดูแลเรื่องความเพอร์เฟคของงานและการตกแต่งอื่นๆอีกด้วย 

    ด่าเจ็บ
    ถึงปกติเธอจะเป็นคนนิ่งๆ พูดคะหรือค่ะลงท้ายแทบจะทุกครั้ง แต่ถ้าเส้นด้ายแห่งความอดทนขาดสะบั้นลงเมื่อไหร่เธอจะกลายเป็นคนที่ด่าเจ็บ คะ/ค่ะจะหายไปในทันใด(?) ถึงจะไม่ได้ขึ้นเสียงแต่ก็สามารถทำให้ใครหลายๆคนน้ำตาตก(?)หรืออารมณ์ขึ้น(?)ก็ได้ การด่าของเธอนั้นจะเป็นไปในทางเปรียบเปรยเสียมากกว่า เช่น
    "หึ น่าสงสารพ่อแม่เธอจัง....ที่ดันมีลูกนิสัยเหมือนสัตว์ที่มีนอ"
    แบบนี้เค้าเรียกด่าอย่างมีเสต็ป(?) เจ็บแบบมีสไตล์(?) แต่ถ้าอีกฝ่ายปรี๊ดแตก(?)จนถึงขั้นจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย เธอก็จะโต้กลับไปเพียงหมัดเดียวเพราะแค่นี้ก็สามารถทำให้คนๆนั้นเลือดกกปากและยอมถอยไปแบบง่ายดายโดยไม่ต้องลงไม้ลงมืออะไรมาก แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนที่แค้นฝังหุ่น ก็คงต้องมีการปรับทัศนคติ(?)กันนิดหน่อย อย่างน้อยก็นอนโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ อย่างมากก็นอนประมาณ 3 เดือน แต่ถ้ามันร้ายแรงจริงๆก็คงได้นอนที่นั่นแบบไม่มีวันได้ออกมา(นอนที่ห้องดับจิตนั่นเองค่ะ--) 
      

    (เมื่ออ่านถึงประวัติ แนะนำให้เปิดเพลงนี้ในขณะที่อ่านด้วยค่ะ)
    B A B Y ♥ T H E M E
    Cute Light Pink Flying Butterfly
    ชีวประวัติ :: อายาโนะ หญิงสาวที่เกิดมาภายใต้สกุล นากางาวะ ที่มีฐานะพออยู่พอกินไม่ได้ร่ำรวยอะไร เธอนั้นถูกบังคับให้เรียนหนังสือเพียงอย่างเดียวเพราะเชื่อว่าถ้ามีความรู้ก็จะสามารถนำพาครอบครัวให้มีฐานะที่ดีขึ้นได้ ทางครอบครัวให้ความคาดหวังกับเธอไว้มากซึ่งเธอก็ทำตามแบบไม่มีข้อขัดแย้งใดๆทั้งสิ้นและในที่สุดเธอก็ทำให้ครอบครัวภูมิใจได้นั่นก็คือเธอสามารถคว้าเกรด4มาให้ครอบครัวเชยชมได้ตลอดระยะเวลา12ปีที่ผ่านมา ครอบครัวของเธอนั้นมีความสุขมากที่ลูกสาวของตนสามารถทำได้ตามที่พวกเขาหวังและเธอต้องทำแบบนี้ให้ได้ไปตลอด 

    แต่ก่อนเธอนั้นเป็นเด็กที่สดใสร่าเริงสมวัยเหมือนเด็กทั่วๆไปแต่กลับไม่มีเพื่อนเลยเพราะต้องใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเรียนและอ่านหนังสือแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะเธอนั้นต้องการเห็นครอบครัวมีรอยยิ้มมากกว่าการมีเพื่อนเสียอีก เธอจึงพยายามตั้งใจเรียนให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้เห็นรอยยิ้มของคนที่เธอรัก เธอมีความสุขเมื่อเห็นคนที่ตนรักดูใบเกรดเฉลี่ยของเธอและยิ้มออกมา 

    ในวันเกิดครบรอบ 13 ปีของเธอ พ่อและแม่ตัดสินใจจะเซอร์ไพร์วันเกิดจึงออกไปซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหารและเค้ก เพราะตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยจัดงานวันเกิดให้เธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากจัดแต่เธอนั้นไม่ต้องการให้มีงานวันเกิดต่างหาก เพราะคิดว่าแค่ได้อยู่กับทุกคนในครอบครัวก็เหมือนได้รับของขวัญอันล้ำค่าที่สุดแล้ว แต่ปีนี้เป็นปีพิเศษเพราะเธอนั้นสามารถสอบเข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นเธอยังคว้าอันดับหนึ่งมาให้ทางบ้านได้เชยชมอีกด้วย แต่แล้ว....ก็เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง...

    ในขณะที่พ่อและแม่กำลังขับรถเพื่อกลับบ้านนั้น จู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตทั้งคู่ ทางพี่ชายเพียงคนเดียวของเธอเมื่อรู้ข่าวเขาก็รีบโทรบอกเธอทันที วินาทีแรกที่เธอรู้ข่าวมันแทบทำให้หัวใจเธอแทบสลาย เธอยอมทิ้งการเรียนของวันนั้น ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไปยังที่เกิดเหตุ และเมื่อไปถึงก็ต้องพบกับหน่วยกู้ภัย รถพยาบาลและผู้คนที่มุงดูสภาพรถที่ยับเยินนั่น เธอพยายามฝ่าวงล้อมผู้คนไปและเมื่อเห็นภาพศพตรงหน้าที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีขาวที่บัดนี้มันเริ่มชุ่มไปด้วยเลือดช้าๆ มันก็ทำให้เธอลืมหายใจไปชั่วขณะ ภาพรอยยิ้มของพ่อแม่เริ่มย้อนกลับเข้ามาในหัว เสียงหัวเราะความสุขต่างๆได้หายไปพร้อมกับลมหายใจของท่าน น้ำใสๆเริ่มไหลรินออกมาจากตาคู่สวยที่ตอนนี้เริ่มไร้แววประกายเข้าไปทุกที เธอโผเข้ากอดร่างไร้วิญญาณของพ่อแม่ด้วยน้ำตาและเสียงกรีดร้องเหมือนคนไร้สติ พี่ชายก็ทำได้แค่ลูบหลังเธอเพื่อปลอบประโลมเท่านั้น

    หลังจากผ่านเหตุการณ์วันนั้นไปเธอกลับกลายเป็นเด็กที่ไม่รู้จักแม้แต่คำว่ารอยยิ้ม ไม่รู้ว่าความร่าเริงมันคืออะไร? กินได้รึเปล่า? วันๆก็ชอบเก็บตัวอ่านหนังสืออยู่แต่ในห้อง เพื่อทำให้พ่อแม่ที่อยู่บนสวรรย์ยิ้มอีกครั้ง 
    เวลาผ่านไป 11  ปี บัดนี้เธอได้เติบโตเป็นหญิงสาวที่ดีพร้อม ทั้งด้านหน้าตา ด้านการเรียน แต่เธอนั้นก็ยังไม่ยิ้มอยู่เหมือนเดิม และด้วยการที่เติบโตมาพร้อมกับผู้เป็นพี่ชายที่บ้าความสมมาตรจึงทำให้เธอซึมซับความบ้า(?)นั้นเข้าไปในตัววันละนิดวันละหน่อย จนในที่สุดก็กลายเป็นพวกคลั่งความสมมาตรและความเพอร์เฟคไปโดยปริยาย ในที่สุดวันที่เธอต้องแยกจากจากพี่ชายเพียงคนเดียวก็มาถึง
    "แน่ใจนะ? ว่าอยู่คนเดียวได้?"
    ผู้เป็นพี่ชายถามน้องสาวเพียงคนเดียวของตน เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเข้าต้องไปสร้างครอบครัวกับหญิงสาวที่เขาตกลงปลงใจแต่งงานด้วย
    "อืม พี่ไปเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้..."
    เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนอย่างเคย เพราะไม่ต้องการให้พี่ชายของตนเป็นห่วง
    "ถ้างั้น..พี่ไปก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆด้วย.."
    ผู้เป็นพี่ชายยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนพร้อมลูบหัวเธอเบาๆก่อนขึ้นรถและขับออกไป
    "...โชคดีค่ะ พี่ชาย.."
    เธอมองตามรถที่พี่ชายขับออกไปจนลับตา แววตาที่ไร้แววประกายปิดลงครู่หนึ่งก่อนจะเปิดขึ้นมาอีกครั้ง
    "จากนี้ไป ต้องดูแลตัวเองแล้วสินะ ควรหางานทำได้แล้วมั้ง.."
    เธอพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเดินไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการหางานเพื่อที่จะมีเงินไว้เลี้ยงตนเองให้อยู่รอด
    และแน่นอนคนที่มีไอคิวสูงอย่างเธอสามารถหางานทำได้สบายๆ 

    ในระหว่างที่เธอกำลังหางานทำอยู่นั้นก็มีใบปลิวแผ่นหนึ่งลอยมาแปะหน้า(?)เธอเข้าอย่าจัง ถึงจะไม่สบอารมณ์อยู่บ้างแต่เธอก็พยายามเก็บอารมณ์และหยิบใบปลิวนั้นมาอ่าน
    "ดอลล่าแฟมิลี่...แฟมิลี่...ครอบครัว?"
    คำๆนี้ลอยวนเวียนอยู่ในหัว ความรู้สึกเหงา ความรู้สึกโหยหาเริ่มถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ เพราะเธอนั้นต้องเสียครอบครัวไปตั้งแต่อายุ13 ไม่แปลกที่หญิงสาววัย24อย่างเธอจะรู้สึกโหยหาเพียงนี้ เธอจึงตัดสินใจทำงานนี้อย่างไม่ลังเล โดยไม่รู้เลยว่าดอลล่าแฟมิลี่ก็คือ 
    'นักฆ่าอิสระ'  
       

    ตำแหน่งงานที่ได้รับ :: พนักงานบัญชี

    คู่ :: ฮิบาริ เคียวยะ

    อาวุธ :: เคียวโซ่ เพราะมันสามารถใช้ต่อสู้ทั้งในระยะประชิดและระยะกลางได้ ซึ่งเป็นอะไรที่สะดวกมาก ถึงแม้จะไม่มีอาวุธเธอก็จะใช้แม่ไม้มวยไทย(?)ที่ศึกษามาจากทางเน็ตในการต่อสู้แทน เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง ;)
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เคียวโซ่

    ธาตุ :: เมฆา

    สิ่งที่ชอบ :: การคำนวณ เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอทำมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา (เริ่มคำนวณตั้งแต่ป.1) เมื่อได้ทำอะไรที่เกี่ยวกับการคำนวณเธอจะกลายเป็นคนที่จริงจัง ดวงตาจะฉายแววความมั่นใจออกมาเพราะเธอคิดว่าเธอทำสิ่งนี้ได้แม่นยำและดีที่สุดในบรรดาสิ่งที่เรียนมา

    ของหวาน นี่เป็นความลับระดับประเทศ(?)แม้แต่นาซ่ายังไม่รู้-- (//โดนตรบ) เพราะตอนเด็กๆเธอมีอาการเบื่ออาหารทางครอบครัวจึงลองซื้อของหวานมาให้เธอกิน เมื่อได้ลิ้มรสครั้งแรกก็เหมือนของหวานนั้นค่อยๆละลายเข้าไปในปาก ทำให้เธอชอบของหวานนับแต่นั้นเป็นต้นมา เวลาเห็นของหวานเธอจะเหล่ๆมองตามแบบเนียนๆ(?)เพื่อไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็น (นางอายที่มีคนรู้ว่าชอบของหวานค่ะ--//โดนรุมกระทืบ)

    ฟังเพลง ในเวลาที่เธอเหนื่อยหรือเครียดจากเรื่องงานก็มักจะหาเพลงบรรเลงเปียโนมาฟังเพราะมันสามารถทำให้เธอผ่อนคลายได้ จนในบางครั้งอาจจะเผลอหลับไปเลยก็เป็นได้

    การที่คนอื่นมีรอยยิ้มเพราะตน เธอนั้นชอบเวลาที่คนอื่นๆยิ้มเพราะตัวเองมันทำให้เธอมีความสุขถึงแม้จะไม่แสดงอาการอะไรออกมามาก แต่แววตาขอองเธอนั้นจะเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย บางครั้งริมฝีปากก็จะยกยิ้มบางๆแต่ถ้าไม่สังเกตให้ดีๆก็ไม่มีทางรู้เลยว่าเธอกำลังยิ้มอยู่

    สิ่งที่ไม่ชอบ :: การสูญเสียคนที่ตนรัก เพราะเธอนั้นเคยผ่านเหตุการแบบนี้มาก่อนและมันเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเห็นมากที่สุด (เธอมักจะคิดว่ามันเป็นความผิดของตนเสมอทั้งเรื่องเหตุการณ์ในอดีตนั่นก็ด้วย ถ้าวันนั้นเธอบอกพ่อกับแม่เหมือนปีก่อนๆว่าไม่ต้องการงานวันเกิด เธอก็คงจะไม่เสียพวกท่านไป) เมื่อมีการสูญเสียคนที่รักเธอจะแอบไปร้องไห้คนเดียวเพื่อไม่ให้ใครเห็น หลังจากนั้นก็จะพยายามทำตัวให้เหมือนปกติที่สุด

    วันเกิดตัวเอง เพราะวันเกิดของเธอมันก็คือวันตายของพ่อแม่ เธอจึงไม่ค่อยชอบวันนี้เสียเท่าไหร่ เวลามีใครมาถามถึงวันเกิดเธอก็มักจะปิดปากเงียบ หรือไม่ก็บอกวันเกิดของพี่ชายไป เพราะเธอไม่ต้องการให้มีงานวันเกิด เกิดขึ้นเนื่องจากใจเธอนั้นยังคงต่อต้านและยังคงกลัว กลัวว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นในงานวันเกิดของเธออีกก็เป็นได้

    การถูกเมิน ทั้งๆที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตอ(?)อยู่ตรงนี้แต่กลับมมองไม่เห็น มันจะมากไปแล้วนะ!! เวลาถูกเมินเธอจะส่งสายตาจิกกัด(?)คนๆนั้นแทบจะทั้งวันหรือไม่ก็พยายามเรียกร้องความสนใจแบบเนียนๆ(?)เพื่อให้คนๆนั้นชวนเธอคุยให้ได้  

    สิ่งที่เกลียด :: ความไม่สมมาตร เช่น กรอบรูปที่เอียงไปทางซ้าย5เซนฯ(?) หรือการที่ได้เห็นพนักงานบางคนมัดผมไปทางขวาแค่ทางเดียว เมื่อเห็นเธอจะไม่ค่อยสบอารมณ์และจะรีบแก้ทันที เรื่องกรอบรูปก็จะไปขยับให้ไปทางขวา5เซนฯ ส่วนเรื่องทรงผมของพนักงานเธอจะทำการเปลี่่ยนให้เป็นทรงทวินเทล(?)

    พวกที่หาเรื่องเธอก่อน เธอนั้นมักจะอยู่อย่างสงบ(เหรอ) ไม่เคยไปมีเรื่องหรือสร้างความบาดหมางกับใคร(แน่ใจ?//โดนฝังทั้งเป็น(?)) แต่มันจะมีคนบางกลุ่มที่ชอบมาหาเรื่องเธอก่อน ไม่ว่าจะอิจฉาเรื่องที่เห็นเธอไปคุยกับพนักงานที่หล่อลากตับไตไส้พุง(?)อย่างสนิทสนม หรือเรื่องที่เธอชอบสั่งนู่นสั่งนี่(เธอก็แค่อยากทำให้มันเพอร์เฟค) เมื่อเห็นเธอจะทำเมิน เหมือนว่าคนพวกนี้ไม่มีตัวตนอยู่บนโลก แต่ถ้าอีกฝ่ายเริ่มทำร้ายร่างกายเธอก่อน ได้มีเหตุการณ์นองเลือด(?)ขึ้นแน่  

    งานอดิเรก :: การออกไปเดินเล่นรับบรรยากาศอันบริสุทธิ์ในยามเช้า หรือไม่ก็ทำการพัฒนาฝีมือในเรื่องแม่ไม้มวยไทย(?)ต่อไปเรื่อยๆ

    ลักษณะคำพูด :: "ย..อย่าคิดว่าฉันเป็นห่วงคุณนะคะ! ก็แค่ไม่อยากให้มีใครมาตายที่บริษัทเพราะอดข้าวเช้าเท่านั้นแหละค่ะ!" เมื่อถูกเพื่อนร่วมงานจับได้ว่าเธอเป็นคนที่เอาขนมปังมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขาทุกเช้าเธอก็จะตอบกลับไปแบบตะกุกตะกักตามประสาคนที่เรียกได้ว่าซึนเดเระ

    "แบบนี้สิ ถึงจะเพอร์เฟค" เมื่อเธอทำการดัดแปลงทรงผมของพนักงานหญิงให้เ็นทรงทวินเทลเรียบร้อยแล้วเธอก็จะยิ้มบางๆออกมาอย่างอารมณ์ดี(?) แต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้หรอกว่าเธอกำลังยิ้ม

    "ป..เปล่าค่ะ แค่ฝุ่นมันเข้าตา..." เมื่อใดก็ตามที่เธอคิดถึงเรื่องในอดีเธอจะแอบไปร้องไห้คนเดียว แต่ถ้ามีคนมาเห็นเธอก็จะบอกไปว่าไม่ได้ร้องและข้ออ้างต่างๆนานาที่คิดได้

    "ฉันว่า พวกเธอเอาเวลาที่ใช้ไปกับการหาเรื่องฉันเนี่ย ไปทำอะไรที่มันมีประโยชน์จะดีกว่านะ ไม่ใช่เห่าไปวันๆ" เมื่อมีคนมาหาเรื่องเธอ เธอก็จะโต้กลับโดยการด่าแบบอ้อมๆ คะ/ค่ะจะหายไปในทันทีทันใด(?) แต่ถ้าฝ่ายนั้นยังไม่คิดที่จะหยุดก็คงต้องมีการลงไม้ลงมือกันบ้าง(?)

    "ฉันเพิ่งเตือนเรื่องนี้ไปเมื่อเช้าเองนะคะ! ทำไมคุณยังทำมันพลาดอีก!" เธอตักเตือน(?)พนักงานตกแต่งคนหนึ่งที่ตั้งกรอบรูปเอียงไปทางซ้ายทีขวาที ไม่ว่าจะตักเตือนไปกี่ครั้งก็ยังไม่ได้ผลงานที่น่าพึงพอใจ(?)เสียทีเธอจึงต้องทำการ....
    "เอียงไปทางซ้ายอีก2เซนฯค่ะ ไม่ๆ คุณเอียงจนเลยแล้ว กลับไปทางขวาอีก3เซนฯ โอเคค่ะ ขึ้นบนอีก5เซนฯ เมื่อกี้รูปเอียงนะคะไปทางซ้ายอีก2เซนฯค่ะ อืม~ สมบูรณ์แบบ" เธอจะยืนคุมงาน(?)ด้วยตัวเองจนกว่าจะได้ผลงานที่พึงพอใจ(?)

    "..สวัสดีค่ะ ฉันนากางาวะ อายาโนะ ถ้าเรื่องการคำนวณไว้ใจฉันคนนี้ได้เลยค่ะ" ในวันที่เธอมาสมัครงานก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนอย่างเคย ใบหน้าก็ยังคงนิ่งเหมือนโดนสตาฟ(?)ไว้

    เพิ่มเติม :: ที่จริงแล้วอายาโนะเป็นคนที่กลัวเสสียงฟ้าฝ่า ตอนแรกๆจะพยายามทำตัวให้ปกติแต่ถ้าทนไม่ไหวเธอก็จะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยไม่รู้ตัว หลังจากทุกอย่างสงบศึก(?)เธอก็จะพยายามหาข้ออ้างต่างๆนานามาแก้ตัวเพื่อให้คนที่เธอเผลอกอดลืมเรื่องนั้นไปซะ
    สุดท้ายนี้รักไรท์น--//โดนถีบ (เค้าก็บอกอยู่ว่าไม่ต้องบอกรักไรท์น่ะ= =*)


    บทสัมพาทย์ 
    เอาล่ะ ไหนแนะนำตัวมาสิแม่หนู
    - "นากางาวะ อายาโนะ ค่ะ" หญิงสาววัย24ปีเอ่ยตอบพร้อมมองคนตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา(?)
    เธอมาสมัครตำแหน่งอะไรถึงได้ถ่อมาที่นี่
    - "ฉันสมัครตำแหน่งพนักงานบัญชีค่ะ เรื่องการคำนวณไว้ใจฉันได้เลย" ถึงแม้หน้าของหญิงสาวยังเรียบนิิ่งแต่แววตาของเธอกลับเป็นประกายขึ้นมานิดๆเมื่อคิดว่าตนเองจะได้ทำงานที่รัก
    เคยมีประสบการณ์ทำงานอะไรมาก่อนรึเปล่า ไหนลองบอกให้ฉันฟังหน่อย 
    - "ประสบการณ์การทำงาน?.....ไม่มีค่ะ การทำงานครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์การทำงานครั้งแรกของฉันค่ะ" เธอเลือกที่จะตอบไปตามความเป็นจริง เพราะส่วนใหญ่แล้วบริษัทมักจะรับคนที่มีประสบการณ์เท่านั้น แต่ถ้าโกหกไปมันก็รู้สึกไม่สบายใจ ดีไม่ดีถ้าความแตกขึ้นมาอาจจะโดนไล่ออกก็เป็นได้
    ดีนี่ คิดว่าเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับตำแหน่งนี้
    - หญิงสาวนำมือแตะปลายคางพลางครุ่นคิดกับคำถามที่ออกมาจากปากอีกฝ่าย "เรื่องการคำนวณเป็นงานที่ต้องใช้สมองและความรอบคอบเป็นส่วนใหญ่ ฉันคิดว่าน่าจะประมาณ35,000ขึ้นไป ต่ำสุดก็30,000ค่ะ"
    ฉันต้องขอเตือนเธอไว้อย่างหนึ่งนะ กฏของบริษัทเรานั้นต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องห้ามมีความสัมพันธ์เกินเลยกับเพื่อนร่วมงาน คงจะปฏิบัติได้ใช่ไหม
    - "ค่ะ ฉันจะปฏิบัติตามกฎของบริษัทอย่างเคร่งครัด ไม่ออกนอกลู่นอกทางแน่นอนค่ะ" เธอตอบกลับไว้ด้วยดวงตาที่ฉายแววแห่งความมั่นใจว่ามันจะไม่มีเรื่องรักๆใครฟเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
    หึ วันเริ่มงานของเธอคือสัปดาห์หน้า หวังว่าจะมาตรงเวลานะสาวน้อย
    - "แน่นอนค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง" หญิงสาวกล่าวไว้เพียงเท่านั้นพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอีกและเดินจากไป


    คุยกับผู้ปกครอง
    สวัสดีค่าาา :) เรา ปัน ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะเออ
    - ดีจ้า~! เราชื่ออายาสึกิน๊า~ เรียกอายะก็ได้ :)
    ตรงๆเลยนะคะ เราดองนานนะจะรอได้ไหม55555555
    - รอได้อยู่แล้วค่ะ ดองนานยิ่งอร่อย(?)
    ปฏิบัติตามกฏครบรึเปล่าเอ่ย เรื่องขนาดตัวอักษรกับรูปแบบตัวอักษรเราเครียดนะเนี่ย
    - ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยค่ะ!! '^'
    ถ้าไม่ติดสนใจรับบทเป็นตัวประกอบอื่นมั้ยเอ่ย ถ้าไม่ก็ข้ามข้อนี้ไปเลย
    - แหม~ ต้องสนใจอยู่แล้วค่ะ--  แต่...ก็อยากให้ลูกสาวตัวเองติดนะคะ กระซิกๆ(?)//ปาดน้ำตา(?)
    อยากให้นิยามคุณลูกสาวสั้นๆให้หน่อยค่ะ คิดว่าคุณลูกเป็นยังไงในสายตาคะ
    - มนุษย์ไม้บรรทัดค่ะ--//โดนอายาโนะฆ่าหมกป่า(?)
    ขอบคุณมากที่มาสมัครค่าาา ขอให้โชคดีลูกเข้าตาเราด้วยเถอะเพี้ยง! 
    - สาธุ~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×